รีวิวทาวน์โฮม โอซากะ รามอินทรา - คู้บอน บ้านสไตล์ญี่ปุ่น ที่ให้บรรยากาศอันอบอุ่น

โครงการนี้เป็นโครงการทาวน์โฮมที่อยู่ในทำเลรามอินทรา - คู้บอน ทำเลที่มีความสะดวกสบายครบครันเนื่องจากเข้า-ออกตัวเมืองได้ง่าย ใกล้ทางด่วนและไม่ไกลจากรถไฟฟ้า จึงเป็นทำเลย่านชุมชนที่ได้รับความนิยม รอบ ๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล สถานที่ราชการ รวมไปถึงแหล่งจับจ่ายใช้สอยที่มีหลากหลายไม่ว่าจะเป็นตลาดนัด ตลาดสด คอมมูนิตี้มอลและศูนย์การค้าทำให้มีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจในเวลาว่างได้ไม่ยาก แต่ถ้าไม่อยากเดินทางภายในโครงการก็มีพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์คนทุกวัย ในราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท*

Factsheet

ชื่อโครงการ :	โอซากะ รามอินทรา-คู้บอน
เจ้าของโครงการ :	บริษัท วี.เอส.เค. เอสเตท จำกัด
ที่ตั้งโครงการ :	ถนนคู้บอน แขวงบางชัน แขตคลองสามวา กรุงเทพฯ
พิกัดโครงการ :	https://maps.app.goo.gl/tvmcrf27SCdaRLEu9
พื้นที่โครงการ :	16-0-45 ไร่
ประเภท :	ทาวน์โฮม 2 ชั้น
จำนวนหลัง :	175 หลัง
แบบบ้าน :	ยูทากะ โฮม : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ดินเริ่มต้น 20 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ค่าส่วนกลาง :	1,200 บาท หลัง/เดือน
ราคา :	เริ่มต้น 3.69 ล้านบาท* (ราคา ณ สิงหาคม 2567)
โทร :	02-130-2111
เว็บไซต์ :	https://www.rungkij.com/home/no-60/OSAKA-โอซากะ-รามอินทรา-คู้บอน.html

 

Highlight : โอซากะ รามอินทรา - คู้บอน

• ความอบอุ่นสไตล์ JAPANDI ที่ให้บ้านเป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อน สะท้อนความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างลงตัวด้วยสีสันและเส้นสาย โดยสีของตัวบ้านนั้นสีหลักที่ใช้เป็นสีน้ำตาลที่ให้ทำให้บ้านดูอบอุ่นผ่อนคลาย ส่วนเส้นสายเน้นความเรียบง่าย มีระแนงบังสายตาที่เพิ่มความเป็นส่วนตัวและร่มเงาอีกทั้งยังทำให้บ้านดูมีมิติ นอกจากตัวบ้านแล้วสถาปัตยกรรมภายในโครงการยังมีกลิ่นอายของญี่ปุ่น จะเห็นได้ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าไปจนถึงพื้นที่ส่วนกลางที่มีทั้งอาคาร Clubhouse และสวน
• ฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างแท้จริง เป็นทาวน์โฮมที่มีห้องนอนใหญ่เหมือนได้ Master Bedroom ถึง 2 ห้องที่มีห้องน้ำในตัวและพื้นที่แต่งตัวแบบ Walk-in Closet อีกทั้งยังมีพื้นที่แต่ละฟังก์ชันกว้างขวางตอบโจทย์การใช้งานในทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน 3 ชั้นล่างที่ปรับเป็นห้องทำงานได้ หรือพื้นที่ที่จอดรถที่ลึกเกือบ 6 ม. ทำให้จอดรถคันใหญ่ได้ไม่ยาก
• ส่วนกลางสไตล์ญี่ปุ่นที่มีพื้นที่รองรับสำหรับคนทุกวัย จากแนวความคิดในการออกแบบสไตล์ญี่ปุ่นทำให้บรรยากาศภายในโครงการมีความอบอุ่นผ่อนคลายเหมาะสำหรับการพักผ่อน มีอาคาร Clubhouse ที่มีพื้นที่นั่งเล่นนั่งพักผ่อน ห้องฟิตเนสและสระว่ายน้ำที่ได้วิวสวนสไตล์ญี่ปุ่น เป็นพื้นสวนอันร่มรื่นที่สามารถมาพักผ่อนหย่อนใจหรือออกกำลังกายได้
• ทำเลศักยภาพมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่ได้รับความนิยมในย่านนี้เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ ใกล้ทั้งแหล่งทำงาน สถานที่ราชการและสถานศึกษา ร้านค้าร้านอาหารไปจนถึงแหล่งจับจ่ายใช้สอยก็มีให้เลือกหลากหลาย เดินทางเข้า - ออกตัวเมืองก็สะดวกเป็นอย่างมากเพราะใกล้ทางด่วนและไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีชมพู

Design

JAPANDI คือสไตล์ที่โครงการนำมาออกแบบทั้งสถาปัตยกรรมและพื้นที่ภายในโครงการ ซึ่งสามารถดึงจุดเด่นของสไตล์นี้ออกมาได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ โดยมีความลงตัวของกลิ่นอายญี่ปุ่นในแต่ละพื้นที่แตกต่างกันออกไป จะเห็นได้ตั้งแต่ทางเข้าโครงการที่มีความเป็นญี่ปุ่นแบบเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบตัวอักษรชื่อโครงการ, ลักษณะซุ้มประตูทางเข้า - ออกหลัก หรือการเลือกหยิบสัญลักษณ์ของความเป็นญี่ปุ่นอย่างเสาโทริอิมาไว้ในพื้นที่สวนส่วนกลาง 

แต่สำหรับตัวบ้านที่เป็นพื้นที่พักผ่อนก็ลดทอนความเป็นญี่ปุ่นแต่ยังได้กลิ่นอายความอบอุ่น ด้วยสีสันและเส้นสายที่เลือกใช้ ทำให้บ้านมีบรรยากาศที่ผ่อนคลายเหมาะสำหรับการพักผ่อนมากยิ่งขึ้น

Facility

Main Gate ซึ่งเป็นซุ้มประตูทางเข้า - ออกโครงการนั้นจะมีดีไซน์ที่มีความเป็นญี่ปุ่นแบบเด่นชัด เห็นได้จากป้ายโครงการและสวนสไตล์ญี่ปุ่น สำหรับประตูทางเข้า - ออกนั้นจะแยกช่องทางเดินรถชัดเจน ตรงกลางเป็นป้อม รปภ. ที่มีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง

ทางเข้า - ออกมีไม้กระดกกั้น จะใช้ระบบ Easy Pass เพื่อความสะดวกสบายสำหรับลูกบ้าน สำหรับผู้มาเยือนจะต้องแลกบัตรตรงนี้เพื่อความปลอดภัยค่ะ

เข้ามาแล้วจะเห็นบรรยากาศภายในโครงการที่มีความอบอุ่นด้วยสีสันและมีต้นไม้ที่ให้ความร่มรื่น โดยถนนภายในโครงการกว้างสุด 12 ม.

เข้ามาภายในจะมีพื้นที่ส่วนกลางซึ่งมีอาคาร Clubhouse 2 ชั้นอยู่ติดกับสวนสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งยังคงออกแบบสไตล์เดียวกับบ้านภายในโครงการที่เน้นการใช้สีน้ำตาลให้ดูอบอุ่นและเพิ่มเส้นสายให้ตัวอาคารดูมีมิติ

ชั้น 1 ของอาคารจะยกระดับจากพื้นดินซึ่งสูงในระดับเดียวกับสระว่วายน้ำของโครงการค่ะ สระว่ายน้ำนี้จะอยู่ติดกับพื้นที่พักผ่อนภายในทำให้สามารถมองเห็นวิวสระขณะนั่งเล่นได้

และมุมสระนี้อยู่ติดกับสวนทำให้สามารถว่ายน้ำหรือมาแช่น้ำผ่อนคลายพร้อมกับได้บรรยากาศอันร่มรื่นของสวนไปในคราวเดียว

สวนภายในโครงการเป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่มีการวางเส้นสายของทางเดิน ก้อนหินและต้นไม้ที่ให้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น อีกทั้งยังเพิ่มบ่อน้ำที่มีสะพานและเสาโทริอิที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศมากยิ่งขึ้น

ภายในสวนจะมีทางเดินรอบสวนให้สามารถเดินเล่นหรือเดินออกกำลังกายได้ มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาและไม้พุ่มให้ความสมชื่น

พื้นที่ภายใน Clubhouse ที่ชั้น 1 เป็นพื้นที่พักผ่อนที่สามารถมานั่งเล่นได้ โดยห้องนี้มีมุมโต๊ะและโซฟาให้เลือกใช้งาน สามารถมองผ่านกระจกเห็นวิวสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลาง

นอกจากพื้นที่นั่งเล่นแล้วยังมี Meeting Room ที่สามารถเข้ามาใช้งานได้สะดวก ไม่ว่าจะนั่งทำงานหรือนั่งประชุมก็มีพื้นที่รับรองและมีความเป็นส่วนตัวอีกด้วย

ชั้น 2 ของอาคารเป็นพื้นที่ฟิตเนสที่มีขนาดใหญ่พอสมควรเลยค่ะ ทำให้มีเครื่องเล่นที่หลากหลายและครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสายคาดิโอที่ชอบวิ่ง ชอบปั่นจักรยาน หรือจะเป็นสายเวทก็มีเครื่องเล่นต่าง ๆ พร้อมดัมเบลหลากหลายน้ำหนักให้เลือกใช้

Home Type 

แบบบ้านภายในโครงการ โอซากะ รามอินทรา - คู้บอน มีทั้งหมด 1 แบบ โดยจะมีบ้านตัวอย่างและบ้านมาตรฐานให้เข้าชม

• ยูทากะ โฮม : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ดินเริ่มต้น 20 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

ยูทากะ โฮม เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ดินเริ่มต้น 20 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. ฟังก์ชันมี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ภายนอกจะเห็นนะคะว่าโทนสีที่ใช้หลัก ๆ คือโทนสีน้ำตาลที่ทำให้บ้านดูอบอุ่นแบบสไตล์ญี่ปุ่น ดีไซน์อื่น ๆ ของบ้านยังคงเรียบง่ายแต่เปิดช่องแสงเพื่อให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้าไปภายในบ้านได้ไม่ยาก เพิ่มระแนงเพื่อความสวยงามและเพิ่มร่มเงาให้กับตัวบ้านได้อีกด้วย 

รั้วด้านหน้าบ้านเป็นรั้วระแนงเหล็กแต่ก็ยังคงโทนสีเดียวกับตัวบ้านและกำแพง โดยด้านหน้าบ้านดูเป็นระเบียบเนื่องจากทางโครงการซ่อนถังขยะไว้ภายในบ้านและทำประตูเปิดสำหรับเป็นช่องทิ้งขยะ อีกทั้งยังมีต้นไม้บริเวณรั้วภายนอกทำให้เป็นโครงการทาวน์โฮมที่ดูร่มรื่น

ชั้น 1 :  เป็นพื้นที่ Common Area ของครอบครัวที่วางฟังก์ชันเป็นแบบ Open Plan ทั้งหมด เปิดเชื่อมพื้นที่ทั้งห้องนั่งเล่น มุมทานอาหารและห้องครัวแบบ Pantry ทำให้สามารถใช้งานแต่ละส่วนร่วมกันได้ไม่ยาก และชั้นนี้จะมีห้องนอน 3 ซึ่งเป็นเหมือนห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเป็นห้องนอน ห้องทำงานหรือจะทำเป็นห้องครัวสำหรับบ้านที่ชอบทำอาหารแต่ไม่อยากต่อเติมครัวหลังบ้าน ส่วนใครที่อยากต่อเติมก็สะดวกเพราะโครงการทำพื้นที่หลังบ้านรองรับการต่อเติมไว้แล้วนั่นเอง

ชั้น 2 : ชั้นนี้มีเพียง 2 ห้องนอนทำให้พื้นที่ใช้สอยของแต่ละห้องมีขนาดใหญ่ใกล้เคียงกัน เหมือนได้ Master Bedroom 2 ห้องนั่นเอง โดยภายในมีห้องน้ำส่วนตัวและมีพื้นที่สำหรับทำมุมแต่งตัวแบบ Walk-in Closet 

ชั้น 2.5 (ชั้นลอย) : ชั้นนี้จะอยู่เหนือพื้นที่บันได เป็นมุมอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันตามความต้องการได้ ไม่ว่าจะทำเป็นห้องพระ มุมอ่านหนังสือ มุมนั่งเล่นหรือจะวางชั้นวางของสะสมก็มีขนาดพื้นที่ใช้งานที่เพียงพอ

หน้าบ้านเป็นพื้นที่จอดรถสำหรับ 2 คัน โดยจะมีความลึกเกือบ 6 ม. ทำให้สามารถจอดรถคันใหญ่ได้ไม่ยาก และยังวางพื้นแบบ Slab on Beam ทำให้ลดปัญหาเรื่องการทรุดตัวของพื้นที่จอดรถ จากมุมนี้จะเห็นความสูงของกำแพงบ้านที่คั่นแต่ละหลังนะคะว่ามีความเป็นส่วนตัว เพราะมีความสูงถึง 1.8 ม. เลยทีเดียว สำหรับบ้านแปลงมุมจะมีพื้นที่ข้างบ้านที่สามารถทำเป็นสวนเพิ่มความร่มรื่นให้กับตัวบ้านได้

ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียม Powder Coat สีดำ กระจกเขียวตัดแสง เพิ่มดีไซน์ด้วยลูกฟักสีดำทำให้ประตูกระจกมีลวดลายและเส้นสายที่เข้ากับดีไซน์ของตัวบ้านมากขึ้น ก่อนถึงประตูบ้านจะมีเฉลียงด้านหน้าที่ยกระดับจากพื้นที่จอดรถ และพื้นบ้านยกระดับจากเฉลียงอีกทีก็เป็นการกันฝุ่นที่จะเข้ามาในบ้านได้ระดับหนึ่ง

เข้ามาภายในจะเห็นเลยนะคะว่าพื้นที่ใช้สอยดูกว้าง ฟังก์ชันแต่ละส่วนเปิดเชื่อมกันทำให้ใช้งานร่วมกันได้สะดวก พื้นชั้นนี้เป็นแกรนิตโต้สีครีมขนาด 60x60 ซม. ความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.7 ม. สำหรับบ้านตัวอย่างจะต่อเติมพื้นที่ครัวหลังบ้าน แต่สำหรับบ้านจริงจะเปิดโล่งเห็นพื้นที่หลังบ้านทำให้บ้านมีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้สองทาง

บ้านมาตรฐานที่ได้จะได้ตามที่เห็นนี้เลยค่ะ จะเห็นว่าพื้นที่บ้านดูโปร่งโล่งและมีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาเยอะ กำแพงหลังบ้านก็สูง 1.8 ม. เช่นเดียวกับหน้าบ้านทำให้หลังบ้านยังคงมีความเป็นส่วนตัว

พื้นที่ส่วนแรกที่เจอเมื่อเข้ามาภายในบ้านคือห้องนั่งเล่นที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้าง สามารถวางโซฟาชุดสำหรับ 4 - 6 ที่นั่งได้สบาย หรือจะว่างเป็นโซฟาตัว L เพื่อเป็นมุมนอนดูทีวีก็ยังสามารถวางได้ไม่ยากเพราะจะเห็นว่าบ้านตัวอย่างวางโซฟาชุดตัวใหญ่สำหรับ 4 ที่นั่งแต่ก็ยังมีพื้นที่ด้านข้างเหลือวางของตกแต่งและโต๊ะตัวเล็ก และด้านหน้าก็ยังวางโต๊ะกลางตัวใหญ่ได้

ตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวีที่เพิ่มพื้นที่เก็บของด้วยการติดตั้งชั้นวางของด้านบนได้ จะเห็นจากในภาพเลยนะคะว่าเมื่อวางโซฟาชุดและโต๊ะกลางหน้าทีวีก็ยังเดินผ่านใช้งานสะดวก เนื่องจากมุมวางทีวีอยู่ติดกับบันไดทำให้มีพื้นที่ทางเดินกว้างมากขึ้น

ติดกันนั้นเป็นมุมทานอาหาร, ห้องนอน 3 และห้องน้ำ ที่อยู่ทางซ้ายมือ สำหรับมุมนี้สามารถวางโต๊ะสำหรับ 4 ที่นั่งได้โดยเมื่อวางโต๊ะตัวใหญ่แล้วก็ยังมีทางเดินผ่านให้ใช้งานได้สะดวก

มุมนี้อยู่ติดกับห้องนั่งเล่นทำให้ใช้งานร่วมกันได้สะดวก สามารถนั่งทานอาหารและดูทีวีไปพร้อมกันได้ สำหรับคนที่ไม่ค่อยทำอาหารอาจทำมุม Pantry เล็ก ๆ เป็นเคาน์เตอร์สำหรับอุ่นอาหารหรือมุมเครื่องดื่มตรงนี้ได้ค่ะ

อีกด้านของบ้านคือห้องน้ำและห้องนอน 3 ซึ่งห้องนอน 3 กั้นด้วยประตูกระจกทำให้ห้องยังคงมีความเป็นส่วนตัวแต่ไม่ทำให้บ้านดูแคบลง

ห้องน้ำกั้นเป็นสัดส่วน ภายในใช้สีโทนขาวทำให้ห้องดูกว้างและสว่าง แยกโซนแห้งและเปียกด้วยพื้นต่างระดับและยังมีฉากกั้นให้ทำให้สะดวกในการใช้งาน

ห้องนอน 3 เป็นเหมือนห้องอเนกประสงค์เนื่องจากเป็นห้องที่อยู่ชั้น 1 จึงสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะทำเป็นห้องนอน, ห้องทำงาน หรือจะปรับเป็นห้องครัวก็ทำได้สะดวก เนื่องจากพื้นที่ใช้สอยขนาดกำลังพอดีและมีหน้าต่างกระจกที่สามารถเปิดรับแสงและลมธรรมชาติภายนอกได้

เมื่อทำเป็นห้องนอนสามารถวางเตียง 3.5 ฟุตและเฟอร์นิเจอร์ได้บางส่วนเหมาะสำหรับห้องผู้สูงอายุที่ไม่ต้องการขึ้น - ลงบันได แต่ถ้าทำเป็นห้องทำงานแบบนี้ก็สามารถมีโซฟาเบดเป็นห้องที่ทั้งทำงานได้และนอนพักได้ไปในตัวค่ะ

ในห้องสามารถวางโต๊ะทำงานตัวใหญ่ได้ ด้านข้างติดตั้งชั้นและตู้วางของก็ได้พื้นที่เก็บของที่ดูเป็นสัดส่วนและมีความสวยงาม

หลังบ้านเป็นพื้นที่ซักล้างที่บ้านตัวอย่างต่อเติมเป็นครัวเพื่อเป็นไอเดียสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร เมื่อต่อเติมหลังคาก็ได้พื้นที่ครัวกว้าง ๆ เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารโดยแบ่งเป็นครัวและโซนซักล้างเพื่อวางเครื่องซักผ้าได้ นอกจากนั้นบ้านแปลงมุมอาจเพิ่มประตูที่เปิดไปยังหลังบ้านได้อีกด้วย

พื้นที่ครัวกว้างขวางทีเดียวค่ะ สามารถวางเคาน์เตอร์ตัว L ได้แบบนี้ทำให้มีพื้นที่เตรียมอาหารได้เยอะ แบ่งมุมวางอ่างล้านจานและโซนปรุงอาหารได้ ด้านบนและด้านล่างติดตั้งตู้เก็บของก็ได้พื้นที่เก็บของใช้ต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระเบียบ

บันไดบ้านพื้นเป็นไม้ยางประสานโทนสีน้ำตาลเข้ม มีราวจับให้ตลอดแนวทำให้สะดวกในการใช้งาน เหนือชานพักมีหน้าต่างกระจกทำให้มุมบันไดสว่างสามารถใช้งานตอนกลางวันแบบไม่เปิดไฟได้ค่ะ

เมื่อขึ้นมายังชั้น 2 จะเห็นพื้นที่ชั้นลอยอยู่เหนือบันไดแบบนี้ค่ะ

ชั้นลอยขนาดพอดีสำหรับทำเป็นมุมวางของตกแต่งของสะสม หรือจะทำเป็นห้องพระก็สะดวกในการใช้งาน สามารถนั่งสวดมนต์ไหว้พระได้สบาย ๆ สำหรับความสูงตรงนี้สำหรับนักเขียนที่สูง 1.65 ม. ก็ยืนได้แบบไม่ต้องก้มค่ะถือว่าเป็นระยะที่ใช้งานได้สะดวกเลย 

บ้านมาตรฐานที่ได้ก็จะได้ตามที่เห็นในบ้านตัวอย่างคือมีราวจับให้ตลอดแนวจนไปถึงพื้นที่ชั้นลอย สำหรับชั้นนี้พื้นเป็น SPC ลายไม้ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.7 ม.

ห้องนอน 2 เป็นห้องนอนที่อยู่โซนหลังบ้าน ขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางโดยจะมีรูปทรงห้องแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทำให้สามารถกั้นห้องแบ่งเป็นมุมแต่งตัวเพื่อให้พื้นที่ห้องดูเป็นสัดส่วนแบบนี้ได้ ในห้องมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ทำให้ห้องดูสว่างและโปร่ง 

มุมพักผ่อนสามารถวางเตียงใหญ่แบบ 5 - 6 ฟุตได้สบาย ข้างเตียงวางโต๊ะหัวเตียงเพื่อให้ใช้งานสะดวก สำหรับปลายเตียงกั้นผนังขึ้นมาก็ได้ทั้งชั้นวางทีวีและเป็นจุดที่แบ่งให้เป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ได้

บ้านมาตรฐานที่ได้จะเป็นห้องเปล่าแบบไม่มีผนังกั้น ดังนั้นใครอยากแบ่งพื้นที่แบบไหนก็กั้นได้ตามความต้องการ สำหรับคนที่ชอบแต่งตัวอาจกั้นห้องให้วางตู้แบบขนานกันก็ทำได้นั่นเอง

มุมแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ค่ะ จะเห็นว่าด้านซ้ายมือคือผนังที่กั้นพื้นที่และเป็นชั้นวางทีวี อีกด้านคือวางตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ ตรงนี้แนะนำว่าใครที่ชอบแต่งตัวแล้วมีเสื้อผ้าเยอะอาจเปลี่ยนจากผนังกั้นเป็นตู้เสื้อผ้าได้ และเปลี่ยนจากวางทีวีเป็นติดตั้งทีวีแบบแขวนก็ยังได้ 2 ฟังก์ชันเหมือนเดิมแต่เพิ่มเติมพื้นที่แต่งตัวนั่นเอง

มุมวางตู้เสื้อผ้าสามารถวางตู้ใบใหญ่ตลอดแนวผนังและแบ่งบางส่วนเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ โดยตู้วางใบใหญ่สูงชิดฝ้าก็ได้พื้นที่เก็บของเยอะขึ้นและไม่ต้องกังวลเรื่องฝุ่นหลังตู้ค่ะ สำหรับมุมนี้มีหน้าต่างกระจกเปิดรับแสงทำให้ห้องสว่างและโปร่ง

ห้องนี้มีห้องน้ำในตัวซึ่งห้องน้ำมีขนาดกว้าง ภายในเป็นโทนสีขาวเป็นหลักทำให้ห้องดูสว่าง แบ่งโซนแห้งและเปียกด้วยพื้นต่างระดับและมีฉากกั้นอาบน้ำแบบบาน Fix ให้

Master Bedroom เป็นห้องที่อยู่โซนด้านหน้าบ้านที่มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่กว่าห้องนอน 2 ทำให้ห้องดูสว่างและโปร่งมากกว่า ขนาดพื้นที่ใช้สอยมากกว่าห้องนอน 2 เล็กน้อยแต่รูปทรงห้องเหมือนกันคือเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ดังนั้นห้องนี้ก็สามารถกั้นห้องแบ่งพื้นที่สำหรับมุมแต่งตัวได้ตามความต้องการเช่นกัน

สำหรับมุมพักผ่อนสามารถวางเตียง 5 - 6 ฟุตพร้อมโต๊ะหัวเตียงทั้งสองข้างได้สบาย ปลายเตียงกั้นผนังขึ้นมาเพื่อแบ่งเป็นมุมแต่งตัวและเป็นชั้นวางทีวีได้แบบนี้เลยค่ะ

บ้านมาตรฐานที่ได้จะเป็นห้องเปล่าที่ไม่มีผนังกั้น ดังนั้นสามารถกั้นผนังเพิ่มหรือจะทำเป็นห้องกว้างโล่งแบบนี้ก็สามารถตกแต่งได้ตามความชอบ

ผนังกั้นห้องเป็นส่วนที่แบ่งโซนใช้งานระหว่างเตียงนอนและมุมแต่งตัว จะเห็นว่าผนังเพิ่มชั้นวางของที่มีความหนาในระดับหนึ่ง สามารถเป็นได้ทั้งชั้นวางของและชั้นวางทีวี ดังนั้นใครที่ชอบแต่งตัวและมีเสื้อผ้าเยอะจะปรับเป็นตู้เสื้อผ้าก็ไม่ทำให้ห้องดูแคบคง เพียงปรับทีวีให้เป็นการติดตั้งแบบแขวนแทนเท่านั้นเองค่ะ

มุมแต่งตัวนี้สามารถวางตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ได้ โดยแนะนำให้วางตู้ชิดฝ้าแบบนี้ไปเลยเพราะนอกจากจะได้พื้นที่เก็บของที่เยอะแล้วก็ไม่ต้องกังวลเรื่องฝุ่นหลังตู้ที่ต้องคอยทำความสะอาด ด้านข้างแบ่งพื้นที่บางส่วนเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งได้แบบนี้นะคะ

ห้องน้ำยังคงโทนสีขาว มีพื้นสีเทาเพิ่มสีสันให้กับตัวห้องแต่ยังคงสไตล์การตกแต่งที่ดูเรียบง่าย ภายในแยกโซนแห้งและเปียกด้วยพื้นต่างระดับ มีฉากกั้นอาบน้ำแบบ Fix ให้ซึ่งช่วยกันน้ำกระเด็นเวลาอาบน้ำได้ค่ะ

บ้านมาตรฐานและตัวอย่างวัสดุ

บ้านมาตรฐานที่ได้เป็นบ้านเปล่าที่ไม่มีการตกแต่งภายใน ความสูงจากพื้นถึงฝ้าของทั้งสองชั้นอยู่ที่ 2.7 ม. พื้นหน้าบ้านตรงที่จอดรถและพื้นส่วนซักล้างหลังบ้านเป็นแบบ Slab on Beam 

• พื้นชั้น 1 เป็นแกรนิตโต้ขนาด 60x60 ซม. พื้นชั้น 2 เป็น SPC ลายไม้
• ห้องน้ำได้สุขภัณฑ์แบบมาตรฐานตามบ้านตัวอย่างของ Cotto 
• โครงสร้างบ้านแบบ Precast

Location : โอซากะ รามอินทรา - คู้บอน

พิกัด :  https://maps.app.goo.gl/S9xbXL6sDdEbKNP57 

ทำเลที่ตั้งโครงการตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองสองซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมกับถนนคู้บอน, ถนนพระยาสุเรนทร์และถนนหทัยราษฎร์ ทำให้การเดินทางสะดวกเพราะไปได้หลากหลายเส้นทาง สำหรับหน้าโครงการมุ่งหน้าไปยังคู้บอนก็ตรงเข้าเส้นคู่ขนานได้ หรือจะตรงเข้าทางด่วนก็วิ่งไปเส้นนี้ได้เลยค่ะ ทำให้การเดินทางเข้า - ออกตัวเมืองสะดวก ไปสายไหม, รังสิต มุ่งหน้าไปรามอินทรา, ลาดพร้าวและเข้าตัวเมืองได้เลย หรือถ้าวิ่งเส้นพระยาสุเรนทร์และถนนหทัยราษฎร์ก็ไปยังมีนบุรีได้ง่าย นอกจากนั้นยังมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูซึ่งเชื่อมต่อจากมีนบุรีผ่านรามอินทรา, เกษตร ตรงไปยังนนทบุรีซึ่งเส้นนี้เชื่อมต่อกับสายสีเขียวและสายสีแดงดังนั้นการเดินทางจึงมีทางเลือกมากขึ้น

และเนื่องจากเป็นโซนที่เดินทางเข้า-ออกตัวเมืองสะดวก คนทำงานก็จึงเลือกเป็นพื้นที่พักอาศัยเพื่อให้ไปทำงานได้ง่าย รอบ ๆ โครงการจึงมีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก มีร้านค้าและร้านอาหารต่าง ๆ มากมาย แหล่งจับจ่ายใช้สอยก็มีหลากหลายแบบคือมีตั้งแต่ตลาดสด ตลาดนัด คอมมูนิตี้มอลไปจนถึงศูนย์การค้าใหญ่ และยังไม่ไกลจากสถานที่ราชการ โรงเรียน โรงพยาบาล เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่ครบครันและตอบโจทย์คนหลากหลายวัย

รถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุดคือรถไฟฟ้าสายสีชมพู โดยสถานีที่อยู่ใกล้มากที่สุดคือสถานีตลาดมีนบุรีและสถานีบางชัน โดยสายนี้ตรงเข้าตัวเมืองได้ ไปยังรามอินทราตรงเข้าเชื่อมกับสายสีเขียวได้สะดวก หรือจะวิ่งยาวไปยังนนทบุรีก็ได้เช่นกันค่ะ

โรงเรียนและโรงพยาบาลมีทั้งของรัฐและเอกชน ทำให้มีความหลากหลายในการเลือกเข้าใช้บริการ หรือใครทำงานสายนี้ก็สะดวกในการเดินทางเป็นอย่างมาก สำหรับโรงเรียนที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการก็จะมี รร.สาธิรพัฒนา, รร.สารสาสน์วิเทศนิมิตใหม่ โรงพยาบาลก็ไม่ไกลจาก รพ.สินแพทย์, รพ.นพรัตนราชธานี ส่วนสถานที่ราชการใกล้กับสำนักงานเขตคลองสามวาค่ะ

สำหรับแหล่งจับจ่ายใช้สอยนั้นไม่ต้องห่วงเลยเพราะถนนหน้าโครงการมีตลาดสด ตลาดนัดอย่างตลาดนายใหญ่, ตลาดนัดสี่แยกพระพรหมคลองสอง มีคอมมูนิตี้มอล JAS green village คู้บอน ที่มีร้านค้าและร้านอาหารต่าง ๆ มากมาย สำหรับศูนย์การค้าก็มี Lotus, Makro และยังมี Maxvalu อีกด้วยค่ะ ส่วนห้างใหญ่ ๆ ก็ไปยังเส้นรามอินทราได้เพราะตรงนั้นมี Fashion Island และ The Promenade

การเดินทาง

สำหรับการเดินทางวันนี้ทางทีมงานจะพาเดินทางจากถนนรามอินทรา เส้นนี้เป็นเส้นที่มีความคึกคักและมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูวิ่งผ่านค่ะ

ตรงมาตามเส้นรามอินทราเมื่อผ่านจุดที่ตัดกับทางด่วนฉลองรัช ให้ตรงมาตามป้ายบอกทางไปยังมีนบุรี และเมื่อเจอป้ายบอกทางไปยังถนนคู้บอนให้เลี้ยวซ้ายตามป้ายบอกทางได้เลย

เลี้ยวซ้ายเข้ามายังถนนคู้บอน จะเห็นเลยว่าเป็นถนน 4 เลนที่มีความคึกคัก สองข้างทางมีร้านค้าและร้านอาหารอยู่เป็นระยะ

ตรงมาเรื่อย ๆ จะผ่านจุดที่ตัดกับวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษก ตรงนี้ให้ชิดซ้ายนะคะ

ชิดซ้ายแล้วจะเจอป้ายตรงนี้ให้วิ่งซ้ายไปตามทางบอกไปยังถนนเลียบคลองสอง

ตรงมาแล้วชิดขวาเพื่อเลี้ยวลอดวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษกและมุ่งหน้าเข้าถนนเลียบคลองสอง

เมื่อลอดวงแหวนรอบนอกแล้วจะเจอกับทางแยก ให้ตามป้ายบอกทางไปยังถนนเลียบคลองสองซึ่งเลี้ยวซ้ายตรงนี้ได้เลยค่ะ

เมื่อเลี้ยวเข้ามายังเป็นถนนคู้บอนซึ่งเป็นช่วงที่เชื่อมกับถนนเลียบคลองสอง สองข้างทางมีร้านค้าและร้านอาหารต่าง ๆ มากมาย

ตรงมาเมื่อผ่านสำนักงานเขตคลองสามวาทางขวามือแสดงว่าไม่ไกลจากที่ตั้งโครงการแล้วค่ะ

จากสำนักงานเขตให้กลับรถจุดแรกที่เจอเพราะโครงการตั้งอยู่ทางขวามือ

เมื่อกลับรถมาแล้วให้ตรงมาจะเห็นโครงการอยู่ทางซ้ายมือ

เลี้ยวเข้ามาเป็นที่ตั้งโครงการโดยจะมีสำนักงานขายตั้งอยู่ด้านหน้าก่อนถึง Main Gate ของโครงการ สามารถเข้ามาติดต่อสอบถามโครงการได้เลยค่ะ

Price & Promotion

ปัจจุบันโครงการ โอซากะ รามอินทรา - คู้บอน มีแบบบ้านให้เลือก 1 แบบ บ้านที่ได้จะเป็นบ้านเปล่าแบบมาตรฐานโครงการ ซึ่งสามารถเข้าไปดูบ้านตัวอย่างและบ้านมาตรฐานได้ที่โครงการเลยค่ะ

• ยูทากะ โฮม : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ดินเริ่มต้น 20 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• ราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท* 
• ส่วนกลาง 1,200 บาท / หลัง / เดือน 

*ราคา ณ สิงหาคม 2567 โปรดสอบถามโครงการอีกครั้ง

Conclusion