รีวิวคอนโด ริชพาร์ค เทอมินอล @หลักสี่ ห้องชุดสไตล์โมเดิร์น ติดสถานีรถไฟฟ้าพหลโยธิน 59
ริชพาร์ค เทอมินอล @หลักสี่ คอนโดสุดชิค สไตล์โมเดิร์น ติดสถานี BTS พร้อมคอมมูนิตี้มอลล์ ห้องชุดพร้อมเฟอร์นิเจอร์
บิวท์อิน เพื่อการใช้ชีวิตที่ทันสมัย และสะดวกสบายด้วยระบบ Smart Home สามารถควบคุมการเปิดปิดไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ กล้องวงจรปิดได้แม้อยู่ภายนอกห้อง รวมทั้งมีระบบเตือนภัยส่งสัญญาณไปยังสมาร์ทโฟนของเจ้าของห้องได้ด้วย
Company
ริชพาร์ค เทอมินอล @หลักสี่ พัฒนาโครงการโดย บริษัท ริชชี่ ดีเวลลอปเมนท์ 2016 จำกัด ทุนจดทะเบียน 31 ล้านบาท ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) ที่ถือหุ้นอยู่ 99.97% เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ โดยเฉพาะคอนโดในแนวรถไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ “เลอริช” อาคารโลว์ไรส์ สูงไม่เกิน 8 ชั้น และ “ริชพาร์ค” เป็นอาคารที่สูงเกินกว่า 8 ชั้น ขณะที่บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ จะเน้นทำเลรอบนอก แต่สามารถเชื่อมต่อด้วยระบบคมนาคมเข้าสู่ใจกลางเมืองได้สะดวก ภายใต้แบรนด์ “เดอะ ริช” และ “ริชชี่ วิลล์”
ทั้งนี้ บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อปี 2545 โดยกลุ่มบุคคลหลากหลายอาชีพซึ่งมีแนวคิดในการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่คล้ายคลึงกัน ภายใต้การบริหารของ ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ต่อมาปี 2556 ได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน ปัจจุบัน มีทุนจดทะเบียน 785,399,582 บาท (ชำระเต็ม)
ผลงานโครงการที่ผ่าน เริ่มจาก ริชชี่วิลล์ บางบัวทอง (บ้านเดี่ยว), ริชชี่ทาวเวอร์ เพชรเกษม-สาทร, เลอริช เทรนดี้ คอนโด สาธุประดิษฐ์ (เลอริช พระราม3), เลอริช รัชดา-สุทธิสาร, เลอริช @อารีย์สเตชั่น, ริชพาร์ค @บางซ่อนสเตชั่น, ริชพาร์ค @เตาปูนอินเตอร์เชนจ์, ริชพาร์ค @เจ้าพระยา, เดอะริชวิลล์ ราชพฤกษ์ (บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม), เดอะริช สาทร-ตากสิน, ริชพาร์ค @ทริปเปิลสเตชั่น และเดอะริช @นานา เป็นต้น
โครงการตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธิน (ระหว่าง ซ.พหลโยธิน 57-59) แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ และอยู่ติดกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่บริเวณสถานีอนุสาวรีย์หลักสี่ ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2563 โดยโครงการจะสร้างสกายวอล์กเชื่อมต่อกับสถานีดังกล่าวด้วย ทำให้การเดินทางมีความปลอดภัยและสะดวกสบายมากขึ้น
ที่สำคัญ รถไฟฟ้าสายนี้เป็นเส้นทางที่เชื่อมโยงพื้นที่ถึง 3 จังหวัด ตั้งแต่ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ต่อเนื่องมาย่านใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ทั้งเพลินจิต อโศก สุขุมวิท เอกมัย ทองหล่อ และพื้นที่ จ.สมุทรปราการ โดยเป็นเส้นทางที่วิ่งตรง ไม่ต้องเปลี่ยนขบวน และเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายอื่นได้หลายสายมาก ทั้งสายสีชมพู (สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ) สายสีเหลือง (สถานีรัชโยธิน สถานีสำโรง) รถไฟฟ้า MRT (สถานีพหลโยธิน สถานีจตุจักร สถานีบางหว้า) รถไฟฟ้า BTS สายสีลม (สนามกีฬาฯ-บางหว้า) ที่สถานีสยาม
ขณะเดียวกัน จากถนนหลัก “พหลโยธิน” สามารถเชื่อมต่อกับถนนอื่นได้หลายสาย เช่น ถ.วิภาวดีรังสิต ถ.รามอินทรา ถ.แจ้งวัฒนะ ถ.งามวงศ์วาน ถ.เกษตร-นวมินทร์ และ ถ.เทพรักษ์ ซึ่งเป็นถนนตัดใหม่จากบริเวณ ซ.พหลโยธิน 50 ไปจนถึง ถ.สุขาภิบาล 5 (วัชรพล) ทำให้สามารถเดินทางต่อเนื่องไป ถ.สายไหม ทางด่วนรามอินทรา-วงแหวนรอบนอก ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา และ ถ.กาญจนาภิเษก หรือวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก ได้อย่างคล่องตัว
ดังนั้น การเดินทางมายังโครงการ หากใช้รถยนต์ส่วนตัว สามารถใช้เส้นทางผ่าน ถ.พหลโยธิน ถ.แจ้งวัฒนะ หรือ ถ.รามอินทรา โดยมุ่งหน้าไปทางสะพานใหม่ เมื่อผ่านบริเวณวงเวียนหลักสี่ ไปแล้ว (ถ้าจะใช้อุโมงค์ลอดใต้วงเวียน เมื่อขึ้นมาแล้วให้รีบชิดซ้ายเลย) สังเกตสถานีบริการน้ำมันเชลล์ไว้ ซึ่งอยู่ใกล้กับ ซ.พหลโยธิน 57 ถัดไปเล็กน้อยก็จะพบกับที่ตั้งของโครงการ โดยอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างในขณะนี้
นอกจากนี้ ยังมีระบบขนส่งมวลชน ทั้งรถโดยสารประจำทาง รถตู้ ที่ผ่านบริเวณด้านหน้าโครงการหลายเส้นทาง อาทิ สาย 34 (รังสิต-หัวลำโพง) สาย 39 (ตลาดไท-อนุสาวรีย์ชัยฯ) สาย 114 (แยกลำลูกกา-อู่นครอินทร์) สาย 356 (ปากเกร็ด-สะพานใหม่) สาย 503 (รังสิต-สนามหลวง) สาย 520 (ตลาดไท-มีนบุรี) สาย 522 (รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยฯ) สาย 543 (บางเขน-ลำลูกกา) รถตู้ เส้นทางฟิวเจอร์พาร์ค-สะพานใหม่ รถตู้ เส้นทางสะพานใหม่-จตุจักร รถตู้ เส้นทางรังสิต-มีนบุรี รถตู้ เส้นทางสะพานใหม่-อสมท (พระราม 9) เป็นต้น ทำให้การเดินทางเข้าออกเมืองหรือไปยังพื้นที่รอบๆ เช่น ย่านรังสิต ลำลูกกา มีนบุรี จตุจักร และแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด มีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น
ด้วยศักยภาพของ ถ.พหลโยธิน หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 เส้นทางสายหลักที่มีจุดเริ่มต้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผ่านแหล่งธุรกิจ การค้า พาณิชยกรรม และอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ตั้งแต่ย่านอารีย์ จตุจักร ห้าแยกลาดพร้าว รัชโยธิน แยกเกษตร แยกหลักสี่ ขึ้นไปยังย่านรังสิต จนถึงสุดเขตชายแดนภาคเหนือของไทย ในอดีต อาจมีเพียงที่พักอาศัยแนวราบเป็นหลัก แต่เมื่อมีรถไฟฟ้าเข้ามาในพื้นที่ ก็ทำให้เกิดการพัฒนาโครงการแนวสูงจากผู้ประกอบการทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ จนกลายเป็นทำเลที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้
บนพื้นที่ 3 ไร่ 1 งาน 5 ตร.ว. พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมในสไตล์โมเดิร์น ไฮบริด สูง 14 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 563 ยูนิต ภายใต้คอนเซ็ปต์ “การใช้ชีวิตกับคอนโดฯ สุดชิค ที่รวมความสุขและสบายแบบ 360 องศา” ด้วยการสร้างสกายวอล์กเชื่อมต่ออาคารกับรถไฟฟ้า พร้อมมีคอมมูนิตี้มอลล์ถึง 2 ชั้น ก่อนเข้าสู่ห้องพัก ทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้นเพราะอยู่ภายในตึกเดียวกัน ส่วนห้องชุดก็มีให้เลือกทั้งแบบ One Bedroom และแบบ One Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 24.7-34.7 ตร.ม. โดยเป็นห้องชุดพร้อมเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน โดยมีให้ทั้งเคาน์เตอร์ครัว เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน เตียงห้องนอนใหญ่ ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และเครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง
นอกจากนี้ โครงการยังนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ อย่างระบบ Smart Home เพื่อควบคุมการเปิดปิดไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ หรือดูกล้องวงจรปิดได้แม้อยู่ภายนอกห้อง ที่สำคัญ ยังมีระบบเตือนภัยหากมีใครบุกรุก งัดแงะประตู ก็จะส่งสัญญาณไปที่สมาร์ทโฟนของเจ้าของห้องโดยตรงด้วย
ขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวกภายใน ประกอบด้วย ล็อบบี้ ไฮบริด ลอฟต์ สระว่ายน้ำที่ทอดตัวขนานกับรถไฟฟ้า ฟิตเนส Coworking Space สวนชั้นลอยฟ้า พื้นที่อเนกประสงค์ จ๊อกกิ้งแทร็กที่มีความยาว 200 ม. ที่จอดรถ 40% (รวมซ้อนคัน) และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
Product Conceptภายในโครงการมีห้องชุดให้เลือก 4 แบบด้วยกัน คือ -Type A ขนาดพื้นที่ใช้สอย 28 ตร.ม.
-Type B ขนาดพื้นที่ใช้สอย 32.65 ตร.ม.
-Type C ขนาดพื้นที่ใช้สอย 24.7 ตร.ม.
-Type D ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.7 ตร.ม. โดยมีห้องชุดตัวอย่างให้เยี่ยมชม 2 แบบ ได้แก่ Type A ขนาดพื้นที่ใช้สอย 29.44 ตร.ม. และ Type B ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.45 ตร.ม.
เริ่มจากห้องชุด Type A ขนาดพื้นที่ใช้สอย 29.44 ตร.ม. เมื่อเปิดประตูเข้าไปแล้ว ด้านซ้ายมือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว ที่มีทั้งเตาไฟฟ้า ซิงก์ล้างจาน และเครื่องดูดควันให้พร้อม ส่วนด้านขวามือเป็นห้องน้ำ ที่มีตู้กระจกสำหรับอาบน้ำ ปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องจรดเพดาน
ถัดจากครัวและห้องน้ำไปเป็นส่วน Living Room จัดแบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนรับแขก นั่งเล่น-ดูทีวี ผนังฉาบเรียบทาสี พื้นยางลายไม้ โทนสีน้ำตาล
ด้านในสุดเป็นห้องนอน ซึ่งมีกรอบกระจกอะลูมิเนียมบานใหญ่กั้นแยกเป็นสัดส่วน พร้อมระเบียงส่วนตัวเพื่อชมวิวภายนอกในยามค่ำคืน และเปิดรับแสงสว่างจากธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน โดยภายในห้องนอนนี้จะมีเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งบิวท์อินให้ พร้อมเครื่องปรับอากาศ เมื่อจะเข้าอยู่จริงๆ เพียงซื้อที่นอนมาก็พร้อมอยู่อาศัยได้ทันที
ขณะที่ห้องชุดอีกห้องเป็นแบบ Type B พื้นที่ใช้สอย 34.45 ตร.ม. 1 Bedroom Plus ซึ่งประกอบด้วย 1 ห้องนอนใหญ่ 1 ห้องอเนกประสงค์ และ 1 ห้องน้ำ เริ่มจากด้านซ้ายมือเป็นส่วนครัว มีเคาน์เตอร์ครัวพร้อมเตาไฟฟ้า ซิงก์ล้างจาน และเครื่องดูดควัน
ส่วนขวามือจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารติดกับส่วน Living Room สำหรับนั่งเล่น ดูทีวี หรือรับแขกไปในตัว
ห้องน้ำออกแบบให้อยู่ด้านหลังชุดครัว โดยมีตู้กระจกสำหรับอาบน้ำ ปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องจรดเพดาน
พื้นที่โซนในสุดแบ่งเป็นห้องนอนใหญ่ ที่มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ และห้องอเนกประสงค์ พร้อมระเบียงชมวิวด้านนอก ซึ่งสามารถออกแบบให้เป็นได้ทั้งห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่ง หรือจะเป็นมุมทำงานส่วนตัว ห้องเก็บของสะสมที่ชื่นชอบก็ได้เช่นกัน
ภายในห้องจะเน้นการใช้โทนสีขาว เทา และน้ำตาลเป็นหลัก ประกอบกับความสูงจากพื้นจรดเพดาน 2.7 ม. จึงทำให้ห้องดูโปร่ง โล่งสบาย เหมาะสำหรับการพักผ่อนในทุกๆ วันมาก
Price & Promotionห้องชุดในโครงการมีราคาเริ่มต้นที่ 2.29 ล้านบาท ปัจจุบัน โครงการกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2562 Conclusion
ถึงแม้ว่าจะมีโครงการคอนโดมิเนียมทั้งไฮไรส์และโลว์ไรส์ เกิดขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่องตามแนวถนนพหลโยธิน โดยเฉพาะราคาขายของคอนโดที่อยู่ติดถนนหรือใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวได้ปรับเพิ่มขึ้น จนทำให้ต่อยูนิตราคาขายเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 2.5 ล้านบาทขึ้นไป หรือราคาขายสูงกว่า 100,000 บาท/ตร.ม. ไปแล้วก็ตาม และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีกหลังจากการเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2563
ในขณะที่ห้องชุดของโครงการริชพาร์ค เทอมินอล @หลักสี่ ยังมีราคาขายเริ่มต้นต่ำกว่าแสนบาท/ตร.ม. แถมอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า และโครงการยังขอสร้างสกายวอล์กเพื่อเชื่อมต่ออาคารกับสถานีรถไฟฟ้า พร้อมมีคอมมูนิตี้มอลล์ถึง 2 ชั้น จึงทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น จึงเหมาะสำหรับคนทำงานยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายทั้งในด้านการเดินทางและการใช้ชีวิต
นอกจากนี้ โครงการยังแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมทั้งอยู่ใกล้สถานศึกษาชั้นนำ สถานที่ราชการมากมาย จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้เมือง ใกล้แหล่งงาน ที่สำคัญ ราคายังจับต้องได้ เหมาะทั้งการซื้อเพื่อยู่อาศัยและเพื่อการลงทุนปล่อยเช่า >
Fact Sheet
ชื่อโครงการ : ริชพาร์ค เทอมินอล @หลักสี่ (Rich Park Terminal @Laksi)
เจ้าของโครงการ : บริษัท ริชชี่ ดิเวลลอปเมนท์ 2016 จำกัด
ที่ตั้งโครงการ : ถ.พหลโยธิน (ระหว่าง ซ.57-59) แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ
พื้นที่โครงการ : 3 ไร่ 1 งาน 5 ตร.ว.
รูปแบบโครงการ : คอนโดมิเนียม สูง 14 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 563 ยูนิต
สิ่งอำนวยความสะดวก : สวนชั้นลอยฟ้า สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Coworking Space จ๊อกกิ้งแทร็ก
ราคาเริ่มต้น : 2.29 ล้านบาท
โทร. : 1343
เว็บไซต์ : www.richy.co.th
ติดตามข่าวสารอสังหาฯ และข่าวดังในกระแส www.home.co.th/news
ติดตามข้อมูลโครงการและความเคลื่อนไหวด้านอสังหาฯ www.home.co.th และ www.facebook.com/Homebuyersfanpage
หรือชมวิดีโออื่นๆ คลิกที่นี่ www.home.co.th/vdo, www.youtube.com/tvhomebuyer
คอนโด, คอนโดใหม่, ราคาคอนโด, ซื้อคอนโด, รีวิวบ้าน, ทาวน์โฮม, ทาวน์เฮ้าส์, รีวิวคอนโด
การคำนวณยอดผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน
ปรับรายละเอียดด้านล่างเพื่อคำนวณยอดผ่อนชำระต่อเดือน
