รีวิวทาวน์โฮม ดิ โอโซน เพชรเกษม 53 โดยประชาสิริ ใกล้ ถ.กาญจนาภิเษก และรถไฟฟ้าสถานีหลักสอง
ดิ โอโซน เพชรเกษม 53 โดย ประชาสิริ ทำเลเดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้าสถานีหลักสอง และถนนกาญจนาภิเษก จับจ่ายใช้สอยง่าย ใกล้เดอะมอลล์ บางแค ตลาดสดเพชรเกษม 51 มีบ้านให้เลือก 2 ขนาด ทั้ง 2 ชั้น 3 ห้องนอน และ 3 ชั้น 4 ห้องนอน
Company
โครงการดิ โอโซน เพชรเกษม 53 พัฒนาโครงการโดย บริษัท ประชาสิริ จำกัด ซึ่งมีผลงานพัฒนาที่พักอาศัยประเภทแนวราบมาแล้ว 13 โครงการ ตัวอย่างโครงการที่บริษัทพัฒนา ได้แก่ โครงการประชาสุขซิตี้ ริเวอร์การ์เด้น, ประชาสุขเพลส, ประชาสุขซิตี้ พาร์ค, นครหลวงโฮมออฟฟิศ, ประชาสิริ 1, ประชาสิริ 2
Location
โครงการดิ โอโซน เพชรเกษม 53 ตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 53 ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 1 กิโลเมตร ที่ตั้งโครงการถือเป็นทำเลบ้านแนวราบที่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน มีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการอยู่อาศัยมากมาย
การเดินทางด้วยรถยนต์
การเดินทางด้วยรถยนต์ จากโครงการ จะใช้ถนนเส้นหลัก คือ ถนนเพชรเกษม ไปเชื่อมต่อกับถนนเส้นอื่นๆ ได้แก่ กาญจนาภิเษก พุทธมณฑล สาย 2 พุทธมณฑล สาย 1 บางแค ราชพฤกษ์ ไปยังจุดต่างๆ ของกรุงเทพฯ โดยมีเส้นทางหลักๆ ดังนี้
-ไปถนนกาญจนาภิเษก เพื่อเข้าตัวเมืองสาทร ผ่านถนนกัลปพฤกษ์ หรือไปถนนเอกชัย พระราม 2 เมื่อออกจากโครงการ ขับเข้าสู่ถนนเพชรเกษม ให้กลับรถที่แยกพุทธมณฑล สาย 2 จากนั้นขึ้นสะพานต่างระดับเพื่อเข้าสู่ถนนกาญจนาภิเษก หรือหากเข้าถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งไปอำเภอบางบัวทอง ก็สามารถใช้ถนนพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4 ไปจรัญสนิทวงศ์ พรานนก ศิริราชได้ หรือขับตรงไปถนนบรมราชชนนีได้
-ถนนราชพฤกษ์ จากโครงการ ให้ขับออกถนนเพชรเกษม แล้วกลับรถที่แยกพุทธมณฑล สาย 2 ขับตรงไปจนถึงแยกบางหว้า เลี้ยวขวาเพื่อใช้ถนนราชพฤกษ์ ฝั่งไปสาทร หรือเลี้ยวซ้ายไปแหล่งกินเที่ยวพักผ่อนที่เดอะเซอร์เคิล ราชพฤกษ์ได้
สำหรับทางด่วนที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุด เป็นทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ สามารถใช้ถนนกาญจนาภิเษก มุ่งตรงไปบางบัวทอง
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า
ที่ตั้งโครงการดิ โอโซน เพชรเกษม 53 อยู่ห่างรถไฟฟ้าจากสายสีน้ำเงิน สถานีหลักสอง ประมาณ 2.3 กิโลเมตร ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินนี้ จะเปิดใช้ในเดือนกันยายน 2562
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เป็นส่วนต่อขยายจากสถานีหัวลำโพง ไปบางแค ตอนนี้ สร้างทางวิ่งเสร็จแล้ว เหลือแต่งานระบบและงานสถานี โดยมีกำหนดเปิดใช้ในเดือนกันยายน ปี 62 ซึ่งจะเข้ามารองรับการขยายตัวของเมืองฝั่งตะวันตก ที่ปัจจุบัน มีความหนาแน่นมากขึ้น จากโครงการไปยังสถานีหลังสอง สามารถไปได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถรับจ้าง โดยรถยนยต์ส่วนตัวก็สามารถขับไปจอดที่อาคารจอดรถสถานีหลักสองได้ หรือถ้าจะนั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง จะมีวินมอเตอร์ไซค์ที่หน้าปากซอยเพชรเกษม 51 และเพชรเกษม 53 ราคาประมาณ 40 บาท
สิ่งอำนวยความสะดวก
สิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการอยู่อาศัยใกล้กับโครงการ ที่ปากซอยเพชรเกษม 51 จะมี 7-11 ร้านอาหาร และร้านค้าเปิดอยู่ สามารถแวะซื้อก่อนเข้าบ้าน หรือจะนั่งจักรยาน ขับมอเตอร์ไซค์มาซื้อของใช้จำเป็นก็ได้ และยังมีตลาดสดสำหรับคุณแม่บ้าน คือ ตลาดสาย 2 ห่างจากตัวโครงการเพียง 1 กิโลเมตร
ถ้าไกลออกไปอีกนิดก็มีเดอะมอลล์ บางแค ตลาดบางแค เทสโก้ โลตัส บางแค ซีคอน บางแค ถ้าเป็นฝั่งมุ่งหน้าไปนครปฐม อ้อมน้อย ก็มี โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าวิคตอเรีย การ์เด้นส์ บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า เพชรเกษม 2 โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล หนองแขม โรงเรียนเลิศหล้า
บนถนนกาญจนาภิเษก จะมีเดอะพาซิโอ พาร์ค กาญจนาภิเษก The Express กาญจนาภิเษก โรงเรียนเลิศหล้าถนนกาญจนาภิเษก แม็คโคร บางบอน โรงพยาบาลบางปะกอก 8
บนถนนราชพฤกษ์ มีเดอะเซอร์เคิล ราชพฤกษ์ เดอะวอล์ค ราชพฤกษ์
การเดินทางไปยังโครงการ
การเดินทางมายังโครงการ หากมาจากถนนเพชรเกษม ฝั่งมุ่งหน้านครปฐม ก็ให้ขับจนผ่านแยกต่างระดับกาญจนาภิเษกมา
จากนั้นซ้ายมือ จะมีซอยเพชรเกษม 51 ซึ่งสามารถเข้าโครงการได้เช่นกัน หน้าซอยมี 7-11 ไว้แวะซื้อของ
ส่วนทางเข้าหลักจะเป็นซอยเพชรเกษม 53 ให้เราเลี้ยวรถเข้าไปได้เลย
จากนั้นให้เราขับตรงเข้าไปตามซอย โดยในซอยจะเป็นถนน 2 เลน รถวิ่งสวนกันได้
เข้ามาอีกเล็กน้อย จะมีสามแยก ให้เราเลี้ยซ้ายไปตามป้ายโครงการครับ
จากนั้นจะเป็นทางเลี้ยวขวา ไปตามทาง
เมื่อขับตรงไปอีกประมาณ 300 เมตร จะมีสะพานข้ามคลองเล็กๆ ให้เราระวังรถที่วิ่งสวนมาด้วยนะครับ
ลงสะพานมาจะมีสามแยก ถ้าเราไปโครงการก็สามารถเลี้ยวไปได้ทั้งฝั่งซ้ายและขวา แต่เราจะเริ่มไปจากฝั่งซ้ายก่อนครับ
เมื่อเลี้ยวซ้ายมาแล้ว ให้ขับตรงไปอีก 350 เมตร
จะมีทางแยก ให้เราเลี้ยวขวาอีกครั้ง
จะเจอทางเข้าโครงการอยู่ทางซ้ายมือ
ส่วนที่ทางแยกก่อนหน้า ถ้าเราเลือกไปทางขวา ให้ขับตรงไปเล็กน้อย จะมีทางแยก ให้เราเลี้ยวซ้ายไปตามป้ายครับ
แล้วขับรถตรงไปอีก 350 เมตรเท่าๆ กัน
เมื่อขับมาสุดท้าย จะเจอกับป้ายทางเข้าโครงการอยู่ตรงหน้าเราเลยครับ
Project
โครงการดิ โอโซน เพชรเกษม 53 เป็นโครงการทาวน์โฮม บนที่ดินโครงการขนาด 19 ไร่ 90 ตารางวา พัฒนาเป็นทาวน์โฮมทั้งแบบ 2 ชั้น และ 3 ชั้น จำนวน 210 ยูนิต ตัวโครงการออกแบบในสไตล์โมเดิร์น ด้วยรูปลักษณ์อาคารที่พักอาศัยดูสมัยใหม่ เพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ครอบครัวรุ่นใหม่ที่มองหาบ้านใกล้ตัวเมือง
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะมีสวนสาธารณะ สระว่ายน้ำ คลับเฮ้าส์ ฟิตเนส จัดเอาไว้อยู่บริเวณกลางโครงการ เพื่อให้ลูกบ้านทุกหลังสามารถมาใช้บริการได้สะดวก โดยมีระยะเดินไปยังคลับเฮ้าส์ที่ไกลสุดไม่เกิน 200 เมตร
ด้านระบบรักษาความปลอดภัย โครงการจะมีป้อมรักษาความปลอดภัยที่ทางเข้าโครงการ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กล้อง CCTV บันทึกภาพการเข้าออกโครงการ และใช้ระบบคีย์การ์ดเพื่อเข้าโครงการ
ทางเข้าโครงการ มีป้ายชื่อขนาดใหญ่ ใช้ตัวหนังสือสีน้ำเงิน เดินขอบสีเงิน มีพื้นหลังเป็นแนวกำแพงต้นไม้ สร้างบรรยากาศที่สดชื่น เป็นธรรมชาติ
ทางเข้าโครงการไม่มีซุ้มประตูนะครับ แต่มีป้อม รปภ. ตั้งอยู่กลางถนน โดยคนที่มาติดต่อกับลูกบ้านหรือเยี่ยมชมโครงการก็ต้องแลกบัตรก่อนเข้า
ที่ป้อม รปภ. มีเครื่องอ่านคีย์การ์ดสำหรับเปิดไม้กั้นรถ
ด้านบนมีกล้อง CCTV บันทึกภาพการเข้าออกโครงการตลอด 24 ชั่วโมง
คลับเฮ้าส์ของโครงการ ปลูกเป็นอาคารสไตล์โมเดิร์น คอนเท็มโพรารี สูง 2 ชั้น ภายในพื้นที่จะมีสวนสาธารณะกลางแจ้งไว้พักผ่อน พาบุตรหลานมาเดินเล่น
ในส่วนของคลับเฮ้าส์ มีสระว่ายน้ำ แยกสระเด็ก-ผู้ใหญ่ รอบข้างสระทำ Deck เอาไว้
Product
บ้านทาวน์โฮมในโครงการมีทั้งหมด 2 แบบ โดยโครงการจะขายเป็นบ้านเปล่า ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งใดๆ ครับ
-ทาวน์โฮม 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม. ลงบนที่ดินขนาด 18.5 ตร.ว. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
-ทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. ลงบนที่ดินขนาด 22 ตร.ว. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ทาวน์โฮม 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 110 ตารางเมตร ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
ทาวน์โฮม 2 ชั้น ของโครงการ ออกแบบในสไตล์โมเดิร์น ที่จอดรถของทาวน์โฮมแบบนี้จะจอดในตัวบ้านประมาณครึ่งคัน
ส่วน Facade ใช้สีเทาสลับอ่อนเข้ม เพื่อให้ดูนิ่งสงบ ใช้หน้าต่างขนาดใหญ่เป็นช่องรับแสงหลักของอาคาร
มาดูแปลนบ้านกันครับ เริ่มจากหน้าบ้าน จะมีพื้นที่สวนขนาดเล็กอยู่ จะทำเป็นสวนสวยหน้าบ้าน หรือจะใช้
งานอื่นๆ ก็ได้ ถัดมาเป็นที่จอดรถ จะเป็นแบบจอดในตัวบ้านครึ่งคัน ด้านหลังที่จอดมีประตูห้องเก็บของใต้บันได ในตัวบ้าน เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่นเป็นส่วนแรก ถัดไปเป็นโต๊ะทานอาหาร โดยห้องนี้จะออกแบบแปลนเปิดโล่ง ไม่ใช้ผนังกั้นส่วน เพื่อให้บ้านส่วนนี้โปร่งโล่งตามแบบบ้านยุคใหม่ อีกฝั่งเป็นบันไดขึ้นชั้นบน ถัดไปเป็นห้องน้ำและครัวด้านหลังบ้าน
ชั้น 2 เป็นห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง โดยจัดห้องนอนที่ 1 ไว้หน้าบ้าน ทำให้ห้องนี้กว้างขวาง ถ่ายเทอากาศได้ดี มีทั้งหน้าต่างบานเลื่อนและประตูบานเลื่อนที่ระเบียง ส่วนห้องนอนที่ 2 และ 3 จะอยู่ด้านหลังบ้าน
ประตูบ้านชั้นล่าง ใช้เป็นบานเลื่อนสี่ ที่ประตูจะมีตัวล็อก 2 ชั้น
ด้านหลังที่จอดรถจะมีประตูห้องเก็บของ ไว้เก็บของใช้ต่างๆ และอุปกรณ์เกี่ยวกับสวน กับรถได้
สำหรับบ้านแปลงมุมจะมีทางเดินรอบตัวบ้าน ตรงนี้ เราสามารถจัดเป็นสวนทางเดินข้างบ้านได้
ด้านหลังบ้าน เป็นพื้นที่เปิดโล่ง สามารถเทปูนทำเป็นพื้นครัวไทยเอาไว้ทำอาหารได้
ทางเข้าหลักของบ้าน มีชานเทปูน ปูกระเบื้องให้
เข้ามาในตัวบ้านชั้นล่าง จะเป็นห้องนั่งเล่นที่ออกแบบเป็นโถงลึกไปถึงด้านหลังบ้าน โดยไม่ใช้ผนังกั้นระหว่างส่วนใช้สอยอื่นๆ ทำให้บ้านดูโปร่ง ถ่ายเทอากาศได้ดีขึ้น ส่วนห้องนั่งเล่น สามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้ อีกฝั่งวางตู้โทรทัศน์ เลือกแบบที่ไม่ลึกมากจะได้ไม่ขวางทางเดิน
ระยะห่างจากโซฟาไปยังโทรทัศน์มีพอสมควร เลือกใช้โทรทัศน์จอใหญ่ถึง 50 นิ้วได้ ส่วนบนผนังก็หาชั้นวางของหรือตู้ลอยมาติดเพิ่มที่เก็บของได้
ด้านข้างมีพื้นที่ว่างอยู่ สามารถหาโต๊ะหรือตู้มาวางเป็นที่เก็บของใช้ต่างๆ ได้
ถัดมาด้านหลังบ้าน เป็นโต๊ะทานอาหาร ในบ้านตัวอย่างเลือกโต๊ะสำหรับนั่งได้ 4 คน
ฝั่งตรงข้ามโต๊ะอาหาร เป็นประตูเข้าห้องน้ำและห้องครัว
ภายในห้องน้ำ มีอ่างล้างมือ กระจกเงาติดผนัง ด้านในเป็นพื้นที่อาบน้ำ มีช่องสำหรับวางของที่ผนัง
โถสุขภัณฑ์ จะอยู่ตรงข้ามอ่างล้างมือ คนที่กลัวว่าเปิดประตูมาแล้วจะเจอโถรึเปล่าก็วางใจได้
ห้องครัว อยู่ด้านหลังบ้าน ในบ้านมาตรฐานจะเป็นห้องเปล่าที่เดินระบบท่อน้ำดีน้ำทิ้งและระบบไฟฟ้าไว้ให้ ที่ผนังด้านหลังบ้านมีหน้าต่างบานเลื่อนสำหรับเปิดถ่ายเทอากาศ
อีกฝั่ง มีมุมลึกเข้าไป สามารถวางชุดครัวเพื่อแยกตามลักษณะการใช้งานได้
ผนังด้านหลังบ้าน เป็นกระจก ใช้ประตูบานเลื่อนสี่ไว้เปิดเดินไปหลังบ้าน หรือเปิดรับลมถ่ายเทอากาศได้
ขึ้นมาชั้นที่ 2 บันไดบ้านเป็นแบบ 1 พับ โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก เวลาเดินจะรู้สึกแน่นหนา มั่นคง
เมื่อเดินขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับโถงทางเดินเล็กๆ เป็นจุดพัก ก่อนแยกไปยังห้องนอนต่างๆ
มาดูห้องนอนแรกกันก่อน ห้องนอนนี้จะกว้างขวางที่สุดในบ้านแล้วครับ กระจกเยอะมาก ทำให้ห้องดูโปร่ง สว่าง ถ่ายเทอากาศได้ดี พื้นที่ห้องสามารถวางเตียงนอน 6 ฟุตได้สบายๆ
ฝั่งปลายเตียง ในบ้านมาตรฐานจะไม่มีผนังเบากั้นห้องนะครับ ตรงนี้โครงการตกแต่งโชว์ไอเดียการใช้งานเป็นที่วางโทรทัศน์
อีกฝั่งของผนังเบา ทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งอยู่หน้าประตูบานเลื่อนที่เปิดออกไประเบียง
ส่วนของระเบียงบ้าน จะมีพื้นที่พอออกไปยืนได้ สามารถใช้เป็นพื้นที่ตากเสื้อผ้าบางส่วน หรือจะจัดเป็นสวนระเบียงก็ได้
ห้องน้ำชั้นบน จะแยกส่วนระหว่างพื้นที่อาบน้ำกับโถสุขภัณฑ์ให้อยู่กันคนละห้อง เพื่อให้สามารถใช้งานพร้อมกันได้หลายคน
มาดูห้องนอนที่ 2 ทางฝั่งหลังบ้านกันครับ ห้องนอนนี้จะมีขนาดเล็กลงจากห้องนอนแรกพอสมควร ในบ้านตัวอย่างแต่งเป็นเตียงนอน 3 ฟุต สำหรับนอนคนเดียว
ด้านข้างเตียงนอนเป็นพื้นที่ว่าง สามารถหาโต๊ะเขียนหนังสือกับตู้เสื้อผ้ามาวางตามห้องตัวอย่างได้
ห้องนอนที่ 3 ขนาดใกล้เคียงกับห้องนอนที่ 2 สามารถวางเตียงขนาด 3-4 ฟุตได้สบายๆ
ข้างเตียงอีกฝั่ง เป็นพื้นที่ว่างสำหรับตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของเล็กๆ
ทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 160 ตารางเมตร ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ทาวน์โฮม 3 ชั้น ของโครงการ จะเป็นบ้านโซนใกล้สวนสาธารณะ หน้าบ้านมีความกว้าง 5.7 เมตร สามารถจอดรถหน้าบ้านได้ 2 คัน
ส่วน Facade จะเลือกใช้สีเทา น้ำตาล เหลือง ในการตกแต่ง ใช้หน้าต่างขนาดใหญ่เป็นช่องรับแสงหลักของอาคาร ที่โถงบันไดแต่ละชั้นมีช่องรับแสงไม่ให้เกิดความมืด
แปลนบ้าน เริ่มจากหน้าบ้าน เป็นที่จอดรถ จะเป็นแบบจอดหน้าตัวบ้านได้ 2 คัน ถัดไปเป็นประตูทางเข้าบ้าน ด้านข้างเป็นประตูห้องเก็บของใต้บันได ในตัวบ้าน เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่นเป็นส่วนแรก ถัดไปเป็นโต๊ะทานอาหาร ห้องนี้จะออกแบบให้โปร่งโล่ง สามารถมองทะลุไปจนถึงหลังบ้าน และฝ้าเพดานที่สูง สไตล์ลอฟต์ อีกฝั่งเป็นบันไดขึ้นชั้นบน ถัดไปเป็นห้องน้ำ ส่วนด้านหลังบ้านแบ่งเป็น 2 ห้อง ได้แก่ ห้องนอนที่ 4 และห้องครัว สำหรับทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่เปิดโล่งหลังบ้านจะเทปูน ลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้านกันพื้นทรุด เพื่อรองรับการต่อเติมในอนาคต
ชั้น 2 เป็นห้องนอนที่ 1 มีห้องน้ำในตัว ส่วนชั้นที่ 3 เป็นห้องนอนที่ 2 และ 3 โดยห้องนอนที่ 2 จะอยู่ทางหน้าบ้าน ส่วนห้องนอนที่ 3 จะอยู่ทางหลังบ้าน
ทางประตูทางเข้าบ้าน เป็นประตูกระจกแบบบานเลื่อนสี่ ด้านข้างเป็นประตูห้องเก็บของ
สำหรับบ้านแปลงมุม จะมีทางเดินรอบตัวบ้าน สามารถจัดเป็นสวนทางเดินข้างบ้านได้
ด้านหลังบ้านส่วนนี้ ทางโครงการจะลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้านเพื่อป้องกันพื้นทรุดในอนาคต และเทปูนเตรียมไว้สำหรับลูกบ้านต่อเติมในอนาคตอีกเช่นกัน
ตัวบ้านชั้นล่าง เป็นห้องนั่งเล่นที่ออกแบบเป็นโถงลึกไปถึงหลังบ้านโดยไม่ใช้ผนังทึบกั้นส่วน เพื่อให้บ้านชั้นล่างดูโปร่ง ถ่ายเทอากาศได้ดีขึ้น ส่วนห้องนั่งเล่น สามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง มีเดย์เบดให้เหยีดขาได้
อีกฝั่ง วางตู้โทรทัศน์ เลือกแบบที่ไม่ลึกมาจะได้ไม่ขวางทางเดิน ระยะห่างจากโซฟาไปยังโทรทัศน์ค่อนข้างกว้าง สามารถเลือกใช้โทรทัศน์จอใหญ่ถึง 50 นิ้วได้สบายๆ ที่ผนังจะเพิ่มพื้นที่เก็บของด้วยตู้ลอยหรือชั้นวางของติดผนังก็ได้
บันไดขึ้นชั้นบน จะอยู่ถัดจากผนังที่วางโทรทัศน์
ถัดมาด้านหลังบ้าน เป็นโต๊ะทานอาหาร ในบ้านตัวอย่างเลือกโต๊ะนั่ง 4 คนได้ สำหรับบ้านแปลงมุมจะมีหน้าต่างข้างตัวบ้าน ทำให้ฟังก์ชันการใช้งานคล้ายกับบ้านแฝด ส่วนประตูฝั่งซ้ายมือที่เห็นเป็นประตูห้องน้ำและประตูของห้องนอนที่ 4
ภายในห้องน้ำ มีอ่างล้างมือ กระจกเงาติดผนัง ด้านในเป็นพื้นที่อาบน้ำ มีช่องสำหรับวางของที่ผนัง
ห้องนอนที่ 4 สามารถปรับใช้เป็นห้องอื่นๆ ก็ได้ เช่น Family Area ห้องอ่านหนังสือ ห้องทำงาน
อีกฝั่งของห้อง สามารถแต่งโดยใช้โต๊ะทำงานที่มีความกว้างสำหรับใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้
ถัดไปด้านหลังบ้านจะเป็นห้องครัว ซึ่งทางโครงการทำประตูบานเลื่อนโชว์ไอเดียการกั้นส่วนห้องครัวกับส่วนห้องนั่งเล่นเพื่อไม่ให้มีกลิ่นควันลอยไปรบกวน
ห้องครัว ในบ้านมาตรฐานจะเป็นห้องเปล่า มีระบบท่อน้ำดีน้ำทิ้ง และระบบไฟฟ้าเดินเอาไว้ ในบ้านตัวอย่างแต่งโชว์ไอเดียการใช้สอยให้ดูเป็นตัวอย่างครับ
อีกฝั่ง เป็นตำแหน่งซิงก์ล้างจาน และที่วางตู้เย็น
บันไดบ้าน โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก เวลาเดินจะรู้สึกแน่นหนา มั่นคง
ห้องนอนที่ 1 พื้นที่กว้างขวางดี สามารถจัดมุมนั่งเล่น โต๊ะทำงานเพิ่มเติมภายในห้องได้
พื้นที่ส่วนเตียงนอน สามารถหาเตียงขนาด 6 ฟุตมาใช้ได้ ฝั่งปลายเตียงหาตู้วางโทรทัศน์มาใช้ โดยเลือกแบบที่ไม่ลึกมากเพื่อไม่ให้กีดขวางทางเดินรอบเตียง
ข้างเตียงอีกฝั่ง วางเป็นโต๊ะทำงาน สำหรับนั่งทำงานในบ้านได้เลย ส่วนหน้าต่างจะเป็นแบบบานกระทุ้ง เปิดรับลมถ่ายเทอากาศ
ถ้าเปิดหน้าต่างบานกระทุ้งแล้วมองลงมาจะเห็นส่วนของห้องนั่งเล่นเพดานสูงครับ
สำหรับทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ข้างประตูห้อง โดยทำเป็น Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว
ในห้องน้ำ มีอ่างล้างมือ กระจกเงาติดผนัง ด้านในเป็นพื้นที่อาบน้ำ มีช่องสำหรับวางของที่ผนัง โดยตำแหน่งอ่างล้างมือจะอยู่ตรงกับประตูทางเข้า
สำหรับชั้นที่ 3 จะเป็นส่วนของห้องนอนที่ 2 และ 3 ที่โถงบันไดมีหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน และบานช่องแสงอีก 1 บาน เพื่อรับแสงสว่างจากภายนอกเข้ามา ช่วยให้ส่วนนี้ดูสว่างมากขึ้น
เริ่มจากห้องนอนที่ 2 ฝั่งหน้าบ้าน มีความกว้างขวางดีทีเดียวครับ พื้นที่ห้องสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้
ฝั่งปลายเตียง แต่งเป็นโต๊ะสำหรับนั่งทำงาน เขียนหนังสือ ที่ผนังเสริมด้วยตู้ลอยเพื่อให้มีพื้นที่เก็บของเยอะขึ้น
ระเบียงห้อง ขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถออกไปยืนรับลมได้ จะใช้เป็นพื้นที่ตากผ้าเล็กๆ หรือจะจัดสวนริมระเบียงเพิ่มความสวยงามก็ได้
สำหรับห้องนอนที่ 3 จะอยู่ฝั่งหลังบ้าน สามารถวางเตียงนอนขนาด 3-5 ฟุตได้อยู่ครับ แต่อาจจะเบียดหน่อย ในห้องมีหน้าต่างบานเลื่อน เปิดถ่ายเทอากาศได้ ที่ข้างเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ 2 บานเปิด เก็บของได้เยอะทีเดียว
ฝั่งปลายเตียง ทำเป็นโต๊ะทำงาน เขียนหนังสือ มีตู้ลอยติดผนัง เพิ่มพื้นที่เก็บของในห้อง
สุดท้าย มาดูห้องน้ำชั้นบนครับ มีอ่างล้างมือ กระจกเงาติดผนัง ถัดมาเป็นพื้นที่อาบน้ำ มีช่องสำหรับวางของที่ผนัง และโถสุขภัณฑ์อยู่ข้างประตูห้องน้ำ
Price
โครงการดิ โอโซน เพชรเกษม 53 เปิดขายทาวน์โฮมทั้ง 2 แบบแล้ว โดยบ้านมาตรฐานจะเป็นบ้านเปล่า ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง บ้านแต่ละแบบมีราคาเริ่มต้น ดังนี้
-ทาวน์โฮม 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม. ลงบนที่ดินขนาด 18.5 ตร.ว. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น เริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
-ทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. ลงบนที่ดินขนาด 22 ตร.ว. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น เริ่มต้น 3.49 ล้านบาท
Conclusion
โครงการดิ โอโซน เพชรเกษม 53 เป็นโครงการทาวน์โฮมที่อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่กำลังจะเปิดในปลายปี 62 และมีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการอยู่อาศัยหลายอย่าง โดยจุดเด่นของโครงการมีดังนี้
-ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีหลักสอง โดยห่างจากรถไฟฟ้า 2.3 กม. สามารถเดินทางไปได้ทั้งรถสาธารณะ วินมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ส่วนตัว ไปจอดที่อาคารจอดรถ เลี่ยงรถติดในอนาคตได้
-ใกล้ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นสิ่งที่คนเมืองยุคใหม่ต้องการ ทั้งเพื่อจับจ่ายใช้สอย พักผ่อน และใกล้โรงพยาบาล ก็อุ่นใจกว่าเวลาเจ็บป่วย
-ใกล้ถนนเส้นหลักหลายเส้น เช่น กาญจนาภิเษก ราชพฤกษ์ สามารถเดินทางไปยังตัวเมืองได้หลายส่วน ไม่ว่าจะทางสาทร หรือฝั่งศิริราช
-มีแบบบ้านเพื่อตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวยุคใหม่ ทั้งครอบครัวเริ่มต้น ครอบครัวขยายที่กำลังมองหาบ้านในทำเลนี้ ทำให้คนที่ต้องการบ้านมีตัวเลือก ทั้งแบบ 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ และ 3 ชั้น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
-ราคาบ้าน ถือว่ายังไม่สูงมาก เป็นตัวเลือกสำหรับครอบครัวที่งบประมาณไม่สูงพอสำหรับบ้านเดี่ยว เนื่องจากโครงการอยู่ในซอยลึก 1 กม. เพียง 900 ม. ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า ซึ่งหากเป็นราคาที่ต่ำกว่านี้ก็จะอยู่ในซอยย่อยที่ค่อนข้างลึก หรืออยู่ห่างจากแนวรถไฟฟ้าค่อนข้างมาก หรือถ้าเป็นบ้านเดี่ยว ราคาก็จะเริ่มต้นตั้งแต่ 4 ล้านบาทเป็นต้นไป ซึ่งเกินจากงบประมาณของคนกลุ่มนี้ค่อนข้างมากทีเดียว
ดังนั้น ถ้าคุณกำลังมองหาที่อยู่อาศัยโซนบางแค เพื่ออยู่เป็นครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัวเดี่ยว ครอบครัวเริ่มต้น หรือครอบครัวขยาย ต้องการทาวน์โฮมที่ฟังก์ชันเน้นคุ้มค่า ตัวบ้านมีหลายห้อง ใกล้รถไฟฟ้า ราคาไม่เกิน 4 ล้านบาท ก็แวะมาดูบ้านจริงที่โครงการได้เลยครับ
Fact Sheet
โครงการ : ดิ โอโซน เพชรเกษม 53
เจ้าของโครงการ : บริษัท ประชาสิริ จำกัด
ที่ตั้งโครงการ : ซ.เพชรเกษม 53
ขนาดที่ดิน : 19-0-90 ไร่
ประเภทโครงการ : ทาวน์โฮม
จำนวนยูนิต : 210 ยูนิต
แบบบ้าน : -ทาวน์โฮม 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม. ลงบนที่ดินขนาด 18.5 ตร.ว. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2
ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
-ทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. ลงบนที่ดินขนาด 22 ตร.ว. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ
2 ที่จอดรถ
สิ่งอำนวยความสะดวก : สวนสาธารณะริมคลองภาษีเจริญ สระว่ายน้ำ คลับเฮ้าส์ ฟิตเนส
ระบบรักษาความปลอดภัย : ป้อมรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กล้อง CCTV ระบบคีย์การ์ด
ราคาเริ่มต้น : 2.49 ล้านบาท
โทร. : 02-801-3355-6, 02-801-3356, 063-642-6301-3
เว็บไซต์ : www.prachasiri.com
Facebook : www.facebook.com/home.prachasiri
ติดตามข่าวสารอสังหาฯ และข่าวดังในกระแส www.home.co.th/news
บ้าน, บ้านใหม่, ราคาบ้าน, ซื้อบ้าน, รีวิวบ้าน, ทาวน์โฮม, ทาวน์เฮ้าส์, รีวิวคอนโด
การคำนวณยอดผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน
ปรับรายละเอียดด้านล่างเพื่อคำนวณยอดผ่อนชำระต่อเดือน