รีวิวบ้าน ซิตี้ เซนส์ รามอินทรา

Company

บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ถือเป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงที่มีผลงานมากมายทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ซึ่งจุดเด่นของบริษัทฯ คือการพัฒนาสินค้าที่มีการใช้สอยที่ลงตัว อยู่สบาย อยู่ในทำเลที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด ภายใต้ Concept Oxygen community

สำหรับโครงการ City Sense รามอินทราก็เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น ระดับราคาอยู่ที่ 2 ล้านต้น ที่อยู่ในทำเลที่ใกล้เมือง รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และมีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย เหมาะสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นครอบครัวรุ่นใหม่ มองหาทาวน์โฮมเพื่ออยู่อาศัยรองรับอนาคต

Location

โครงการ City Sense รามอินทรา ตั้งอยู่ในถนนรามอินทรา 109 ซึ่งทำเลช่วงรามอินทรา กิโลเมตรที่ 10 ไปจนถึงแยกมีนบุรี ถือเป็นทำเลที่พักอาศัยสำหรับครอบครัวรุ่นใหม่ ด้วยระดับราคาบ้านที่ยังอยู่ประมาณ 2-3 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับราคาที่คนกลุ่มนี้มองหา

ตำแหน่งที่ตั้งโครงการอยู่ท่ามกลางสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายและยังเชื่อมต่อกับถนนสำคัญได้หลายเส้น 

ถนนรามอินทรา ใกล้กับห้างแฟชั่น ไอส์แลนด์, เดอะ พรอมานาด และโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี 

ถนนรัชดา-รามอินทรา ใช้เชื่อมต่อกับถนนประเสริฐมนูญกิจ และสามารถขับรถต่อไปประดิษฐมนูธรรม และแยกเกษตรศาสตร์ได้

ทางด่วนกาญจนาภิเษก ใช้เดินทางขึ้นไปยังโซนลำลูกกา รังสิต เชื่อมต่อไปยังถนนมอร์เตอร์เวย์ได้

นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่เริ่มต้นจากถนนติวานนท์ เข้าสู่ถนนแจ้งวัฒนะและเชื่อมต่อมายังถนนรามอินทราไปสิ้นสุดที่แยกมีนบุรี และที่แยกมีนบุรียังมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ใช้เดินทางเข้าเมืองไปยังสถานีศูนย์วัฒนธรรมได้ ดังนั้นทำเลนี้จึงสะดวกทั้งเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวและรถไฟฟ้า ซึ่งจะมีสถานีบางชัน ซึ่งอยู่บริเวณบางซอยรามอินทรา109 ซึ่งห่างจากโครงการเพียง 1.5 km

Project

City Sense รามอินทรา เป็นโครงการบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น บนที่ดินขนาด 21-1-44.2 ไร่ โดยพัฒนาเป็นทาวน์โฮมจำนวน 243 ยูนิต โดยจะแบ่งแบบของทาวน์โฮมเป็น 2 แบบ คือ 

- ทาวน์โฮม Autumn หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 120 ตารางเมตร บนที่ดิน 18 ตารางวา

- ทาวน์โฮม Spring หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 132 ตารางเมตร บนที่ดิน 20 ตารางวา

โครงการพัฒนาภายได้แนวคิดที่ “โล่ง โปร่ง สบาย” ตั้งแต่การออกแบบให้มีพื้นที่เปิดโล่งเพื่อบรรยากาศภายในโครงการไม่แน่นอึดอัด ส่วนกลาง คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำขนาด 7x21 เมตร โดยแยกส่วนสระเด็กลึก 80 เซ็นติเมตร และสระมาตรฐานลึก 150 เซ็นติเมตร  สวนสาธารณะที่เปิดโล่ง และโครงการยังได้ปลูกต้นเมเปิ้ลไว้ด้านหน้าระหว่างบ้านแต่ละหลัง

ทางเข้าโครงการสร้างเป็นซุ้มประตู เป็นทั้งจุดรักษาความปลอดภัย มีรปภ.ประจำจุดตลอด 24 ชั่วโมง

การเข้าออกโครงการจะใช้ระบบคีย์การ์ดในการเปิดประตูไม้กั้น

เมื่อเข้ามายังโครงการจะเป็นถนนเมนกว้าง 12 เมตร ทางขวามือจะเป็นพื้นที่สีเขียวและคลับเฮ้าส์ส่วนกลาง

บริเวณคลับเฮ้าส์ของโครงการปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้รอบ ๆ สร้างความสดชื่นและช่วยบังสายตาจากภายนอกได้ดี

พื้นที่ส่วนคลับเฮ้าส์จะมีทั้งสระว่ายน้ำขนาด 7 x 21 เมตร พร้อมห้องน้ำแยกชาย-หญิง และห้องอเนกประสงค์

ห้องอเนกประสงค์ตอนนี้ยังใช้เป็นสำนักงานขายอยู่ โดยเมื่อทำการส่งมอบให้ลูกบ้าน ทางลูกบ้านสามารถเลือกได้ว่าจะปรับใช้เป็นล็อบบี้นั่งพักผ่อนหรือเป็นห้องออกกำลังกายวิวสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำขนาด 7x21 เมตร แบ่งโซนเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่เพื่อความปลอดภัย มีแนวต้นไม้ปลูกบังสายตาเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน

ใกล้ ๆสระว่ายน้ำมีฝักบัวอาบน้ำล้างตัวเตรียมไว้ให้

ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการจะใช้คีย์การ์ดในการสั่งเปิดประตูรั้วโครงการ โดยที่ซุ้มทางเข้าโครงการก็จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำจุดและมีกล้อง CCTV บันทึกภาพตลอด 24 ชั่วโมง

Product

โครงการมีบ้านทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่แบบ Autumn หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 120 ตารางเมตร บนที่ดิน 18 ตารางวา และแบบ Spring หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 132 ตารางเมตร บนที่ดิน 20 ตารางวา

โดยบ้านทั้ง 2 แบบจะเป็นฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ แต่บ้านแบบ Autumn ทางปริญสิริได้ออกแบบฟังก์ชั่นใหม่ตามแบบทาวน์โฮมยุคใหม่ มีเลย์เอาท์ที่แตกต่างกัน และมีความกว้างของหน้าบ้านที่แตกต่างกันด้วย

ทาวน์โฮมแบบ Autumn ที่ออกแบบเป็นทาวน์โฮมฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ โดยจัดเลย์เอาท์แบบทาวน์โฮมยุคใหม่ ที่จัดห้องนอน 1 ไว้ด้านหน้าบ้าน มีขนาดเต็มพื้นที่ความกว้างของบ้าน ทำให้ห้องนอนที่ 1 นี้จะมีฟังก์ชั่นที่ครบถ้วนและเต็มอิ่มมากยิ่งขึ้น

บ้านแบบ Autumn ออกแบบตัวบ้านในสไตล์โมเดิร์น ดูทันสมัยตรงไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่

ตัวบ้านออกแบบให้มีช่องรับแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านหลายจุด ช่วยให้ภายในบ้านมีแสงสว่างเพียงพอในช่วงเวลากลางวัน

ชั้นล่างเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นรับแขก โต๊ะทานอาหาร และครับแพนทรี จากมุมนี้เราจะเห็นประตูบานเลื่อนกระจกด้านหลังทำหน้าที่เป็นช่องรับแสงธรรมชาติ ทำให้พื้นที่ด้านหลังบ้านดูสว่างมากขึ้น

พื้นที่ชั้นล่างออกแบบตามหลัก combine space ให้พื้นที่เปิดโล่งถึงกันทั้งหมด ทำให้เจ้าของบ้านจะรู้สึกโปร่งโล่งสบายมากขึ้น บ้านชั้นล่างนี้สูงจากพื้นถึงเพดานที่ 2.8 เมตร ทำให้แทบไม่รู้สึกถึงฝ้าเพดานบ้านเลย

โต๊ะทานอาหารกับครัวแพนทรีจะอยู่ใกล้กันเพื่อให้การใช้งานสองพื้นที่นี้ต่อเนื่องกัน สะดวกกับการใช้งานมากขึ้น

ภายในพื้นที่ครัวแพนทรีจะสามารถบิลด์ครัวเป็นทรงตัว L ตามรูปนี้ได้ ช่องแสงที่ผนังนอกจากทำให้พื้นที่ส่วนนี้สว่างแล้ว ยังช่วยสำหรับวางตากจานชามให้แห้งสะอาดได้ด้วย

(ซ้าย) ภายในห้องน้ำชั้นล่างจะมีทั้งพื้นที่อาบน้ำ อ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์
(ขวา) เหนืออ่างล้างหน้าจะมีกระจกขนาดเท่ากับที่บ้านตัวอย่างติดมาให้ด้วย

บันไดขึ้นชั้น 2 จะอยู่ทางหน้าบ้าน ใกล้กับประตูบานเลื่อนหน้าบ้าน และมีช่องแสงธรรมชาติ โดยบันไดจะใช้พื้นไม้ลามิเนต ราวจับก็ใช้ไม้สีเดียวกับพื้นบันได

ข้อดีของการออกแบบให้บันไดอยู่ทางหน้าบ้าน คือ รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่พื้นที่ส่วนบันไดจะสว่างมากยิ่งขึ้น

ชั้นบน ส่วนแรกจะเป็นโถงทางเดินเล็ก ๆ ก่อนจะแยกไปสู่ห้องนอนทั้ง 3 ห้องและห้องน้ำใช้ร่วมกัน ซึ่งมีเพดานสูงถึง 2.9 เมตร ทั้งชั้น 

ห้องนอนที่ 1 จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน โดยออกแบบใหม่ตามสไตล์ทาวน์โฮมยุคใหม่ ที่ให้ห้องนอนนี้มีขนาดเต็มความกว้างของตัวบ้าน

ภายในห้องนอนสามารถจัดฟังก์ชั่นได้ครบถ้วน ทั้งโต๊ะวางโทรทัศน์ โต๊ะเขียนหนังสือ มุมนั่งเล่นพักผ่อน และตู้เสื้อผ้า เรียกว่าห้องนี้ขนาดใหญ่จุใจมาก

ห้องน้ำชั้นบนจะเป็นห้องน้ำสำหรับใช้ร่วมกันของทั้ง 3 ห้องนอน มีฟังก์ชั่นอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ

ห้องนอนที่ 2 จะอยู่ทางหลังบ้าน โดยแต่งเป็นห้องสำหรับเด็กผู้ชายเอาไว้ 

ภายในห้องสามารถจัดฟังก์ชั่น ให้มีตู้เสื้อผ้า โต๊ะเขียนหนังสือได้ 

ห้องนอนที่ 3 จะอยู่ด้านหลังบ้านเช่นกัน โดยห้องนี้แต่งเอาใจเด็กผู้หญิง

ด้านข้างเตียงจัดฟังก์ชั่นไว้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า วางติดไปบนผนังเดียวกัน เพื่อให้ภายในห้องมีพื้นที่ตรงกลางกำลังสบาย ๆ 

บ้านแบบ Spring หน้ากว้าง 5.5 เมตร ออกแบบเป็นทาวน์โฮมฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน เพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยสำหรับรองรับครอบครัวที่มีสมาชิก 4-5 คน 

บ้านแบบ Spring จะมีหน้ากว้างที่ 5.5 เมตร ทำให้จอดรถ 2 คันได้สบายมากขึ้น

ที่บ้านตัวอย่างลองแต่งพื้นที่หน้าบ้านให้เป็นโต๊ะนั่งทานกาแฟในร่ม ถ้าบ้านไหนมีรถแค่คันเดียวก็ลองไปปรับใช้ได้นะครับ

พื้นที่ห้องรับแขกออกแบบตามแนวคิด openplan เช่นกัน ทำให้พื้นที่ส่วนนี้ดูกว้างขวาง โปร่งโล่ง รองรับการใช้งานของสมาชิกในบ้านพร้อม ๆ กัน 4-5 คนได้สบาย ๆ 

ชั้นล่างของบ้านจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานที่ 2.8 เมตร ทำให้พื้นที่ห้องรับแขกที่อยู่ใกล้กับช่องแสงขนาดใหญ่นี้ดูกว้างขวาง ปลอดโปร่งมากขึ้น

ฝั่งตรงข้ามพื้นที่รับแขกจะเป็นโต๊ะสำหรับวางโทรทัศน์ และบันไดขึ้นชั้นบน อยู่ฝั่งด้านหน้าของบ้าน 

(ซ้าย) พื้นที่ใต้บันไดถูกทำเป็นห้องเก็บของ
(ขวา) ฝั่งตรงข้ามกับห้องเก็บของจะเป็นห้องน้ำใช้ร่วมกันที่ชั้นล่าง ซึ่งจะมีพื้นที่อาบน้ำให้ด้วย จะได้ไม่ต้องรอใช้ห้องน้ำที่ชั้นบนอย่างเดียว

โต๊ะทานข้าวจะอยู่ถัดจากพื้นที่รับแขก และอยู่ใกล้กับชุดครัว ทำให้พื้นที่สองส่วนนี้ใช้สอยต่อเนื่องกันได้

ลักษณะของพื้นที่ครัวก็จะสามารถติดตั้งชุดครัวทรงตัว L ได้ในลักษณะนี้

พื้นที่หลังบ้านส่วนนี้ ในบ้านจริงจะไม่ได้ต่อเติมเอาไว้ สามารถปรับเป็นพื้นที่สวนขนาดเล็ก หาชั้นบันไดวางต้นไม้เล็ก ๆ ไว้เป็นพื้นที่สีเขียวประจำบ้านก็ได้

พื้นที่หลังบ้านส่วนนี้ถ้าไม่ต้องการต่อเติมเป็นครัวไทย ก็สามารถทำเป็นพื้นที่ซักล้างได้เช่นกัน

(ซ้าย) บันไดขึ้นชั้นบนจะเลือกใช้ไม้สีเดียวกับราวจับ และพื้นชั้นบน
(ขวา) ที่สุดปลายทางเดินชั้นบนจะมีช่องรับแสงธรรมชาติจากภายนอก

ข้อดีของการมีช่องแสงที่ทางเดินชั้นบนนี้คือทำให้พื้นที่ส่วนนี้สว่างมากขึ้น ลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลากลางวันได้

ห้องนอนที่ 1 อยู่ทางหน้าบ้าน ได้ประโยชน์จากหน้าต่างกระจกบานเลื่อนเป็นช่องแสงธรรมชาติ และเพดานห้องที่สูงถึง 2.8 เมตร ทำให้ห้องนี้ดูไม่อึดอัด

ฝั่งปลายเตียงก็เป็นตำแหน่งที่วางโทรทัศน์ 

ผนังห้องอีกฝั่งเป็นตำแหน่งตู้เสื้อผ้า มีขนาดพื้นที่กว้างขวางพอสมควร จะเลือกบิลด์เป็นตู้ฝังผนังแบบในบ้านตัวอย่างก็ทำให้ห้องดูเรียบเป็นระเบียบมากขึ้น

ห้องนอนที่ 2 อยู่ทางหน้าบ้าน ห้องนี้แต่งเป็นห้องสำหรับเด็กผู้หญิง ภายในห้องมีพื้นที่ใช้สอยครบถ้วน

พื้นที่ติดกับหน้าต่างกระจกนี้ เลือกวางบีนแบ็กสำหรับนั่งพิงเล่น หรือจะใช้โต๊ะเขียนหนังสือตัวเล็ก ๆ มาวางใช้อ่านเขียนหนังสือก็ได้

(ซ้าย) ตำแหน่งวางตู้เสื้อผ้าจะอยู่ข้างเตียง เลือกใช้เป็นตู้แบบบานเลื่อนก็จะดีมากเพราะไม่กินพื้นที่เวลาใช้งาน
(ขวา) ผนังห้องฝั่งปลายเตียง เป็นตำแหน่งวางโทรทัศน์ ถ้าไม่ต้องการติดโทรทัศน์ในก็หาชั้นวางของมาติดเพื่อเป็นที่เก็บสิ่งของได้ 

ห้องนอนที่ 3 อยู่ด้านหลังบ้าน ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชั่นสำหรับเป็นไอเดียการตกแต่งห้องไว้ด้วย

บริเวณเตียงนอนแบ่งพื้นที่แนวสูงเป็นสองส่วน คือเตียงนอนและโต๊ะเขียนหนังสือ เลือกใช้ Bunkbed มีโต๊ะทำงานเขียนหนังสืออยู่ด้านล่าง เพื่อให้ทั้งสองส่วนนี้ใช้งานได้เต็มพื้นที่แนวราบ

ผนังอีกฝั่งแต่งเป็นตู้เสื้อผ้าแบบเปลือย ที่มีจุดเด่นคือหยิบจับได้สะดวก และไม่มีช่องแบ่งกั้นเขตการใช้งานทำให้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลายกว่า

(ซ้าย) ห้องน้ำชั้นบนก็จะมีสามฟังก์ชั่นได้แก่โถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า และพื้นที่อาบน้ำ
(ขวา) พื้นที่อาบน้ำจะเจาะเป็นช่องสำหรับวางของใช้อาบน้ำไว้ให้ 

Price

- บ้านทาวน์โฮมแบบ Autumn พื้นที่ใช้สอย 120 ตารางเมตร ปลูกบนที่ดินเริ่มต้น 18.5 ตารางวา ราคาบ้านเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท
- บ้านทาวน์โฮมแบบ Spring พื้นที่ใช้สอย 132 ตารางเมตร ปลูกบนที่ดินเริ่มต้น 23.4 ตารางวา ราคาบ้านเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท

conclusion

โครงการ City Sense รามอินทรา เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น ในถนนรามอินทรา 109 ทำเลที่ตั้งรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้าใหญ่ โรงพยาบาล ตลาด ร้านอาหาร มีความพร้อมสำหรับอยู่อาศัย

การเดินทางถือว่าสะดวก เชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักได้หลายเส้นทั้งรามอินทรา ถนนกาญจนาภิเษก ทำให้สะดวกในการเข้าเมืองและไปยังโซนแหล่งจ้างงาน และในอนาคตยังมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูสถานีบางชัน อยู่ใกล้กับปากซอยรามอินทรา 109 เพื่อเลี่ยงจราจรหนาแน่นของถนนรามอินทรา

แบบบ้านมีให้เลือก 2 แบบคือ หน้ากว้าง 5 เมตร และหน้ากว้าง 5.5 เมตร ทั้ง 2 แบบรองรับการจอดรถได้ 2 คัน และเป็นบ้านฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำด้วยกันทั้งคู่ สามารถรองรับครอบครัวขนาด 4 คนได้สบาย ๆ โดยบ้านแบบ Autumn จะมีจุดเด่นที่วางห้องนอนที่ 1 ไว้เต็มความกว้างของหน้าบ้าน ทำให้ห้องกว้างขวางน่าอยู่ จัดเฟอร์นิเจอร์ลงได้ง่าย ด้วยความสูงจากพื้นถึงเพดาน 2.9 เมตร

สำหรับบ้านแบบ Spring ด้วยความกว้างหน้าบ้าน 5.5 เมตร ทำให้สามารถวางห้องนอนที่ 1 และ 3 ไว้ฝั่งหน้าบ้านได้ เจ้าของบ้านสามารถบิลด์ชั้นวางหรือตู้เพิ่มพื้นที่จัดเก็บให้บ้านเป็นระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น

ถ้ามองหาทาวน์โฮมราคาไม่สูงมากรองรับการอยู่ในทำเลที่เดินทางได้สะดวก ก็แนะนำให้ลองดูสถานที่ในโครงการได้เลยครับ 

Factsheet

ชื่อโครงการ : City Sense รามอินทรา
เจ้าของโครงการ : บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง : ซอยพระยาสุเรนทร์ 30 ถนนรามอินทรา 109 เขตคลองสามวา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา  กทม.
รูปแบบโครงการ  : ทาวน์โฮม 2 ชั้น 243 ยูนิต
รายละเอียด  : - ทาวน์โฮม Autumn หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 120 ตรม. บนที่ดิน 18 ตารางวา
- ทาวน์โฮม Spring หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 132 ตรม. บนที่ดิน 20 ตารางวา
สิ่งอำนวยความสะดวก : สระว่ายน้ำ,คลับเฮ้าส์,เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย,กล้อง CCTV,เข้าออกโครงการ ด้วย EASY PASS ACCESS 
ราคาบ้าน : 2.39 ล้านบาท
เบอร์โทร : 1753
เวปไซต์ : www.prinsiri.com