รีวิวบ้านเดี่ยว เวนิว ไอดี เพชรเกษม 81 บ้านเดี่ยว “Everyday series” ส่วนกลางจัดเต็ม เชื่อมต่อ เพชรเกษม - บางบอน - พุทธมณฑล

บ้านเดี่ยวสังคมส่วนตัว มีเพียง 117 ยูนิตมาพร้อมพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ตั้งแต่ 189 - 276 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 - 5 ห้องนอน 3 - 5 ห้องน้ำ 1 - 2 ห้องนั่งเล่น พร้อมห้องครัวเป็นสัดส่วน จอดรถได้ 2 - 3 คัน ก่อสร้างด้วยระบบ Conventional ก่ออิฐมวลเบา ต่อเติม ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ง่าย มาพร้อมนวัตกรรมใหม่เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตและความปลอดภัยของครับครัว

สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางของโครงการมีความครบครัน ออกแบบคลับเฮาส์อย่างโดดเด่นด้วยแรงบันดาลใจจากเมือง Puglia เมืองชายทะเลของอิตาลี ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานสูงจาก SC Asset ที่ดูแลลูกบ้านตลอด 24 ชม.

ใครที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ เพื่อขยับขยายพื้นที่ใช้ชีวิตให้กับครอบครัว บทความนี้เราจะมารีวิวบ้านเดี่ยวพื้นที่ใช้สอย 276 ตร.ม. 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ แบบเจาะลึกทุกซอกมุมให้คุณได้อ่านกัน ไปพบกับรีวิวโครงการ เวนิว ไอดี เพชรเกษม 81 ได้เลย

Factsheet

ชื่อโครงการ :	โครงการ เวนิว ไอดี เพชรเกษม 81
บริษัท :	บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้งโครงการ :	ถนนมาเจริญ แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10160
เนื้อที่โครงการ :	28 - 2 - 50.7 ไร่
รายละเอียดโครงการ :	บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
จำนวนยูนิต :	117 ยูนิต
พื้นที่ใช้สอย :	189 - 276 ตร.ม.
พื้นที่ :	50.3 - 91.6 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย :	189 - 276 ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง :	65 บาท / ตร.ว. / เดือน
ราคาเริ่มต้น :	9.49 - 15 ล้านบาท* (สอบถามโครงการอีกครั้ง)
โทร :	062 597 8419
เว็บไซต์ :	https://www.scasset.com/th/house/venue-id-petchkasem-81/

Highlight

บ้านเดี่ยวซีรีส์ใหม่ พื้นที่ใช้สอย 276 ตร.ม. บนที่ดินเริ่มต้น 60.1 ตร.ว. หลังใหญ่ รอบรับ 5 ห้องนอน พร้อมห้องน้ำในตัว มีห้องครัวเป็นสัดส่วน จอดรถได้ถึง 3 คันตอบโจทย์ครอบครัวขยาย

ครบทุกนวัตกรรมทันสมัย 7 Living Solution by SC Asset เพื่อการอยู่อาศัยที่สะดวกสบายและปลอดภัยสำหรับทุก Generation เช่น EV Charger, Active Air Quality และ Ruejai Home OS

Facility ครบครัน ตอบโจทย์การใช้งานทั้งในร่มและกลางแจ้ง พร้อมความปลอดภัยที่แน่นหนา รปภ.ประจำการ 24 ชม. พร้อม CCTV ทั่วโครงการ และการควบคุมการเข้าออกด้วย Smart Gate 

ทำเลดี สะดวกทุกการเดินทาง สามารถเข้า-ออกได้ทั้งในเมืองและนอกเมือง โดยใช้ได้ทั้งเส้นทาง ถ.เพชรเกษม กับ ถ.บางบอน 5 เชื่อมต่อโซน บางแค, เอกชัย และ ศาลายา ได้สะดวก 

ครบครันด้วยศูนย์การค้า โรงพยาบาล และสถานศึกษา

Facility

เมื่อมาถึงโครงการ จะเจอกับถนนส่วนกลางของคอมมูนิตี้ SC Asset ซึ่งมีโฮมออฟฟิศ Work Place กับทาวน์โฮม เวิร์ฟ เป็นเพื่อนบ้านของ เวนิว ไอดี เพชรเกษม 81 โดยตลอด 2 ข้างทางมีการปลูกต้นไม้ไว้อย่างร่มรื่น พร้อมถนนลาดยางที่สวยงาม

Main Gate ได้รับแรงบันดาลใจจากลักษณะและลายเส้นของเปลือกหอย ที่พบได้จากทะเลใน Puglia แบ่งฝั่งประตูทางเข้ากับทางออก โดยมีซุ้ม รปภ.พร้อม กล้อง CCTV อยู่ตรงกลาง

ประตูรั้วของโครงการเป็นระบบรางเลื่อนไฟฟ้า ควบคุมด้วยระบบ Smart Gate จดจำป้ายทะเบียนรถของลูกบ้านเพื่อเปิดประตูให้แบบอัตโนมัติ โดยผู้พักอาศัยสามารถแจ้งเลขทะเบียนรถของผู้มาเยือนล่วงหน้าได้ผ่านแอปพลิเคชั่น Ruejai Home OS เพื่ออำนวยความสะดวกให้แขกไม่ต้องแลกบัตร

รั้วรอบโครงการมีความสูงถึง 3 ม. พร้อมติดเหล็กแหลม นอกจากนั้นทั้งบริเวณ Main Gate และพื้นที่โดยรอบโครงการจะมีกล้องวงจรปิด CCTV เสริมความปลอดภัยให้กับการอยู่อาศัย

เมื่อผ่านประตูเข้ามาในโครงการจะเจอกับถนนเมนกว้างถึง 12 ม. เพื่อการสัญจรที่คล่องตัว ส่วนถนนซอยหน้าบ้านจะกว้าง 9 ม. สะดวกในการนำรถเข้าออกจากบ้าน

โซนด้านหน้าโครงการเป็นพื้นที่ของอาคารคลับเฮาส์ขนาดใหญ่ ความสูง 2 ชั้น ซึ่งมีความสวยงามโดดเด่นไม่ซ้ำกับโครงการไหนๆ ตามคอนเซ็ปต์การพัฒนาบ้านของ SC Asset ที่แต่ละโครงการจะมีดีไซน์ของคลับเฮาส์ที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่น

คลับเฮาส์ของ เวนิว ไอดี เพชรเกษม 81 ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมในเมือง Puglia เมืองชายทะเลของประเทศอิตาลี ซึ่งมีเอกลักษณ์ในการสร้างหลังคาทรงเรขาคณิตแบบ ‘ตรูลลี่’ โดยโครงการได้นำมาประยุกต์ให้ดูโมเดิร์นด้วยการใส่เส้นโค้งไปตามหน้าต่างกระจก รวมถึงการใช้โทนสีนุ่มนวลสบายตา ให้ความรู้สึก โอ่อ่า หรูหรา ไปพร้อมกับความอบอุ่น ชวนให้ผ่อนคลายเมื่อกลับถึงบ้าน

หน้าคลับเฮาส์มีช่องจอดรถไว้รองรับผู้ที่มาติดต่อ เพิ่มความสะดวกแก่ผู้มาติดต่อและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของโครงการ

ทางขึ้นคลับเฮาส์มีทั้งบันไดและทางลาด เพื่อรองรับลูกบ้านที่ใช้งานรถเข็น ทั้งเด็ก ผู้พิการ และผู้สูงอายุที่เดินไม่สะดวก ให้ได้เข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเท่าเทียม

หน้าคลับเฮาส์เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือซึ่งมีความยาวถึง 25 ม. หรือเท่ากับขนาด “ Half Olympic”รองรับการออกกำลังกายได้อย่างจริงจัง

สระว่ายน้ำแบ่งพื้นที่เป็นโซนสระผู้ใหญ่กับสระเด็ก รูปทรงโค้ง Free Form เพื่อสื่อถึงชายทะเลของเมือง Puglia อันเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบคลับเฮาส์

ใกล้กับสระว่ายน้ำจะมีที่ล้างตัว รวมทั้งยังมีห้องน้ำ ชาย หญิง และผู้ใช้รถเข็น รองรับลูกบ้านในการเข้าใช้พื้นที่ส่วนกลาง

โซนในร่มฝั่งที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำจะเป็นห้อง Kids Room เป็นห้องสำหรับเด็กให้มาเล่นสนุก และเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กๆ

ในห้อง Kids Room ออกแบบให้มีไม้ลื่นกับบ่อบอลสำหรับเด็กเล็ก

อีกฝั่งของคลับเฮาส์จะเป็นห้องล็อบบี้ขนาดใหญ่ ตกแต่งโทรสีส้ม น้ำตาล ทอง ทำให้รู้สึกถึงความหรูหรา พร้อมทั้งฝ้าเพดานสูงพิเศษแบบ Double Volume ยิ่งเพิ่มความหรูหราของ lobby แห่งนี้ มีผนังเป็นกระจกขนาดใหญ่ เสริมความปลอดโปร่งให้กับพื้นที่ โดยล็อบบี้จะมีที่ให้นั่งพักผ่อนหรือนัดพบแขกอยู่หลายมุม ปัจจุบันใช้งานเป็น Sale Gallery

ลึกเข้าไปโซนด้านหลังของล็อบบี้จะมีมุมนั่งพักผ่อนที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น อยู่ติดหน้าต่างกระจกบานใหญ่เต็มผนัง เปิดรับแสงและวิวพื้นที่สีเขียวข้างคลับเฮาส์

ชั้น 2 ของคลับเฮาส์จะมีทางเดิน Corridor กว้าง เปิดโล่งรับลมธรรมชาติ เป็นตัวแบ่งโซนพื้นที่ของห้องออกกำลังกายและ Co - Working Space

จากทางเดินด้านบนจะมองลงมาเห็นสระว่ายน้ำหน้าอาคารคลับเฮาส์

ห้องฝั่งเดียวกับล็อบบี้คือ Co - Working Space ขนาดใหญ่ ตกแต่งสไตล์ Cozy บรรยากาศอบอุ่นคล้ายคาเฟ่ แบ่งพื้นที่เป็นหลายโซน ทั้งเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม ที่นั่งแบบเดี่ยว แบบกลุ่ม รวมถึงห้องประชุม

ลูกบ้านที่มาใช้บริการสามารถเลือกที่นั่งได้ทั้งแบบเดี่ยวบนเคาน์เตอร์ริมหน้าต่าง และแบบกลุ่มที่ได้ความเป็นสัดส่วนมากขึ้น โดยมีสัญญาณอินเตอร์เน็ต Wifi ให้ใช้งานได้

ฝั่งหนึ่งของ Co - Working Space จะเป็นผนัง เชื่อมต่อทางสายตากับโถง Double Volume ของล็อบบี้ด้านล่าง เพิ่มความปลอดโปร่งและให้บรรยากาศที่ดูหรูหรา

Co - Working Space จะมีห้องประชุมขนาดกลาง รองรับได้ราว 8 ที่นั่ง พร้อมทีวีสำหรับเปิดไฟล์นำเสนอ และกระดานไวต์บอร์ดสำหรับเขียนระดมความคิดเห็น

อีกฝั่งของอาคารจะเป็นห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ ฝ้าเพดานสูง เปิดรับแสงธรรมชาติด้วยผนังกระจก มีความปลอดโปร่ง เหมาะกับการออกกำลังกาย

อุปกรณ์ออกกำลังมีความครบครัน รองรับทั้ง Weight Training และ Cardio

ข้างอาคารคลับเฮาส์มีสวนหย่อมเล็กๆ เพิ่มความสดชื่นให้พื้นที่โซนด้านหน้าโครงการ

ขยับเข้ามากลางโครงการจะมีสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยบ่อน้ำพุเพื่อความสดชื่น มีทางเดินโดยรอบสวนเพื่อการยืดเส้นยืดสายเบาๆและวิ่งออกกำลังกาย

ในสวนจะมีสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ บนพื้นยาง EPDM ที่จะช่วยลดแรงกระแทก เวลาเด็กเล่นเครื่องเล่น หรือเกิดอุบัติเหตุ พร้อมเครื่องเล่นเสริมพัฒนาการเด็กที่มีความทันสมัย จัดเต็มให้ลูกบ้านรุ่นเล็กได้สนุกกันเต็มที่

สวนยังมีลานออกกำลังกายพร้อมเครื่องเล่นกลางแจ้งไว้รองรับลูกบ้านทุกเพศทุกวัย โดยในอนาคตเมื่อต้นไม้ในสวนแตกกิ่งสมบูรณ์จะได้ความร่มรื่นดีทีเดียว

ค่าส่วนกลางของโครงการ เวนิว ไอดี เพชรเกษม 81 จัดเก็บ 65 บาท / ตร.ว. / เดือน โดยครอบคลุมถึงค่าดูแลถนนทางเข้าโครงการด้านหน้าแล้วด้วย

จบจากการรีวิวพื้นที่ส่วนกลาง ต่อไปเราของพาไปชมบ้านเดี่ยวแบบต่างๆ ของโครงการ เวนิว ไอดี เพชรเกษม 81 กันต่อนะครับ

Design & Function

เวนิว ไอดี เพชรเกษม 81 จะเป็นแบบบ้าน “ Everyday series” ซีรีส์ใหม่ล่าสุดจาก SC ASSET เป็นซีรีส์ที่ถูกปรับตามพฤติกรรมของลูกค้าที่อยู่บ้านมากขึ้น ให้สามารถทำกิจกรรมในบ้านได้เต็มพื้นที่ มีส่วนพื้นที่ semi outdoor เยอะขึ้น จึงมีสร้างเกือบเต็มแปลงที่ดิน ทำให้พื้นที่ใช้สอยภายในดูกว้างขวาง แบ่งห้องต่างๆ ได้เป็นสัดส่วน และมีช่องแสงเยอะ ทำให้บ้านมีความปลอดโปร่ง โดยรวมดูโมเดิร์น เรียบหรู ดีไซน์ทันสมัย

บ้านก่อสร้างด้วยระบบ Conventional มีเสาเข็มกับคาน ก่อผนังด้วยอิฐมวลเบา ซึ่งได้ทั้งความแข็งแรง ระบายความร้อนดี และง่ายกับการต่อเติมบ้าน จะทุบ ตอก เจาะ ก็ทำได้สะดวก ไม่ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทางเหมือนกับผนังแบบ Precast หรือซีเมนต์หล่อในที่

บ้านโครงการใหม่ๆ จาก SC Asset จะมาพร้อมกับ 7 นวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิต Liviing Solution by SC Asset โดยจุดแรกที่จะเจอคือการเดินระบบไฟฟ้ารองรับอุปกรณ์ EV Charger ที่โรงจอดรถ ให้ครอบครัวที่มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถนำอุปกรณ์มาติดตั้งได้อย่างสะดวก

ประตูทางเข้าบ้านจากฝั่งโรงจอดรถจะติดตั้ง Digital Door Lock แบบรองรับ 3 วิธีปลดล็อค ทั้งใส่รหัส, พิมพ์ลายนิ้วมือ และทาบ Key Card

ตามบานประตูและหน้าต่างรอบบ้านจะมี Magnetic & Shock Sensor ตรวจจับการงัดแงะที่ไม่ปกติ โดยจะส่งสัญญาณเตือนไปที่แอปพลิเคชั่น Ruejai ในโทรศัทพ์ของผู้อยู่อาศัย ซึ่งภายในบ้านก็ได้ติดตั้งอินเตอร์เน็ต Ais Fiber ความเร็วสูงไว้เพื่อเชื่อมต่อระบบ Smart Home ต่างๆ ในบ้านไว้ด้วย สามารถใช้ฟรีได้เป็นเวลาถึง 1 ปี

นอกจากจะควบคุมระบบต่างๆ ได้ผ่าน Smartphone ที่ด้านข้างประตูโรงจอดรถจะมี Panel สำหรับควบคุมสัญญาณกันขโมย รวมถึงตัวจับความร้อนและควันไฟ

อีก Panel ที่อยู่ใกล้กันจะเป็นแผงควบคุม Home Automation ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าส่องสว่างหรือเครื่องปรับอากาศ ก็สามารถสั่งเปิดเปิดรอบบ้านได้ที่จุดเดียว หรือจะใช้แอปฯ Ruejai ก็สะดวกสบาย สั่งเปิดแอร์เย็นๆ รอไว้ตั้งแต่ก่อนกลับถึงบ้านก็ทำได้

เครื่อง Smoke Detector จะติดตั้งอยู่ที่ Living Area กับ Master Bedroom เป็นเครื่องตรวจจับควันไฟผิดปกติเพื่อแจ้งเตือนป้องกันเหตุเพลิงไหม้ จะส่งเสียงเตือนทั้งจากตัวเครื่อง รวมถึงส่งสัญญาณเตือนไปที่แอปฯ Ruejai

ส่วนเครื่อง Heat Detector ตรวจจับความร้อนผิดปกติ ติดตั้งอยู่ในห้องครัว เมื่อมีความร้อนเกินกำหนดจะส่งเสียงแจ้งเตือน รวมถึงส่งสัญญาณไปที่แอปฯ Ruejai เผื่อในกรณีที่เราไม่อยู่บ้าน

อีกนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นตามความต้องการด้านสุขภาพของคนในปัจจุบันคือ Active Air Quality เป็นระบบขจัดมลพิษทางอากาศภายในบ้านที่ SC Asset พัฒนาร่วมกับ SCG เพื่อกรองอากาศในบ้านให้สะอาด และดันอากาศเสียออกไปภายนอก สามารถควบคุมผ่านแอปฯ Ruejai ได้เช่นกัน

การเปิดปิดไฟฟ้าส่องสว่างในบ้านเป็นแบบ Smart Switch สั่งการผ่าน Smartphone ได้ง่ายๆ โดยตัวแผงสวิตช์ก็ยังสามารถใช้ระบบสัมผัสในการเปิดปิดแบบดั้งเดิมได้เช่นกัน

ทั้งหมดนี้คือนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยยุคใหม่ที่ SC Asset พัฒนาให้มีในบ้านทุกโครงการ สำหรับ เวนิว ไอดี เพชรเกษม 81 บ้านทุกแบบในโครงการก็มีระบบต่างๆ ข้างต้นติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานอย่างครบครัน

Home Type

เวนิว ไอดี เพชรเกษม มีบ้านเดี่ยวให้เลือกตามความต้องการของครับครัวทั้งหมด 3 แบบ สร้างบนที่ดินขนาด 50.3 - 91.6 เป็นต้นไป มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางตั้งแต่ 189 - 276 ตร.ม. ไล่เรียงจากไซส์เริ่มต้นจนถึงหลังใหญ่ที่สุดได้ดังนี้

บ้านเดี่ยว Jolly 189 ตร.ม.

บ้านเดี่ยวขนาดเริ่มต้นของโครงการ สร้างบนแปลงที่ดินเริ่มต้น 50.3 ตร.ว. มีพื้นที่ใช้สอย 189 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ มาพร้อมพื้นที่ Living Area กว้างขวาง แบ่งได้เป็น 2 โซน รวมถึงยังมีพื้นที่ทานอาหาร ห้องครัว และพื้นที่อเนกประสงค์บนโถงกลางชั้น 2

ชั้น 1 มีความสูงของฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.6 ม. พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิโต้ขนาด 60x60 ซม. มีทางเข้า 2 จุดคือประตูกระจกบานเลื่อนที่จะเข้ามาเจอกับ Living Area และประตูไม้บานทึบตรงโรงจอดรถที่เปิดเข้าไปเจอห้องน้ำกับห้องครัว

โถงชั้น 1 จะเปิดโล่งให้เลือกจัดฟังก์ชันได้ตามต้องการ ในแปลนยกตัวอย่างโดยแบ่งเป็น Living Area กับ Dining Area อยู่ฝั่งหน้าบ้าน โดยมี Double Living อยู่ลึกเข้าไปฝั่งด้านใน

ชั้น 2 มีความสูงของฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.8 ม. ปูพื้นด้วยวัสดุ SPC ซึ่งให้สัมผัสคล้ายไม้ แต่มีความทนทานทั้งกับความชื้น รอยขีดข่วน และปลวก โดยแบ่งพื้นที่เป็น 3 ห้องนอน ซึ่งทุกห้องมีห้องน้ำในตัว สำหรับ Master Bedroom ห้องจะมีขนาดใหญ่ที่สุด และมีระเบียงอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ส่วนบริเวณโถงกลางของชั้น 2 จะมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้จัดฟังก์ชันได้ตามต้องการ

บ้านเดี่ยว Jovial 210 ตร.ม.

บ้านเดี่ยวขนาดกลางของโครงการ สร้างบนที่ดินเริ่มต้น 52.3 ตร.ว. มีพื้นที่ใช้สอย 210 ตร.ม. มาในฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พร้อมห้องครัวและพื้นที่อเนกประสงค์บนโถงกลางชั้น 2

ชั้น 1 มีความสูงของฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.6 ม. พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิโต้ขนาด 60x60 ซม. มีทางเข้า 2 จุดคือประตูกระจกบานเลื่อนที่จะเข้ามาเจอกับ Living Area และประตูไม้บานทึบตรงโรงจอดรถที่เปิดเข้าไปเจอห้องน้ำกับห้องครัว

โซนแรกเมื่อเข้ามาจากประตูหลักจะเป็น Living Area ที่เชื่อมต่อกับ Dining Area โดยถัดมากลางบ้านจะเป็นห้องนอนของชั้น 1 ที่อยู่ตรงข้ามกับบันได ส่วนอีกฝั่งของบ้านจะเป็นห้องครัวขนาดใหญ่

ชั้น 2 มีความสูงของฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.8 ม. ปูพื้นด้วยวัสดุ SPC ซึ่งให้สัมผัสคล้ายไม้ แต่มีความทนทานทั้งกับความชื้น รอยขีดข่วน และปลวก โดยแบ่งพื้นที่เป็น 3 ห้องนอน ซึ่งทุกห้องมีห้องน้ำในตัว สำหรับ Master Bedroom ห้องจะมีขนาดใหญ่ที่สุด และมีระเบียงอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ส่วนบริเวณโถงกลางของชั้น 2 จะมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้จัดฟังก์ชันได้ตามต้องการ มีประตูเชื่อมต่อกับระเบียงที่ยาวไปถึงฝั่ง Master Bedroom

บ้านเดี่ยว Joyous 276 ตร.ม.

บ้านเดี่ยวที่เราจะเข้าไปรีวิวกันคือบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่สุดของโครงการ สร้างบนที่ดินเริ่มต้น 60.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 276 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ จอดรถได้ 3 คัน มาพร้อมกับห้องครัวขนาดใหญ่ และพื้นที่อเนกประสงค์บนโถงชั้น 2

ชั้น 1 มีความสูงของฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.6 ม. พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิโต้ขนาด 60x60 ซม. มีทางเข้า 2 จุดคือประตูกระจกบานเลื่อนที่จะเข้ามาเจอกับ Living Area และประตูไม้บานทึบตรงโรงจอดรถที่เปิดเข้าไปเจอห้องน้ำกับห้องครัว

พื้นที่หน้าบ้านฝั่งประตูหลักจะมีชานกว้าง ทำมุมแบบ L Shape รองรับกิจกรรมกลางแจ้ง เมื่อเข้าไปในบ้านโซนแรกจะเป็น Living Area เชื่อมต่อกับ Dining Area โดยมุมบ้านฝั่งที่ติดกับ Dining จะมีห้องนอนขนาดกลางที่มาพร้อมห้องน้ำในตัว ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องนอนเล็กที่อยู่ตรงข้ามกับบันไดพอดี และสุดทางเดินที่มุมบ้านอีกฝั่งจะเป็นห้องครัวขนาดใหญ่

ชั้น 2 มีความสูงของฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.8 ม. ปูพื้นด้วยวัสดุ SPC ซึ่งให้สัมผัสคล้ายไม้ แต่มีความทนทานทั้งกับความชื้น รอยขีดข่วน และปลวก แบ่งเป็น พื้นที่อเนกประสงค์ตรงโถงกลาง และ 3 ห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง โดย Master Bedroom จะกว้างเป็นพิเศษ แบ่งพื้นที่เป็น Walk in Closet และ Relax Area ได้เพิ่ม โดยมีระเบียงกว้างขวาง ทำมุมเป็น L Shape รองรับการจัดสวนริมระเบียงกับพื้นที่พักผ่อนกลางแจ้ง

หน้าบ้านแบบมาตรฐานที่โครงการส่งมอบ แปลนบ้านจะมีการสลับฟังก์ชันซ้ายขวาตามตำแหน่งของแปลงบ้านในโครงการ โดยสีทาภายนอกจะมีให้เลือกทั้งสีน้ำเงินและสีน้ำตาล

บ้านทุกแบบจะมาพร้อมประตูรั้วกับรั้วรอบบ้านที่สูง 1.7 ม. รวมถึงมีตู้จดหมายและช่องเก็บถุงขยะที่เป็นสัดส่วน โดยบ้านมาตรฐานจะมีการปูหญ้าบริเวณพื้นที่สวนมาให้ด้วย

หน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 3 คัน โดยมี 2 คันที่ได้จอดใต้ชายคา กับอีก 1 คันที่จอดกลางแจง พื้นลานจอดจะลงเสาเข็มลึกเท่าโครงสร้างหลักไว้ถึงบริเวณสุดเขตชายคาบ้าน ส่วนพื้นลานจอดที่อยู่กลางแจ้งจะเป็นการเทพื้นคอนกรีตบนดิน (Slap on Ground)

ประตูทางเข้าหลักของบ้านจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติ สร้างความปลอดโปร่งภายในบ้าน โดยชานหน้าประตูจะกว้างขวาง ทำมุมเป็น L Shape ไปทางข้างบ้าน

ชานฝั่งข้างบ้านมีพื้นที่กว้าง สามารถจัดมุมนั่งเล่นกลางแจ้ง หรือเป็นพื้นที่ปาร์ตี้ปิ้งย่างได้สบายๆ

เมื่อเข้ามาภายในบ้านจะเจอกับโซน Living Area ที่มีช่องแสงทั้งฝั่งประตูหน้าและหน้าต่างข้าง จึงมีรรยากาศที่ปลอดโปร่ง เสริมให้พื้นที่ดูกว้าง โดยมุมนี้จะรองรับโซฟาขนาด 3 - 4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางและอาร์มแชร์ได้อย่างลงตัว มีระยะห่างจากจุดติดตั้งทีวีแบบพอดีกับสายตา

Living Area จะเปิดโล่ง เชื่อมต่อไปถึง Dining Area ทางฝั่งหลังบ้าน

ตรงกลางระหว่าง Living กับ Dining Area จะมีประตูทางเข้าของห้องนอนที่ 5 ซึ่งอยู่บริเวณมุมบ้าน

ห้องนี้จะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ เปิดเชื่อมต่อออกไปที่ชานข้างบ้านได้ เป็นช่องแสงที่กว้างขวาง ช่วยให้ห้องมีความปลอดโปร่ง

พื้นที่ห้องรองรับเตียงขนาดประมาณ 3.5 - 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าไซส์กลางได้ โดยบ้านตัวอย่างวางเป็นเตียง Sofa Bed เพื่อให้ห้องเป็น Living Area ริมสวนได้อีกจุด แต่สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นผู้สูงวัย เดินขึ้นลงบันไดไม่สะดวก ก็สามารถใช้ห้องนี้เป็นห้องนอนได้อย่างลงตัว มีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานได้สะดวก

ห้องน้ำของห้องนอน 5 มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกกับส่วนแห้งได้ มาพร้อมกับชุดเครื่องสุขภัณฑ์ที่ครบครัน

ออกมาจากห้องนอน 5 จะเป็น Dining Area ที่บ้านตัวอย่างจัดไว้อย่างกว้างขวาง โดยได้ทุบห้องนอนที่ 4 บริเวณตรงข้ามกับบันไดออก เพื่อเพิ่มพื้นที่ทานอาหารให้ดูเป็นตัวอย่าง

ในบ้านมาตรฐาน Dining Area พื้นที่จะสิ้นสุดที่ผนังของห้องนอน 4 ตรงข้ามกับทางขึ้นบันได โดยห้องนอนที่ 4 จะทำผนังกระจกเข้ามุมไว้เพื่อเสริมความปลอดโปร่ง สามารถใช้เป็นห้องนอนเล็ก วางเตียง 3.5 ฟุต หรือใช้เป็นห้องทำงานก็ได้ โดยบ้านตัวอย่างทุบห้องออก เพื่อแสดงให้เห็นข้อดีของการก่อผนังด้วยอิฐมวลเบา ซึ่งง่ายกับการ ทุบ ตอก เจาะ เพื่อปรับฟังก์ชันในบ้านได้ตามต้องการ

เมื่อทุบห้องนอน 4 ออก Dining Area จึงกว้างขวางเป็นพิเศษ วางโต๊ะทานอาหารใหญ่รองรับ 8 - 10 ที่นั่งได้เลยทีเดียว

ผนังฝั่งที่ติดกับห้องน้ำ บ้านตัวอย่างทำเป็นเคาน์เตอร์เตรียมอาหารและเครื่องดื่มเบาๆ สไตล์ครัวในบ้านฝรั่งให้ดูเป็นไอเดีย

โถงทางเดินถัดมาจากบันได ตรงข้ามกับทางเข้าห้องน้ำจะเป็นประตูทางเข้าบ้านจากโรงจอดรถ ซึ่งมี Digital Door Lock กับแผงควบคุมสัญญาณแจ้งเตือนเหตุต่างๆ (สีขาว) กับแผงควบคุม Home Automation (สีเทา) ติดตั้งอยู่ โดยประตูนี้จะสะดวกกับการขนของเข้าบ้านเวลาออกไปจ่ายตลาด เพราะเดินเข้าครัวได้เลย ไม่ต้องไปอ้อมผ่าน Living Area

ห้องน้ำกลางของชั้น 1 มีพื้นที่กว้างพอสมควร สามารถแบ่งส่วนเปียกกับส่วนแห้งได้ มาพร้อมกับชุดสุขภัณฑ์ที่ครบครัน และมีช่องแสงขนาดใหญ่ ช่วยขจัดความอับชื้น และสามารถเปิดเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้

ห้องครัวมีความกว้างขวาง สามารถจัดชุดเคาน์เตอร์ทรง L Shape พร้อมไอส์แลนด์ตรงกลาง ให้มีพื้นที่ทำอาหารได้อย่างจุใจ โดยยังมีมุมให้วางตู้เย็นกับเครื่องซักผ้า อบผ้า ได้อย่างลงตัว มาพร้อมหน้าต่างบานใหญ่ เปิดออกไปฝั่งหน้าบ้านเพื่อการระบายอากาศที่ดี

บ้านตัวอย่างทุบผนังหลังบ้านเพื่อต่อเติมครัวให้ยื่นออกไปเป็นเรือนกระจก เพิ่มความกว้างขวางและปลอดโปร่งให้กับพื้นที่ครัวได้เป็นอย่างดี

ผนังครัวในบ้านมาตรฐานจะสิ้นสุดแค่บริเวณเสาตรงกลางเคาน์เตอร์ แต่เพราะพื้นลานซักล้างของบ้านมีการลงเสาเข็มไว้ลึกเท่ากับโครงสร้างหลัก จึงสามารถต่อเติมออกมาได้โดยไม่ต้องห่วงเรื่องปัญหาการทรุดตัวในระยะยาว

ห้องครัวในบ้านมาตรฐาน ผนังฝั่งหลังบ้านจะสิ้นสุดบริเวณเสาบ้านที่อยู่ตรงกลางระหว่างหน้าต่าง 2 บาน โดยมีประตูเปิดออกไปยังลานซักล้าง โดยห้องครัวในบ้านที่ส่งมอบจะไม่มีชุดเคาน์เตอร์ครัวให้ แต่ทำการเดินระบบน้ำและไฟฟ้าไว้ให้เรียบร้อย เช่นกันกับ Heat Detector ที่ติดตั้งมาเรียบร้อย

หลังบ้านมีพื้นที่ให้ทำเป็นทางเดินหรือจัดสวนโดยรอบตัวบ้านได้

ย้อนกลับมาบริเวณกลางบ้าน จะเจอกับบันไดขึ้นชั้น 2 ใต้ชานพักบันไดจะมีห้องเก็บของ โครงสร้างของบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปูชั้นบันไดและปิดลูกตั้งด้วยไม้ยางพาราประสาน ให้สัมผัสแน่น เดินขึ้นลงได้เต็มเท้าโดยไม่ส่งเสียงดังรบกวน

โถงบันไดมีความสูงโปร่ง โดยด้านบนจะมีช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ เปิดรับแสงธรรมชาติจากฝั่งหน้าบ้าน เพื่อให้โถงบันไดไม่อับทึบ มีความสว่างตลอดวัน บนเพดานเหมาะกับการติดโคมไฟระย้าเพื่อสร้างบรรยากาศที่หรูหรา

เมื่อขึ้นมาถึงชั้น 2 จะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์ที่มีความกว้างพอให้กั้นเป็นอีกห้องได้เลย โดยบ้านตัวอย่างจัดเป็นพื้นที่ทำงานไว้ให้ดูเป็นไอเดีย โดยเราสามารถจัดเป็นอีกมุมนั่งเล่น มุมทำการบ้าน หรือจัดเป็นโต๊ะหมู่บูชา ก็เลือกได้ตามไลฟ์สไตล์ของครอบครัว

ข้างๆ โถงชั้น 2 จะมี 1 ฝั่งที่เป็นทางเข้าห้อง Master Bedroom ส่วนอีกฝั่งเป็นทางเดินไปที่ห้องนอน 2 - 3

Master Bedroom เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของบ้าน แบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 โซน ฟังก์ชันครบครันจนเรียกว่า Penthouse ได้เลย

พื้นที่ฝั่งหน้าบ้านเป็นห้องนอนที่รองรับเตียงได้ถึง 6 ฟุต โดยมีพื้นที่ให้วางโต๊ะข้างเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง อยู่ติดกับประตูบานเลื่อนที่เปิดออกไปเป็นระเบียง

ระเบียงหน้าห้องมีราวกันตกเป็นกระจกนิรภัย ให้ความโปร่งและแข็งแรงไปพร้อมๆ กัน

ระเบียงทำมุมเป็น L Shape มาที่ด้านข้าง สามารถจัดเป็นมุมพักผ่อนกลางแจ้งได้ เหมาะกับการจัดสวนเล็กๆ ริมระเบียงเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับบ้าน

ลึกเข้าไปฝั่งหลังบ้านเป็นพื้นที่ของ Walk in Closet กับห้องน้ำ โดยตรงกลางห้องจะมีพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวอยู่อีกจุด

พื้นที่นี้ ในแปลนบ้านจากโครงการเรียกว่า Relax Area เป็นมุมที่เลือกจัดฟังก์ชันได้ตามต้องการ ทั้งพื้นที่พักผ่อนส่วนตัว มุมโต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง รวมถึงเป็นเตียงนอนของเด็กเล็กที่ยังต้องอยู่ใกล้พ่อแม่ ก็รองรับได้อย่างหลากหลาย

พื้นที่ Walk in Closet ในบ้านมาตรฐานจะเปิดโล่ง โดยบ้านตัวอย่างได้บิลต์อินเป็นตู้เสื้อผ้าแบบใส พร้อมประตูบานเลื่อนกระจก เพื่อความปลอดโปร่ง เชื่อมต่อถึงกัน

พื้นที่ Walk in Closet รองรับตู้เสื้อผ้าใหญ่ ทำมุมแบบ U Shape สามารถเก็บเสื้อผ้าได้อย่างจุใจ

ติดกับ Walk in Closet จะเป็นห้องน้ำส่วนตัวของ Master Bedroom ที่มีความกว้าง สามารถแบ่งส่วนเปียกกับส่วนแห้งได้ มาพร้อมชุดสุขภัณฑ์ที่ครบครัน โดยมีหน้าต่างบานใหญ่ เปิดรับแสงเพื่อขจัดความอับชื้น รวมถึงระบายอากาศให้ถ่ายเทได้ดี

อีกฝั่งของโถงทางเดิน จะเป็นทางเข้าของห้องนอน 2 - 3

ห้องนอน 3 จะอยู่ฝั่งหลังบ้าน ส่วนห้องนอน 2 จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน

ห้องนอน 2 มีพื้นที่กว้าง สามารถวางเตียงใหญ่ได้ถึง 6 ฟุต พร้อมกับตู้เสื้อผ้าแบบ 4 ประตู รวมถึงมีมุมให้วางโต๊ะหรือโซฟาได้ตามต้องการ โดยห้องจะมีหน้าต่างเปิดออกทั้งฝั่งหน้าบ้านและข้างบ้าน แต่บ้านตัวอย่างทำฉากบานเลื่อนปิดไว้แทนผ้าม่าน เพื่อบังแสงได้อย่างเต็มที่

พื้นที่ห้องกว้างขวาง ปรับการวางเฟอร์นิเจอร์ได้หลายมุม

ในห้องนอน 2 จะมีห้องน้ำให้ใช้งานอย่างเป็นส่วนตัว

ห้องน้ำมีพื้นที่ขนาดกลาง แต่ยังแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งได้ รองรับการติดตั้ง Shower Box แบบเข้ามุม มาพร้อมชุดสุขภัณฑ์ครบครัน โดยมีหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติและระบายความชื้น

ห้องนอน 3 อยู่ฝั่งหลังบ้าน มีหน้าต่าง 1 บาน เปิดรับแสงธรรมชาติจากภายนอก พื้นที่ห้องมีขนาดกลาง พอดีกับการจัดโต๊ะ ตู้เสื้อผ้า และเตียง โดยมีห้องน้ำในตัวเช่นกัน

ห้องนี้สามารถรองรับเตียงได้ 3.5 - 5 ฟุต โดยขึ้นอยู่กับการจัดมุมเฟอร์นิเจอร์

ห้องน้ำมีพื้นที่ขนาดกลาง แต่ยังแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งได้ รองรับการติดตั้ง Shower Box แบบเข้ามุม มาพร้อมชุดสุขภัณฑ์ครบครัน โดยมีหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติและระบายความชื้น

นี่คือการรีวิวบ้านเดี่ยวแบบ Joyous พื้นที่ใช้สอย 276 ตร.ม. ของโครงการ เวนิว ไอดี เพชรเกษม 81 ต่อไปจะเป็นการพูดถึงทำเลที่ตั้งกันบ้าง

Location

โครงการ เวนิว ไอดี เพชรเกษม 81 ตั้งอยู่ใน ซ.เพชรเกษม 81 (ถ.มาเจริญ) ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใช้เข้าออกได้ทั้งฝั่ง ถ.เพชรเกษม และเชื่อมต่อกับ ถ.บางบอน 5 ได้โดยตรง จึงเดินทางไปพื้นที่ใกล้เคียงอย่าง ถ.พุทธมณฑล สาย 4, ถ.พุทธสาคร, ถ.เอกชัย และ ถ.พระราม 2 ได้ง่าย อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษก รวมถึงทางด่วนเฉลิมมหานคร ซึ่งเป็นอีกวิธีในการเดินทางเข้าตัวเมืองได้สะดวก

นอกจากการเดินทางด้วยรถยนต์ โครงการยังอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีหลักสอง และในอนาคตก็มีโครงการพัฒนารถไฟฟ้าส่วนต่อขยายมาถึงสถานีพุทธมณฑลสาย 3 และสาย 4 ซึ่งจะอยู่ใกล้กับ ซ.เพชรเกษม 81 มากกว่าเดิม

ตัวอย่างการเดินทางของเราในรีวิวนี้ ใช้ ถ.กาญจนาภิเษก มุ่งหน้าไปพระราม 2 โดยเมื่อใกล้ถึง ถ.เพชรเกษม ให้เตรียมชิดซ้ายออกทางคู่ขนาน

เมื่อขับมาตามทางคู่ขนานจนเห็นศูนย์การค้า เดอะมอลล์ บางแค อยู่ทางฝั่งซ้าย ให้เราชิดขวาเพื่อเลี้ยวเข้า ถ.เพชรเกษม ฝั่งขาออก

ขับไปตาม ถ.เพชรเกษม มุ่งหน้าตามป้ายนครปฐม

ตลอด 2 ข้างทางของ ถ.เพชรเกษม มีการปลูกต้นไม้ไว้ร่มรื่น มีร้านค้า ศูนย์การค้า โรงเรียน รวมถึงโรงพยาบาล ตั้งอยู่เป็นระยะ โดยปัจจุบันมีโครงการบ้านจัดสรรใหม่ๆ มาพัฒนาพื้นที่ในย่านนี้กันเป็นจำนวนมาก

เมื่อเจอป้ายเลี้ยวซ้ายไป บางบอน 5 และ เอกชัย ให้ชิดซ้ายเพื่อเตรียมเลี้ยวเข้า ซ.เพชรเกษม 81

ปากซอยจะมีป้ายบอกชื่อ ถ.มาเจริญ ซึ่งเป็นอีกชื่อเรียกของ ซ.เพชรเกษม 81

เพราะ ซ.เพชรเกษม 81 เป็นเส้นทางเชื่อมต่อ ถ.เพชรเกษม กับ ถ.บางบอน 5 และ ถ.เอกชัย ถนนสายนี้จึงมีความเจริญที่รอบด้าน ทั้งสถาพถนนที่ดี กว้างถึง 4 ช่องจราจร มีครบครันทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงปั๊มน้ำมันและคอมมูนิตี้มอลล์

ทางเข้าโครงการจะมีป้ายบอกชื่อ เวนิว ไอดี, เวิร์ฟ และเวิร์คเพลส 3 โครงการใหม่จาก SC Asset ที่พัฒนาพื้นที่อยู่ติดกัน

ถนนทางเข้าโครงการมีความร่มรื่นด้วยต้นไม้ตลอด 2 ข้างทางและเกาะกลาง

ถัดจากโครงการเข้าไปตาม ซ.เพชรเกษม 81 อีกเล็กน้อยจะเป็นที่ตั้งของ SC Community ซึ่งมีทั้ง โลตัส ร้านอาหาร และธนาคาร เปิดบริการอยู่ใกล้บ้าน

สำหรับความสะดวกสบายโดยรอบโครงการ ติด ถ.เพชรเกษม ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก มีศูนย์การค้า บิ๊กซี เปิดบริการรองรับการซื้อข้าวของเครื่องใช้ประจำบ้าน

ริม ถ.เพชรเกษม ฝั่งขาออก ก่อนถึง ซ.เพชรเกษม 81 มี วิคตอเรีย การ์เดน คอมมูนิตี้มอลล์ซึ่งมาพร้อม ฟู๊ดแลนด์ รวมถึงร้านอาหารต่างๆ เปิดบริการอยู่

นอกจากบิ๊กซีกับฟู๊ดแลนด์ ก็ยังมี แม็คโคร ฟู๊ด เซอร์วิส เพชรเกษม ฝั่งขาออก ก่อนถึง ซ.เพชรเกษม 81 เป็นอีกแหล่งค้าปลีกที่มีของใช้ในบ้านและอาหารสดให้จับจ่ายอย่างครบครัน

สำหรับแหล่งช็อปปิ้งใหญ่ประจำทำเลนี้จะเป็นศูนย์การค้า เดอะมอลล์ บางแค ที่รวบรวมร้านค้าและบริการต่างๆ ไว้อย่างครบครัน อีกทั้งอยู่ติดกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีหลัก 2

ด้านสุขภาพ ใกล้กับโครงการ ติด ถ.เพชรเกษม ฝั่งขาเข้า มี รพ.วิชัยเวช หนองแขม พร้อมรองรับปัญหาสุขภาพตลอด 24 ชม.

ตรงขึ้นไปตาม ถ.เพชรเกษม ขาเข้า มีอีกโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังอย่าง รพ.เกษมราษฎร์ บางแค เป็นตัวเลือกในการดูแลสุขภาพของครอบครัว

ด้านการศึกษา จาก ซ.เพชรเกษม 81 ตรงขึ้นไปตาม ถ.บางบอน 5 จะเจอกับ รร.สารสาสน์วิเทศหนองแขม เป็นโรงเรียนใกล้บ้าน

ติดกับ ถ.เพชรเกษม ฝั่งขาเข้า จะมี รร.อนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม

ส่วนฝั่งขาออก ก่อนถึง ซ.เพชรเกษม 81 มี รร.เลิศหล้า เป็นอีก 2 โรงเรียนชื่อดังที่อยู่ใกล้บ้าน

ตรงข้ามกับ ซ.เพชรเกษม 81 มี ม.ธนบุรี กับ ม.เอเชียอาคเนย์ เป็นตัวเลือกในระดับอุดมศึกษาที่อยู่ใกล้บ้าน

มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ อยู่ติด ถ.เพชรเกษม ขาเข้า ตรงข้ามกับ ซ.เพชรเกษม 81

Price & Promotion

บ้านเดี่ยวโครงการ เวนิว ไอดี เพชรเกษม 81 ทั้ง 3 แบบ มีราคาเริ่มต้นดังนี้

• บ้านเดี่ยว Jolly ราคาเริ่มต้น 9.99 ล้านบาท*
• บ้านเดี่ยว Jovial ราคาเริ่มต้น 10.89 ล้านบาท*
• บ้านเดี่ยว Joyous ราคาเริ่มต้น 13.39 ล้านบาท*

*ราคา ณ เดือน ธันวาคม 2565 สอบถามโครงการอีกครั้ง

Conclusion