รีวิวคอนโด ดิ เอส สุขุมวิท 36 ใกล้ BTS ทองหล่อ เพียง 20 ม.
คอนโดฯ High Rise ระดับ Luxury กลางเมือง บนทำเลงาม ใกล้ BTS ทองหล่อ เพียง 20 ม. โดดเด่นด้วยอัตลักษณ์ที่สะท้อนรากเหง้าความเป็นไทย เข้ากับดีไซน์สมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ด้วยฝีมือการออกแบบจากบริษัทชั้นนำระดับโลก
Company
โครงการดิ เอส สุขุมวิท 36 (The Esse Sukhumvit 36) โครงการล่าสุดภายใต้แบรนด์ “THE ESSE” พัฒนาโดย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือชื่อในตลาดหุ้น คือ S โดยที่ผ่านมา โครงการที่ประสบความสำเร็จจากแบรนด์นี้ คือ โครงการ The Esse Asoke เมื่อปี 2015 และโครงการ The Esse at Singha Complex เมื่อต้นปี 2017
สำหรับโครงการดิ เอส สุขุมวิท 36 ถือเป็นมิติใหม่ของบริษัท เพราะเป็นการร่วมมือกันระหว่างสิงห์ เอสเตท กับกลุ่มทุนรายใหญ่อย่างฮ่องกง แลนด์ ซึ่งบริษัทนี้ จัดตั้งขึ้นในเบอร์มิวดา มีรายชื่ออยู่ในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน รวมไปถึงในสิงคโปร์ อีกด้วย โดยเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์หลากหลายรูปแบบในประเทศต่างๆ ในเอเชีย อาทิ จีน สิงคโปร์ เวียดนาม เป็นต้น ส่วนในไทย ก็เคยร่วมมือกับเกษรพลาซ่า เป็นต้น ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการตัดสินใจทำโครงการที่อยู่อาศัยครั้งแรกของฮ่องกง แลนด์ ในประเทศไทย นอกจากนี้ โครงการนี้ยังเป็นการรวมเอาบริษัทออกแบบชื่อดังระดับโลก ทั้งบริษัทไทยและเทศเข้ามาออกแบบโครงการอีกด้วย
ทั้งนี้ สิงห์ เอสเตท มีนโยบายดำเนินธุรกิจในแบบพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวล ลอบเมนต์ แอนด์ อินเวสต์เมนต์ โฮลดิ้ง คัมปานี (Property Development and Holding Company) เน้นการพัฒนาธุรกิจต่างๆ ที่เข้าไปลงทุนให้มีความแข็งแกร่งและเติบโตต่อเนื่อง สามารถขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการพัฒนาธุรกิจแบบบูรณาการ เน้นการสร้างซินเนอร์จี้ (Synergy) โดยแผนการลงทุนของบริษัทจะสอดคล้องกับภาพรวมตลาด ซึ่งตั้งเป้าขยายการลงทุนในธุรกิจต่างๆ มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2563 ซึ่งจะประกอบด้วย ธุรกิจที่พักอาศัย ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจคอมเมอร์เชียล และธุรกิจใหม่ๆ ที่สร้างโอกาสในอนาคต
โดยครึ่งปีหลังของปี 2560 บริษัทมีการพัฒนาโครงการใหม่ 4 โครงการ เป็นโครงการที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี ที่พัฒนาโดยสิงห์ เอสเตท 2 โครงการ คือ โครงการดิ เอส สุขุมวิท 36 (The Esse Sukhumvit 36) แห่งนี้ และสันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส (Santiburi The Residences) และโครงการที่พัฒนาโดยบริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) (NVD) 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบันยันทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ (Banyan Tree Residences Riverside Bangkok) และโครงการทาวน์โฮม เนอวานา ดีฟายน์ (Nirvana Define) กรุงเทพกรีฑา ซึ่งจะเน้นการทำตลาดแบบ Living Solution ให้กับกลุ่มไฮเอนด์ และเจาะกลุ่มตลาดระดับกลาง-บน
นอกจากนี้ ยังมีโครงการเมกะโปรเจ็กต์ Emboodhoo Lagoon ที่ประเทศมัลดีฟส์ ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้าเป็นผู้พัฒนาโครงการระดับเวิลด์คลาส มูลค่าโครงการกว่า 11,000 ล้านบาท โดยพัฒนาโครงการแบบมิกซ์ยูสในรูปแบบใหม่ เจาะตลาดอัพสเกลแฟมิลี่ (Upscale Family) ที่ได้รับความร่วมมือจากเครือฮาร์ดร็อก เข้ามาร่วมเป็น Strategic Partner รายแรก ที่จะมาร่วมพัฒนาธีมโฮเต็ลแห่งแรกในโครงการ
Location
ภาพจำลองโครงการ
แผนที่โครงการ
โครงการดิ เอส สุขุมวิท 36 (The Esse Sukhumvit 36) ถือว่าตั้งอยู่บนที่ดินแปลงงามบน ถ.สุขุมวิท เพราะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ (ทางออก 2) เพียง 20 ม. เรียกว่าเดินลงบันไดเลื่อนก็เดินเข้าโครงการได้เลย นอกจากนี้ ก็อยู่ไม่ไกลนักจาก MRT สถานีสุขุมวิท ประมาณ 2.4 กม. ซึ่งในย่านนี้เป็นที่เข้าใจกันว่า เกินครึ่งใช้การสัญจรด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลัก เพราะเส้นทางการเดินรถยนต์ถือว่าติดขัดพอตัว โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าและเย็น
บรรยากาศบน ถ.สุขุมวิท หน้าโครงการติดกับ BTS ทองหล่อ
สุขุมวิท 36 ลัดเข้า ซ.38 ไปพระราม 4 ได้
ฝั่งตะวันตกของโครงการมีคอนโดฯ Noble Remix ตั้งอยู่ แต่ไม่เป็นปัญหา เพราะโครงการเราเว้นพื้นว่างเป็นพื้นที่สีเขียวไว้แล้ว
ใน ซ.สุขุมวิท 38 (ซ.AP) ทางลัดไปพระราม 4
ภาพมุมสูงจาก BTS ทองหล่อ มองไปยังบริเวณแยกทองหล่อ
แต่กระนั้น บริเวณที่ตั้งโครงการก็ยังถือว่าหายใจหายคอกันได้อยู่ เพราะมีเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังถนนสายอื่นได้หลายเส้นทาง คือ ถ.สุขุมวิท เป็นเส้นทางสายหลักที่มีซอยเลขคู่ 36 38 และ 40 ที่เชื่อมถึงกันได้หมด โดย ซ.สุขุมวิท 36 เข้า ซ.สุขุมวิท 38 (ซ.AP) ก็สามารถลัดไปออก ถ.พระราม 4 เพื่อไปยังกล้วยน้ำไท ไปคลองเตย ได้ ส่วน ซ.40 เป็นทางวันเวย์ที่วิ่งจากสุขุมวิท ไปพระราม 4 เท่านั้น ซึ่งหากจะวิ่งกลับมาต้องเข้า ซ.42 แทน
นอกจากนี้ ถ.สุขุมวิท ก็ยังเชื่อมต่อกับ ถ.เพชรบุรี อโศก และ ถ.เอกมัย เพื่อเชื่อมต่อไปพระโขนง อ่อนนุชได้ เป็นต้น ส่วนเส้นทางด่วนอาจไม่ใกล้มากนัก แต่ก็ไม่ไกลเกินเอื้อม ซึ่งเราควรดูว่าจะเดินทางไปที่ใด เพราะระยะใกล้ไกลและจุดขึ้นลงอาจไม่ได้อยู่ใกล้กัน อาทิ กรณีจะไปทางบางนา-ดาวคะนอง ก็แนะนำให้ขึ้นทาง ถ.เพชรบุรี ส่วนตรงเพลินจิต ไปดินแดง พระราม 9 แจ้งวัฒนะ ก็แนะนำให้ขึ้นฝั่งสุขุมวิท เป็นต้น
หากพูดถึงทองหล่อแล้ว ในอดีตเป็นบ้านหลังใหญ่ของพวกคหบดี ผู้ดีเก่า แต่วันนี้กลายเป็นแหล่งสีสันของเมืองกรุง มีคอนโดฯ ทันสมัย และไลฟ์สไตล์คนเมืองที่มีสีสันและคึกคักตลอดวันยันรุ่ง มีทุกรูปแบบ ทั้งร้านรถเข็นข้างทางไปจนถึงร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารดีๆ แพงๆ ทั้งไทยและเทศ เพราะย่านนี้ถือเป็นย่านที่รวมทุกชนชาติไว้ในที่เดียวกัน เพราะเป็นย่านธุรกิจและย่านที่อยู่อาศัย จึงมีอาหารให้เลือกหลากหลาย อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งแหล่งแฮงเอาต์ชื่อดังหลายแห่ง และที่สำคัญ รายล้อมไปด้วยสถานศึกษานานาชาติและโรงพยาบาลเอกชน อาทิ
Bangkok Prep International School 120 m.
Trinity International School 450 m.
Srinakharinwirot (Prasarnmit) University 3.2 km.
Wattana Wittaya Academy 3.2 km.
Ekamai International School 3.2 km.
Bangkok University 2.2 km.
Sukhumvit Hospital 1.2 km.
Samitivej Sukhumvit Hospital 1.3 km.
Camillian Hospital 2.6 km.
Rutnin Eye Hospital 3.3 km.
Bangkok Hospital 3.9 km
Bumrungrad International Hospital 4 km.
Asoke Skin Hospital 5.3 km.
รวมถึงคอมมูนิตี้มอลล์ ซูเปอร์มาร์เก็ต โรงแรม และห้างสรรพสินค้าสุดหรูต่างๆ มากมาย อาทิ
Rain Hill 550 m.
Gateway Ekamai 1.1 km.
Market Place 1.4 km.
The EM District 1.4 km.
Suanplern Market 1.8 km.
Seenspace 2 km.
J Avenue 2.1 km.
K Village 2.2 km.
Terminal 21 3.2 km.
Singha Complex 3.6 km.
Makkasan Mega Project 4 km.
Product
ภาพจำลองบรรยากาศ Exterior ตัวอาคาร ที่ตั้งอยู่โดดเด่นติดกับตัวชานชาลาสถานีทองหล่อ มองมุมสูงจะเห็น Facility ที่วางเอาไว้ 2 จุด ตรงโพเดียมเหนือชั้นที่จอดรถ (สูงพ้นชานชาลาของรถไฟฟ้า) อีกจุดอยู่บนดาดฟ้า
โครงการดิ เอส สุขุมวิท 36 (The Esse Sukhumvit 36) คอนโดมิเนียมสูง 43 ชั้น 1 อาคาร บนเนื้อที่ 2-2-0 ไร่ จำนวน 338 ยูนิต โดยคำว่า Esse เป็นภาษาละติน แปลว่า แก่นแท้ แท้จริง ซึ่งพ้องเสียงกับตัว S ของสิงห์ด้วย จึงหยิบยกมาตั้งเป็นชื่อโครงการนั่นเอง ภายใต้แนวคิด The Essence of Luxurious Living is A Harmony of Contrast ซึ่งพูดถึงสมดุลความต่างของสิ่งที่แตกต่างเข้าด้วยกัน เช่น
A Harmony of Contrast-City and Serenity (สมดุลความแตกต่างระหว่างความวุ่นวายของทองหล่อ กับความสงบส่วนตัวของตัวโครงการ)
A Harmony of Contrast-Authentic and Contemporary (สมดุลความแตกต่างระหว่างสถาปัตยกรรมแบบภูมิปัญญาไทย กับการออกแบบที่เป็นสากล ไปสู่ความเป็น Iconic ของตัวโครงการ)
A Harmony of Contrast-Society and Exclusivity (สมดุลความต้องการใช้ชีวิตแบบสังคม กับความเป็นส่วนตัว ไปสู่รูปแบบของ Facility ที่มีทั้ง Function ที่ใช้งานร่วมกัน และแยกเป็นพื้นที่ส่วนตัว)
A Harmony of Contrast-Passion and Function (สมดุลความต้องการของแต่ละบุคคล กับการออกแบบยูนิตในแต่ละ Type ที่ Serve ความต้องการของแต่ละคน)
แบรนด์บริษัทชื่อดังระดับโลกต่างๆ ที่ร่วมมือกับสิงห์ เอสเตท ในการออกแบบโครงการนี้
ทั้งนี้ โครงการถูกออกแบบโดยทีมออกแบบระดับโลก อาทิ
Architect “SOM” เป็นหนึ่งในบริษัทสถาปัตย์ที่ใหญ่ที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุดในโลก ในการออกแบบสถาปัตยกรรม ออกแบบตกแต่งภายใน วิศวกรรม และวางผังเมือง ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2479 (มาร่วมเป็นสถาปนิกที่ปรึกษาในการออกแบบโครงการ)
Architect “Tandem” ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2530 Tandem Architects (2001) เป็นบริษัทที่มีประสบการณ์กว้างขวางในโครงการต่างๆ อาทิ โรงแรม รีสอร์ท อาคารชุดพักอาศัย อาคารสำนักงาน และที่อยู่อาศัยส่วนตัว
Landscape “shma” เป็นบริษัทภูมิสถาปนิกไทยที่ทำงานในระดับสากล
Interior “dwp” หรือ Design Worldwide Partnership ผู้มีชื่อเสียงด้านการออกแบบ มีประสบการณ์กับโครงการระดับสุดหรูต่างๆ ในประเทศไทยและต่างประเทศมากมาย
ภาพจำลอง Lobby
ทั้งนี้ งานออกแบบตกแต่งภายในโครงการ (Interior) เป็นจุดสำคัญหนึ่งของโครงการที่สร้างความต่างและมีอัตลักษณ์ที่ต่างจากโครงการอื่นๆ โดยอิงจากแนวคิดความเป็นไทย นำมาประยุกต์ดัดแปลงให้ดูเก๋ไก๋ มีสไตล์ที่ร่วมสมัยและอยู่ได้นาน ไม่ไทยจ๋าจนเกินไป และไม่โมเดิร์นจนเกินงาม ไม่ว่าจะเป็นโทนสี เส้นสาย ลวดลาย งานแกะสลักต่างๆ ที่สอดแทรกไว้ในโครงการได้อย่างพอเหมาะพอดี เช่น ล็อบบี้โครงการที่มีแชนเดอเลียร์รูปทรงพลิ้วไหว ดูผิวเผินเหมือนผ้าพลิ้วไหว แต่เป็นการใช้วัสดุทองเหลืองที่นำไปรีดเป็นเส้นเล็กๆ แล้วนำมาทอแบบพิเศษให้ดูเหมือนผ้าไหมไทย หรือการจับมือกับจิม ทอมป์สัน ผู้เชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงในเรื่องผ้าไทย ด้วยการเลือกใช้ผ้าม่าน วอลล์เปเปอร์แบบพิเศษ ที่ทำขึ้นเพื่อโครงการนี้เท่านั้น เป็นต้น
สำนักงานขายอยู่ติด ถ.สุขุมวิท
ปัจจุบัน โครงการอยู่ระหว่างการปรับพื้นที่เพื่อเตรียมก่อสร้างในช่วงต้นปีหน้า และคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 2020 ตอนนี้มีเพียงสำนักงานขายและห้องตัวอย่างที่จำลองบรรยากาศคอนเซ็ปต์ของโครงการไว้ให้ชมบริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ ซึ่งเป็นด้านหน้าของที่ตั้งโครงการ โดยจะเปิดพรีเซลส์ครั้งแรกในวันที่ 18-19 พ.ย. นี้
สำหรับรายละเอียดผังโครงการ สามารถอธิบายได้ดังนี้ คือ
โมเดลจำลองโครงการภายในสำนักงานขาย
แบบจำลองสระว่ายน้ำบนโพเดียมชั้น 7
โครงการหันหน้าไปทางทิศเหนือ ซึ่งเป็นฝั่งของ ถ.สุขุมวิท ทิศใต้ คือ ด้านหลังโครงการ ได้วิวฝั่ง ถ.พระราม 4 เห็นสวนบางกระเจ้า ทิศตะวันออก ฝั่งเอกมัย พระโขนง และทิศตะวันตก คือ ฝั่งที่ใกล้กับคอนโดฯ ของเพื่อนบ้าน (Noble Remix) ทั้งนี้ ออกแบบตัวอาคารโดยสร้างส่วนของที่พักอาศัยให้ถอยร่นห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเข้ามาด้านในประมาณ 84 ม. ส่วนโพเดียมของพื้นที่ส่วนกลางห่างจากถนนประมาณ 35 ม. ซึ่งยอมทำตึกให้มีรูปทรงสูงขึ้นเพื่อความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย ส่วนระยะห่างระหว่างข้างเคียงจากคอนโดฯ เพื่อนบ้าน ด้านข้างทางฝั่งทิศตะวันตก ระหว่างตึกห่างประมาณ 33 ม.
Ground Floor Plan
ภาพจำลองบริเวณประตูทางเข้าโครงการ
ภาพจำลองพื้นที่สีเขียวบริเวณชั้น 1
Ground Floor พื้นที่รวมประมาณ 2,384 ตร.ม. เป็นแนวคิดจากบ้านเรือนไทยที่ยกใต้ถุนสูง และมีชานบ้านที่เชื่อมต่อกับพื้นที่สีเขียว สระน้ำ โดยจากทางเข้าโครงการ ปลูกต้นไม้ใหญ่บนเนินดินเพื่อบังสายตาจากภายนอก สร้างความเป็นส่วนตัว อีกทั้งมีสวนหย่อมและสระน้ำ (แนวคิดจากสระน้ำบริเวณบ้านเรือนไทย) เพื่อความร่มรื่น และยังมีที่นั่งเล่นในร่มซึ่งลอยอยู่เหนือน้ำด้วย
ภาพจำลองห้องสมุดบริเวณชั้น 1
ถัดเข้าไปด้านในเป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Outdoor ที่คำนึงถึงเรื่องแสงแดดที่ตกกระทบโดยฝั่งทิศตะวันออก สักช่วง 10 โมง ก็จะมีร่มเงาจากตัวอาคารมาบดบังให้ นอกจากนี้ ก็ยังเป็นพื้นที่ของห้องสมุด ซึ่งพื้นที่โดยรอบจะมีสระน้ำเล็กๆ ไว้ให้ได้เย็นใจ
ภาพจำลองพื้นที่จอดรถ
ภาพจำลองพื้นที่จอดรถ
ถัดไปจะคั่นกลางด้วยพื้นที่จอดรถแบบอัตโนมัติ ซึ่งมีลิฟต์ให้ 4 ตัว สามารถรอรับรถโดยมีจอ LED ให้แตะ และสามารถขับวนอาคารที่พักออกไปได้เลย ใกล้กันเป็นจุด Drop off ซึ่งเชื่อมกับล็อบบี้ของโครงการ โดยจากจุด Drop off จะมีที่จอดรถแบบธรรมดาตรงด้านหลังอาคารจำนวน 3 ชั้น ทั้งนี้ อาคารจอดรถจะอยู่ที่ชั้น 1-6
Floor Plan ชั้น 7
โมเดลจำลองโครงการส่วนโพเดียม
ภาพจำลองสระว่ายน้ำ
Kids Room
Horizon Onsen แยกชาย-หญิง
ชั้น 7 เป็นพื้นที่ส่วนกลางเรียกว่า Water Garden แนวคิดจากสระบัวของเรือนไทยสมัยก่อน ซึ่งประกอบด้วย สระว่ายน้ำขนาด 6x25 ม. ทั้งสระเด็กและสระผู้ใหญ่ พร้อมกับอ่างจากุซซี่ ถัดมาฝั่งทิศตะวันออก ก็เป็นพื้นที่ Treatment Room ห้องนวดตัวที่เราสามารถเรียกใช้บริการจาก Therapist ข้างนอกมานวดที่นี่ได้ แก้ปัญหาสำหรับใครที่ไม่ต้องการให้หมอนวดขึ้นไปที่ห้องพักอาศัยนั่นเอง ส่วนทางฝั่งทิศตะวันตก เป็นห้อง Kids Room และสวนสำหรับวิ่งเล่น เพื่อรองรับคุณแม่บ้านกรณีมีลูกน้อย ถัดเข้าไปด้านในเป็นความพิเศษของที่นี่ คือ มีฮอริซอน ออนเซ็น (Horizon Onsen) แยกชาย-หญิงไว้ให้ ทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง รวมถึงห้องสตีม เอาใจลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่ชื่นชอบการทำออนเซ็นเป็นชีวิตจิตใจ ส่วนชาติอื่นก็ใช้บริการได้เช่นเดียวกัน
ชั้น 8 เป็นส่วนของ Fitness แบบ Take View คือ วิวสระว่ายน้ำและวิวเมือง รวมถึงมี Golf Simulator และ Virtual Bike ด้วย
ชั้น 9 ก็เป็นส่วน Double Volume ของฟิตเนส ที่มีห้องพักอาศัยรวมอยู่ด้วยประมาณ 4 ยูนิต
ภาพจำลองฟิตเนส
Floor Plan ชั้น 10-35
รูปจำลองจากโมเดลโครงการ แสดงให้เห็นถึงแท่งสีขาวบริเวณโถงตรงกลางอาคาร ซึ่งช่วยระบายอากาศและเปิดรับลมธรรมชาตินั่นเอง
Facade ของอาคารได้แนวคิดมาจากหน้าจั่วของบ้านไทยสมัยก่อน เพื่อความสวยงามและบังแสงแดดจ้าได้ด้วย
ชั้น 10-35 เป็นส่วนของห้องชุดพักอาศัย มีผังเหมือนกันทั้งหมด คือ แบบ 2 ห้องนอน เป็นห้องหัวมุมทิศเหนือ-ใต้ฝั่งละ 2 ห้อง นอกนั้นเป็นแบบ 1 ห้องนอน แต่ละชั้นมี 12 ยูนิต โดยวางตัวอาคารในแนวเหนือ-ใต้ โดยคำนึงถึงในเรื่องของลม ใช้แนวคิดจากบ้านของวิถีคนไทยที่เป็นเขตเมืองร้อน (Tropical Housing) การทำบ้านให้มีลมโกรกจะช่วยระบายอากาศได้ดี ฉะนั้น ในตัวอาคารจะมีแท่งสีขาวตรงกลางโถงลิฟต์โดยสาร เพื่อช่วยให้ลมโกรกและยังประหยัดไฟ เพราะไม่ต้องพึ่งแอร์อีกด้วย ซึ่งโถงลิฟต์ก็เปรียบได้กับชานกลางบ้านไทยสมัยก่อน ส่วนยูนิตพักอาศัยแต่ละยูนิตที่แยกเป็นห้องๆ ก็เปรียบเสมือนห้องพักแต่ละห้องในเรือนไทยนั่นเอง
ชั้น 36-38 มี 6 ยูนิต แบ่งเป็น 3 ห้องนอน ห้องมุมเหนือและใต้ฝั่งละ 2 ห้อง ที่เหลือตรงกลางเป็นแบบ 2 ห้องนอน
ชั้น 39-40 เป็นห้อง Penthouse แบบ Duplex มีลิฟต์เข้าห้องแบบส่วนตัว พิเศษ คือ ชั้นบนเจาะประตูทางออกลิฟต์ให้ด้วย เพื่อสะดวกกับคนที่อยู่ชั้นบน
ชั้น 41-43 เป็นพื้นที่ส่วนกลางอีกจุดหนึ่ง และเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ คือ ออกแบบแบบ 3 Bar มีแนวคิดจากสวนไร่นาแบบขั้นบันได เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโครงการ
Floor Plan ชั้น 41
Floor Plan ชั้น 42
ภาพจำลองพื้นที่สำหรับ Rice Field Garden และ BBQ
Private Dining
Sky Theatre
Sky Lounge
ชั้น 41 Rice Field Terrace ทิศตะวันออก ประกอบด้วย พื้นที่สำหรับปิ้งย่างบาร์บีคิว สวนแบบกลางแจ้ง และพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้ง ส่วนทิศตะวันตก มีพื้นที่รับประทานอาหารขนาดใหญ่ที่คุณสามารถจัดปาร์ตี้ได้ และมีโรงหนังส่วนตัวที่คาดว่าอาจจะต้องทำการจองคิวล่วงหน้า นอกจากนี้ ก็มีพื้นที่นั่งเล่นและ Sky Lounge ที่สามารถมานั่งทำงานได้
Floor Plan ชั้น 43
ชั้น 43 และชั้น Rooftop เป็น Roof Orchard Amenities Floor พื้นที่อเนกประสงค์สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน และชั้นดาดฟ้า เป็นพื้นที่แปลงปลูกผัก ที่นำไอเดียของแปลงผักสวนครัวของวิถีชีวิตคนไทยที่มักมีแปลงผักในบริเวณบ้าน บวกกับกระแสความนิยมในปัจจุบันที่คนเมืองหันมาปลูกผักกินเองกันมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงสารปนเปื้อน ทั้งสองส่วนนี้ จึงมารวมไว้บนดาดฟ้า เพื่อให้ลูกบ้านสามารถปลูกพืชผลที่ต้องการ และยังสามารถแลกเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ผลผลิตซึ่งกันและกันได้ทั้งหมด 338 บล็อก ถือเป็นไอเดียการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกบ้านได้อีกทางหนึ่งด้วย
ห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมมี 3 แบบ คือ
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (1 Bedroom 1 Bathroom) พื้นที่ใช้สอย 38.50 ตร.ม.
ห้องมาตรฐานขายแบบ Fully Fitted ที่ประกอบด้วย ชุดครัว สุขภัณฑ์ห้องน้ำ Walk Through Closet วอลล์เปเปอร์ ผนังหิน บริเวณติดตั้งทีวี พื้นห้องนอน-นั่งเล่น วัสดุไม้จริงลายก้างปลา (Herringbone Beech) สี Dark Oak พื้นห้องครัว ห้องน้ำ ปูกระเบื้องพอร์ซเลน (Porcelain) ระบบ Home Automation ควบคุมการเปิดปิดของไฟ แอร์ และระบบรางม่านทึบ หม้อต้มที่ซ่อนไว้บนฝ้า เป็นต้น
ภายในห้องนี้เน้นออกแบบตกแต่งด้วยโทนสีเรียบง่ายอย่างเทา ดำ ขาว น้ำตาล ที่สอดคล้องกับสิ่งที่มีให้ตามมาตรฐานของโครงการ ทั้งนี้ จัดวางชุดครัวไว้ใกล้กับประตูทางเข้าห้อง เพื่อให้สะดวกในการวางข้าวของเครื่องใช้ และให้พื้นที่ภายในมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น อีกทั้งความพิเศษ คือ เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาจะมีแสงไฟวอร์มไลท์ส่องสว่างขึ้นมาอัตโนมัติ ครู่หนึ่งก็จะดับไปเอง
ชุดครัวบิวท์อินขนาดใหญ่รูปตัว L พื้นปูกระเบื้องขนาด 600x600 มม. หรือเทียบเท่า สีขาวอมครีม Top และผนังกันเปื้อนกรุหินควอตซ์ขนาด 60x60 ซม. หรือเทียบเท่า ลายสีดำ ขาว หน้าบานกรุกระจกเงาสีชาทอง พร้อมซิงก์ 1 หลุม เตาไฟฟ้า Hood เตาอบ และตู้เก็บของด้านบนขนาดใหญ่
ซิงก์แบบ 1 หลุม จาก Franke
เตาไฟฟ้า 2 หัว จาก Küppersbusch
เตาอบจาก Küppersbusch
ตู้เก็บของด้านบนครัว พิเศษที่หน้าบานตู้แบบยก Hydraulic ขึ้นด้านบน (Lift up) 1 บาน ซึ่งสะดวกและง่ายต่อการใช้งาน ไม่เกะกะหรือต้องเปิดปิดให้เสียเวลา อีกทั้งดูสวยงาม หรูหราอีกด้วย
มีเคาน์เตอร์บาร์เชื่อมต่อกับชุดครัว ที่สามารถวางเก้าอี้สำหรับนั่งรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง อีกทั้งมีตู้บิวท์อินขนาดใหญ่สำหรับวางเครื่องซักผ้าที่เชื่อมต่อก๊อกน้ำไว้ให้แล้ว
มุมนั่งเล่นพักผ่อนกลางห้อง เชื่อมต่อกับระเบียงกว้างด้านนอก เป็นพื้นที่โล่งกว้าง เพราะจากพื้นถึงเพดานที่สูงถึง 3 ม. สามารถวางโซฟาใหญ่และโต๊ะกลางได้ ซึ่งยังเหลือพื้นที่ทางเดินด้วย ติดผ้าม่านแบบ Black-out หรือเทียบเท่า** ของ Jim Thompson สีน้ำตาลเหลือบทอง และวอลล์เปเปอร์ของ Jim Thompson สีน้ำตาลอมเทา พื้นไม้เอ็นจิเนียร์แบบสำเร็จรูป ขนาด 125x600x15 มม. หรือเทียบเท่า สี Dark Oak ลายก้างปลา
ผนังห้องฉาบปูนเรียบแต่งผิว ปิดทับด้วยวอลล์เปเปอร์ของ Jim Thompson แผงตกแต่งหินอ่อนนำเข้า White Marmara หรือเทียบเท่า** ติดตั้งที่ผนังฝั่งโทรทัศน์
พื้นระเบียงปูกระเบื้องลายไม้ ราวเหล็กสีดำ และ Façade สีดำ เจาะรูเพื่อความสวยงาม บังสายตา และระบายอากาศด้วย
ภายในห้องนอน วางเตียงคิงไซส์ได้ แต่จะเหลือพื้นที่ปลายเตียงไม่มากนัก แต่ก็ยังเดินได้อยู่ พื้นปูไม้เอ็นจิเนียร์แบบสำเร็จรูป ขนาด 125x600x15 มม. หรือเทียบเท่าสี Dark Oak ลายก้างปลา และติดวอลล์เปเปอร์ของ Jim Thompson สีน้ำตาลอมเทา ผนังฉาบปูนเรียบแต่งผิว ปิดทับด้วยวอลล์เปเปอร์ของ Jim Thompson
พื้นที่ว่างข้างหัวเตียง จัดวางเป็นโต๊ะทำงานและโต๊ะข้างเตียงทรงเตี้ยขนาดกะทัดรัดก็ดีไม่น้อย
ใครชอบดูทีวีก็แนะนำให้ใช้แบบแขวนติดผนังที่ดูสวยงามและประหยัดพื้นที่ได้ดี
ถัดจากเตียงนอนเป็นพื้นที่ Walk Through Closet ออกแบบให้มีหน้าบานกระจกใส เพื่อให้ห้องดูโล่ง ไม่ทึบตัน
ห้องน้ำจะอยู่ถัดจากห้องนอน
ห้องน้ำใช้วัสดุเกรดพรีเมียม เคาน์เตอร์พร้อมตู้ใต้อ่างล้างหน้า หน้าบานปิดผิว Veneer และกระจกเงา พื้นปูกระเบื้องพอร์ซเลน (Porcelain) ขนาด 400x800 มม. หรือเทียบเท่า ออกแบบได้ดี จากพื้นถึงเพดานสูง 2.65 ม. มีส่วนเปียกและแห้ง พิเศษที่ทุกยูนิตจะมีอ่างอาบน้ำให้ แยกส่วนจากชาวเวอร์ ซึ่งชาวเวอร์มีฉากกั้นให้ ผนังปูกระเบื้องขนาด 400x800 มม. หรือเทียบเท่า กรุหินอ่อนนำเข้า Laurent Brown หรือเทียบเท่า บริเวณผนังพื้นที่อาบน้ำ 1 ด้าน
อ่างล้างหน้า Top กรุหินอ่อนนำเข้า Laurent Brown หรือเทียบเท่า เคาน์เตอร์พร้อมตู้ใต้อ่างล้างหน้า หน้าบานปิดผิว Veneer และกระจกเงาสีน้ำตาล
ถัดจากอ่างล้างหน้าเป็นอ่างอาบน้ำพร้อมราวแขวนผ้า หน้าตาของอ่างอาบน้ำขนาดกะทัดรัด
ซ่อนหม้อต้มและพัดลมดูดอากาศไว้บนฝ้าเพดาน
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (1 Bedroom 1 Bathroom) พื้นที่ใช้สอย 43.25 ตร.ม.
ห้องนี้คล้ายกับห้องแรก ต่างกันที่ขนาดของห้อง วัสดุของผนังบริเวณทีวี ตู้เก็บของที่มากขึ้น หน้าบานตู้เก็บของบนชุดครัว และหน้าตาของอ่างอาบน้ำ นอกนั้นส่วนใหญ่ก็เป็นสเปควัสดุเดียวกัน
ประตูทางเข้าห้องระบบ Digital Door Lock เหมือนกันทุกยูนิต รวมถึงมีตาแมวให้ด้วย
บิวท์อินตู้เก็บของทรงสูงให้ทั้งสองฝั่งที่ติดกับประตูทางเข้าห้อง
มีความแปลกตา เพราะสามารถซ่อนเครื่องซักผ้าไว้ที่ตู้เก็บของตรงด้านหน้าที่ติดกับประตูทางเข้าห้อง ทั้งนี้ ต่อระบบก๊อกน้ำไว้ให้แล้ว
ตู้เก็บของอีกฝั่งหนึ่ง สามารถเก็บของหรือวางรองเท้าได้หลายคู่เลยทีเดียว
ชุดครัวขนาดใหญ่รูปตัว L เหมือนแบบแรก แต่ใหญ่กว่า
ตู้เก็บของด้านบนมีหน้าบานแบบ Hydraulic Lift Up เช่นกัน เป็นแบบ 2 บาน เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานและไม่หนักจนเกินไป กรณีคุณแม่บ้านร่างเล็กไม่สูงมาก อาจต้องเขย่งสักนิด เพราะเวลายกไปสุดแล้วจะปิดลงมาต้องเอื้อมสุดมือ อาจติดตั้งอุปกรณ์ที่ช่วยดึงลงมาให้ง่ายขึ้น
เตาไฟฟ้า 2 หัวเช่นกัน
ซิงก์ 1 หลุม มี Top หินสำหรับไว้พักจานได้มากพอสมควร
ด้านล่างเป็นตู้เก็บของหน้าบานกระจกเงา พร้อมเตาอบเช่นเดียวกัน
พื้นที่ครัว มาพร้อมตู้เย็น Built-in ขนาดใหญ่
มาดูพื้นที่ห้องนั่งเล่นกันบ้าง มีพื้นที่โล่งกว้าง และช่องแสงกว้างที่ติดรางม่านให้ 2 ราง แต่รางหนึ่งมีม่านทึบให้ ส่วนม่านโปร่งแสงต้องติดเอง ทั้งนี้ รางม่านควบคุมการเปิดปิดด้วยระบบ Home Automation ซึ่งทุกยูนิตได้แบบเดียวกัน
รูปแบบของโซฟาและชั้นวางทีวีสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามชอบใจ
ผนังห้องนั่งเล่นฉาบปูนเรียบแต่งผิว ปิดทับด้วยวอลล์เปเปอร์ของ Jim Thompson แผงตกแต่งหินอ่อนนำเข้า Black Marquina หรือเทียบเท่า** ติดตั้งที่ผนังฝั่งโทรทัศน์
จัดวางโต๊ะรับประทานอาหารเชื่อมต่อกับโซฟา จะจัดแบบ 4 หรือ 2 ที่นั่งก็ได้ แต่ทั้งนี้ ในห้องตัวอย่างจัดเพียง 2 ที่นั่ง เพื่อให้พื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง สามารถเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่บางคนหรือคนส่วนใหญ่อาจนั่งทานข้าวที่โซฟาก็ได้เช่นกัน
หน้าตาของระเบียงเหมือนกับห้องแรก ต่างกันที่ขนาด
ถัดเข้าไปด้านในสุดเป็นพื้นที่ห้องนอนและห้องน้ำ
ภายในห้องนอนออกแบบได้สวยงาม เน้นโทนสีเข้มขรึม มีกลิ่นอายความเป็นไทยที่ดูสงบ จริงใจ วางเตียงใหญ่ 6 ฟุตได้ เหลือพื้นที่ว่างรอบเตียงให้เดินได้สบาย พร้อมช่องแสงกว้าง
ลักษณะของ Walk Through Closet เป็นแบบเดียวกับห้องแรก มีให้ 2 ฝั่งเช่นกัน
ซ่อนงานระบบต่างๆ ไว้ด้านบนฝ้าเพดาน
วัสดุภายในห้องน้ำเป็นมาตรฐานเดียวกันกับแบบแรก แยกส่วนเปียกแห้งและแยกส่วนชาวเวอร์กับอ่างอาบน้ำเช่นเดียวกัน อ่างล้างหน้าใหญ่ มีปลั๊กพร้อมฝากันน้ำให้แบบนี้ทุกยูนิต
โถสุขภัณฑ์เป็นฝารองนั่งแบบอัตโนมัติ (Washlet) ซึ่งห้องน้ำ Master ของทุกยูนิตจะให้แบบนี้
Rain Shower ลักษณะนี้ทุกยูนิต อ่างอาบน้ำจะเรียวยาวกว่าแบบแรก
ข้างๆ รีโมท (อุปกรณ์เล็กๆ สีขาวฝั่งขวามือ) คือ ตัวรับสัญญาณของระบบ Home Automation
หน้าตาของสวิตช์ไฟ ดีไซน์ทันสมัย
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ (2 Bedroom 2 Bathroom) พื้นที่ใช้สอย 73.50 ตร.ม.
ห้องนี้ Full Option ขึ้นมาจาก 2 แบบแรก ซึ่งสวยสมราคา ดูเรียบง่าย และแฝงไว้ด้วยความหรูหราและลูกเล่นของวัสดุที่เลือกใช้ บวกกับการจัดวางองค์ประกอบภายในห้องที่ดูแปลกตาและไม่ซ้ำใคร วัสดุส่วนใหญ่เหมือนกันกับ 2 แบบแรก มีเพียงบางจุดที่ต่าง เช่น ผนังทีวี เป็นต้น
เปิดประตูห้องเข้ามาก็จะเจอกับครัวขนาดใหญ่เช่นเดียวกันกับสองแบบแรก แต่ใหญ่กว่า และมีไอส์แลนด์ให้ด้วย
มองสลับจากด้านในไปยังประตูห้อง
บิวท์อินผนังข้างประตูทางเข้าห้องขนาดใหญ่ สำหรับเก็บของและวางเครื่องซักผ้า
วางตู้เย็นใหญ่ได้เช่นกัน
หน้าตา Top เป็นหินเช่นเดียวกันกับสองแบบแรก
มีเตาอบให้เหมือนกัน
ห้องนี้เพิ่มซิงก์เป็น 2 หลุม
เตาไฟฟ้าเพิ่มเป็น 4 หลุม
ภายในตู้เก็บของด้านบนของครัว หน้าบานแบบ Lift up แบบ 2 บาน
พื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับระเบียง ซึ่งห้องทุกยูนิตเราจะไม่เห็นคอมเพรสเซอร์แอร์ เพราะได้ถูกซ่อนไว้ที่เสาคานแล้วนั่นเอง
เพิ่มช่องแสงขนาดใหญ่ให้ที่ห้องนั่งเล่น พร้อมกับติดตั้งมู่ลี่ไม้ให้เสร็จสรรพ
ผนังฉาบปูนเรียบแต่งผิว ปิดทับด้วยวอลล์เปเปอร์ของ Jim Thompson แผงตกแต่งหินอ่อนนำเข้า Atlantic Grey หรือเทียบเท่า** ติดตั้งที่ผนังฝั่งโทรทัศน์
ระเบียงกว้างพอสมควร
ถัดเข้ามาด้านใน มีช่องทางเดินเพื่อไปยังห้องน้ำกลาง ห้องนอน 2 และ Master Bedroom หรือห้องนอนใหญ่ พร้อมห้องน้ำส่วนตัว จะสังเกตเห็นพื้นห้องที่ปูด้วยไม้จริงแบบก้างปลา (ลวดลายโบราณ แนวคิดตามพื้นบ้านไทยสมัยก่อน) ได้อย่างชัดเจน
ก่อนถึงห้องนอนใหญ่เป็นห้องนอน 2 ที่วางเตียงขนาด 5 ฟุตกำลังดี ตกแต่งแบบเรียบง่าย แต่ใช้วัสดุดี สวยงาม เน้นผ้าไทยที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น จริงใจ สวย คลาสสิค
ข้างหัวเตียง ออกแบบโดยวางโต๊ะทำงานเล็กๆ ไว้เป็นไอเดีย
ปลายเตียง ติดทีวีแบบแขวนผนังชิ้นเดียวจบ ดูเรียบร้อยและไม่รกตา
ห้องน้ำ Typical แยกส่วนเปียกแห้ง ไม่มีอ่างอาบน้ำ มีเพียงชาวเวอร์ และโถสุขภัณฑ์ก็ไม่ได้เป็นแบบ Washlet เพราะจะมีเพียงในห้องน้ำ Master เท่านั้น กรุหินอ่อนนำเข้า Black Marquina หรือเทียบเท่า บริเวณผนังพื้นที่อาบน้ำ 1 ด้าน
จากห้องนอน 2 ด้านในสุดเป็นพื้นที่ของห้องนอนใหญ่ ฝั่งขวาเป็นห้องนอน ตรงกลางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่มีช่องแสงและมู่ลี่ให้พร้อมตู้เสื้อผ้า ส่วนฝั่งซ้ายเป็นห้องน้ำ
ห้องนอนใหญ่ กว้างขวาง ตกแต่งได้สวยงามตามท้องเรื่อง เน้นโทนเทา ขวา ครีม ดูสว่างตา
มีตู้เสื้อผ้าให้ในห้อง
แบบ 2 ห้องนอน เป็นห้องหัวมุมจึงเปิดม่านได้กว้าง รูดทางเดียวรวบไว้ด้านขวามือฝั่งเดียวจบ เห็นวิวได้อย่างเต็มที่ สำหรับปลายเตียง วางชั้นวางทีวี ชั้นวางของได้ อีกทั้งติดตั้งปลั๊กที่พื้นให้ด้วย
อ่างล้างหน้าในห้องนอนใหญ่ เป็นแบบอ่างคู่ ซึ่งสะดวกต่อการใช้งานของคนมีคู่ เหมาะกับชีวิตเร่งรีบในเมืองกรุง Top กรุหินอ่อนนำเข้า Laurent Brown หรือเทียบเท่า
โถสุขภัณฑ์แบบ Washlet
กรุหินอ่อนนำเข้า Black Marquina หรือเทียบเท่า บริเวณผนังพื้นที่อาบน้ำ 1 ด้าน สำหรับห้อง Master Bathroom
หน้าตาของเรนชาวเวอร์และช่องวางของที่มีให้ทุกยูนิตเช่นกัน
อ่างอาบน้ำใหญ่ขึ้น กว้างขึ้น พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ ที่แบบมาตรฐานจะมีมู่ลี่ไม้ให้เช่นเดียวกับตรงมุมนั่งเล่น
ตู้เสื้อผ้าแยกฝั่งซ้ายขวา ชาย-หญิงให้
Price & Promotion
โครงการเจาะกลุ่มลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ขายแบบ Fully Fitted พร้อมครัว, Hob & Hood, ตู้เสื้อผ้า, สุขภัณฑ์ห้องน้ำ เป็นต้น ราคาขายเริ่มต้น 12 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ย 330,000 บาท/ตร.ม.
หมายเหตุ : สอบถามราคาและโปรโมชั่นจากทางโครงการอีกครั้ง
Conclusion
โครงการดิ เอส สุขุมวิท 36 (The Esse Sukhumvit 36) คอนโดฯ หรู ระดับ Luxury สูง 43 ชั้น จำนวน 338 ยูนิต เริ่ม 1 ห้องนอน ขนาด 38.50 ตร.ม. ไปจนถึงแบบเพนท์เฮ้าส์ดูเพล็กซ์ ราคาเริ่มต้น 12 ลบ. ใกล้ BTS ทองหล่อ เพียง 20 ม.
ทั้งนี้ การเดินทาง นอกจากศักยภาพของแนวรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท ที่เชื่อมต่อไปยังสายอื่นๆ ได้นั้น เส้นทางการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็สะดวก แต่อาจจะมีบางช่วงเวลาที่เร่งด่วนซึ่งการจราจรจะติดขัด โดยจากที่ตั้งโครงการติดกับ ซ.สุขุมวิท 36 สามารถเข้าซอยไปเพื่อทะลุ ซ.สุขุมวิท 38 (ซ.AP) เพื่อไปพระราม 4 ได้ นอกจากนี้ ถ.สุขุมวิท ก็เชื่อมกับอโศก เพชรบุรี พระโขนง อ่อนนุช ได้ด้วย และยังมีจุดขึ้นลงทางด่วน เช่น ทางด่วนฝั่งสุขุมวิท ตรงเพลินจิต หรือออกเส้นเอกมัย ไปพระราม 9 เพื่อเข้ามอเตอร์เวย์ไปทางบางนา ชลบุรีได้ เป็นต้น
สำหรับศักยภาพด้านความเจริญไม่ต้องพูดถึง เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า ย่านนี้ติดท็อปทรีของย่านสำคัญของเมืองกรุง เพราะทั้งออฟฟิศ แหล่งแฮงเอาต์ ที่อยู่อาศัย โรงเรียนทั้งไทยและนานาชาติ โรงพยาบาล และห้างร้านต่างๆ รวมไว้ในย่านนี้ทั้งหมด กระนั้น เป็นย่านที่มีเสน่ห์ มีสีสันของความดั้งเดิมและความทันสมัยคลุกเคล้ากันอยู่ อีกทั้งมีทุกชนชาติทุกชนชั้นอยู่ที่นี่ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งโซนยุโรปและเอเชีย โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น
โครงการนี้ถือเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่อีกโปรเจ็กต์หนึ่งของสิงห์ เอสเตท ที่ร่วมทุนกับกลุ่มฮ่องกง แลนด์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์หลากหลายรูปแบบ โดยโครงการนี้เป็นโครงการที่อยู่อาศัยแห่งแรกของฮ่องกง แลนด์ ที่ตัดสินใจร่วมงานด้านที่อยู่อาศัยกับกลุ่มทุนไทย อีกทั้งโครงการนี้ ได้ดึงเอานักคิดนักออกแบบหัวกะทิระดับต้นๆ ของโลกมารวมไว้ที่โครงการนี้ด้วย การศึกษาถึงวิถีชีวิตความเป็นไทย การอยู่อาศัยแบบไทย และนำเอาจุดเด่นในแต่ละด้านมาประยุกต์ใช้เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
ฉะนั้น การซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงและเพื่อการลงทุนขายต่อหรือปล่อยเช่า ถือว่ามีอนาคตที่สดใสด้วยเพราะปัจจัยข้างต้น ทั้งนี้ ราคาปล่อยเช่าโดยเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ 30,000-80,000 บาท/เดือน/ยูนิต
เรียกได้ว่า เมื่อรับทราบถึงทั้งทำเลที่มีศักยภาพและตัวโครงการที่กลั่นกรองแนวคิดอย่างลึกซึ้ง มีเสน่ห์น่าค้นหานี้นั้น โครงการดิ เอส สุขุมวิท 36 (The Esse Sukhumvit 36) สมกับเป็นเจ้าป่ากลางป่าคอนกรีตแห่งนี้เสียจริง
Fact Sheet
(ข้อมูล ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2560)
ชื่อโครงการ : ดิ เอส สุขุมวิท 36 (The Esse Sukhumvit 36)
เจ้าของโครงการ : บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้งโครงการ : ถ.สุขุมวิท (ติดปากซอยสุขุมวิท 36) แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
พื้นที่โครงการ : 2-2-0 ไร่
ประเภทโครงการ : คอนโดมิเนียมสูง 43 ชั้น 1 อาคาร
จำนวนยูนิต : 338 ยูนิต
แบบห้อง : Unit Details Unit Area (sq.m.)
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (1 Bedroom 1 Bathroom) พื้นที่ใช้สอย 38.5-43.25 ตร.ม.
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ (2 Bedroom 2 Bathroom) พื้นที่ใช้สอย 73.5-77 ตร.ม.
3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ (3 Bedroom 3 Bathroom) พื้นที่ใช้สอย 116.75-124.25 ตร.ม.
ห้องเพนท์เฮ้าส์ (Penthouse) พื้นที่ใช้สอย 252.00 ตร.ม.
สิ่งอำนวยความสะดวก : ล็อบบี้
ที่จอดรถ
ตู้จดหมายและห้องเก็บของ
ซังเคน ลอว์น บริเวณชั้น 1
วอเตอร์ การ์เด้น ชั้น 7
ไรซ์ ฟีลด์ การ์เด้น ชั้น 41
รูฟ ออชาร์ด ชั้น 43 และชั้นดาดฟ้า
เดอะ รีดดิ้ง เลานจ์
สระว่ายน้ำพร้อมสระเด็ก
ห้องออกกำลังกาย
เวอร์ชวล ไบค์
กอล์ฟ ซิมูเลเตอร์
ห้องอบไอน้ำ
ฮอริซอน ออนเซ็น แยกชาย-หญิง
ห้องสปา
ห้องสำหรับเด็กเล่น
สกาย เลานจ์ พื้นที่พักผ่อนอเนกประสงค์
เดอะ เรสิเดนซ์ เลานจ์ พื้นที่สำหรับจัดเลี้ยง
สกาย เธียเตอร์ ห้องชมภาพยนตร์ส่วนตัว
บาร์บีคิว เดค
WiFi พื้นที่ส่วนกลางชั้น 1, 7, 8, 41, 43 และดาดฟ้า
ระบบรักษาความปลอดภัย : CCTV และ รปภ. ตลอด 24 ชม.
ที่จอดรถทั้งหมด : 100% (รวมซ้อนคัน)
ลิฟต์ : โดยสาร 4 ตัว
ราคาเริ่มต้น : 12 ล้านบาท
ราคาขายเฉลี่ย : 330,000 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง : 100 บาท/ตร.ม.
กองทุนสะสม : 1,000 บาท/ตร.ม.
โทร. Call Center 1221
เว็บไซต์ : www.singhaestate.co.th/condominium/the-esse-sukhumvit-36
การคำนวณยอดผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน
ปรับรายละเอียดด้านล่างเพื่อคำนวณยอดผ่อนชำระต่อเดือน