รีวิวคอนโดใหม่โครงการ ดิ ยูนิค สุขุมวิท 62/1

สำหรับทำเลที่ดีที่เหมาะในการอยู่อาศัยแบบคอนโดฯ คงต้องมีลักษณะเฉพาะที่โดดเด่น 3 ประการด้วยกันคือ

1.การอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่า สินค้าประเภทคอนโดฯ จะมีพื้นที่จอดรถไม่เพียงพอสำหรับผู้พักอาศัย ดังนั้นผู้ที่พักอาศัยในคอนโดฯ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยรถไฟฟ้าในการเดินทางเชื่อมต่อกับศูนย์กลางธุรกิจเป็นหลัก แต่ในเรื่องการเดินทางเชื่อมต่อศูนย์กลางเมืองนี้ ถ้าจะให้ทำเลนี้มีความเพอร์เฟ็กต์ที่สุดคงต้องอยู่ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนด้วย เพราะสำหรับโครงการดีๆ ที่มีพื้นที่จอดรถเพียงพอนั้น กลุ่มลูกค้าสามารถใช้รถในการเดินทางเข้าสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจ ทางด่วนจึงถือเป็นเส้นทางสำคัญและยิ่งกว่านั้นถ้าทำเลที่ตั้งมีทางเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย คือเป็นลักษณะของทางลัด ทางผ่าน เชื่อมต่อกับถนนหลักหลายเส้นจะยิ่งถือเป็นทำเลที่ เพอร์เฟ็กต์สำหรับการอยู่อาศัยสุดๆ ครับ

2.ความเจริญรอบๆ โครงการเพื่อรองรับการอยู่อาศัยในชีวิตประจำวัน ทั้งรถบริการสาธารณะ สถานที่จับจ่ายใช้สอย ตลาด ร้านสะดวกซื้อ โรงเรียน โรงพยาบาล ซึ่งทั้งหมดต้องอยู่ในระยะไม่ไกลจากโครงการ สำหรับข้อสองนี้สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งคือ โรงเรียนในระดับอนุบาลและประถมครับ เพราะครอบครัวชนชั้นกลางเกือบทั้งหมดนั้นจะมีลูกที่ยังเล็กอยู่ อายุจะอยู่ที่ 1-15 ปี ซึ่งยังอยู่ในวัยที่ต้องรับส่ง ดังนั้นการมีโรงเรียนอยู่ใกล้คอนโดฯ ถือเป็นความฝันอันสูงสุดเลยครับ 

3.ทำเลดังกล่าวต้องสามารถพัฒนาสินค้าในระดับราคาที่กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ครอบครัวชนชั้นกลาง ระดับรายได้ครอบครัว 100,000-200,000 บาท มีกำลังซื้อที่เอื้อมถึง คือมีระดับราคาคอนโดอยู่ประมาณ 3-5 ล้านบาท เพราะอย่างที่เรารู้กันดีครับ ทำเลดีๆ นั้นมีเยอะเลยแต่ส่วนใหญ่จะไม่สามารถพัฒนาสินค้าให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายได้

ด้วยองค์ประกอบทั้ง 3 ประการนี้ สำหรับคอลัมน์ Condo Review จะพาคุณผู้อ่านไปชมโครงการในซอยสุขุมวิท 62/1 เพราะตำแหน่งทำเลตรงนี้เข้าองค์ประกอบทุกข้อที่กล่าวมาเลยครับ อีกทั้งแนวคิดการพัฒนาโครงการของที่นี่ก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างมากทีเดียวครับ 

ทำเล

สำหรับทำเลที่ตั้งของโครงการ ดิ ยูนิค สุขุมวิท 62/1 (The Unique)ครับ โครงการนี้ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 62/1 ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนสุขุมวิท 62 และปากซอยสุขุมวิท 62/1 นี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้า BTS บางจากอีกด้วย ทำให้โครงการนี้มีจุดเด่นทั้งเรื่องเดินทางด้วยรถสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าและด้วยรถยนต์ส่วนตัว สามารถเดินเข้าตัวเมืองกรุงเทพฯ ได้ง่ายรวดเร็วหรือจะเดินทางออกนอกเมืองก็สะดวกง่ายดายเช่นกัน

ใกล้โครงการช่วงกลางซอยสุขุมวิท 64 ก็มีโรงเรียนพิพัฒนา ปากซอยก็มีโรงเรียนนานาชาติแองโกล สิงคโปร์ ในเส้นบางนาตราดก็มีโรงเรียนนานาชาติเบิร์ดลีย์ ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการหาคอนโดมิเนียมเกรดดีๆ ไว้สำหรับพักอาศัย

อาคารและแบบห้อง 

ตัวโครงการมีจำนวนยูนิตพักอาศัยที่น้อยเพียง 117 ยูนิต ทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยที่สูง มีพื้นที่จอดรถรองรับได้ 85 คัน (รวมจอดซ้อนคัน) คิดเป็น 74% เลยทีเดียว ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการที่นี่ก็จัดเตรียมให้พร้อมสรรพทั้งสระว่ายน้ำสไตล์รีสอร์ทและห้องออกกำลังกาย ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ชั้น 2 ของอาคารพักอาศัย

ห้องพักที่โครงการทำขายเป็นห้อง Type ค่อนข้างใหญ่ทั้งหมด คือประเภท 1-2 ห้องนอน, Duplex และแบบ 3 ห้องนอนในสไตล์ Triplex พื้นที่ใช้สอยของห้องก็จะเริ่มจาก 33 จนถึง 163 ตารางเมตรทีเดียว ส่วนรายละเอียดของของห้องแต่ละ Type และราคาเริ่มต้นจะเป็นดังนี้ครับ

Type A : 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 33-39 ตารางเมตร ราคาคอนโดเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
Type B : 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 43-52 ตารางเมตร ราคาคอนโดเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท
Duplex : 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 75 ตารางเมตร ราคาคอนโดเริ่มต้น 9.89 ล้านบาท
Triplex : 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาด 90-160 ตารางเมตร ราคาคอนโดเริ่มต้น 8.9-18 ล้านบาท

สำหรับราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรที่โครงการขายแบบ Fully Furnished พร้อมวัสดุตกแต่งในห้องและห้องน้ำมาตรฐานหรู ตกประมาณเริ่มต้นที่ 87,000 บาท ไปจนถึง 100,000 บาทต้นๆ ต่อตารางเมตร

ด้านการออกแบบห้องพักที่มีความโดดเด่นมากที่สุดในการออกแบบคือห้องแบบ Triplex : 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ โดยห้องนี้ถือเป็นมาสเตอร์พีซของโครงการเลยทีเดียว ด้วยแนวคิดการออกแบบเป็นเลย์เอาต์แบบ 3 ชั้นเชื่อมต่อด้วยบันไดส่วนตัวในห้องพัก ทำให้การอยู่อาศัยในห้องนี้มีความใกล้เคียงกับความรู้สึกเหมือนการอยู่ทาวน์โฮม 3 ชั้นอย่างยิ่ง แต่ที่พิเศษกว่าทาวน์โฮมคือ มุมมองวิวภายนอกจากตำแหน่งความสูงของห้อง  

ฟังก์ชั่นของห้องแบบนี้เมื่อเข้ามาในห้องพัก ในชั้นแรกนี้จะเป็นครัวแบบปิดอยู่ในตำแหน่งทางเข้าห้อง ก่อนที่มุมมองจะเปิดออกไปเป็นส่วนทำงานและห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ต่อเนื่องออกไปยังระเบียงด้านนอก เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นส่วนของ Master Bedroom ทั้งชั้น ซึ่งโครงการออกแบบไว้อย่างหรูหรา โดยเฉพาะห้องน้ำ Master สามารถลบความรู้สึกการอยู่คอนโดฯ ไปได้เลย เพราะโครงการออกแบบให้มีขนาดใหญ่เทียบเท่าห้องน้ำในบ้านเดี่ยวระดับหรูทีเดียว ส่วนชั้น 3 ก็จะเป็นห้องนอน 2 ห้องโดยใช้ห้องน้ำร่วมกัน แต่ที่น่าสนใจก็คือการที่โครงการออกแบบให้ห้องน้ำมีฟังก์ชั่นแยกระหว่าง ส่วนล้างหน้ากับส่วนอื่นๆ ทำให้การใช้ห้องน้ำในชั้น 3 นี้สามารถใช้ร่วมกันได้ในเวลาเดียวกัน จึงถือเป็นรายละเอียดการออกแบบที่โครงการทำออกมาได้อย่างโดนใจผู้บริโภคจริงๆ 

สรุปเกี่ยวกับโครงการ ดิ ยูนิค สุขุมวิท 62/1 (The Unique)

โครงการนี้เป็นโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ที่มีมาตรฐานหรูในทำเลที่เพอร์เฟ็กต์มากสำหรับการพักอาศัยและเดินทางเชื่อมต่อกับศูนย์กลางเมือง ด้วยการออกแบบให้ห้องมีขนาดใหญ่ ทำให้โครงการนี้มีความเป็นส่วนตัวสูง เหมาะมากสำหรับครอบครัวสมัยใหม่ที่จะตัดสินใจจะซื้อคอนโดฯ แบบมีฟังก์ชั่นครบเพื่อทดแทนการอยู่อาศัยบ้านเดี่ยวนอกเมือง โดยในระยะยาวยังสามารถขายต่อหรือปล่อยเช่าได้ง่ายกว่าบ้านเดี่ยวนอกเมือง

ปัจจุบันโครงการกำลังทำการขายอยู่โดยมียอดขายขณะนี้กว่า 70% แล้ว โดยโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จและโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าเข้าอยู่ได้ในปี 2559