รีวิวบ้าน ไอลีฟ ไพร์ม พระราม 2 กม.14 สไตล์ California โปร่ง โล่ง อยู่สบาย

ไอลีฟ ไพร์ม พระราม 2 กม.14 พัฒนาโครงการโดยบริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จํากัด ในกลุ่มบริษัทกานดา กรุ๊ป ทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท (ชำระเต็ม) มีอิสระ บุญยังเป็นกรรมการผู้จัดการ ซึ่งเติบโตมาจากการพัฒนาโครงการในย่านพระราม 2 ก่อนจะขยับขยายมาพัฒนาโครงการโซนอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ ย่านรังสิต, ลำลูกกา และในต่างจังหวัด เช่น ที่ภูเก็ต เป็นต้น โดยทุกโครงการจะออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “คุ้มค่า ประหยัด และส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว” ด้วยการมุ่งเน้นในเรื่องหลักๆ อาทิ Eco Smart Town การใช้พลังงานทางเลือก เช่น ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โซลาร์เซลล์ กังหันลม และใช้หลักการ Reduce Reuse Recycle ด้วยการตั้งธนาคารขยะบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง หรือ Easy Maintenance การออกแบบบ้านให้ง่ายต่อการบำรุงรักษา เลือกใช้วัสดุทนทาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถอยู่อาศัยได้ถึง 3 Generation มีห้องนอนชั้นล่างเพื่อรองรับผู้สูงอายุ

ปัจจุบันบริษัทมีแบรนด์สินค้าอยู่ 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ “กานดา เพลส” เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น, “ไอลีฟ ทาวน์” เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น, “ไอลีฟ พาร์ค” บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และ “ไอลีฟ ไพรม์” ที่มีทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม โดยเป็นกลุ่มสินค้าระดับพรีเมียมของกานดาฯ ณ ขณะนี้

Location

โครงการตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร สามารถเดินทางเข้าออกได้ถึง 2 ทาง คือ 1.จากซอยวัดพันท้ายนรสิงห์ และ 2.เข้าจากถนนแสมดำ (ซอยวัดแสมดำ) ซึ่งแนะนำให้มาทางถนนแสมดำจะง่ายกว่า โดยเมื่อลงทางด่วนที่ถนนพระราม 2 แล้ว วิ่งมาตามถนนดังกล่าวผ่านห้างเซ็นทรัล พระราม 2 และจุดตัดกับถนนกาญจนาภิเษก (ทางพิเศษบางพลี-สุขสวัสดิ์) แล้วให้ออกทางคู่ขนาน จะเจอทางเข้าถนนแสมดำอยู่ด้านซ้ายมือพอดี

หลังจากเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนแสมดำแล้ว วิ่งมาตามเส้นทางเรื่อยๆประมาณสัก 4 กิโลเมตรก็จะเจอกับทางเข้าโครงการ ซึ่งเป็นทางเข้าเดียวกับโครงการไอลีฟ ทาวน์ พระราม 2 กม.14 ให้เลี้ยวขวาวิ่งตรงมาประมาณ 700-800 เมตร ก็จะพบกับทางเข้าในส่วนของโครงการไอลีฟ ไพร์ม พระราม 2 กม.14 อยู่ด้านขวามือนั่นเอง

จากทำเลที่ตั้งของโครงการเชื่อมต่อกับถนนพระราม 2 ได้อย่างสะดวก รวมทั้งถนนสายอื่นไม่ว่าจะเป็นถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล, ถนนเอกชัย-บางบอน, ถนนท่าข้าม, ถนนกาญจนาภิเษก (ถนนวงแหวนรอบนอก) ทั้งฝั่งตะวันตกไปย่านบางแค, บางบัวทอง กับด้านใต้ซึ่งเป็นทางพิเศษสายสุขสวัสดิ์-บางพลี ไปออกโซนตะวันออก เช่น บางนา, สมุทรปราการ ได้โดยไม่ต้องผ่านย่านใจกลางเมือง

นอกจากนี้ถนนพระราม 2 ยังเชื่อมต่อกับทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1), สะพานพระราม 9, สะพานภูมิพล 1-2 ตลอดจนทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2 บางโคล่-แจ้งวัฒนะ) ทำให้การเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ อาทิ ย่านพระราม 3, สาทร, สีลม มีความคล่องตัวมากขึ้น โดยเฉพาะหากต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดทางภาคใต้ที่มีเมืองชายทะเลขึ้นชื่อ เช่น ชะอำ จ.เพชรบุรี, หัวหิน จ.ประจวบฯ ก็มีความสะดวกเช่นกัน

ขณะที่ภาครัฐก็มีแผนพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี-ปากท่อ ช่วงกรุงเทพฯ-มหาชัย (บ้านแพ้ว), โครงการปรับปรุงขยายทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย โดยจะขยายช่องจราจรทางหลักจาก 3 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร ขยายทางคู่ขนานจาก 2 ช่องจราจร เป็น 3 ช่องจราจร, โครงการก่อสร้างทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก หรือทางด่วนที่ซ้อนทับไปตามแนวเกาะกลางของถนนพระราม 2 เชื่อมกับทางพิเศษเฉลิมมหานครบริเวณถนนพระรามที่ 3 ใกล้กับทางแยกต่างระดับบางโคล่ พร้อมเชื่อมต่อกับทางพิเศษเฉลิมมหานครและทางพิเศษศรีรัชด้วย

ความคืบหน้าล่าสุดบอร์ด กทพ.ได้อนุมัติผลการประกวดราคาแล้ว 2 สัญญา คือสัญญาที่ 2 ทางยกระดับ ช่วงห้างเซ็นทรัล พระราม 2-รพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล และสัญญาที่ 4 งานก่อสร้างสะพานขึงคู่ขนาน ส่วนอีก 2 สัญญายังต้องรอตรวจสอบกรณีมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้รับเหมาเพิ่มเติม

ส่วนเมกะโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่อีกโครงการหนึ่งคือโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 ด้านตะวันตก มีระยะทาง 98 กิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 (ระยะทาง 254 กม.) ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมฯ โดยด้านตะวันตกเริ่มต้นที่ถนนพระรามที่ 2 เชื่อมกับมอเตอร์เวย์ บางใหญ่-กาญจนบุรี ถึงถนนสายเอเชีย บริเวณ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจากการศึกษาพบว่าช่วงต่อเชื่อมจากถนนพระราม 2-มอเตอร์เวย์บางใหญ่ มีปริมาณจราจรมาก อาจจะพิจารณาก่อสร้างก่อน ส่วนด้านใต้ ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร เนื่องจากแนวเส้นทางใกล้เคียงแนวเส้นทางถนนเชื่อมสมุทรปราการ-สมุทรสาคร ของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) จึงชะลอโครงการไปก่อน

ด้านโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนหรือรถไฟฟ้านั้น การรถไฟฯ ก็มีโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงหัวลำโพง-บางบอน-มหาชัย ที่กำลังนำกลับมาศึกษาโครงการใหม่อีกครั้ง เพื่อเป็นเส้นทางเชื่อมโยงการคมนาคมเข้าสู่ส่วนกลาง หลังจากมีแผนผลักดันให้จังหวัดสมุทรสาครเป็นศูนย์กลางอาหารทะเลที่สำคัญของไทย เพื่อเข้ามาช่วยเสริมการเดินทางในพื้นที่ให้มีความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้นด้วย ตลอดจนโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างจะเปิดประกวดราคาในช่วงปลายปี 2562 นี้

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกย่านนี้มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ทั้งห้างเซ็นทรัล พระราม 2, บิ๊กซี พระราม 2, โฮมโปร พระราม 2, ช้อปปิ้งมอลล์ พอร์โต้ ชิโน่, เทสโก้ โลตัส, ไทวัสดุ, แม็คโคร พระราม 2, แม็คโคร มหาชัย, ตลาดมหาชัย แหล่งจำหน่ายอาหารทะเลขึ้นชื่อ รวมทั้งห้างเซ็นทรัลพลาซา มหาชัย แลนด์มาร์คแห่งใหม่ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ สถานพยาบาล อาทิ รพ.บางมด, รพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์ฯ, รพ.นครธน และสถานศึกษาชั้นนำ เช่น รร.อัสสัมชัญ แคมปัส พระราม 2, รร.สารสาสน์วิเทศบางบอน, รร.เลิศหล้าถนนกาญจนาภิเษก และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (บางมด) ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติป่าชายเลน, อุทยานประวัติศาสตร์พันท้ายนรสิงห์ และร้านอาหารทะเลขึ้นชื่ออีกมากมาย

“ถนนพระราม 2” หรือทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี-ปากท่อ นับเป็นเส้นทางหลักในการคมนาคมขนส่งสู่ภาคใต้ จึงเป็นทำเลที่มีความโดดเด่นด้านการคมนาคม สามารถเดินทางเชื่อมสู่พื้นที่เขตเศรษฐกิจชั้นในของกรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวก ที่สำคัญยังมีความพร้อมสรรพทั้งด้านแหล่งงาน, สถานศึกษา, สถานพยาบาล และแหล่งช้อปปิ้งจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันให้เลือกตามความต้องการ เหมาะสำหรับเป็นแหล่งพักอาศัยที่มีความครบเครื่องแห่งหนึ่งทีเดียว

Project Concept

บนพื้นที่โครงการกว่า 49 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม จำนวนรวม 395 ยูนิต แบ่งออกเป็นโซนบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 124 ยูนิต (ฝั่งขวา) และทาวน์โฮม 2 ชั้นจำนวน 271 ยูนิต (ฝั่งซ้าย) ด้วยการออกแบบให้มีกลิ่นอายของบ้านในแบบแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นดีไซน์ที่แตกต่างและไม่เคยทำมาก่อน โดยได้นำเส้นสายมาผสมผสานกับสไตล์โมเดิร์น พร้อมเลือกใช้วัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม อาทิ ลามิเนตหนา 12 มม., กระเบื้องแกรนิโต้ ขนาด 60x60 ลายหินอ่อน, สุขภัณฑ์อเมริกันสแตนดาร์ด, ขอบหน้าต่างแบบ Double Protection ที่สำคัญยังง่ายต่อการบำรุงรักษาในอนาคต, ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหนึ่งใน Kanda Concept…Eco Smart Town ได้แก่

Eco Smart ใช้พลังงานทางเลือก และใช้หลักการ Reduce Reuse Recycle 
- หลอดไฟในบ้านและถนนโครงการเป็นหลอด LED ทั้งหมด ลดการใช้กระแสไฟฟ้าได้กว่า 50%
- ใช้กระจกเขียวตัดแสง ทำให้ช่วยประหยัดไฟในเวลากลางวัน อีกทั้งช่วยลดความร้อนและรังสียูวีได้ดี
- ฝ้าเพดานชั้นบนเป็นยิปซัมชนิดมีฟอยล์ป้องกันความร้อนเพื่อลดการใช้พลังงาน
- วงกบภายใน บัวเชิงผนัง บัวฝ้าเพดาน ใช้วัสดุทดแทนไม้ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และหมดกังวลเรื่องปลวก มอดในระยะยาว

Easy Maintenance ออกแบบบ้านให้ง่ายต่อการบำรุงรักษา เลือกใช้วัสดุทนทาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- พื้นชั้นบน-ล่างปูด้วยแกรนิโต้ 60x60 ซม. สวยงาม ทนทาน แข็งแรง
- ออกแบบให้พื้นครัวนอกและลานซักล้างวางบนคาน หมดปัญหาเรื่องการทรุดตัว
- ออกแบบห้องน้ำให้มีความโปร่งสบาย และห้องน้ำชั้นบนอยู่ตรงกับที่จอดรถเพื่อง่ายต่อการซ่อมบำรุงรักษาในอนาคต
- บานหน้าต่างเป็นกรอบอะลูมิเนียม และจัดทำขอบกันน้ำ (Double Protect) ช่วยป้องกันน้ำรั่วซึมอีกชั้นหนึ่ง
- สายไฟร้อยท่อฝังผนังทั้งหมดเพื่อความสวยงาม พร้อมจัดเตรียมจุดเชื่อมทีวี โทรศัพท์และแอร์
- จัดทำจุดน้ำดี-น้ำทิ้งสำหรับห้องครัวภายในและครัวภายนอก
- ที่จอดรถแยกจากตัวอาคาร ง่ายต่อการซ่อมบำรุงในอนาคต

3 Generationโดยมีห้องนอนชั้นล่างที่กว้างขวาง เพื่อรองรับได้ทั้ง 3 Generation
- วางตำแหน่งห้องนอน 4 ไว้ชั้นล่าง ไม่ต้องขึ้นบันได เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ
- สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องอเนกประสงค์ได้หากต้องการ

นอกจากนี้โครงการยังจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เสมือนอยู่ในอาณาจักรขนาดใหญ่ เช่น สวนสาธารณะขนาดใหญ่, สโมสรซึ่งมีบริการสระวายน้ำและฟิตเนสใช้ระบบคิดค่าบริการในแต่ละครั้งตามการใช้งานจริง หรือบริการสาธารณะอย่างร้านค้า, ร้านสะดวกซื้อ, รถสองแถววิ่งรับส่งลูกบ้านในโครงการถึงปากซอยแสมดำ ขณะที่ในส่วนของโครงการเอง (ไอลีฟ ไพร์ม) นอกจากแยกประตูทางเข้าออกเฉพาะแล้ว ยังเป็นประตูแบบดับเบิ้ลเกต โดยมีทั้งไม้กระดกและประตูรั้วกั้นอีกชั้น พร้อมด้วยระบบ Easy Pass ในการเข้าออกโครงการ และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย

Product Concept

การออกแบบฟังก์ชันพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านจะเน้นเรื่องของความโปร่ง โล่ง และอยู่สบายเป็นหลัก ประกอบกับระบบก่อสร้างแบบพรีคาสท์ จึงไม่มีมุม เสา หรือคานมาบดบัง เกะกะพื้นที่ จึงสามารถใช้ประโยชน์ทุกตารางนิ้วได้อย่างคุ้มค่า และครบทุกความต้องการของทุกคนในครอบครัว
สำหรับแบบบ้านเดี่ยวในโครงการนี้มีให้เลือก 4 แบบด้วยกันดังนี้

- Type A+ ขนาดที่ดินเริ่มต้น 61 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 250 ตารางเมตร ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องครัว 3 ที่จอดรถในร่ม
- Type A ขนาดที่ดินเริ่มต้น 54 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 210 ตารางเมตร ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องครัว 3 ที่จอดรถในร่ม
- Type B ขนาดที่ดินเริ่มต้น 50.7 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 160 ตารางเมตร ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องครัว 2 ที่จอดรถในร่ม
- Type C ขนาดที่ดินเริ่มต้น 50.7 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 135 ตารางเมตร ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องครัว 2 ที่จอดรถในร่ม

ส่วนบ้านตัวอย่างนั้นมีให้เยี่ยมชม 3 Type คือแบบ Type A+, แบบ Type A และแบบ Type B โดยจะพามาชมบ้านตัวอย่างแบบ Type A+ ซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่ที่สุดในโครงการ

เริ่มจากบริเวณด้านหน้าฝั่งซ้ายเป็นที่จอดรถในร่ม รองรับได้ถึง 3 คัน ส่วนฝั่งขวาเป็นทางเข้าสู่ตัวบ้านมีประตูบานเลื่อนเปิดออกสองฝั่ง พื้นบ้านยกสูงจากลานจอดรถ

เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่สำหรับรับแขกหรือนั่งเล่นดูทีวีต่อเนื่องกับส่วนรับประทานอาหาร เป็นพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมถึงกัน

ฝั่งขวามือจัดเป็นมุมทำงานส่วนตัว/อ่านหนังสือเปิดโล่ง หรือหากต้องการความเป็นสวนตัวก็กั้นห้องเพิ่มได้

ล้อมรอบด้วยหน้าต่างรอบด้านเปิดรับแสงสว่างจากภายนอกได้อย่างเต็มที่ พื้นปูกระเบื้องแกรนิโต้ขนาดใหญ่ลายหินอ่อน 

ด้านซ้ายมือฝั่งเดียวกัน ด้านหน้าของตัวบ้านเป็นห้องนอนชั้นล่าง มีหน้าต่างกระจกสองด้านช่วยเปิดรับแสงสว่าง พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง วางเตียงขนาด 6 ฟุตยังมีพื้นที่เหลือสำหรับจัดวางตู้และโต๊ะแต่งตัวได้สบาย

ถัดไปเป็นห้องครัวแบบฝรั่งกว้างขวางใช้งานได้สะดวกเช่นกัน โดยมีประตูเปิดออกไปยังห้องครัวไทย ซึ่งสามารถทำครัวหนักๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นรบกวน

ห้องน้ำชั้นล่างแม้จะเป็นลักษณะของห้องน้ำใต้บันไดแต่มีเพดานสูงพอสมควร กั้นแยกส่วนอาบน้ำด้วยกระจกพร้อมช่องระบายอากาศ ปูผนังด้วยกระเบื้องแกรนิโต้แผ่นใหญ่จรดเพดาน
......
ฟังก์ชันพื้นที่ใช้สอยบริเวณชั้น 2 นั้น พื้นที่ตรงกลางเป็นลานกว้าง เหมาะสำหรับตกแต่งเป็นมุมพักผ่อนส่วนตัวของครอบครัว โดยมีระเบียงเปิดออกไปชมวิวด้านนอกได้

ฝั่งขวามือเป็นห้องนอน 1, 2 ที่มีห้องน้ำในตัวเพื่อการใช้งานที่สะดวก พื้นที่ใช้สอยกว้างขวางและโปร่งโล่ง พร้อมหน้าต่างรอบด้าน

ส่วนซ้ายมือนั้นเป็น Master Bedroom ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นเท่ากับห้องนอน 1 และ 2 รวมกัน เลยทีเดียว กั้นแยกส่วน Walk-in Closet เป็นสัดส่วนชัดเจน

ขณะที่ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่นั้นฟังก์ชันครบครัน มีฉากกระจกกั้นส่วนอาบให้ด้วย พร้อมช่องกระจกช่วยเพิ่มแสงสว่าง 

Price & Promotion

- Type A+ ราคาเริ่มต้น 5.85 ล้านบาท
- Type A ราคาเริ่มต้น 4.65 ล้านบาท
- Type B ราคาเริ่มต้น 3.95 ล้านบาท
- Type C ราคาเริ่มต้น 3.75 ล้านบาท

Conclusion

บ้านเดี่ยวในโครงการไอลีฟ ไพร์ม พระราม 2 กม.14 จึงเหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ ที่มีคน 3 เจนอยู่ด้วยกัน เนื่องจากมีฟังก์ชันพื้นที่ใช้สอยให้มากถึง 4 ห้องนอน โดยเฉพาะห้องนอนชั้นล่างรองรับผู้สูงอายุ หรือจะปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้สอยได้ตามความต้องการ ขณะเดียวกันทำเลที่ตั้งสามารถเดินทางเข้าออกถนนพระราม 2 ได้อย่างสะดวกถึง 2 เส้นทาง พรั่งพร้อมด้วยแหล่งช้อปปิ้งจับจ่ายใช้สอยตั้งแต่ภายในโครงการ ที่มีทั้งร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ไปจนถึงห้างใหญ่ๆ รองรับมากมาย นอกจากนี้ยังมีโครงข่ายคมนาคมเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นทางด่วน,ทางพิเศษ (มอเตอร์เวย์), วงแหวนรอบที่ 3 และรถไฟฟ้าพาดผ่านพื้นที่ใกล้เคียง ส่งผลต่อศักยภาพของทำเลที่จะเพิ่มค่าขึ้นอีกในอนาคต หากสนใจก็แวะเข้าไปเยี่ยมชมบ้านตัวอย่างในโครงการได้ทุกวัน

Fact Sheet

อ่านพรีวิวโครงการอื่นๆ คลิกที่นี่ www.home.co.th/review