รีวิวทาวน์โฮม เอ็มไลฟ์ บางแค-สาทร ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน ใกล้ MRT เพียง 5 นาที

ถ้าเพื่อนๆ สนใจและอยากทราบรายละเอียดของโครงการ ตาม Home Buyers ไปดูกันค่ะ

Factsheet

ชื่อโครงการ :	เอ็มไลฟ์ บางแค-สาทร
บริษัท :	บริษัท เพลินพัฒน์ แอสเสท จำกัด
ที่ตั้งโครงการ :	ซ.กาญจนาภิเษก 5 ถนนเกาญจนาภิเษก แขวงหลักสอง 10160
รายละเอียดโครงการ :	ทาวน์โฮม 2 ชั้น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1-2 ที่จอดรถ บนทำเลสาทร
จำนวน :	204 ยูนิต
ค่าส่วนกลาง :	50 บาท/ ตร.ว./เดือน
พื้นที่ใช้สอย :	113.4-124.2 ตร.ม.
พื้นที่ :	17.5 - 18.9 ตร.ว.
รูปแบบการก่อสร้าง :	Precast
สิ่งอำนวยความสะดวก :	Clubhouse, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, Fitness, ห้องรับรองเพดานสูง Double Volume, สวนสาธารณะ, สนามเด็กเล่น, Jogging Track
ระบบรักษาความปลอดภัย :	เข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Auto Access Card, กล้อง CCTV, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแล 24 ชม.
ราคาเริ่มต้น :	3.29 ล้านบาท* (สอบถามโครงการอีกครั้ง)
โทร :	063-237-5222
เว็บไซต์ :	https://mlifebangkhae-sathon.com/

Highlight : เอ็มไลฟ์ บางแค-สาทร

ทาวน์โฮมใหม่ ดีไซน์ สไตล์ “Timeless” ผสมผสานในงานออกแบบร่วมสมัยได้ลงตัว ทำให้บ้านดูโมเดิร์นแต่ก็มีความคลาสสิกอยู่ในตัว และแต่ละแบบบ้านได้ออกแบบให้มีช่องหน้าต่างและประตูกระจกบานสไลด์ขนาดใหญ่ ทำให้ภายในดูกว้าง รับลม รับแสงจากธรรมชาติได้ดี

รองรับครอบครัวขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง ด้วยฟังก์ชัน 4 ห้องนอน ที่มีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 113.4 ตร.ม. และมีพื้นที่จอดรถได้สูงสุดถึง 2 คัน หมดกังวลเรื่องที่จอดรถไม่เพียงพอไปได้เลย

ส่วนกลางมีครบ ตอบโจทย์ความต้องการในไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ภายในโครงการจะมีสิ่งอำนวยสะดวกมาให้ สามารถใช้บริการได้ทุกช่วงวัย มีตั้งแต่ Clubhouse Fitness สระว่ายน้ำ สวนสาธารณะที่มีทั้งสนามเด็กเล่น Jogging Track ให้สมาชิกในครอบครัวได้ออกมาทำกิจกรรม Outdoor ร่วมกัน

ทำเลติดถนนกาญจนาภิเษก และใกล้ MRT สถานีหลักสอง เพียง 5 นาที ที่ตั้งของโครงการถือว่าเป็นทำเลที่มีการเดินทางสะดวกทั้งรถส่วนตัวและขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเดินทางรอบนอกพื้นที่กรุงเทพ หรือเชื่อมเข้าใจกลางเมืองไปยังแหล่งงาน แหล่งธุรกิจ CBD ทำได้ง่าย และมีทางเลือกหลากหลายในการเดินทาง

รายล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์มากมาย การอยู่อาศัยในย่านนี้ ไม่ต้องกลัวว่าจะหาของกินยาก หรือใช้ชีวิตลำบาก เพราะรอบๆ โครงการจะมีซูเปอร์มาร์เก็ตเล็กใหญ่ มีตลาดขายของสด ร้านอาหาร และห้างชื่อดัง อย่าง The Mall บางแคที่ห่างออกไปเพียง 2.7 กม.เท่านั้น รวมไปถึงยังมีสถานที่สำคัญอื่นๆ ที่เป็นปัจจัยยังชีพเปิดให้บริการอีกด้วย

Facility

เริ่มต้นมาถึงหน้าโครงการ จะเห็นซุ้มประตูรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าคล้ายกับกรอบรูป ภาพรวมการออกแบบซุ้มประตูดูเรียบง่าย แต่แอบซ่อนกิมมิค ที่เป็นดีเทลของขอบสี่เหลี่ยมเป็นชั้นๆ ลึกเข้าไปด้านใน ทำให้ดูมีมิติและทันสมัย ที่มาพร้อมกับป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งโดดเด่นอยู่ด้านหน้าเลยค่ะ

ตรงซุ้มประตูโครงการจะมีช่องแบ่งเป็นทางเข้า-ออกไว้ชัดเจน และกั้นด้วยประตูไม้กระดก สำหรับการเข้า-ออกของลูกบ้านจะใช้ระบบ Auto Access Card ส่วนแขกผู้มาเยี่ยมจะใช้วิธีการแลกบัตร เรื่องความปลอดภัย บริเวณนี้จะมีกล้อง CCTV ไว้คอยบันทึกการเข้า-ออกของรถทุกคัน และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลให้ 24 ชม.

เข้ามาด้านใน พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ฝั่งด้านหน้าโครงการใกล้กับทางเข้า ตรงนี้จะเป็นที่ตั้งของ M Club Clubhouse 2 ชั้น Fitness จะอยู่ด้านบน ส่วนด้านล่างจะเป็นสระว่ายน้ำแบบ Outdoor ที่ได้บรรยากาศความร่มรื่นของสวนสาธารณะที่อยู่ด้านข้างในบริเวณเดียวกัน

ด้านใน Clubhouse ชั้น 1 จะเป็นโซนห้องรับรองเพดานสูงแบบ Double Volume ปัจจุบันห้องนี้จะเป็นส่วนของ Sale Gallery ไว้คอยต้อนรับผู้ที่สนใจที่อยากเข้ามาเยี่ยมชมโครงการ แต่ในอนาคตห้องนี้จะเป็น Co-working Space ให้ลูกบ้านได้เข้ามาใช้บริการ นั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือชวนเพื่อนๆ มานั่งคุยพักผ่อน ชมวิวสวนด้านข้าง ก็ได้ Feeling สบายๆ ผ่อนคลายได้ดี

ส่วนพื้นที่ด้านนอกของ M Club จะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือแบบ Outdoor ซึ่งจะอยู่ใกล้กับสวนสาธารณะของโครงการ ทำให้บรรยากาศการพักผ่อนได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ภายในสระว่ายน้ำจะแบ่งโซนเด็ก โซนผู้ใหญ่ไว้ให้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการ และบริเวณพื้นที่ข้างสระจะมีมุมนั่งพักผ่อนไว้ 2 จุด ถ้าลูกบ้านคนไหนพาลูกๆ หลานๆ มาว่ายน้ำ ก็สามารถมานั่งรอตรงนี้ได้ค่ะ

เข้ามาด้านใน Indoor ในตัวอาคารกันบ้าง เมื่อเข้ามาแล้วจะรู้สึกถึงความโปร่งโล่งของบรรยากาศภายในอาคารได้อย่างชัดเจน เพราะด้วยการออกแบบที่เป็นเพดานสูง มีผนังกระจกอยู่รอบๆ เปิดมุมมองชมวิวท้องฟ้าแบบเต็มตา ทำให้รู้สึกว่าอาคารนี้ดูกว้างมากๆ และตรงกลางนี้เองจะเป็นมุมของบันไดที่สามารถขึ้นไปยังชั้น 2 ซึ่งมีห้อง Fitness อยู่ด้านบน

ชั้น 2 ของ M Club จะเป็นพื้นที่ของห้อง Fitness ลูกบ้านสามารถมาออกกำลังกายแบบจริงจังได้เลย  เพราะทางโครงการได้จัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายไว้ให้พร้อม เลือกเล่นได้หลากหลายตามความถนัดของแต่ละคนได้ และภายในห้องนี้สามารถที่จะเทควิวสวนสาธารณณะภายในโครงการ มุมด้านข้างจะเห็นวิวชุมชนใกล้เคียง

พื้นที่ด้านข้าง Clubhouse จะเป็นสวนสาธารณะให้ลูกบ้านได้ออกมาทำกิจกรรมร่วมกันกับสมาชิกในครอบครัว ไม่ว่าจะออกมาเดินเล่นด้วยกัน ออกกำลังกายเบาๆ หรือจะมานั่งเล่นผ่อนคลายหลังกลับมาจากทำงานเหนื่อยๆ ก็ได้เช่นกัน ซึ่งใต้ต้นไม้จะมีมุมสำหรับนั่งพักผ่อนจัดเตรียมไว้ให้

ภายในสวนสาธารณะแห่งนี้จะมีทั้งสนามเด็กเล่น เครื่องออกกำลังกาย และลู่ Jogging Track ที่สามารถรองรับการใช้งานให้กับลูกบ้านได้ทุกช่วงวัย

สำหรับถนนภายในโครงการจะมีขนาดกว้าง ขับรถสวนทางกันได้สะดวก ไม่ต้องกังวลเรื่องการสัญจรติดขัด โดยถนนเมนหลักจะมีความกว้างประมาณ 12 ม. ส่วนถนนในซอยบ้านมีความกว้างอยู่ประมาณ 9 ม.

Design & Function

โครงการ เอ็มไลฟ์ บางแค-สาทร พรีเมียมทาวน์โฮมดีไซน์ใหม่ ในสไตล์ Timeless ที่นำเอาความคลาสสิกมาผสมผสานกับความโมเดิร์นได้ลงตัว โดยทาวน์โฮมในโครงการนี้จะมีช่องหน้าต่าง และประตูกระจกบานสไลด์ขนาดใหญ่ อยู่ตรงตัวอาคารหน้าบ้านและหลังบ้าน สำหรับหน้าต่างของทาวน์โฮมจะมีการดีไซน์เป็นรูปตาราง สร้างบรรยากาศให้บ้านดูโฮมมี่ เหมาะกับเป็นที่พักอาศัยแนวแฟมิลี่มากๆ

ทาวน์โฮมทุกแบบจะมีโครงสร้างที่เป็นลักษณะ Precast ก็คือ มีความแข็งแรง คงทน ผนังมีความทึบทำให้เก็บเสียงได้ดี และภายในบ้านจะไม่มีเสา เหลี่ยมมุมของอาคาร ช่วยให้จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ง่ายขึ้น

Home Type 

โครงการมีแบบบ้านทาวนโฮมให้เลือก 2 แบบ ดังนี้

• แบบบ้าน M1 หน้ากว้าง 5.4 ม. พื้นที่ใช้สอย 113.4 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ

• แบบบ้าน M2 หน้ากว้าง 5.4 ม. พื้นที่ใช้สอย 124.2 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

แบบบ้าน M1

ทาวน์โฮมหลังแรกที่จะพาไปชม คือ แบบบ้าน M1 ซึ่งจะเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น มีที่ดินเริ่มต้น 17.5 ตร.ว หน้ากว้าง 5.4 ม. พื้นที่ใช้สอย 113.4 ตร.ม. ฟังก์ชันภายในบ้าน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ

ทาวน์โฮมหลังนี้จะมีห้องนอนที่ 4 อยู่ชั้นล่าง สามารถจะปรับเปลี่ยนฟังก์ชันห้องนี้ให้เป็นห้องทำกิจกรรมตามไลฟ์สไตล์ผู้พักอาศัยได้ และพื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านได้ลงเสาเข็มไว้ให้เรียบร้อย รองรับเป็นพื้นที่สำหรับครัวไทยได้อีกด้วยค่ะ

เรามาดูการออกแบบแปลนของแบบบ้าน M1 กันค่ะ

ชั้น 1 เริ่มต้นหน้าบ้านจะมีพื้นที่สวนหย่อมเล็กๆ ที่เพียงพอสำหรับทำมุมเป็นพื้นที่สีเขียวภายในรั่วบ้านได้ และข้างๆ จะเป็นลานจอดรถ ซึ่งจอดได้ 1 คัน เข้าไปข้างในพื้นที่ใช้สอยจะมีขนาดกว้าง และมีฟังก์ชันการใช้งานที่อยู่ในพื้นที่เชื่อมต่อกันได้ทั้งหมด ทำให้เวลาเราอยากจะแต่งบ้าน ก็สามารถที่จะวางเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย อยากปรับเปลี่ยนโยกย้ายจัดบ้านใหม่ได้สะดวก ส่วนหลังบ้านจะเป็นพื้นที่ของลานซักล้าง

ชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ส่วนของพักผ่อนทั้งหมด ซึ่งมีห้องนอน 3 ห้อง สำหรับ Master Bedroom จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ขนาดความกว้างของห้องจะได้เท่ากับขนาดหน้ากว้างของบ้านเลย รวมถึงห้องน้ำส่วนกลางจะแบ่งเป็น 2 ห้อง 2 ฟังก์ชัน แบ่งใช้งานชัดเจน

หน้าบ้านจะมีพื้นที่ลานจอดรถ รองรับการจอดได้ 1 คัน ซึ่งบ้านมาตรฐานส่งมอบจะปูด้วยพื้นคอนกรีตแยกออกจากตัวบ้าน และตรงบริเวณนี้จะมีห้องเก็บของ สามารถที่จะเก็บพวกอุปกรณ์ต่างๆ หรือเครื่องมือช่างได้ ส่วนตรงประตูหน้าบ้านจะมีพื้นที่ Terrace ยกพื้นสูงขึ้นมา เอาไว้เป็นพื้นที่ใส่รองเท้า หรือจะวางตะกร้าใส่ร่มไว้บริเวณนี้ได้ 

ประตูทางเข้า จะเป็นประตูกระจกบานสไลด์ขนาดใหญ่ ซึ่งจะใช้เป็นกระจกเขียวตัดแสง มีคุณสมบัติป้องกันความร้อนได้ดี แต่ก็ยังสามารถให้แสงสว่างส่องเข้าไปในบ้านได้ ช่วยให้บ้านได้บรรยากาศโปร่งโล่ง พร้อมกับยังช่วยลดความร้อนให้ภายในบ้านมีอากาศที่เย็นขึ้น

เปิดประตูเข้ามา จะรู้สึกถึงแสงสว่างที่ส่องเข้ามาภายในบ้านได้ทั่วถึง ทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย อยู่อาศัยได้แบบสบาย โดยพื้นที่ชั้น 1 จะมีพืันที่ใช้สอยที่เชื่อมต่อกัน ข้อดี คือ สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ลงตัวได้ง่าย ปรับแต่งฟังก์ชันการใช้งานได้อิสระ รวมถึงทำให้บ้านดูกว้างมากขึ้นอีกด้วย

มุมแรกของบ้านที่อยู่ใกล้กับประตูทางเข้า จะเป็นพื้นที่มุมนั่งเล่น ที่สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้ ฝั่งตรงข้ามจะติดตั้งทีวีแบบแขวนเหมือนกับบ้านตัวอย่างแบบนี้ก็ได้ เพราะระยะสายตาตรงมุมที่นั่งดู มีระยะกำลังดี ไม่ใกล้หรือไม่ไกลเกินไป

ถัดจากมุมนั่งเล่น สามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่รับประทานอาหาร และครัวหลังบ้านได้ ส่วนฝั่งด้านข้างจะเป็นห้องน้ำส่วนกลางชั้นล่าง และห้องนอนที่ 4 ชั้นนี้จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 2.65 ม. งานพื้นจะปูด้วย SPC ลายไม้ มีความทนทานต่อการใช้งาน ไม่บวมน้ำและที่สำคัญปลวกไม่กินด้วยค่ะ

ห้องน้ำส่วนกลางชั้นล่างจะอยู่ตำแหน่งกลางบ้าน ภายในห้องจะมีพื้นที่ใช้งานได้ครบ ทั้งส่วนของพื้นที่โซนเปียก โซนแห้งเลย อีกทั้งถ้ามีแขกมาเยี่ยมบ้าน สามารถเป็นห้องน้ำที่รองรับแขกได้สะดวก เพราะอยู่ใกล้กับมุมนั่งเล่น

ตรงมุมนี้จะเป็นพื้นที่เชื่อมระหว่างมุมนั่งเล่น และมุมรับประทานอาหาร มีขนาดพื้นที่กว้างพอที่จะจัดสรรฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มได้ อย่างบ้านตัวอย่างจะทำเป็นมุมเก็บของ ส่วนลูกบ้านก็สามารถดีไซน์การใช้งานได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะวางเป็นโต๊ะทำงาน หรือจะ Built in เคาน์เตอร์ ทำเป็นมุมชงกาแฟ มุมบาร์เครื่องดื่มส่วนตัวในบ้านก็ได้ค่ะ

โซนรับประทานอาหารจะอยู่ด้านในสุดของบ้าน ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องนอนที่ 4 โดยพื้นที่มุมนี้สามารถที่จะวางโต๊ะได้ถึง 4 ที่นั่ง ด้านข้างก็ยังมีพื้นที่เหลือไว้สำหรับเดินผ่านไปมาได้สบาย ด้วยทาวน์โฮมหลังนี้เป็นบ้านแปลงมุม พื้นที่ตรงนี้จึงมีช่องหน้าต่างเพิ่มมาอีก 1 บาน สามารถจะเปิดรับลม ระบายอากาศภายในบ้านได้ดี

ห้องนอนที่ 4 จะอยู่ชั้นล่าง ตรงข้ามกับโซนรับประทานอาหารเลย ห้องจะมีขนาดกลาง ถ้าหากครอบครัวไหนมีสมาชิกในบ้านไม่เยอะ สามารถที่จะทำเป็นห้องอเนกประสงค์ได้ อย่างบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งให้เป็นห้องทำงานส่วนตัว มีการ Built in โต๊ะทำงานยาวเข้ามุม ทำให้มีพื้นที่ใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งลูกบ้านสามารถนำไอเดียนี้ไปปรับใช้ได้

โซนนี้ถ้าหากเป็นบ้านมาตรฐานส่งมอบ จะเป็นส่วนของพื้นที่ลานซักล้างหลังบ้าน ที่จะเชื่อมด้วยประตูกระจกบานสไลด์ขนาดใหญ่อีกบานที่อยู่ฝั่งหลังบ้าน และพื้นที่ตรงนี้เองทางโครงการได้ลงเสาเข็ม กับก่อผนังไว้ให้แล้ว เพื่อรองรับความต้องการของผู้พักอาศัย ที่อยากจะปรับเปลี่ยนฟังก์ชันให้เป็นครัวไทย เพื่อจะขยายให้มีขนาดที่กว้างขึ้น และใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

โดยทางบ้านตัวอย่างได้แบ่งพื้นที่ครัวไทย ให้อีกส่วนเป็นพื้นที่ซักล้าง มีการออกแบบหลังคาให้เป็นลักษณะโปร่งแสง ซึ่งก็เหมาะกับการใช้งานที่เป็นห้องสำหรับซักและตากผ้า รวมไปถึงถ้าฝนตก ผ้าที่ตากตรงนี้ก็ไม่เปียกด้วยค่ะ ถือว่าเป็นไอเดียการแต่งห้องที่น่าสนใจเลย

เดินกลับเข้ามาบริเวณตรงกลางบ้าน เพื่อที่จะขึ้นบันไดไปยังชั้น 2 บันไดของทาวน์โฮมหลังนี้จะมีช่องทางเดินขึ้น-ลง ขนาดกำลังดี และตลอดทางจะมีราวจับโครงสร้างแข็งแรง เมื่อเวลาใช้งานจะได้มีความปลอดภัยมากขึ้น

เมื่อขึ้นมาถึงชั้น 2 จะเจอกับโถงทางเดินที่เชื่อมกับทุกห้องของชั้นบน ตรงกลางโถงทางเดินจะเป็นส่วนของห้องน้ำ ซึ่งได้แบ่งเป็น 2 ห้อง 2 ฟังก์ชันการใช้งาน ถือว่าเป็นการเพิ่มความสะดวกให้กับสมาชิกในครอบครัว ในช่วงเวลาเร่งรีบได้ดีเลยทีเดียว

ห้องน้ำส่วนกลางชั้นบน ห้องแรกจะเป็นฟังก์ชันของห้องอาบน้ำ ภายในก็จะมีทั้งอ่างล้างมือ และ Handshower ไว้ใช้งาน ตรงโซนเปียกจะแบ่งพื้นที่ด้วยการลดระดับพื้นลงไปอีกชั้น เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลมายังโซนล้างมือได้ รวมถึงยังมีช่องหน้าต่างมาให้อีก 1 บาน ช่วยระบายความชื้น และช่วยให้ห้องน้ำแห้งไวขึ้น

อีกห้องจะเป็นฟังก์ชันของห้องสุขา โดยจะมีโถสุขภัณฑ์ไว้ให้ และด้านบนของฝาปิดถังน้ำจะมีอ่างล้างมือแบบมินิ ให้ได้ใช้งานอีกด้วย เป็นการดีไซน์ฟังก์ชันการใช้งานที่ลงตัวเหมาะกับพื้นที่จำกัด ซึ่งทำออกมาได้น่าสนใจมากๆ 

พื้นที่ชั้น 2 จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 2.95 ม. ทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง เหมาะกับการเป็นพื้นที่พักผ่อนของสมาชิกในครอบครัว ส่วนงานพื้นจะปูด้วยวัสดุ SPC เหมือนกันกับพื้นชั้นล่าง และตรงผนังด้านบนห้องน้ำจะมีจุดรองรับการติดตัั้งระบบ Internet ให้อีกด้วย

สำหรับห้องนอนใหญ่ที่สุดของบ้าน Master Bedroom จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ภายในห้องสามารถรับแสงธรรมชาติได้ดีมากๆ เพราะมีช่องหน้าต่างบานใหญ่หันออกหน้าบ้าน ตื่นนอนมาก็สามารถชมวิวนอกบ้านได้เลย อีกทั้งภายในห้องมีพื้นที่ขนาดที่กว้าง แบ่งการใช้งานได้ครบ ทั้งส่วนของมุมพักผ่อน และมุมแต่งตัวที่มีพื้นที่เก็บเสื้อผ้า แบบ Walk-in Closet ได้

โซนมุมพักผ่อน มีขนาดที่กว้างพอจะวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ อีกทั้งยังมีพื้นที่เหลือสำหรับไว้เป็นทางเดินด้านข้างเตียงได้อีก และตรงหัวเตียงเองก็ยังมีพื้นที่สามารถที่จะวางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ เพิ่มเติม เช่นชั้นเก็บของเล็กๆ หรือโต๊ะหัวเตียงได้อย่างลงตัว

อีกฝั่งของห้องจะเป็นมุมแต่งตัวแบบส่วนตัว สามารถที่จัดสรรการใช้งานให้เป็นพื้นที่ของ Walk-in Closet ได้อย่างเป็นสัดส่วน ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน

และตรงมุมนี้จะมีช่องหน้าต่างมาให้อีก 1 บาน ทำให้บรรยากาศการแต่งตัวไม่รู้สึกอึดอัด หรือมืดทึบ เพราะมีแสงสว่างส่องเข้ามาถึง รวมถึงผนังด้านข้างสามารถที่จะทำเป็น Walk-in Closet เก็บเสื้อผ้าและ Accessory ต่างๆ ได้แบบพอเหมาะพอดีเลย

ห้องนอนที่ 2 จะมีพื้นที่ขนาดกลาง วางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้สบาย ภายในห้องก็มีการจัดวางมุมต่างๆ ได้ลงตัว มีการใช้งานได้ทั้งส่วนของมุมทำงาน ชั้นวางของและ Built in ตู้แขวนเสื้อผ้า ได้ให้ดูเป็นตัวอย่าง

ซึ่งการดีไซน์ฟังก์ชันการใช้งานของห้องนี้จะเป็นแบบเข้ามุม ทำให้มีพื้นที่ด้านข้างเดินเข้าออกจากห้องได้สะดวก ทำให้รู้สึกโล่ง สบาย เมื่ออยู่อาศัย

ห้องนอนที่ 3 จะมีขนาดใกล้เคียง และมีการแบ่งฟังก์ชันการใช้งานเหมือนกันกับห้องนอนที่ 2 แต่จะต่างตรงห้องนี้มีการ Built in ตู้เสื้อผ้าแบบบานปิด และด้านบนจะเป็นส่วนของตู้เก็บของด้วย ทำให้สามารถที่เก็บของได้เยอะพอสมควร ลูกบ้านสามารถนำไอเดียนี้ไปใช้ได้ค่ะ

แบบบ้าน M2

แบบบ้านตัวอย่างอีกหลัง จะเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้นเช่นเดียวกัน ซึ่งมีที่ดินเริ่มต้น 18.9 ตร.ว. หน้ากว้าง 5.4 ม. พื้นที่ใช้สอย 124.2 ตร.ม. ฟังก์ชันภายในบ้าน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

สำหรับทาวน์โฮมแบบบ้าน M2 หลังนี้จะมีความพิเศษตรงที่มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างมากขึ้น รองรับครอบครัวขนาดกลางได้ และหน้าบ้านสามารถที่จะจอดรถได้ถึง 2 คัน หมดกังวลเรื่องที่จอดรถไม่เพียงพอ อีกทั้งพื้นที่หลังบ้านทางโครงการลงเสาเข็มไว้ให้เรียบร้อยเช่นเดียวกันกับแบบบ้าน M1 จะปรับแต่งเพิ่มเป็นครัวไทยได้สบาย

แปลนทาวน์โฮมหลังนี้ มีฟังก์ชันแบ่งการใช้งานตามนี้

ชั้น 1 ด้านหน้าบ้านจะมีพื้นที่จอดรถ จอดได้ถึง 2 คัน เข้ามาในบ้านจะเจอกับมุมนั่งเล่น และบันไดขึ้นชั้น 2 โซนมุมนั่งเล่นจะเชื่อมไปกับฟังก์ชันอื่นๆ ที่อยู่ในชั้น 1 ทั้งหมด ส่วนหลังบ้านจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ สามารถเปิดออกไปยังพื้นที่ลานซักล้างที่ลงเสาเข็มไว้ให้แล้วได้ และชั้นนี้ยังมีห้องนอนที่ 4 หรือห้องอเนกประสงค์อีกด้วย

ชั้น 2 จะมีห้องนอน 3 ห้อง ห้องนอนใหญ่สุดจะอยู่ฝั่งหน้าบ้านที่มีความกว้างเท่ากับหน้ากว้างของบ้านเลย พร้อมกับภายในห้องสามารถทำเป็นมุม Walk-in Closet รวมถึงยังมีห้องน้ำในตัวด้วย ส่วนห้องน้ำส่วนกลางจะอยู่ตรงโถงทางเดิน

บริเวณหน้าบ้าน ตรงพื้นที่ลานจอดรถ สามารถจอดได้ถึง 2 คัน ก่อนจะถึงประตูเข้าบ้าน จะมี Terrace ยกพื้นสูงขึ้นมาอีกชั้น เพื่อแบ่งสัดส่วนการใช้งานแยกออกมาจากลานจอดรถ ตรงนี้สามารถจะวางชั้นรองเท้า ตกแต่งด้วยการวางต้นไม้เล็กๆ น้อยๆ เพิ่มบรรยากาศความร่มรื่นให้กับบ้านได้ค่ะ

เข้ามาในบ้าน จะเห็นพื้นที่ใช้สอยมีขนาดที่กว้างขวาง แบ่งสัดส่วนการใช้งานได้ครบทุกฟังก์ชันการอยู่อาศัยเลย มีทั้งส่วนของมุมนั่งเล่นที่สามารถรับแขก หรือเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัวได้ ถัดไปด้านในก็จะเป็นโซนรับประทานอาหาร และพื้นที่ลานซักล้างที่ปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ครัว ด้านข้างจะเป็นห้องนอนที่ 4 และห้องน้ำส่วนกลางชั้นล่าง

ตรงมุมนั่งเล่น มีขนาดกว้างเลยค่ะ วางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งและปรับเป็นโซฟาเบดชิดมุมด้านข้างได้ลงตัว แถมยังมีพื้นที่เหลือวางโต๊ะกลาง และตรงข้ามสามารถติดตั้งทีวีแบบแขวนอย่างบ้านตัวอย่างได้อีกด้วย นอนดูทีวีได้สบายๆ พร้อมกับรับชมวิวหน้าบ้านจากประตูทางเข้า และรับลมธรรมชาติจากหน้าต่างด้านข้างได้

ถัดเข้ามาด้านในมุมนี้ถูกกั้นด้วยชั้นเก็บของแบบตู้ยาว เพื่อให้มีการใช้งานเป็นสัดส่วนมากขึ้น โซนนี้จะเป็นมุมรับประทานอาหาร วางโต๊ะสำหรับ 4 ที่นั่งได้ และบริเวณนี้มีช่องหน้าต่างด้านข้างให้อีก 1 บาน เพราะว่าเป็นบ้านแปลงมุม ทำให้มีแสงส่องเข้ามา ช่วยให้บรรยากาศดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น

สำหรับชั้น 1 จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 2.65 ม. และพื้นจะปูด้วยวัสดุ SPC เหมือนกันกับแบบบ้าน M1 เลยค่ะ

ฝั่งตรงข้ามมุมรับประทานอาหารจะเป็นห้องนอนที่ 4 หรือห้องอเนกประสงค์ เป็นฟังก์ชันที่เพิ่มเข้ามา เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยในไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่เริ่มใช้ชีวิตอยู่บ้านกันมากขึ้น ไม่ว่าจะนั่งทำงานที่บ้าน หรือมีธุรกิจของตัวเอง และอยากมีห้องส่วนตัวที่แยกจากห้องนอน เอาไว้ทำกิจกรรมงานส่วนอื่นๆ ได้สะดวก ความพิเศษของห้องนี้จะมีผนังที่เป็นกระจกเข้ามุม รับแสงจากในบ้านได้ และเป็นจุดเชื่อมปฏิสัมพันธ์กับคนในบ้านได้แบบไม่ขาดตอน

ด้านในของห้องนอนที่ 4 ทางบ้านตัวอย่างได้ปรับฟังก์ชันให้เป็นห้องทำงานส่วนตัว มีการ Built in โต๊ะยาวชิดผนัง เชื่อมไปกับมุมโซฟาที่อยู่ด้านข้าง ส่วนอีกฝั่งจะเป็นหน้าต่างที่เชื่อมกับพื้นที่หลังบ้าน หรือถ้าครอบครัวไหนมีญาติผู้ใหญ่ ห้องนี้สามารถรองรับเตียง 3.5 ฟุตได้ ปรับเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงวัยได้ค่ะเพราะด้านข้างจะมีห้องน้ำส่วนกลาง สามารถเดินไปใช้งานได้สะดวกเลย

ห้องน้ำส่วนกลางชั้นล่าง จะอยู่ใกล้กับบันไดและห้องนอนที่ 4 มีขนาดกำลังดี สามารถใช้งานได้จริง ภายในห้องจะมีทั้งโซนแห้งและโซนเปียก ส่วนด้านบนจะมีพัดลมดูดอากาศมาให้ด้วย เพื่อช่วยระบายความชื้นของห้องน้ำ

โซนสุดท้ายของชั้นล่าง ตรงนี้จะเป็นพื้นที่ลานซักล้างหลังบ้าน ถ้าเป็นบ้านมาตรฐานส่งมอบจะเป็นพื้นที่โล่งที่โครงการได้ลงเสาเข็ม และก่อผนังสูงให้เรียบร้อย สำหรับบ้านตัวอย่างได้แต่งห้องนี้ให้เป็นพื้นที่ครัวที่ถูกขยายให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น และด้านข้างจะมีมุมซักล้าง กั้นด้วยกระจกบานสไลด์อีก 1 ชั้น เพื่อแบ่งการใช้งานให้ชัดเจน และกลิ่นอาหารจะได้ไปรบกวนติดเสื้อผ้าที่ซักใหม่ๆ ด้วยค่ะ

มุมซักล้าง เป็นโซนที่มีแสงสว่างส่องเข้ามามากที่สุด เพราะหลังคาจะเป็นลักษณะโปร่งแสง ข้อดี ช่วยให้ผ้าแห้งไว และยังเป็นอีกจุดที่ช่วยดึงแสงเข้าไปในบ้านเพิ่มเติมได้ มุมนี้สามารถวางเครื่องซักผ้าขนาดมาตรฐานได้พอดี ข้างๆ ยังสามารถแบ่งพื้นที่วางชั้นสำหรับเก็บผ้าได้อีก ด้านในก็จะเป็นพื้นที่วางถังเก็บน้ำ+ปั๊มน้ำ ที่มาพร้อมกับบ้านมาตรฐานส่งมอบ 

ต่อไปจะพาไปชมชั้น 2 กันบ้าง สำหรับบันได ตำแหน่งจะอยู่ด้านหน้าบ้านใกล้กับมุมนั่งเล่น โถงบันไดจะมีช่องหน้าต่างมาให้ 1 บาน ทำให้บริเวณนี้ไม่มืดทึบ และช่วยให้การเดินขึ้น-ลงไม่รู้สึกคับแคบ อีกทั้งตลอดแนวของขั้นบันได จะมีราวจับไว้ให้ ใช้งานได้สะดวกและปลอดภัย

ขึ้นมาถึงชั้น 2 ฝั่งหน้าบ้านจะเป็นห้อง Master Bedroom ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้อง จะอยู่ฝั่งหลังบ้าน ตรงกลางโถงทางเดินจะเป็นห้องน้ำส่วนกลางชั้นบน และบริเวณนี้จะมีจุดรองรับการติดตั้งระบบ Internet ให้ด้วย ซึ่งอยู่ตรงผนังหน้าห้อง Master Bedroom

ชั้น 2 ของทาวน์โฮมหลังนี้จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 2.95 ม. และพื้นจะปูด้วยวัสดุ SPC เช่นเดียวกันกับแบบบ้าน M1 ค่ะ

ห้องน้ำส่วนกลางชั้นบน จะอยู่ตรงกลางระหว่างห้อง Master Bedroom และห้องนอนที่ 2, 3 แปลนของห้องน้ำจะเป็นรูปตัว L ซึ่งจะช่วยให้การแบ่งโซนของการใช้งานเป็นสัดส่วนมากขึ้น อย่างโซนแห้งจะอยู่ติดกับประตู ที่มีอ่างล่างมือ และโถสุขภัณฑ์ ส่วนโซนเปียกอยู่อีกฝั่ง ลึกเข้าไปข้างใน ลูกบ้านสามารถที่จะหาฉากกั้นติดเพิ่มเติมได้ และห้องนี้มีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ตรงโซนเปียก ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี

Master Bedroom ห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะที่สุด จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน มีขนาดกว้าง จัดวางได้หลากหลายมุมการใช้งาน และทางบ้านตัวอย่างได้แต่งห้องนี้ให้ความรู้สึกคล้ายกับห้องในคอนโด ที่เริ่มต้นทางเข้าห้องก็จะเป็นมุมนั่งเล่น มีโซฟา ติดตั้งทีวีแบบแขวนได้ และเชื่อมไปยังด้านในของห้อง ที่จะเป็นโซนพักผ่อน และมุมแต่งตัวแบบส่วนตัว

เดินเข้ามาด้านใน ตรงนี้สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบายเลย ข้างๆ จะเป็นช่องหน้าต่างบานใหญ่ ช่วยทำให้ห้องมีบรรยากาศผ่อนคลาย สบายตาจากแสงธรรมชาติที่ลอดส่องเข้ามาได้ทั่วถึง ชวนให้อยากเข้ามานอนเล่นพักผ่อนได้ตลอดทั้งวันเลย

ฝั่งตรงข้ามเตียง ยังมีพื้นที่สำหรับที่จะทำมุม Walk-in Closet ได้อีก แบบไม่ได้เล็กอีกด้วย สามารถจัดเก็บเสื้อผ้าต่างๆ ได้เยอะจำนวนนึงเลย อีกทั้งบริเวณนี้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับที่จะ Built in โต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มเติมได้ ถือว่าการใช้งานในพื้นที่ตรงนี้ครบจบในที่เดียว

Master Bedroom จะมีห้องน้ำส่วนตัวให้ด้วย ซึ่งเชื่อมกับมุม Walk-in Closet ด้านในห้องจะมีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน มาพร้อมกับสุขภัณฑ์ครบชุด ซึ่งบ้านมาตรฐานส่งมอบจะได้สุขภัณฑ์ของแบรนด์ Hafele, nahm 

ห้องนอนที่ 2, 3 จะอยู่ฝั่งหลังบ้านมีขนาดใกล้เคียงกัน โดยห้องนี้จะมีหน้าต่างมาให้ 1 บาน ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้ รวมถึงยังแบ่งโซนเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง ที่สามารถจะใช้งานเป็นโต๊ะทำงานได้อีกด้วย 

ฝั่งด้านข้างของเตียงที่ถัดจากมุมโต๊ะเครื่องแป้ง ยังมีพื้นที่เหลือไว้สำหรับ Built in ตู้เสื้อผ้าบานปิดสูงถึงฝ้าเพดานได้ลงตัวแบบพอดี

ห้องนอนที่ 3 บ้านตัวอย่างได้ Built in เป็นเตียงแบบชั้นลอย ทำให้ข้างล่างจะมีพื้นที่เพิ่มในการใช้สอย ให้เป็นมุมทำการบ้านของเด็กๆ ได้ ซึ่งการออกแบบนี้เป็นไอเดียที่ดีมากๆ สำหรับห้องที่มีพื้นที่จำกัด

ข้างๆ เตียงจะเป็นพื้นที่ส่วนของ Built in ตู้เสื้อผ้า มีการดีไซน์ที่เชื่อมต่อกันกับเตียงนอน ที่มีช่องเก็บของทั้งบานปิดและบานเปิด ส่วนพื้นด้านล่างจะวางเบาะนุ่มเอาไว้ ทำเป็นมุมนั่งเล่น นอนเล่นได้อีกจุดของห้อง

บ้านมาตรฐานและวัสดุ

สิ่งที่จะมาพร้อมกับบ้านมาตรฐานส่งมอบ มีดังนี้ค่ะ

• สุขภัณฑ์ในห้องน้ำครบชุด ของแบรนด์ Hafele, nahm 
• กระจกเขียวตัดแสงทั้งหลัง
• วัสดุพื้น SPC ทั้งชั้นบนและล่าง
• ถังเก็บน้ำ+ปั๊มน้ำ
• พัดลมดูดอากาศในห้องน้ำ (กรณีที่ห้องน้ำไม่มีช่องหน้าต่างมาให้)
• จุดรองรับสำหรับการติดตั้งระบบ Internet
• ลงเสาเข็มเพิ่มให้พร้อมโครงสร้างบริเวณพื้นที่ลานซักล้างหลังบ้าน
• โคมดาวน์ไลท์ ประหยัดไฟ
• ระบบท่อน้ำยา กำจัดปลวก
• จุดติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น

Location : เอ็มไลฟ์ บางแค-สาทร

โครงการตั้งอยู่ในซอยกาญจนาภิเษก 5 ติดกับถนนใหญ่ อย่างถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก) ซึ่งอยู่ในโซนทำเลเพชรเกษม-บางแค โดยพื้นที่รอบโครงการใกล้กับถนนสำคัญหลายสาย และเชื่อมกับถนนกาญจนาภิเษก ทำให้ทำเลนี้มีการเดินทางที่สะดวก

นอกเหนือจาการเดินทางด้วยเส้นถนนที่สะดวกแล้ว ยังมีทางเลือกการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะที่สะดวกมากเช่นเดียวกัน ด้วยที่ตั้งโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากเส้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (MRT) เพียงเดินทางประมาณ 5 นาทีก็ถึงสถานีหลักสอง ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด อีกทั้งเส้นรถไฟฟ้าสายนี้มีจุด Interchane ที่สถานีบางหว้า ห่างกันไม่กี่ป้าย สามารถเปลี่ยนสายไปรถไฟฟ้าสายสีเขียว นั่งต่อไปยัง อโศก สยาม กรุงเทพชั้นในได้สบาย

โซนเพชรเกษม-บางแค เป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก มีคนอยู่อาศัยกันเยอะ การใช้ชีวิตในย่านนี้มีความสะดวกสบาย รวมถึงรอบโครงการเองทั้งเส้นถนนกาญจนาภิเษก และเพชรเกษม จะรายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้า Community Mall ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดมากมาย ให้เราเลือกจับจ่ายใช้สอยกัน เช่น ใกล้ๆ กับโครงการเลย จะมี The Explace, Makro บางบอน ถัดไปเส้นเพชรเกษมจะมี The Mall บางแค, Lotus’s บางแค, HomePro บางแค, Seacon Square บางแค

ตลาดที่ใกล้กับโครงการก็จะมี ตลาดบางแค ตลาดใหญ่ที่ขายพวกของสดต่างๆ ในราคาที่เป็นมิตร อื่นๆ รอบโครงการก็มีตลาดอินดี้ กัลปพฤกษ์ ตลาดพลู 

สำหรับโรงพยาบาลที่เปิดให้บริการใกล้กับโครงการ มีทั้งโรงพยาบาลบางปะกอก 8, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค, โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชันแนล หนองแขม ส่วนโรงเรียนใกล้ๆ โครงการ จะมีโรงเรียนเลิศหล้าถนนกาญจนาภิเษก, โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า, มหาวิทยาลัยสยาม

อีกทั้งถนนกาญจนาภิเษกยังมีแหล่งงานราชการอีกด้วย เช่น สำนักงานเขตบางแค, สำนักงานประกันสังคม 

การเดินทาง

การเดินทางไปยังโครงการ ในครั้งนี้ทีมงานจะเลือกเดินทางเส้นถนนเพชรเกษม วิ่งยาวตามแนวเส้นรถไฟฟ้าเพื่อไปเชื่อมกับถนนกาญจนาภิเษก เป็นเส้นทางที่วิ่งสะดวกและใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์มากมายค่ะ

เริ่มต้นวิ่งบนถนนเพชรเกษม ฝั่งขาออก วิ่งยาวตามแนวเส้นรถไฟฟ้าไปเรื่อยๆ เพื่อมุ่งหน้าที่จะเลี้ยวซ้ายไปถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก)

ระหว่างทางเราจะเห็นห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และตลาดเรียงรายข้างทางเป็นช่วงๆ เลยค่ะ

เมื่อขับผ่าน MRT สถานีหลักสอง ให้เตรียมตัวเลี้ยวซ้ายตรงทางแยก เพื่อที่จะไปถนนกาญจนาภิเษก

เมื่อเลี้ยวมาแล้ว ให้ขับตรงไปเรื่อยๆ บนถนนกาญจนาภิเษก และคอยมองป้ายสะพานกลับรถ เมื่อเห็นป้ายสะพานกลับรถให้เตรียมตัวชิดขวา เพื่อที่จะกลับรถและขับไปยังถนนอีกฝั่ง

เมื่อกลับรถมาแล้ว ให้ชิดซ้ายและสังเกตป้ายรถเมล์ที่อยู่ใกล้กับศูนย์บริการรถยนต์ COCKPIT เพราะว่าปากซอยกาญจนาภิเษก 5 อยู่บริเวณนั้น ถ้าเห็นป้ายรถเมล์แล้ว ให้เตรียมตัวเลี้ยวซ้ายได้เลย

ภายในซอยกาญจนาภิเษก 5 จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย รวมถึงมีร้านสะดวกซื้อ ตลาด ร้านอาหาร จะหนาแน่นเป็นพิเศษอยู่ช่วงต้นซอย 

ขับเข้ามาในซอยกาญจนาภิเษก 5 ประมาณ 200 ม. ให้เตรียมตัวเลี้ยวขวาเข้าซอยสุขสันต์ 6 ขับตรงไปไม่ไกลจะเห็นสะพาน ให้ขึ้นสะพานข้ามไป และจะถึงโครงการ เอ็มไลฟ์ บางแค-สาทร ที่อยู่ด้านหน้าค่ะ

Price & Promotion

โครงการ เอ็มไลฟ์ บางแค-สาทร พรีเมียมทาวน์โฮมใหม่ ที่มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ เปิดขายใน ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3.29 ล้านบาท 

(*ราคาขาย ณ เดือนกรกฎาคม 65 โปรดสอบถามทางโครงการอีกครั้ง)

ตอนนี้กำลังมี Campaign มาเป็นคู่…กู้ร่วมได้ เพียงมีเงินเดือนรวมกัน 35,000 บาท ผ่อนเริ่มต้น 13,000 บาท/เดือน 

สนใจลงทะเบียน รับข้อมูลเพิ่มเติม >> https://mlifebangkhae-sathon.com/

(โปรโมชัน และส่วนลดอื่นๆ เพิ่มเติมอยู่ที่เงื่อนไขของบริษัทฯ กำหนด)

Conclusion