รีวิวบ้านเดี่ยว บ้านนินญา ราชพฤกษ์ สไตล์ Modern Tropical ที่ผสานพื้นที่อยู่อาศัยและธรรมชาติไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อม Facilities ครบครัน ใกล้โรงเรียนนานาชาติและศูนย์การค้า

นี่คือโครงการ ‘บ้านนินญา ราชพฤกษ์’ โดยเซ็นทรัลพัฒนา บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern Tropical ที่มาพร้อมกับบ้านเดี่ยวถึง 4 แบบ ให้เราสามารถเลือกได้ตามความไลฟ์สไตล์ของครอบครัว พื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 203 ไปจนถึง 351 ตร.ม. ในดีไซน์ที่กว้างขวาง ปลอดโปร่ง เข้ากับบรรยากาศเมืองร้อนของประเทศไทย

บ้านนินญา ราชพฤกษ์ มีจำนวนยูนิตแบบพอดีๆ เพียง 132 หลัง สังคมมีความเป็นส่วนตัว ท่ามกลางบรรยากาศที่ร่มรื่นและมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน โดยบรรยากาศจริงจะเป็นอย่างไร แอดมินมีภาพประกอบและข้อมูลเจาะลึกมาฝากกันแล้วครับ

Factsheet

ชื่อโครงการ :	นินญา ราชพฤกษ์
บริษัท :	บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์ จำกัด
ที่ตั้งโครงการ :	ซอยโยธาธิการ นนทบุรี 2023 ถนนราชพฤกษ์ ตำบลอ้อมเกร็ด อำเภอ ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
เนื้อที่โครงการ :	39-3-41.8 ไร่
รายละเอียดโครงการ :	บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
จำนวนยูนิต :	132 ยูนิต
พื้นที่ใช้สอย :	203 - 351 ตร.ม.
ที่ดินเริ่มต้น :	55 - 84 ตร.ว.
ค่าส่วนกลาง :	39 บาท / ตร.ว. / เดือน
ราคาเริ่มต้น :	9.5 - 20 ล้านบาท* (สอบถามโครงการอีกครั้ง)
โทร :	092 974 6944
เว็บไซต์ :	https://residential.centralpattana.co.th/th/house/ninya-ratchapruek

Highlight

บ้านเดี่ยว Modern Tropical ดีไซน์เรียบหรู ในบรรยากาศที่น่าพักผ่อน ในตัวบ้านเน้นความปลอดโปร่ง กับฟังก์ชันที่ลงตัวสำหรับครอบครัวหลายขนาด ตั้งแต่ 3 - 4 ห้องนอน

หลังใหญ่ พื้นที่ใช้สอยจัดเต็ม Type XL มีพื้นที่ใช้สอยถึง 351 ตร.ม. พร้อมฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ จอดรถได้ 4 คัน และติดตั้งอุปกรณ์ Smart Home Automation

สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รองรับกิจกรรมได้ครบทุกความต้องการของครอบครัว ท่ามกลางบรรยากาศที่ร่มรื่น และเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนบ้านเพียง 132 ยูนิต

ใจกลางย่านราชพฤกษ์ เดินทางสะดวกสบายด้วยถนนหลักหลายสาย อยู่ใกล้ศูนย์การค้าหลากหลายไลฟ์สไตล์ ปากซอยติดทางเข้า Chic Repuplic ราชพฤกษ์

Facility

เริ่มต้นรีวิวกันตั้งแต่หน้าทางเข้าโครงการ เมื่อมาถึงจะเจอกับซุ้มประตูขนาดใหญ่สไตล์โมเดิร์น  โดยมีหลังคาช่วยกันแดดฝนในเวลาที่ติดต่อกับป้อม รปภ. การเข้าออกของโครงการใช้ระบบ Access Control Double Security Gates โดยมีประตูชั้นที่ 2 เป็นตัวแสกนความปลอดภัยอีก 1 ระดับ ประตูทางเข้าโครงการ แบ่งช่องทางเข้าออก สำหรับ Visitor และ Residence

ประตูทางเข้าออกเป็นประตูเหล็ก ควบคุมการเปิดปิดอัตโนมัติด้วยระบบอ่านป้ายทะเบียนรถลูกบ้าน (เลนซ้าย) ส่วนผู้มาติดต่อต้องยืนยันตัวตนผ่านระบบ VMS ก่อน เพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว โดยจะมีกล้อง CCTV ครอบคลุมทั้งโครงการ รวมถึงทางเข้า - ออก ตลอด 24 ชม. โดยรั้วรอบโครงการจะมีความสูง 3.3 ม. รวมเหล็กแหลม

เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้ามาจะเจอกับอาคารคลับเฮาส์สูง 2 ชั้น และถนนหลักหน้ากว้าง 14 ม.

ถัดจากคลับเฮาส์จะมีประตูเข้าโซนพักอาศัยพร้อม CCTV และ รปภ. เสริมความปลอดภัยอีกชั้น

โซนกลางแจ้งของคลับเฮาส์จะมีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ความยาว 20 ม. รองรับการออกกำลังกายได้จริง มาพร้อมที่นั่งพักผ่อนริมสระแบบ Semi Outdoor

คลับเฮาส์มีทางลาดสำหรับให้ผู้ใช้งานรถเข็นสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

ภายนอกอาคารคลับเฮาส์ ดีไซน์ให้กลมกลืนกับธรรมชาติด้วยสีเทา สีน้ำตาล และกำแพงลายหิน แซมด้วยการปลูกต้นหมากทรงสูง เพื่อเสริมบรรยากาศให้ดูคล้ายรีสอร์ต ชวนพักผ่อนตั้งแต่มาถึง

ใต้ชายคาชั้น 1 ของคลับเฮาส์ มีหลายมุมให้สามารถนั่งพักผ่อนชิลๆ ริมสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำโซนในร่มจะเป็นสระเด็ก มีชุดเก้าอี้ให้ผู้ปกครองมานั่งดูแลได้อย่างใกล้ชิด 

ส่วนชั้น 2 ของคลับเฮาส์จะมีโถงกลาง เป็นตัวแบ่งพื้นที่โซนฟิตเนสและ Co Working Space เป็นพื้นที่ซึ่งมีความปลอดโปร่ง เปิดโล่งให้ลมพัดได้เย็นสบาย

ห้องฟิตเนสมีความกว้างขวาง มาพร้อมอุปกรณ์และเครื่องเล่นที่ครบครัน บรรยากาศห้องปลอดโปร่งด้วยช่องแสงจากหน้าต่างบานใหญ่เกือบรอบห้อง

อีกฝั่งของชั้น 2 คือห้อง Co Working Space ขนาดใหญ่ มีที่นั่งหลายจุดให้เลือกใช้ทั้งแบบเดี่ยวหรือแบบกลุ่มย่อย

Co Working Space แบ่งพื้นที่ออกเป็นอีก 2 ห้อง คือห้องประชุมและ Game Room ซึ่งมีประตูบานเลื่อน สามารถปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวได้

ห้อง Game Room ออกแบบมาสำหรับการเล่นบอร์ดเกม โต๊ะรองรับผู้เล่น 4 คน

ห้องประชุมมีขนาดกลาง รองรับได้ 8 - 10 ที่นั่ง มาพร้อมไวท์บอร์ดและสมาร์ตทีวี

ออกจากคลับเฮาส์ ผ่านประตู 2 เข้ามาภายในโซนพักอาศัย จะเจอกับวงเวียนที่เป็นศูนย์กลาง แบ่งถนนเมนออกไปตามซอยต่างๆ โดยถนนเมนในโซนพักอาศัยจะมีความกว้าง 12 ม.

ใกล้กับวงเวียนจะมีสวนส่วนกลางบรรยายกาศร่มรื่น ตกแต่งพรรณไม้ในสไตล์ Tropical ให้อารมณ์แบบรีสอร์ตเมืองร้อน มาพร้อมทางเดิน เเละสามารถวิ่งออกกำลังกายเบาๆได้ด้วยเช่นกัน

ในสวนยังมีสนามเด็กเล่นแทรกตัวอยู่อย่างกลมกลืน มีชิงช้า ไม้ลื่น และเครื่องปีนป่าย ปูพื้นด้วยวัสดุซับแรงกระแทก

Design & Function

บ้านนินญา ราชพฤกษ์ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นแบบหน้ากว้าง การออกแบบมีคอนเซปต์หลักคือสไตล์ Modern Tropical ที่พัฒนาบ้านให้ดูทันสมัยและเข้ากับภูมิอากาศร้อนชื้นของไทย โดยจะเน้นความปลอดโปร่งของพื้นที่ภายใน และช่องแสงจากประตูและหน้าต่างบานใหญ่ นอกจากนั้นยังเลือกใช้สีเทาอ่อนเพื่อให้ความรู้สึกสบายตา แทรกด้วยสีน้ำตาลของประตูไม้และระแนงอลูมิเนียมลายไม้ ซึ่ง Contrast กันอย่างลงตัว ส่วนในด้านงานก่อสร้าง ผนังบ้านเป็นแบบก่ออิฐฉาบปูนด้วยอิฐมวลเบา Q Con จาก SCG มีความแข็งแรง ระบายความร้อนได้ดี ตอก เจาะ ต่อเติมได้ง่าย

นี่คือบ้านเดี่ยวขนาดเริ่มต้นของโครงการ ‘Appeased’ พื้นที่ใช้สอย 203 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ออกแบบให้มีความเรียบง่ายแต่แฝงด้วยรายละเอียด เหมาะกับครอบครัวเล็กที่กำลังวางเเผนขยายครอบครัว

บ้านเดี่ยว Bliss มีพื้นที่ใช้สอย 243 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ยังคงความทันสมัยและเรียบง่าย แต่เพิ่มความภูมิฐานมากขึ้นตามความเติบโตของขนาดครอบครัว

บ้านเดี่ยว Cheerful พื้นที่ใช้สอย 270 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ออกแบบให้มีความ Modern ฟังก์ชันอยู่เหนือการเวลา รองรับการเติบโตของครอบครัว เพื่อส่งทอดต่อให้ลูกหลานได้สร้างครอบครัวต่อได้ในอนาคต

บ้านเดี่ยวไซส์ใหญ่ที่สุดของโครงการ D’Lykca มีความกว้างขวางเป็นพืเศษ พื้นที่ใช้สอย 351 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ มีความเป็น Modern Luxury หรูหรากว่าอีก 3 แบบก่อนหน้า พร้อมฟังก์ชันที่ออกแบบให้รองรับการอยู่อาศัยของสมาชิกทุกวัยในครอบครัว

อีกฟังก์ชันที่มาพร้อมตัวบ้านทุกแบบคือระบบ Smart Home Automation & Smart Security ที่จะมีทั้ง กล้อง CCTV 1 จุด บริเวณที่จอดรถ รวมถึง Digital Door Lock และตัวสัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic Sensor และ Shock Sensor นอกจากนั้นยังมี Smoke Detector ตรวจจับควันในครัวเพื่อแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุอัคคีภัย

นอกจากเรื่องความปลอดภัย บ้านนินญา ราชพฤกษ์ ยังให้ความสำคัญกับเรื่องของคุณภาพอากาศ จึงมีระบบ Smart Air Flow (ที่มีทั้งระบบActive และ Passive พร้อมระบบกรองฝุ่นPM 2.5) ที่จะช่วยให้อากาศภายในบ้านไหลเวียนถ่ายเทได้ดี โดยไม่จำเป็นต้องเปิดประตูหรือหน้าต่างไว้ อีกทั้งยังช่วยกรองฝุ่นละอองได้ด้วย

ในด้านของความ Smart ที่ลานจอดรถหน้าบ้านจะมีจุดรองรับการติดตั้งอุปกรณ์ EV Charger ส่วนในบ้าน บริเวณโถง Foyer และโถงชั้น 2 จะมี Smart Switch ใช้สั่งเปิดปิดหลอดไฟผ่านโทรศัพท์ นอกจากนั้นยังมี Motion Sensor ช่วยเปิดปิดไฟให้ตามความเคลื่อนไหวอีกด้วย

Home Type

D’Lycka 351 ตร.ม.

บ้านหลังแรกที่เราจะเข้าไปรีวิวกันคือบ้านเดี่ยวไซส์ใหญ่ที่สุดของโครงการ ‘D’Lycka’ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนแปลงที่ดินขนาดเริ่มต้น 84 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 351 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน

ชั้น 1 มีระยะพื้นถึงฝ้าสูง 2.7 ม. ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิโต้ มาพร้อม 1 ห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว และห้องครัวแบบปิด รวมถึงห้องน้ำแบบ Powder Room สำหรับให้โซน Living Area และ Dining Area ได้ใช้งาน นอกจากนั้นยังมีห้องพักแม่บ้านแยกโซนอยู่อย่างเป็นสัดส่วน

ชั้น 2 มีระยะพื้นถึงฝ้าสูง 2.8 ม. ปูพื้นด้วยกระเบื้องยาง SPC ลายไม้ มี 3 ห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัว โดยบริเวณโถงบันไดจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้เลือกใช้งานได้ตามต้องการ

หน้าบ้านสามารถจอดรถในร่มใต้ชายคาได้ถึง 4 คัน เชื่อมต่อกับเฉลียงหน้าบ้าน ให้ลงจากรถแล้วเข้าบ้านได้สะดวก ไม่โดนแดดโดนฝน

เฉลียงหน้าประตูทางเข้าหลักมีความกว้างขวาง เชื่อมต่อไปถึงฝั่งข้างบ้าน สามารถจัดต้นไม้กระถาง หรือใช้เป็นมุมนั่งพักผ่อนแบบ Semi Outdoor ได้

บริเวณลานจอดรถจะมีจุดติดตั้ง EV Charger และห้องเก็บของ พร้อมด้วยประตูทางเข้ารองซึ่งติด Digital Door Lock เมื่อเปิดเข้าไปจะเจอกับ Foyer ซึ่งเชื่อมต่อกับ ห้องน้ำ, Dining Area และครัว 

ทางเข้าหลักของบ้านจะเป็นประตูไม้สักแบบเปิด 2 บานขนาดใหญ่

เมื่อเข้ามาจะเจอกับโถงทางเดิน ทางขวามือคือ Grand Living Area ส่วนตรงเข้าไปคือพื้นที่อเนกประสงค์

มองจากในบ้านย้อนออกมาทางประตู จะเห็นว่าบริเวณโถงนั้นอยู่ติดกับบันได และมีฝ้าเพดานสูงขึ้นไปถึงชั้น 2 แบบ Double Volume ขนาดใหญ่ ได้ความโอ่โถงเมื่อเข้ามาในบ้าน

จากบนโถงชั้น 2 มองลงมาที่โถงชั้น 1 หน้าประตูทางเข้าหลักของบ้าน จะเห็นถึงความปลอดโปร่ง

โซน Grand Living Area มีพื้นที่ให้จัดชุดโซฟารับแขก 4 - 6 ที่นั่งได้อย่างลงตัว มีความสว่าง ให้ความรู้สึกสบายสดชื่น ด้วยช่องแสงทั้งจากหน้าต่างฝั่งหน้าบ้าน และประตูฝั่งข้างบ้าน ซึ่งจะเปิดออกไปยังเฉลียง

ผนังฝั่งที่วางอาร์มแชร์ 2 ตัวในภาพ สามารถปรับเป็นจุดติดตั้งทีวีและตู้โชว์ได้

ถัดจากโซน Grand Living Area เดินเข้าไปในบ้านจะเป็นมุมพักผ่อนอเนกประสงค์ ซึ่งเชื่อมต่อกับ Dining Area

มุมอเนกประสงค์สามารถจัดเป็น Living Area ได้อีกจุด หรือใช้ตั้งเปียโนก็ดูลงตัวกับสไตล์บ้าน

มุมบ้านฝั่งที่มีผนังอยู่ติดกับ Living Area และพื้นที่อเนกประสงค์ จะเป็นห้องนอนของชั้นล่าง

เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับทางเดิน ที่รองรับการวางตู้เสื้อผ้า จากนั้นจะเจอกับประตูห้องน้ำ

ห้องนอนนี้จะมีห้องน้ำในตัว มาพร้อมชุดสุขภัณฑ์ครบครัน 

ถัดเข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่วางเตียงขนาดใหญ่ ขนาบด้วยหน้าต่างบานใหญ่ทั้งฝั่งสวนหน้าบ้านและสวนหลังบ้าน เพิ่มความปลอดโปร่ง และสามารถถ่ายเทอากาศได้ดี รองรับเตียงได้ถึง 6 ฟุต โดยบ้านตัวอย่างวางเตียง 3 ฟุต 2 ตัวคู่กันให้ดูเป็นไอเดีย

ย้อนออกมาตรงกลางบ้าน จะเป็น Dining Area พื้นที่กว้างขวาง รองรับโต๊ะอาหารขนาด 8 - 10 ที่นั่งได้แบบสบายๆ

ติดกับ Dining Area จะมีมุมสำหรับทำเป็น Pantry ไว้ใช้เตรียมอาหารเบาๆ หรือชงเครื่องดื่มนั่งจิบกันชิลๆ

ตรงข้ามกับ Dining Area ทางฝั่งหน้าบ้านจะมี Foyer ที่เชื่อมต่อเข้ามาจากลานจอดรถ โดยบ้านตัวอย่างบิลต์อินที่นั่งใส่รองเท้า ชั้นวางของ และตู้เก็บรองเท้า ให้เราได้เห็นไปไอเดียในการตกแต่ง

ติดกับ Foyer จะมีห้องน้ำแบบ Powder Room (ไม่มีที่อาบน้ำ) ให้ใช้งานได้สะดวก ทันทีที่กลับถึงบ้านสามารถเข้ามาล้างมือเพื่อสุขอนามัยที่ดี รวมถึงเป็นห้องน้ำให้แขกได้ใช้งานอย่างเป็นสัดส่วน ไม่รบกวนพื้นที่ส่วนตัวของสมาชิกครอบครัว

ถัดจากมุม Pantry จะเป็นห้องครัวแบบปิดซึ่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่ รองรับการทำเคาน์เตอร์ครัวแบบ U Shape ให้ใช้สอยประโยชน์ได้จุใจ เหนืออ่างล้างจานมีหน้าต่างเพื่อระบายความชื้นและกลิ่นอาหาร

ออกจากครัวมาฝั่งข้างบ้านจะเป็นพื้นที่ Maid Plaza ซักล้างซึ่งออกแบบให้อยู่ในร่ม โดยจะมีห้องพักแม่บ้านและห้องน้ำให้แม่บ้านได้ใช้งานอย่างเป็นสัดส่วน

กลับเข้ามากลางบ้าน ตรงข้ามกับ Dining Area คือบันไดขึ้นชั้น 2 โดยข้างๆ บ้านไดจะมีห้องเก็บของอยู่ 1 จุด โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปูขั้นบันไดด้วยไม้ยางพาราประสาน เดินขึ้นลงได้แบบเต็มเท้า ไม่ต้องห่วงเรื่องเสียงรบกวน

โถงบันไดมีความสว่าง โปร่งโล่ง ด้วยแสงธรรมชาติจากหน้าต่างบานใหญ่

เมื่อขึ้นมาถึงชั้น 2 จะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์ อยู่ข้างโถงทางเดินที่เชื่อมไปยังห้องนอนต่างๆ

พื้นที่อเนกประสงค์สามารถใช้เป็นทั้งมุมนั่งทำงานหรือ Living Area ย่อมๆ ได้อีกจุด โดยถัดไปตามทางเดินฝั่งนี้จะเจอกับห้อง Master Bedroom เป็นห้องแรก

Master Bedroom มีขนาดใหญ่ พื้นที่กว้างขวางเป็นพิเศษ นอกจากวางเตียงคิงไซส์แล้วยังรองรับการจัดมุมนั่งเล่นส่วนตัวได้อีกด้วย

สามารถวางเตียง 6 ฟุต ได้โดยยังเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะข้างเตียง ขนาบได้ทั้ง 2 ฝั่ง

ด้วยความกว้างของ Master Bedroom จึงสามารถแบ่งพื้นที่เป็น Walk in Closet ได้ถึง 2 ห้องเลย

ห้องแรก ตกแต่งเป็นชั้นวางกระเป๋าและเครื่องประดับ โดยมีโต๊ะเครื่องแป้งกับกระจกเงาอยู่ตรงกลาง

อีกห้องจะเป็นตู้เสื้อผ้าแบบจัดเต็ม สามารถเก็บเสื้อผ้าได้อย่างจุใจ โดยเมื่อตรงไปจนสุดทางแล้วเลี้ยวซ้าย จะเจอกับประตูทางเข้าห้องน้ำ

ห้องน้ำ Master Bedroom มาพร้อมอ่างอาบน้ำและอ่างล้างหน้า 2 จุด (His & Her) พร้อมด้วยกระจกเงาบานกว้างพิเศษ

นอกจากนั้นยังมี Shower Box และห้องสุขา กั้นพื้นที่เป็นสัดส่วนด้วยฉากกระจกนิรภัย

Master Bedroom จะมีประตูออกมายังระเบียงหน้าบ้าน ที่กว้างเชื่อมต่อมาถึงฝั่งโถงบันได

ราวระเบียงใช้วัสดุเป็นกระจกนิรภัย ตกแต่ง Facade ด้วยระเเนงอลูมิเนียมลายไม้ เข้ากับสไตล์ Modern Tropical

อีกฝั่งของโถงทางเดิน จะเป็นห้องนอน 2 - 3 และห้องอเนกประสงค์ซึ่งอยู่ฝั่งขวาของภาพ

ภายในห้องอเนกประสงค์จะมีหน้าต่าง 1 จุด สามารถเลือกใช้เป็นห้องเก็บของ หรือมุมสะสมของที่ระลึกด้านบนได้

ถัดจากห้องอเนกประสงค์ จะเป็นห้องนอน 3 ซึ่งอยู่ริมฝั่งหลังบ้าน เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับมุมที่ทำชั้นวางของได้ และประตูทางเข้าห้องน้ำ

ห้องน้ำมีฟังก์ชันครบครัน พร้อมฉากกั้นอาบน้ำเช่นเดียวกับอีก 2 ห้องก่อนหน้านี้

พื้นที่ของห้องนอน 3 เหมาะกับการวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดี โดยยังมีมุมให้จัดโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มได้

นอกจากนั้นยังสามารถวางตู้เสื้อผ้าไซส์ใหญ่ 4 ประตูได้อีกด้วย

ห้องนอน 2 จะมีประตูอยู่ตรงข้ามกับห้องอเนกประสงค์ โดยห้องนี้จะหันหน้าต่างไปทางฝั่งหน้าบ้าน มีพื้นที่กว้าง รองรับเตียงขนาด 6 ฟุต พร้อมมุมสำหรับวางโต๊ะทำงาน

ในห้องจะมีมุมรองรับการทำเป็น Walk in Closet ขนาดตู้เสื้อผ้า 4 ประตู พร้อมมุมสำหรับโต๊ะเครื่องแป้ง โดยจะอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องน้ำ

ห้องน้ำในห้องนอนทุกห้องมีฟังก์ชันเหมือนกัน ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย

นี่คือรีวิวบ้านเดี่ยวแบบ D’Lycka พื้นที่ใช้สอย 351 ตร.ม. ฟังก์ชันลงตัวกับครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิก 5 - 6 คน

Bliss 243 ตร.ม.

บ้านหลังต่อมาที่เราจะรีวิวให้ชมกันคือบ้านเดี่ยว ‘Bliss’ บ้านเดี่ยวไซส์ M ของโครงการ ซึ่งปลูกบนแปลงที่ดินขนาดเริ่มต้น 62 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 243 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ

ชั้น 1 ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิโต้ มีระยะพื้นถึงฝ้าสูง 2.7 ม. มี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำแบบแบ่งส่วนเปียก และ 1 ห้องครัว พร้อมพื้นที่ Living Area เชื่อมต่อกับ Dining Area

ชั้น 2 ปูพื้นด้วยกระเบื้องยาง SPC ลายไม้ มีระยะพื้นถึงฝ้าสูง 2.8 ม. แบ่งเป็น 3 ห้องนอน พร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง และมีพื้นที่อเนกประสงค์ข้างโถงบันไดอีก 1 จุด

หน้าบ้านสามารถจอดรถใต้ชายคาได้ 3 คัน มีจุดรองรับการติดตั้งอุปกรณ์ EV Charger และทางเดินในร่มเชื่อมไปยังประตูเข้าบ้าน

เฉลียงหน้าประตูบ้านมีความกว้างขวาง ประตูทางเข้าเป็นบานไม้สัก พร้อม Digital Door Lock และมีหน้าต่างบานใหญ่เชื่อมต่อกับมุม Living Area

เมื่อเข้ามาจะเจอกับ Foyer ที่เหมาะกับการวางเก้าอีกใส่รองเท้า ตู้โชว์ และเคาน์เตอร์วางของเวลาเข้าออกบ้าน

ทางเดินของ Foyer มีความกว้างกำลังดี พื้นที่มีความสว่างจากช่องแสงที่มีพร้อมบานประตู

ผนังของ Foyer คือผนังเดียงกับ Living Area โดยพื้นที่พักผ่อนจะรองรับชุดโซฟา 3 - 4 ที่นั่ง มีบรรยากาศที่ปลอดโปร่งด้วยช่องแสงจากหน้าต่างถึง 2 ฝั่ง

Living Area ฝั่งหน้าบ้านจะเชื่อมต่อกับมุมพักผ่อนที่อยู่ฝั่งหลังบ้าน สามารถจัดชุดโซฟาได้เพิ่มเติม หรือจะปรับเป็นมุมทำงาน ทำการบ้าน เล่นดนตรี หรือออกกำลังกาย ได้ตามไลฟ์สไตล์

ถัดจากมุมอเนกประสงค์มาตรงกลางบ้าน (จุดที่อยู่ตรงกับ Foyer) จะเป็นมุมทานอาหาร ซึ่งรองรับโต๊ะขนาด 8 - 10 ที่นั่งเลยทีเดียว แต่บ้านตัวอย่างวางเคาน์เตอร์ Island เพิ่มเข้ามา จึงเหลือ 6 ที่นั่ง

ถัดจาก Dining Area ไปทางปีกอีกฝั่งของบ้าน จะเจอกับห้องครัว

ห้องครัวเป็นแบบปิด กั้นห้องด้วยประตูบานเลื่อน โดยมีหน้าต่างกระจกเข้ามุมให้มาด้วย เพื่อสร้างความโปร่งและเชื่อมต่อกันทางสายตา

ห้องครัวสามารถบิลต์อินเคาน์เตอร์แบบ I Shape ขนานกันได้ 2 ฝั่ง ใช้ฟังก์ชันทำอาหารได้เต็มที่ โดยจะมีหน้าต่าง 2 จุด ช่วยระบายกลิ่นและความชื้นได้ดี

ออกจากห้องครัวมาจะเจอกับพื้นที่ซักล้างในร่ม

พื้นที่สวนของบ้านสามารถเดินได้โดยรอบ ตามประตูหน้าต่างแต่ละบานจะมีสัญญาณกันขโมยติดตั้ง

ตรงข้ามกับห้องครัว (ถัดจาก Foyer ทางเข้าบ้าน) จะมี 1 ห้องน้ำให้ใช้งาน โดยเป็นห้องที่ออกแบบให้รองรับการใช้งานของผู้สูงวัย ก่อที่นั่งอาบน้ำไว้ให้ พร้อมกับติดฉากกั้นอาบน้ำเพื่อแบ่งส่วนเปียกกับส่วนแห้ง

ถัดจากห้องน้ำและห้องครัว จะเจอกับห้องนอนชั้นล่างซึ่งอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ส่วนตรงกลางโถงทางเดินจะเป็นบันไดขึ้นชั้นบน ที่มีห้องเก็บของอยู่ข้างๆ

ห้องนอนชั้นล่างมีพื้นที่ใหญ่กำลังพอดี รองรับเตียงนอน 3.5 - 5 ฟุตได้ มีความปลอดโปร่งด้วยช่องแสงจากหน้าต่างถึง 2 มุม

พื้นที่ห้องรองรับโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ 5 ประตู

บันไดมีโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ขั้นบันไดเป็นไม้ยางพาราประสาน โถงบันไดสว่างโล่ง ด้วยช่องแสงจากหน้าต่างบานใหญ่

เมื่อขึ้นมาถึงชั้น 2 จะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์ ที่บ้านตัวอย่างกั้นประตูกระจกบานเลื่อนไว้ให้ดูเป็นไอเดีย โดยมุมนี้จะมีระเบียงเปิดออกไปฝั่งข้างบ้านด้วย

พื้นที่ของห้องสามารถจัดเป็นได้ทั้งมุมพักผ่อน มินิโฮมเธียร์เตอร์ รวมถึงห้องทำงานหรือทำการบ้าน

จากบันได จะเป็นโถงทางเดินยาวตรงไปห้องนอนต่างๆ โดย Master Bedroom จะอยู่ตรงข้ามกับพื้นที่อเนกประสงค์

Master Bedroom เป็นห้องหน้ากว้าง วางเตียงใหญ่ 6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างทั้ง 2 ฝั่ง รวมถึงโซฟาเล็ก และชั้นวางทีวี ได้แบบสบายๆ ดูไม่อึดอัดเลยแม้แต่น้อย

อีกฝั่งของห้อง (ข้างประตูห้อง) จะเป็นพื้นที่สำหรับฟังก์ชัน Walk in Closet โดยบ้านตัวอย่างได้ติดประตูกั้นห้องไว้ให้ดูเป็นแนวทางสำหรับคนที่ชอบความเป็นสัดส่วน

ห้องแต่งตัวรองรับการบิลต์อินตู้เสื้อผ้าแบบ L Shape พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง หรือจะทำตูเสื้อผ้าแบบ U Shape ล้อมไว้เลยก็ยังได้

ภายในพื้นที่ Walk in Closet จะมีประตูทางเข้าห้องน้ำส่วนตัว โดยห้องน้ำมีสุขภัณฑ์ฟังก์ชันครบครัน พร้อมกับติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้ด้วย

ห้องนอน Master Bedroom จะมีประตูออกมายังระเบียงฝั่งหน้าบ้าน

ระเบียงมีความกว้าง ราวกันตกเป็นกระจกนิรภัย และตกแต่ง Facade ด้วยระแนงลายไม้

ถัดจาก Master Bedroom มาตามทางเดิน จะเจอกับห้องนอน 2 ที่มีขนาดใหญ่รองลงมา สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ พร้อมพื้นที่สำหรับโต๊ะข้างเตียง และโต๊ะทำงานหรือชั้นวางทีวี

ผนังข้างประตูห้องน้ำเหมาะกับการวางตู้เสื้อผ้าขนาดประมาณ 3 ประตู

ห้องน้ำมีฟังก์ชันครบครันเช่นเดียวกับ 2 ห้องก่อนหน้านี้ ติดฉากกั้นอาบน้ำมาด้วย

ห้องนอน 3 จะอยู่ฝั่งหลังบ้าน ตรงข้ามกับห้องนอน 2 เมื่อเข้ามาในห้อง ทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นมุมสำหรับ โต๊ะ ตู้เสื้อผ้า และทางเดินไปยังห้องน้ำส่วนตัว

ห้องน้ำในห้องนอน 3 เป็นอีกห้องที่มีฟังก์ชันครบครัน แบ่งพื้นที่โซนเปียกได้เป็นสัดส่วน

พื้นที่ฝั่งพักผ่อน สามารถวางเตียงได้ตั้งแต่ 3 - 5 ฟุต ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย

นี่คือรีวืวบ้านเดี่ยวแบบ Bliss พื้นที่ใช้สอย 243 ตร.ม. ฟังก์ชันโดยรวมเหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง ที่มีสมาชิกประมาณ 4 - 5 คน

Location

รีวิวโครงการกันไปแล้ว เรามาพูดถึงเรื่องของทำเลกันบ้างนะครับ บ้านนินญา ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ใน ซ.โยธาธิการ นนทบุรี 2023 มีทางเข้าออกเชื่อมกับ ถ.ราชพฤกษ์ ระหว่าง ถ.รัตนาธิเบศร์ กับ ถ.ชัยพฤกษ์ โดยจากซอยโครงการสามารถทะลุออกไปที่ซอยก่อนถึงกลุ่มศูนย์การค้าริมถนนราชพฤกษ์ในระยะทางประมาณ 2 กม.จากตัวโครงการ จึงไม่ต้องไปอ้อมกลับรถให้เสียเวลา อีกทั้งยังทะลุออก ถ.ท่าอิฐ - ไทรม้า เพื่อเชื่อมต่อกับ ถ.รัตนาธิเบศร์ ซึ่งมีรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ ได้อีกด้วย

ตัวอย่างการเดินทางในรีวิวนี้ เรามาจาก ถ.งามวงศ์วาน มุ่งหน้าไปทางบางบัวทอง โดยใช้เส้นทาง ถ.รัตนาธิเบศร์ เลียบไปตามทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง

มุ่งหน้าข้ามสะพานพระนั่งเกล้า ตามป้าย บางบัวทอง กาญจนาภิเษก

ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยสะพานพระนั่งเกล้า

เมื่อลงจากสะพาน ให้สังเกตป้าย ถ.ราชพฤกษ์ ไทรม้า - ท่าอิฐ

เมื่อถึงแยกต่างระดับบางรักน้อย ให้เบี่ยงซ้ายตามป้าย ถ.ชัยพฤกษ์ เพื่อขึ้นสะพานข้ามไปยังฝั่ง ถ.ราชพฤกษ์

เมื่อลงสะพานมาจะอยู่บน ถ.ราชพฤกษ์ และสังเกตเห็นป้ายโฆษณาโครงการ บ้านนินญา โดดเด่น

เมื่อเริ่มสังเกตเห็นกลุ่มศูนย์การค้า Chic Republic, Lotus’s North, Index Living Mall และ HomePro ให้เตรียมเบี่ยงซ้ายเพื่อขึ้นสะพานกลับรถก่อนจะเลยไปถึง ถ.ชัยพฤกษ์

เมื่อลงจากสะพานกลับรถ ให้อยู่บนทางคู่ขนาน ถ.ราชพฤกษ์ ขับผ่าน HomePro, Lotus’s จนถึง Chic Republic ให้เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้า ซ.โยธาธิการ 2023 สังเกตได้ด้วยซุ้มวัดใหญ่สว่างอารมณ์ ที่อยู่ปากซอย

เมื่อเลี้ยวเข้าซอยจะเห็นป้ายขอกทางไปโครงการ บ้านินญา ราชพฤกษ์ โดยฝั่งขวามือจะเป็นร้านย่างเนย ส่วนฝั่งซ้ายจะมีทางเข้า Chic Republic โซน Villa Market

ตลอดทางใน ซ.โยธาธิการ นนทบุรี 2023 จะมีป้ายบอกทางไปโครงการติดอยู่เป็นระยะ

เดินทางจากปากซอยราว 800 ม. ก็จะมาถึงทางเข้าโครงการ บ้านนินญา ราชพฤกษ์ โดยมีป้ายชื่อโครงการให้เห็นอย่างชัดเจน

อย่างที่ได้เล่าไประหว่างการเดินทาง ใกล้กับโครงการจะมีศูนย์การค้าตั้งอยู่หลายแห่ง โดย Chic Republic จะอยู่ปากทางเข้าโครงการเลย ซึ่งในซอยก็จะมีอีกประตูที่เข้าศูนย์การค้าได้ ทำให้เวลาเดินทางจากบ้าน ไม่ต้องออกไปอ้อมกลับรถไกล เช่นกันกับ HomePro, Index, Lotus’s North ราชพฤกษ์ และ รร.นานาชาติเด่นหล้า ที่ก็มีซอยทะลุไปออก ถ.ราชพฤกษ์ ช่วงก่อนถึงสถานที่เหล่านี้ได้

ปลายปี 2565 ที่ผ่านมา ใกล้กับโครงการเพิ่งมีศูนย์การค้าเปิดใหม่อีก 2 แห่ง รองรับการเติบโตของทำเลราชพฤกษ์ตอนบน นั่นก็คือ Lotus’s North ราชพฤกษ์ และ Robinson Lifestyle ราชพฤกษ์

ส่วนด้านของการศึกษา ครอบครัวที่มีสมาชิกวัยเรียน ก็สามารถส่งเด็กๆ ไปเรียนที่สถาบันชื่อดังที่อยู่ไม่ไกลบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็น รร.นานาชาติเด่นหล้า (DBS), รร.นานาชาติสิงคโปร์ (SISB) นนทบุรี รวมถึง รร.นนทบุรีวิทยาลัย

ส่วนเรื่องการดูแลสุขภาพ ไม่ไกลจากโครงการก็มีสถานพยาบาลหลายแห่ง พร้อมให้บริการตลอด 24 ชม. ไม่ว่าจะเป็น  รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์, รพ.พระนั่งเกล้า หรือ รพ.เกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล บางใหญ่

Price & Promotion

บ้านนินญา ราชพฤกษ์ มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 9.5 - 20 ล้านบาท* โดยแบ่งราคาตามแบบบ้านได้ดังนี้

บ้านเดี่ยว Appeased 203 ตร.ม. เริ่ม 9.5 ล้านบาท*

บ้านเดี่ยว Bliss 243 ตร.ม. เริ่ม 13 ล้านบาท*

บ้านเดี่ยว Cheerful 270 ตร.ม. เริ่ม 15 ล้านบาท*

บ้านเดี่ยว D’Lycka 351 ตร.ม. เริ่ม 18 ล้านบาท*

*ราคา ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2566 โปรดสอบถามโครงการอีกครั้ง

 

Conclusion

บทสรุปรีวิว บ้านนินญา ราชพฤกษ์ ในมุมมองของแอดมินที่ได้ไปสัมผัสโครงการจริงมาด้วยตัวเอง สามารถสรุปเป็นหัวข้อได้ดังนี้