รีวิวคอนโด เดอะ คิวบ์ สเตชั่น รามอินทรา 109

ด้านทำเลของโครงการ 

โครงการ The Cube Station รามอินทรา 109 ตั้งอยู่ติดถนนพระยาสุเรนทร์ หรือ ซอยรามอินทรา 109  ห่างจากถนนรามอินทรา เพียง 200 เมตร และห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีบางชัน เพียง 300 เมตร ซึ่งโครงการสามารถเดินทางเชื่อมต่อเมืองได้หลายทาง ทั้งจากถนนรามอินทรา ถนนรัชดาภิเษก เชื่อมต่อถนนเกษตรนวมินทร์ หรือ ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก

ส่วนในอนาคตคงไม่เกินปี 2563 ถนนรามอินทรา ก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูเปิดวิ่งให้บริการรถไฟฟ้าสายนี้ จะเชื่อมต่อกับสายสีม่วงตรงสถานีศาลากลางจังหวัดนนทบุรี และเชื่อมต่อกับสายสีแดง ตรงสถานีหลักสี่ ส่วนสถานีที่ใกล้กับโครงการที่สุด คือสถานีบางชัน

บริเวณโดยรอบในทำเลย่านถนนรามอินทรา กม10 นี้ จะมีห้างแฟชั่น ไอส์แลนด์, The Promanade, Makro ห้าง Amorini ตรงด้านหน้าทางเข้าสวนสยาม

ส่วนเรื่องโรงเรียนในย่านนี้ใกล้เลยก็จะมีเศรษฐ์บุตรบำเพ็ญ สาธิตพัฒนา และถ้าพูดถึงโรงพยาบาล เส้นรามอินทรา ก็มีโรงพยาบาลนพรัตน์ตรงปากทางเข้าสวนสยาม และโรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา กม8

โครงการ 

โครงการ The Cube Station รามอินทรา 109 พัฒนาโดยบริษัท คิวบ์ เรียล พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด บนที่ดิน 3 ไร่กว่า มี 2 อาคาร คือ A และ B โดยวางอาคารเรียงต่อกัน อาคาร A อยู่ด้านหน้า ส่วนอาคาร B จะอยู่ด้านหลัง ในส่วนของอาคาร B จะมีส่วนของ  Facilities อยู่ในอาคารด้วย 

ปัจจุบันโครงการกำลังจะเปิด รอบ Pre-Sale ที่อาคาร B ก่อนเป็นเฟสแรก โดยมีจำนวนยูนิตขายทั้งหมด 230 ยูนิต โครงการออกแบบรูปลักษณ์อาคารในลักษณะ Modern ร่วมสมัย เน้นออกแบบห้องพักเป็นห้องหน้ากว้าง มีครัวแยกส่วน 

โครงการมีห้องให้เลือก Type เดียว คือแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 24, 26.5, 28, 29, 32, 34 และ 38.5 ตารางเมตร 

ในส่วน Facilities โครงการ จัดเตรียมไว้อย่างครบครัน ทั้ง สระว่ายน้ำ ระบบน้ำเกลือ ฟิตเนส ซาวน่า แยก ชาย-หญิง และ ห้องสมุด
ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยโครงการ จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ รปภ. และ กล้อง CCTV ดูแลความเรียบร้อยทั้งภายในและภายนอกอาคาร ตลอด 24 ชั่วโมง โครงการควบคุมการเข้าออกด้วย Key Card Access และ ใช้ลิฟท์แบบระบบล็อคชั้น

แบบห้อง

อย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น โครงการ The Cube Station รามอินทรา 109 มีห้องแบบห้อง Type เดียว คือแบบ 1 ห้องนอน 
สำหรับห้อง ขนาด 26.5 ตารางเมตรซึ่งเป็นห้อง Type 1 ห้องนอนที่มีจำนวนมากสุดในอาคาร 

ห้องพักของโครงการนี้แม้จะมีหลายขนาดด้วยกัน แต่ถ้าดูจาก lay out ของห้องแล้ว จะมี 3 ลักษณะเท่านั้น โดยทุกแบบจะเน้น เป็นห้องหน้ากว้าง และ มี Function ที่อยู่สบาย ตอบโจทย์ คนรุ่นใหม่ที่ต้องการบ้านหลังแรกอย่างยิ่ง โดยห้องขนาด 26.5 ตารางเมตรจะเป็น lay out เดียวกับห้องขนาด 24 ตารางเมตร ซึ่งจะต่างกันเพียงห้องขนาด 26.5 ตารางเมตร จะลึกเพิ่มขึ้นมาเพียง 30 เซนติเมตรเท่านั้น

เมื่อเขามาดูในห้องขนาด 26.5 ตารางเมตร จะเห็นว่า ห้องจะถูกออกแบบให้เป็นห้องหน้ากว้าง แบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็น 3 ส่วนชัดเจน คือ ส่วนรับแขก นั่งเล่น เป็นส่วนแรก

จากนั้นต่อเนื่องไปจะเป็นส่วนของห้องนอน ที่มีประตูเลื่อนกระจกบานใหญ่กั้นเป็นสัดส่วน  และส่วนสุดท้ายจะเป็นพื้นที่ครัวใหญ่ ที่มี ส่วนของรับประทานอาหาร อยู่ในส่วนของครัวเลย

ส่วนนี้ นอกจากจะกว้างขวาง ยังติดกับพื้นที่ระเบียงภายนอก ที่ใช้เป็นพื้นที่ ซักล้างได้ อีกด้วย

ส่วนอีกด้านของพื้นที่ครัวจะเปิดสู่ ห้องน้ำ ซึ่งจะต้องเข้าจากพื้นที่ส่วนของครัว ทำให้ในพื้นที่รับแขก และ พักผ่อน มีความเป็นส่วนตัวขึ้น คือไม่เห็นประตูห้องน้ำ

ในส่วนของงานก่อสร้างนั้น ต้องนับว่าโครงการให้ของดี มาตรฐานสูง เพราะในส่วนของงานผนังภายนอกของอาคารทั้งหมด โครงการเลือกใช้ระบบผนังนวัตกรรมใหม่ walli -T จาก SCG ซึ่งจะมีคุณสมบัติในการป้องกันความร้อนจากภายนอกอาคารให้เข้ามาให้พื้นที่ห้องพักได้ดี มีความแข็งแกร่ง ไม่แตกร้าว กันเสียง กันไฟ และ ติดต้ั้งได้มาตรฐานสวยงาม หมดปัญหาผนังเอียงไม่ได้ฉาก แตกร้าว ปัจจุบันระบบการติดตั้งผนังแบบนี้ บริษัทพัฒนาอสังหาชั้นนำได้เลือกใช้เป็นส่วนใหญ่ เพราะก่อสร้างรวดเร็วและมีมาตรฐานงานสูง รับรองจาก SCG