รีวิวคอนโด ธนา แอสโทเรีย สไตล์อาร์ตเดโค ห่าง MRT บางยี่ขัน 160 ม. พร้อมอยู่ เริ่ม 2.1 ล้านบาท

Location
ที่ตั้งของโครงการธนา แอสโทเรีย จะอยู่บน ถ.จรัญสนิทวงศ์ครับ อยู่ติดกับปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 46 เลย อยู่ห่างจากรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางยี่ขัน แค่ 160 ม.

 

การเดินทางของทำเลจรัญสนิทวงศ์ เป็นทำเลที่มีอัพเดตให้ตื่นเต้นกันทีเดียว เพราะรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ งานก่อสร้างเสร็จแล้ว 100% เหลือแค่งานติดตั้งระบบต่างๆ และคาดว่าจะเปิดให้บริการภายในเดือนมีนาคม 2563

จากโครงการสามารถขับตรงไปยัง ถ.บรมราชชนนี แล้วข้ามสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ไปโซนสนามหลวง พระบรมมหาราชวังได้ครับ

ห่างจากโครงการไป 150 ม.

เรื่องนี้ถือเป็นข่าวดีมากๆ เพราะว่าอีกไม่นาน การเดินทางบน ถ.จรัญสนิทวงศ์ จะสะดวก ง่าย ประหยัดเวลามากขึ้น โดยเฉพาะคนทำงานที่ต้องเดินทางไปโซนบางซื่อ จตุจักร รัชดาภิเษก รวมถึงฝั่งเยาวราช สีลม สาทร ได้สะดวกมากขึ้น ก็สามารถขึ้นรถไฟฟ้าหน้าโครงการไปได้เลย
ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ ก็สามารถขับรถไปจุดสำคัญต่างๆ ได้สะดวกครับ เช่น
-ออกจากโครงการ กลับรถแล้วขับตรงไป เลี้ยวขวาที่แยกบางพลัด ข้ามสะพานกรุงธน ก็สามารถไป ถ.ราชวิถี ถ.สามเสนได้
-ออกจากโครงการ กลับรถแล้วขับตรงไป เลี้ยวซ้ายที่แยกบางพลัด ไป ถ.สิรินธร เชื่อมต่อ ถ.บรมราชชนนี ตัดเข้า ถ.ราชพฤกษ์ ก็มีร้านอาหารไว้แฮงเอาต์เยอะแยะครับ
-จากโครงการ ขับตรงไปทางแยกบรมราชชนนี เลี้ยวขวาไปทางเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า หรือถ้าเลี้ยวซ้ายก็ผ่านพาต้า ปิ่นเกล้า แล้วเลี้ยวขวาที่แยกอรุณอมรินทร์ ก็ไปวังหลัง ศิริราชได้ หรือถ้าข้ามสะพานปิ่นเกล้า ไปสนามหลวง พระบรมมหาราชวังได้
สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการจะมีความเป็นชุมชนมากครับ จึงมีข้อดี คือ เรื่องซื้อหาของกิน กับข้าว และของใช้จำเป็น สะดวก บริเวณหน้าปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 46 มีร้านอาหาร ร้านข้าวแกง ร้านสะดวกซื้อ เปิดอยู่เรียงราย เข้าไปในซอยช่วงต้นซอยประมาณ 50 ม. นี่ก็ยังมีร้านอาหารเปิดอยู่อีกหลายร้านครับ ดังนั้น เรื่องกินอยู่ใกล้โครงการนี่ผมมองว่าสบายมากๆ

ออกจากโครงการ เลี้ยวซ้ายมานิดเดียวก็มีป้ายรถประจำทางครับ ถ้าไม่อยากใช้รถยนต์ส่วนตัวไปไหนใกล้ๆ ก็นั่งรถเมล์ได้เลยครับ

ติดกับป้ายรถประจำทางมีร้าน 7-11 ใกล้กับโครงการมากๆ ถือว่าสะดวกสุดๆ

ร้านอาหารแถวๆ นี้ก็จะเป็นข้าวราดแกง อาหารตามสั่ง มีหลายร้านเลยครับ รสชาติก็ใช้ได้ ราคาไม่แพงอีกต่างหาก

ส่วนซูเปอร์มาร์เก็ตและแหล่งช้อปปิ้งต่างๆ ถ้าย้อนไปทางสี่แยกบางพลัด ข้ามแยกไปเล็กน้อย ฝั่งเดียวกับโครงการ จะมีเทสโก้ โลตัส หน้าปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 70 ถ้าไปทางปิ่นเกล้า ก็จะมีเทสโก้ โลตัส อีกแห่ง และมีศูนย์การค้าเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า เดอะ เซ้นส์ ปิ่นเกล้า เป็นแหล่งช้อปปิ้ง พักผ่อนใกล้โครงการ
ด้านสถานพยาบาลขนาดใหญ่ก็อยู่ใกล้หลายแห่งครับ ทั้ง รพ.ยันฮี ใกล้กับสถานีบางอ้อ ข้ามฝั่งไปทาง ถ.สามเสน มี รพ.วชิระ ไปทาง ถ.สิรินธร มี รพ.ตา หู คอ จมูก บน ถ.บรมราชชนนี มี รพ.เจ้าพระยา ไปทาง ถ.อรุณอมรินทร์ มี รพ.ศิริราช และ รพ.ธนบุรี
ส่วนสถานศึกษาที่ใกล้โครงการจะมี รร.เซนต์คาเบรียล รร.เซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ ม.ราชภัฏสวนสุนันทา ม.สวนดุสิต วชิราวุธวิทยาลัย ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และ ม.ศิลปากร วังท่าพระ

เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า

เดอะ เซ้นส์ ปิ่นเกล้า

ช่างชุ่ย

Project
โครงการธนา แอสโทเรีย เป็นคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ สูง 23 ชั้น สร้างบนที่ดินขนาด 2-2-73.5 ไร่ มีจำนวนยูนิตพักอาศัย 493 ยูนิต และร้านค้าอีก 4 ยูนิต ถือว่าเป็นคอนโดมิเนียมที่มียูนิตไม่หนาแน่นมากนัก มีความเป็นส่วนตัวดีในระดับหนึ่งเลยครับ

ตัวโครงการมีคอนเซ็ปต์การออกแบบสไตล์อาร์ตเดโค ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความงดงาม คลาสสิก จุดกำเนิดสไตล์นี้ก็ต้องย้อนไปช่วง ค.ศ. 1920 โน่นเลยครับ ซึ่งในมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา บรรดาตึกสูงระฟ้าต่างๆ ก็จะเป็นสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตเดโค เยอะมาก
จุดเด่นของสไตล์นี้จะเป็นความสวยงามที่ประณีต และดูโอ่อ่า อลังการ ร่วมสมัย ทางโครงการเลยนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบตัวอาคาร งานตกแต่งส่วนกลางภายในต่างๆ เพื่อให้ดูเป็นสมบัติร่วมสมัยล้ำค่าครับ
มาดูสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการกันครับ เริ่มจากทางเข้าโครงการ จะอยู่เลยซอยจรัญสนิทวงศ์ 46 ไปนิดเดียว ตรงทางเข้าจะมีป้ายโครงการขนาดใหญ่ พื้นตรงนี้จะเป็นคอนกรีตแสตมป์ ดูสวยงาม และมีจุดตรวจป้อมรักษาความปลอดภัย ซึ่งจะใช้ระบบคีย์การ์ดเพื่อเปิดประตูไม้กระดกครับ ส่วนคนที่มาติดต่อก็ต้องแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าโครงการ

พื้นตรงทางเข้าโครงการ จะเป็นคอนกรีตแสตมป์ ดูสวยงามครับ ส่วนช่องทางเข้าออกก็จะมีไม้กระดกกั้นอยู่

การเข้าออกโครงการใช้ระบบ Easy Pass เจ้าของห้องขับรถเข้ามาก็ชะลอรถให้เครื่องอ่านทำงาน ประตูไม้กระดกจะเปิดแล้วขับรถเข้ามาได้เลย

ก่อนถึงประตูทางเข้าอาคาร จะมีน้ำพุบังคับให้วนรถเข้าจุด Drop-off ครับ

ที่ชั้น 1 ด้านนอกตัวอาคารจะมีส่วนกลาง ได้แก่ สวนสำหรับนั่งพักผ่อน ถ่ายรูปเล่นชิลๆ ได้ครับ

สนามเด็กเล่นด้านข้างอาคารตรงนี้จะค่อนข้างร่มทีเดียว ด้านในมีเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆ

อีกมุมเป็นสวนปิกนิก ไว้นั่งชิลๆ ช่วงเย็นๆ ค่ำๆ ก็น่าจะดีครับ

ทางขึ้นที่จอดรถ เพดานสูง 2.1 ม. รถตู้อย่าง Alphard ก็ขับขึ้นได้สบายครับ

ที่จอดรถภายในตัวอาคาร

ด้านนอกอาคาร จะมีที่จอดรถกลางแจ้ง รับรถได้อีก 19 คันครับ

ด้านข้างอาคาร มีพื้นที่จอดเติมลมรถ ที่ล้างรถเตรียมให้ครับ

เข้ามาภายในอาคาร ก็จะเจอกับล็อบบี้ของโครงการก่อน ตรงนี้จะกรุผนังด้วยหินอ่อนลายดำขาว ส่วนพื้นก็จะเป็นกระเบื้องสีดำ-ขาวเพื่อให้ดูเข้ากันครับ ดูแล้วหรูหราเลยทีเดียว

มุมนั่งพักผ่อนที่ล็อบบี้ จะวางโซฟาตัวใหญ่สำหรับนั่งได้ 3-4 คน มีโต๊ะกลาง และวางเก้าอี้อาร์มแชร์ สตูล ไว้เป็นชุดครับ

ห้อง Mail Room ของโครงการ จะแต่งด้วยสีทอง-ดำ ดูสวยไปอีกแบบครับ

มุมซักรีดในคอนโดครับ มีเครื่องซักผ้าเตรียมเอาไว้ให้ด้วย

ในพื้นที่จอดรถชั้นที่ 2 จะมีห้อง NY Room อยู่ครับ โครงการจัดห้องนี้มาอยู่ในลานจอดรถ เพื่อให้เวลาใช้เล่นเกมสนุกๆ เราสามารถเสียงดังได้โดยไม่ต้องกลัวรบกวนเพื่อนร่วมอาคารคนอื่นๆ ครับ

เครื่องเล่นภายในห้องครับ

อีกมุมของห้อง มี Boxing Corner สำหรับเล่นต่อยมวย

ภายในที่จอดรถชั้นที่ 4 จะมีห้องไฟฟ้าอยู่ครับ

มาดูแปลนของชั้นที่ 5 กันครับ ชั้นที่ 5 จะแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกเป็นห้องพักอาศัย จะอยู่ค่อนมาทางด้านหน้าของอาคาร ส่วนด้านหลังจะเป็นโซนส่วนกลางหลักของโครงการครับ

เดินเข้ามาในโซนส่วนกลางจะเจอกับห้องฟิตเนสอยู่ทางขวามือ พื้นที่ห้องใหญ่ใช้ได้เลยครับ มีอุปกรณ์เครื่องเล่นทั้งแบบลู่วิ่ง
อิลิปติคอล และเวท ครบเลยครับ

ฝั่งตรงข้ามห้องฟิตเนสจะเป็นห้องซาวน่า แยกชาย-หญิงด้วยนะครับ

ห้องเธียเตอร์ จะอยู่ถัดจากฟิตเนสมาเล็กน้อยครับ ใช้พักผ่อนดูหนังในโครงการได้ ใครที่ชอบดูหนังวันพักผ่อน รับประกันว่าชอบแน่นอนครับ

ถัดมาจะเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน นั่งทำงานแบบ Coworking Space ตรงนี้จะเป็นพื้นที่แบบ Semi-outdoor ครับ เปิดหน้าต่างรับลม นั่งเล่นสบายๆ

อีกฝั่งจะแบ่งโซนเป็นที่นั่งอ่านหนังสือครับ มีโซฟาให้ 2 ชุด พื้นในโซนนี้จะพิเศษตรงที่ปูหญ้าเทียมเอาไว้ ก็ช่วยสร้างบรรยากาศได้อีกแบบนะ

ด้านข้าง มีทางเดินในสวน ใช้เดินพักผ่อนยืดเส้นยืดสายได้ครับ

ถัดจาก Hudson Lawn มีลานโยคะกลางแจ้งบนสนามหญ้า

ลานโยคะกลางแจ้งตรงนี้ นอกจากจะปูเสื่อเล่นโยคะได้แล้ว ก็ยังน่านั่งเล่นพักผ่อน ปิกนิกด้วยนะครับ

สระว่ายน้ำของโครงการ จะเป็นสระว่ายน้ำในร่มครับ ทำให้ใช้งานได้ทั้งวัน สามารถเลือกเวลาที่คนน้อยๆ ว่ายน้ำพักผ่อนได้สบายๆ ครับ

ชั้นที่ 6 จะเป็นชั้นพักอาศัยทั้งชั้นครับ โดยมียูนิตต่อชั้นทั้งหมด 22 ยูนิตครับ

ตั้งแต่ชั้นที่ 7 จนถึงชั้นที่ 23 ก็เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดเช่นกันครับ โดยมียูนิตทั้งหมด 27 ยูนิตต่อชั้น

 และทางโครงการยังแบ่งที่พักอาศัยเป็นโซนหน้า 12 ยูนิต และโซนหลัง 15 ยูนิต เพิ่มความเป็นส่วนตัว ประตูห้องพักอาศัยเนื่องกัน อันนี้ออกแบบได้ดีทีเดียวครับ

ส่วนชั้นดาดฟ้าจะเป็นชั้นสวนลอยฟ้าและสกายพาวิเลียน โดยการขึ้นมายังชั้นนี้จะต้องกดลิฟต์ไปที่ชั้น 23 แล้วเดินขึ้นบันไดหนีไฟมาครับ

สวนลอยฟ้าของโครงการ จะปูพื้นหญ้า ปลูกหญ้าสายลมที่ดูพลิ้วไหว และปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้เป็นจุดๆ ครับ

สกายพาวิเลียน จะจำลองบรรยากาศ Rooftop Bar ของโรงแรมมาครับ โดยจะมีเคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ กับเก้าอี้ทรงสูง วันไหนอยาก
ชิลก็เอาเครื่องดื่มๆ เย็นๆ มานั่งชมวิวชั้นนี้ได้เลย

อีกมุมจะเป็นที่ชุดที่นั่งโซฟา สำหรับนั่งคุยสังสรรค์กันเป็นกลุ่มได้ครับ

Product
ห้องชุดของโครงการธนา แอสโทเรีย ตอนนี้ยังมีเปิดขายอยู่ตั้งแต่ขนาด 1 ห้องนอน ไปจนถึงขนาด 2 ห้องนอน โดยจะคละแบบกันไปครับ โดยห้องที่รีวิวจะเป็นแบบ 1 ห้องนอน Type 1BA พื้นที่ใช้สอย 24 ตร.ม. และแบบ 2 ห้องนอน Type 2BA พื้นที่ใช้สอย 48.28 ตร.ม. นะครับ
สำหรับห้องมาตรฐานของโครงการที่โครงการขายจะเป็นแบบ Fully Fitted ครับ โดยจะได้ชุดครัวเหมือนกับในห้องตัวอย่างของโครงการ
ภายในห้องของธนา แอสโทเรีย จะมีระบบ Bluetooth Sound System โดยสามารถสั่งเปิดผ่านสมาร์ทโฟนออกทางลำโพงที่โครงการติดตั้งไว้ได้เลยครับ

หน้าจอเครื่อง Bluetooth Sound System สามารถเปิดเพลงผ่านสมาร์ทโฟน หรือจะใช้ Micro SD เสียบไปที่เครื่องนี้ก็ได้ครับ สามารถต่อกับ TV ออกเป็นแบบสเตอริโอได้เลยครับ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชอบดูหนังฟังเพลงได้ทีเดียวกัน

ลำโพงที่โครงการติดตั้งให้ จะฝังบนฝ้าเพดานห้องนะครับ

มาเริ่มที่แบบ 1 ห้องนอน Type 1BA กันก่อนครับ

ลักษณะแปลนของห้อง Type 1BA จะเป็นแบบ 1 ห้องแยกส่วน ซึ่งข้อดีของยูนิตแปลนนี้ คือ ความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะอยู่พร้อมกัน 2 คน เช่น คนนึงนั่งดูโทรทัศน์ หรือคุยโทรศัพท์ ส่วนอีกคนนอนพักผ่อนอยู่ ทั้งเสียงและแสงจากโทรทัศน์จะไม่รบกวนคนที่นอนอยู่ครับ

เริ่มจากเปิดประตูห้องเข้ามาเลยครับ เราจะเจอกับห้องนั่งเล่นและโต๊ะทานอาหารที่วางต่อเนื่องกัน โดยห้องนี้จะออกแบบให้ดูโปร่งยาวตั้งแต่ประตูทางเข้าไปสุดยังระเบียงห้องเลย ดูโล่ง โปร่งสบายมากๆ ครับ

ข้างประตูทางเข้าจะมีมุมห้องครัว เป็นพ็อกเก็ตแยกไปต่างหากครับ ตรงนี้เราสามารถตกแต่งเพิ่มโดยติดประตูบานเลื่อนกระจกเข้าไป เพื่อกั้นส่วนใช้งานให้กลายเป็นห้องครัวปิด และกันไม่ให้แอร์จากห้องนั่งเล่นออกไปยังส่วนที่ไม่ใช้งานได้ด้วยครับ หรือจะเปิดโล่งไว้ก็ดูโปร่งสบายเช่นกัน

ชุดครัวที่โครงการให้ จะเข้ามุมเป็นรูปตัว L แบบในห้องตัวอย่าง โดยเว้นช่องสำหรับวางตู้เย็นไว้ติดกับโต๊ะทานอาหาร เวลาจะหยิบของกินจะได้สะดวกดี

ชุดครัวของโครงการ จะให้ตู้แขวนผนังมาแบบในห้องตัวอย่างนี้เลย ถือว่าดีนะครับ เพราะเราจะมีพื้นที่เก็บข้าวของ โดยเฉพาะของกิน ของแห้งต่างๆ ได้เป็นระเบียบ ไม่ต้องจ้างช่างมาบิวท์ตู้เพิ่มภายหลัง และท็อปด้วยหินแกรนิตแท้ แข็งแรง

ตู้ครัวตั้งพื้นที่ให้มา จะค่อนข้างเยอะครับ ทำให้เก็บของใช้ได้เป็นระเบียบมากขึ้น

ภายในพื้นที่ครัวจะมีประตูห้องน้ำอยู่ครับ โดยในห้องน้ำจะมีอ่างล้างหน้า กระจกเงาติดผนัง โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำอยู่ด้านในสุดของห้อง

อ่างล้างหน้าที่โครงการให้ ด้านล่างจะมีตู้บานเปิดไว้เก็บของใช้ได้ครับ

ติดกับอ่างล้างหน้าก็เป็นโถสุขภัณฑ์ มีที่แขวนกระดาษทิชชูติดไว้กับตัวตู้ใต้อ่าง

ด้านในสุดเป็นพื้นที่อาบน้ำ โดยจะมีฉากกั้นอาบน้ำบานเลื่อน 2 ตอนติดให้ ด้านในก็จะติดเครื่องทำน้ำอุ่นของ Rinnai มาด้วยครับ

มาดูส่วนห้องนั่งเล่นกันครับ พื้นที่ห้องนั่งเล่นถือว่ากว้างขวางดีครับ สามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง และโต๊ะกลาง การเดินทางเข้าออกส่วนนี้ถือว่าไม่ติดขัดอะไรครับ ส่วนระยะห่างจากโซฟาไปโทรทัศน์ก็มีค่อนข้างเยอะ สามารถใช้โทรทัศน์จอใหญ่ 45 นิ้วได้เลย

ผนังฝั่งตรงข้ามเป็นตำแหน่งตู้วางโทรทัศน์ มุมนี้สามารถหาตู้ตั้งพื้นมาวางยาวเต็มพื้นที่ ส่วนบนผนังก็สามารถเพิ่มตู้แขวนแบบในห้องตัวอย่าง จะได้มีพื้นที่เก็บของเพิ่มขึ้นด้วยครับ

ถัดจากมุมนั่งเล่นมาจะมีพื้นที่ สามารถจัดเป็นโต๊ะทำงานได้ครับ ในห้องตัวอย่างจัดมุมนี้โดยวางโต๊ะกับเก้าอี้หันหน้าเข้าผนัง สามารถใช้นั่งเปิดโน้ตบุ๊กทำงานได้เลย หรือจะปรับเป็นเดย์เบด หรือ Bean Bag เอาไว้นั่งๆ นอนๆ เอกเขนกเพลินๆ ก็ได้ครับ

ระเบียงห้อง มีการยกสูงกว่าขอบด้านนอก ป้องกันกรณีฝนตก น้ำสาดเข้าห้อง และเป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้าและติดคอนเดนซิ่งยูนิตของเครื่องปรับอากาศครับ พื้นที่ตรงนี้มีพอประมาณ สามารถออกไปใช้งานได้สะดวก

มาดูห้องนอนกันครับ ห้องนอนของยูนิตนี้ ถ้าดูตามแปลนจะเห็นว่า โครงการดันผนังห้องด้านนอกให้ยื่นออกมาจากตัวอาคารเล็กน้อยครับ เพื่อให้ภายในห้องดูไม่บีบแคบ พื้นที่ส่วนเตียงนอนของห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบายๆ ครับ

ผนังส่วนที่ยื่นออกมาจะทำเป็นกระจกเข้ามุมแบบนี้ครับ ช่วยเพิ่มมุมมองของห้องให้กว้างมากขึ้น ส่วนหน้าต่างห้องตรงนี้จะเป็นบานกระทุ้ง 2 บานครับ ใช้เปิดรับลมถ่ายเทอากาศภายในห้องได้

ฝั่งปลายเตียง มีช่องทางเดินได้สะดวก สำหรับการติดโทรทัศน์ที่ผนังฝั่งนี้ แนะนำว่าควรติดแบบแขวนกับผนังนะครับ จะได้ไม่เสียพื้นที่ทางเดินไป

อีกฝั่งของห้องเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งครับ ตรงนี้ถ้าเราไม่ใช้งานโต๊ะเครื่องแป้ง ก็อาจเลือกวางเป็นตู้เสื้อผ้าให้เต็มพื้นที่ผนัง ก็จะเหมาะกับคนที่เสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวเยอะนะครับ

มาต่อกันที่แบบ 2 ห้องนอน Type 2BA กันครับ

มาดูแปลนของแบบ 2 ห้องนอน Type 2BA กันครับ ห้องนี้จะจัดเอาครัวไว้ติดกับประตูทางเข้าห้องเลย และออกแบบห้องนั่งเล่นให้เป็นพื้นที่โปร่งยาวไปจนสุดระเบียงห้อง ทำให้รองรับสมาชิกในห้องได้อย่างไม่อึดอัดครับ อีกจุดที่น่าสนใจ คือ ห้องนี้จะวางห้องนอนทั้งสองห้องและห้องน้ำไว้ติดกับผนังด้านนอกอาคาร ทำให้ห้องนอนทั้งสองห้องได้วิวที่ดี และห้องน้ำก็สามารถเปิดบานกระทุ้งถ่ายเทอากาศได้ด้วยครับ

เริ่มจากส่วนห้องครัวกันก่อนครับ เปิดเข้ามาปุ๊บเราจะเจอกับตู้อเนกประสงค์และชุดครัว วางหันหน้ากันแบบนี้ โดยพื้นตรงนี้จะเป็น
แกรนิโต้ ขนาด 60x60 ซม. ครับ

มาดูตู้อเนกประสงค์กันครับ ตู้นี้จะมีชั้นวางของอยู่ตรงกลาง เอาไว้วางพวกกุญแจห้อง กุญแจรถได้ จะได้หาเจอง่าย หยิบใช้สะดวก ส่วนตู้ด้านล่างเปิดมาเป็นที่วางรองเท้าครับ ส่วนตู้ด้านบนจะแบ่งช่องด้านในเอาไว้วางของ และใช้ซ่อนเบรกเกอร์สวิตช์ของห้อง

อีกฝั่งจะเป็นชุดครัวครับ มีตู้ตั้งพื้นและตู้แขวนผนัง ให้มาเหมือนในห้องตัวอย่างครับ

ถัดมาเป็นโต๊ะทานอาหาร วางเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นที่อยู่ด้านใน พื้นที่ห้องตรงส่วนนี้ออกแบบให้ดูโปร่งโล่ง ช่วยให้รู้สึกไม่อึดอัดดีครับ พื้นห้องส่วนนี้จะปูด้วยลามิเนตครับ

ถัดจากโต๊ะทานอาหารจะมีพื้นที่ว่างเล็กๆ อยู่ครับ ในห้องตัวอย่างวางโต๊ะลิ้นชักสำหรับไว้เก็บของ ส่วนในห้องจริงเราสามารถปรับใช้ได้ตามต้องการ เช่น วางโต๊ะทำงานเล็กๆ หรือจะหาตู้ หรือชั้นเก็บของสวยๆ มาใช้งานก็ได้ครับ

ห้องนั่งเล่น ออกแบบมากว้างขวางใช้ได้นะครับ อยู่ใกล้ระเบียงห้อง ทำให้เรานั่งมองวิวข้างนอกจากห้องนั่งเล่นได้เลย พื้นที่ก็วางโซฟาสำหรับนั่ง 2-3 คนได้ ผนังฝั่งตรงข้ามสามารถหาตู้วางโทรทัศน์มาใช้ หรือจะเจาะผนังแขวนเป็นตู้ลอยขึ้นมาแบบในห้องตัวอย่างก็ได้เหมือนกันครับ

ระเบียงห้อง เป็นพื้นที่ใช้วางเครื่องซักผ้าและติดคอนเดนซิ่งยูนิตเครื่องปรับอากาศครับ โดยระเบียงห้องยูนิต 2BA จะมีความกว้างมากขึ้น ออกมาใช้งานระเบียง รับลม ซักผ้า ได้สะดวกครับ

มาดูอีกฝั่งของห้องกันครับ โครงการจะวางห้องนอน Master ห้องน้ำ และห้องนอนที่ 2 ไว้ฝั่งเดียวกันแบบนี้เลย เพื่อให้ใช้งานเชื่อมต่อกันได้สะดวก โดยห้อง Master Bedroom จะอยู่ด้านขวามือของภาพครับ

ห้อง Master Bedroom กว้างขวางดีทีเดียว วางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ มีพื้นที่ข้างเตียงไว้วางโต๊ะ หรือตู้ข้างเตียงได้อีกครับ ทำให้บรรยากาศของห้องนี้คล้ายกับอยู่บ้านทีเดียว ฝั่งปลายเตียงมีทางเดินเข้าด้านในห้องได้สะดวก ดังนั้น ถ้าจะติดโทรทัศน์ไว้ที่ผนังฝั่งนี้ เราก็ยังแนะนำว่าให้ติดแขวนกับผนังเหมือนในห้องตัวอย่าง จะทำให้เดินได้สะดวกกว่าหาตู้มาตั้งพื้นครับ

ข้างเตียงฝั่งนี้ โครงการแต่งโดยวางตู้ข้างเตียง สำหรับวางโคมไฟหรือของใช้ต่างๆ และเก็บของอื่นๆ ให้เป็นระเบียบ ถัดไปเป็นอาร์มแชร์เล็กๆ ครับ เป็นไอเดียว่า ถ้าเราอยากเพิ่มมุมนั่งเล่นหรือนั่งแต่งตัวในห้อง ก็ควรวางอาร์มแชร์ไว้ติดกับเตียงนอนแทนตู้ข้างเตียงครับ จะได้ไม่ขวางการใช้งานตู้เสื้อผ้า

ผนังฝั่งนี้สามารถเลือกวางตู้เสื้อผ้าคู่กับโต๊ะเครื่องแป้งเหมือนในห้องตัวอย่าง หรือจะวางตู้เสื้อผ้าให้เต็มผนังไปเลยก็ได้ครับ สำหรับตู้เสื้อผ้า ลองเลือกเป็นตู้บานเลื่อนมาใช้งานก็สะดวกดี ไม่ต้องเผื่อพื้นที่ข้างตู้ไว้สำหรับบานเปิดตู้ครับ

มาดูห้องน้ำกันครับ สำหรับ Type 2BA ห้องน้ำจะใช้งานร่วมกัน ดังนั้น ห้องน้ำจึงได้พื้นที่ค่อนข้างกว้างขึ้น เพื่อให้สุขภัณฑ์ต่างๆ ถูกจัดไว้ที่ผนังฝั่งเดียวกัน เพื่อให้มีช่องทางเดินเข้าออกใช้งานได้สะดวก

อ่างล้างหน้า จะเป็นแบบฝังลงเคาน์เตอร์ครับ รอบๆ อ่างมีพื้นที่สำหรับวางของชิ้นเล็กๆ ได้ เช่น ขวดสบู่ล้างมือ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน

โถสุขภัณฑ์ จะวางติดกับอ่างล้างมือครับ สามารถลุกนั่งใช้งานได้สะดวก ไม่ติดขัดอะไร ที่ผนังข้างๆ จะติดที่แขวนม้วนกระดาษทิชชูให้

พื้นที่อาบน้ำ โครงการจะก่อเขิบขึ้นมาเพื่อกันน้ำล้นครับ และติดฉากกั้นอาบน้ำให้ เป็นกระจก Tempered Glass

ด้านในพื้นที่อาบน้ำ จะติดฝักบัวแบบมีก้านปรับระดับความสูงให้ และมีเครื่องทำน้ำอุ่นของ Rinnai ให้ครับ

มาดูห้องนอนที่ 2 กันต่อครับ ห้องนอนที่ 2 พื้นที่จะเล็กกว่าห้อง Maser Bedroom มาเล็กน้อยครับ แต่ก็สามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ได้ค่อนข้างครบนะครับ พื้นที่ส่วนเตียงนอนห้องนี้ วางเตียงขนาด 3 ฟุตเอาไว้ ซึ่งถ้าหากจะวางเตียง 5 ฟุตก็ทำได้ครับ แต่ต้องผลักเตียงนอนให้ชิดกับหน้าต่างห้อง

ในห้องตัวอย่างแต่งโชว์ไอเดียสำหรับนอน 1 คน เสื้อผ้าไม่เยอะมาก ก็ใช้เป็นตู้ลิ้นชักวางไว้ที่ข้างเตียง ฝั่งติดหน้าต่างห้องได้เลยครับ ด้านข้างเตียงอีกฝั่งวางโต๊ะเก้าอี้ ใช้เป็นโต๊ะอเนกประสงค์ จะแต่งหน้าก็ได้ หรือจะนั่งทำงานก็ได้ครับ

ฝั่งปลายเตียง มีทางเดินให้สามารถเดินเข้าไปฝั่งติดหน้าต่างได้สะดวกครับ ในห้องนี้ใช้การติดโทรทัศน์แบบแขวนผนัง ไม่กีดขวางทางเดินครับ

Price
ห้องของโครงการธนา แอสโทเรีย ยังมีห้องอยู่ครับ โดยจะมีคละแบบกันไป ทั้งห้องขนาด 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน โดยจะขายห้องเป็นแบบ Fully Fitted สำหรับราคาเริ่มต้นของห้องที่เปิดขายจะมีดังนี้ครับ
-1 ห้องนอน 24 ตร.ม. เริ่มต้นที่ 2.1 ล้านบาท
-2 ห้องนอน 48.28 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 4.31 ล้านบาท
สำหรับราคาขายของโครงการเฉลี่ยเป็นตารางเมตรจะอยู่ที่ช่วง 88,000-100,000 บาท/ตร.ม.

Conclusion
โครงการธนา แอสโทเรีย เป็นคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ที่น่าสนใจอีกโครงการครับ สำหรับคนที่มองหาคอนโดมิเนียมโซนจรัญสนิทวงศ์ ที่เน้นยูนิตไม่มาก ใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งจุดน่าสนใจของโครงการนี้ ผมจะสรุปให้คร่าวๆ ดังนี้ครับ
-มียูนิตไม่เยอะมาก ทั้งโครงการมี 493 ยูนิต เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยครับ การใช้งานส่วนกลางต่างๆ ก็จะไม่หนาแน่นมากนัก เรียกว่าสามารถหาช่วงเวลาว่างที่คนน้อยๆ มาใช้ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ได้ง่ายครับ
-ส่วนกลางโครงการ จัดมาให้หลายอย่าง โดยวางกระจายไว้ตามส่วนต่างๆ ภายในโครงการ เพื่อให้การใช้งานไม่ต้องไปกระจุกรวมกันครับ และแยกส่วนใช้งานที่อาจเกิดเสียงรบกวนอย่างสระว่ายน้ำกับห้องประชุมที่ต้องการความเงียบสงบออกจากกัน หรือจัดเอาห้องเกมไว้ส่วนเดียวกับที่จอดรถ เพื่อเวลาที่เราสนุกสนานจนเสียงดัง จะไม่รบกวนผู้อื่น และมีส่วนกลางชั้นดาดฟ้า ทำเป็นสวนพักผ่อนและพาวิเลียน นั่งชมวิวเมือง แม่น้ำเจ้าพระยา สะพานพระราม 8 แบบ 360 องศา ตรงนี้น่าจะถูกใจคนที่ชอบนั่งชิลๆ ดูวิวเมืองนะครับ
-ตัวยูนิตพักอาศัย ออกแบบให้ส่วนห้องนั่งเล่นได้พื้นที่ค่อนข้างกว้างขวางทีเดียวครับ เพื่อให้รองรับการอยู่อาศัย 2 คนขึ้นไปได้จริงๆ และห้องนอนของที่นี่จะเป็นแบบแยกส่วน มีประตูและก่อผนังกั้น ช่วยกันเสียงรบกวนได้ดี ยกตัวอย่างก็คือ คนนึงนอนอยู่ ส่วนอีกคนนั่งดูโทรทัศน์ เสียงและแสงไฟจากโทรทัศน์จะไม่รบกวนคนที่นอนอยู่ นอกจากนี้ ยูนิตแบบ 2 ห้องนอน ยังได้ห้องนอนที่ 2 ที่มีขนาดพอจัดเตียงใหญ่ 5 ฟุตได้นะครับ ตรงนี้น่าจะตอบโจทย์กลุ่มที่อยู่เป็นครอบครัวได้ดี
-ทำเล เรื่องกินอยู่ใกล้คอนโดสบายหายห่วงมาก ของกินอร่อยๆ มีหลายร้าน แถมไม่แพงด้วยครับ การเดินทางก็ง่าย อยู่ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า
สำหรับคนที่มองหาคอนโดโซนจรัญสนิทวงศ์ ปิ่นเกล้าอยู่ โครงการธนา แอสโทเรีย ก็เป็นอีกโครงการที่น่าสนใจครับ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ตึกยังใหม่ๆ อยู่ ถ้าสนใจก็แวะไปที่โครงการได้เลย

>

Fact Sheet
ชื่อโครงการ : ธนา แอสโทเรีย
เจ้าของโครงการ : บริษัท ธนาแลนด์ จำกัด
ที่ตั้งโครงการ : ถ.จรัญสนิทวงศ์ ติด ซ.จรัญสนิทวงศ์ 46
ประเภทโครงการ : คอนโดมิเนียม สูง 23 ชั้น 1 อาคาร
พื้นที่โครงการ : 2-2-73.5 ไร่
จำนวนยูนิต : ยูนิตพักอาศัย 493 ยูนิต ร้านค้า 4 ยูนิต
แบบห้อง : -Studio พื้นที่ใช้สอย 22-24 ตร.ม.
-1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 29-46 ตร.ม.
-2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 43-58 ตร.ม.
สิ่งอำนวยความสะดวก : ร้านค้า โถงรับรอง โถงลิฟต์ สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด ที่จอดรถ สวน สนามเด็กเล่น ที่จอดรถ สระว่ายน้ำ ห้องออกกาลังกาย ห้องซาวน่าแยกชาย-หญิง ห้องชมภาพยนตร์และร้องคาราโอเกะ โถงพักผ่อน สวนหย่อม
ระบบรักษาความปลอดภัย : เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กล้อง CCTV ระบบ Access Card
ราคาเริ่มต้น : 2.1 ล้านบาท
โทร. : 02-434-2000
เว็บไซต์ : www.thanaland.co.th