มิวนีค สุขุมวิท 23 (MUNIQ Sukhumvit 23) LIVE AS ART ศิลปะแห่งการใช้ชีวิต ทำเลใจกลางอโศก

Project Highlight : มิวนีค สุขุมวิท 23

- ทำเลใจกลางอโศก
ที่ตั้งโครงการอยู่ใจกลาง CBD อโศก ซึ่งเป็นศูนย์กลางย่านธุรกิจการค้าเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ โรงแรมหรู ร้านอาหารชั้นดี รวมถึงมีสถานศึกษาชั้นนำขนาดใหญ่อยู่ในทำเล จึงมีความเจริญ และสะดวกสบายพร้อมรอบด้าน ถือว่าเป็นทำเลที่มีมูลค่าสูงเหมาะสำหรับการซื้อเพื่อลงทุนในระยะยาว รวมถึงเก็บเป็นทรัพย์สินเพิ่มมูลค่าสำหรับผู้ที่ต้องการคอนโดมิเนียมทำเลใจกลางเมืองเพื่ออยู่อาศัยทดแทนบ้าน ถึงพ่อแม่ผู้ปกครองที่มองหาคอนโดมิเนียมใกล้สถานศึกษาสำหรับบุตรหลาน

- ใกล้ทั้ง BTS และ MRT ที่แยกอโศก
ที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้แยกอโศกมนตรีซึ่งเป็นอินเตอร์เชนจ์รถไฟฟ้าที่สำคัญของกรุงเทพโดยมีทั้ง BTS สายสีเขียว และ MRT สายสีน้ำเงินที่สามารถเชื่อมต่อเปลี่ยนเส้นทางได้สะดวก โดยจากโครงการห่างจาก MRT สถานีสุขุมวิท 200 เมตร โดยสามารถเดินผ่านอาคาร Interchange 21 ได้

- ไลฟ์สไตล์กินอยู่สะดวกสบาย
ทำเลอโศกมีจุดเด่นเรื่องร้านอาหารชั้นนำหลายแห่ง รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งอย่าง Terminal 21 ที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 300 เมตรเท่านั้น นอกจากนี้ทำเลสุขุมวิท 23 ยังมีทางลัดเชื่อมต่อไปยังแหล่งไลฟ์สไตล์เด่น ๆ ของโซนนี้ทั้งโซนพร้อมพงษ์ ดิ เอ็มควอเทียร์ ดิ เอ็มโพเรียม สุขุมวิท 49 ทองหล่อได้ด้วยเช่นกัน

- ส่วนกลางลอยฟ้าชั้น 35 - 36 เป็นส่วนตัวรับวิวเมือง
งานออกแบบโครงการเน้นความเป็นส่วนตัวอย่างดี ด้วยการจัดให้ Main Facility ของโครงการไปอยู่ที่ชั้น 35 และ 36 โดยออกแบบเป็นสระว่ายน้ำในร่มที่สามารถใช้งานได้เกือบทั้งวัน ฟิตเนส Social Lounge รวมถึง Panorama Lounge สำหรับรับวิวเมืองมุมกว้างได้

- สเปคห้องดีออกแบบยูนิตแปลนเป็นสัดส่วน 
ห้องพักอาศัยออกแบบแปลนเน้นการใช้สอยที่เป็นส่วนตัวเพื่อรองรับการอยู่อาศัยเป็นครอบครัว พื้นที่ใช้สอยให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ชุดครัวbuilt-in ที่มาพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก Gorenje ห้องน้ำขนาดใหญ่พร้อมเคาน์เตอร์ยาวให้วางของได้อย่างเต็มที่และ built-in ใต้เคาน์เตอร์ ห้องพักอาศัยเลือกใช้วัสดุอย่างดีเช่น พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ริ่ง สุขภัณฑ์จากแบรนด์ Kohler อ่างอาบน้ำจาก Kasch รวมถึงช่องเปิดที่สูงเต็มความสูงของฝ้าเพดานที่ 2.7 เมตร กระจกทำให้ภายในห้องดูสวยงาม และโปร่งโล่ง

Facilities

โครงการ MUNIQ สุขุมวิท 23 เป็นคอนโดมิเนียม Hi-Rise สูง 36 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มียูนิตพักอาศัยทั้งหมด 201 ยูนิต พัฒนาบนที่ดินขนาด 1-1-35 ไร่ โดยโครงการจะออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางเน้นการใช้สอยพักผ่อนได้อย่างเป็นส่วนตัว โดยจัดให้ Main Facilities ไปอยู่ชั้นสูงที่สุด เพื่อให้ลูกบ้านของโครงการได้ใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้ความเป็นส่วนตัว รับวิวเมืองมุมสูงที่สวยงาม

เริ่มจากชั้น 1 กันก่อน ด้านหน้าโครงการเป็นส่วนของสวนพักผ่อน (Secret Garden) ไว้ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดูสงบน่าพักผ่อนทันทีที่ก้าวเข้าสู่โครงการ

สวนด้านหน้าโครงการใช้ชื่อว่า Secret Garden ซึ่งภายในสวนนี้จะออกแบบเป็นพื้นที่พักผ่อน ทันทีที่ก้าวเข้ามาภายในโครงการก็จะพบความสงบเและมีทางเดินที่เชื่อมไปยังทางเข้าตัวอาคารพักอาศัย

การออกแบบชั้นพักอาศัยของโครงการถือว่าให้ความเป็นส่วนตัวที่ดี โดยเลือกออกแบบชั้นที่ 1 ไว้ได้แก่ Main Lobby ที่เป็นทั้งเป็นที่นั่งพักผ่อนของลูกบ้าน เป็นที่รับรองแขกที่มาหา ซึ่งเป็นส่วนใช้งานแบบ Public ไว้ที่ชั้นล่าง Mailroom และ Smartlocker และมีประตูระบบ Keycard ที่โถงลิฟท์เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย

ทางเข้าอาคารใช้เฟรมประตูหน้าต่างสีทอง และเส้นสายแนวตั้งและแนวนอนตามคอนเซป โดยพื้นที่ส่วน Lobby นี้จะเป็นโถงเพดานสูง และใช้ผนังกระจกให้สูงจนถึงฝ้าเพดาน

Mailroom จะมีขนาดไม่ใหญ่มากเพราะโครงการมีเพียง 201 ยูนิตครับ โดยมุมนี้เพิ่มโคมไฟระย้าสร้างความรู้สึกที่ไม่ธรรมดาเข้าไปครับ

สำหรับที่จอดรถของโครงการนี้จะเป็นที่จอดรถแบบ Automatic Parking และแบบ Conventional ที่ชั้น B1 และ B2 สามารถรองรับรถยนต์ได้รวม 82% ของจำนวนที่พักอาศัย

สำหรับ Main Facilities มีทั้งหมด 2 ชั้น โดยจัดไว้ที่ชั้น 35 และ 36 เริ่มจากชั้นที่ 35 ที่ออกแบบเป็นสระว่ายน้ำในร่มที่แบ่งโซนสระเด็ก-ผู้ใหญ่ โดยสระว่ายน้ำจะหันรับวิวทางทิศตะวันออกซึ่งข้อดีคือได้วิวที่โปร่งโล่ง และรับแสงแดดช่วงเช้าส่วนช่วงบ่ายจะได้ร่มเงาจากตัวอาคาร นอกจากนี้ภายในชั้น 35 ยังมี Jacuzzi ที่แยกเป็นส่วนตัว Sky Terrace พื้นกระจก และซาวน่าแยกชาย-หญิงให้บริการด้วย

สระว่ายน้ำของโครงการจะออกแบบให้รับวิวฝั่งทิศเหนือ-ตะวันออก ทำให้พื้นที่ส่วนนี้จะรับแดดไม่แรงมาก สามารถออกมาใช้พักผ่อนได้ตั้งแต่ช่วงเช้าจนเย็น

มุม Jacuzzi จะอยู่แยกออกไปกลางแจ้ง โดยมุมนี้จะสามารถใช้แช่น้ำเพลิน ๆช่วงบ่าย-เย็นชมวิวเมืองได้เป็นส่วนตัวมากทีเดียว

สำหรับชั้นที่ 35 จะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิง โดยภายในห้องจะมี Locker แบบกด Pin Code ให้

ชั้นที่ 36 จะยกเอาห้องฟิตเนสมาไว้ที่ชั้นนี้ รวมถึงมี Social Lounge และ Exclusive Theater Room และมีทางเดินเชื่อมไปยัง Panorama Lounge ที่ชั้น Rooftop ได้

ห้องฟิตเนสของของโครงการออกแบบให้หันรับวิวเมืองมุมกว้าง โดยมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ครบครัน 

ด้านระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการก็จัดเตรียมไว้อย่างแน่นหนาทีเดียว โดยที่ทางเข้าโครงการจะมี Guard House เพื่อเป็นจุดคัดกรองคนเข้าออกโครงการ สำหรับการเข้าออกตัวอาคาร โถงลิฟท์ และสั่งการลิฟท์โดยสารใช้ระบบ Keycard และที่ประตูห้องพักอาศัยจะมี Digital Door Lock ติดตั้งให้ทุกห้อง

Room Type 

ด้านยูนิตพักอาศัยของโครงการ MUNIQ Sukhumvit 23 จะมียูนิตให้เลือกหลายขนาดโดยมีแบบห้องหลัก ๆ ให้เลือกดังนี้ครับ 
• 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 34.74 - 43.46 ตารางเมตร
• 2 หองนอน พื้นที่ใช้สอย 54.68 - 99.27 ตารางเมตร

ยูนิตพิเศษ The Collection
• Simplex, Duplex. Triplex ขนาด 2+1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 83.22 - 191.11 ตารางเมตร

สำหรับยูนิตที่เราจะพาไปรีวิวจะเป็นแบบ 2 ห้องนอน แบบ C2L พื้นที่ใช้สอย 63.42 ตารางเมตร และ C3 พื้นที่ใช้สอย 69.39 ตารางเมตร

Product : 1

แบบ C2L ขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 63.42 ตารางเมตร

Floor Plan

การจัดแปลนห้องของแบบ C2L เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาจะพบกับส่วนนั่งเล่น ครัวเปิดเป็นอันดับแรก โดยพื้นที่ส่วนนี้จะใช้เป็น Common Area รองรับการใช้งานพักผ่อนร่วมกันของครอบครัว โดยมีทางเดินเชื่อมสู่ห้องนอนทั้ง 2 ห้อง โดยจัดเรียง Master Bedroom ไว้ด้านในสุดเพื่อให้ได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยมากที่สุดภายในห้องจะมีทั้ง Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนที่ 2 อยู่ใกล้กับ Living Area และใช้งานห้องน้ำร่วมกับ Living Area ด้านนอก

เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาจะพบกับส่วน Living Area ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งตรงนี้ทางโครงการได้ออกแบบให้ประตูทางเข้าห้องสามารถมองตรงผ่านประตูบานเลื่อนเปิดสู่ระเบียงทำให้สามารถรับวิวเมืองของอโศกได้ทันทีที่เปิดเข้าสู่ห้อง

ทางซ้ายมือของห้องจะเป็นส่วนครัวเปิดที่ซึ่งโครงการจะให้ชุดครัวแบบ Custom made ทรง U Shape มาพร้อมกับห้องด้วย ซึ่งจุดเด่นของชุดครัวที่ได้มาคือมีบิวท์อินซ่อนตู้เย็นไว้เป็นระเบียบสวยงาม ตู้เก็บของแขวนผนังที่เก็บของได้เยอะทีเดียว รวมถึงพื้นที่บนเคาน์เตอร์ให้สามารถใช้งานต่าง ๆ รวมถึงวางของใช้ต่าง ๆ ได้สะดวก

ส่วนนั่งเล่นของห้องสามารถใช้โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง และเว้นระยะห่างถึงโทรทัศน์ให้สามารถรับชมโทรทัศน์จอใหญ่ได้ โดยส่วนนั่งเล่นนี้ออกแบบได้ความโปร่งโล่งจากช่องเปิดขนาดใหญ่ที่สูงจนถึงฝ้าเพดาน

สำหรับส่วนระเบียงห้องจะแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นตำแหน่งแขวนคอนเดนซิ่งยูนิตเครื่องปรับอากาศที่หันเป่าออกด้านนอกอาคาร โดยจะมีกริลเหล็กสีดำช่วยพรางสายตาให้ดูเรียบร้อยสวยงาม ทำให้พื้นที่ระเบียงส่วนที่เหลือสามารถใช้พักผ่อนออกมารับลมชมวิวได้

ถัดจาก Living Area จะเป็นทางเดินที่เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ Powder Room ที่ใช้ร่วมกันกับห้องนอนที่ 2 และ Master Bedroom อยู่ด้านในสุดของห้อง

เราจะเริ่มที่ห้องน้ำใช้ร่วมกันก่อนครับ ห้องนี้เมื่อเปิดประตูเข้าไปทางขวามือจะเป็นอ่างล้างมือแบบฝังลงเคาน์เตอร์ ด้านล่างมีตู้เก็บ และชั้นเก็บของ ที่ผนังติดกระจกเงาซ่อนไฟส่องสว่างไว้ด้านล่าง พื้นที่ส่วนถัดไปเป็นพื้นที่อาบน้ำพร้อมฉากกั้นเป็นกระจกนิรภัย

พื้นที่อาบน้ำกรุผนังด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน ที่ผนังทำช่องเป็นชั้นวางของเล็ก ๆ พวกสบู่ ยาสระผม ส่วนชุดฝักบัวเป็นแบบมีก้านปรับระดับ และติด Rain Shower ที่ฝ้าเพดานด้านบน

สำหรับ Master Bedroom จะออกแบบให้ประตูทางเข้าห้องอยู่ตรงกับช่องแสงฝั่งหัวเตียง ซึ่งทำให้เรารู้สึกว่าบรรยากาศมุมต่าง ๆ ภายในห้องนี้มีความโปร่งโล่งดีทีเดียว

เมื่อเดินเข้ามาภายใน Master Bedroom จะจัดให้ Walk-in Closet และห้องน้ำอยู่ฝั่งซ้ายมือ ซึ่งโครงการจะให้ตู้เสื้อผ้าซึ่งสามารถใช้เก็บเสื้อผ้าของใช้ต่าง ๆ ได้เยอะพอสมควรมาพร้อมกับห้องมาตรฐานด้วยครับ

ส่วนห้องน้ำใน Master Bedroom จะจัดอ่างล้างมือแบบฝังลงเคาน์เตอร์ไว้ทางขวามือ ด้านบนเป็นกระจกเงา ส่วนใต้อ่างเป็นตู้เก็บของ และระบบน้ำร้อนครับ

ด้านซ้ายมือของห้องเป็นโถสุขภัณฑ์ Wall Hung แบบถังพักน้ำฝังผนัง บนผนังมีที่วางของ ราวแขวนผ้าเช็ดตัว สายชำระพร้อมที่แขวนติดให้

ถัดมาเป็นส่วนพื้นที่อาบน้ำ ซึ่งโครงการจะมีทั้งอาบแบบ Shower มีฝักบัวพร้อมก้านปรับระดับ ที่วางของ และ Rain Shower ติดตั้งมาพร้อมกับห้อง อีกส่วนจะเป็นอ่างอาบน้ำ

อ่างอาบน้ำของโครงการใช้แบรนด์ Kasch ขนาดกำลังพอดีลงแช่น้ำได้สบาย ๆ ครับ ส่วนอ่างนี้จะอยู่ติดกับช่องแสงภายในห้องน้ำ ซึ่งเราสามารถติดฟิล์มฝ้าเพื่อช่วยพรางสายตาสร้างความเป็นส่วนตัว และไม่ทำให้ห้องน้ำดูมืดลงด้วยครับ

มาดูส่วนห้องนอนกันครับ พื้นที่ในห้องนี้ถือว่ากว้างขวางดีทีเดียว โดยจะได้หน้าต่างที่สูงถึงฝ้าเพดาน 2 ฝั่ง ทำให้ห้องนี้ดูโปร่งมากทีเดียว สามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุต รวมถึงโต๊ะข้างเตียงได้สบาย ๆ ครับ

พื้นที่ข้างเตียงมุมนี้จะมีพื้นที่เหลือสามารถจัดเป็นมุมนั่งทำงานริมหน้าต่างรับวิวเพลิน ๆ หรือจะแต่งเป็นมุมนั่งเล่นชิลล์ ๆ ริมหน้าต่างก็ได้ครับ

อีกฝั่งโครงการจะดันผนังให้ถอยเข้าไป โดยมุมนี้ในห้องมาตรฐานเราจะได้โต๊ะเครื่องแป้งมาพร้อมกับห้องด้วยครับ

มาต่อที่ห้องนอน 2 ครับ ตำแหน่งของห้องนี้จะอยู่ถัดจากส่วน Living Area มาเล็กน้อย

ภายในห้องนอนที่ 2 มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางกำลังดีครับ สามารถใช้เตียงนอนได้ตั้งแต่ 3-4 ฟุต ตำแหน่งการวางเตียงนอนจะดันเข้าไปชิดกับผนังฝั่งด้านนอกเพื่อให้มีช่องทางเดินด้านข้างเตียงนอนสามารถใช้งานส่วนอื่น ๆ ได้สะดวก

ด้านข้างเตียงนอนจะเป็นตู้เสื้อผ้า ซึ่งโครงการจะให้เป็นตู้บานเปิดลักษณะหน้าตาเหมือนกับในห้องตัวอย่างครับ

Product : 2

 มาต่อกันที่แบบ C3 ขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 69.39 ตารางเมตรกันครับ

Floor Plan

ลักษณะแปลนของยูนิต C3 จะมีความแตกต่างจากแบบ C2L พอสมควรครับ โดยยูนิตนี้จะจัด Living Area ให้มีความกว้างมากยิ่งขึ้นทำให้สามารถจัดแปลนเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลายยิ่งขึ้น โดย Living Area นี้จะเป็นส่วนพักผ่อนที่เชื่อมต่อไปยังห้องนอนทั้ง 2 ห้องที่วางคู่กันด้านในของห้อง โดย Master Bedroom จะวางเตียงหันหาหน้าต่างห้องเพื่อรับวิวเมือง และมีห้องน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำในตัว ส่วนห้องนอนที่ 2 จะวางเตียงหันตามแนวกว้างของห้องครับ

สำหรับยูนิตแบบ C3 เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับโถงต้อนรับเล็ก ๆ ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับครัวเปิด และตู้สำหรับตู้เย็นบิวท์อิน และเครื่องซักผ้า

ส่วน Living Area ของห้องนี้จะจัดรวมเอาทั้งส่วนนั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร และครัวเปิดไว้ในพื้นที่ส่วนเดียวกัน ทำให้พื้นที่ Living Area มีขนาดกว้างขวางดีครับ

มองย้อนกลับไปดูการจัดวางส่วนใช้สอยระหว่างครัวเปิด และส่วนรับประทานอาหารที่วางตำแหน่งให้อยู่ใกล้กันเพื่อให้สามารถใช้งานระหว่าง 2 ส่วนนี้สะดวกสบายมากที่สุด

ส่วนนั่งเล่นจะอยู่ถัดไปทางด้านช่องเปิดของห้อง โครงการตกแต่งโดยใช้โซฟาสำหรับ 2 ที่นั่ง และโต๊ะ Coffee Table ขนาดเล็กเพื่อวางแก้วกาแฟ รีโมทโทรทัศน์ได้สะดวก

ระเบียงห้องมีขนาดกว้างขวางดีเช่นกันครับสามารถออกมาพักผ่อนรับลมได้สบาย ๆ โดยพื้นที่ระเบียงจะแบ่งส่วนหนึ่งเป็นจุดแขวนคอนเดนซิ่งยูนิตเครื่องปรับอากาศโดยติดกริลเป็นเหล็กสีดำไว้ให้เรียบร้อย

ไปดูห้องนอนทั้ง 2 ห้องกันครับ ตำแหน่งของห้องนอนจะอยู่ถัดจาก Living Area มาเล็กน้อย โดย Master Bedroom จะเป็นประตูทางซ้ายมือ ส่วนห้องนอนที่ 2 จะอยู่ด้านขวามือของภาพครับ

เปิดประตูเข้ามาใน Master Bedroom จะเจอกับห้องน้ำที่อยู่ทางซ้ายมือก่อน และจะมีทางเดินต่อไปยังส่วนของห้องนอนที่อยู่ด้านใน การออกแบบลักษณะนี้จะช่วยแยกให้ส่วนเตียงนอนซึ่งเป็นพื้นที่พักผ่อนที่ต้องการความสงบเงียบเป็นส่วนตัวได้อยู่ห่างจาก Living Area มากที่สุดเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างไม่รบกวนกัน

ห้องน้ำในตัว Master Bedroom จัดอ่างล้างมือแบบฝังลงเคาน์เตอร์ผนังทางขวามือ โดยมีกระจกเงาติดผนัง และตู้เก็บซ่อนระบบน้ำร้อนอยู่ใต้อ่าง

ฝั่งซ้ายมือเป็นโถสุขภัณฑ์แบบถังพักฝังเข้ากับผนัง พร้อมสายชำระ ที่วางของ และราวแขวนผ้า

ถัดมาด้านในสุดของห้องจะเป็นพื้นที่อาบน้ำซึ่งมีทั้งส่วนอาบน้ำแบบ Shower และอ่างอาบน้ำ

ส่วนของ Shower จะมีฝักบัวพร้อมก้านปรับระดับ Rain Shower ที่ติดจากฝ้าเพดาน

ส่วนอ่างอาบน้ำจะอยู่ด้านในสุดขนาดของอ่างก็สามาถลงแช่ได้สบาย ๆ ครับไม่ต้องนอนชันขาแต่อย่างใดนะครับ โดยตรงนี้จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งติดตั้งให้เพื่อถ่ายเทอากาศ ซึ่งเราสามารถหาฟิล์มฝ้ามาติดเพื่อพรางสายตาเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้โดยไม่ต้องติดม่าน

ออกจากห้องน้ำมาตามทางเดินจะเข้าสู่ส่วนเตียงนอนของห้องนี้ โดยลักษณะการวางเตียงนอนจะหันปลายเตียงออกไปทางหน้าต่างของห้องครับ

หน้าต่างของห้องที่จัดมาเป็นหน้าต่างเข้ามุมแบบ Full Heigh ทำให้ได้มุมมองที่เปิดกว้างดูสวยงามทีเดียวครับ

ตู้เสื้อผ้าที่โครงการให้มาก็มีขนาดกำลังดีครับ สามารถเก็บเสื้อผ้า และของใช้ต่าง ๆ ได้พอสมควร

มาต่อกันที่ห้องนอนที่ 2 ครับ ตำแหน่งของห้องนี้จะอยู่ใกล้กับห้องน้ำใช้ร่วมกัน เพื่อให้ห้องนอนทึ่ 2 สามารถใช้งานห้องน้ำได้สะดวกสบายแม้จะไม่มีห้องน้ำในตัว

สำหรับห้องน้ำใช้ร่วมกันจะวางอ่างล้างมือ กระจกเงาติดผนัง และตู้เก็บของไว้ตรงกับประตูห้องน้ำ โดยจัดโถสุขภัณฑ์ไว้ที่ผนังด้านข้างประตูครับ

สำหรับชุดฝักบัวที่โครงการให้จะเป็นแบบพร้อมก้านปรับระดับ และมี Rain Shower ติดตั้งให้จากฝ้าเพดาน

สำหรับห้องนอนที่ 2 เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเห็นว่าโครงการออกแบบส่วนเตียงนอนให้อยู่ห่างจาก Living Area เช่นเดียวกันครับ จากมุมนี้จะเห็นว่ามีผนังห้องส่วนหนึ่งช่วยบังส่วนเตียงนอนเอาไว้ช่วยให้การพักผ่อนมีความเป็นส่วนตัวดีครับ

ส่วนเตียงนอนของห้องนี้ให้พื้นที่มากว้างพอสมควรครับ สามารถจัดเตียงนอนขนาด 5 ฟุตไว้ในห้องได้สบาย ๆ และยังดูโปร่งด้วยหน้าต่างสูงเต็มบานแบบ Full Heigh

อีกฝั่งข้างเตียงนอนจะเป็นตู้เสื้อผ้าที่โครงการจะให้มาพร้อมกับห้องมาตรฐานด้วยเช่นกัน ขนาดของตู้นี้ก็สามารถเก็บเสื้อผ้า และของใช้ได้พอสมควรครับ

Location : มิวนีค สุขุมวิท 23 

โครงการ MUNIQ Sukhumvit 23 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 23 ที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจากถนนสุขุมวิทประมาณ 227 เมตร สามารถเดินไป MRT สถานีสุขุมวิท และเชื่อมสู่ BTS สถานีอโศกได้ในระยะทาง 200 เมตร ใกล้สถานศึกษาขนาดใหญ่ ออฟฟิศ และศูนย์การค้าชั้นนำ

ซอยสุขุมวิท 23 เป็นซอยที่อยู่ขนานไปกับสุขุมวิท 21 หรือถนนอโศกมนตรี ที่เป็น CBD ของกรุงเทพมีความเจริญรอบด้านเป็นแหล่งรวมอาคารสำนักงาน เป็นที่ตั้งของบริษัทขนาดใหญ่ทั้งของไทย และต่างประเทศที่สุดคึกคัก และพร้อมทั้งไลฟ์สไตล์สีสันรอบด้าน

จุดเด่นของทำเลสุขุมวิท 23 คือเป็นทำเลที่อยู่ติดความเจริญพร้อมของ CBD อโศก แต่ภายในซอยกลับให้บรรยากาศการอยู่อาศัยที่สบาย ๆ ด้วยสองข้างทางมีต้นไม้ใหญ่ตลอดแนวเส้นทาง และสามารถใช้เป็นเส้นทางลัดเลี่ยงการจราจรที่คับคั่งบนถนนอโศก-สุขุมวิท ไปสู่ถนนเพชรบุรี ลัดไปทองหล่อหรือพร้อมพงษ์ได้ไปสู่มีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟแหล่งพักผ่อนต่าง ๆ ที่พร้อม จนเป็นเสน่ห์ที่หาไม่ได้จากทำเลอื่น

 

โดยสิ่งอำนวยความสะดวกหลัก ๆ ของทำเลนี้จะมีทั้งศูนย์การค้า Terminal 21 ที่แยกอโศก ศูนย์การค้า Midtown Asoke หรือถ้าถัดไปทางพร้อมพงษ์ก็มี Emquatier และ Emporium ทำให้ภาพของสุขุมวิท 23 กลายเป็นทำเลที่เชื่อมต่อระหว่างชีวิตทำงาน และการพักผ่อนหย่อนใจของสุขุมวิท รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เช่นร้านอาหารต่าง ๆ ที่มีให้อยู่มากมายทั้งในถนนอโศกมนตรี และในสุขุมวิท 23 เองก็มีอยู่หลายร้านทีเดียว และหากใช้ถนนเส้นทางลัดไปยังสุขุมวิทซอยอื่น ๆ เช่น สุขุมวิท 33, 35, 39 รวมถึงไปยังทองหล่อ ก็จะได้แหล่งร้านอาหารชั้นดีอีกนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะร้านอาหารสไตล์ญีปุ่น เพราะโซนนี้ก็เป็นโซนที่ชาวญี่ปุ่นนิยมเลือกอยู่อาศัยด้วยเช่นกัน

และนอกจากนี้ในซอยสุขุมวิท 23 ยังมีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เป็นสถานศึกษาขนาดใหญ่ และยังอยู่ใกล้กับสถานพยาบาลชั้นนำอย่าง โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โรงพยาบาลพระรามเก้า โรงพยาบาลกรุงเทพ

การเดินทาง

การเดินทางจากโครงการ Muniq Sukhumvit 23 ถือว่าสะดวกสบายทั้งผู้ที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว และรถสาธารณะ โดยจากโครงการสามารถเดินเท้าไปยัง MRT สุขุมวิทได้ในระยะทางเพียง 200 เมตร ผ่านทางเชื่อมของอาคาร Interchange 21 โดยสามารถเดินต่อไปยัง BTS อโศกได้เช่นกัน ทำให้การเดินทางของทำเลนี้สะดวก มีตัวเลือกการเดินทางให้เหมาะกับช่วงเวลาต่าง ๆ ได้มากทีเดียว 
สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็จะใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วน 2 แห่งได้แก่ ด่านเก็บเงินสุขุมวิท และทางด่วนศรีรัชที่ด่านเก็บเงินอโศก 2 ทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์ไปยังพื้นที่โซนต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ นับว่ามีความสะดวกสบายทีเดียวครับ

Price & Promotion

โครงการ MUNIQ Sukhumvit 23 ตอนนี้สร้างเสร็จพร้อมโอนแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีห้องเปิดขายอยู่ทุกแบบคละกันไปครับ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 8.8 ล้านบาท

Conclusion

สำหรับโครงการ MUNIQ Sukhumvit 23 ก็นับเป็นคอนโดมิเนียมที่น่าสนใจมาก ๆ อีกแห่งหนึ่งของทำเลอโศกครับ ซึ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหาการลงทุนในคอนโดมิเนียมทำเล CBD ที่นับวันราคายิ่งเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงผู้ที่มองหาซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือซื้อให้บุตรหลานอยู่อาศัยช่วงเรียนหนังสือก็นับว่าเป็นคอนโดมิเนียมที่เหมาะทีเดียว ซึ่งเรารวบรวมข้อสรุปของโครงการนี้ได้ดังนี้ครับ

• Location
เรื่องทำเลที่ตั้งแม้จะไม่อยู่บนถนนสุขุมวิท 21 แต่ก็เป็นซอยที่อยู่ถัดมาซึ่งจะได้จุดเด่นคือบรรยากาศในซอยที่ไม่พลุกพล่าน ร่มรื่น มีต้นไม้ใหญ่สามารถเดินได้สะดวก อาหารการกินสะดวกสบายสามารถเดินไปยังใจกลางย่านสำนักงานของทำเลอโศกได้เลยครับอย่างอาคาร GMM ก็ห่างไปแค่ประมาณ 600 เมตรเองครับ นอกจากนี้ยังใกล้รถไฟฟ้า 2 สายทำให้การเดินทางด้วยรถสาธารณะถือว่าสะดวกสบายมากทีเดียว และยังมีเส้นทางลัดไปยังซอยอื่น ๆ เช่นสุขุมวิท 33, 35, หรือไปยังทองหล่อก็ได้เช่นกัน ซึ่งถ้าใครที่ยังไม้คุ้นชินกับทำเลถ้าลองหาวันว่าง ๆ หรือช่วงวันหยุดขับรถเซอร์เวย์ตามซอยเส้นทางลัดดูอาจจะรู้ว่าตามเส้นทางลัดนี่ล่ะเป็นขุมทรัพย์เรื่องอาหารการกินของสุขุมวิทจริง ๆ

• Facility
สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการมีจุดเด่นเรื่องความเป็นส่วนตัวในการใช้สอยมากทีเดียว แต่ละส่วนออกแบบพื้นที่เน้นการใช้สอยที่สะดวกสบาย เช่น Lobby ขนาดใหญ่ที่ชั้นล่างของอาคารเพื่อใช้เป็นส่วนพักผ่อน รวมถึงรับแขกได้โดยไม่กระทบความเป็นส่วนตัวของส่วนกลางอื่น ๆ สระว่ายน้ำในร่มที่เลือกหันเปิดวิวทิศตะวันออกที่ได้วิวโปร่งโล่งเจอแดดเช้า ทำให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ชีวิตประจำวันคนเมืองสามารถมาพักผ่อนว่ายน้ำช่วงบ่าย-เย็นได้ รวมถึงยังจัดสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ได้น่าสนใจเช่น ฟิตเนสที่หันรับวิวเมืองฝั่งตะวันตก Panoramic Lounge รับวิวเมืองมุมกว้าง