รีวิวคอนโด โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง (Modiz Rhyme Ramkhamhaeng) ไลฟ์สไตล์คอนโดแต่งครบ ใจกลาง MRT สถานีรามคำแหง

Project Highlight : โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง

• ใจกลาง MRT สถานีรามคำแหง
ที่ตั้งโครงการอยู่ใจกลางของทำเลรามคำแหงที่มีความเจริญรอบด้านทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก อาหารการกินอุดมสมบูรณ์

• เดินทางง่าย เชื่อมต่อหลายเส้นทาง
การเดินทางเข้าเมืองสะดวกสบายทั้งด้วยรถไฟฟ้า MRT สายสีส้มสถานีรามคำแหงเข้าเมืองโซนพระราม 9-ศูนย์วัฒนธรรม และยังสามารถใช้เส้นทางลัดเพื่อไปยังทางด่วนเอกมัยรามอินทราและทางด่วนพระราม 9 ได้

• High Rise สูง 30 ชั้น
โครงการเป็นคอนโดมิเนียม High-rise แห่งเดียวช่วงตอนกลางของรามคำแหง และมีความสูงถึง 30 ชั้น ทำให้ได้วิวที่โปร่งโล่ง หลีกหนีจากความวุ่นว่ายภายนอก

• ส่วนกลางใหญ่สไตล์ Modern Luxury
สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางจัดเตรียมไว้บริเวณ Top ของอาคารถึง 3 ชั้น การออกแบบเน้นสไตล์ Modern ที่หรูหราเกินระดับราคา

• ห้องกว้างแต่งครบ
ยูนิตแปลนออกแบบได้กว้างขวาง ส่วนใช้สอยต่างๆ มีความลงตัว

Facilities

โครงการโมดิซ ไรห์ม รามคำแหง เป็นคอนโดมิเนียมสูง 30 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มียูนิตพักอาศัยทั้งหมด 546 ยูนิต และร้านค้าอีก 9 ยูนิต พัฒนาบนที่ดินขนาด 2 ไร่ 3 งาน โดยโครงการนี้นับเป็นคอนโดมิเนียม High-rise โครงการแรกของทำเลรามคำแหงตอนกลางช่วงหน้ารามฯ

การออกแบบตัวโครงการใช้คอนเซ็ปต์ “SYNCHRONIZE YOUR LIVING เชื่อมต่อทุกจังหวะชีวิต…ที่เป็นคุณ” ที่ออกแบบให้โครงการเป็นจุดเชื่อมต่อในด้านต่างๆ ของชีวิตประจำวัน ทั้งเรื่องการเดินทาง ไลฟ์สไตล์ Work-Live-Play ด้านสุขภาพ การลงทุน และความสะดวกสบายต่างๆ ด้วยระบบ Smart Living

ภายในโครงการจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เตรียมเอาไว้รอบด้าน เริ่มตั้งแต่ชั้นล่างของโครงการที่ออกแบบพื้นที่ให้เป็น Lifestyle Retails 2 ชั้น ที่ประกอบด้วยร้านค้าทั้งหมด 9 ร้าน และมีส่วนของ Fitness Center จากผู้ประกอบการภายนอกมาเปิดให้บริการ ทำให้โครงการมีความอุดมสมบูรณ์ในด้านของไลฟ์สไตล์การกินอยู่จับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น

พื้นที่อีกส่วนของชั้น G ก็จะเป็นส่วนพักอาศัยสำหรับลูกบ้านโดยจะมีประตูกั้นส่วนที่เปิดด้วยระบบ Keycard โดยส่วนใช้สอยในพื้นที่นี้จะมี The Rhyme Lobby, Laundry Lounge, Harmonic Seating Space, Sunken Seat

ล็อบบี้ของโครงการออกแบบให้ดูโปร่งโล่งสามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่เปิดโล่งด้านนอก  โดยมีประตูที่สามารถเปิดไปยัง Harmonic Seating Space ที่เป็นพื้นที่ Semi Outdoor ได้ 

ล็อบบี้ยังเชื่อมต่อที่นั่งพักผ่อนแบบ Sunken Seat ให้เลือกพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัว

ตัวอาคารออกแบบให้ตั้งแต่ชั้นที่ 2 ไปจนถึงชั้นที่ 7 เป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด โดยสามารถจอดรถได้ประมาณ 51.35% ของยูนิตพักอาศัยทั้งหมด โดยชั้นพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 8 ซึ่งทั้งชั้นจะเป็นยูนิตพิเศษแบบ Vertical Suite Unit พร้อมกับพื้นที่ระเบียงพิเศษ และที่ชั้นนี้จะมีพื้นที่พักผ่อนเป็น Shade Garden และ Radiant Seating สำหรับให้ลูกบ้านสามารถอนุบาลต้นไม้หรือปลูกผักออแกนิคได้ 

สำหรับชั้นที่ 9-27 จะเป็นยูนิตพักอาศัยทั้งหมดโดยแต่ละชั้นจะมีทั้งหมด 26 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งจำนวนยูนิตต่อชั้นของโครงการนี้ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของคอนโดมิเนียมเซกเมนต์นี้ครับ ส่วนลิฟท์โดยสารทั้งหมด 3 ตัว และลิฟท์ Service อีก 1 ตัว

ในส่วนชั้นที่ 28 ยูนิตทั้งหมดจะเป็นแบบ Vertical Suite ทั้งหมด ซึ่งจะมีจุดเด่นเรื่องยูนิตเพดานสูงเป็นพิเศษพร้อมด้วยห้องนอนแยกส่วนที่ออกแบบให้เป็น Space อยู่ด้านบนของห้องที่ได้ความโปร่งโล่งมากเป็นพิเศษ มีจำนวนยูนิตของชั้นนี้ 26 ยูนิตเท่ากันครับ

สำหรับชั้นที่ 29, 30 และ Rooftop ของอาคารจะออกแบบเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางทั้งหมด โดยจะจัดส่วนกลางไว้ที่ชั้นต่างๆ ดังนี้

ชั้นที่ 29 Infinite Horizon Pool, Sky Hot Pool, Symphony Jacuzzi, Cabana, Kid’s Pool, Haven Lounge, Long Table Dining Room, Savory Cooking Lab, Recreation Space, Kiz Club

Long Table Dining Room พื้นที่รับประทานอาหารที่ให้กระจกสูงเต็มบานดูโปร่งโล่ง และยังออกแบบฝ้าเพดานให้โค้งสร้างความหรูหรา

Savory Cooking Lab ที่ออกแบบให้อยู่ต่อเนื่องกับ Long Table Dinning Room เป็นพื้นที่ Kitchen พร้อมอุปกรณ์เครื่องครัว และมี Smart Mirror ที่สามารถเปิด Youtube ดูสูตรอาหารไปด้วย 

ชั้นที่ 30 จะมีส่วนกลางต่างๆ ดังนี้ The Cloud Gym, Cinematic Room, Co-Working Common, Health Station

Cinematic Room เป็นห้องชมภาพยนตร์ออกแบบที่นั่งแบบ Loveseat ให้ไล่ความสูงขึ้นไปเหมือนในโรงภาพยนตร์

Co-Working Common ออกแบบผนังกระจกให้เต็มความสูงของฝ้าเพดาน พร้อมมุมนั่งพักผ่อนทำงานอีกหลายมุม

Co-Working Common อีกมุมโชว์ Space ที่โปร่งโล่งเป็นพิเศษจากฝ้าเพดานแบบ Double Volume และหน้าต่างผนังกระจกที่เต็มความสูงของฝ้าเพดาน

ชั้น Rooftop มีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางได้แก่ Panoramic Bar, Sky Pavilion, Moonlight Party Balcony, Cloud Deck, Sky Garden Deck

พื้นที่ของชั้น Rooftop จะออกแบบพื้นที่เป็นเนินเขาจำลอง สามารถเดินไล่ระดับความสูงขึ้นไปจากชั้น 30 ไปจนถึงชั้น Rooftop โดยจะมี Panoramic Bar เป็นพื้นที่นั่งชมวิวเมืองได้แบบ 360 องศา

Room Type

สำหรับ Unit Type ของโครงการโมดิซ ไรห์ม รามคำแหง จะมีทั้งหมด 5 แบบโดยมีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 23.38 ตารางเมตรไปจนถึงขนาด 46.99 ตารางเมตร ซึ่งทางโครงการจะขายห้องแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบทั้งห้องรวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าได้แก่ เครื่องปรับอากาศ เครื่องกรองน้ำ เตาแม่เหล็กไฟฟ้า และฮู้ดดูดควัน

นอกจากนี้ทุกยูนิตจะมีระบบ Bluetooth Sound System, ปลั๊กไฟพร้อม USB Port ติดตั้งให้ที่ผนังข้างเตียงนอนและข้างโซฟา ติดตั้งให้ที่ผนังข้างเตียงนอนและข้างโซฟา

ระบบ Bluetooth Sound System สามารถเชื่อมต่อกับ Smart Phone หรือ Music Player เพื่อเล่นเพลงผ่าน Bluetooth ได้

ปลั๊กไฟพร้อม Port Usb ที่ติดตัั้งมาให้สำหรับเสียบชาร์จสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตได้

ลำโพงของ Bluetooth Sound System ที่ติดไว้บนฝ้าเพดานบริเวณห้องนั่งเล่น

ใต้ซิงค์ล้างจานจะติดตั้งเครื่องกรองน้ำแบบ 2 ขั้นตอน โดยจะต่อก๊อกน้ำดื่มแยกจากก๊อกน้ำใช้เพื่อให้สามารถใช้กรองน้ำดื่มได้ทันที

บนซิงค์ล้างจานจะติดก๊อกน้ำดื่ม-น้ำใช้แยกจากกัน

ประตูห้องของทุกยูนิตจะใช้กลอนดิจิตอล Door lock ซึ่งสามารถใช้งานได้ถึง 5 ระบบได้แก่ Fingerscan Pin Code คีย์การ์ด กุญแจ และ Application จากสมาร์ทโฟน

สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะรีวิวมี 2 แบบได้แก่ แบบ 1 ห้องนอนขนาด 23.38 ตารางเมตร และแบบ 1 ห้องนอน Plus ขนาด 34.82 ตารางเมตร

Product : 1

ลักษณะแปลนของแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 23.38 ตารางเมตร จะออกแบบให้ส่วนนั่งเล่นและห้องนอน เปิดโล่งเชื่อมต่อกันเพื่อให้เกิดพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น โดยภายในห้องนอนโครงการจะทำช่องไว้สำหรับตู้เสื้อผ้า เพื่อให้ตู้เสื้อผ้าไม่กีดขวางทางเดินเข้าออกภายในห้อง

อีกฝั่งของห้องจะจัดห้องน้ำห้องครัว และระเบียงซักล้างไว้ฝั่งเดียวกันเพื่อแยกส่วนเซอร์วิสให้ออกจากส่วนพักอาศัย โดยมีประตูบานเลื่อนกั้นส่วนเพื่อป้องกันไม่ให้ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศไหลออกไปยังส่วนที่ไม่ได้ใช้งาน และยังช่วยให้สามารถใช้งานห้องครัวในการปรุงอาหารได้โดยไม่มีกลิ่นเข้ามารบกวน

ส่วนนั่งเล่นออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยพอเหมาะสำหรับการอยู่อาศัย 1-2 คน โดยมุมนี้โครงการจะให้โซฟาขนาด 2 ที่นั่งมาพร้อมกับห้องมาตรฐานด้วย

สำหรับฝั่งตรงข้ามโซฟาจะเว้นช่องสำหรับทางเดิน และให้ตู้โทรทัศน์แบบแขวนผนังมาพร้อมกับห้อง โดยเราสามารถเลือกวางโทรทัศน์ไว้บนตู้หรือติดขาแขวนโทรทัศน์ไว้กับผนังเหมือนแบบในห้องตัวอย่างก็ได้

ระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นใช้การเว้นช่องว่าง เพื่อให้แต่ละส่วนใช้สอยดูเป็นสัดส่วนแต่ยังคงมีความโปร่งโล่งไม่รู้สึกคับแคบ

ภายในห้องนอนโครงการจะให้เตียงนอนขนาด 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าบานเปิดแบบฝังเข้ากับผนังเพื่อให้ตู้ไม่ยื่นล้ำออกมาขวางทางเดินเข้าด้านในสุดของห้อง ส่วนตัวหน้าบานของตู้จะเป็นกระจกใสแบบในห้องตัวอย่าง

ถัดจากห้องนอนจะมีทางเดินไปยังห้องครัวซึ่งจะมีประตูบานเลื่อนกระจกสามารถปิด เพื่อป้องกันกลิ่นควันจากห้องครัวไปรบกวนการพักผ่อนของห้องนั่งเล่นและห้องนอน

ทางซ้ายมือของส่วนนี้จะเป็นห้องน้ำที่วางตำแหน่งประตูทางเข้าไว้ให้สามารถใช้งานได้สะดวก ทั้งจากห้องนอนและห้องนั่งเล่น 

ภายในห้องน้ำจัดสุขภัณฑ์ทั้งหมดไว้ที่ผนังฝั่งเดียวกันเพื่อให้เกิดทางเดินเข้าออกได้สะดวก โดยภายในห้องนี้จะมีอ่างล้างมือ ตู้เก็บของใต้อ่าง กระจกเงาติดผนัง โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำพร้อมฉากกั้นเป็นกระจกนิรภัย โดยในพื้นที่อาบน้ำจะติดตั้งฝักบัวอาบน้ำพร้อมก้านปรับระดับความสูงและเดินระบบน้ำอุ่นไว้ให้

ชุดครัวที่โครงการให้จะได้หน้าตาเหมือนในห้องตัวอย่างครับ โดยตู้แขวนผนังจะปิดผิวไฮกรอส มีช่องวางของให้แบบในห้องตัวอย่าง ตู้ตั้งพื้นจะมีช่องวางไมโครเวฟ ตู้ครัวตั้งพื้น ซิงค์ล้างจาน Hob+Hood รวมถึงเครื่องกรองน้ำ และท็อปเป็นหินสังเคราะห์ ส่วน Splash Guard ในห้องมาตรฐานจะได้เป็นกระเบื้องสีขาวนะครับ 

อีกฝั่งจะได้ตู้ครัวตั้งพื้นขนาดเล็กสำหรับวางเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เช่นเครื่องชงกาแฟ เครื่องปิ้งขนมปังได้ และถัดไปจะเป็นระเบียงห้องซึ่งมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าและแขวนคอนเดนซิ่งยูนิตเครื่องปรับอากาศ

Product : 2

มาต่อที่ยูนิตแบบ 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.82 ตารางเมตรกันครับ ห้องนี้จะมีความพิเศษตรงที่ได้พื้นที่อเนกประสงค์เพิ่มเข้ามาสามารถปรับใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น

ลักษณะยูนิตแปลนของห้องนี้จะเป็นยูนิตหน้ากว้างซึ่งข้อดีคือทำให้บรรยากาศภายในห้องนี้ดูโปร่งมากยิ่งขึ้น โดยจัดให้ส่วนครัวเปิดอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องและแบ่งพื้นที่ไว้ 2 ฝั่ง ด้านขวามือของแปลนจะเป็นห้องนั่งเล่น ส่วนซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ

ส่วนด้านในสุดของห้องจะเป็นห้องนอนที่ออกแบบพื้นที่ของห้องนี้เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีความกว้างและยาวกำลังดี ในห้องสามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ไว้ใช้งานได้มากขึ้น ส่วนห้องอเนกประสงค์จะวางถัดจากห้องนอนโดยสามารถเปิดประตูไปสู่ระเบียงห้องได้ ซึ่งห้องนี้จะแตกต่างจากยูนิตแบบ 1 ห้องนอน Plus ทั่วไปตรงที่ออกแบบพื้นที่วางขนานไปกับความกว้างของห้องเพื่อให้บรรยากาศของห้องดูกว้างขวางมากขึ้น

ลักษณะของยูนิต 1 ห้องนอน Plus เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปจะเจอกับส่วนครัวเปิดที่แบ่งส่วนใช้งานไว้ 2 ฝั่งโดยแยกชุดครัวกับที่วางตู้เย็นไว้คนละฝั่ง และพื้นที่ส่วนถัดไปในภาพจะเป็นห้องนอนและห้องอเนกประสงค์ 

ฝั่งซ้ายมือของส่วนครัวเปิดจะตกแต่งเป็นตู้เก็บของบนตู้เย็น และมีโต๊ะทานข้าวแบบพับได้อยู่ด้านข้างเพื่อให้ใช้งานเชื่อมต่อกับครัวได้สะดวก สามารถนั่งทานข้าวดูหนังไปด้วยพร้อมๆ กัน เมื่อใช้งานเสร็จแล้วก็พับเก็บก็จะไม่เสียพื้นที่ใช้สอยในห้องไป

ส่วนครัวเปิดอีกฝั่งจะเป็นชุดครัวซึ่งในห้องมาตรฐานจะได้ชุดครัวแบบเดียวกับในห้องตัวอย่างมีตู้เก็บของแขวนบนผนัง ชั้นวางของ Splash Gaurd เป็นกระเบื้องสีขาว ตู้ครัวตั้งพื้น ซิงค์ล้างจาน เตาแม่เหล็กไฟฟ้า เครื่องกรองน้ำ ฮู้ดดูดควันแบบดูดออกด้านนอกอาคาร ท็อปของชุดครัวเป็นหินสังเคราะห์

ถัดจากห้องครัวจะเป็นห้องน้ำ โดยภายในห้องน้ำจัดอ่างล้างมือ ตู้เก็บของใต้อ่าง และกระจกเงาไว้ตรงกับประตูทางเข้า ถัดมาข้างๆ กันเป็นโถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำจะอยู่ด้านในสุด 

มาดูห้องนั่งเล่นกันบ้าง พื้นที่ของส่วนนี้เราจะได้โซฟา 2 ที่นั่ง และตู้โทรทัศน์มาพร้อมกับห้องมาตรฐานสำหรับยูนิตที่เป็นห้องมุมก็จะมีหน้าต่างทรงสูง โดยแบ่งเป็นหน้าต่างบานช่องแสงและหน้าต่างบานกระทุ้ง

ตู้โทรทัศน์ที่โครงการให้มาพร้อมกับห้องจะเป็นตู้แบบแขวนกับฝาผนังเหมือนในห้องตัวอย่างซึ่งสามารถใช้วางของตกแต่ง เก็บของใช้ต่างๆ ไว้ในตู้ได้เป็นระเบียบ

ลักษณะของพื้นที่อเนกประสงค์ อย่างที่ได้บอกไปว่าออกแบบพื้นที่ส่วนนี้ให้มีความกว้างทำให้ภายในห้องจะดูโปร่งโล่งมากกว่า และรับแสงธรรมชาติผ่านหน้าต่างได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะแตกต่างจาก Unit 1 ห้องนอน Plus ทั่วไป

ถัดจากห้องอเนกประสงค์จะเป็นระเบียงห้องที่เป็นจุดคอนเดนซิ่งยูนิตเครื่องปรับอากาศ โดยลักษณะการติดตั้งจะหันข้างขนานไปกับด้านกว้างของห้องซึ่งจุดนี้ถ้าติดกริลเบี่ยงความร้อนให้เป่าออกด้านนอกก็ไม่มีปัญหาอะไร ด้านล่างมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าได้

มาต่อที่ห้องนอนกันครับ ตำแหน่งของห้องนี้จะอยู่ใกล้กับห้องน้ำเลย เพื่อให้ออกมาใช้งานเข้าห้องน้ำได้สะดวก

ภายในห้องนี้เฟอร์นิเจอร์ที่เราจะได้มีเตียงนอนขนาด 5 ฟุต (ไม่รวมฟูกนะครับ) ด้านข้างมีโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าที่ให้มาพร้อมห้องมาตรฐาน โดยตำแหน่งการวางเตียงนอนจะดันเข้าไปชิดกับหน้าต่างห้องเล็กน้อย

อีกฝั่งของห้องเป็นตู้เสื้อผ้าทรงสูงถึงฝ้าเพดานห้อง โดยตู้ที่เราจะได้หน้าบานจะเป็นกระจกใสแบบในห้องตัวอย่าง

สำหรับยูนิต Type อื่นๆ ของโครงการก็จะมีแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29.92 ตารางเมตร ซึ่งลักษณะของแปลนห้องนี้จะเป็น 1 ห้องนอนแยกส่วนมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นส่วนระหว่าง Living Area และห้องนอน ทำให้ภายในห้องมี Space ที่กว้างขวางมากทีเดียว รวมถึงยังจัดให้ห้องน้ำอยู่ภายในส่วนห้องนอนเพิ่มความสะดวกในการลุกเข้าห้องน้ำช่วงกลางคืน ส่วนครัวของห้องนี้เป็นครัวเปิดที่จัดส่วนรับประทานอาหารรวมไว้ด้วยกัน

อีกยูนิตจะเป็นแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25.83 ตารางเมตร แปลนห้องเป็นแบบห้องนอนแยก ถือเป็นแปลนห้องยอดนิยมอีกหนึ่งแบบ เพราะส่วนใช้สอยอย่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนจะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นสามารถใช้งาน 2 ส่วนนี้พร้อมๆ กันโดยไม่รบกวนกัน ตำแหน่งของห้องน้ำจะใช้งานสะดวกทั้งจากห้องนั่งเล่นและห้องนอน ส่วนครัวจะเป็นครัวปิดมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นส่วนให้ 

สำหรับแบบสุดท้ายจะเป็นห้องพิเศษของโครงการคือแบบ 1 ห้องนอน Vertical Suite ขนาด 25.65 ตารางเมตร โดยห้องนี้มีจุดเด่นที่เพดานห้องสูงถึง 4.8 เมตร ทำให้ส่วน Living Area ได้เพดานที่สูงโปร่งรับวิวด้านนอกได้สวยงามทีเดียว รวมถึงห้องนอนที่เป็นชั้นลอยอยู่ด้านบนยังมีเพดานที่สูงใช้งานสะดวกไม่อึดอัด ซึ่งยูนิต Type นี้ถือเป็นของ Rare Item โดยเฉพาะกับทำเลรามคำแหงช่วงหน้ารามฯ

Location : โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง (Modiz Rhyme Ramkhamhaeng)

โครงการโมดิซ ไรห์ม รามคำแหง ตั้งอยู่บนถนนรามคำแหงอยู่ระหว่างซอย รามคำแหง 43/1 และรามคำแหง 47 ที่ตั้งโครงการอยู่ตรงข้ามม.ราม ใจกลางสถานี MRT รามคำแหง ทำเลโครงการถือว่ามีความสะดวกสบายหลายอย่างทั้งเรื่องอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ การเดินทางที่มีตัวเลือกทั้งรถไฟฟ้า รถยนต์ส่วนตัว

จากแผนที่จะเห็นว่าที่ตั้งโครงการโมดิช ไรห์ม รามคำแหงนั้นอยู่ในส่วนใจกลางของทำเลรามคำแหงก็ว่าได้ โดยช่วงตอนกลางของถนนรามคำแหงนั้นจะมีจุดเด่นในเรื่องใกล้สถานศึกษาขนาดใหญ่อย่าง มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) รวมถึงไลฟ์สไตล์การกินอยู่ที่อุดมสมบูรณ์มากเพราะเป็นย่านที่มีความเจริญมายาวนาน มีผู้คนอาศัยอยู่ที่นี่จำนวนมาก

คอนโดทำเลดีถัดจากใจกลางเมือง ต้องรามคำแหง

ถ้าพูดถึงทำเลคอนโดมิเนียมที่อยู่ถัดจาก CBD และเชื่อมต่อไปย่านสำคัญของกรุงเทพได้หลากหลายโซนทั้งพระราม 9 อโศก สุขุมวิท ทองหล่อ เอกมัยได้อย่างสะดวกสบายทั้งรถยนต์ และรถไฟฟ้า รามคำแหงคือทำเลใหม่ที่ได้รับความสนใจจากทั้งนักลงทุน และผู้ที่หาคอนโดเพื่ออยู่อาศัยเองเป็นลำดับต้น ๆ อย่างแน่นอน

เพราะทำเลนี้มีจุดเด่นเรื่องการเดินทางที่มีรถไฟฟ้าสายสีส้มผ่านซึ่งรถไฟฟ้าสายสีส้มนี้จะมีเส้นทางจากมีนบุรีไปศูนย์วัฒนธรรม เชื่อมต่อเข้ากับ MRT สายสีน้ำเงินทำให้สามารถเดินทางเข้าเมืองไปยังโซนพระราม 9 อโศก สาทร สีลมได้อย่างสะดวก และยังมี 2 ทางด่วนได้แก่ ทางด่วนศรีรัช และทางด่วนฉลองรัช ทำให้สามารถเข้าออกเมืองโซนพระราม 9 สุขุมวิท เพลินจิต พระราม 4 ได้ด้วยเช่นกัน รวมถึงยังมีตัวเลือกการเดินทางเช่น เรือคลองแสนแสบที่สามารถเข้าเมืองโซนเพชรบุรี อโศก ประตูน้ำได้อีกเส้นทาง

ถือว่าเป็นทำเลที่มีความสะดวกสบายพร้อม มีการเชื่อมต่อไปยังโซนสำคัญต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายแบบนี้กลายเป็นทำเลคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ที่ยังมีราคาไม่สูงมาก โดยมียูนิตขนาดเริ่มต้นประมาณ 1.89 ล้านบาท* ถือว่าราคาดีเป็นระดับเหมาะกับกลุ่มคนทำงานเริ่มต้น ผู้ที่มองหาบ้านหลังที่ 2 ใกล้ตัวเมือง รวมถึงผู้ปกครองที่มองหาที่อยู่สำหรับบุตรหลานเรียนมหาวิทยาลัย ทำให้รามคำแหงกลายเป็นทำเลคอนโดมิเนียมคุณภาพดีใกล้ใจกลางเมืองที่ได้ผลตอบรับที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย

ถนนรามคำแหงมีเส้นทางลัดผ่านไปยังทำเลสำคัญอื่นๆ ได้หลายเส้นทางทั้ง ซ.รามคำแหง 39 (วัดเทพลีลา) ซ.รามคำแหง 43/1 ซ.รามคำแหง 53 ซ.รามคำแหง 65 (ซอยหมาดไทย) ที่สามารถลัดไปยังทาวน์อินทาวน์และเลียบทางด่วนรามอินทราได้

รอบๆ โครงการมีร้านค้า ร้านอาหารการกินเปิดอยู่มากทีเดียว ดังนั้นเรื่องกินอยู่ใกล้โครงการนับว่าสมบูรณ์มาก

สำหรับตัวเลือกการเดินทางยอดนิยมของชาวรามคำแหงนั่นคือ เรือคลองแสนแสบที่ซอยรามคำแหง 51/2 ห่างจากโครงการไปไม่ไกล

เรือคลองแสนแสบเป็นตัวเลือกการเดินทางราคาประหยัดเข้าเมืองไปยังโซนถนนเพชรบุรี ม.ศ.ว ประสารมิตร อโศก ประตูน้ำ ถนนวิทยุได้

บนถนนรามคำแหงในช่วงนี้จะมีงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มอยู่ซึ่งมีกำหนดเสร็จประมาณปี 2566 ใกล้เคียง กับโครงการโมดิช ไรห์ม รามคำแหงพอดี

ด้านแหล่งไลฟ์สไตล์และสิ่งอำนวยความสะดวกในทำเลนี้ก็นับว่ามีอยู่มากมายทีเดียวทั้งศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่างเดอะมอลล์รามคำแหงที่กำลังรีโนเวทเป็น Mixed-use แห่งใหม่ ที่จะมีส่วนของ Office Building ขึ้นมา ในส่วนของซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้โครงการก็มีฟู้ดแลนด์ หรือถ้าเดินทางต่ออีกหน่อยไปโซนใกล้เคียงอย่างทาวน์อินทาวน์ก็มีร้านอาหารดังๆ หลายร้านทีเดียว จากโครงการก็ใช้เส้นทางลัดไปไม่ไกล หรือทางฝั่งบางกะปิก็มีตลาดอมรพันธ์ เดอะมอลล์ บางกะปิ โลตัสบางกะปิเป็นอีกตัวเลือก

ห้างสรรพสินค้า

• เดอะมอลล์ รามคำแหง
• ฟู้ดแลนด์
• เดอะมอลล์ บางกะปิ
• เทสโก้ โลตัส บางกะปิ
• เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์
• เดอะไนน์ พระราม 9

สถาบันการศึกษา

• โรงเรียนบดินทรเดชา
• โรงเรียนอุดมศึกษา
• มหาวิทยาลัยรามคำแหง
• มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
• สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

สถานพยาบาล

• โรงพยาบาลรามคำแหง
• โรงพยาบาลเวชธานี
• โรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์

Price & Promotion

โครงการโมดิซ ไรห์ม รามคำแหง จะเปิดขายห้องแบบ Fully Furnished ที่ได้เฟอร์นิเจอร์มาตรฐานครบชุดทั้งห้องตามรายการที่ได้รีวิวถึง

เปิดให้ชมห้องตัวอย่างแล้ววันนี้
Modiz Rhyme Ramkhamhaeng แต่งครบ เริ่ม 1.89 ล้านบาท*
Presales 1 สิงหาคมนี้ ส่วนลดสูงสุด 500,000 บ.*

สนใจโครงการคลิกลงทะเบียน https://bit.ly/2BmXosU

Conclusion

โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง เป็นคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ที่น่าสนใจมากของทำเลรามคำแหงโดยเฉพาะช่วงหน้ารามที่ยังไม่มีคอนโดมิเนียมคุณภาพดีเปิดใหม่มายาวนาน และที่ตั้งโครงการยังตั้งอยู่ใจกลางสถานี MRT รามคำแหง สำหรับคนที่สนใจโครงการนี้เราได้สรุปประเด็นต่างๆ ได้ตามนี้ครับ

• Location ที่ตั้งโครงการถือว่าอยู่หน้า ม.รามคำแหง มีเส้นทางลัดไปยังโซนใกล้เคียงอย่างทาวน์อินทาวน์ได้ง่าย มีตัวเลือกการเดินทางที่ครบเครื่องทีเดียวทั้งรถไฟฟ้า ทางด่วน และเรือคลองแสนแสบทำให้การเดินทางเข้าเมืองนับว่าสะดวกสบายมาก สิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่ใกล้โครงการก็นับว่าครบทั้งศูนย์การค้า โรงพยาบาล สถานศึกษา ร้านค้าร้านอาหารต่างๆ ทำเลนี้ก็มีอยู่มากทีเดียว

• Facilities สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการนี้นับว่าออกแบบมาอย่างหรูหรา รวมถึงมี Lifestyle Retails เปิดอยู่ด้านหน้าโครงการด้วยถือว่าอำนวยความสะดวกได้มากทีเดียว ด้านส่วนกลางของโครงการออกแบบได้น่าสนใจโดยยกพื้นที่ส่วนกลางส่วนหนึ่งไว้เป็นแบบลอยฟ้ามีพื้นที่ 3 ชั้นเต็มๆ รวมชั้น Rooftop ที่สามารถรับวิวเมืองกรุงเทพแบบ 360 องศาได้ พวกส่วนกลางอย่าง Haven Lounge, Co-working Common, The Cloud Gym ต่างๆ จะหันรับวิวเมืองทางสุขุมวิท

• Design & Function ด้านการออกแบบยูนิตพักอาศัยถือว่าโครงการนี้ทำได้ดี โดยห้องที่เรารีวิวถึงแบบ 23.38 ตารางเมตรจัดพื้นที่ส่วน Living+Bed Room ความสูง 2.7 เมตร และยังให้กระจกที่เต็มความสูงของเพดานช่วยให้ไม่รู้สีกคับแคบ ส่วนครัวได้ครัวปิดเป็นสัดส่วนถือว่าห้องนี้เหมาะมากสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพิ่งเริมทำงานไม่นานหรือนักศึกษาที่อยู่ 1-2 คน ส่วนห้องแบบ 1 ห้องนอน Plus 34.82 ตารางเมตร ก็จะเหมาะกับคนที่ต้องการพื้นที่เป็นสัดส่วนมากขึ้นมีฟังก์ชันให้ใช้งานเยอะขึ้น แต่ส่วนนั่งเล่นจะดูไม่โปร่งโล่งเท่าแบบ 23.38 ตารางเมตรนะครับ ดังนั้นห้องนี้จะเหมาะกับคนที่ต้องการห้องที่มีฟังก์ชันให้ใช้เยอะๆ และอยากได้ห้องนั่งเล่นที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น