รีวิวคอนโด มารุ เอกมัย 2 ให้ส่วนกลางเยอะ ใช้งานได้หลายรูปแบบ บนทำเลที่ไลฟ์สไตล์กินเที่ยวที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ
05/07/2022
โครงการมารุ เอกมัย 2 จากเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ที่ตั้งโครงการอยู่ท่ามกลางย่านไลฟ์สไตล์ของเอกมัย เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ Live—Work—Play ของคนเมืองรุ่นใหม่ โดยมารุ จะมีจุดเด่นเรื่องการออกแบบห้องให้มียูนิตพิเศษ เช่น ห้องดูเพล็กซ์ เพดานสูง หรือบางห้องได้ระเบียงพิเศษ และมีส่วนกลางที่จัดมาหลากหลายรูปแบบอยู่ทั้งภายในและภายนอกอาคาร
Company
มารุ เอกมัย 2 พัฒนาโครงการโดย บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมที่มีประสบการณ์พัฒนาคอนโดฯ ระดับลักซูรีใจกลางเมืองมาแล้วหลายโครงการ ทั้งในโซนสุขุมวิท สีลม พญาไท ทองหล่อ ก็ถือว่ามีความชำนาญคอนโดฯ เซ็กเมนต์นี้มากทีเดียว
ส่วนโครงการมารุ เป็นแบรนด์ใหม่ ที่เปิดตัวพร้อมกัน 2 ทำเล ได้แก่ ทำเลลาดพร้าว และเอกมัย ซึ่งโครงการมารุ ก็มีจุดเด่นในเรื่องส่วนกลางที่ออกแบบมาให้พื้นที่ Indoor และ Outdoor มีความเชื่อมต่อกันมากขึ้น มีส่วนกลางที่หลากหลาย และที่สำคัญ คือ สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ Location
โครงการมารุ เอกมัย 2 ตั้งอยู่ใน ซ.สุขุมวิท 63 (เอกมัย) ระหว่างเอกมัย ซ.2 และเอกมัย ซ.4 ที่ตั้งโครงการอยู่ตรงข้ามกับอาคาร Bangkok Business Center เลยครับ ทำเลเอกมัย จัดว่าเป็นย่านที่พักอาศัยที่มีแหล่งไลฟ์สไตล์อยู่ในตัวคู่กันกับทองหล่อ (สุขุมวิท 55) เลยครับ เพราะถนนสองเส้นนี้อยู่ขนานกัน และมี ซ.ทองหล่อ 10 เป็นถนนเชื่อมต่อ ซึ่งก่อนหน้านี้ คอนโดมิเนียมรวมถึงแหล่งไลฟ์สไตล์ต่างๆ ก็มักจะเกิดขึ้นที่ทองหล่อ เป็นส่วนมาก แต่ตอนนี้ ที่ดินแปลงสวยๆ บนทองหล่อ โดยเฉพาะช่วงต้นซอยเริ่มมีน้อยลง บวกกับราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้การพัฒนาต่างๆ เริ่มขยับมาสู่เอกมัย เป็นระยะๆ
ลองดูแผนที่นี้ประกอบนะครับ จะเห็นว่าที่ตั้งโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อมจริงๆ
ทำเลเอกมัย จะเด่นเรื่องแหล่งไลฟ์สไตล์ยามค่ำคืนครับ มีผับ ร้านอาหารนั่งดื่ม นั่งชิลอยู่เยอะทีเดียว ทำให้เหมาะกับคนเมืองรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก ซึ่งจุดเด่นนี้ ทำให้เอกมัย มีความอุดมสมบูรณ์ หาของกินของใช้ได้ง่าย มีร้านอาหารอร่อยๆ อยู่หลายร้านทีเดียว
เรื่องจับจ่ายใช้สอยจะมีบิ๊กซี เอกมัย และอินเด็กซ์ เป็นแหล่งซื้อหาของกินของใช้ใกล้กับโครงการ นอกจากนี้ ก็ยังมีร้านสะดวกซื้อเปิดอยู่เป็นระยะๆ ทำให้สามารถหาซื้อของได้ง่ายพอสมควร
ที่แยกเอกมัย จะมีเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เอกมัย อาคารสหกรณ์กรุงเทพ ซึ่งมีร้านกาแฟ ร้านขายของเปิดอยู่ครับ ฝั่งตรงข้ามเป็นสถานีขนส่งเอกมัย ด้านหน้ามีร้าน 7-11 เปิดอยู่ ถัดไปที่หน้า ซ.สุขุมวิท 42 มีศูนย์การแพทย์ Bangkok Mediplex และห้างเกตเวย์ เอกมัย
โครงการพาร์คเลน เอกมัย เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ใกล้กับโครงการ มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และซูเปอร์มาร์เก็ตของแม็กซ์แวลู
เอ็มเค โกลด์ ก็อยู่ไม่ไกลจากโครงการครับ วันไหนนึกอยากกินก็เดินมาได้เลย ห่างจากโครงการแค่ 270 ม.
ถัดมาทางฝั่งต้นถนนเอกมัย มี The Horizon ร้านกาแฟ Au Bon Pain ร้านไอศครีม และร้านอื่นๆ อยู่ครับ
ต้นถนนเอกมัย เดินไปนิดเดียวก็ขึ้นรถไฟฟ้าไปที่ต่างๆ ตามแนวรถไฟฟ้าได้เลย ถือว่าสะดวกมากครับ
ห้างเกตเวย์ เอกมัย อยู่ติดกับ BTS สถานีเอกมัยเลย เป็นห้างสรรพสินค้า มีร้านค้า ร้านอาหาร และซูเปอร์มาร์เก็ตให้แวะซื้อของ
จากเอกมัย ไปสถานีพร้อมพงษ์ ห่างกันแค่ 2 สถานีรถไฟฟ้าเท่านั้น ตรงนี้มีทั้งห้างเอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และร้านค้า ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น อยู่เยอะเลยครับ
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า
จากโครงการ สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้สะดวกครับ ที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจาก BTS สถานีเอกมัย ประมาณ 450 ม. ถือเป็นระยะที่เดินได้สบายๆ มีทางเท้าเดินง่ายตลอดเส้นทาง หรือถ้าไม่อยากเดิน จะนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไป ก็มีวินหน้าเอกมัย ซ.4 เดินเลยโครงการไปแค่ 30 ม. ค่ารถไปปากซอยเอกมัยก็ 15 บาท
สำหรับคนที่เดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟฟ้า จากเอกมัยไปย่านสำคัญต่างๆ ก็ถือว่าใกล้ครับ
-1 สถานี ถึง BTS ทองหล่อ เป็นย่านไลฟ์สไตล์ แหล่งแฮงเอาต์ที่ขึ้นชื่อของกรุงเทพฯ
-2 สถานี ถึง BTS พร้อมพงษ์ แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้าเอ็มควอเทียร์ เอ็มโพเรียม และย่านร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น
-3 สถานี ถึง BTS อโศก ย่านอาคารสำนักงาน เป็น CBD ของกรุงเทพฯ และเชื่อมต่อกับ MRT สถานีสุขุมวิท
-4 สถานี ถึง BTS นานา แหล่งธุรกิจและสถานบันเทิงยามค่ำคืน
-5 สถานี ถึง BTS เพลินจิต สามารถเดินต่อไป ถ.วิทยุ ย่านสำนักงาน มีสถานทูตหลายแห่ง ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี
-6 สถานี ถึง BTS ชิดลม เป็นทำเลต่อเนื่องจากเพลินจิต เด่นเรื่องเป็นศูนย์กลางธุรกิจ มี รร.มาแตร์เดอี ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชิดลม และโรงแรมชั้นนำหลายแห่ง
-7 สถานี ถึง BTS สยาม ย่านศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ทั้งเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ สยามสแควร์วัน ดิจิตอล เกตเวย์ แหล่งท่องเที่ยวของวัยรุ่น สยามสแควร์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การเดินทางด้วยรถยนต์
จากโครงการ สามารถใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางไปพื้นที่สำคัญๆ ของกรุงเทพฯ ได้ เช่น จะไปโซนพระราม 4 สาทร ก็ขับออก ถ.สุขุมวิท แล้วเลี้ยวขวาที่แยกพระโขนง จากนั้นขับตรงไป เลี้ยวซ้ายที่แยกกล้วยน้ำไท เพื่อตรงไปขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครได้
ถ้าจะไปโซนพระราม 9 นอกจากนั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานีอโศก แล้วเปลี่ยนเส้นทางไป MRT สถานีสุขุมวิท แล้วไปลงที่สถานีพระราม 9 ก็ขับรถไปได้สะดวกเช่นกัน จากโครงการ ให้ขับย้อนขึ้นทางไป ถ.เพชรบุรี แล้วข้ามสะพานต่างระดับไปเลี้ยวซ้ายเข้า ถ.พระราม 9 จากนั้นก็ขับตรงไปจนถึงแยกพระราม 9
ถ้าหากไม่เลี้ยวซ้ายเข้า ถ.พระราม 9 ก็สามารถขับตรงไป ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม ได้อีกทาง Project
โครงการมารุ เอกมัย 2 เป็นคอนโดมิเนียมสูง 32 ชั้น 1 อาคาร มียูนิตพักอาศัยทั้งหมด 333 ยูนิต มีที่ดินโครงการขนาด 1-2-77 ไร่ ตัวอาคารยังไม่มีตึกสูงขึ้นบังวิวในระยะประชิดครับ และก็ยังมีจุดเด่นเรื่องการออกแบบส่วนกลางให้พื้นที่ Indoor สามารถเชื่อมต่อกับ Outdoor เพื่อให้ตรงกับไลฟ์สไตล์คนเมืองรุ่นใหม่มากขึ้น
อาคารพักอาศัยสูง 32 ชั้น ออกแบบในสไตล์โมเดิร์น ตัวอาคารใช้สีขาว-เทาเป็นหลัก จากมุมนี้ จะเห็นสวนลอยฟ้าที่ชั้น 28 และสกายเลานจ์ ชั้น 32 เป็นจุดชมวิวเมืองหันไปทางทองหล่อครับ
พื้นที่ส่วนกลางจะเริ่มที่ชั้น 1 ครับ จะมีสวนพักผ่อน (Wellness Yard) Tea-house Pavilion ที่วางหลบอยู่ในมุมสงบๆ ของโครงการ ซึ่งพื้นที่ Outdoor ส่วนนี้จะอยู่ในระยะถอยร่นจากถนนสู่ตัวอาคาร ช่วยเบรกอารมณ์ความเร่งรีบจากภายนอกให้รู้สึกสงบลงได้ครับ ถัดมาเป็นส่วนกลางแบบ Indoor ได้แก่ Sunken Living Room, Coworking Terrace, Co-living Space, Meeting Room จัดเป็นส่วนต้อนรับและพักผ่อนสำหรับลูกบ้าน ก่อนจะเข้าสู่โถงลิฟต์โดยสารขึ้นชั้นบน ลิฟต์ของโครงการจะมีทั้งหมด 3 ตัว แบ่งเป็นลิฟต์โดยสาร 2 ตัว และลิฟต์ Service 1 ตัว
ส่วนชั้นที่ 2-8 ของอาคารจะเป็นที่จอดรถทั้งหมดครับ โดยโครงการจะมีที่จอดรถทั้งแบบปกติและแบบอัตโนมัติ รองรับรถยนต์ได้ทั้งหมด 165 คัน หรือเทียบเป็น 48%
ส่วนที่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 9 เป็นต้นไป โดยชั้น 9 จะมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 15 ยูนิต โดยจะมียูนิตพิเศษฝั่งทิศตะวันออก ได้ระเบียงพิเศษใหญ่กว่าห้องอื่นๆ เพิ่มความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านในเมืองครับ
ถัดมาชั้นที่ 10-27 จะใช้แปลนเดียวกันทั้งหมด มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 15 ยูนิตเช่นกัน
มาถึงชั้นที่ 28 ชั้นนี้จะมีความพิเศษ คือ ทั้งชั้นนี้จะเป็นยูนิตแบบ Duplex ได้เพดานที่มีความสูง 5.5 ม. ทำให้ได้มุมมองที่โปร่งมากขึ้น และมียูนิตมุม ขนาด 76 ตร.ม. ที่มีระเบียงพิเศษขนาดใหญ่ฝั่งทิศใต้เพิ่มเข้ามา ซึ่งระเบียงตำแหน่งนี้มีห้องเดียวทั้งโครงการนะครับ และฝั่งด้านหน้า (ทิศตะวันตก) จะมีระเบียงสวนขนาดใหญ่ไว้เป็นที่นั่งพักผ่อน ชมวิว ภายในสวนจะมีพื้นที่พักผ่อน พื้นที่ชมวิว สร้างเป็น Box ส่วนตัวด้วยครับ
ชั้นที่ 29-30 แปลนอาคารจะเหมือนกัน โดยห้องทั้งหมดจะเป็นแบบ Duplex แต่จะตัดสวนที่ระเบียงด้านหน้าออกไปครับ
ชั้นที่ 31 จะผสมกันระหว่างพื้นที่ส่วนกลางและยูนิตพักอาศัย โดยส่วนกลางหลักๆ ทั้งสระว่ายน้ำ พื้นที่พักผ่อน Co-creation Space ห้องคาราโกะต่างๆ จะอยู่ที่ชั้นนี้ โดยชั้นนี้จะมีห้องพักเพียง 2 ยูนิต คือ Duplex 2 ห้องนอน อีกอย่าง คือ ความสูงของชั้นนี้จะพ้นอาคาร Bangkok Business Center ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามไปแล้ว ทำให้ได้วิวเมืองมุมกว้างแบบไม่มีอะไรมาบังแล้วครับ
ชั้นที่ 32 ตัวอาคารก็จะถอยร่นเข้ามาอีกส่วนหนึ่ง โดยชั้นนี้จะมีฟิตเนส Aerial Yoga และสกายเลานจ์ ห้องพักอาศัยของชั้นนี้จะเป็น Duplex ทั้งหมดครับ
ชั้น Rooftop จะเป็นส่วนกลาง สวนลอยฟ้า สนามเด็กเล่น BBQ Sunken Courtyard และมีมุม Coworking Space และ Napping Hill ที่คาดว่าต้องการความสงบอยู่ข้างๆ กัน
จะเห็นว่า ภายในอาคารจัดพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้หลายจุดเลยครับ แยกประเภท Activity ที่ต้องการความเงียบสงบ กับพื้นที่พักผ่อนสนุกสนานที่อาจเกิดเสียงดังออกจากกัน เพื่อให้ผู้อาศัยสามารถใช้งานร่วมกันได้เต็มที่
ด้านระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการ ทางโครงการจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กล้อง CCTV ระบบคีย์การ์ด เพื่อเปิดประตูเข้าโถงลิฟต์ชั้นล่าง และสั่งการลิฟต์แบบล็อกชั้น
สำหรับสัตว์เลี้ยง โครงการก็อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์และพามายังพื้นที่ส่วนกลางที่จัดให้ได้ครับ แต่ต้องใช้ลิฟต์ Service เท่านั้น ต้องมีสายจูง และเข้าได้เฉพาะส่วนที่โครงการจัดเตรียมไว้ให้เท่านั้นครับ
ทางเข้าหลักของโครงการ ตกแต่งด้วยกระเบื้องหินอ่อน ทางเดินขนาบข้างด้วยหินแม่น้ำ สร้างบรรยากาศสงบ น่าพักผ่อน
Tea-house Pavilion เป็นมุมอเนกประสงค์ที่ชั้นดาดฟ้า ผนังเป็นกระจก ทำให้พื้นที่ด้านในดูโปร่งโล่ง มองเห็นธรรมชาติของส่วนกลางได้ แต่ยังได้ความเงียบสงบ ใช้เป็นที่นั่งพักผ่อน ทำงานได้
มุม Sunken Living ที่นั่งพักผ่อนที่ไปจากพื้นหลักของอาคาร ตรงนี้เป็นส่วนเพดานสูงอยู่แล้วครับ ทำให้ช่วงเหนือศีรษะเกิดเป็นสเปซโปร่งโล่งเป็นพิเศษ มีผนังกระจกรอบด้านเพื่อให้ใกล้ชิดวิวธรรมชาติรอบนอก
Co-living Space อยู่ถัดจาก Sunken Living มีพื้นที่สามารถเปิดออกไปส่วน Outdoor ได้ ตรงนี้โครงการเตรียมโต๊ะเก้าอี้และที่นั่งเอาไว้หลายจุด ใช้เป็นที่นั่งทำงานหรือรับแขกได้ด้วย
Quite Area เป็นมุมสำหรับนั่งอ่านหนังสือ ทำงาน หรือฟังเพลงเพลินๆ ก็ได้ครับ ลักษณะเป็น Dorm แยก คล้ายกับห้องพักแบบแคปซูล
อีกมุมของ Quite Area มีที่นั่งและฉากกั้น เพิ่มความเป็นส่วนตัว
Co-kitchen เป็นที่สำหรับจัดปาร์ตี้ จะจัดเองหรือจ้าง Catering มาก็ได้ครับ มีชุดครัวเตรียมไว้ให้เรียบร้อย
ห้องฟิตเนสเพดานสูง ใช้ผนังกระจกหันรับวิวเมืองฝั่งทิศตะวันตก ซึ่งเป็นวิวฝั่งทองหล่อ และอโศกครับ
Product
ยูนิตพักอาศัยของโครงการจะมีทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่
-แบบ 1 ห้องนอน Smart พื้นที่ใช้สอย 29-30 ตร.ม.
-แบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 32.5-35.5 ตร.ม.
-แบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 54-60.5 ตร.ม.
-แบบ 1 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอย 41-42 ตร.ม.
-แบบ 2 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอย 45-76 ตร.ม.
โดยห้องของโครงการจะขายแบบ Fully Fitted ให้ชุดครัว ตู้เสื้อผ้า สุขภัณฑ์? ฉากกั้นอาบน้ำ ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าจะเป็นเครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type ครับ
สำหรับห้องตัวอย่างจะมีแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 33-33.5 ตร.ม. และแบบ 1 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอย 40-41 ตร.ม. ให้ชมครับ แบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 29-35.5 ตร.ม.
ยูนิตแบบ 1 ห้องนอนของโครงการ จะใช้ผนังกระจกเข้ามากั้นส่วนระหว่างห้องนอนและส่วน Service ได้แก่ ห้องครัว และโต๊ะทานข้าว เพื่อให้ห้องนอนมีพื้นที่กว้างขวางและโปร่งโล่งมากที่สุด โดยโครงการจะวางตำแหน่งชุดครัวและตู้เก็บของเอาไว้ใกล้กับประตูทางเข้า เพื่อให้ทันทีที่เข้ามาในห้องก็สามารถวางของที่ถือมา ถอดรองเท้าเก็บได้เป็นระเบียบ ถัดมาเป็นพื้นที่โต๊ะทานข้าว ออกแบบให้วางหันเข้าผนังเพื่อไม่กินพื้นที่ใช้สอย จากนั้นเป็นผนังกระจก มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นส่วนห้องนอน ในห้องนอนมีมุมอเนกประสงค์ริมหน้าต่าง จะทำเป็นมุมนั่งพักผ่อนหรือโต๊ะทำงาน ได้วิวโล่งๆ ให้หัวแล่นๆ ก็ได้ ส่วนห้องน้ำจะเข้าจากทางห้องนอนครับ
เริ่มจากเปิดประตูห้องเข้าไปเลยครับ จะเจอส่วนของครัวกับตู้เก็บของอเนกประสงค์ก่อนครับ ตรงนี้มองว่าสะดวกสำหรับคนอยู่คอนโดมากๆ เพราะคอนโดพื้นที่เก็บของมีจำกัด การที่โครงการจัดพื้นที่มาให้แต่แรกเลยจะทำให้ผู้อาศัยมีพื้นที่เก็บของได้เป็นระเบียบมากขึ้น
ชุดครัวที่โครงการให้มีตู้มาเยอะทีเดียว ท็อปครัวที่โครงการให้เป็นหินเทียม สีขาวสะอาด ซิงก์ล้างจานเป็นแบบหลุมทรงสี่เหลี่ยม เครื่องใช้ไฟฟ้ามีเตาแม่เหล็กไฟฟ้า และฮูดดูดควันของ Franke
มาดูตู้ต่างๆ ของชุดครัวบ้างครับ ตู้ลอยติดผนังจะใช้เป็นกระจกฝ้า ช่วยพรางของในตู้ให้ดูเรียบร้อย และยังเช็ดทำความสะอาดง่าย ส่วนตู้ตั้งพื้นมีช่องวางไมโครเวฟ มีลิ้นชักสำหรับเก็บช้อนส้อม ของใช้ต่างๆ ตู้ใต้ซิงก์เปิดออกมาจะมีถังขยะ บิวท์ติดมากับตู้
ฝั่งตรงข้ามชุดครัวเป็นตู้อเนกประสงค์ครับ ด้านล่างสุดเป็นช่องเก็บรองเท้า ด้านบนเป็นตู้เอาไว้เก็บข้าวของต่างๆ ให้เป็นระเบียบ
โต๊ะทานข้าว วางแบบหันหน้าเข้าผนัง ตำแหน่งจะอยู่ข้างๆ ตู้เย็น การใช้งานระหว่างครัวกับพื้นที่ตรงนี้ถือว่าสะดวกดีครับ
ถัดมาเป็นส่วนของห้องนอนแล้วครับ ระหว่างห้องครัวกับห้องนอน โครงการใช้ผนังกระจกเพื่อกั้นส่วน มีประตูบานกระจกนิรภัยเลื่อนเพื่อเปิดเข้าในห้องนอน ข้อดี คือ ทำให้ห้องเป็นสัดส่วน ห้องไม่มืดทึบด้วยครับ ป้องกันกลิ่นควันจากห้องครัวไม่ให้ลอยไปรบกวนในห้องนอนได้ด้วย
ส่วนของห้องนอน ทำได้กว้างขวางดี วางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้อยู่นะครับ ด้านข้างเตียงมีพื้นที่สำหรับวางตู้ หรือโต๊ะไว้วางของใช้ หรือวางสมาร์ทโฟน นอนเล่นไปก็ชาร์จไปด้วยก็ได้
ฝั่งปลายเตียง เหลือพื้นที่ให้เดินพอสมควรเลย มีผนังสำหรับตู้วางโทรทัศน์ ส่วนห้องตัวอย่างปล่อยผนังนี้ให้โล่งแล้วกรุด้วยหินอ่อน โชว์ความสวยงามแทน
ด้านข้างเตียงนอนตรงนี้จะมีมุมอเนกประสงค์อยู่ครับ จะวางโซฟาไว้นั่งเล่นแบบนี้ก็ได้ หรือจะหาโต๊ะทำงานหันหน้าเข้ากระจก เทควิวเมืองกว้างๆ ก็ดีครับ ทำงานอ่านหนังสือไป ชมวิวเมืองไป หัวแล่นดีนะครับ
ส่วนของระเบียงห้อง มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นส่วนอยู่ พื้นที่ของระเบียงสามารถออกไปยืนใช้งานได้
ระเบียงห้อง มีมุมสำหรับวางเครื่องซักผ้าให้ครับ โดยจะมีกริลสำหรับบังแสงแดดให้ อีกฝั่งหันไปเป็นกระจกเข้ามุมของห้องนอน
อีกฝั่งของห้องนอน จะมีทางเดินเชื่อมไปยังห้องน้ำ
พื้นที่หน้าห้องน้ำเป็นตำแหน่งวางตู้เสื้อผ้าครับ สามารถหาตู้บิวท์ให้สูงถึงเพดาน เพิ่มพื้นที่จัดเก็บให้มากขึ้น หรือจะใช้ตู้เสื้อผ้าแบบเปลือย ไม่มีหน้าบานแบบในห้องตัวอย่างก็สวยไปอีกแบบ
ภายในห้องน้ำ เปิดประตูเข้าไปจะเจอกับอ่างล้างมือก่อนครับ ที่ผนังติดกระจกเงาไว้ส่องเวลาล้างหน้า ส่วนด้านล่างอ่างเป็นตู้เก็บของ ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้
ฝั่งตรงข้ามอ่างล้างมือเป็นโถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว โดยโครงการจะใช้แบรนด์ Hafele ครับ ถัดไปเป็นพื้นที่อาบน้ำ มีกระจกนิรภัยติด กั้นส่วนเปียกแห้งให้
ในส่วนพื้นที่อาบน้ำ เจาะช่องวางของไว้ ด้านในแบ่งเป็นชั้นบน-ล่างแบบนี้ ฝักบัวเป็น hand แบบในห้องตัวอย่างครับ ส่วนพื้นห้องน้ำจะยกขอบขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกันน้ำล้น
แบบ 1 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอย 41-42 ตร.ม.
ยูนิตแบบ 1 ห้องนอน Duplex จุดเด่นก็คือ ห้องนั่งเล่นเพดานแบบ Double Volume มีความสูงด้วยกัน 5.5 ม. ครับ ดังนั้น เวลาเรานั่งพักผ่อน ใช้งาน จะรู้สึกถึงความโปร่งโล่งมากๆ และยังได้วิวภายนอกที่สูงพิเศษมากขึ้น การจัดส่วนใช้สอยของห้องนี้ใช้แนวคิด Multi-function โดยจับเอาตู้เสื้อผ้าและตู้เก็บของมาไว้ใต้บันได ระเบียงก็จะกว้างเท่าๆ กับตัวห้อง ทำให้ห้องนั่งเล่นแทบไม่มีผนังทึบมากั้นวิวเลย ส่วนห้องนอนก็จะอยู่พื้นที่เหนือศีรษะด้านบน ได้วิวมุมกว้างเช่นกัน
แบบ 1 ห้องนอน Duplex เปิดประตูห้องมาจะเจอกับผนังใต้บันไดก่อนเลยครับ อีกฝั่งจะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ
ผนังใต้บันใดตรงนี้ มีฟังก์ชั่น คือ เป็นตู้เก็บของที่ซ่อนเอาไว้ ทำให้ห้องดูสวยเรียบ แต่ยังมีพื้นที่จัดเก็บขนาดใหญ่ไว้เก็บของใช้ต่างๆ เสื้อผ้า กระเป๋าเดินทาง เอาไว้ตรงนี้หมด ซึ่งก็จะอยู่ใกล้กับห้องน้ำเลยครับ ก็ทำให้ใช้งานคู่กันได้สะดวก
ภายในห้องน้ำ เปิดเข้ามาจะมีอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ
อ่างล้างมือ ด้านล่างเป็นตู้เก็บของ ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ ที่ผนังติดกระจกเงาไว้ส่องเวลาล้างหน้า ที่ผนังตรงกลางเป็นโถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว แบรนด์ Hafele ครับ ถัดไปเป็นพื้นที่อาบน้ำ มีกระจกนิรภัยติด กั้นส่วนเปียกแห้งให้
ในพื้นที่อาบน้ำ ยกขอบขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกันน้ำล้น ที่ผนัง โครงการจะเจาะช่องวางของไว้เช่นกัน ด้านในแบ่งเป็นชั้นบน-ล่างแบบนี้ ฝักบัวเป็น hand แบบในห้องตัวอย่างครับ
มาดูห้องนั่งเล่นกันครับ จุดเด่น คือ เพดานสูง โดยจัดส่วนใช้สอยแบบ Open Plan คือ ไม่ใช้ผนังทึบเข้ามากั้นระหว่างส่วนในห้องนี้เลย ทำให้ห้องนั่งเล่นมีความกว้างขวางและโปร่งเป็นพิเศษครับ
มาดูห้องนั่งเล่นจากวิวของห้องนอนกัน ส่วนใช้สอยอย่างมุมนั่งเล่นโซฟา โต๊ะทานข้าว จะวางอยู่ข้างๆ กัน แบ่งขอบเขตด้วยการเว้นช่องว่างระหว่างกัน นอกจากห้องยังดูกว้างขวางและเป็นสัดส่วนแล้ว ยังง่ายกับการสลับเปลี่ยนพื้นที่ใหม่ หรือขยับขยายพื้นที่ให้กว้างขึ้น เช่น อยากทำโต๊ะทานข้าวให้มีวิวกว้างๆ ก็สลับที่กับมุมนั่งเล่นได้เลยครับ
ภาพมุมนี้ต้องการสื่อถึงความสูงของห้องครับ จากพื้นถึงเพดานสูง 5.5 ม. ถ้าใครอยากได้พื้นที่จัดเก็บเพิ่มก็บิวท์ตู้เก็บของเป็นผนังไปเลยครับ แต่ก็ควรคำนึงเรื่องความหนาของตู้กับความสูงของชั้นเก็บของด้วย เพื่อให้หยิบใช้งานของในตู้ได้สะดวก
ผนังฝั่งตรงบันไดขึ้นชั้น 2 ตรงนี้ก็จะเป็นกระจกเช่นกันครับ ทำให้ส่วนช่องบันไดดูสว่างและโปร่ง ได้อารมณ์เหมือนบ้านในเมือง
ก่อนขึ้นชั้นบนมาดูชุดครัวกันก่อนครับ ชุดครัวที่ได้วัสดุเหมือนกับห้อง 29.5 ตร.ม. เลยครับ ท็อปครัวเป็นหินเทียม สีขาวสะอาด ตู้ลอยติดผนังจะใช้เป็นกระจกฝ้า ช่วยพรางของในตู้ และยังเช็ดทำความสะอาดง่าย ส่วนตู้ตั้งพื้นมีช่องวางไมโครเวฟ มีลิ้นชักสำหรับเก็บช้อนส้อม ของใช้ต่างๆ ตู้ใต้ซิงก์เปิดออกมาจะมีถังขยะบิวท์อิน
มาชั้นบนจะเป็นห้องนอนครับ พื้นที่ห้องนอนกว้างขวางทีเดียว สามารถวางเตียงนอนไซส์ 6 ฟุตได้อยู่ครับ ในห้องนอนจะมีผนังกระจก มองผ่านออกไปเห็นวิวด้านนอกได้
ฝั่งปลายเตียง มีช่องว่างให้เดินไปอีกฝั่งของเตียงได้ ผนังตรงนี้ถ้าจะติดโทรทัศน์ ก็ใช้เป็นแบบแขวนกับผนังเหมือนในห้องตัวอย่างจะดีที่สุดครับ
Price
โครงการมารุ เอกมัย 2 เปิดขายห้องทุกแบบ โดยตอนนี้มียอดขายแล้วกว่า 70% ห้องที่ขายจะเป็นแบบ Fully Fitted มีราคาเริ่มต้นของห้องแต่ละแบบดังนี้ครับ
-แบบ 1 ห้องนอน Smart พื้นที่ใช้สอย 29-30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.4 ล้านบาท
-แบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 32-35.5 ตร.ม. Sold Out
-แบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 54-60.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 10 ล้านบาท
-แบบ 1 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอย 41-42 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8.8 ล้านบาท
-แบบ 2 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอย 45-76 ตร.ม. Sold Out Conclusion
โครงการมารุ เอกมัย 2 จากเมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ โครงการนี้ถือว่าทำออกมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมทำเลเอกมัย ที่มีส่วนกลางหลากหลาย เพื่อบาลานซ์ Live—Work—Play ของตัวเองได้ สำหรับจุดเด่นก็สรุปเป็นข้อๆ ดังนี้ครับ
-ที่ตั้งโครงการ อยู่ในย่านไลฟ์สไตล์ของเอกมัยครับ จับจ่ายใช้สอยง่าย เพราะห่างไป 200 ม. ก็มีบิ๊กซี เอกมัย เรื่องสีสันการใช้ชีวิตนี่ถือว่าดีงาม เพราะร้านอาหาร ร้านนั่งชิลนี่เยอะมาก ที่ ถ.สุขุมวิท ตรง BTS เอกมัย ก็มีเกตเวย์ เอกมัย เป็นห้างใหญ่
-ตามแนวรถไฟฟ้ามีแหล่งช้อปปิ้ง แหล่งแฮงเอาต์หลายแบบหลายสไตล์ ทั้งห้างใหญ่ ร้านอาหารแทบจะทุกเชื้อชาติ สุขุมวิทมีหมดเลยครับ สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปได้เลย
-สามารถไปยังย่านออฟฟิศเพื่อทำงานได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้า ห่างย่านสำนักงานอย่างอโศก แค่ 3 สถานี ห่างเพลินจิต 4 สถานี ห่างชิดลม 5 สถานี หรือวันไหนฉุกเฉิน ก็มีวินมอเตอร์ไซค์เป็นตัวเลือกให้นั่งไปได้
-ตัวโครงการออกแบบส่วนกลางให้มีความหลายหลายมาก ทั้งส่วนที่เป็น Indoor และ Outdoor สระว่ายน้ำชั้น 32 สูงพ้นวิวตึกด้านหน้า รับวิวเมืองไปเต็มๆ ส่วนฟิตเนส สกายเลานจ์ ก็หันไปวิวเมืองฝั่งตะวันตก (วิวทางทองหล่อ อโศก) เห็นพระอาทิตย์ตกดินได้สวยๆ ครับ
-มีการแยกโซนส่วนกลาง โดยคำนึงถึง Activity ที่อาจเกิดเสียงรบกวน ให้อยู่ห่างจากส่วนที่ต้องการความเงียบสงบ เช่นพื้นที่ Coworking Space ไว้คนละส่วนชั้นกันกับสนามเด็กเล่น เป็นต้น ตรงนี้ถือว่าดีครับ เพราะผู้อาศัยจะสามาถใช้งานได้เต็มที่
-ยูนิตพักอาศัยมีหลายแบบ ออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในห้องมาดีครับ ให้ตู้เก็บของอเนกประสงค์มาพร้อมกับห้องเลย ทำให้ห้องมีพื้นที่เก็บของเพิ่มขึ้น ขนาดและฟังก์ชั่นลงตัวกับพื้นที่ห้องแบบ Duplex เพดานสูงโปร่งเป็นจุดเด่น มีที่เก็บของใต้บันไดมากับห้อง ทำให้เก็บของได้เป็นระเบียบ เวลาอยู่อาศัย สภาพห้องก็จะดูเป็นระเบียบเรียบร้อยกว่า
สำหรับโครงการมารุ เอกมัย 2 ถ้าใครเห็นแล้วสนใจก็แวะไปที่สำนักงานขายได้เลยนะครับ ตอนนี้โครงการมีห้องเหลือไม่มากแล้วครับ Fact Sheet
โครงการ : มารุ เอกมัย 2
เจ้าของโครงการ : บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) MJD Residences Company Limited
ที่ตั้งโครงการ : สุขุมวิท 63 (ระหว่างเอกมัย ซ.2 กับ ซ.4)
ประเภทโครงการ : คอนโดมิเนียม สูง 33 ชั้น 1 อาคาร
พื้นที่โครงการ : 1-2-77 ไร่
จำนวนยูนิต : 333 ยูนิต
แบบห้อง : -1 ห้องนอน Smart พื้นที่ใช้สอย 29-30 ตร.ม.
-1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 32.5-35.5 ตร.ม.
-2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 54-60.5 ตร.ม.
-1 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอย 41-42 ตร.ม.
-2 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอย 45-76 ตร.ม.
สิ่งอำนวยความสะดวก : ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว, ล็อบบี้, สวนพักผ่อนชั้น 1, Tea-house Pavilion, Sunken Living Room, Coworking Terrace, Co-living Area, Meeting Room, สวนลอยฟ้าชั้น 28, Terrace ชมวิว, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, Coworking Space, Aerial Yoga, สกายเลานจ์, สวนลอยฟ้าชั้น 33, สนามเด็กเล่น, Barbeque Terrace, มุม Coworking Space และ Napping Hill
ที่จอดรถ : 48% (165 คัน)
ราคาเริ่มต้น : 5.4 ล้านบาท
โทร. : 1266
เว็บไซต์ : www.mjd.co.th/maru
มารุ เอกมัย 2 พัฒนาโครงการโดย บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมที่มีประสบการณ์พัฒนาคอนโดฯ ระดับลักซูรีใจกลางเมืองมาแล้วหลายโครงการ ทั้งในโซนสุขุมวิท สีลม พญาไท ทองหล่อ ก็ถือว่ามีความชำนาญคอนโดฯ เซ็กเมนต์นี้มากทีเดียว
ส่วนโครงการมารุ เป็นแบรนด์ใหม่ ที่เปิดตัวพร้อมกัน 2 ทำเล ได้แก่ ทำเลลาดพร้าว และเอกมัย ซึ่งโครงการมารุ ก็มีจุดเด่นในเรื่องส่วนกลางที่ออกแบบมาให้พื้นที่ Indoor และ Outdoor มีความเชื่อมต่อกันมากขึ้น มีส่วนกลางที่หลากหลาย และที่สำคัญ คือ สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ Location
โครงการมารุ เอกมัย 2 ตั้งอยู่ใน ซ.สุขุมวิท 63 (เอกมัย) ระหว่างเอกมัย ซ.2 และเอกมัย ซ.4 ที่ตั้งโครงการอยู่ตรงข้ามกับอาคาร Bangkok Business Center เลยครับ ทำเลเอกมัย จัดว่าเป็นย่านที่พักอาศัยที่มีแหล่งไลฟ์สไตล์อยู่ในตัวคู่กันกับทองหล่อ (สุขุมวิท 55) เลยครับ เพราะถนนสองเส้นนี้อยู่ขนานกัน และมี ซ.ทองหล่อ 10 เป็นถนนเชื่อมต่อ ซึ่งก่อนหน้านี้ คอนโดมิเนียมรวมถึงแหล่งไลฟ์สไตล์ต่างๆ ก็มักจะเกิดขึ้นที่ทองหล่อ เป็นส่วนมาก แต่ตอนนี้ ที่ดินแปลงสวยๆ บนทองหล่อ โดยเฉพาะช่วงต้นซอยเริ่มมีน้อยลง บวกกับราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้การพัฒนาต่างๆ เริ่มขยับมาสู่เอกมัย เป็นระยะๆ
ลองดูแผนที่นี้ประกอบนะครับ จะเห็นว่าที่ตั้งโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อมจริงๆ
โซนเอกมัย ถ้ามองตามความคึกคักหนาแน่นจะแบ่งได้เป็น 3 ช่วงครับ คือ ช่วงต้นซอยฝั่งติดกับ ถ.สุขุมวิท ช่วงกลางก็บริเวณทองหล่อ 10 และช่วงท้าย คือ ฝั่งที่ใกล้กับ ถ.เพชรบุรีครับ ซึ่งทั้ง 3 ช่วงก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป
เอกมัยช่วงต้นซอย จะมีจุดเด่นเรื่องระบบขนส่งมวลชน เพราะมีทั้งรถไฟฟ้า BTS รถประจำทางที่ผ่านเส้นสุขุมวิท ก็มีหลายสายครับ จะขึ้นทางด่วนก็สามารถขับต่อไปตาม ถ.สุขุมวิท แล้วเลี้ยวซ้ายที่สะพานข้ามคลองพระโขนง เข้าด่านเก็บเงินพระโขนง ทำให้เอกมัยช่วงต้นซอยมีความหนาแน่น เพราะมีผู้คนเข้าออกอยู่ตลอดเวลา
ช่วงกลางซอย เด่นมากเรื่องไลฟ์สไตล์ครับ มีทั้งผับ ร้านอาหาร และมีเอกมัย ซ.5 (ทองหล่อ 10) ที่ตัดไปออกทองหล่อได้ ในอนาคต จะมีดองกี้ มอลล์ ทองหล่อ ซึ่งเป็นร้านค้าปลอดภาษีชื่อดังจากญี่ปุ่น ที่ขายทุกอย่างสารพัดสิ่งมาเปิดใน ซ.ทองหล่อ 10 นี้ด้วย และยังมี ซ.เอกมัย 12 ที่ตัดไปออกสุขุมวิท 71 ได้ ในซอยก็มีร้านอาหาร ร้านกาแฟอยู่หลายร้านเลยครับ
ส่วนช่วงท้ายซอยฝั่งติดกับ ถ.เพชรบุรี ฝั่งนี้จะเด่นเรื่องการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ใกล้กับ ถ.เพชรบุรี ใกล้ ถ.พระราม 9 ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม ทางด่วนฉลองรัช และทางด่วนศรีรัช แต่จะอยู่ไกลจากรถไฟฟ้ามากครับ
ทำเลเอกมัย จะเด่นเรื่องแหล่งไลฟ์สไตล์ยามค่ำคืนครับ มีผับ ร้านอาหารนั่งดื่ม นั่งชิลอยู่เยอะทีเดียว ทำให้เหมาะกับคนเมืองรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก ซึ่งจุดเด่นนี้ ทำให้เอกมัย มีความอุดมสมบูรณ์ หาของกินของใช้ได้ง่าย มีร้านอาหารอร่อยๆ อยู่หลายร้านทีเดียว
เรื่องจับจ่ายใช้สอยจะมีบิ๊กซี เอกมัย และอินเด็กซ์ เป็นแหล่งซื้อหาของกินของใช้ใกล้กับโครงการ นอกจากนี้ ก็ยังมีร้านสะดวกซื้อเปิดอยู่เป็นระยะๆ ทำให้สามารถหาซื้อของได้ง่ายพอสมควร
ที่แยกเอกมัย จะมีเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เอกมัย อาคารสหกรณ์กรุงเทพ ซึ่งมีร้านกาแฟ ร้านขายของเปิดอยู่ครับ ฝั่งตรงข้ามเป็นสถานีขนส่งเอกมัย ด้านหน้ามีร้าน 7-11 เปิดอยู่ ถัดไปที่หน้า ซ.สุขุมวิท 42 มีศูนย์การแพทย์ Bangkok Mediplex และห้างเกตเวย์ เอกมัย
โครงการพาร์คเลน เอกมัย เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ใกล้กับโครงการ มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และซูเปอร์มาร์เก็ตของแม็กซ์แวลู
เอ็มเค โกลด์ ก็อยู่ไม่ไกลจากโครงการครับ วันไหนนึกอยากกินก็เดินมาได้เลย ห่างจากโครงการแค่ 270 ม.
ถัดมาทางฝั่งต้นถนนเอกมัย มี The Horizon ร้านกาแฟ Au Bon Pain ร้านไอศครีม และร้านอื่นๆ อยู่ครับ
ต้นถนนเอกมัย เดินไปนิดเดียวก็ขึ้นรถไฟฟ้าไปที่ต่างๆ ตามแนวรถไฟฟ้าได้เลย ถือว่าสะดวกมากครับ
ห้างเกตเวย์ เอกมัย อยู่ติดกับ BTS สถานีเอกมัยเลย เป็นห้างสรรพสินค้า มีร้านค้า ร้านอาหาร และซูเปอร์มาร์เก็ตให้แวะซื้อของ
จากเอกมัย ไปสถานีพร้อมพงษ์ ห่างกันแค่ 2 สถานีรถไฟฟ้าเท่านั้น ตรงนี้มีทั้งห้างเอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และร้านค้า ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น อยู่เยอะเลยครับ
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจากโครงการ สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้สะดวกครับ ที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจาก BTS สถานีเอกมัย ประมาณ 450 ม. ถือเป็นระยะที่เดินได้สบายๆ มีทางเท้าเดินง่ายตลอดเส้นทาง หรือถ้าไม่อยากเดิน จะนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไป ก็มีวินหน้าเอกมัย ซ.4 เดินเลยโครงการไปแค่ 30 ม. ค่ารถไปปากซอยเอกมัยก็ 15 บาท
สำหรับคนที่เดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟฟ้า จากเอกมัยไปย่านสำคัญต่างๆ ก็ถือว่าใกล้ครับ
-1 สถานี ถึง BTS ทองหล่อ เป็นย่านไลฟ์สไตล์ แหล่งแฮงเอาต์ที่ขึ้นชื่อของกรุงเทพฯ
-2 สถานี ถึง BTS พร้อมพงษ์ แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้าเอ็มควอเทียร์ เอ็มโพเรียม และย่านร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น
-3 สถานี ถึง BTS อโศก ย่านอาคารสำนักงาน เป็น CBD ของกรุงเทพฯ และเชื่อมต่อกับ MRT สถานีสุขุมวิท
-4 สถานี ถึง BTS นานา แหล่งธุรกิจและสถานบันเทิงยามค่ำคืน
-5 สถานี ถึง BTS เพลินจิต สามารถเดินต่อไป ถ.วิทยุ ย่านสำนักงาน มีสถานทูตหลายแห่ง ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี
-6 สถานี ถึง BTS ชิดลม เป็นทำเลต่อเนื่องจากเพลินจิต เด่นเรื่องเป็นศูนย์กลางธุรกิจ มี รร.มาแตร์เดอี ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชิดลม และโรงแรมชั้นนำหลายแห่ง
-7 สถานี ถึง BTS สยาม ย่านศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ทั้งเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ สยามสแควร์วัน ดิจิตอล เกตเวย์ แหล่งท่องเที่ยวของวัยรุ่น สยามสแควร์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การเดินทางด้วยรถยนต์
จากโครงการ สามารถใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางไปพื้นที่สำคัญๆ ของกรุงเทพฯ ได้ เช่น จะไปโซนพระราม 4 สาทร ก็ขับออก ถ.สุขุมวิท แล้วเลี้ยวขวาที่แยกพระโขนง จากนั้นขับตรงไป เลี้ยวซ้ายที่แยกกล้วยน้ำไท เพื่อตรงไปขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครได้
ถ้าจะไปโซนพระราม 9 นอกจากนั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานีอโศก แล้วเปลี่ยนเส้นทางไป MRT สถานีสุขุมวิท แล้วไปลงที่สถานีพระราม 9 ก็ขับรถไปได้สะดวกเช่นกัน จากโครงการ ให้ขับย้อนขึ้นทางไป ถ.เพชรบุรี แล้วข้ามสะพานต่างระดับไปเลี้ยวซ้ายเข้า ถ.พระราม 9 จากนั้นก็ขับตรงไปจนถึงแยกพระราม 9
ถ้าหากไม่เลี้ยวซ้ายเข้า ถ.พระราม 9 ก็สามารถขับตรงไป ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม ได้อีกทาง Project
โครงการมารุ เอกมัย 2 เป็นคอนโดมิเนียมสูง 32 ชั้น 1 อาคาร มียูนิตพักอาศัยทั้งหมด 333 ยูนิต มีที่ดินโครงการขนาด 1-2-77 ไร่ ตัวอาคารยังไม่มีตึกสูงขึ้นบังวิวในระยะประชิดครับ และก็ยังมีจุดเด่นเรื่องการออกแบบส่วนกลางให้พื้นที่ Indoor สามารถเชื่อมต่อกับ Outdoor เพื่อให้ตรงกับไลฟ์สไตล์คนเมืองรุ่นใหม่มากขึ้น
อาคารพักอาศัยสูง 32 ชั้น ออกแบบในสไตล์โมเดิร์น ตัวอาคารใช้สีขาว-เทาเป็นหลัก จากมุมนี้ จะเห็นสวนลอยฟ้าที่ชั้น 28 และสกายเลานจ์ ชั้น 32 เป็นจุดชมวิวเมืองหันไปทางทองหล่อครับ
พื้นที่ส่วนกลางจะเริ่มที่ชั้น 1 ครับ จะมีสวนพักผ่อน (Wellness Yard) Tea-house Pavilion ที่วางหลบอยู่ในมุมสงบๆ ของโครงการ ซึ่งพื้นที่ Outdoor ส่วนนี้จะอยู่ในระยะถอยร่นจากถนนสู่ตัวอาคาร ช่วยเบรกอารมณ์ความเร่งรีบจากภายนอกให้รู้สึกสงบลงได้ครับ ถัดมาเป็นส่วนกลางแบบ Indoor ได้แก่ Sunken Living Room, Coworking Terrace, Co-living Space, Meeting Room จัดเป็นส่วนต้อนรับและพักผ่อนสำหรับลูกบ้าน ก่อนจะเข้าสู่โถงลิฟต์โดยสารขึ้นชั้นบน ลิฟต์ของโครงการจะมีทั้งหมด 3 ตัว แบ่งเป็นลิฟต์โดยสาร 2 ตัว และลิฟต์ Service 1 ตัว
ส่วนชั้นที่ 2-8 ของอาคารจะเป็นที่จอดรถทั้งหมดครับ โดยโครงการจะมีที่จอดรถทั้งแบบปกติและแบบอัตโนมัติ รองรับรถยนต์ได้ทั้งหมด 165 คัน หรือเทียบเป็น 48%
ส่วนที่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 9 เป็นต้นไป โดยชั้น 9 จะมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 15 ยูนิต โดยจะมียูนิตพิเศษฝั่งทิศตะวันออก ได้ระเบียงพิเศษใหญ่กว่าห้องอื่นๆ เพิ่มความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านในเมืองครับ
ถัดมาชั้นที่ 10-27 จะใช้แปลนเดียวกันทั้งหมด มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 15 ยูนิตเช่นกัน
มาถึงชั้นที่ 28 ชั้นนี้จะมีความพิเศษ คือ ทั้งชั้นนี้จะเป็นยูนิตแบบ Duplex ได้เพดานที่มีความสูง 5.5 ม. ทำให้ได้มุมมองที่โปร่งมากขึ้น และมียูนิตมุม ขนาด 76 ตร.ม. ที่มีระเบียงพิเศษขนาดใหญ่ฝั่งทิศใต้เพิ่มเข้ามา ซึ่งระเบียงตำแหน่งนี้มีห้องเดียวทั้งโครงการนะครับ และฝั่งด้านหน้า (ทิศตะวันตก) จะมีระเบียงสวนขนาดใหญ่ไว้เป็นที่นั่งพักผ่อน ชมวิว ภายในสวนจะมีพื้นที่พักผ่อน พื้นที่ชมวิว สร้างเป็น Box ส่วนตัวด้วยครับ
ชั้นที่ 29-30 แปลนอาคารจะเหมือนกัน โดยห้องทั้งหมดจะเป็นแบบ Duplex แต่จะตัดสวนที่ระเบียงด้านหน้าออกไปครับ
ชั้นที่ 31 จะผสมกันระหว่างพื้นที่ส่วนกลางและยูนิตพักอาศัย โดยส่วนกลางหลักๆ ทั้งสระว่ายน้ำ พื้นที่พักผ่อน Co-creation Space ห้องคาราโกะต่างๆ จะอยู่ที่ชั้นนี้ โดยชั้นนี้จะมีห้องพักเพียง 2 ยูนิต คือ Duplex 2 ห้องนอน อีกอย่าง คือ ความสูงของชั้นนี้จะพ้นอาคาร Bangkok Business Center ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามไปแล้ว ทำให้ได้วิวเมืองมุมกว้างแบบไม่มีอะไรมาบังแล้วครับ
ชั้นที่ 32 ตัวอาคารก็จะถอยร่นเข้ามาอีกส่วนหนึ่ง โดยชั้นนี้จะมีฟิตเนส Aerial Yoga และสกายเลานจ์ ห้องพักอาศัยของชั้นนี้จะเป็น Duplex ทั้งหมดครับ
ชั้น Rooftop จะเป็นส่วนกลาง สวนลอยฟ้า สนามเด็กเล่น BBQ Sunken Courtyard และมีมุม Coworking Space และ Napping Hill ที่คาดว่าต้องการความสงบอยู่ข้างๆ กันจะเห็นว่า ภายในอาคารจัดพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้หลายจุดเลยครับ แยกประเภท Activity ที่ต้องการความเงียบสงบ กับพื้นที่พักผ่อนสนุกสนานที่อาจเกิดเสียงดังออกจากกัน เพื่อให้ผู้อาศัยสามารถใช้งานร่วมกันได้เต็มที่
ด้านระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการ ทางโครงการจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กล้อง CCTV ระบบคีย์การ์ด เพื่อเปิดประตูเข้าโถงลิฟต์ชั้นล่าง และสั่งการลิฟต์แบบล็อกชั้น
สำหรับสัตว์เลี้ยง โครงการก็อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์และพามายังพื้นที่ส่วนกลางที่จัดให้ได้ครับ แต่ต้องใช้ลิฟต์ Service เท่านั้น ต้องมีสายจูง และเข้าได้เฉพาะส่วนที่โครงการจัดเตรียมไว้ให้เท่านั้นครับ
ทางเข้าหลักของโครงการ ตกแต่งด้วยกระเบื้องหินอ่อน ทางเดินขนาบข้างด้วยหินแม่น้ำ สร้างบรรยากาศสงบ น่าพักผ่อน
Tea-house Pavilion เป็นมุมอเนกประสงค์ที่ชั้นดาดฟ้า ผนังเป็นกระจก ทำให้พื้นที่ด้านในดูโปร่งโล่ง มองเห็นธรรมชาติของส่วนกลางได้ แต่ยังได้ความเงียบสงบ ใช้เป็นที่นั่งพักผ่อน ทำงานได้
มุม Sunken Living ที่นั่งพักผ่อนที่ไปจากพื้นหลักของอาคาร ตรงนี้เป็นส่วนเพดานสูงอยู่แล้วครับ ทำให้ช่วงเหนือศีรษะเกิดเป็นสเปซโปร่งโล่งเป็นพิเศษ มีผนังกระจกรอบด้านเพื่อให้ใกล้ชิดวิวธรรมชาติรอบนอก
Co-living Space อยู่ถัดจาก Sunken Living มีพื้นที่สามารถเปิดออกไปส่วน Outdoor ได้ ตรงนี้โครงการเตรียมโต๊ะเก้าอี้และที่นั่งเอาไว้หลายจุด ใช้เป็นที่นั่งทำงานหรือรับแขกได้ด้วย
Quite Area เป็นมุมสำหรับนั่งอ่านหนังสือ ทำงาน หรือฟังเพลงเพลินๆ ก็ได้ครับ ลักษณะเป็น Dorm แยก คล้ายกับห้องพักแบบแคปซูล
อีกมุมของ Quite Area มีที่นั่งและฉากกั้น เพิ่มความเป็นส่วนตัว
Co-kitchen เป็นที่สำหรับจัดปาร์ตี้ จะจัดเองหรือจ้าง Catering มาก็ได้ครับ มีชุดครัวเตรียมไว้ให้เรียบร้อย
ห้องฟิตเนสเพดานสูง ใช้ผนังกระจกหันรับวิวเมืองฝั่งทิศตะวันตก ซึ่งเป็นวิวฝั่งทองหล่อ และอโศกครับ
Productยูนิตพักอาศัยของโครงการจะมีทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่
-แบบ 1 ห้องนอน Smart พื้นที่ใช้สอย 29-30 ตร.ม.
-แบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 32.5-35.5 ตร.ม.
-แบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 54-60.5 ตร.ม.
-แบบ 1 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอย 41-42 ตร.ม.
-แบบ 2 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอย 45-76 ตร.ม.
โดยห้องของโครงการจะขายแบบ Fully Fitted ให้ชุดครัว ตู้เสื้อผ้า สุขภัณฑ์? ฉากกั้นอาบน้ำ ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าจะเป็นเครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type ครับ
สำหรับห้องตัวอย่างจะมีแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 33-33.5 ตร.ม. และแบบ 1 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอย 40-41 ตร.ม. ให้ชมครับ แบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 29-35.5 ตร.ม.
ยูนิตแบบ 1 ห้องนอนของโครงการ จะใช้ผนังกระจกเข้ามากั้นส่วนระหว่างห้องนอนและส่วน Service ได้แก่ ห้องครัว และโต๊ะทานข้าว เพื่อให้ห้องนอนมีพื้นที่กว้างขวางและโปร่งโล่งมากที่สุด โดยโครงการจะวางตำแหน่งชุดครัวและตู้เก็บของเอาไว้ใกล้กับประตูทางเข้า เพื่อให้ทันทีที่เข้ามาในห้องก็สามารถวางของที่ถือมา ถอดรองเท้าเก็บได้เป็นระเบียบ ถัดมาเป็นพื้นที่โต๊ะทานข้าว ออกแบบให้วางหันเข้าผนังเพื่อไม่กินพื้นที่ใช้สอย จากนั้นเป็นผนังกระจก มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นส่วนห้องนอน ในห้องนอนมีมุมอเนกประสงค์ริมหน้าต่าง จะทำเป็นมุมนั่งพักผ่อนหรือโต๊ะทำงาน ได้วิวโล่งๆ ให้หัวแล่นๆ ก็ได้ ส่วนห้องน้ำจะเข้าจากทางห้องนอนครับ
เริ่มจากเปิดประตูห้องเข้าไปเลยครับ จะเจอส่วนของครัวกับตู้เก็บของอเนกประสงค์ก่อนครับ ตรงนี้มองว่าสะดวกสำหรับคนอยู่คอนโดมากๆ เพราะคอนโดพื้นที่เก็บของมีจำกัด การที่โครงการจัดพื้นที่มาให้แต่แรกเลยจะทำให้ผู้อาศัยมีพื้นที่เก็บของได้เป็นระเบียบมากขึ้น
ชุดครัวที่โครงการให้มีตู้มาเยอะทีเดียว ท็อปครัวที่โครงการให้เป็นหินเทียม สีขาวสะอาด ซิงก์ล้างจานเป็นแบบหลุมทรงสี่เหลี่ยม เครื่องใช้ไฟฟ้ามีเตาแม่เหล็กไฟฟ้า และฮูดดูดควันของ Franke
มาดูตู้ต่างๆ ของชุดครัวบ้างครับ ตู้ลอยติดผนังจะใช้เป็นกระจกฝ้า ช่วยพรางของในตู้ให้ดูเรียบร้อย และยังเช็ดทำความสะอาดง่าย ส่วนตู้ตั้งพื้นมีช่องวางไมโครเวฟ มีลิ้นชักสำหรับเก็บช้อนส้อม ของใช้ต่างๆ ตู้ใต้ซิงก์เปิดออกมาจะมีถังขยะ บิวท์ติดมากับตู้
ฝั่งตรงข้ามชุดครัวเป็นตู้อเนกประสงค์ครับ ด้านล่างสุดเป็นช่องเก็บรองเท้า ด้านบนเป็นตู้เอาไว้เก็บข้าวของต่างๆ ให้เป็นระเบียบ
โต๊ะทานข้าว วางแบบหันหน้าเข้าผนัง ตำแหน่งจะอยู่ข้างๆ ตู้เย็น การใช้งานระหว่างครัวกับพื้นที่ตรงนี้ถือว่าสะดวกดีครับ
ถัดมาเป็นส่วนของห้องนอนแล้วครับ ระหว่างห้องครัวกับห้องนอน โครงการใช้ผนังกระจกเพื่อกั้นส่วน มีประตูบานกระจกนิรภัยเลื่อนเพื่อเปิดเข้าในห้องนอน ข้อดี คือ ทำให้ห้องเป็นสัดส่วน ห้องไม่มืดทึบด้วยครับ ป้องกันกลิ่นควันจากห้องครัวไม่ให้ลอยไปรบกวนในห้องนอนได้ด้วย
ส่วนของห้องนอน ทำได้กว้างขวางดี วางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้อยู่นะครับ ด้านข้างเตียงมีพื้นที่สำหรับวางตู้ หรือโต๊ะไว้วางของใช้ หรือวางสมาร์ทโฟน นอนเล่นไปก็ชาร์จไปด้วยก็ได้
ฝั่งปลายเตียง เหลือพื้นที่ให้เดินพอสมควรเลย มีผนังสำหรับตู้วางโทรทัศน์ ส่วนห้องตัวอย่างปล่อยผนังนี้ให้โล่งแล้วกรุด้วยหินอ่อน โชว์ความสวยงามแทน
ด้านข้างเตียงนอนตรงนี้จะมีมุมอเนกประสงค์อยู่ครับ จะวางโซฟาไว้นั่งเล่นแบบนี้ก็ได้ หรือจะหาโต๊ะทำงานหันหน้าเข้ากระจก เทควิวเมืองกว้างๆ ก็ดีครับ ทำงานอ่านหนังสือไป ชมวิวเมืองไป หัวแล่นดีนะครับ
ส่วนของระเบียงห้อง มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นส่วนอยู่ พื้นที่ของระเบียงสามารถออกไปยืนใช้งานได้
ระเบียงห้อง มีมุมสำหรับวางเครื่องซักผ้าให้ครับ โดยจะมีกริลสำหรับบังแสงแดดให้ อีกฝั่งหันไปเป็นกระจกเข้ามุมของห้องนอน
อีกฝั่งของห้องนอน จะมีทางเดินเชื่อมไปยังห้องน้ำ
พื้นที่หน้าห้องน้ำเป็นตำแหน่งวางตู้เสื้อผ้าครับ สามารถหาตู้บิวท์ให้สูงถึงเพดาน เพิ่มพื้นที่จัดเก็บให้มากขึ้น หรือจะใช้ตู้เสื้อผ้าแบบเปลือย ไม่มีหน้าบานแบบในห้องตัวอย่างก็สวยไปอีกแบบ
ภายในห้องน้ำ เปิดประตูเข้าไปจะเจอกับอ่างล้างมือก่อนครับ ที่ผนังติดกระจกเงาไว้ส่องเวลาล้างหน้า ส่วนด้านล่างอ่างเป็นตู้เก็บของ ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้
ฝั่งตรงข้ามอ่างล้างมือเป็นโถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว โดยโครงการจะใช้แบรนด์ Hafele ครับ ถัดไปเป็นพื้นที่อาบน้ำ มีกระจกนิรภัยติด กั้นส่วนเปียกแห้งให้
ในส่วนพื้นที่อาบน้ำ เจาะช่องวางของไว้ ด้านในแบ่งเป็นชั้นบน-ล่างแบบนี้ ฝักบัวเป็น hand แบบในห้องตัวอย่างครับ ส่วนพื้นห้องน้ำจะยกขอบขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกันน้ำล้น
แบบ 1 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอย 41-42 ตร.ม.
ยูนิตแบบ 1 ห้องนอน Duplex จุดเด่นก็คือ ห้องนั่งเล่นเพดานแบบ Double Volume มีความสูงด้วยกัน 5.5 ม. ครับ ดังนั้น เวลาเรานั่งพักผ่อน ใช้งาน จะรู้สึกถึงความโปร่งโล่งมากๆ และยังได้วิวภายนอกที่สูงพิเศษมากขึ้น การจัดส่วนใช้สอยของห้องนี้ใช้แนวคิด Multi-function โดยจับเอาตู้เสื้อผ้าและตู้เก็บของมาไว้ใต้บันได ระเบียงก็จะกว้างเท่าๆ กับตัวห้อง ทำให้ห้องนั่งเล่นแทบไม่มีผนังทึบมากั้นวิวเลย ส่วนห้องนอนก็จะอยู่พื้นที่เหนือศีรษะด้านบน ได้วิวมุมกว้างเช่นกัน
แบบ 1 ห้องนอน Duplex เปิดประตูห้องมาจะเจอกับผนังใต้บันไดก่อนเลยครับ อีกฝั่งจะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ
ผนังใต้บันใดตรงนี้ มีฟังก์ชั่น คือ เป็นตู้เก็บของที่ซ่อนเอาไว้ ทำให้ห้องดูสวยเรียบ แต่ยังมีพื้นที่จัดเก็บขนาดใหญ่ไว้เก็บของใช้ต่างๆ เสื้อผ้า กระเป๋าเดินทาง เอาไว้ตรงนี้หมด ซึ่งก็จะอยู่ใกล้กับห้องน้ำเลยครับ ก็ทำให้ใช้งานคู่กันได้สะดวก
ภายในห้องน้ำ เปิดเข้ามาจะมีอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ
อ่างล้างมือ ด้านล่างเป็นตู้เก็บของ ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ ที่ผนังติดกระจกเงาไว้ส่องเวลาล้างหน้า ที่ผนังตรงกลางเป็นโถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว แบรนด์ Hafele ครับ ถัดไปเป็นพื้นที่อาบน้ำ มีกระจกนิรภัยติด กั้นส่วนเปียกแห้งให้
ในพื้นที่อาบน้ำ ยกขอบขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกันน้ำล้น ที่ผนัง โครงการจะเจาะช่องวางของไว้เช่นกัน ด้านในแบ่งเป็นชั้นบน-ล่างแบบนี้ ฝักบัวเป็น hand แบบในห้องตัวอย่างครับ
มาดูห้องนั่งเล่นกันครับ จุดเด่น คือ เพดานสูง โดยจัดส่วนใช้สอยแบบ Open Plan คือ ไม่ใช้ผนังทึบเข้ามากั้นระหว่างส่วนในห้องนี้เลย ทำให้ห้องนั่งเล่นมีความกว้างขวางและโปร่งเป็นพิเศษครับ
มาดูห้องนั่งเล่นจากวิวของห้องนอนกัน ส่วนใช้สอยอย่างมุมนั่งเล่นโซฟา โต๊ะทานข้าว จะวางอยู่ข้างๆ กัน แบ่งขอบเขตด้วยการเว้นช่องว่างระหว่างกัน นอกจากห้องยังดูกว้างขวางและเป็นสัดส่วนแล้ว ยังง่ายกับการสลับเปลี่ยนพื้นที่ใหม่ หรือขยับขยายพื้นที่ให้กว้างขึ้น เช่น อยากทำโต๊ะทานข้าวให้มีวิวกว้างๆ ก็สลับที่กับมุมนั่งเล่นได้เลยครับ
ภาพมุมนี้ต้องการสื่อถึงความสูงของห้องครับ จากพื้นถึงเพดานสูง 5.5 ม. ถ้าใครอยากได้พื้นที่จัดเก็บเพิ่มก็บิวท์ตู้เก็บของเป็นผนังไปเลยครับ แต่ก็ควรคำนึงเรื่องความหนาของตู้กับความสูงของชั้นเก็บของด้วย เพื่อให้หยิบใช้งานของในตู้ได้สะดวก
ผนังฝั่งตรงบันไดขึ้นชั้น 2 ตรงนี้ก็จะเป็นกระจกเช่นกันครับ ทำให้ส่วนช่องบันไดดูสว่างและโปร่ง ได้อารมณ์เหมือนบ้านในเมือง
ก่อนขึ้นชั้นบนมาดูชุดครัวกันก่อนครับ ชุดครัวที่ได้วัสดุเหมือนกับห้อง 29.5 ตร.ม. เลยครับ ท็อปครัวเป็นหินเทียม สีขาวสะอาด ตู้ลอยติดผนังจะใช้เป็นกระจกฝ้า ช่วยพรางของในตู้ และยังเช็ดทำความสะอาดง่าย ส่วนตู้ตั้งพื้นมีช่องวางไมโครเวฟ มีลิ้นชักสำหรับเก็บช้อนส้อม ของใช้ต่างๆ ตู้ใต้ซิงก์เปิดออกมาจะมีถังขยะบิวท์อิน
มาชั้นบนจะเป็นห้องนอนครับ พื้นที่ห้องนอนกว้างขวางทีเดียว สามารถวางเตียงนอนไซส์ 6 ฟุตได้อยู่ครับ ในห้องนอนจะมีผนังกระจก มองผ่านออกไปเห็นวิวด้านนอกได้
ฝั่งปลายเตียง มีช่องว่างให้เดินไปอีกฝั่งของเตียงได้ ผนังตรงนี้ถ้าจะติดโทรทัศน์ ก็ใช้เป็นแบบแขวนกับผนังเหมือนในห้องตัวอย่างจะดีที่สุดครับ
Priceโครงการมารุ เอกมัย 2 เปิดขายห้องทุกแบบ โดยตอนนี้มียอดขายแล้วกว่า 70% ห้องที่ขายจะเป็นแบบ Fully Fitted มีราคาเริ่มต้นของห้องแต่ละแบบดังนี้ครับ
-แบบ 1 ห้องนอน Smart พื้นที่ใช้สอย 29-30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.4 ล้านบาท
-แบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 32-35.5 ตร.ม. Sold Out
-แบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 54-60.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 10 ล้านบาท
-แบบ 1 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอย 41-42 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8.8 ล้านบาท
-แบบ 2 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอย 45-76 ตร.ม. Sold Out Conclusion
โครงการมารุ เอกมัย 2 จากเมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ โครงการนี้ถือว่าทำออกมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมทำเลเอกมัย ที่มีส่วนกลางหลากหลาย เพื่อบาลานซ์ Live—Work—Play ของตัวเองได้ สำหรับจุดเด่นก็สรุปเป็นข้อๆ ดังนี้ครับ
-ที่ตั้งโครงการ อยู่ในย่านไลฟ์สไตล์ของเอกมัยครับ จับจ่ายใช้สอยง่าย เพราะห่างไป 200 ม. ก็มีบิ๊กซี เอกมัย เรื่องสีสันการใช้ชีวิตนี่ถือว่าดีงาม เพราะร้านอาหาร ร้านนั่งชิลนี่เยอะมาก ที่ ถ.สุขุมวิท ตรง BTS เอกมัย ก็มีเกตเวย์ เอกมัย เป็นห้างใหญ่
-ตามแนวรถไฟฟ้ามีแหล่งช้อปปิ้ง แหล่งแฮงเอาต์หลายแบบหลายสไตล์ ทั้งห้างใหญ่ ร้านอาหารแทบจะทุกเชื้อชาติ สุขุมวิทมีหมดเลยครับ สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปได้เลย
-สามารถไปยังย่านออฟฟิศเพื่อทำงานได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้า ห่างย่านสำนักงานอย่างอโศก แค่ 3 สถานี ห่างเพลินจิต 4 สถานี ห่างชิดลม 5 สถานี หรือวันไหนฉุกเฉิน ก็มีวินมอเตอร์ไซค์เป็นตัวเลือกให้นั่งไปได้
-ตัวโครงการออกแบบส่วนกลางให้มีความหลายหลายมาก ทั้งส่วนที่เป็น Indoor และ Outdoor สระว่ายน้ำชั้น 32 สูงพ้นวิวตึกด้านหน้า รับวิวเมืองไปเต็มๆ ส่วนฟิตเนส สกายเลานจ์ ก็หันไปวิวเมืองฝั่งตะวันตก (วิวทางทองหล่อ อโศก) เห็นพระอาทิตย์ตกดินได้สวยๆ ครับ
-มีการแยกโซนส่วนกลาง โดยคำนึงถึง Activity ที่อาจเกิดเสียงรบกวน ให้อยู่ห่างจากส่วนที่ต้องการความเงียบสงบ เช่นพื้นที่ Coworking Space ไว้คนละส่วนชั้นกันกับสนามเด็กเล่น เป็นต้น ตรงนี้ถือว่าดีครับ เพราะผู้อาศัยจะสามาถใช้งานได้เต็มที่
-ยูนิตพักอาศัยมีหลายแบบ ออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในห้องมาดีครับ ให้ตู้เก็บของอเนกประสงค์มาพร้อมกับห้องเลย ทำให้ห้องมีพื้นที่เก็บของเพิ่มขึ้น ขนาดและฟังก์ชั่นลงตัวกับพื้นที่ห้องแบบ Duplex เพดานสูงโปร่งเป็นจุดเด่น มีที่เก็บของใต้บันไดมากับห้อง ทำให้เก็บของได้เป็นระเบียบ เวลาอยู่อาศัย สภาพห้องก็จะดูเป็นระเบียบเรียบร้อยกว่า
สำหรับโครงการมารุ เอกมัย 2 ถ้าใครเห็นแล้วสนใจก็แวะไปที่สำนักงานขายได้เลยนะครับ ตอนนี้โครงการมีห้องเหลือไม่มากแล้วครับ Fact Sheet
โครงการ : มารุ เอกมัย 2
เจ้าของโครงการ : บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) MJD Residences Company Limited
ที่ตั้งโครงการ : สุขุมวิท 63 (ระหว่างเอกมัย ซ.2 กับ ซ.4)
ประเภทโครงการ : คอนโดมิเนียม สูง 33 ชั้น 1 อาคาร
พื้นที่โครงการ : 1-2-77 ไร่
จำนวนยูนิต : 333 ยูนิต
แบบห้อง : -1 ห้องนอน Smart พื้นที่ใช้สอย 29-30 ตร.ม.
-1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 32.5-35.5 ตร.ม.
-2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 54-60.5 ตร.ม.
-1 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอย 41-42 ตร.ม.
-2 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอย 45-76 ตร.ม.
สิ่งอำนวยความสะดวก : ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว, ล็อบบี้, สวนพักผ่อนชั้น 1, Tea-house Pavilion, Sunken Living Room, Coworking Terrace, Co-living Area, Meeting Room, สวนลอยฟ้าชั้น 28, Terrace ชมวิว, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, Coworking Space, Aerial Yoga, สกายเลานจ์, สวนลอยฟ้าชั้น 33, สนามเด็กเล่น, Barbeque Terrace, มุม Coworking Space และ Napping Hill
ที่จอดรถ : 48% (165 คัน)
ราคาเริ่มต้น : 5.4 ล้านบาท
โทร. : 1266
เว็บไซต์ : www.mjd.co.th/maru
อ่านพรีวิวโครงการอื่นๆ คลิกที่นี่ www.home.co.th/review
ติดตามข้อมูลโครงการและความเคลื่อนไหวด้านอสังหาฯ www.home.co.th และ www.facebook.com/Homebuyersfanpage
หรือชมวิดีโออื่นๆ คลิกที่นี่ www.home.co.th/vdo, www.youtube.com/tvhomebuyer คอนโด, คอนโดใหม่, ราคาคอนโด, ซื้อคอนโด, รีวิวบ้าน, ทาวน์โฮม, ทาวน์เฮ้าส์, รีวิวคอนโด
ติดตามข้อมูลโครงการและความเคลื่อนไหวด้านอสังหาฯ www.home.co.th และ www.facebook.com/Homebuyersfanpage
หรือชมวิดีโออื่นๆ คลิกที่นี่ www.home.co.th/vdo, www.youtube.com/tvhomebuyer คอนโด, คอนโดใหม่, ราคาคอนโด, ซื้อคอนโด, รีวิวบ้าน, ทาวน์โฮม, ทาวน์เฮ้าส์, รีวิวคอนโด
การคำนวณยอดผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน
ปรับรายละเอียดด้านล่างเพื่อคำนวณยอดผ่อนชำระต่อเดือน
฿
฿
%
%
ปี
฿
