รีวิวคอนโด มาเอสโตร 19 รัชดา19 - วิภา

Maestro รัชดา 19 แบรนด์ใหญ่โครงการแรกในรัชดาฯ 19

โครงการ MAESTRO 19 Ratchada19 – Vipha พัฒนาโครงการโดยบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมแบรนด์หรูอย่าง Aguston และแบรนด์ M ในทำเลหลักใกล้รถไฟฟ้า ส่งแบรนด์ Maestro ลงในทำเลรัชดาภิเษก 19 ซึ่งถือเป็นแบรนด์ใหญ่รายแรกในทำเลแห่งนี้

แบรนด์ Maestro นี้จะนำเสนอคอนเซฟท์งานออกแบบคลาสสิคสไตล์ยุโรป ผสมผสานความทันสมัยที่ลงตัว มีบรรยากาศที่สงบน่าพักผ่อน 

สำหรับโครงการ MAESTRO 19 Ratchada19 – Vipha ทางเมเจอร์ ฯ ถือว่าจัดเต็มพอสมควรครับทั้งคอนเซฟท์การออกแบบที่แตกต่างจากโครงการอื่น ๆ ร่วมทำเล รวมถึงลูกเล่น ฟังก์ชั่นห้องที่ปรับให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น เหมาะทั้งซื้อพักอาศัยเอง ซื้อลงทุน ลองมาดูดีกว่าครับว่าโครงการนี้มีจุดเด่นอะไรบ้าง

ทำเล

ย่านลาดพร้าว รัชดา พระราม 9  ตลอดแนวถนน รัชดาภิเษก ปัจจุบันถือเป็น พื้นที่อยู่อาศัยแบบแนวตั้ง เพื่อรองรับความเจริญแบบศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ ของย่านรัชดาภิเษก พระราม 9  ซึ่งปัจจุบัน ได้กลายเป็น ศูนย์กลางธุรกิจ หรือ CBD ใหม่ของกรุงเทพมหานครไปเรียบร้อยแล้ว 

การย้ายมาของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การประกาศแผนลงทุนโครงการ ใหญ่ อย่างเดอะ ซูเปอร์ ทาวเวอร์ อาคารสูงสุดในอาเซียน 125 ชั้น การเกิดขึ้นของห้างสรรพสินค้าใหญ่ ใหม่ๆ มากมาย รวมทั้งการพัฒนาคอนโดพักอาศัยแบบ High Rise จำนวนมากตลอดแนวถนนรัชดาและพระราม 9 ในช่วงนี้  ย่อมสะท้อนศักยภาพของพื้นที่ในการเติบโตต่อไปในอนาคตได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบันราคาคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ หรือที่พร้อมอยู่ ในแนวถนนรัชดาภิเษก ที่ขายกันอยู่ตั้งแต่แยกพระราม 9 ถึงแยกถนนลาดพร้าว ราคาขายต่อตารางเมตร ไปถึง 120,000 บาทแล้ว และ สำหรับทำเล ใกล้แยกพระราม 9 ราคายังสูงกว่านั้นไปแตะ 150,000 บาทต่อตารางเมตร

ยิ่งกว่านั้นตามแผนการพัฒนาระบบรางของกรุงเทพมหานคร ในพื้นที่รัชดาภิเษกช่วงนี้ จะมี รถไฟฟ้าสายใหม่วิ่งผ่าน และสถานีเดิมของรถไฟฟ้า MRT จะกลายเป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์สำคัญอยู่หลายสถานีทีเดียว  
-สถานี ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยอินเตอร์เชนจ์ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ตลิ่งชัน มีนบุรี 
-สถานีลาดพร้าว อินเตอร์เชนจ์ รถไฟฟ้าสายสีเหลืองลาดพร้าว สำโรง
-สถานี พหลโยธิน อินเตอร์เชนจ์ รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายหมอชิต สะพานใหม่ คูคต 

คอนโด Low Rise 8 ชั้น ใกล้สถานีรถไฟฟ้า คำตอบของคนรุ่นใหม่งบประมาณซื้อ 2-3 ล้านบาท

ดังนั้นพื้นที่ ตามแนวถนนรัชดาภิเษก ระหว่างอินเตอร์เชนจ์ ศูนย์วัฒนธรรมจนถึงอินเตอร์เชนจ์ลาดพร้าว จึงเป็นทำเลที่มีแนวโน้มจะเติบโตอย่างมากของคอนโดพักอาศัย เพื่อรองรับปริมาณของผู้คนที่ใช้สัญจรและเปลี่ยนถ่ายเส้นทางในพื้นที่นี้ 

และสำหรับคนรุ่นใหม่วัยทำงาน ที่ต้องการมีที่พักอยู่ใจกลางย่านธุรกิจโดยเน้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลัก งบประมาณในการซื้อ ที่สามารถซื้อไหว คงอยู่ในช่วง 2-3 ล้านเป็นหลัก  ซึ่งแน่นอนทางเลือกในการจะเป็นเจ้าของ คอนโดพักอาศัยชั้นดีในย่านนี้ คงมีทางเดียวเท่านั้น คือเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเข้าไปในซอยทางลัดทางผ่านที่สามารถเชื่อมออกสู่ถนนหลักเส้นอื่นได้โดยสะดวก 

เพราะด้วยงบประมาณขนาดนี้ คงไม่สามารถซื้อ ห้องในคอนโดแบบ High Rise ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบนถนนรัชดาภิเษกได้แล้วเนื่องจากราคาขายต่อตารางเมตรในปัจจุบันสูงเกินกว่างบประมาณที่จะซื้อได้

ซอยรัชดา 19 หรือ วิภาฯ16 (ซอยโชคชัยร่วมมิตร) ทำเลโดนใจ สำหรับ Vertical Living กลางย่านรัชดาภิเษก

ซอยรัชดา 19 หรือ วิภาฯ16 (ซอยโชคชัยร่วมมิตร) เป็นซอยเชื่อมถนนวิภาวดีรังสิตกับรัชดาภิเษก อีกทั้งยังสามารถลัดไปออกถนนลาดพร้าวซอย 18 และซอย 26 ฝั่งขาเข้าได้อีกด้วย ที่สำคัญตรงปากซอยรัชดาภิเษก 19 จะเป็นสถานีรถไฟฟ้า MRT รัชดาภิเษก ทางออกที่ 1 โรงเรียนปัญจทรัพย์ 

ซอยรัชดา 19 หรือ วิภาฯ16 เป็นซอยเชื่อมถนนวิภาวดีรังสิต 

ซอยวิภาวดีฯ 16 ลัดไปออกถนนลาดพร้าวซอย 26ได้

หน้าปากซอยรัชดาภิเษก 19 จะเป็นสถานีรถไฟฟ้า MRT  รัชดาภิเษก

สถานีรถไฟฟ้า MRT รัชดาภิเษก 

อย่างที่เราทราบกันดีว่า ถนนรัชดาภิเษกในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนมีการจราจรหนาแน่นมาก ดังนั้นการอยู่อาศัยในซอยนี้ ทำให้มีทางเลือกไปออกถนนวิภาวดีรังสิต และถนนลาดพร้าวฝั่งขาเข้าได้

หรือในทางกลับกัน ในชั่วโมงเร่งด่วน สามารถเข้าถึงที่พักอาศัยจากถนนหลักอย่าง ถนนวิภาวดีหรือถนนลาดพร้าว โดยไม่ต้องเสี่ยงเข้ามาเจอรถติดในถนนรัชดาภิเษก ถือเป็นทางเลือกที่ทุกคนที่อยู่ในทำเลนี้ต้องการอย่างมากทีเดียว

นอกจากนั้น ซอยรัชดาภิเษก 19 นี้ยังเป็นซอยที่หนาแน่นไปด้วยอพาร์ทเม้น รองรับการอยู่อาศัยของคนทำงานในย่านรัชดาภิเษก ด้วยคุณสมบัติเด่นของซอยดังได้กล่าวมาแล้ว ทำให้ตลอดทั้งซอยมีร้านค้า ร้านอาหาร หนาแน่น สะดวกสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันมาก อีกทั้งยังมีความพลุกพล่านของผู้คนในการสัญจรไปมาตลอดเวลา ทำให้การใช้ชีวิตในซอยนี้ หมดกังวลเรื่องความเปลี่ยวไม่ปลอดภัย ยามที่ต้องกลับบ้านโดยการใช้บริการรถไฟฟ้า และต่อรถรับจ้างเลย

ตลอดทั้งซอยมีร้านค้า ร้านอาหาร หนาแน่นสะดวกสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันหมดกังวลเรื่องความเปลี่ยวไม่ปลอดภัยยามที่ต้องกลับบ้านโดยการใช้บริการรถไฟฟ้า และสามารถต่อรถรับจ้างได้เลย

โครงการ

MAESTRO 19 Ratchada19 – Vipha - วิภาเป็นคอนโดมิเนียม low rise 8 ชั้น 4 อาคาร และอาคารคลับเฮ้าส์ 3 ชั้น 1 อาคาร มียูนิตพักอาศัยทั้งหมด 560 ยูนิต บนพื้นที่โครงการขนาด 5-1-3.4 ไร่ โครงการออกแบบในสไตล์ Classic Inspried Modern Twist ภายใต้คอนเซฟท์ Industrial Elegance 

ภายในโครงการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกได้ครบถ้วนทั้ง ล็อบบี้ ห้องจดหมาย ลานสันทนาการ สวนพักผ่อน ทางวิ่งออกกำลังกาย และพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงนี้ถือสิ่งที่โครงการคอนโดมิเนียมปัจจุบันไม่มีครับ 
นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำขนาด 25 X 6 เมตร ที่นั่งริมสระ สวนและพื้นที่ดาดฟ้าของทุกตึกพักอาศัยสำหรับทำบาร์บีคิว และพืนที่จอดรถ 344 คัน

สำหรับที่อาคารคลับเฮ้าส์ภายในจะประกอบด้วย ชั้นล่างเป็นล็อบบี้ ชั้นที่ 2 เป็นห้องสมุด Co-working space ห้องสตรีม ห้องเซาน่า ชั้น 3 เป็นพื้นที่ออกกำลังกาย และโยคะ 

ด้านระบบรักษาความปลอดภัย ทางโครงการมีป้อมรักษาความปลอดภัย การเข้าออกโครงการ ตัวอาคาร และลิฟท์โดยสารใช้ระบบคีย์การ์ด ส่วนที่ตัวห้องพักอาศัยจะใช้ประตู Digital door lock 

โครงการออกแบบในคอนเซฟท์ Industrial Elegance ซึ่งมีความการผสมผสานระหว่างความเป็นโมเดิร์น และคลาสสิคเข้าด้วยกัน 

พื้นที่นั่งพักผ่อนกลางแจ้งได้ร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ และจากตัวอาคารที่ช่วยบังแสงแดด

การวางอาคารของโครงการมีการคำนึงถึง Ventilation Flow เพื่อให้เกิดลมที่ไหลเวียนผ่านในพื้นที่โดยตลอด นอกจากนี้ทุกส่วนยังออกแบบให้ได้รับแสงแดดในปริมาณพอเหมาะไม่มากหรือน้อยเกินไปทั้งปี

ล็อบบี้ของโครงการสะท้อนคอนเซฟท์ Industrial Elegance ที่ดูเป็นกึ่งกลางระหว่างความคลาสสิค และโมเดิร์น ได้ชัดเจนด้วยวัสดุตกแต่งไม่ว่าจะเป็นโซฟาหุ้มหนัง เฟรมหน้าต่างกระจก เชนเดอเลีย และการปูหินอ่อนในแบบ Herring Bone Pattern เพื่อเพิ่มความพิเศษ แปลกตา และดูหรูหรา

สระว่ายน้ำบนอาคารคลับเฮ้าส์ 

พื้นที่ Co Working Space อยู่บนอาคารคลับเฮ้าส์ 

แบบห้อง

โครงการ MAESTRO 19 Ratchada19 – Vipha มีแบบห้องให้เลือก 3 แบบได้แก่ แบบ 1 Bedroom ขนาด 29 - 38ตารางเมตร,1Bedroom Plus ขนาด 42ตารางเมตร และแบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 59 ตารางเมตร รองรับการพักอาศัยหลายรูปแบบของคนเมืองรุ่นใหม่ทั้งคนโสด อยู่เป็นคู่ และอยู่เป็นลักษณะครอบครัว 

โดยแบบห้องของโครงการมีจุดเด่นตรงที่เป็นแบบหน้ากว้างทำให้ห้องดูกว้างขวาง และโปร่งเป็นพิเศษ โดยมีแบบห้องหน้ากว้างที่สุด 12 เมตร ซึ่งเป็นแบบ 2 ห้องนอน สามารถรับวิวสวนได้แบบ Panorama และมีความเป็นส่วนตัวสูง ซึ่งห้องที่มีหน้ากว้างขนาดนี้ในทำเลรัชดา-ลาดพร้าวนี้น่าจะมีแต่ที่ Maestro ที่เดียวครับ

นอกจากนี้ห้องแบบ 1 ห้องนอนซึ่งเป็นห้องหลักของโครงการยังมี Layout ให้เลือกหลายแบบเพื่อให้ตรงกับความชอบ และความต้องการของแต่ละคน

ห้องมาตรฐานของโครงการให้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Fitted โดยมีชุดครัว ฉากกั้นส่วนห้อง ตู้เสือ้ผ้า และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เหลือเพียงเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเท่านั้นที่ต้องซื้อมาตกแต่งเพิ่มตามรสนิยมเจ้าของห้อง 

สำหรับรายละเอียดอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ ในห้องจะมีดังนี้ครับ
- ชุดครัว ฮู้ดดูดควัน ตู้ลอย สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ประตู Digital Door lock ใช้แบรนด์ Hafele 
- สวิทซ์ และเต้ารับ ใช้แบรนด์ Siemens 
- อ่างล้างหน้าสำเร็จรูป ใช้แบรนด์ Lavenz 
โดยที่สำนักงานของทางโครงการตกแต่งห้องตัวอย่างเอาไว้ 2 แบบได้แก่  ห้องนอนขนาด 29 ตารางเมตร และ ห้องนอน ขนาด 33 ตารางเมตร 

ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29 ตารางเมตร ลักษณะของห้องจะเป็นห้องแบบหน้ากว้าง ออกแบบให้พื้นที่ส่วนห้องนอน และห้องนั่งเล่นเป็น Multifunction เปิดโล่งถึงกัน ทำให้เมื่อเราเข้าไปในห้องแล้ว จะรู้สึกได้ถึงพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ รู้สึกกว้างขวาง โปร่งโล่ง

ลักษณะของห้องออกแบบให้ห้องนั่งเล่น และห้องนอนอยู่ชิดกับผนังด้านนอกอาคาร มีฟังก์ชั่นประตูบานเลื่อนกั้นส่วนระหว่างห้องนั่งเล่น และพื้นที่ครัวหน้าประตูทางเข้า ห้องน้ำเข้าใช้งานทางห้องนอนโดยใช้ประตูบานเลื่อนเปิดเปิดไม่เสียพื้นที่ไปกับการสวิงบานประตู

พื้นที่ส่วนของห้องนอน และห้องนั่งเล่นจะเปิดโล่งไร้ผนังกั้น ทำให้พื้นที่นี้สามารถปรับใช้ได้หลากหลาย และมีความโปร่งดูน่าพักอาศัยมากยิ่งขึ้น

ส่วนห้องนอน และห้องนั่งเล่นนี้จะมีประตูบานเลื่อนกระจกลักษณะเดียวกับในห้องตัวอย่างทำหน้าที่ปิดกั้นส่วนบริการได้แก่ห้องครัว และห้องน้ำ 

ประตูบานเลื่อนนี้นอกจากใช้กั้นส่วนพื้นที่ของห้องแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นประตูปิดตู้เสื้อผ้าได้

ตู้เสื้อผ้าที่โครงการให้มามีขนาดใหญ่พอสมควรครับ แบ่งส่วนสำหรับแขวนเสื้อผ้า แขวนกางเกง และเก็บสิ่งของต่าง ๆ 

ภายในห้องน้ำจะมีโถสุขภัณฑ์วางหลบด้านข้างประตู  อ่างล้างหน้าแบบเคาน์เตอร์มีตู้ด้านล่าง และพื้นที่อาบน้ำ จะมีฉากกั้นเป็นบานเลื่อนเพื่อกั้นส่วนเปียก - แห้ง ภายในจะมีช่องสำหรับวางของ

พื้นที่ส่วนหน้าประตูทางเข้าห้องจะเป็นชุดครัวที่ทางโครงการให้ตามแบบห้องตัวอย่าง มีตู้ลอยติดผนัง  อีกฝั่งจะเป็นพื้นที่สำหรับวางสิ่งของ

ระเบียงห้องขนาดกว้างขวางพอสมควรครับ วางเครื่องซักผ้าได้สบาย ๆ เหลือพื้นที่ไว้ตากสิ่งของ หรือจะหาเก้าอี้สักตัวมาวางไว้นั่งเล่นก็ได้ 

มาดูที่ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 33 ตารางเมตรอีกห้องหนึ่ง ภายในห้องจัดส่วนครัวแพนทรีไว้ใกล้กับประตูทางเข้าห้อง ห้องน้ำจะสามารถเปิดเข้าใช้งานได้สองฝั่งคือจากพื้นที่ครัว และห้องนอน พื้นที่ห้องนั่งเล่น และห้องนอนจะอยู่ติดด้านนอกอาคารเพื่อเป็นส่วนรับวิวภายนอก 

การออกแบบห้องลักษณะนี้เพิ่มความสะดวกเวลากลับเข้าห้องแล้วหิ้วข้าวของมาก็สามารถวางพักที่ครัวแล้วเข้าห้องน้ำล้างเท้าก่อนตามสไตล์คนไทย ห้องนั่งเล่น และห้องนอนจะเปิดโล่งต่อเนื่องถึงกันไม่มีผนังทึบกั้นส่วนทำให้พื้นที่พักผ่อนสองส่วนนี้ดูโปร่งโล่งน่าพักผ่อนมากขึ้น 

เมื่อเปิดประตูเข้ามา พื้นที่ส่วนแรกจะเป็นครัว ชุดครัวทีได้จริงจะเหมือนกับในห้องตัวอย่าง ยกเว้นของตกแต่งครับ

ใต้เคาน์เตอร์ชุดครัวจะมีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้า โดยชุดครัวจริงจะมีฝาปิดสำหรับซ่อนเครื่องซักผ้าให้

สำหรับห้องนี้ทางโครงการโชว์ไอเดียการใช้พื้นที่โดยวางโต๊ะทานอาหารไว้ชิดในพื้นที่เดียวกับชุดครัว เพื่อให้สามารถใช้งานทั้งสองส่วนได้สะดวก และประหยัดพื้นที่

สำหรับพื้นที่ส่วนแรกจะมีตู้สำหรับเก็บรองเท้าให้ที่ด้านข้างประตู ส่วนประตูห้องจะให้เป็น Digital door lock

ถัดจากพื้นที่ครัว และสวนรับประทานอาหารจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น สามารถวางโซฟาสำหรับ 2 ที่นั่งได้ 

ระเบียงห้องจะอยู่ฝั่งเดียวกับพื้นที่นั่งเล่น สามารถใช้เป็นพื้นที่ซักล้าง ตากเสื้อผ้า หรือเป็นมุมสำหรับนั่งเล่นชมวิวก็ได้ เพราะห้อง Type นี้จะหันเข้าส่วนกลางในโครงการ

มาดูในห้องนอนกันต่อ ห้องนอนนี้สามารถวางเตียงนอนขนาดใหญ่ 5-6 ฟุตได้สบาย ๆ ข้างเตียงเหลือพื้นที่วางโต๊ะเขียนหนังสือ หรือจะปรับเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้เช่นกัน

ห้องนี้จะมีความพิเศษตรงที่ได้ตู้เสื้อผ้าถึง 2 ใบ โดยวางที่ผนังทั้งสองฝั่งด้านหน้าห้องน้ำ โดยในห้องจริงตู้เสือ้ผ้าที่ได้จะเป็นบานทึบปิดผิวเมลามีนลายไม้ครับ 

สุดท้ายมาดูที่ส่วนของห้องน้ำกัน ห้องน้ำจะสามารถเข้าใช้ได้จาก 2 ทางคือบริเวณห้องนอน และจากห้องครัว ในห้องน้ำจะให้สุขภัณฑ์ และวัสดุตกแต่งแบบในห้องตัวอย่างครับ 

ราคา

โครงการ MAESTRO 19 Ratchada19 – Vipha จะเปิดขายช่วงพรีเซล์ 25-26 มิ.ย.นี้ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 2.8 ล้านบาท โดยห้องที่ได้จะเป็นลักษณะ Fully Fitted มีชุดครัว ฮู้ดดูดควัน ตู้เก็บของ ตู้เสื้อผ้า เครื่องปรับอากาศ สุขภัณฑ์ให้

สำหรับผู้ที่สนใจก็สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์รับส่วนลด 10,000 บาท วางเงินจอง 20,000 บาท ทำสัญญา 50,000 บาท 

สรุป

โครงการ MAESTRO 19 Ratchada19 – Vipha เป็นอีกโครงการที่น่าสนใจมากครับ เรื่องแรกคือ ที่ตั้งที่เข้าโครงการ สามารถเข้าได้หลายทาง เดินทางสะดวก ทำเลโดยรอบมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ใกล้ถนนเส้นสำคัญทั้งรัชดาภิเษก วิภาวดี และลาดพร้าว ใกล้ Interchange รัชดา - ลาดพร้าว ของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีเหลือง ซึ่งห้องชุดในทำเลลักษณะนี้ราคาจะเพิ่มเร็วมาก เพราะมีความต้องการสูง

เรื่องที่สองคืองานออกแบบโครงการที่มีจุดเด่นต่างจากคู่แข่งร่วมทำเล อีกทั้งชื่อชั้นของผู้ประกอบการยังเป็นแบรนด์ใหญ่พัฒนาโครงการมาแล้วมากมาย

สภาพแวดล้อมในโครงการก็สำคัญเช่นกัน สภาพแวดล้อมที่ออกแบบมาดี สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่นอกจากครบถ้วนแล้วยังออกแบบมาสวยงามขนาดนี้ ซึ่งเรียกว่ามากกว่าคู่แข่งในทำเลนี้พอสมควรก็เป็นอีกแรงดึงดูดสำหรับโครงการ MAESTRO 19 Ratchada19 – Vipha

แบบห้องทำออกมาได้เป็นสัดส่วน เช่น 1 ห้องนอนมีให้เลือกหลาย Layout  ห้องแบบ 2 ห้องนอนหน้ากว้าง 12 เมตร ก็ถือเป็นลูกเล่นจุดขายที่โครงการอื่น ๆ ไม่มี รวมถึงฟังก์ชั่นในห้องที่ค่อนข้างลงตัวพอสมควร วัสดุต่างๆ  ที่ให้มากก็อยู่ในเกรดที่ดี
ราคาเริ่มต้นที่ 2.8 ล้านบาท ถือว่าไม่แพงแล้วครับ สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ดัง บนทำเลที่มีความสะดวกสบายรอบด้านแบบนี้

สุดท้ายถ้ากำลังมองหาคอนโดฯ โลว์ไรส์ในทำเลนี้เน้นแบรนด์ดัง คอนเซฟท์แตกต่าง ส่วนกลางจัดเต็ม ฟังก์ชั่นห้องลงตัว อยากเลือกหลาย ๆ เลย์เอาท์ เพิ่ม Maestro 19 รัชดา 19 - วิภา เป็นอีกตัวเลือกได้เลยครับ  

เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดขายโครงการใหม่ล่าสุด MAESTRO 19 Ratchada19 – Vipha คอนโด Low Rise ในซอยรัชดาภิเษก 19

ล่าสุด บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)  มีแผนจะเปิดขายโครงการ MAESTRO 19 Ratchada19 – Vipha ภายใต้ concept “Live the Life you desire “ บนที่ดินแปลงใหญ่กว่า 5 ไร่ ในซอยรัชดาภิเษก 19 สำหรับทำเลที่ตั้งโครงการ อยู่ห่างจาก สถานีรถไฟฟ้า MRT รัชดา 650 เมตร

เปิดให้ชมห้องตัวอย่างวันที่ 8 มิ.ย. และพรีเซลล์ 24-25 มิ.ย.นี้ที่สำนักงานขาย ราคาเริ่มต้น 2.8 ล้านบาท* ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ www.mde.co.th รับส่วนลด 10,000 บาทสำหรับการซื้อห้องของโครงการ สอบถามเพิ่มเติมโทร 02 116 111

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Tel : 02-116-1111
Website : https://goo.gl/GNGx0V