รีวิวบ้าน เดอะ พาวิลเลี่ยน ปิ่นเกล้า – สาย 4 สัมผัสบรรยากาศแห่งการพักผ่อนด้วยบ้านเดี่ยวสไตล์ Modern Tropical

โครงการ เดอะ พาวิลเลี่ยน ปิ่นเกล้า – สาย 4 จึงเล็งเห็นว่าสไตล์ Modern Tropical นั้นเป็นหนึ่งในดีไซน์ที่สามารถออกแบบบ้านให้พื้นที่ภายในและภายนอกมีความสอดคล้องกันได้อย่างลงตัว ความเรียบง่ายสไตล์โมเดิร์นที่ทำให้บ้านมีความสวยงามเหนือกาลเวลา แต่ก็ยังคงความโปร่งโล่งของพื้นที่ ให้มีทั้งแสงและลมเข้าไปภายในบ้านได้เป็นอย่างดี

นอกจากจะเป็นบ้านฟังก์ชันใหญ่ที่มีพื้นที่ใช้สอย 277 - 401 ตร.ม. 4 - 5 ห้องนอน 4 - 6 ห้องน้ำ  1 - 2 ห้องนั่งเล่น 1 - 2 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน 3 - 4 ที่จอดรถ บนพื้นที่ดินเริ่มต้นกว่า 100 ตร.ว. ทำให้ตอบโจทย์การใช้งานของคนทุก Generation ก็ยังเป็นโครงการที่มีส่วนกลางขนาดใหญ่ที่ให้บรรยากาศแบบ Luxury Urban Resort ทำให้สามารถสัมผัสบรรยากาศแห่งการพักผ่อนได้ทุก ๆ วันบนทำเลปิ่นเกล้า – สาย 4 ที่มีความเงียบสงบเหมาะสำหรับการพักอาศัยแต่ก็เชื่อมต่อตัวเมืองได้สะดวก รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งสถานศึกษาชื่อดังและศูนย์การค้าใหญ่ ในราคาเริ่มต้น 11.9 ล้านบาท*

Factsheet

ชื่อโครงการ :	เดอะ พาวิลเลี่ยน ปิ่นเกล้า-สาย 4
เจ้าของโครงการ :	บริษัท มั่นคงพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
ที่ตั้งโครงการ :	ปิ่นเกล้า - พุทธมณฑลสาย 4
พิกัดโครงการ :	https://maps.app.goo.gl/JaZ3VTnhT5hfQd5i8
พื้นที่โครงการ :	26-3-47 ไร่
ประเภท :	บ้านเดี่ยว
จำนวนยูนิต :	64 ยูนิต
แบบบ้าน :	• TERRACE : พื้นที่ใช้สอย 277 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ • COURTYARD : พื้นที่ใช้สอย 293 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ • VERANDA : พื้นที่ใช้สอย 401 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 2 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน 4 ที่จอดรถ
ค่าส่วนกลาง :	25 บาท /ตร.ว./เดือน
ราคา :	เริ่มต้น 11.9 ล้านบาท*  (ราคา ณ กรกฏาคม 2567)
โทร :	02-019-2211
เว็บไซต์ :	https://munkong.co.th/special/pavilion-pinklao-sai4/

 

Highlight : เดอะ พาวิลเลี่ยน ปิ่นเกล้า – สาย 4

• Modern Tropical จากดีไซน์สู่ฟังก์ชันบ้านที่บ่งบอกความร่วมสมัยสไตล์เขตร้อน เป็นสไตล์ที่เหมาะกับสภาพอากาศของประเทศไทย ด้วยจุดเด่นของดีไซน์นี้ที่เน้นความโปร่งโล่งของพื้นที่ซึ่งออกแบบให้มีการถ่ายเทอากาศได้ดี และมีแผงบังแดดแต่คงความเรียบง่ายสไตล์โมเดิร์นที่เป็นดีไซน์ที่อยู่เหนือกาลเวลา 
• สังคมส่วนตัวที่มีเพียง 64 ครอบครัว พร้อมพื้นส่วนกลางสไตล์ Luxury Urban Resort ซึ่งเป็นสไตล์ที่สอดคล้องกับดีไซน์ของสถาปัตยกรรมอย่าง Modern Tropical เนื่องจากให้บรรยากาศเหมือนการได้พักผ่อนในรีสอร์ทในทุก ๆ วัน
• เพิ่มสมดุลให้ชีวิตกับส่วนกลางที่จัดเต็มมากกว่าที่เคย จากจำนวนยูนิตภายในโครงการที่มีเพียง 64 ยูนิตกับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ทำให้สามารถรองรับการใช้งานของทุกครอบครัวอย่างทั่วถึง โดยนอกจากจะมีอาคาร Clubhouse 2 ชั้นแล้วก็ยังมีทั้งสระว่ายน้ำ Olympic Half Size ที่สามารถว่ายออกกำลังกายได้อย่างสบาย ๆ ก็ยังมี Jogging Track รอบโครงการที่มีความยาวกว่า 1 กิโลเมตร
• ทำเลปิ่นเกล้า - พุทธมณฑลสาย 4 ย่านชุมชนที่เงียบสงบซึ่งเหมาะสำหรับเป็นพื้นที่พักอาศัยเนื่องจากไม่มีความวุ่นวายนัก แต่ก็ยังเป็นทำเลที่เชื่อมต่อตัวเมืองได้เพียงอึดใจ เชื่อมต่อถนนเพชรเกษมที่มุ่งหน้าไปสาทรได้ ใกล้วงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษก, คู่ขนานบรมราชชนนีซึ่งเป็นเส้นที่ตรงไปยังทางด่วนประจิมรัถยา ทำให้ไปยังปิ่นเกล้า พรานนก ยาวไปจนถึงจตุจักร ลาดพร้าวได้สบาย ๆ

Design

สถาปัตยกรรมภายในโครงการได้นำสไตล์ Luxury Modern Tropical มาใช้ในการออกแบบ ซึ่งสไตล์นี้จะมีความเรียบง่ายแบบโมเดิร์น แต่มีองค์ประกอบที่เหมาะสมสำหรับอาคารในพื้นที่เขตร้อนอย่างประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบพื้นที่และช่องเปิดอย่างประตูหน้าต่างที่ทำให้บ้านดูโปร่งโล่ง เปิดรับแสงธรรมชาติและมีการถ่ายเทอากาศได้ดี 

นอกจากนั้นฟาซาดก็ยังใช้ Fin หรือแผงบังแดดที่เป็นระแนงสีน้ำตาลโทนไม้ ที่เพิ่มแสงเงาให้กับตัวอาคาร บดบังความร้อนจากภายนอกแต่ก็ยังคงทำให้ภายในบ้านดูโปร่งไม่อึดอัด และมีชายคากว้างออกมาเพื่อบังแสงและลมฝนได้ดี จึงเป็นสไตล์ที่ทำให้มีบรรยากาศผ่อนคลายเหมาะสำหรับอยู่อาศัยและพักผ่อน นอกจากนั้นยังเป็นสไตล์ที่ทำให้บ้านหรูหลังใหญ่มีบรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเองมากขึ้น

เนื่องจากสถาปัตยกรรมภายในโครงการจะเป็นสไตล์ Luxury Modern Tropical โครงการจึงได้ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางด้วยสไตล์ Luxury Urban Resort ที่ให้ความรู้สึกถึงการพักผ่อน มีบรรยากาศของธรรมชาติที่รายล้อมที่ทำให้ทุกพื้นที่คือมุมพักผ่อนในทุก ๆ วันโดยจะมีพื้นที่สวนส่วนกลางกว่า 600 ตร.ม.

Facility

ซุ้มประตูทางเข้า - ออกโครงการก็ยังคงออกแบบด้วยสไตล์ Modern Tropical โทนสีที่ใช้หลัก ๆ  ก็จะเป็นสีเทาและมีเส้นสายสีน้ำตาลสอดคล้องไปกับแผงบังแดดที่เป็นเหมือนระแนงไม้ โดยตัวซุ้มนี้จะออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของอาคาร Clubhouse ด้านหน้ามีป้ายโครงการที่เห็นได้เด่นชัดและมีต้นไม้ที่เพิ่มบรรยากาศของความร่มรื่น

ทางเข้า - ออกแยกช่องทางเดินรถชัดเจน ตรงกลางเป็นป้อม รปภ. ที่จะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงและ CCTV ทางเข้า - ออกเป็นไม้กั้นกระดกและจะใช้ระบบจดจำป้ายทะเบียนทำให้สะดวกและปลอดภัย

เข้ามาภายในถนนหลักของโครงการกว้าง 12 ม. ถนนซอยกว้าง 10 ม. สองข้างทางมีความร่มรื่นจากต้นไม้ภายในบ้าน สำหรับสวนส่วนกลางจะอยู่กลางพื้นที่โครงการทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบรรยากาศที่ร่มรื่นได้โดยง่าย

จะเห็นเลยนะคะว่าซุ้มประตูทางเข้าเชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียวกับอาคาร Clubhouse โดยจะวางผังอาคารเป็นตัว L โอบสระว่ายน้ำและสวนด้านหน้านี้ไว้ โดยพื้นที่ใช้สอยของอาคารจะยกระดับสูงจากพื้นถนน

โครงการออกแบบให้มีทางลาดเพื่อสะดวกสำหรับผู้ใช้รถเข็น เนื่องจากจุดนี้นอกจากจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางแล้วยังจะมีออฟฟิศของนิติบุคคลอยู่อีกด้วย

ที่ชั้น 1 ของอาคารจะมีสระว่ายน้ำซึ่งเป็นสระขนาด 6 x 25 ม. เป็นความยาวแบบ Olympic Half Size ทำให้สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้อย่างแท้จริง เป็นสระวางขนานไปกับตัวอาคารจึงทำให้หลาย ๆ ห้องภายในได้มุมความสดชื่นของสระ

นอกจากจะมีขนาดที่ยาวเหมาะสำหรับออกกำลังกายแล้ว ก็จะแยกสระเด็กเพื่อให้เด็ก ๆ สามารถเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย และจะอยู่ภายในอาคารซึ่งตรงนี้เป็นข้อดีสำหรับผู้ปกครองเลยค่ะ เพราะเด็ก ๆ มักจะชอบเล่นน้ำในช่วงกลางวันดังนั้นไม่ว่าแดดจะแรงแค่ไหนก็สามารถมาเล่นได้อย่างไม่ต้องกลัวแดด

ภายในอาคารที่ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ของ Co - working Space ซึ่งโครงการออกแบบพื้นที่ให้ใช้งานได้จริง โดยจะมีทั้งมุมนั่งทำงานแบบเดี่ยวที่ยังสามารถทำงานร่วมกับเพื่อนได้สะดวก มี High Speed Wifi และ มีปลั๊กไฟรองรับการใช้งาน นอกจากนั้นก็มีมุมนั่งเล่นและมุมทำงานแบบโซฟา หรืออยากประชุมแบบส่วนตัวก็มีห้องประชุมแยกให้เป็นสัดส่วน

โต๊ะตรงกลางเป็นโต๊ะทำงานที่สามารถมานั่งทำงานคนเดียวหรือจะทำงานเป็นกลุ่มก็สะดวก เรียกได้ว่าเป็นมุมที่รองรับการใช้งานที่หลากหลาย ด้านข้างมีชุดโต๊ะสำหรับนั่งเล่นติดหน้าต่างกระจกซึ่งอยู่ใกล้กับสระเด็ก ตรงนี้ผู้ปกครองที่มาดูแลเด็ก ๆ เล่นน้ำก็สามารถมานั่งรอตรงนี้และมองไปยังสระได้ตลอดเวลา

อีกด้านก็จะเป็นมุมโซฟาสำหรับ 4 ที่นั่ง มุมนี้นอกจากจะเป็นทั้งพื้นที่นั่งเล่นแล้วก็ยังสามารถนั่งทำงานได้เพราะโครงการจะมีปลั๊กไฟติดตั้งรองรับการใช้งานนั่นเอง

ส่วนห้องประชุมถือว่าใหญ่ทีเดียวค่ะ มีโต๊ะสำหรับ 9 ที่นั่งและกั้นห้องเป็นสัดส่วน ดังนั้นสามารถประชุมหรือพบปะบุคคลภายนอกเพื่อคุยงานก็มีความเป็นส่วนตัวในระดับหนึ่ง

ขึ้นมายังชั้นบนจะมีห้องทั้งหมด 2 ห้องด้วยกัน ห้องแรกคือพื้นที่กิจกรรมที่จะมีมุมสำหรับเด็ก มุมบอร์ดเกม และโต๊ะพูล สำหรับมุมสำหรับเด็กจะมีพื้นที่นั่งเล่นและของเล่นหลากสีสันให้

ตรงกลางเป็นพื้นที่บอร์ดเกมส์ นอกจากจะมีโต๊ะกลมที่สามารถนั่งได้ 6 ที่นั่งแล้ว ชั้นวางของด้านข้างก็มีบอร์ดเกมส์มากกว่า 10 รูปแบบให้เลือกเล่นอีกด้วยค่ะ

ด้านในสุดเป็นโต๊ะพลู ห้องนี้จึงถือว่าเป็นห้องที่มีกิจกรรมหลากหลาย เป็นห้องแห่งความสนุกที่สามารถมาผ่อนคลายได้

อีกห้องของชั้นนี้เป็นฟิตเนส จะเห็นนะคะว่าห้องนี้เป็นห้องกระจกที่มีแผงบังแดดอยู่ด้านนอก ทำให้มีร่มเงาแต่ห้องก็ยังดูโปร่งไม่อึดอัด ภายในห้องกว้างกว่า 100 ตารางเมตร และมีเครื่องเล่นรองรับการออกกำลังกายแบบหลากหลาย

พื้นที่ส่วนคาดิโอก็มีเครื่องเล่นทั้งจักรยานไฟฟ้า ลู่วิ่ง โดยมุมนี้จะเป็นมุมที่ออกกำลังกายและมองเห็นสระว่ายน้ำได้ ส่วนสายเวทก็มีดัมเบลต่าง ๆ ตรงนั้นจะมีการปูพื้นยางลดแรงกระแทกและช่วยซับเสียงพื้นอีกด้วย

Home Type

บ้านภายในโครงการ เดอะ พาวิลเลี่ยน ปิ่นเกล้า – สาย 4 เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่โครงการจะมีแบบบ้านให้เลือกถึง 3 แบบ โดยทุกหลังจะออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้อย่างเป็นสัดส่วน กั้นพื้นที่ครัวเป็นครัวปิด และมีห้องสำหรับแม่บ้านที่แยกห้องน้ำกับเจ้าของบ้านอย่างเป็นสัดส่วน

• TERRACE : พื้นที่ใช้สอย 277 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ
• COURTYARD : พื้นที่ใช้สอย 293 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ
• VERANDA : พื้นที่ใช้สอย 401 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 2 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน 4 ที่จอดรถ

COURTYARD เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่มีพื้นที่ใช้สอย 293 ตร.ม. บนพื้นที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.ว. ฟังก์ชันบ้านมี 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ นอกจากนั้นก็จะมี 1 ห้องนั่งเล่น  1 ห้องอเนกประสงค์ชั้นบน และ 1 ห้องแม่บ้านซึ่งมีห้องน้ำแม่บ้านแยกพื้นที่เป็นสัดส่วน

ดีไซน์บ้านยังคงเป็นสไตล์ Modern Tropical แต่จะใช้โทนสีต่างกับอาคาร Clubhouse โดยใช้เป็นเฉดสีที่อ่อนกว่า เป็นสีครีม - น้ำตาลอ่อนแต่ยังคงมีแผงบังแดดแบบระแนงสีน้ำตาลที่เป็นเอกลักษณ์ของดีไซน์สไตล์นี้ ด้านหน้ามีพื้นที่สวนหน้าบ้านซึ่งขอแนะนำให้มีต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มเพราะจะเพิ่มความร่มรื่น ความสดชื่นแม้จะอยู่ภายในบ้านได้

ชั้น 1 : ด้านหน้าเป็นพื้นที่จอดรถซึ่งจะมีทางเดินไปยังประตูเข้า - ออกบ้านทำให้สะดวกในการใช้งาน ภายในเมื่อเข้าไปส่วนแรกเป็นห้องเล่นที่เปิดเชื่อมกับมุมทานอาหารซึ่งเป็นพื้นที่แบบ Double Volume ทำให้บ้านยิ่งดูโปร่งและกว้างมากขึ้น แปลนบ้านชั้นนี้จะเป็นเหมือนตัว L ที่ให้พื้นที่ที่ต้องการให้มีความเป็นส่วนตัวอย่างห้องนอนและห้องแม่บ้านอยู่ด้านในสุดของพื้นที่ ส่วนพื้นที่ Common Area จะอยู่โซนด้านหน้าทำให้เข้าถึงได้โดยง่าย อีกทั้งยังเปิดรับวิวสวนหน้าบ้านได้อีกด้วย

ชั้น 2 : เป็นชั้นที่มีพื้นที่พักผ่อนแบบส่วนตัวอย่างห้องนอนและพื้นที่พักผ่อนสำหรับคนในครอบครัวอย่างพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถทำเป็นห้องนั่งเล่น 2 หรือจะปรับเปลี่ยนให้เป็นมุมทำงานก็ย่อมได้ค่ะ สำหรับห้องนอนั้นจะมี 3 ห้องซึ่งทุกห้องมีห้องน้ำในตัวทำให้มีความเป็นส่วนตัว ห้องนอนใหญ่อย่าง Master Bedroom จะมีอ่างอาบน้ำและพื้นที่กว้างขวางพอให้มีมุมนั่งเล่นและมุมแต่งตัวแบบ Walk-in Closet

ด้านหน้าเป็นพื้นที่จอดรถในร่มที่สามารถจอดได้ถึง 3 คัน หรือถ้าจอดซ้อนคันกันหน้าหลังจอดได้ถึง 6 คันเลยทีเดียว โดยจะเชื่อมต่อกับทางเดินที่ตรงไปยังประตูทางเข้า - ออกบ้าน ทำให้สะดวกใช้งานในวันที่ฝนตก อีกทั้งส่วนนี้จะมีชายคายาวยื่นออกมาสูงแบบ Double Volume จึงยิ่งทำให้พื้นที่ดูโปร่งและหรู

เข้ามาภายในบ้านส่วนแรกจะเป็นห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับมุมทานอาหาร จะเห็นว่าบ้านดูสว่างและโปร่งเพราะ Double Volume จะมีตั้งแต่หน้าบ้านเข้ามาในห้องนั่งเล่นซึ่งมีช่องแสงขนาดใหญ่ นอกจากนั้นหลังบ้านก็มีประตูกระจกตลอดแนว ทำให้แสงธรรมชาติส่องสว่างเข้ามาได้ทั่วถึง พื้นเป็นกระเบื้องยางลายไม้ทำให้ยังคงความทนทานแบบพื้นชั้น 1 ที่ควรจะเป็นแต่มีโทนที่ดูอบอุ่นเหมาะสำหรับการพักผ่อน ความสูงของฝ้าตรงนี้อยู่ที่ 6.5 ม.

พื้นที่ห้องนั่งเล่นแบบ Double Volume มีความโปร่งเนื่องจากมีช่องแสงที่เปิดรับบรรยากาศภายนอก และผนังเหนือชั้นวางทีวีจะเป็นผนังกระจกทำให้บ้านดูไม่ทึบนั่นเองค่ะ ขนาดห้องนั่งเล่นกว้างขวาง สามารถวางโซฟาชุดแบบนี้หรือโซฟาตัว L สำหรับ 6 - 8 ที่นั่งได้สบาย ตรงกลางวางโต๊ะกาแฟละตรงข้ามมีชั้นวางทีวีก็ยังเดินผ่านใช้งานสะดวก สำหรับด้านบนเนื่องจากพื้นที่ฝ้าสูงจึงสามารถติดตั้ง Chandelier เพิ่มความหรูหราสวยงามให้กับตัวบ้านและไม่ทำให้ฝ้าดูโล่งจนเกินไป

ติดกับห้องนั่งเล่นเป็นมุมทานอาหารซึ่งสองฟังก์ชันนี่จะเปิดเชื่อมต่อกันทำให้การใช้งานระหว่างสองฟังก์ชันสะดวกและคล่องตัว อีกทั้งยังทำให้บ้านดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น

มุมทานอาหารสามารถวางโต๊ะสำหรับ 8 ที่นั่งได้สบาย จะเห็นว่าเมื่อวางโต๊ะตัวและเก้าอี้ตัวใหญ่ก็ยังมีพื้นที่รอบ ๆ โต๊ะให้เดินผ่านใช้งานสะดวก มุมนี้อยู่ติดกับหลังบ้านซึ่งมีประตูกระจกทำให้มีแสงธรรมชาติส่องสว่างเข้ามาภายใน สำหรับฝ้าส่วนด้านในที่ไม่เป็น Double Volume จะสูง 2.9 ม. ซึ่งถือว่าสูงมากทีเดียวค่ะ

จากมุมทานอาหารสามารถเปิดประตูออกมาหลังบ้านได้ซึ่งจะมีชานบ้าน ทำเป็นมุมนั่งเล่นมุมทานอาหารนอกบ้านได้นะคะ วันไหนที่มีปาร์ตี้ปิ้งย่างก็สามารถเปิดประตูกระจกเชื่อมกับพื้นที่ภายในบ้านได้เลย

ติดกับมุมทานอาหารจะมีพื้นที่สำหรับ Pantry ซึ่งเป็นมุมทำอาหารแบบง่าย ๆ มุมอาหารว่างหรือใครอยากทำเป็นมุมเครื่องดื่มไม่ว่าจะเป็นบาร์หรือมุมกาแฟก็มีขนาดเพียงพอ เพิ่มบาร์นั่งสำหรับ 2 - 3 ที่นั่งแบบนี้ก็ได้พื้นที่นั่งดื่มแบบชิว ๆ แล้ว โดยมุมนี้จะอยู่ติดกับครัว ห้องนอน 4 และห้องน้ำชั้นล่าง

ขนาดพื้นที่สามารถวางเคาน์เตอร์ตัว L หรือใครชอบทำขนม อบขนมก็สามารถทำเคาน์เตอร์ตัว U เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้งานได้ จะเห็นว่าขนาดพื้นที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับการทำอาหารหรือเป็นมุมเครื่องดื่ม มุมอาหารว่างที่สามารถหยิบจับได้สะดวก

เหนือเคาน์เตอร์มีหน้าต่างกระจกทำให้มุมนี้ก็ยังคงสว่าง และสามารถเปิดเพื่อถ่ายเทอากาศได้ จากตรงนี้จะเห็นนะคะว่าเมื่อเปิดเคาน์เตอร์เชื่อมต่อกับมุมทานอาหารก็สามารถมองเห็นพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ของบ้านได้ชัดเจน การใช้งานจึงเชื่อมต่อกับห้องทานอาหารและห้องนั่งเล่นได้สะดวก

ติดกันนั้นเป็นครัวไทยซึ่งมีการกั้นห้องเป็นสัดส่วนชัดเจนด้วยประตูกระจก ซึ่งข้อดีคือช่วยกั้นพื้นที่ใช้สอยแต่ไม่ทำให้บ้านดูทึบหรือรู้สึกอึดอัดเมื่อเข้ามาใช้งานในครัว ขนาดครัวกว้างขวางพอสำหรับบ้านที่ชอบทำอาหาร สามารถวางเคาน์เตอร์ตัว L ที่มีเตาไฟฟ้า 4 หัวและอ่างล้างจาน 2 หลุม ก็ยังเหลือพื้นทีเตรียมอาหารได้แบบสบาย ๆ ตรงนี้แนะนำว่าเพิ่มตู้เก็บของและเครื่องดูดควันเช่นเดียวกับที่บ้านตัวอย่างตกแต่งก็สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บของและสามารถเปิดเครื่องดูดควันเพื่อถ่ายเทอากาศได้

จากห้องครัวเปิดออกมาจะเป็นพื้นที่ส่วนหลังบ้าน พื้นที่นี้เหมือนเป็นมุมของแม่บ้านที่จะมีห้องแม่บ้าน + ห้องน้ำ และยังมีลานซักล้างที่สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ค่ะ

หลังบ้านเปิดออกมานอกจากจะมีพื้นที่ซักล้างแล้วก็ยังมีพื้นที่สวนซึ่งเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนข้างบ้านได้แบบนี้ ดังนั้นเวลาแม่บ้านต้องการเดินไปยังหน้าบ้านเพื่อทิ้งขยะก็สามารถเดินออกจากครัวไปยังข้างบ้านได้เลย ไม่จำเป็นต้องเดินผ่านพื้นที่ภายในตัวบ้าน

เนื่องจากทุกห้องนอนของบ้านหลังนี้มีห้องน้ำในตัว ทำให้ห้องน้ำส่วนรวมที่อยู่ชั้นล่างเป็นห้องแบบ Powder Room ซึ่งแขกก็สามารถเข้ามาใช้งานในส่วนนี้ได้สะดวก ภายในยังคงโทนสีขาว - เทา และมีสีน้ำตาลบางส่วน มีหน้าต่างกระจกที่ทำให้ห้องสว่างและไม่อับ

ห้องนอน 4 เป็นห้องนอนชั้นล่างที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางและมีห้องน้ำในตัว ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบาย จะทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุหรือห้องนอนแขกก็เพียงพอต่อการใช้งาน เพราะมีพื้นที่เหลือวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าได้ 

หรือใครที่อยากได้ห้องทำงานแบบเป็นส่วนตัวก็สามารถใช้ห้องนี้เป็นห้องทำงานได้ค่ะ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้บ้านที่รองรับการใช้งานที่เปลี่ยนไป จะเป็นห้องทำงานส่วนตัว หรือห้องสำหรับเด็กเมื่อมีลูก เมื่อนานไปก็ปรับเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้

ด้านข้างเตียงสามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้งสองข้าง ติดกับประตูห้องคือห้องน้ำซึ่งจะมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าสำหรับ 1 คนหรือถ้าเป็นห้องนอนแขกขนาดตู้เก็บเพียงพอสำหรับ 2 คนได้สบาย ๆ

ห้องน้ำภายในห้องนอน 4 พื้นจะต่างระดับสำหรับแยกโซนแห้งและเปียกเพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ห้องน้ำได้อย่างสะดวก ภายในเป็นโทนสีขาวทำให้ห้องดูสว่าง โครงการติดตั้งอ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของให้ตามที่เห็นในบ้านตัวอย่าง

บันไดพื้นเป็น SPC ลายไม้โทนสีน้ำตาลอ่อน มีราวจับโทนสีเข้มให้ตลอดแนวและชานพักแบบสี่เหลี่ยมทำให้เดินใช้งานสะดวก เหนือชานพักมีช่องแสงที่เชื่อมต่อพื้นที่ Double Volume และหน้าต่างกระจกเปิดรับแสงธรรมชาติจากด้านนอกทำให้มุมนี้ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟในตอนกลางวันก็ใช้งานสะดวก

ขึ้นมายังชั้นบนส่วนแรกที่เจอคือมุมอเนกประสงค์ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนรวมสำหรับครอบครัว มุมนี้จะทำเป็นห้องนั่งเล่นเช่นเดียวกับบ้านตัวอย่างก็สามารถทำได้ โดยขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างพอให้วางโซฟาตัว L หรือโซฟาชุดสำหรับ 5 - 6 ที่นั่ง 

ส่วนใครที่อยากปรับเป็นมุมทำงานก็แนะนำเลยค่ะ เพราะจะได้มุมทำงานหรือมุมทำการบ้านสำหรับเด็ก ๆ ที่ดูเป็นสัดส่วน ไม่อุดอู้อยู่ในห้องนอนเพราะเชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนกลางของบ้านนั่นเอง สำหรับพื้นชั้นนี้ก็ยังคงเป็นกระเบื้องยางลายไม้ ความสูงพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.8 ม.

ทางขวามือเมื่อขึ้นมาจากบันไดจะเป็นห้องนอน 3

ภายในห้องขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง สามารถวางเตียง 3.5 - 5 ฟุตและยังมีพื้นที่วางชั้นวางทีวีและทำมุมแต่งตัวที่มีตู้เสื้อผ้าใบใหญ่และโต๊ะเครื่องแป้งได้ เมื่อวางเตียงแบบ 5 ฟุตเหมือนในภาพจะเห็นว่ายังมีพื้นที่ข้างเตียงให้วางโต๊ะหัวเตียง

 สำหรับคนที่อยากได้มุมนั่งทำงานเล็ก ๆ  สามารถขับเตียงชิดผนังและเปลี่ยนโต๊ะหัวเตียงให้กลายเป็นโต๊ะทำงาน ส่วนคนที่อยากได้มุมทำงานกว้าง ๆ หรืออยากมีมุมนั่งเล่นในห้องก็ขอแนะนำให้วางเป็นเตียง 3.5 ฟุตนะคะ เพราะจะได้เหลือพื้นที่ข้างเตียงที่เยอะขึ้น

ผนังข้างเตียงฝั่งนี้สามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงาน / โต๊ะเครื่องแป้งได้ สำหรับคนที่ชอบแต่งตัวแต่ก็อยากมีโต๊ะทำงานแนะนำวางตู้เสื้อผ้าได้ตลอดแนวผนัง และย้ายโต๊ะทำงานมาวางข้างหัวเตียงแทนได้

ปลายเตียงติดตั้งทีวีซึ่งทำได้ทั้งทีวีแขวนหรือจะเพิ่มชั้นเพื่อวางทีวีแบบนี้ ข้างกันนั้นคือประตูห้องน้ำ

ห้องน้ำภายในห้องนอนแยกโซนแห้งและเปียกด้วยพื้นต่างระดับ ในห้องยังคงมีหน้าต่างกระจกที่เปิดรับแสงและช่วยถ่ายเทอากาศ ภายในห้องดูสว่างและโปร่งเพราะผนังโทนสีขาวแต่ยังคงเพิ่มสีสันด้วยกระเบื้องสีเทา

อีกด้านของบ้านชั้นนี้จะมี 2 ห้องนอนโดยมีทางเดินหน้า Master Bedroom ไปยังห้องนอน 2 ที่มีขนาดกว้าง สามารถทำเป็นมุม Pantry เล็ก ๆ สำหรับวางตู้เย็นเพื่อความสะดวกในการใช้งาน วันไหนที่หิวน้ำตอนดึก ๆ ก็สามารถมาใช้มุมนี้ได้เลยไม่จำเป็นห้องลงไปยังชั้น 1 เพื่อเข้าไปหยิบน้ำที่ห้องครัว

ห้องนอน 2 ขนาดพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่กว่าห้องนอน 3 เล็กน้อย ทำให้สามารถวางเตียง 5 - 6 ฟุตได้และยังมีพื้นที่เหลือทำมุมทำงานส่วนตัวในห้องแยกกับโต๊ะเครื่องแป้ง ภายในห้องสว่างและโปร่งเพราะมีหน้าต่างกระจก เมื่อวางเตียง 5 ฟุตแบบห้องตัวอย่างก็มีพื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้งสองข้าง

ปลายเตียงนอกจากชั้นวางทีวีก็ยังมีพื้นที่สำหรับวางเป็นโต๊ะทำงานได้แบบนี้เลยค่ะ สำหรับคนที่ชอบอ่านหนังสือหรือชอบแต่งห้องแนะนำให้เพิ่มชั้นวางของด้านบน อาจเป็นชั้นวางแบบโปร่งที่ไม่เป็นตู้เก็บของเพื่อไม่ทำให้ห้องดูแคบ และยังสามารถหยิบจับหนังสือได้ง่ายอีกด้วย

อีกด้านของห้องเป็นมุมแต่งตัวที่สามารถวางตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ได้ จะเห็นว่าบ้านตัวอย่างตกแต่งด้วยการมีตู้ 2 แบบคือตู้เสื้อผ้าแบบมีหน้าบ้านและชั้นวางของแบบโปร่งไม่มีหน้าบ้านซึ่งข้อดีคือห้องดูไม่โปร่งแต่พื้นที่ใช้สอยดูเป็นสัดส่วน  

สำหรับใครที่เสื้อผ้าเยอะอยากได้ตู้เต็มแนวผนังก็ทำได้นะคะแต่ก็อยากให้ห้องไม่ดูแคบลง แนะนำให้ใช้หน้าบ้านแบบกระจกฝ้าที่มีความโปร่งแสงแบบห้องตัวอย่าง ส่วนมุมแต่งตัวก็สามารถวางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งหน้าห้องน้ำได้แบบนี้เลยค่ะ

ห้องน้ำก็ยังคงแยกโซนแห้งและเปียกด้วยพื้นต่างระดับ ภายในเป็นผนังสีขาวและมีกระเบื้องสีเทาเพิ่มสีสันภายในห้องเช่นเดิม มีหน้าต่างกระจกบานกระทุ้งและ Low Wall ติดกับอ่างล้างหน้าซึ่งเพิ่มพื้นที่วางของในห้องได้

Master Bedroom เป็นห้องนอนที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุด ภายในห้องนอกจากจะวางเตียงใหญ่แบบ 6 ฟุตได้สบาย ๆ แล้ว ยังมีพื้นที่เหลือทำมุมนั่งเล่นส่วนโต๊ะ มุมทำงานและมุมแต่งตัวแบบกั้นเป็นสัดส่วนให้กลายเป็น Walk-in Closet ได้ โดยบ้านมาตรฐานจะเป็นห้องเปิดกว้างที่ไม่มีการกั้นผนังทำมุมแต่งตัว ดังนั้นขนาดพื้นที่แต่ละโซนสามารถตกแต่งตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้เลยค่ะ

สำหรับเตียงนอนเมื่อวางขนาด 6 ฟุตปลายเตียงวางโซฟานั่งเล่นและชั้นวางทีวีก็ยังเดินผ่านใช้งานสะดวก สำหรับข้างเตียงนอกจากจะวางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้งสองฝั่งแล้วก็ยังเหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงานและมุมนั่งเล่นแบบที่วางโซฟาตัวใหญ่ 1 - 2 ที่นั่งได้เลย

พื้นที่หน้าห้องน้ำบ้านตัวอย่างกั้นผนังขึ้นมาเพื่อให้มีมุมแต่งตัวแบบ Walk-in Closet โดยสามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งสองฝั่ง ซึ่งฝั่งที่ติดกับเตียงนอนก็สามารถทำเป็นมุมโต๊ะทำงานตัวใหญ่แบบนี้ หรือจะวางโต๊ะยาวให้กลายเป็นโต๊ะทำงานสำหรับ 2 ที่นั่งก็ได้ค่ะ

อีกฝั่งด้านในที่กั้นเป็นมุมแต่งตัวก็สามารถวางตู้เสื้อใบใหญ่แบบขนาดกันแบบนี้ได้ ตรงกลางเป็นทางเดินและเปิดรับแสงสว่างจากประตูกระจก โดยบ้านตัวอย่างตกแต่งทำมุมแต่งตัว 2 แบบคือตู้เสื้อผ้าบานปิดและบานเปิด จะแขวนเสื้อผ้าหรือวางของใช้ก็ทำได้หลากหลาย สำหรับมุมนี้แนะนำให้ใช้ตู้บานใหญ่ติดฝ้าเพดานไปเลยจะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องฝุ่นหลังตู้ค่ะ

ห้องน้ำภายใน Master Bedroom เป็นห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เพราะนอกจากโซนอาบน้ำแบบ Shower แล้วในห้องยังมีอ่างอาบน้ำให้ด้วย สำหรับห้องนี้อ่างล้างหน้าที่ให้จะเป็นอ่างบนเคาน์เตอร์ใหญ่ สามารถวางของตกแต่งและของใช้ได้เยอะ ส่วนโซนเปียกกั้นฉากกั้นกระจกให้แบบนี้เลยค่ะ ภายในเป็น Rain Shower

อีกด้านของห้องน้ำจะมีอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว ซึ่งอ่างแบบนี้สะดวกในการปรับเปลี่ยนรูปแบบเพราะถ้าต้องการเปลี่ยนเป็นแบบอื่นจะรื้อถอนไม่ยุ่งยากเท่าแบบฝัง ขนาดอ่างใหญ่สามารถนั่งแช่น้ำผ่อนคลายได้

VERANDA หลังนี้จะเป็นแบบบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยใช้สอยมากที่สุดภายในโครงการโดยจะมีขนาดถึง 401 ตร.ม. บนที่ดินเริ่มต้น 125 ตร.ว. ฟังก์ชันบ้านมี 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ โดยหลังนี้ยังคงมีห้องแม่บ้านให้และที่ต่างจากแบบอื่นคือมีห้องนั่งเล่นให้ถึง 2 ห้องและห้องอเนกประสงค์อีก 2 ห้องเลยค่ะ 

ดีไซน์บ้านก็ยังคงเป็น Modern Tropical ซึ่งหลังนี้จะเป็นความอบอุ่นของสไตล์นี้ได้อย่างเด่นชัด เนื่องจากเป็นบ้านฟังก์ชันใหญ่และเป็นบ้านหน้ากว้าง การเพิ่มแผงบังแดดโทนสีไม้ก็ช่วยเพิ่มแสงเงาให้กับตัวบ้านได้เป็นอย่างดีทำให้บ้านดูมีมิติมากยิ่งขึ้น

ชั้น 1 : หลังนี้ด้านหน้าบ้านจะจอดรถได้ถึง 3 คัน และยังมีเฉลียงหน้าบ้านที่อยู่ติดกับพื้นที่สวน โดยทางเข้า - ออกบ้านมี 2 จุด ภายในหลังนี้แยกแต่ละฟังก์ชันเป็นสัดส่วนชัดเจน มีห้องนั่งเล่นโซนหน้าบ้านติดกับห้องอเนกประสงค์ที่กั้นห้องไว้ให้เรียบร้อย ด้านในสุดเป็นห้องนอน 5 ส่วนมุมทานอาหารจะมี Pantry และอยู่ติดกับครัวไทย เปิดไปยังห้องแม่บ้านและโซนซักล้างหลังบ้านได้ โดยหลังนี้มีห้องเก็บของขนาดใหญ่ให้ทีหลังบ้านด้วยค่ะ

ชั้น 2 : ชั้นนี้เป็นพื้นที่สำหรับครอบครัวที่มี 3 ห้องนอน นอกจากนั้นยังมีทั้งมุมอเนกประสงค์ให้อีก 1 มุมและห้องนั่งเล่นที่ 2 หรือ Family Area ทำให้เป็นชั้นที่มีพื้นที่ส่วนตัวอย่างห้องนอน และยังมีพื้นที่ที่ทุกคนในครอบครัวสามารถมาใช้เวลาร่วมกันได้

ด้านหน้าสามารถจอดรถได้ 4 คัน โดยตรงจุดที่จอดรถจะมีตู้เก็บของให้ สามารถทำเป็นตู้เก็บอุปกรณ์ดูแลสวน เครื่องมือช่างหรือของใช้ต่าง ๆ ภายในบ้านได้ค่ะ ถัดจากที่จอดรถจะมีเฉลียงตรงมายังประตูทางเข้า - ออกบ้านโดยจะมี 2 จุดคือประตูบานสวิงที่เป็นประตูเหล็กผิวปิดลายไม้ กับประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่

ประตูนี้เป็นประตูเหล็กที่ปิดผิวลายไม้นะคะ ข้อดีคือยังได้โทนที่อบอุ่นแบบประตูไม้แต่มีความทนทานต่อแดดและความชื้นมากกว่า ไม่ต้องกลัวเรื่องไม้บวมจนมีผลต่อการใช้งาน สองข้างประตูมีช่องแสงที่ทำให้ทางเดินภายในไม่ทึบ

เมื่อเข้ามาภายในจะมีโถงหน้าบ้านที่สามารถวางชั้นวางของทำเป็นมุมวางรองเท้า มุมแต่งตัวก่อนออกนอกบ้านได้ ติดตั้งตู้บานใหญ่หรือชั้นวางของก็ได้พื้นที่เก็บของเยอะทีเดียวค่ะ จากจุดนี้จะเห็นทางเดินไปยังส่วนต่าง ๆ ของบ้าน ด้านขวาคือห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดกับห้องอเนกประสงค์และห้องนอน 5 ด้านซ้ายมือจะเป็นทางเดินไปยังห้องทานอาหารและห้องครัว สำหรับพื้นชั้นนี้จะเป็นกระเบื้องยางลายไม้ ความสูงพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.9 ม.

มุมนั่งเล่นหน้าบ้านจะเป็นแบบ Double Volume เปิดรับแสงธรรมชาติและวิวสวนหน้าบ้านผ่านประตูและช่องแสงกระจก ส่วนหน้าต่างใช้เป็น TOSTEM รุ่นที่มีเทคโนโลยีระบายอากาศ มีช่อง Airflow โดยช่องแสงเหนือประตูทางเข้า - ออกบ้านจะมีแผงบังแดดที่ช่วยเพิ่มร่มเงาให้กับตัวบ้านค่ะ

ขนาดพื้นที่ใช้สอยห้องนั่งเล่นกว้างขวาง สามารถวางโซฟาชุดหรือโซฟาตัว U แบบ 8 - 10 ที่นั่งได้สบาย ๆ ตรงกลางวางโต๊ะกาแฟตัวใหญ่ ผนังฝั่งตรงข้ามโซฟาวางชั้นวางทีวีก็ยังมีพื้นที่ให้เดินผ่านใช้งานสะดวก และจากภาพนี้จะเห็นว่าห้องนี้เชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้น 2 จึงทำให้บ้านดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น

ติดกับห้องนั่งเล่นคือห้องอเนกประสงค์ที่ทางโครงการติดตั้งประตูกระจกบานเลื่อนไว้ให้แบบนี้ ทำให้เป็นห้องอเนกประสงค์ที่มีความเป็นส่วนตัวและมีพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วนชัดเจน

ภายในห้องกว้างขวางเพียงพอจะทำเป็นห้องทำงานสำหรับ 2 - 4 คนได้สบาย ๆ หรือจะวางโต๊ะทำงานสำหรับ 2 ที่นั่งและแบ่งมุมวางโซฟาไว้เป็นมุมพักผ่อนแบบนี้ก็ได้ ส่วนใครที่มีเด็กเล็กอาจทำเป็นห้องสำหรับเด็กก็ได้เช่นกันค่ะ ห้องนี้จะมีช่องแสงที่เปิดเห็นห้องนั่งเล่นอีกด้วย

จากห้องอเนกประสงค์สามารถเปิดออกมายังพื้นที่ข้างบ้านที่มีชานบานแบบนี้ สามารถทำเป็นมุมนั่งเล่นหรือมุมพื้นที่เล่นกลางแจ้งสำหรับเด็ก ๆ ได้

เข้าไปด้านในสุดของบ้านจะเป็นห้องนอน 5 ห้องนี้เป็นห้องนอนชั้นล่างจึงเหมาะสำหรับทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุหรือห้องนอนแขกเพราะดูแลสะดวก ไม่จำเป็นต้องขึ้นลงบันได ขนาดห้องก็กว้างขวางพอวางเตียง 5 ฟุตและเฟอร์นิเจอร์หลักอื่น ๆ

เฟอร์นิเจอร์หลักที่วางได้ก็มีตู้เสื้อผ้าใบใหญ่และโต๊ะเครื่องแป้งนั่นเองค่ะ สำหรับใครที่จะทำเป็นห้องนอนแขกอาจปรับให้ตู้เสื้อผ้าเล็กลงและเพิ่มมุมโต๊ะทำงานเล็ก ๆ อีกมุมได้เช่นกัน

ห้องน้ำภายในห้องนี้จะไม่มีการทำพื้นต่างระดับ ดังนั้นผู้สูงอายุสามารถใช้งานได้สะดวก ภายในยังคงสว่างและโปร่งด้วยผนังสีขาว นอกจากนั้นยังมีหน้าต่างกระจกที่เปิดรับแสงธรรมชาติ บ้านมาตรฐานที่ได้ก็จะได้ตามที่เห็นในบ้านตัวอย่างเลยนะคะ

คราวนี้มาดูอีกฝั่งของบ้านกันบ้างดีกว่า สำหรับฝั่งนี้จะเป็นห้องทานอาหาร ห้องครัวที่สามารถเปิดไปยังพื้นที่หลังบ้านได้

ห้องทานอาหารเป็นห้องกว้างที่มีมุมโต๊ะวางทานอาหารตัวใหญ่ และยังเหลือพื้นที่สำหรับวาง Pantry ขนาดใหญ่ได้

โต๊ะทานอาหารสามารถวางขนาดสำหรับ 8 ที่นั่งได้สบาย จะจากภาพชัดเจนเลยว่าทั้งโต๊ะและเก้าอี้จะมีขนาดใหญ่ แต่ก็ยังเหลือพื้นที่รอบโต๊ะให้เดินผ่านใช้งานสะดวก แม้จะมีคนที่กำลังนั่งรับประทานอาหารก็สามารถเดินผ่านได้ง่าย มุมนี้ดูโปร่งและสบายตาเพราะมีประตูกระจกหลังบ้านที่เปิดรับวิวสวน

พื้นที่หลังบ้านยังคงมีชานบ้านให้ค่ะ เป็นมุมนั่งเล่นนั่งทานอาหารนอกบ้านได้ โดยสามารถทำสวนแนวตั้งเพิ่มความร่มรื่นให้กับตัวบ้านได้แบบนี้

Pantry วางเคาน์เตอร์ตลอดแนวผนังและแบ่งพื้นที่บางส่วนวางตู้เย็นใบใหญ่ อีกด้านเป็นช่องสำหรับวางไมโครเวฟและเตาอบก็ทำให้ใช้งานสะดวก และมีพื้นที่เตรียมอาหารด้วยการวาง island ตรงกลาง เหนือเคาน์เตอร์มีหน้าต่างกระจกทำให้มุมนี้ยังคงมีแสงธรรมชาติส่องถึง

ครัวเป็นครัวปิดที่มีประตูเป็นบานสวิง ทำให้แยกโซนทำอาหารได้อย่างเป็นสัดส่วน อีกทั้งยังมีหน้าต่างกระจกที่สามารถเปิดเพื่อถ่ายเทอากาศทำให้ห้องไม่อับอีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหารเพราะพื้นที่ครัวเยอะไม่จำเป็นต้องต่อเติมครัวเพิ่ม

จากห้องครัวสามารถเปิดมายังพื้นที่ข้างบ้านที่เป็นพื้นที่ส่วนซักล้างและห้องแม่บ้านได้ค่ะ โดยห้องแม่บ้านจะมีห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วน นอกจากนั้นก็ยังมีห้องเก็บของขนาดใหญ่ให้อีกด้วย

ห้องน้ำจะอยู่ติดกับห้องครัวโดยเป็นห้องแบบ Powder Room ภายในขนาดกว้างใช้งานสะดวก มีหน้าต่างกระจกบานกระทุ้งทำให้ห้องดูสว่างและโปร่ง บ้านมาตรฐานที่ได้จะได้อ่างล้างหน้าพร้อมเคาน์เตอร์แบบที่เห็นในบ้านตัวอย่างเลยค่ะ

บันไดบ้านยังคงเป็นพื้น SPC ลายไม้ ราวจับเป็นโทนสีไม้เข้มซึ่งมีให้ตลอดแนวบันได ส่วนชานพักเป็นสีเหลี่ยมทำให้การขึ้น - ลงนั้นสะดวก เหนือชานพักมีช่องแสงกระจกขนาดใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติจากภายนอกทำให้บ้านดูโปร่ง

ขึ้นมายังชั้นบนจะเจอกับส่วน Common Area ของครอบครัวอย่างมุมอเนกประสงค์และมุมนั่งเล่น ติดกับมุมนั่งเล่นคือห้องนอน 4 ส่วนด้านขวามือจะมีทางเดินไปยังห้องนอน 2 - 3 และ Master Bedroom

มุมอเนกประสงค์มีช่องแสงเปิดเชื่อมกับพื้นที่ Double Volume ของห้องนั่งเล่นชั้น 1 ทำให้พื้นที่นี้ดูโปร่งโล่ง ขนาดพื้นที่สามารถทำเป็นมุมนั่งทำงาน มุมอ่านหนังสือหรือจะทำเป็นมุมสำหรับเด็ก ๆ ก็ได้ค่ะ

อีกมุมของครอบครัวตัวนี้ก็จะเป็นห้องนั่งเล่น 2 หรือ Family Area ที่สามารถวางโซฟาตัวใหญ่ไว้นั่งเล่นได้อีกมุม โดยตรงนี้จะต่างกับมุมอเนกประสงค์ตรงที่จุดที่เชื่อมกับห้องนั่งเล่นชั้น 1 จะไม่กั้นด้วยกระจกแต่จะมีเพียงราวกันตกเท่านั้น ทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูโปร่งโล่งและสามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้นล่างได้ง่าย

มองลงไปยังห้องนั่งเล่นชั้น 1 ก็จะเห็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่นทั้งหมดแบบนี้เลยค่ะ

ห้องนอน 4 เป็นห้องนอนที่มีขนาดกว้างขวาง สามารถวางเตียงใหญ่แบบ 5 ฟุตได้สบาย สองข้างเตียงวางโต๊ะหัวเตียงได้ แต่ใครที่ชอบให้มีโต๊ะทำงานในห้องอาจจะขยับเตียงชิดผนัง เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยข้างเตียง หรือจะเปลี่ยนเป็นวางเตียง 3.5 ฟุตก็ได้เช่นกันค่ะ ปลายเตียงมีพื้นที่ทำชั้นวางทีวีและยังเดินผ่านใช้งานสะดวก

ข้างเตียงฝั่งนี้ทำเป็นมุมแต่งตัวโดยวางตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ ด้านข้างออกแบบให้เป็นชั้นวางของที่สามารถวางทั้งของใช้ หนังสือหรือเครื่องสำอางได้เนื่องจากติดกั้นสามารถทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้นั่นเอง

ห้องน้ำก็ยังคงกว้างใช้งานสะดวก ภายในเป็นโทนสีขาว - เทาและน้ำตาล มีหน้าต่างกระจกเปิดรับแสงธรรมชาติและช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี พื้นโซนเปียกจะลดระดับลงไปเล็กน้อยซึ่งสามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเองได้ไม่ยาก

คราวนี้มาดูอีกด้านของบ้านกันค่ะ โดยฝั่งนี้จะมีห้องนอนถึง 3 ห้องด้วยกันและมีทางเดินไปยังห้องต่าง ๆ ที่มีพื้นที่กว้าง ทำให้สามารถวางตู้เก็บของมุมนี้เพิ่มได้หรือจะทำเป็น Pantry มุมอาหารว่าง มุมเครื่องดื่มเล็ก ๆ ตรงนี้ ก็สะดวกในการใช้งาน

เดินมาตามทางเดินเข้าไปด้านในสุดก็จะเจอกับ 2 ห้องนอน โดยด้านขวามือคือห้องนอน 2 และด้านซ้ายมือคือห้องนอน 3

ห้องนอน 3 ขยาดพื้นที่ใช้สอยก็ยังคงกว้าง เมื่อวางเตียง 5 - 6 ฟุตก็ยังมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือ สำหรับปลายเตียงจะเห็นนะคะว่าเมื่อวางชั้นวางทีวีก็ยังคงมีพื้นที่กว้าง ดังนั้นใครที่อยากได้โต๊ะทำงานตัวใหญ่ก็สามารถวางโต๊ะปลายเตียงได้เลย เพื่อให้มุมที่ติดกับตู้เสื้อผ้าเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง

เมื่อปลายเตียงทำเป็นโต๊ะทำงานก็สามารถวางตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ตลอดแนวผนังได้ หรือใครที่เสื้อผ้าไม่เยอะก็ทำแบบบ้านตัวอย่างที่มีตู้เสื้อผ้าแบ่งส่วนกับโต๊ะทำงานที่เป็นโต๊ะเครื่องแป้งไปในตัวค่ะ

ห้องน้ำก็ยังคงกว้างเช่นเดียวกัน ภายในเป็นโทนสีขาว - เทาและน้ำตาล มีหน้าต่างกระจกเปิดรับแสงธรรมชาติและช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี พื้นโซนเปียกจะลดระดับลงไปเล็กน้อยซึ่งสามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเองได้ไม่ยาก

ห้องนอน 2 ขนาดพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นมาอีกหน่อย ทำให้ห้องนี้ทำมุมโต๊ะทำงานและมุมนั่งเล่นส่วนตัวในห้องได้ ขนาดเตียงสามารถวางขนาด 5 ฟุต สองข้างเตียงวางโต๊ะหัวเตียงได้ ปลายเตียงติดตั้งชั้นวางทีวีก็ยังเดินผ่านใช้งานสะดวก

ข้างเตียงทำเป็นมุมโต๊ะทำงานที่มีตู้และชั้นวางของ แบ่งพื้นที่บางส่วนเป็นมุมนั่งเล่นส่วนตัวในห้องก็ได้มุมพักผ่อนแบบสบาย ๆ

อีกด้านของห้องทำเป็นมุมแต่งตัวด้วยการวางตู้เสื้อผ้าใบใหญ่และโต๊ะเครื่องแป้ง โดยขนาดตู้เก็บของได้เยอะและเมื่อทำเป็นตู้สูงถึงฝ้าก็มีพื้นที่เก็บของได้หลากหลายมากขึ้นค่ะ

ห้องน้ำขนาดจะไม่ต่างกับห้องนอนอื่น ๆ  โดยภายในเป็นโทนสีขาว-เทาและน้ำตาลเช่นเดียวกัน มีหน้าต่างกระจกเปิดรับแสงธรรมชาติและช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี พื้นโซนเปียกจะลดระดับลงไปเล็กน้อยซึ่งสามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเองได้ไม่ยาก

Master Bedroom เป็นห้องนอนที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุด ขนาดพื้นที่กว้างขวางพอให้สามารถกั้นผนังแบ่งมุมแต่งตัวให้เป็นแบบ Walk-in Closet และโซนพักผ่อนยังมีพื้นที่เหลือสำหรับทำมุมนั่งเล่นส่วนตัวในห้องได้อีกด้วยค่ะ 

บ้านมาตรฐานที่ได้จะเป็นห้องกว้างที่ไม่มีผนังกั้น ทำให้การแบ่งพื้นที่แต่งตัวและพื้นที่พักผ่อนสามารถกั้นขนาดได้ตามความต้องการ

มุมพักผ่อนสามารถวางเตียงใหญ่ขนาด 6 ฟุต สองข้างเตียงวางโต๊ะหัวเตียงและโคมไฟแบบนี้ก็ยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงสำหรับวางโต๊ะทำงานตัวใหญ่สำหรับ 1 - 2 ที่นั่ง ปลายเตียงวางโซฟาสำหรับนั่งเล่นได้

อีกด้านของห้องเป็นมุมแต่งตัวที่สามารถกั้นผนังเพื่อให้พื้นที่แบ่งเป็นสัดส่วน โดยมุมข้างเตียงยังว่างพอให้วางโซฟาเดี่ยวไว้เป็นมุมนั่งเล่นในห้องนะคะ

เมื่อกั้นผนังเพิ่มมาแล้วก็สามารถวางตู้เสื้อผ้าสองฝั่งได้แบบนี้ ตรงกลางวาง Island เพื่อให้เป็นพื้นที่เก็บของใช้ เก็บเครื่องประดับได้ แบ่งพื้นที่บางส่วนเป็นโต๊ะเครื่องแป้งตู้เสื้อผ้าก็ยังคงวางใบใหญ่ได้

ห้องน้ำใน Master Bedroom ก็ยังกว้างกว่าห้องนอนอื่น ๆ เหมือนหลังแรกที่พาไปชม ภายในห้องแยกโซนแห้งและเปียกชัดเจน พื้นส่วนอาบน้ำแบบ Shower จะลดระดับลงจากพื้นโซนแห้งและมีฉากกั้นอาบน้ำให้ ส่วนอ่างล้างหน้าก็มีเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่จึงทำให้มีพื้นที่วางของใช้ต่าง ๆ ได้เยอะ

อีกด้านของห้องเป็นอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว ขนาดอ่างใหญ่พอให้ลงไปนอนแช่น้ำเพื่อผ่อนคลายในวันเหนื่อยๆ ได้เลยค่ะ ด้านบนมีหน้าต่างกระจกทำให้ห้องมีแสงธรรมชาติและอากาศสามารถถ่ายเทได้ดี

บ้านมาตรฐานและตัวอย่างวัสดุ

บ้านมาตรฐานที่ได้เป็นบ้านเปล่าที่ไม่มีการตกแต่ง แต่จะมีพื้นที่สวนภายในบ้านให้ตามมาตรฐานของโครงการ ดังนั้นการตกแต่งของบ้านตัวอย่างจะเป็นเพียงไอเดียเท่านั้นนะคะ ส่วนโครงสร้างบ้านจะเป็นผนังอิฐคอนกรีตตันที่คุณภาพสูง เป็นการทดแทนการใช้อิฐมอญแดงแต่ขนาดจะมีมาตรฐานที่ดีกว่า สามารถทุบหรือเจาะได้โดยไม่กระทบต่อความแข็งแรงของโครงสร้างบ้าน

สำหรับวัสดุมาตรฐานที่ทางโครงการให้นั้นหลากหลายแบรนด์เป็นแบรนด์ต่างประเทศ 

• ประตู-หน้าต่างกระจกเป็นกรอบอลูมิเนียมของ Tostem ซึ่งหน้าต่างที่ชั้น 1 ทุกบ้านจะมีช่องลมที่สามารถเปิด - ปิดได้ ซึ่งข้อดีของการมีช่องลมตรงนี้คือสามารถปิดหน้าต่างในวันที่ไม่อยู่บ้านแต่อากาศภายในยังมีช่องลมให้ถ่ายเทอากาศได้ดีนั่นเอง
• พื้นชั้น 1 และชั้น 2 เป็นกระเบื้องยางลายไม้ที่ทนชื้นแต่ก็ให้ผิวสัมผัสและบรรยากาศที่อบอุ่นเหมาะสำหรับการพักอาศัย

ห้องน้ำที่ได้จะได้ตามที่เห็นในบ้านตัวอย่างยกเว้นของตกแต่ง โดยห้อง Master Bedroom จะต่างกับห้องอื่น ๆ คือมีฉากกั้นอาบน้ำ, Rain Shower และอ่างอาบน้ำให้

Location : เดอะ พาวิลเลี่ยน ปิ่นเกล้า – สาย 4

พิกัด :  https://maps.app.goo.gl/JaZ3VTnhT5hfQd5i8

ทำเลที่ตั้งโครงการ เดอะ พาวิลเลี่ยน ปิ่นเกล้า – สาย 4 ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองปทุม ซึ่งถนนเส้นนี้เชื่อมต่อทั้งพุทธมณฑลสาย 4 และถนนทวีวัฒนา ทำให้การเดินทางสามารถลัดเลาะไปยังโซนต่าง ๆ ที่ต้องการได้หลากหลาย โดยจากสาย 4 จะวิ่งตรงไปยังศาลายาได้ง่าย ส่วนถนนทวีวัฒนาจะเป็นเส้นพื้นที่ชุมชนที่ตรงไปยังพุทธมณฑลสาย 3 ได้ค่ะ 

โดยทำเลที่ตั้งโครงการนั้นเป็นย่านชุมชนที่มีความอุดมสมบูรณ์ รอบ ๆ เงียบสงบเหมาะสำหรับการพักอาศัยแต่ก็ไม่ไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวก เพราะทั้งถนนพุทธมณฑลสาย 4 และถนนทวีวัฒนาจะมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสถานศึกษาชื่อดัง มีโรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลต่าง ๆ มากมาย

สำหรับการเดินทางนั้นก็สะดวกเป็นอย่างมาก ถ้าทำงานในโซนนี้หรือโซนเพชรเกษม ศาลายา ปิ่นเกล้า หนองแขม บางแคก็สามารถไปได้ไม่ยาก เพราะจากที่ตั้งโครงการจะเชื่อมกับถนนเเพชรเกษม มุ่งหน้าไปยังบางหว้าและวงเวียนใหญ่ได้ หรือจะไปเส้นคู่ขนานบรมราชชนนีก็ตรงไปยังปิ่นเกล้า วิ่งขึ้นคุ่ขนานตรงเข้าทางด่วนไปยังจตุจักร ลาดพร้าวได้สบาย ๆ

สำหรับสถานศึกษาและสถานพยาบาลต้องบอกเลยว่ามีให้หลากหลายทั้งของรัฐ ของเอกชน หรือสถานศึกษาก็มีทั้งประถมไปจนถึงอุดมศึกษา โดยโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลราชพิพัฒน์, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค, ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ส่วนสถานศึกษาก็มีทั้ง มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี, โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี, โรงเรียนสารสาสน์ธนบุรี, มหาวิทยาลัยมหิดล, และ โรงเรียนสาธิตนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล

เนื่องจากเป็นย่านชุมชนดังนั้นเรื่องปากท้องไม่ต้องเป็นห่วง แหล่งจับจ่ายใช้สอยก็มีทั้งร้านค้า ร้านอาหารต่าง ๆ มากมาย ใกล้ตลาดสด ตลาดนัดและศูนย์การค้าใหญ่โดยรอบ ๆ จะมีตลาดเวิลด์มาร์เก็ต, ตลาดนัดศาลายา, ตลาดธนบุรี สนามหลวง 2, บุญถาวร, The Fourth สาย 4, Central ศาลายา และ The Mall บางแค

การเดินทาง

สำหรับการเดินทางวันนี้ทางทีมงานจะพาเดินทางจากจตุจักรมุ่งหน้าไปยังโครงการโดยวิ่งจากถนนคู่ขนานบรมราชชนนี จะเห็นป้ายบอกทางไปนครปฐมให้ตามป้ายนี้ไปเลยค่ะ

เมื่อตรงมาเรื่อย ๆ ก็จะเริ่มเห็นป้ายบอกทางสำหรับพุทธมณฑลสายต่าง ๆ ตรงนี้ยังให้ตรงไปผ่านสาย 3 ไปก่อนนะคะ

เมื่อผ่านสาย 3 มาแล้วก็จะผ่านบุญถาวรทางซ้ายมือ

ตรงมาเรื่อย ๆ ก็จะเริ่มเห็นป้ายบอกทางไปยังสาย 4 และศาลายา

จากตรงนี้เมื่อเห็นป้ายบอกทางไปพุทธมณฑลให้ชิดซ้ายค่ะ และจะเห็นว่าจากโครงการสามารถตรงไปยังศาลายาได้ง่าย จะไปนครปฐมก็สะดวก

ชิดซ้ายตามป้ายบอกทางและให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพุทธมณฑล

เมื่อเลี้ยวเข้ามาก็จะเป็นถนนถนนพุทธมณฑลสาย 4 ซึ่งจะเห็นป้ายบอกทางไปยังเพชรเกษม ตรงนี้ให้เราตรงไปได้เลยค่ะ

ตรงมาไม่ไกลจะผ่าน The Fourth ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้มอลที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ

ผ่าน The Fourth มาเพียง 1.3 กม. ก็จะเจอกับซอยกรุทุ่มล้มหรือซอยคลองประทุม ตรงนี้ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยค่ะ

จากปากซอยเพียง 1.7 กม. ก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการทางขวามือ ถนนในซอยเป็นถนนเลียบคลองที่เป็นย่านชุมชน จึงมีร้านค้าร้านอาหารอยู่บ้างประปราย

ที่ตั้งโครงการ เดอะ พาวิลเลี่ยน ปิ่นเกล้า – สาย 4 อยู่ทางขวามือ มีซุ้มประตูทางเข้าที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนและมีดีไซน์อันโดดเด่น

Price & Promotion

ปัจจุบันโครงการ เดอะ พาวิลเลี่ยน ปิ่นเกล้า – สาย 4  มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ โดยสามารถเข้าไปดูบ้านตัวอย่างได้ที่โครงการ

• TERRACE : พื้นที่ใช้สอย 277 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ l ราคาเริ่มต้น 11.9 ล้าน
• COURTYARD : พื้นที่ใช้สอย 293 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ l ราคาเริ่มต้น 13.0 ล้าน
• VERANDA : พื้นที่ใช้สอย 401 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 2 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน 4 ที่จอดรถ l ราคาเริ่มต้น 15.9 ล้าน

ส่วนกลาง 25 บาท /ตร.ว./เดือน 

ราคา ณ เดือนกรกฏาคม 2567 **โปรดสอบถามโครงการอีกครั้ง

Conclusion