รีวิวบ้านเดี่ยวหรู โครงการ Mulberry Grove The Forestias Villas “บ้านคลัสเตอร์” สำหรับทุกเจเนอเรชั่น

ตัวโครงการเป็นส่วนหนึ่งของ The Forestias โครงการเมืองสไตล์ Mixed Use ขนาด 398 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม. 7 เป็นโครงการเอกชนขนาดใหญ่ที่สุดที่ออกแบบทุกมิติเพื่อส่งเสริมการสุขภาพที่ดีและความสุขที่มากขึ้น ที่มีทั้งป่าขนาดใหญ่พื้นที่ 30 ไร่บริเวณใจกลางโครงการ พร้อมทางเดินยกระดับที่ทอดยาวทะลุผืนป่ายาว 1.6 กิโลเมตร ,โครงการที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบ, พื้นที่สำหรับกิจกรรมไลฟ์สไตล์และการพักผ่อนของครอบครัว, ร้านค้าปลีก, ร้านอาหารและเครื่องดื่ม, พื้นที่ Town Center สำหรับกิจกรรมชุมชนและกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ, Family Center, ตลาด สปอร์ตคอมเพล็กซ์ และพื้นที่เชิงธุรกิจสำหรับสำนักงาน เป็นทั้งโครงการในอนาคตและบางส่วนสร้างเสร็จแล้ว ทั้งหมดนี้ทาง MQDC ตั้งใจออกแบบให้เป็นเมืองที่สามารถใช้ชีวิตได้ครบทุกมิติ โดยไม่ต้องออกไปข้างนอกเมือง The Forestias นี้เลย

Factsheet

ชื่อโครงการ :	โครงการ มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า
บริษัท :	บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
ที่ตั้งโครงการ :	ถนนบางนา-ตราด กม.7 ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
รายละเอียดโครงการ :	บ้านเดี่ยว 3-4 ชั้น บ้านคลัสเตอร์ สไตล์วิลล่า
พื้นที่โครงการ :	ประมาณ  26-0-77.75 ไร่
พื้นที่ใช้สอย :	1203 - 1724 ตร.ม.
พื้นที่ :	140 - 225 ตร.ว.
จำนวน :	37 ยูนิต
แบบบ้าน :	บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ROSEBERRY พื้นที่ใช้สอย 1,203 ตร.ม. พื้นที่ดินเริ่มต้น 140 ตร.วา ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องคนขับรถ พร้อมลิฟต์โดยสาร จำนวน 11 ยูนิต
	บ้านเดี่ยว 3 ชั้น VISIONBERRY พื้นที่ใช้สอย 1,246 ตร.ม. พื้นที่ดินเริ่มต้น 165 ตร.วา ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องคนขับรถ พร้อมลิฟต์โดยสารและสระว่ายน้ำ จำนวน 20 ยูนิต
	บ้านเดี่ยว 4 ชั้น LEGENDBERRY พื้นที่ใช้สอย 1,724 ตร.ม. พื้นที่ดินเริ่มต้น 225 ตร.วา ฟังก์ชัน 6 ห้องนอน 9 ห้องน้ำ 6 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องคนขับรถ พร้อมลิฟต์โดยสารและสระว่ายน้ำ จำนวน 6 ยูนิต
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ :	Mulberry Reserve Club, The Play Room (Kids Room), The Studio (Exercise Area), Yoga Room, Stream And Sauna, Swimming Pool
นวัตกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้าน :	ระบบการทำไอความเย็นที่พื้น Floor Radiant Cooling /  ติดมุ้งลวดเพื่อป้องกันยุงและแมลงสำหรับทุกช่องเปิด / ติดตั้งระบบ Sprinkler ในทุกห้องนอน / ไฟฟ้า 3 เฟส รองรับการชาร์ EV-Charger ทุกแบบ / Solar Roof / Tesla แบตเตอรี่สำรองไฟภายในตัวบ้าน / Home Lift ของ CIBES / ลิฟต์ส่งอาหาร
ระบบรักษาความปลอดภัย :	CCTV / ระบบการจัดการของโครงการที่รัดกุม
ราคาเริ่มต้น :	เริ่มต้น 185-310 ล้านบาท*  (ราคา ณ เดือน ธันวาคม 2565)
ค่าส่วนกลาง :	200 บาท/ตร.ว./เดือน
โทร :	1265
เว็บไซต์ :	https://mqdc.com/th/our-business/discover-project/mulberrygrove/forestias/villas

Highlight

Mulberry Grove The Forestias Villas โครงการขนาด 26 ไร่เศษ เป็นส่วนรวมของ “บ้านคลัสเตอร์” แนวคิดใหม่สำหรับครอบครัวใหญ่รองรับทุกเจเนอเรชั่น  หรือ INTERGENERATION บ้านเดี่ยวจำนวนเพียง 37 ยูนิต โดยมีทั้งพื้นที่ของครอบครัวที่อยู่รวมกันได้ และความเป็นส่วนตัวในพื้นที่ส่วนตัว แต่ก็ยังสามารถมองเห็นกันได้ผ่านมุมมองภายในบ้าน ที่ผ่านการคิดแบะออกแบบโดย Foster+Partners ที่ประยุกต์เอาสถาปัตยกรรมไทย เช่น การจัดกลุ่มของเรือนไทย ชานกลางบ้าน ใต้ถุน มาใช้การออกแบบ Space ภายในบ้าน รวมถึงทางโครงการได้เลือกสรรวัสดุและนวัตกรรมสุด Premium เพื่อการอยู่อาศัยนำมาใช้ในบ้านและโครงการ นอกจากเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยแล้ว การเลือกวัสดุทั้งหมดยังมองถึงเรื่องสุขภาพในทุก ๆ ด้านในระยะยาวแบบยั่งยืนด้วย ทั้งระบบการทำไอความเย็นที่พื้น Floor Radiant Cooling, ติดมุ้งลวดเพื่อป้องกันยุงและแมลงสำหรับทุกช่องเปิด, ติดตั้งระบบ Sprinkler ในทุกห้องนอน, ไฟฟ้า 3 เฟส รองรับการชาร์ EV-Charger ทุกแบบ, Solar Roof, Tesla แบตเตอรี่สำรองไฟภายในตัวบ้าน, Home Lift ของ CIBES, ลิฟต์ส่งอาหาร และอีกหลายอย่างภายในบ้าน

ในโครงการมี Facility และ Security ที่มีนวัตกรรมและการจัดการแบบรัดกุมแบบ Exclusive ที่รองรับ Lifestyle ของคนทุกช่วงวัยที่ตอบรับกับ Concept โครงการที่ประกอบไปด้วย Mulberry Reserve Club, The Play Room (Kids Room), The Studio (Exercise Area), Yoga Room, Stream And Sauna, Swimming Pool นอกจากนี้ตัวโครงการยังตั้งอยู่ในโครงการ The Forestias เมือง Mixed-Use สำหรับทุกช่วงวัยที่มี Lifestyle หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกมิติในการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ขนาด 398 ไร่ นี้

บนถนนบางนา-ตราด กม. 7 เป็นที่ตั้งของตัวโครงการนี้ ซึ่งเป็นถนนที่เป็นที่ตั้งของทางด่วนอย่าง ทางพิเศษบูรพาวิถี ที่เชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพ ฉะเชิงเทรา และชลบุรี นอกจากนี้ยังไม่ไกลตัวเมืองกรุงเทพช่วงบางนา หรือ CBD อย่างถนนสุขุมวิท ที่มีรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สามารถเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ ที่เปิดทำการแล้ว กำลังก่อสร้าง และมีแผนในอนนาคตอีกหลายสาย อีกทั้งใกล้เคียงห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ตอบรับกับทุก Lifestyle ทีหหลากหลายในปัจจุบัน

Facility

โครงการ Mulberry Grove The Forestias Villas เป็นกลุ่มอาคารของบ้านพักอาศัยขนาดใหญ่ที่เป็นส่วนหนึ่งของเมือง Mixed Use ขนาด 398 ไร่ ในชื่อ The Forestias ประกอบด้วยองค์ประกอบรวมหลายประเภท ทั้งพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ หรือ “ป่า” ขนาด 30 ไร่ อยู่กลางโครงการในชื่อ Forest at The Forestias ที่มี Canopy Walk ทางเดินยกระดับที่ทอดยาวทะลุผืนป่ายาว 1.6 กิโลเมตรอยู่ภายใน, โครงการที่อยู่อาศัยหลากรายรูปแบบ เช่น Whizdom Condominiums, Mulberry Grove Condominiums, Sixth Senses Residences, Sixth Senses The Forestias, The Aspen Tree Residences, พื้นที่สำหรับกิจกรรมไลฟ์สไตล์และการพักผ่อนของครอบครัว, ร้านค้าปลีก, ร้านอาหารและเครื่องดื่ม, พื้นที่ Town Center สำหรับกิจกรรมชุมชนและกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ, Family Center, ตลาด สปอร์ตคอมเพล็กซ์ และพื้นที่เชิงธุรกิจสำหรับสำนักงาน เป็นทั้งโครงการในอนาคตและบางส่วนสร้างเสร็จแล้ว

ถนนเข้าโครงการเป็นถนนที่ใช้ร่วมกันภายในโครงการ The Forestias นี้ ระบบรักษาความปลอดภัยค่อนข้างเข้มงวด โดยระยะทางรวมตั้งแต่ถนนบางนา-ตราด กม.7 ไปจนถึงตัวโครงการมีระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร

ระหว่างทางผ่านกลุ่มต้นไม่ใหญ่และไม้พุ่มตามความตั้งใจของโครงการ ดูร่มรื่นมาก

มีรปภ. ประสานงานตลอดทางตั้งแต่ด้านหน้าที่สอบถามทะเบียนรถที่ต้องแจ้งไว้ล่วงหน้าถ้าจะมาชมโครงการ ไปจนถึงตัวโครงการ Mulberry Grove The Forestias Villas เอง ที่จะมี รปภ. คอยต้อนรับและมีรถกอล์ฟมารับเพื่อเข้าไปในตัวโครงการ ทางโค้งก่อนเข้าไปในตัวโครงการจะเห็นตัวบ้านผ่านต้นไม้สูง

ตัวโครงการจะมี Facility หลัก ๆ คือ Main Gate, Clubhouse และ พื้นที่สีเขียวในโครงการ โอบล้อมด้วยบ้านคลัสเตอร์ทั้ง 37 หลัง Clubhouse ตั้งอยู่ใกล้ทางเข้าโครงการ ประกอบด้วย Mulberry Reserve Club, The Play Room (Kids Room), The Studio (Exercise Area), Yoga Room, Stream And Sauna, Swimming Pool ภายใน และสวนที่มีทางเดินเชื่อมโดยรอบ Clubhouse ของโครงการ

Main Gate ทางเข้าโครงการ มีป้อม รปภ. กลมกลืนไปกับตัวซุ้มทางเข้า และมีประตูบานเลื่อนไม้ รักษาความปลอดภัยด้วยกล้อง CCTV มองไปด้านในเป็นถนนหลักของโครงการ เห็น Clubhouse โดดเด่นด้วยรูปทรง ขนาด และวัสดุ อยู่ที่สุดปลายทาง

อาคาร Clubhouse ออกแบบโดดเด่นด้วยรูปทรงสามเหลี่ยมมีเอกลักษณ์ พร้อมวัสดุสีน้ำตาลทองแดง และองค์ประกอบเป็นลักษณะของหลังคาโครงสร้างไม้แบบไทย วัสดุมุงสื่อออกมาให้คล้ายหลังคากระเบื้องว่าวดินเผาของบ้านไทยสมัยก่อน มีองค์ประกอบคล้ายประตูบานสูงความรู้สึกและสัดส่วนคล้ายประตูของบ้านไทยซึ่งเป็นแผงบังตากึ่งทึบกึ่งโปร่ง ที่เหมาะกับการมาใช้ในพื้นที่ส่วนกลาง ทางเข้าจะอยู่ตรงกลางของส่วนนี้ เข้าไปยัง Mulberry Reserve Club หรือ ชั้นที่ 2 ของ Clubhouse

ทางด้านข้างอาคาร Clubhouse มีทางเดินไปยังสวนของโครงการ รูปแบบเป็นพื้นวัสดุไม้ สีดัดกับเขียวของต้นไม้ รูปแบบทางเดินกลมกลืนกับตัวอาคาร เป็นเรื่องราวเดียวกัน

ทางด้านหลังของ Clubhouse มุมมองจากสวนของโครงการ เห็นน้ำและพื้นที่สีเขียวรอบ ๆ สวนและ Clubhouse

มุมมองทางด้านหลัง Clubhouse ส่วนสระว่ายน้ำ และระเบียงชั้นที่ 2 พอจะมองเห็นฟังก์ชันภายในบ้างคร่าว ๆ

ทางเดินรอบสวนอีกข้าง เชื่อมกับทางเดินของ Clubhouse และสามารถเดินไปถึงด้านหน้าได้

Mulberry Reserve Club หรือมีลักษณะเหมือน Lobby สำหรับตอนรับในส่วนนี้ มีที่นั่งหลายจุด รูปแบบดูสบายตา ฝ้าเพดานทรงโค้งวัสดุไม้ทำออกมาเป็นรูปแบบคล้ายระแนงโครงสร้างหลังคาดูมีมิติและน่าสนใจมาก

มุมมองเปิดโล่งจากทั้ง 4 ด้านฝ้าเพดานสูง ส่วนองค์ประกอบสีขาวขนาดใหญ่ดูล้ำยุครูปทรงมน เป็นส่วนของเครื่องปรับอากาศ ลิฟต์โดยสาร และห้องน้ำสำหรับ Handicap ด้านในใช้ระบบสัมผัสในการเปิด-ปิดและล็อค เป็นฟังก์ชันที่คิดมาเพื่อทุกคนที่เข้ามาใช้โครงการนี้

มุมมองจากระเบียงชั้นที่ 2 มองเห็นสระว่ายน้ำและพื้นที่สีเขียวของโครงการ

ลงมาชั้นที่ 1 ของ Clubhouse ได้หลายช่องทาง ทั้งบันได และลิฟต์โดยสาร

มีส่วนต้อนรับและเป็นโถงจ่ายไปยัง The Play Room (Kids Room), The Studio (Exercise Area), Yoga Room, Stream And Sauna และ Swimming Pool

ทางเดินไปยัง The Play Room (Kids Room), The Studio (Exercise Area) และ Yoga Room

The Studio หรือ Exercise Area มุมมองออกไปเห็นสระว่ายน้ำและ Terrace ห้องนี้เชื่อมกับอีก 2 ฟังก์ชัน คือ The Play Room (Kids Room) และ Yoga Room พื้นวัสดุไม้ ฝ้าเพดานระแนงไม้ เครื่องออกกำลังกายภายในห้องนี้ใช้ยี่ห้อ Techno Gym เป็นเครื่องออกกำลังกายยี่ห้อที่มีชื่อเสียง ทนทาน ใช้ในฟิตเนสชื่อดังหลายแห่ง ประกอบด้วยลู่วิ่ง จักรยานแบบนั่งปั่น เครื่องวิ่งวงรี รูปแบบสวยงาม ดูล้ำ ทุกเครื่องมีจอแสดงผลและเข้าแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เพื่อความบันเทิงระหว่างใช้เครื่องได้  ทางด้านขวาเป็น Machine สำหรับบริหารกล้ามเนื้อ อีกด้านเป็นชุดดัมเบลพร้อม Lack วาง

มองไปทางขวาเป็น เครืองเล่นและทางเดินไปยัง Yoga Room

Yoga Room บรรยากาศและพื้นที่เปิดโล่ง มีอุปกรณ์สำหรับโยคะให้ส่วนหนึ่ง

อีกทางเป็นชุดดัมเบล ลู่วิ่ง และทางเดินไปยัง The Play Room

The Play Room หรือ Kids Room เป็นห้องสำหรับเด็ก มีอุปกรณ์ทรงกลมให้เข้าไปนั่งเล่น นอนเล่นได้ ดึงดูดเด็กได้ดีทั้งรูปทรง สีสัน

มีมุมเล็ก ๆ สำหรับของเล่นสำหรับเด็ก ๆ

ทางเดินด้านข้างผ่าน The Play Room ไปยังสระว่ายน้ำ

ทางเดินอีกด้านผ่าน Yoga Room ไปยังสระว่ายน้ำ

Terrace ของสระว่ายน้ำ มี Daybed และที่นั่งพักนั่งคอย

มุมมองจากสระว่ายน้ำเห็นบรรยากาศสวนของโครงการ สระว่ายว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ มีแยกสระเด็ก

Design & Function

การออกแบบบ้านในโครงการ Mulberry Grove The Forestias Villas เริ่มต้นที่แนวคิดที่อยากให้คนทุกเจเนอเรชั่นอยู่ร่วมกันได้แบบที่ยังมีพื้นที่ส่วนตัวแต่ก็ยังเชื่อมต่อกันอยู่แบบมีความสุข หรือ ‘INTERGENERATION’ Bonding Creates True Happiness For All ในรูปแบบของ FAMILY CONNECTION ที่ออกแบบตัวบ้านให้ส่งเสริมความสัมพันธ์ของสมาชิกในบ้านโดยใช้ศูนย์กลางของบ้าน (Social Heart) ที่สามารถปรับพื้นที่ให้เชื่อมต่อและมองเห็น (Visual Linkage) กันได้ แต่ยังรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ส่วนตัวตาม Lifestyle ที่หลากหลายของแต่ละคนไว้

เพื่อที่จะสร้าง ‘MULTI-GENERATIONAL’ Living Community ทางโครงการจึงได้สร้างสรรค์แบบ “บ้านคลัสเตอร์” สไตล์วิลล่า สำหรับครอบครัวใหญ่ สำหรับสมาชิกหลากหลายเจเนอเรชั่น โดยใช้ THAI TRADITION หรือ นำภูมิปัญญาแบบสถาปัตยกรรมไทยมาประยุกต์ในด้าน Space และพื้นที่ใช้สอย รวมกับการออกแบบอาคารสมัยใหม่ องค์ประกอบแบบบ้านไทยที่นำมาใช้ เช่น ชานกลางบานที่มีต้นไม้ตรงกลาง เป็นโถงแยกเพื่อไปยังเรือนหลังต่าง ๆ, ใต้ถุนบ้าน, บันไดทางขึ้นตัวบ้านชั้นที่ 2, ซุ้มประตูทางเข้าบ้าน และอื่น ๆ อีกทั้งยังใช้วัสดุไม้และหินจริงเพื่อส่งเสริมการออกแบบในด้านต่าง ๆ

จุดเด่นอีกอย่างนึงของโครงการที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ วัสดุ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เลือกสรรมาอย่างดี ตอบรับการใช้ชีวิตของคนทุกช่วงวัยและหลากหลาย Lifestyle ในระยะสั้นและแบบยั่งยืน ทั้งในเรื่องความสะดวกสบาย อุ่นใจ ปลอดภัย และสุขภาพที่ดีแบบยั่งยืน ในกัวข้อต่าง ๆ  เช่น

FACADE DESIGN

ผนังอาคาร เพื่อความคงทนของอาคารในระยะยาวจึงห่อหุ้มอาดารด้วย Auminium เพื่อลดการซ่อมบำรุงที่อาจเกิดการแตกร้าวของผนัง  รวมถึงการ Fade ของสีเนื่องจากสภาพจากาศ และใช้ผนังทึบที่สามารถกันความร้อน และเสียงได้ตามมาตรฐาน LEED โดยผนังทึบจะประกอบด้วย ผนังก่ออิฐ / ฉนวนกันความร้อน (Rockwool) ที่หุ้มด้วยฟอยล์เนื่องจากเป็นฉนวนที่ไม่ติดไฟและไม่ก่อให้เกิด Toxic Smoke / แผ่นกันความชื้น (Vapor Barrier Sheet) / ช่องว่างของอากาศ เพื่อระบายความชื้น / ผนัง Aluminium ตกแต่ง โดยเลือกใช้ระบบสี PVDF ซึ่งมีความคงทนกว่าระบบอื่น

กระจกเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถมองเห็นวิวธรรมชาติได้มากที่สุด ดังนั้นผนังอาคารจะประกอบด้วยกระจกเป็นส่วนมาก ซึ่งโครงการเลือกใช้กระจกที่มีค่าความร้อนและเสียงตาม LEED Standard โดยกระจกส่วนกลางที่เป็นบานขนาดใหญ่จะใช้กระจก IGU (Insulated Glass Unit - กระจกฉนวนกันความร้อน) ที่ประกอบด้วยกระจก Low Iron + Low E จำนวน 2 แผ่นประกบกันโดยมี Air Gap และกระจก Heat Strengthen อีก 1 แผ่นอยู่ส่วน Interior รวมถึงใส่ ระบบ Thermal Break อีกด้วย (Thermal Break คือการใช้เส้นยางหรือวัสดุไม่เหนี่ยวนำความร้อนมาเป็นเส้นฉนวนหยุดการถ่ายทอดของอุณหภูมิระหว่างอลูมิเนียมชั้นในกับอลูมิเนียมชั้นนอก)

EASY MAINTENANCE ซ่อมแซมได้ง่าย

การซ่อมบำรุงที่ไม่รุกล้ำความเป็นส่วนตัว ออกแบบทางเดินสำหรับ Service บริเวณรอบบ้านทุกชั้น รวมถึง ติดตั้ง Hook สำหรับ Support เรื่องความปลอดภัยแก่ช่างที่ใช้งาน

SECURITY ด้านความปลอดภัย

• ติดมุ้งลวดเพื่อป้องกันยุงและแมลงสำหรับทุกช่องเปิดโดยควบคุมด้วย Remote control สำหรับมุ้งลวดขนาดใหญ่ มีเซนเซอร์ป้องกันตรายสำหรับเด็ก จะหยุดเลื่อนลงมาหากมีอะไรแปลกปลอม
• ติดตั้งระบบ Sprinkler ในทุกห้องนอน เพื่อความปลอดภัย แม้ว่ากฎหมายจะไม่ได้บังคับสำหรับบ้านพักอาศัย

SUSTAINABILITY ด้านควายั่งยืน

• ระบบการทำไอความเย็นที่พื้น (Floor Radiant Cooling) ผ่านทางท่อน้ำเย็น เพื่อสร้างไอความเย็นภายในบ้าน ทำอุณหภูมิภายในบ้านให้ลดลง โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา อยู่บริเวณโถงกลางบ้าน หรือ Family Room ถ้าลองเอามือสัมผัสอุณหภูมิจะต่างกับจุดอื่นแบบรู้สึกได้
• เครื่องปรับอากาศแบบระบบ ALL in one ที่ประกอบด้วยระบบทำความเย็น, ระบบควบคุมคุณภาพอากาศ (IAQ) และควบคุมความชื้น สำหรับเครื่องปรับอากาศภายในบ้านทั้งหมด

MQDC Standard ที่เป็นมาตรฐานของเจ้าของโครงการ

• เคาน์เตอร์ครัวทำจากวัสดุประเภท Food Grade สามารถสัมผัสกับอาหารได้โดยตรง ไม่มีสารอันตรายต่อร่างกาย มาตรฐาน NSF
• ตำแหน่งปลั๊กห่างจากหัวเตียง 45 ซม. เพื่อความปลอดภัยจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (EMFs) ในระหว่างการพักผ่อน
• ราวกันตกผลิตจากกระจกลามิเนตที่มีฟิล์มยึดกระจกไม่ให้ร่วงหล่นหากเกิดการแตก มีความหนา 10 มม. สูง 1.20 เมตร ไม่มีราวแนวขวางเพื่อความปลอดภัย และป้องกันเด็กปีนตกจากที่สูง
• แสงสว่างจากหลอดไฟอุณภูมิสี Warm White Light ทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่น ผ่อนคลาย รวมถึงสามารถควบคุมระดับแสงสว่างด้วยการปรับลดแสงให้เหมาะกับสายตาผ่านสวิตช์และ Home Intelligent System
• Smart Plug เพื่อความปลอดภัยในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าบางประเภทที่มีโอกาสเกิดอันตรายหากเสียบทิ้งไว้ (Pantry / Master Bedroom)
• ลดช่องว่างบริเวณเหนือฝ้าเพดาน รวมถึงช่องฝ้าปิดสนิทเพื่อลดการสะสมของฝุ่น และป้องกันสัตว์ที่ไม่พึงประสงค์เข้าไปอาศัย
• หลอดไฟ LED ที่มีประสิทธิภาพสูงจึงประหยัดพลังงานและมีอายุการใช้งานยาวนาน
• วัสดุที่มีสารระเหยง่ายในระดับต่ำ (Low-VOC) เช่น สี กาว ยาแนว วัสดุผิวพื้น และวัสดุไม้ เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ 

และอื่นๆ ของบ้านทุกหลัง

• ใช้ไฟฟ้า 3 เฟส รองรับการชาร์ EV-Charger ทุกแบบ อุปกรณ์ชาร์จทางโครงการไม่ได้เตรียมไว้ให้เนื่องจากรถไฟฟ้ามีหลากหลายรุ่น

• Solar Roof บนหลังคาบ้าน รับประกัน 25 ปี สามารถสำรองไฟ บนแบตเตอรี่สำรองได้
• Tesla แบตเตอรี่สำรองไฟ ภายในตัวบ้าน ขนาด 3.5 kw เก็บสำรองไฟฟ้าจาก Solar Roof สามารถสำรองไฟฟ้าได้นาน 3-6 ชม. กรณีไฟดับ ใช้เวลาชาร์จ 2 ชม. เต็ม รับประกัน 20 ปี
• ใช้สี PVDF ราคาแพง ทนทาน (การเคลือบ PVDF แตกต่างจาการเคลือบทั่วไป นอกจากสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมในต้านทานต่อการสึกหรอ ทนต่อแรงกระแทก และทนทานต่อสารละลายต่างๆ ทั้งกรดและเบส การเคลือบ PVDF ยังช่วยป้องกันการซีดจาง และป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตได้อย่างยาวนาน แม้ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย และเมื่อผ่านการอบอุณหภูมิสูง ชั้นเคลือบผิวยิ่งมีคุณสมบัติทนต่อสภาพอากาศที่เพิ่มมากขึ้น)
• Home Lift ยี่ห้อ CIBES จากสวีเดน รองรับได้ 5 คน น้ำหนัก 400 กิโลกรัม ขับเคลื่อนด้วยระบบสกรูด้วยเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยระบบสกรูทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย ตามมาตรฐานความปลอดภัยของ European Machinery Directive 2006/42/EC และสามารถออกแบบลิฟต์ได้ตามความต้องการ ใช้งานง่ายเหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย ประหยัดพลังงาน การบำรุงรักษาทำได้ง่าย

บ้านหลังแรกจะไปดูฟังก์ชันโดยรวมกันเป็นบ้านขนาดเล็กที่สุดของโครงการ บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ROSEBERRY พื้นที่ใช้สอย 1,203 ตร.ม. พื้นที่ดินเริ่มต้น 140 ตร.วา ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องคนขับรถ พร้อมลิฟต์โดยสาร มีจำนวน 11 ยูนิตในโครงการ บ้านหลังนี้มี 3 ชั้นและชั้นใต้ดิน 1 ชั้น เราจะเริ่มที่ชั้นใต้ดินก่อน

ชั้นใต้ดินของบ้านหรือชั้น B1 เป็นส่วนของชั้นที่จอดรถและงานระบบ มีทางลาดลงมาจากชั้นที่ 1 ยาวลงมา บริเวณนี้สามารถจอดรถได้ 4 คัน หรือมากกว่า ถ้าจอดในพื้นที่โล่งอื่น มีพื้นที่ล้างรถบริเวณพื้นที่โล่งทางด้านขวา ใกล้ที่จอดรถมีห้องงานระบบและห้องเก็บของ ด้านห้องเก็บของมีลิฟต์โดยสาร 1 ตัว และเป็นทางเดินและบันไดขึ้นไปชั้นที่ 1

ชั้นที่ 1 ด้านหน้าทางเข้า เป็นบันไดขึ้นไปชั้นที่ 2 หรือชั้นของเจ้าของบ้าน มีบันไดและทางลาดลงไปชั้นที่จอดรถ เข้ามาตรงกลางระหว่างบันได 2 บันได เป็นสวนที่เป็นเหมือนใต้ถุนบ้านตาม Concept โครงการ ด้านในเป็นผังที่ถูกแบ่งเป็นชั้นของแม่บ้าน ครัวไทย คนขับรถ และทางเข้าที่ 2 ส่วนของแม่บ้านจะมีห้องพักแม่บ้านอยู่ทางด้านหลังบ้าน 2 ห้อง มีห้องนั่งเล่นและห้องน้ำใช้ร่วมกัน มีครัวไทยขนาดค่อนข้างใหญ่อยู่ติดกับห้องแม่บ้าน ถัดจากครัวไทยเป็นทางเดินผ่านพื้นที่ Laundry และเชื่อมต่อกับโถงทางเข้าที่ 2 ที่เชื่อมกับบันไดและลิฟต์โดยสาร

ชั้นที่ 2 ด้านหน้าเป็นบันไดที่เข้ามาถึงชานบ้านหรือ Courtyard ของบ้าน บริเวณนี้จะเชื่อมกับ Main Entrance ที่มี Powder Room ในตัว, Dining Room และ Family Room ซึ่ง Family Room ที่เป็นจุดศูนย์รวมของบ้านพื้นที่เป็นลักษณะ Double Volume เชื่อมต่อทางสายตาและพื้นที่ไปยังชั้นที่ 3 ส่วนนี้จะสามารถไปต่อยัง บันไดหลัก ลิฟต์โดยสาร  ห้องนอนที่ 1 หรือ Parent Room สำหรับผู้สูงอายุ มีห้องน้ำในตัว และห้องนอนที่ 2 หรือ ห้องบุตรหลานหรือห้องผู้ดูแลผู้สูงอายุ ที่มีห้องน้ำในตัวเช่นกัน ห้อง Parent Room และห้องนอนที่ 2 สามารถเชื่อมต่อกันภายในได้

ชั้นที่ 3 เป็นชั้นของห้องนอน 2 ห้อง คือ Master Bedroom และ ห้องนอนที่ 3 แต่ละห้องมีห้องน้ำในตัว Walk-in Closet และ Terrace บริเวณโถงทางเดินสามารถไปยังบันไดหลัก ลิฟต์โดยสาร และห้องพระ บริเวณนี้เชื่อมต่อกับพื้นที่ Double Volume ของ Family Room บริเวณชั้นที่ 2 ด้วย

บ้านหลังถัดไปเป็นบ้านขนาดกลางของโครงการ บ้านเดี่ยว 3 ชั้น VISIONBERRY พื้นที่ใช้สอย 1,246 ตร.ม. พื้นที่ดินเริ่มต้น 165 ตร.วา ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องคนขับรถ พร้อมลิฟต์โดยสารและสระว่ายน้ำ มีจำนวน 20 ยูนิตในโครงการ มีลักษณะฟังก์ชันคล้ายกับบ้าน ROSEBERRY แต่ขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยและมีฟังก์ชันบางอย่างพิเศษเพิ่มเติม

ฟังก์ชันชั้นใต้ดิน หรือ ชั้น B1 เหมือนกับบ้าน Roseberry ต่างกันที่การจัดวางฟังก์ชันและพื้นที่จอดรถเพิ่ม 1 คัน รวมจอดได้ 5  คัน มีทางลาดลงมาจากชั้นที่ 1 มีลิฟต์โดยสารและบันไดเพื่อขึ้นไปชั้นที่ 1

ในชั้นที่ 1 เป็นชั้นใต้ถุนบ้านหรือชั้นของแม่บ้านและคนขับรถเช่นเดียวกับบ้าน Roseberry ฟังก์ชันและการจัดวางใกล้เคียงกัน มีส่วนเพิ่มเติมคือสระว่ายน้ำด้านข้างตัวบ้านเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาดประมาณ 9.1 x 3.1 เมตร ลึก 1.1 เมตร และห้อง Hobby Room มีห้องน้ำในตัว

ชั้นที่ 2 รูปแบบฟังก์ชันแบบเดียวกับบ้าน Roseberry ด้านหน้าเป็นบันไดที่ขึ้นมาบริเวณ Courtyard ของบ้านที่สามารถเชื่อมกับ Main Entrance ที่มี Powder Room ในตัว, Dining Room และ Family Room ซึ่ง Family Room ที่เป็นจุดศูนย์รวมของบ้านและเป็น Double Volume เชื่อมต่อไปยังชั้นที่ 3 ส่วนนี้จะสามารถไปต่อยัง บันไดหลัก ลิฟต์โดยสาร ห้องนอนที่ 1 (Parent Room) สำหรับผู้สูงอายุ มีห้องน้ำในตัว และห้องนอนที่ 2 ที่มีห้องน้ำในตัวเช่นกัน ห้องนอนทั้ง 2 ห้องเชื่อมกันภายใน

ชั้นที่ 3 เป็นชั้นของห้องนอน 3 ห้อง คือ Master Bedroom ห้องนอนที่ 3 และ ห้องนอนที่ 4 แต่ละห้องมีห้องน้ำในตัว และ Walk-in Closet แต่เฉพาะ Master Bedroom และ ห้องนอนที่ 3 ที่จะมี Terrace ของห้อง บริเวณโถงทางเดินสามารถไปยังบันไดหลัก ลิฟต์โดยสาร ห้องพระ และห้องทำงาน บริเวณนี้เชื่อมต่อกับพื้นที่ Double Volume ของ Family Room บริเวณชั้นที่ 2 ด้วย

บ้านหลังใหญ่ที่สุดของโครงการ บ้านเดี่ยว 4 ชั้น LEGENDBERRY พื้นที่ใช้สอย 1,724 ตร.ม. พื้นที่ดินเริ่มต้น 225 ตร.วา ฟังก์ชัน 6 ห้องนอน 9 ห้องน้ำ 6 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องคนขับรถ พร้อมลิฟต์โดยสารและสระว่ายน้ำ มีจำนวน 6 ยูนิต บ้านหลังนี้ไม่มีชั้นใต้ดิน ที่จอดรถจะเริ่มที่ชั้นที่ 1

ชั้นที่ 1 ด้านหน้าบ้านมีทางเข้าหลักเป็นบันไดทางขึ้นเพื่อไปชั้นที่ 2 ด้านข้างบันไดก่อนทางเข้าที่จอดรถจะเป็นห้องคนขับรถพร้อมห้องน้ำ ด้านในที่จอดรถสามารถจอดรถได้ 6 คัน โดยมีพื้นที่ล้างรถอยู่ภายนอก มีส่วนของห้องเก็บของและพื้นทีสำหรับงานระบบอยู่ในบริเวณนี้ ในที่จอดรถสามารถเข้าตัวบ้านด้วยทางเข้าที่ 2 หรือทางเข้ารอง เพื่อไปยังพื้นที่ของครอบครัว ทั้ง Family Dining Room และ Family Lounge ส่วนนี้สามารถเชื่อมไปยังสระว่ายน้ำ ที่มีห้องน้ำสำหรับสระว่ายน้ำและบันไดเพื่อขึ้นไปยัง Terrace ชั้นที่ 2 ที่โถงกลางบ้านสามารถแยกไปได้ 2 ทาง ทางแรกสามารถไปยังห้องแม่บ้าน ลิฟต์โดยสาร บันไดหลัก และ Powder Room อีกทางใกล้กับทางเข้ารอง สามารถเชื่อมต่อไปยังห้องครัวไทยและบันไดรองได้ ด้านหลังห้องครัวเชื่อมกับพื้นที่ Laundry มีที่โล่งสำหรับตากผ้าและห้อง Laundry ในชั้นนี้มีห้องเก็บของถึง 3 จุดคือ บริเวณที่จอดรถ บริเวณใกล้ทางเข้ารอง และบริเวณบันไดรองใกล้ห้องครัว

ชั้นที่ 2 จะเป็นพื้นที่ Semi-Public ของบ้าน พื้นที่เปิดโล่ง รองรับคนจำนวนมาก เข้ามาที่ทางเข้าหลักผ่านบันไดของบ้าน เจอพื้นที่ Courtyard ที่สามารถเชื่อมต่อไปยัง Formal Living Room ที่มี Terrace รอบ ๆ มีบันไดทางขึ้นชั้นที่ 3 เป็นบันไดรองย้ายมาขึ้นบริเวณนี้ ที่อยู่ติดกับห้องทำงาน และอีกทางเชื่อมไปยัง Formal Dining Room และ Living / Entertainment Room ที่มีลิฟต์โดยสาร บันไดหลัก บันไดรอง และ Powder Room มีส่วนของ Terrace รอบ ๆ เช่นกัน พื้นที่ Terrace เชื่อมต่อกับบันไดบริเวณสระว่ายน้ำ มีห้อง Glasshouse บริเวณนี้ด้วย

ชั้นที่ 3 เป็นชั้นของทั้ง 4 ห้องนอน คือห้องนอนที่ 1-4 ทุกห้องมี Walk-in Closet, ห้องน้ำในตัว และ Terrace บริเวณโถงกลางบ้าน มี Family Living Room, Study Room และ Fitness Room สำหรับ มีลิฟต์โดยสาร บันได้หลัก และบันไดรองเพื่อไปยังชั้นถัดไป

ชั้นที่ 3 เป็นชั้นของ 2 ห้องนอน คือ Master Bedroom และ ห้องนอนที่ 5 ทุกห้องมี Walk-in Closet, ห้องน้ำในตัว และ Terrace บริเวณโถงกลางบ้านมีห้องพระ ห้องน้ำ ลิฟต์โดยสารและบันได้หลัก ส่วนบันไดรองจะอยู่บริเวณ Terrace หลังบ้าน

ตัวโครงการมี Concept ในการเชื่อมโยงในทุกเจเนอเรชั่นที่แตกต่างและ Lifestyle ที่หลากหลายของครอบครัวใหญ่ จึงสามารถทางเชื่อมบ้านแต่ละหลังในโครงการเป็นทางเดินเชื่อมต่อกันบริเวณ Courtyard หรือชานของบ้านไปยังบ้านแต่ละหลัง ทั้งนี้ต้องแจ้งทางโครงการถึงความต้องการนี้ เพื่อทางโครงการจะได้ดูความเป็นไปได้เพื่อจะจัดทำตาม Concept ต่อไป

ตัวอย่างการเชื่อมบ้านทั้ง 3 แบบเข้าด้วยกันด้วย Brigding Generation บริเวณ Courtyard ของบ้าน ทั้งนี้แบบบ้านที่ทางโครงการเปิดให้เข้าชมจะมีทั้งหมด 2 แบบ คือ แบบ ROSEBERRY และ VISIONBERRY ที่ปัจจุบันทำการเชื่อมไว้เป็นตัวอย่างแล้ว

แบบบ้าน ROSEBERRY (Size S)

แบบบ้านตัวอย่างแบบแรกที่จะไปชมกันคือ แบบบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ROSEBERRY พื้นที่ใช้สอย 1,203 ตร.ม. พื้นที่ดินเริ่มต้น 140 ตร.วา ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องคนขับรถ พร้อมลิฟต์โดยสาร จำนวน 11 ยูนิตในโครงการ บ้านตัวอย่างตกแต่งพร้อม อาจจะมีวัสดุบางอย่างที่บ้านขายจริงไม่ได้ เช่นเฟอร์นิเจอร์ วัสดุปูพื้น วอลเปเปอร์ และพื้นที่ชานบางส่วน ที่ทางโครงการแจ้งว่าลูกค้าสามารถทำเพิ่มเติมตามบ้านตัวอย่างได้ แจ้งความต้องการมากับโครงการ

โครงการนี้จะไม่มีรั้วหน้าบ้าน จะมีแค่เฉพาะรั้วบางส่วนเป็นข้างบ้านหรือติดกับรั้วโครงการ ด้านหน้าบ้านมีตู้ไม้ทรงเหลี่ยมเป็นตู้สำหรับห้องขยะ มิเตอร์น้ำ-ไฟ รูปแบบบันไดทางขึ้นเป็นการดึงองค์ประกอบเพื่อสร้าง Space มาจากบ้านไทย รูปแบบเสากลม มีซุ้มประตูก่อนเข้าถึงตัวชานบ้านในชั้นที่ 2 และบันไดหักมุมมีชานพัก มีแผงกันแดดและกันสายตาเป็นจังหวะ สวยงามและใช้วัสดุที่ทนทาน

มุมมองอีกฝั่งของบ้าน ส่วนตรงกลางเป็นทางเข้าชั้นที่ 1 หรือเปรียบเป็นใต้ถุนของบ้านและทางด้านขวาเป็นทางลาดเพื่อลงไปที่จอดรถชั้นใต้ดิน ด้านล่างเป็นประตูอัตโนมัติ เปิด-ปิดด้วยรีโมท

ที่จอดรถชั้นใต้ดิน พื้นเป็นวัสดุอีพ็อกซี สามารถจอดรถได้ 4 คัน ทางโครงการตกแต่งไว้สวยงาม หรูหรา ธีมสีแดง มีตำแหน่งติดตั้ง EV-Charger

มองกลับไปทางเข้าที่จอดรถจะเป็นประตูอัตโนมัติ เปิดปิดด้วยการ Slide ขึ้นทางด้านบน ฝั่งตรงข้ามประตูเป็นที่จอดรถ มีการเตรียมรางน้ำและ Skylight ตรงบริเวณที่ล้างรถด้วย

มีทางเข้าลิฟต์โดยสารที่สามารถไปยังชั้นที่ 1, 2 และ 3 ได้ โดยลิฟต์จะไม่ทำงานหากมีประตูชั้นใดชั้นหนึ่งเปิดไว้ ถือเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีมาก ถัดไปเป็นห้องเก็บของและทางเดินไปขึ้นบันได เพื่อไปยังหน้าบ้านบริเวณชั้นที่ 1

บันได เพื่อไปยังหน้าบ้านบริเวณชั้นที่ 1 กรุวัสดุหินด้านข้าง เหมือนทางลาดที่จอดรถ

มาทางหน้าบ้านส่วนชั้นที่ 1 ลอดเข้ามาใต้ถุนของตัวบ้านเป็นส่วนของแม่บ้าน คนขับรถและครัวไทย และมีทางเข้ารองของบ้านอยู่บริเวณนี้

ครัวไทยเป็นสแตสเลสทั้งชุดของ Bertazzoni จากประเทศอิตาลี มีซิ้งค์ล้างจาน Hob Hood เตาอบ เตาแก๊ส ตู้เย็น เครื่องล้างจ้าน ครบชุดสำหรับทำครัวหนัก

เดินถัดมาจากครัว ก่อนถึงโถงทางเข้ารองเป็นพื้นที่สำหรับเครื่องซักผ้า หรือ Laundry Room

โถงทางเข้ารองมีทางเข้าลิฟต์โดยสาร และบันไดไปชั้นที่ 2 ซึ่งจะเชื่อมกับ Family Room ที่เป็นโถงกลางของบ้าน

บันไดทางขึ้นด้านข้างมีช่องแสงสูงใหญ่ วัสดุพื้นหินจริงลวดลายสวยงาม บ้านจริงจะเป็นพื้น Engineering Wood

ขึ้นมาชั้นที่ 2 จะเจอกับ Family Room วัสดุพื้นหินจริง ส่วนนี้เป็นพื้นที่แบบ Double Volume เชื่อมต่อไปถึงชั้นที่ 3 ฝ้าเพดานสูง 8.2 เมตร บ้านตัวอย่างจะทำบันไดเชื่อมไปถึงชั้นที่ 3 บริเวณนี้ ส่วนบ้านจริงจะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ทางด้านซ้ายมือจะเป็นทางไปห้อง Dining Room และ Living / Entertainment Room ที่เป็นส่วนของทางเข้าหลัก จาก Family Room มองทะลุกระจกบานสูงไปจะเห็นชานบ้านไม้ ที่มีต้นไม้อยู่ตรงกลาง

ห้อง Dining Room ทางโครงการจัดบ้านตัวอย่างเป็น Pantry มีชุดครัวและมีบาร์นั่งเล่นพอประมาณ

Living / Entertainment Room ทางโครงการจัดไว้ทางหน้าบ้านเชื่อมกับ Main Entrance หรือทางเข้าหลัก หน้าต่างทุกบานของบ้านจะเป็นหน้าต่างบานสูง กันความร้อน และมีมุ้งลวดอัตโนมัติทำหรับช่องเปิดทุกช่องเปิด

ห้องนี้จะมองเห็นไปถึงชานกลางบ้านและ Family Room ด้วย

มีห้องน้ำในตัว สามารถร่วมกันในชั้นที่ 1 นี้

เดินกลับมาที่โถงกลางหรือ Family Room มุมมองอีกฝั่งของห้อง เป็นทางไปห้องนอนที่ 1 และ 2

ผ่านบันไดและลิฟต์โดยสารจะเจอกับทางเข้าห้องนอนที่ 2 ก่อน มีห้องน้ำในตัว เป็นห้องสำหรับเด็กให้อยู่ใกล้ชิดผู้ใหญ่หรือผู้ดูแลผู้สูงอายุ

ห้องน้ำจัดแบบเป็นเส้นตรง แยกส่วนเปียก-แห้งด้วยฉากกั้นอาบน้ำ

ห้องนี้จะเชื่อมกับห้องนอนที่ 1 หรือ Parent Room หรือห้องสำหรับผู้สูงอายุด้วยประตูบานเลื่อน

ห้องนอนที่ 1 หรือ Parent Room พื้นจะเป็นพื้นไม้คอร์ก หากล้มหรือเกิดอุบัติเหตุ แรงกระแทกจะน้อยกว่าพื้นไม้ชนิดอื่น

ช่องแสงสูงเหมือนกันในบ้านทั้งหลังนี้

วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบาย ๆ บ้านจริงจะไม่มีกำแพงด้านหัวเตียงฝั่งติดหน้าต่าง สามารถเดินทะลุจาก Walk-in Closet ได้ทั้งสองทาง

ห้องน้ำไมม่มีการลดระดับ เหมาะกับผู้สูงอายุ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นประตูกระจกเปลือยบานเลื่อน มีช่องแสงธรรมชาติและหน้าต่างบานกระทุ้ง

มีที่นั่งอาบน้ำให้ภายในห้องอาบน้ำ พร้อมเรนชาวเวอร์ และฝักบัวเล็ก ๆ ด้านล่างสำหรับนั่งอาบ เหมาะกับผู้สูงอายุ

ห้องน้ำจะเชื่อมต่อกับ Walk-in Closet ต้องผ่าน Walk-in Closet ก่อนถึงจะเข้าถึงตัวห้องน้ำ

ถัดมาเป็นชั้นที่ 3 ของบ้านพื้นเป็นวัสดุ Engineering Wood เป็นโถงที่เชื่อมต่อกับ Family Room ชั้นที่ 2 ทางด้านขวาจะตรงไปทางห้องพระ และ Master Bedroom ทางตรงกันข้ามจะไปห้องนอนที่ 3

ห้องนอนที่ 3 ทางโครงการจัดไว้เป็นห้องลูกสาว ตกแต่งมีความหวาน มีฟังก์ชันพิเศษสำหรับบ้านตัวอย่างคือบ้านสุนัขเล็ก ๆ บริเวรใกล้ทางเข้าห้อง

มี Terrace ของห้องเป็นส่วนตัว บ้านจริงตัว Terrace จะหยุดอยู่ที่แผงกันแดดที่เลื่อนขยับได้ หากต้องการทำเพิ่ม สามารถแจ้งทางโครงการได้

ภายในห้องมี Walk-in Closet

เชื่อมต่อกับห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้ง ด้วยการกั้นฉากกั้นอาบน้ำ หรือ Shower Box

ห้องพระในชั้นที่ 3 เป็นทางผ่านก่อนไปที่ Master Bedroom

ห้องสุดท้ายของบ้านหลังนี้ Master Bedroom วางเตียงขนาดใหญ่ได้ มีช่องเปิดโดยรอบเชื่อมกับ Terrace รอบ ๆ ห้องนอน

เดินย้อนมาที่ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ภายในห้อง จัดเรียงได้พื้นที่เก็บเสื้อผ้า และแต่งหน้าได้เหลือเฟือ

ห้องน้ำแบบ HIS & HER มีอ่างล้างหน้า 2 จุด ห้องอาบน้ำและห้องสุขามีฉากกั้นอาบน้ำแยกกัน เพื่อให้เข้าใช้งานได้พร้อมกัน สุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ มีโถปัสสาวะชาย

ความพิเศษของ Master Bathroom คือมีอ่างอาบน้ำ ทรงรี พร้อมอุปกรณ์สำหรับอ่างอาบน้ำรูปทรงสวยงาม ด้านข้างมีหน้าต่างและแผงกันแดดสามารถมองวิวได้ขณะแช่ในอ่างอาบน้ำ

แบบบ้าน VISIONBERRY (Size M)

บ้านอีกหลังเป็นบ้านตัวอย่างที่อยู่ติดกัน แบบบ้านเดี่ยว 3 ชั้น VISIONBERRY พื้นที่ใช้สอย 1,246 ตร.ม. พื้นที่ดินเริ่มต้น 165 ตร.วา ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องคนขับรถ พร้อมลิฟต์โดยสารและสระว่ายน้ำ จำนวน 20 ยูนิตในโครงการ ฟังก์ชันและวัสดุโดยรวมใกล้เคียงกับบ้าน Roseberry มาก ๆ มีส่วนเพิ่มเติมจากพื้นที่บ้านที่ต่างกันคือฟังก์ชันเพิ่มเช่น สระว่ายน้ำ, Hobby Room, ห้องนอนเพิ่มอีก 1 ห้อง, ที่จอดรถ ฯลฯ

ตัวบ้านดีไซน์และวัสดุแบบเดียวกัน การวางฟังก์ชันใกล้เคียงกับบ้าน Roseberry แต่กลับด้านกัน

มุมมองลงไปที่ทางลาดของที่จอดรถชั้นใต้ดินของบ้าน ทางเข้าชั้นที่ 1 และทางเข้าหลักขึ้นไปยังชั้นที่ 2 ของบ้าน

มาที่ชั้นใต้ดินของบ้าน สามารถจอดรถได้ 5 คัน บ้านหลังนี้จะไม่ได้ตกแต่งแบบบ้านหลังแรก วัสดุอุปกรณ์ที่ได้จะเหมือนบ้านจริง

มุมมองไปทางเดินขึ้นชั้นที่ 1 ทางด้านซ้ายจะเห็นกล่องสีขาว คืออุปกรณ์สำรองไฟของ Tesla

ส่วนนี้เป็นส่วนงานระบบ ติดตั้งตำแหน่ง EV-Charger สำหรับรถชาร์จไฟฟ้า ตัวบ้านในโครงการทุกหลังใช้ไฟ 3 เฟส รองรับการชาร์จรถไฟฟ้าทุกแบบ

มุมมองไปยังลิฟต์โดยสารและทางขึ้นไปชั้นที่ 1

ขึ้นมาชั้นที่ 1 เป็นฟังก์ชันเพิ่มเติมที่บ้าน Roseberry ขาดไปคือสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดประมาณ 9.1 x 3.1 เมตร ลึก 1.1 เมตร และห้อง Hobby Room ที่เป็นห้องกระจกด้านซ้ายมีห้องน้ำในตัว

ทางโครงดารจัดห้อง Hobby Room ไว้เป็นห้องออกกำลังกาย ชมวิวสระว่ายน้ำภายในบ้านขณะออกกำลังกายได้

มุมมองกลับไปทางหน้าบ้าน

เข้าบ้านมาอีกฝั่งเป็นส่วนครัวไทย วัสดุอุปกรณ์แบบบ้านหลังแรก เพิ่มเติมคือมีลิฟต์สำหรับส่งอาหารไปยังชั้นที่ 2

ชุดครัวครบชุดสามารถทำครัวหนักได้ มีพื้นที่มากกว่าบ้านหลังแรกเล็กน้อย

จากครัวไทยเชื่อมต่อทางเดินมายัง Laundry Room ที่เชื่อมต่อไปยังทางเข้ารองอีกที

ทางเข้ารองเชื่อมต่อโถงลิฟต์โดยสารและบันได เพื่อไปยังชั้นต่าง ๆ

ขึ้นบันมาชั้นที่ 2 มายัง Family Room ของบ้านหลังนี้ พื้นวัสดุหินจริง ฝ้าเพดานแบบ Double Volume เชื่อมต่อไปยังชั้นที่ 3 ความสูงฝ้า 9. 5เมตร มุมมองนี้มองไปยังห้องนอนที่ 1 หรือ Parent Room และห้องนอนที่ 2 หรือห้องนอนเด็ก หรือ ห้องนอนผู้ติดตาม ด้านข้างลิฟต์โดยสารจะเห็นกล่องสีดำซึ่งก็คือลิฟต์ส่งอาหารจากชั้นที่ 1 ขึ้นมายังชั้นที่ 2 นี้

มุมมองจาก Family Room ขึ้นไปยังชั้นที่ 3 ทางด้านบนและมองเห็น Parent Room ผ่านกระจกทางด้านขวาในชั้นเดียวกัน ตาม Concept โครงการที่ยังมีพื้นที่ส่วนตัวแต่ก็ยังเชื่อมต่อกันได้

เดินกลับมาที่ Dining Room ทางโครงการจัดไว้เป็น Pantry มีที่นั่งเล็ก ๆ

Living / Entertainment Room เชื่อมต่อกับทางเข้าหลักหน้าบ้าน

Living / Entertainment Room มุมมองเข้าไปในบ้าน เห็นทางเข้าห้องน้ำในตัวและทางเดินไปยัง Dining Room เห็นชานกลางบ้านมีต้นไม้ตรงกลางและ เห็น Family Room จากบริเวณนี้

กลับมาที่ห้องนอนที่ 1 หรือ Parent Room มีระเบียงโดยรอบ

มีทางเดินจาก Walk-in Closet ทั้งสองทางทางด้านหัวเตียง

มุมมองออกไปทาง Terrace มีแผงบังตา

ห้องน้ำแบบเดียวกันกับบ้าน Roseberry แยกส่วนเปียก-แห้งด้วยกระจกกั้นอาบน้ำ วัสดุ อุปกรณ์ และสุขภัณฑ์แบบเดียวกันสำหรับห้องผู้สูงอายุ

ห้องนอนที่ 2 ห้องนี้ทางโครงการจัดไว้เป็นห้องเด็ก เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดผู้ใหญ่ ดูแลทั่วถึง

มีห้องน้ำในตัวแบ่งส่วนเปียก-แห้งเช่นเดียวกัน

หน้าทางเข้าห้องน้ำมีมุม Walk-in Closet

ขึ้นมาชั้นที่ 3 ของบ้าน มุมมองเชื่อมไปยัง Family Room ของชั้นที่ 1 และ มองผ่านทางเดินเห็นทางเข้าลิฟต์โดยสาร ตามโถงนี้เป็นทางไปยังห้อง Working Room และห้องนอน Master Bedroom ในทางตรงกันข้ามจะเป็นทางไปห้องพระ ห้องนอนที่ 3 และห้องนอนที่ 4

ห้องพระที่เป็นทางผ่านไปยังห้องนอนที่ 3 และ 4

ห้องนอนที่ 3 ด้านหน้าเตียงเปิดโล่ง Take View ได้ดี

มี Terrace ทางด้านข้างทั้งสองด้านของเตียง

ทางเข้า Walk-in Closet และห้องน้ำภายในห้อง เป็นแนวยาว

แยกส่วนเปียก-แห้งชัดเจน มีหน้าต่างระบายอากาศและให้แสงธรรมชาติ

ห้องนอนที่ 4 อยู่ระหว่างห้องนอนที่ 3 และห้องพระ ถ้าเดินมาจากทางเดินจะเป็นห้องพระ ห้องนอนที่ 4 และห้องนอนที่ 3 จะอยู่สุดทางเดิน

ภายในมี Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว

เดินกลับมาที่ห้องทำงานที่อยู่ก่อนถึง Master Bedroom ทางโครงการทำประตูบานเฟี้ยมไว้ ห้องจริงจะเป็นแบบพื้นที่เปิดโล่ง

ห้อง Master Bedroom ห้องสุดท้ายที่เราจะพาไปดูกันในโครงการนี้

มีหน้าต่างรอบด้านทั้ง 3 ด้าน มี Terrace อยู่ 1 ด้านของช่องเปิด ที่สามารถมองไปยังห้อง Family Room ได้

ภายในห้องมี Walk-in Closet ขนาดใหญ่ พอ ๆ กับตัวห้องนอน

จัดเก็บเสื้อผ้าและทำฟังก์ชันอื่น ๆ ได้มาก

ห้องน้ำ HIS & HER แบบเดียวกับ Master Bathroom ของห้องน้ำหลังก่อน สุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ มีโถปัสสาวะชาย ส่วนอาบน้ำจะอยู่อีกฝั่งใกล้กับอ่างอาบน้ำที่ Take View ได้

Location

The Forestias เป็นโครงการ Mixed-Use ขนาดใหญ่พร้อมที่อยู่อาศัยและสิ่งอำนวยความสะดวก ที่มีโครงการ Mulberry Grove The Forestias Villas ประกอบอยู่ภายในโครงการ ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม.7 เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วน รถไฟฟ้า สนามบิน และการคมนาคมหลากหลาย ที่มีทางด่วนบูรพาวิถี และอยู่ใกล้บางนา และ CBD ย่านสุขุมวิท ที่มีรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่เป็นสถานีในอนาคตเดินทางสะดวก ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงพยาบาล ในระยะทางไม่ไกลเกิน 10 กิโลเมตร

สามารถเลือกดูเส้นทางไปโครงการบน Google Map คลิกที่นี่

วันนี้เราจะเริ่มต้นไปโครงการบนถนนสุขุมวิทที่สถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีบางนา หรือ BTS Bangna

มุ่งหน้าไปทางแยกบางนาหรือเข้าตัวเมือง ผ่านภิรัชทาวเวอร์ และ ไบเทค บางนา ทางด้านขวามือ

ใกล้ถึงแยกบางนามองตามป้ายไปทางชลบุรี

ตามป้ายจะต้องวนรถเล็กน้อย แต่ปัจจุบันสามารถเลี้ยวออกทางขนานได้เลย

เลี้ยวขวาออกทางขนานถนนบางนา-ตราด

มองตามป้ายมุ่งหน้าไปชลบุรี

เบี่ยงเข้าทางหลักไปตามป้าย บางปะกง / ชลบุรี

ตรงไปบน ถนนบางนา-ตราด เส้นทางหลักเรื่อย ๆ

ผ่านป้ายบางกะปิ เทพารักษ์ แต่เรายังคงตรงต่อไปทางชลบุรี

ผ่านป้ายบอกทางไปยังทางหลวงหมายเลข 9 ที่สามารถเชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 7 หรือมอเตอร์เวย์ได้ แต่เรายังวิ่งบนถนนบางนา-ตราดต่อไป

ตรงต่อไปเรื่อย ๆ จุดสังเกตจะเป็นโลตัส บางนา-ตราดทางด้านซ้าย เตรียมยูเทิร์นทางที่จะเข้าไปเมกะบางนา

สะพานยูเทิร์นที่สามารถเข้าไปเมกะบางนาได้

ลงจากยูเทิร์นให้เข้าซ้ายมือ ถัดไปประมาณ 1 กม. จะถึงตัวโครงการ

ด้านหน้าโครงการมีป้ายสีเขียวบอกรายละเอียดโครงการและรปภ.คอยดูแลหน้าโครงการ คอยบอกทางเป็นระยะ เพื่อที่จะไปถึงตัวโครงการ Mulberry Grove The Forestias Villas สถานที่ใกล้เคียงโครงการในระยะ 10 กิโลเมตรโดยประมาณ เริ่มต้นที่ห้างสรรพสินค้าใกล้เคียงหลายแห่ง

Mega Bangna & IKEA Bangna ระยะทาง 2 กิโลเมตร, Index Living Mall Bangna ระยะทาง 5.3 กิโลเมตร, Central Bangna ระยะทาง 6.3  กิโลเมตร

Market Village ระยะทาง 5.4 กิโลเมตร, Bangkok Mall 7.1 กิโลเมตร, Seacon Square Srinakarin ระยะทาง 7.1 กิโลเมตร, Paradise Park ระยะทาง 7.2 กิโลเมตร

และที่ค่อนข้างไกลแต่ก็เป็นห้างที่มีจุดขายที่ต้องไป Shopping ในหลาย ๆ แง่มุม Central Village ระยะทาง 13.8 กิโลเมตร, King Power Sirivaree ระยะทาง 18.9 กิโลเมตร

ถัดไปเป็นสนามกอล์ฟ ด้วยความเป็นโครงการระดับ Super Luxury Class สนามกอล์ฟก็เป็นสถานที่ที่กลุ่มเป้าหมายของโครงการสนใจ Summit Windmill Golf Club ระยะทาง 9 กิโลเมตร,  Golf Square Academy Srinakarin ระยะทาง 9.6 กิโลเมตร, Thana City Country Club ระยะทาง 12.7 กิโลเมตร, Krungthep Kreetha Golf Course ระยะทาง 16.3 กิโลเมตร และ Lakewood Country Club ระยะทาง 16.7 กิโลเมตร

ส่วนต่อไปเป็นสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาล

Princ Hospital Suvarnabhumi ระยะทาง  350 เมตร อยู่ด้านหน้าโครงการ

Sikarin Hospital ระยะทาง 4.3 กิโลเมตร

Thainakarin Hospital ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร, Sirindhorn Hospital ระยะทาง 12.8 กิโลเมตร, Samitivej Srinakarin Hospital ระยะทาง 14 กิโลเมตร

โรงเรียน ซึ่งส่วนใหญ่ในย่านนี้เป็นโรงเรียนนานาชาติ

Concordian International School ระยะทาง 2.3 กิโลเมตร, Wells International School ระยะทาง 5.2 กิโลเมตร

Thai-Singapore International School ระยะทาง 5.2 กิโลเมตร, International Community School (ICS) ระยะทาง 5.6 กิโลเมตร

Bangkok Patana School ระยะทาง 6.2 กิโลเมตร, Raffles American School (RAS) ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร

Berkeley International School ระยะทาง 7.7 กิโลเมตร, St. Andrews International School ระยะทาง 8.9 กิโลเมตร, The American School of Bangkok ระยะทาง 11.8 กิโลเมตร

และการคมนาคมขนส่ง

BTS Sukhumvit Line (Bang Na Station) ระยะทาง 7.5 กิโลเมตร บนถนนสุขุมวิท เชื่อมต่อ CBD

Airport Rail Link ลาดกระบัง ระยะทาง 17 กิโลเมตร และ MRT Future Yellow Line (Sri Iam Interchange Station) ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร รวมถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ระยะทาง 20.7 กิโลเมตร

Price

โครงการ Mulberry Grove The Forestias Villas มีแบบบ้านเดี่ยวทั้งหมด 3 แบบ เริ่มต้นพื้นที่ใช้สอย 1,203-1,724 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 140-225 ตร.วา ขนาดฟังก์ชัน 4-6 ห้องนอน 6-9 ห้องน้ำ 4-6 ที่จอดรถ พร้อมลิฟต์โดยสารภายในบ้าน

• บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ROSEBERRY พื้นที่ใช้สอย 1,203 ตร.ม. พื้นที่ดินเริ่มต้น 140 ตร.วา ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องคนขับรถ พร้อมลิฟต์โดยสาร จำนวน 11 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 185 ล้านบาท*  (ราคา ณ เดือน ธันวาคม 2565)
• บ้านเดี่ยว 3 ชั้น VISIONBERRY พื้นที่ใช้สอย 1,246 ตร.ม. พื้นที่ดินเริ่มต้น 165 ตร.วา ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องคนขับรถ พร้อมลิฟต์โดยสารและสระว่ายน้ำ จำนวน 20 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 220 ล้านบาท*  (ราคา ณ เดือน ธันวาคม 2565)
• บ้านเดี่ยว 4 ชั้น LEGENDBERRY พื้นที่ใช้สอย 1,724 ตร.ม. พื้นที่ดินเริ่มต้น 225 ตร.วา ฟังก์ชัน 6 ห้องนอน 9 ห้องน้ำ 6 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องคนขับรถ พร้อมลิฟต์โดยสารและสระว่ายน้ำ จำนวน 6 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 310 ล้านบาท*  (ราคา ณ เดือน ธันวาคม 2565)

โครงการเริ่มเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม 2565

ราคาและ Promotion ต่าง ๆ โปรดสอบถามทางโครงการอีกครั้ง*

Conclusion

ความเห็นในแต่ละส่วนหลังจากเข้าไปชมโครงการ Mulberry Grove The Forestias Villas แยกเป็นหัวข้อคร่าว ๆ ในด้านการออกแบบทั้งด้านความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งาน พื้นที่ส่วนกลาง สิ่งอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย และด้านพื้นที่ตั้งโครงการ

Design & Function : บ้านระดับราคา Super Luxury Class ที่ราคาเริ่มต้น 185 ล้านบาท* ระดับราคาที่มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนมาก ๆ กับโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ที่เหมาะกับครอบครัวใหญ่ ที่ไปสุดทางทั้งด้านดีไซน์ ฟังก์ชัน วัสดุ และนวัตกรรม เริ่มต้นด้วยดีไซน์ที่ใช้สถาปนิกระดับโลกอย่าง Foster+Partners ออกแบบตัวบ้านและส่วนกลาง ทั้งรูปร่างหน้าตาที่ดู Modern แต่ใช้พื้นที่ใช้สอยและ Space แบบบ้านไทยให้สอดคล้องกับ Concept ของโครงการที่ให้ทุกเจเนอเรชั่นอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข (INTERGENERATION) ในแบบบ้านแบบ “บ้านคลัสเตอร์” ที่เชื่อมโยงทุกองค์ประกอบในโครงการเป็นเรื่องราวเดียวกันได้ อีกทั้งวัสดุที่ส่งเสริมตัวบ้านให้ดูดียิ่งขึ้น ในแง่คุณภาพวัสดุและนวัตกรรมที่ส่งเสริมการอยู่อาศัยด้านความสะดวกสบายและสุขภาพ ที่มองทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้ทุกเจเนอเรชั่นอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขทั้งกายและใจ