รีวิวคอนโด มอนเต้ พระราม 9 คอนโดใหม่ใกล้รถไฟฟ้ารามคำแหง 12 ห้องแต่งครบฟังก์ชันลงตัว ส่วนกลางใหญ่สไตล์รีสอร์ตหรู
ใครกำลังมองหาห้องชุดทำเลดีใกล้ New CBD รีวิวฉบับนี้ Home Buyers จะพาไปชมคอนโดสร้างเสร็จใหม่ใกล้รถไฟฟ้า ‘มอนเต้ พระราม 9’ คอนโด Low-Rise บรรยากาศรีสอร์ตหรู จัดเต็มส่วนกลางพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบน่าใช้งาน แบบห้องฟังก์ชันลงตัวเป็นสัดส่วน ให้ครัวปิดทุกยูนิต เฟอร์ฯ ครบพร้อมเข้าอยู่ เริ่มต้นเบาๆ เพียง 1.79 ล้าน*
กับทำเลใจกลางเมือง ติดห้างเดอะมอลล์ รามคำแหง 2 ใกล้รถไฟฟ้าสถานีรามคำแหง 12 เพียง 150 ม. เดินทางสะดวก สามารถเข้าออกโครงการฯ ได้ทั้งฝั่ง ถ.พระราม 9 และ ถ.รามคำแหง ถ้าพร้อมแล้ว ไปติดตามรีวิวของเรากันได้เลย
Fact Sheet
ชื่อโครงการ : | มอนเต้ พระราม 9 |
บริษัท : | บริษัท แคปปิตอลจี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด |
ที่ตั้ง : | ซ.รามคำแหง 12 ถ.รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ |
ประเภทโครงการ : | คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 3 อาคาร A, B, C |
แบบห้อง : | Studio Suite 22 ตร.ม. 1 Bedroom Exclusive 27 และ 29 ตร.ม. 1 Bedroom Plus 35 ตร.ม. 2 Bedroom 44 ตร.ม. |
จำนวนยูนิต : | 536 ยูนิต |
ค่าส่วนกลาง : | 45 / ตร.ม. / เดือน |
ที่จอดรถ : | 40% รวมจอดซ้อนคัน |
ลิฟต์โดยสาร : | อาคารละ 2 ตัว |
สิ่งอำนวยความสะดวก : | Duplex Lobby Lounge, Co-Working Space, Gym, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, Co-Kitchen, Mini Theater, Private Meeting Area, Sky Garden, Jogging Track, EV Charger |
ระบบความปลอดภัย : | เข้า - ออกโครงการ ด้วยระบบ Key Card, กล้อง CCTV ภายนอก - ภายในอาคาร, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม. |
เบอร์โทรศัพท์ : | 099 164 6888 |
เว็บไซต์ : | www.cg.co.th/project/monte-rama9 |
Highlight : มอนเต้ พระราม 9
- คอนโดสร้างเสร็จใหม่พร้อมเข้าอยู่ ห้องชุดตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเครื่องปรับอากาศ แปลนห้องจัดฟังก์ชันลงตัว มีห้องครัวปิดเป็นสัดส่วนทุกห้อง
- ที่ตั้งโครงการทำเลดีมาก อยู่ในซอยรามคำแหง 12 เข้ามาแค่ 150 เมตร. ซึ่งปากซอยจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีส้มสถานีรามคำแหง 12 และมี เดอะ มอลล์ รามคำแหง อยู่ฝั่งตรงข้ามถนน อีกทั้งบริเวณที่ตั้งโครงการยังอยู่ติดกับ เดอะ มอลล์ รามคำแหง 2 เพียงก้าวเดิน 20 เมตร เท่านั้น
- เดินทางสะดวก สามารถใช้รถเข้า-ออกได้ 2 ทาง ทั้ง ซอยรามคำแหง 12 และ พระราม 9 ซอย 39 ใกล้จุดขึ้นลงทางพิเศษศรีรัชฯ ด่านศรีนครินทร์ และ ด่านรามคำแหง
- มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ฟังก์ชันใช้งานได้จริง ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง ให้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ในบรรยากาศสไตล์รีสอร์ตหรู ชวนผ่อนคลายในการพักอาศัย
Facility
ทางเข้าโครงการมีซุ้มรักษาความปลอดภัย เข้า-ออกด้วยระบบ Key Card พร้อมกล้องวงจรปิด โดยกำลังจะมีการติดตั้งประตูรั้วไฟฟ้าอีกชั้น เพื่อยกระดับความปลอดภัยให้เหนือมาตรฐานคอนโดทั่วไป
เมื่อเข้ามาภายในจะเจอกับอาคาร B อยู่กลางโครงการ โดยอาคารนี้จะรวม Facility สำคัญๆ เอาไว้ เริ่มที่หน้าอาคารจะมีแท่นชาร์จ EV Charger รองรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ตอนนี้เริ่มเป็นที่นิยมใช้กันมากพอสมควร ไว้ 1 ช่องจอดรถ
ชั้น 1 ของทั้ง 3 อาคารจะไม่มีห้องพักอาศัย โดยจะเป็นพื้นที่ลานจอดรถทั้งหมด และเฉพาะอาคาร A จะมีที่จอดรถชั้นใต้ดินเพิ่มเติมอีก 1 ชั้น ซึ่งนับรวมพื้นที่จอดรถทั้งหมดของโครงการ แบบรวมจอดซ้อนคันแล้ว จะสามารถจอดรถได้ถึง 214 คัน ถือเป็นสัดส่วนอยู่ที่ 40% จากจำนวนยูนิตทั้งหมด เรียกได้ว่าเกินมาตรฐานคอนโด Low-Rise เลยทีเดียว
ล็อบบี้ของโครงการ Duplex Lobby Lounge จะอยู่ที่ชั้น 1 ของอาคาร B เป็นแบบ Double Volume ฝ้าเพดานสูงโปร่ง ตกแต่งโคมไฟระย้าเพิ่มความหรูหราในการต้อนรับลูกบ้านและผู้มาติดต่อตามแบบฉบับรีสอร์ตหรู
บริเวณล็อบบี้ยังจัดเป็น Co-Working Space ให้ลูกบ้านสามารถมานั่งทำงานหรือพักผ่อน รวมถึงเป็นพื้นที่ต้อนรับแขกได้อย่างสะดวกสบาย
ติดกับโซน Co-Working Space ชั้น 1 ของอาคาร B จะมีห้อง Gym ขนาดใหญ่ เครื่องเล่นเยอะและครบครัน บรรยากาศปลอดโปร่งด้วยผนังกระจก Oversize เปิดรับวิวสระว่ายน้ำภายนอกได้อย่างสวยงาม
พื้นที่ตรงกลาง ชั้น 1 ระหว่างอาคาร B และ อาคาร C เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือแบบ Free Form ให้บรรยากาศเหมือนพักรีสอร์ตหรู รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวช่วยเพิ่มความร่มรื่น เป็นวิวดีๆ สำหรับยูนิตที่หันระเบียงออกมาทางฝั่งนี้
Mail Box จะอยู่ที่โถงลิฟต์ของทุกอาคาร โดยทุกอาคารจะมีลิฟต์โดยสารให้ใช้งาน 2 ตัว ซึ่งลิฟต์เป็นฟังก์ชันสมัยใหม่แบบที่มีปุ่มกดรองรับผู้ใช้รถเข็น Wheel Chair
ชั้น 2 ของอาคาร B ยังมีมุม Co-Working Space ให้เลือกใช้งานอีก 1 จุด ค่อนข้าง Private และโปร่งโล่ง
และมีพื้นที่เป็นแบบ Common Area รวม Facility ไว้หลายประเภทอีกด้วย
มีมุม Co-Kitchen พร้อมเตาอบและไมโครเวฟให้ลูกบ้านใช้ทำอาหารเบาๆ สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากการทานอาหารในห้อง หรืออยากทานกับเพื่อนๆ ที่มาเยี่ยมเยียนก็ไม่ต้องเหนื่อยทำความสะอาดบนห้องเยอะ
เปิดออกไปด้านนอกมี Camping Area พร้อม Pocket Garden ให้สามารถจัดปาร์ตี้ปิ้งย่างบาร์บีคิวได้
Facility บนชั้น 2 อาคาร B ยังมีห้อง Mini Theater ให้พักผ่อนชมภาพยนตร์ หรือจะใช้เป็นห้องประชุม Video Conference ก็ได้เช่นกัน
ออกไปด้านนอกของ Co-Working Space จากชั้น 2 จะมีลานกลางแจ้ง ให้ได้ออกมานั่งรับลมชมวิวกันอีกหนึ่งจุด
ดาดฟ้าของทั้ง 3 อาคารจะเป็นส่วน Sky Garden โดยจะมีสะพานให้เดินเชื่อมถึงกันได้ทั้ง 3 อาคาร จะขึ้นมาชมวิวสวนสวย หรือ ออกกำลังกายแบบ Jogging Track ก็ได้ทั้งนั้น ที่สำคัญสะพานเชื่อมยังมีประโยชน์ในยามเกิดเหตุไฟไหม้ ก็สามารถใช้ข้ามไปหลบหรือลงลิฟต์ที่อาคารอื่นได้
สะพานเชื่อมแต่ละอาคาร เป็นทางเชื่อมให้ลูกบ้านสามารถเดินออกกำลังกายได้รอบดาดฟ้าโครงการ และยังเป็นจุดชมวิวเมืองย่านรามคำแหงอีกด้วย
บนดาดฟ้าของทั้ง 3 อาคาร นอกจากเป็นทางออกกำลังกาย Jogging Track ยังจัดเป็นสวนลอยฟ้า Sky Garden เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้โครงการ สามารถขึ้นมาผ่อนคลายชมพระอาทิตย์ตกได้
พิเศษสำหรับอาคาร C ที่ชั้น 2 และ 6 จะมี Pocket Garden เพิ่มความสดชื่นให้กับลูกบ้าน โดยทางโครงการยอมเสียพื้นที่ขาย ในการทำพื้นที่ส่วนนี้ให้ลูกบ้านอาคาร C โดยเฉพาะเพื่อบรรยากาศโปร่งโล่ง ลมไหลเวียนได้ดี
นอกจากนั้น ที่ชั้น 3, 4 และ 7 ยังมี Void เป็นระเบียงเปิดโล่งริมทางเดิน สามารถมองลงไปเห็น Pocket Garden ที่ชั้น 2 และ 6 ได้
ทั้ง Pocket Garden และระเบียงริมทางเดินของอาคาร C ทำให้ห้องชุดในตึกนี้มีความ Private เป็นพิเศษ เพราะหลายๆ ยูนิตจะไม่มีห้องที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ได้โถงทางเดินเป็น Single Corridor เปิดรับแสงและลมให้อาคารปลอดโปร่ง
Design
รูปแบบอาคารของโครงการ มอนเต้ พระราม 9 มาในดีไซน์สไตล์โมเดิร์น ตกแต่ง Facade ด้วยลายเส้นตรง ดูเรียบง่ายแต่ให้ความรู้สึกมั่นคงแข็งแรง เพิ่มลูกเล่นให้ดูสนุกและโดดเด่นด้วยโทนสีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ
การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางระหว่างอาคารให้เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือแบบ Free Form ล้อมด้วยสวนต้นไม้เขียว ช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้กับภาพรวมอาคาร ได้บรรยากาศเหมือนพักรีสอร์ตหรู
Master Plan
แผนผังชั้น 1 ของโครงการ แสดงให้เห็นถึงลานจอดรถและพื้นที่ส่วนกลาง ทุกอาคารจะมีโถงลิฟต์และ Mail Box เป็นของตัวเอง โดยตรงกลางระหว่างอาคาร B และ อาคาร C ใช้พื้นที่ทำเป็นสระว่ายน้ำ
ผังชั้น 2 ของโครงการ จะเห็นว่าที่อาคาร B นั้นมีพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนตึก C ฝั่งที่หันหน้าออกนอกโครงการ แบ่งพื้นที่บางส่วนจัดเป็น Pocket Garden ไว้ 3 จุด ซึ่งจะมีที่ชั้น 6 ด้วยอีกเช่นกัน
ชั้น 3, 4 และ 7 ของอาคาร C จุดที่อยู่เหนือ Pocket Garden จะมี Void เป็นระเบียง เปิดออกภายนอกโครงการ ทำให้ยูนิตที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้ความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องหันประตูเข้าหาห้องอื่น และได้ลมพัดโปร่งโล่งสบายระหว่างโถงทางเดินส่วนกลาง
ชั้น 5 และ 8 ของอาคาร C เป็นชั้นที่มียูนิตห้องชุดเต็มพื้นที่เหมือนอาคารอื่นๆ
ดาดฟ้าของโครงการ จัดเป็นสวน Sky Garden และทางวิ่ง Jogging Track โดยมีสะพานเชื่อมต่อ 3 อาคาร
Room Type
1 Bedroom Exclusive พื้นที่ใช้สอย 29 ตร.ม.
ห้องชุดแบบแรกที่เราจะเข้าชม เป็นห้องแบบ 1 Bedroom Exclusive พื้นที่ใช้สอย 29 ตร.ม. เป็น Layout ห้องหน้ากว้างทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส ฝ้าเพดานสูง 2.55 ม. ห้องนั่งเล่นและห้องนอนปูพื้นไม้ Vinyl floor ส่วนห้องน้ำและห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิโต้ จัดแปลนห้องเป็นสัดส่วนลงตัว แยกส่วนพักผ่อนกับห้องครัวและห้องน้ำ โดยทุกยูนิตเป็นแบบ Fully-Furnished มาพร้อม โซฟา 2 ที่นั่ง, โต๊ะกลาง, Built-in ตู้รองเท้า, ชั้นวางโทรทัศน์, ชั้นวางของ, ฐานเตียงพร้อมฟังก์ชันในตัว, Built-in ตู้เสื้อผ้า, สุขภัณฑ์, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน, กระจกฉากกั้นอาบน้ำ รวมถึงเครื่องปรับอากาศ และ Digital Door Lock
ยูนิตตัวอย่างตกแต่งสไตล์ Loft แบบปูนเปลือยทั้งห้อง โดยฝ้าเพดานและผนังในห้องส่งมอบมาตรฐานจริง จะเป็นแบบฉาบเรียบสีขาว โดยเมื่อเข้ามาภาพในห้องจะเจอกับห้องนั่งเล่นเป็นโซนแรก
ติดกับประตูทางเข้า โครงการ Built-in ตู้เก็บรองเท้าแบบสูงถึงฝ้า ทำให้สามารถเก็บของได้เยอะ ช่องชั้นวางตรงกลางเหมาะกับใช้วางกุญแจหรือจดหมายเมื่อกลับเข้าห้อง
พื้นที่ข้างโซฟา สามารถจัดเป็นมุมทานอาหาร หรือมุมนั่งทำงานได้ ตอบโจทย์ยุค Work from Home โดยถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องนอน แบ่งพื้นที่ด้วยประตูกระจกบานสไลด์ ช่วยให้ห้องโปร่งโล่ง เชื่อมต่อถึงกันได้แบบไม่อึดอัด
ห้องนอนมีขนาดกว้างขวางกำลังดี มาพร้อมเตียง Built-in ขนาด 5 ฟุต มีลิ้นชักเก็บของใต้เตียง พื้นที่ห้องยังเหลือให้วางโต๊ะข้างเตียงและโต๊ะเครื่องแป้งได้แบบสบายๆ มีหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติจากภายนอก
Built-in ตู้เสื้อผ้าที่ให้สูงถึงฝ้า สามารถเก็บของได้อย่างจุใจเต็มพื้นที่ มีหน้าบานตู้เป็นกระจกเงา
ระหว่างห้องรับแขกกับห้องนอน จะเป็นทางเข้าไปในส่วนห้องครัวกั้นด้วยกระจกบานสไลด์ เพื่อลดกลิ่นรบกวนตอนทำอาหาร และประหยัดแอร์ตอนที่ไม่ใช้ห้องครัว
หมดกังวลเรื่องกลิ่นในเวลาทำอาหารอย่างแน่นอน
ห้องน้ำมีพื้นที่กว้างทีเดียว แบ่งส่วนเปียกและแห้งไว้ให้ โดยโครงการจะติดตั้งกระจกฉากกั้นอาบน้ำมาพร้อมห้องมาตรฐานส่งมอบ เช่นกันกับสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า กระจกเงา และราวแขวนผ้า
ห้องครัวมาพร้อมเคาน์เตอร์และตู้แขวนลอยแบบ Built-in ติดตั้งซิงค์ล้างจาน เตาไฟฟ้า และเครื่องดูควันมาเรียบร้อย ด้านข้างมีพื้นที่ให้วางตู้เย็นเครื่องใหญ่พอสมควร มีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกไปที่ระเบียง ซึ่งพื้นที่ระเบียงกว้างพอวางเครื่องซักผ้าได้ด้วย
Studio Suite พื้นที่ใช้สอย 22 ตร.ม.
อีกยูนิตที่เราพามาชม คือห้องชุดแบบ Studio Suite พื้นที่ใช้สอย 22 ตร.ม. ฝ้าเพดานสูง 2.55 ม. ห้องนั่งเล่นและห้องนอนปูพื้นไม้ Vinyl floor ส่วนห้องน้ำและห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิโต้ จัดแปลนห้องเป็นสัดส่วนลงตัว แยกส่วนพักผ่อนกับครัวและห้องน้ำ โดยทุกยูนิตเป็นแบบ Fully-Furnished มาพร้อม โซฟา 2 ที่นั่ง, โต๊ะกลาง, Built-in ตู้รองเท้า, ชั้นวางโทรทัศน์, ชั้นวางของ, ฐานเตียงพร้อมฟังก์ชันในตัว, Built-in ตู้เสื้อผ้า, สุขภัณฑ์, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน, กระจกฉากกั้นอาบน้ำ รวมถึงเครื่องปรับอากาศ และ Digital Door Lock เช่นกันกับแบบ 1 Bedroom Exclusive ที่ได้ชมกันไป
เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับ Living Area มุมโซฟา ชั้นวางโทรทัศน์ และ Built-in ตู้เก็บรองเท้ามาอย่างลงตัว
ลึกเข้าไปจะเป็นพื้นที่ของเตียงนอนซึ่งอยู่ริมหน้าต่าง สามารถวางที่นอนขนาด 5 ฟุตได้ลงตัว เหลือพื้นที่ใช้วางโต๊ะข้างเตียงได้
ตรงกลางระหว่างมุมพักผ่อนและเตียงนอน มี Built-in ตู้เสื้อผ้าแบบสูงถึงฝ้าเช่นกันกับยูนิตแบบอื่นๆ
อีกฝั่งของห้องกั้นเป็นห้องครัวและห้องน้ำ มีประตูกระจกบานสไลด์ช่วยแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน ทำอาหารได้แบบไม่ส่งกลิ่นรบกวนไปยังที่นอน และช่วยประหยัดแอร์ตอนไม่ได้ใช้ห้องครัวได้
ห้องน้ำจัดพื้นที่มาได้ลงตัว แบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้ง ติดตั้งกระจกฉากกั้นอาบน้ำมาพร้อมห้องมาตรฐานส่งมอบ เช่นกันกับสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า และกระจกเงา
ห้องครัวมาพร้อมเคาน์เตอร์และตู้แขวนลอยแบบ Built-in ติดตั้งซิงค์ล้างจาน เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันมาเรียบร้อย ข้างๆ เหลือที่ให้วางตู้เย็นขนาดกำลังดี มีประตูกระจกสไลด์เปิดระบายอากาศออกไปริมระเบียงได้
Location : มอนเต้ พระราม 9
ที่ตั้งของโครงการ มอนเต้ พระราม 9 สามารถเข้า-ออกได้ทั้งทาง ซ.รามคำแหง 12 ซึ่งมีสถานีรถไฟฟ้ารามคำแหง 12 และทาง พระราม 9 ซ.39 ใกล้กับจุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัชฯ การเดินทางไม่ว่าจะใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือรถไฟฟ้าจึงมีความสะดวกสบาย ที่สำคัญคือเชื่อมต่อไปยัง New CBD ย่านพระรามเก้า ได้ง่าย
โครงการตั้งอยู่บริเวณตอนต้นของ ถ.รามคำแหง ตัดกับ ถ.พระรามเก้า อยู่ใกล้กับศูนย์กลางความเจริญ New CBD พระรามเก้า และเชื่อมต่อไป ถ.สุขุมวิท ได้ง่าย
ฝั่งตรงข้าม ซ.รามคำแหง 12 มีห้างสรรพสินค้า เดอะ มอลล์ รามคำแหง 3 เป็นแหล่งช้อปปิ้งใกล้บ้าน
ย้อนขึ้นไปทางสี่แยกรามคำแหงแค่ไม่กี่เมตร มี ฟู๊ดแลนด์ ซูเปอร์มาร์เก็ต รองรับเรื่องอาหารการกิน และใกล้ๆ กันก็มี เคเอฟซี แบบไดร์ฟธรู เปิด 24 ชม. ทั้งสองที่ คืนไหนกลับบ้านดึกยังไม่ต้องห่วงเรื่องปากท้อง
หลังห้างสรรพสินค้า เดอะ มอลล์ รามคำแหง 3 มีคลองแสนแสบไหลผ่าน เป็นที่ตั้งของท่าเรือ เดอะ มอลล์ รามฯ 3 เป็นอีกทางเลือกในการเดินทางเข้าเมืองที่สะดวกรวดเร็ว ไปได้ทั้ง แหล่งออฟฟิศ ถ.เพชรบุรี ถ.อโศกมนตรี ม.ศรีนครินทรวิโรฒ ประตูน้ำ เซ็นทรัลเวิลด์ สยาม และ ถ.พญาไท
บริเวณปากซอยรามคำแหง 12 มีระยะทางจากโครงการแค่ 150 ม. กำลังจะมีทั้งศูนย์การค้า เดอะ มอลล์ สาขาใหม่ และสถานีรถไฟฟ้ารามคำแหง 12 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ MRT สายสีส้ม โดยในอนาคตจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ เพิ่มทางเลือกในการเดินทางให้หลากหลายขึ้นอีก ไม่ว่าจะเข้าเมือง หรือออกนอกเมืองไปทางฝั่งรามคำแหง-มีนบุรี
ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม ใกล้กับโครงการมีทั้ง ม.รามคำแหง และราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งถือเป็นจุดศูนย์กลางของย่านรามคำแหง
ปากซอยพระราม 9 ซอย 39 ซึ่งเป็นทางเข้า-ออกอีกฝั่งของโครงการ มีร้านสะดวกซื้อ 7-11 พร้อมลานจอดรถขนาดใหญ่ สามารถออกมายัง ถ.พระรามเก้าได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องติดไฟแดงที่แยกรามคำแหง ใกล้กับจุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัชฯ ตอบโจทย์ใครที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
เลยขึ้นไปตามถนนพระรามเก้า มีศูนย์การค้า เดอะไนน์ เป็นอีกทางเลือกของแหล่งกินเที่ยวใกล้โครงการ
การเดินทาง
จาก ถ.วิภาวดี-รังสิต แยกดินแดง เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถ.ดินเเดง แล้วเบี่ยงขวาตามป้ายพระรามเก้า เพื่อขึ้นทางยกระดับ
อยู่บนทางยกระดับ ถ.พระรามเก้า ขับผ่านสี่แยกพระรามเก้า New CBD แหล่งรวมอาคารสำนักงาน
ลงสะพานแล้วชิดขวา เตรียมขึ้นทางยกระดับตามป้ายรามคำแหง
หากต้องการเข้าโครงการทางฝั่ง ซ.รามคำแหง 12 ให้ใช้ช่องทางซ้ายตามป้ายรามคำแหง เพื่อลงจากสะพานเข้าสู่ ถ.รามคำแหง แล้วกลับรถ
จากปากซอยรามคำแหง 12 เข้ามาประมาณ 150 ม. จะเจอทางเข้าโครงการ มอนเต้ พระราม 9 อยู่ฝั่งซ้ายมือ
หากต้องการเข้าโครงการทาง พระราม 9 ซอย 39 ขณะยังอยู่บนทางยกระดับ พอถึงแยกรามคำแหงให้ขับตรงต่อไปจนลงจากสะพานให้ชิดซ้ายทันที จะเจอกับปากซอยพระรามเก้า 39 อยู่ทางซ้าย ขับตรงเข้าไปอีก 500 ม.จะเจอกับทางเข้าโครงการ
Price & Promotion
ห้องชุดโครงการ มอนเต้ พระราม 9 มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.79 ล้านบาท* หรือประมาณ 81,000 บาท/ตร.ม. โดยแบบห้องตัวอย่างทั้ง 2 ห้องที่เราได้ชมกันไป มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่
- Studio Suite 22 ตร.ม. 1.79 ล้านบาท*
- 1 Bedroom Exclusive 29 ตร.ม. 2.39 ล้านบาท*
*ณ เดือนตุลาคม 2564
Conclusion
Design & Function โครงการ มอนเต้ พระราม 9 ออกแบบให้มีบรรยากาศเหมือนรีสอร์ตหรู พื้นที่ส่วนกลางมีขนาดใหญ่และได้บรรยากาศร่มรื่น ตอบโจทย์การพักผ่อนของคนเมืองด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน น่าใช้งาน ส่วนรูปแบบห้องพักนั้นจัดแปลนมาได้อย่างลงตัว แม้จะเป็นห้องแบบ Studio ก็ยังกั้นห้องครัวออกจากโซนพักผ่อนได้อย่างเป็นสัดส่วน แก้ปัญหาเรื่องกลิ่นจากการทำอาหาร นับเป็นดีไซน์ที่คิดมาดี ตอบโจทย์การพักอาศัยของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันที่เข้าครัวกันเองมากขึ้น
Location ทำเลของโครงการ ถือเป็นจุดเเข็งสำคัญของ มอนเต้ พระราม 9 เพราะ ซ.รามคำแหง 12 เป็นซอยที่ไม่ลึกและสามารถลัดผ่านออกถนนพระราม 9 ได้ ใกล้กับโครงการมีทั้ง ทางด่วนศรีรัช รถไฟฟ้าสถานีรามคำแหง 12 และท่าเรือ เดอะ มอลล์ รามฯ 3 การเดินทางเข้าไปสู่ใจกลางเมืองจึงมีทางเลือกหลากหลายและสะดวกสบาย
Price & Promotion ด้วยราคาเพียง 81,000 บาท/ตร.ม. มอนเต้ พระราม 9 จึงมีราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่าคอนโดโครงการอื่นในย่าน พระรามเก้า-พัฒนาการ-รามคำแหง ด้วยทำเล ขนาดห้อง และพื้นที่ส่วนกลางที่ใกล้เคียงกัน หากไม่นับเรื่องวิวของตึกสูง มอนเต้ พระราม 9 ถือเป็นอีกโครงการที่มีราคาน่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหาห้องชุดสำหรับพักอาศัยในย่านนี้
*หมายเหตุ : ภาพประกอบในบทความเป็นเพียงไอเดียการตกแต่งของห้องตัวอย่าง
การคำนวณยอดผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน
ปรับรายละเอียดด้านล่างเพื่อคำนวณยอดผ่อนชำระต่อเดือน