- review
รีวิวบ้านสไตล์ Modern Art Deco ฟังก์ชันคุ้ม สิ่งอำนวยความสะดวกครบ บนทำเลคุณภาพ "เลอ นีโอ ไพร์ม เลคไซด์ บางนา-เทพารักษ์"
รีวิวบ้านสไตล์ Modern Art Deco ฟังก์ชันคุ้ม สิ่งอำนวยความสะดวกครบ บนทำเลคุณภาพ "เลอ นีโอ ไพร์ม เลคไซด์ บางนา-เทพารักษ์"
จะดีแค่ไหนถ้าได้ใช้ชีวิตในเมืองท่ามกลางบรรยากาศสไตล์รีสอร์ท ใกล้ชิดธรรมชาติ ไปพร้อมกัน ที่โครงการ ‘เลอ นีโอ ไพร์ม เลคไซด์ บางนา-เทพารักษ์’ สามารถเข้ามา ตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้ค่ะ
โดยที่โครงการนี้นอกจากจะโดดเด่นเรื่องทำเลที่ตั้งแล้ว เรื่องฟังก์ชันการใช้งานในตัวบ้าน พร้อมพื้นที่ส่วนกลางทางโครงการก็ให้มาแบบจัดเต็ม ตามแนวคิด “Prime’s Ways To Keep.. The Vacation Feeling In Your Everyday Life” ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์หลักของโครงการ
ถ้าใครสนใจบ้านในทำเลบางนา-เทพารักษ์ และมีงบเริ่มต้นประมาณ 3.85 ล้านบาท ห้ามพลาดรีวิวโครงการ เลอ นีโอ ไพร์ม เลคไซด์ บางนา-เทพารักษ์ นี้ค่ะ
Factsheet
ชื่อโครงการ : | เลอ นีโอ ไพร์ม เลคไซด์ บางนา-เทพารักษ์ |
---|---|
บริษัท : | บริษัท น้อมบุญ จำกัด |
ที่ตั้งโครงการ : | 55/1 ซอย ที่ดินไทย ตำบล บางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี สมุทรปราการ 10540 |
รายละเอียดโครงการ : | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น เริ่มต้น 35 ตร.ว. 3-4 ห้องนอน 2-3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ บนทำเลบางนา |
พื้นที่ใช้สอย : | 131 - 169 ตร.ม. |
พื้นที่ : | 35 - 65 ตร.ว. |
ราคาเริ่มต้น : | 3.85 ล้านบาท* (สอบถามโครงการอีกครั้ง) |
โทร : | 092-550-5959 |
เว็บไซต์ : | https://www.normboon.com/property-item/prime-lakeside-bangna/ |
Highlight
บ้านบรรยากาศรีสอร์ท ใกล้ชิดธรรมชาติ ออกแบบตกแต่งสไตล์ Modern Art Deco โดยมีบ้านให้เลือก แบ่งเป็นบ้านแฝด 2 แบบ และบ้านเดี่ยว 2 แบบ หลายรูปแบบ ทั้งบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว 2 ชั้น
การอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ พื้นที่ในบ้านพักอาศัยใช้งานสะดวกสบาย ฟังก์ชันแต่ละส่วนถูกคิดมาอย่างดี ใช้งานได้จริงในทุก ๆ พื้นที่ นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบสนองต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบัน
ส่วนกลางครบครัน พื้นที่สวนสาธารณะขนาดใหญ่และคลับเฮ้าส์ที่รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยทุกช่วงวัย อาทิ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสาธารณะ บ้านต้นไม้ และ สนาม Basketball & Badminton เป็นต้น
ทำเลดี เดินทางสะดวก โครงการตั้งอยู่ ซอยที่ดินไทย ถนนเทพารักษ์ สามารถเข้าออกโครงการได้ 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ ถนนเทพารักษ์ ถนนแพรกษา และถนนบางพลี-ตำหรุ เชื่อมต่อในเมืองและต่างจังหวัดได้สะดวกสบาย
Facility
เริ่มกันที่ภาพจำลองพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งประกอบด้วยสวนสาธารณะ Lakeside Park และ The Marina Club House กันก่อนค่ะ ทางโครงการต้องการให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสถึงต้นไม้ และธรรมชาติที่รายล้อม แต่ยังคงความสนุกสนาน ผ่อนคลาย จึงออกแบบพื้นที่ส่วนกลางในโครงการบนพื้นที่ขนาดใหญ่ ผสานรวมกับองค์ประกอบจากผืนน้ำที่อยู่ใกล้ ๆ
The Marina Club House เป็นอาคารคลับเฮ้าส์ 2 ชั้น ตั้งอยู่บริเวณหน้าโครงการ ชั้น 1 ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ, ห้อง Multipurpose Living Room ส่วนชั้น 2 เป็นฟิตเนส เปิดรับบรรยากาศธรรมชาติจากสวนส่วนกลาง ถัดมาที่ส่วน Lakeside Park จะประกอบด้วย สวนสาธารณะ ทางเดินออกกำลังกาย ที่ออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ บ้านต้นไม้ และ Basketball & Badminton court
จะเห็นได้ว่าพื้นที่ส่วนกลางมีฟังก์ชันหลากหลาย ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ของผู้พักอาศัยตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน และผู้สูงอายุเลยค่ะ
เมื่อเลี้ยวเข้ามาในซอยที่ดินไทยและขับมาตามทางเรื่อย ๆ จะพบกับซุ้มประตูโครงการ เลอ นีโอ ไพร์ม เลคไซด์ บางนา-เทพารักษ์ ตั้งอยู่อย่างโดดเด่น ในสไตล์โมเดิร์นสีขาวครีมสะอาดตา ซึ่งประตูทางเข้าเพิ่มความสะดวก ปลอดภัย และเป็นส่วนตัว ด้วยระบบอัตโนมัติ ผ่าน เข้า-ออก ด้วยระบบตรวจจับป้ายทะเบียน LPR (License Plate Recognition) สิทธิเฉพาะลูกบ้านเท่านั้น พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังติดตั้งกล้อง CCTV บริเวณทางเข้าออกและทั่วทั้งโครงการ
Design & Function
บ้านในโครงการ เลอ นีโอ ไพร์ม เลคไซด์ บางนา-เทพารักษ์ มี 4 แบบ แบ่งเป็นบ้านแฝด 2 แบบ และบ้านเดี่ยว 2 แบบ บ้านทุกแบบดีไซน์สไตล์ Modern Art Deco ในส่วนของบ้านแฝดแม้จะเป็นบ้านคู่กัน แต่ก็มีลวดลายระแนงบังแดดและโทนสีที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นความพิเศษในแบบฉบับของโครงการ เลอ นีโอ ไพร์ม เลคไซด์ บางนา-เทพารักษ์ เท่านั้น
โครงสร้างบ้านแฝดเป็น Precast Concrete ที่แข็งแรง คงทน สวยงาม และเก็บเสียงได้ดี ส่วนบ้านเดี่ยวเป็นโครงสร้าง Conventional ก่ออิฐมวลเบา ระบายความร้อนดี ต่อเติมสะดวก
พื้นที่และฟังก์ชันของบ้านจะออกแบบแตกต่างกันตามการใช้งาน โดยมีตั้งแต่ 3-4 ห้องนอน ให้เลือกตามความต้องการของครอบครัว ประกอบด้วย
- บ้านแฝด Pearl (Type A) พื้นที่ใช้สอย 131 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2.5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- บ้านแฝด Jade (Type B) พื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ (1 ห้องนอนล่าง) 2 ที่จอดรถ
- บ้านเดี่ยว Sapphire (Type C) พื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ (1 ห้องนอนล่าง) 2 ที่จอดรถ
- บ้านเดี่ยว Diamond (Type D) พื้นที่ใช้สอย 169 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ซึ่งบ้านที่เราจะพาไปรีวิววันนี้มี 2 แบบค่ะ เป็นบ้านตัวอย่างของบ้านแฝด Pearl และบ้านแฝด Jade ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาดูกันเลย
บ้านแบบที่ 1 : Pearl
บ้านตัวอย่างหลังแรกที่เราจะเข้าชมกันวันนี้คือบ้านตัวอย่างบ้านแฝด 2 ชั้น Pearl (Type A) บ้านแฝดที่ออกแบบฟังก์ชันอย่างคุ้มค่า ประโยชน์ใช้สอยลงตัว โดยดีไซน์ของบ้านแฝดจะมีความเป็นส่วนตัวสูง เชื่อมต่อกันเพียงส่วนหลังคาที่จอดรถเท่านั้น เมื่อประกอบรวมกับการออกแบบสไตล์โมเดิร์น จึงทำให้บ้านหลังนี้มีบรรยากาศคล้ายกับบ้านพักตากอากาศส่วนตัว ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบาย ๆ น่าใช้งานค่ะ
บ้านแบบ Pearl พื้นที่ใช้สอย 131 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2.5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ชั้น 1 : ประกอบด้วยที่จอดรถหน้าบ้าน 2 คัน มีพื้นที่สวนบริเวณด้านหน้าต่อเนื่องไปยังด้านข้าง และหลังบ้าน ส่วนภายในบ้านเป็น Open-plan เชื่อมต่อถึงกันหมด ตั้งแต่โซนนั่งเล่น รับประทานอาหาร และแพนทรี ถัดไปด้านข้างเป็นห้องครัวขนาดใหญ่พร้อมเคาน์เตอร์ และโครงการยังเตรียมระเบียงสำหรับซักผ้า ตากผ้า ไว้ให้ที่ชั้นลอยด้วย
ชั้น 2 : เป็นส่วนพักอาศัยส่วนหน้าบ้านเป็นห้อง Master Bedroom ด้านหลังเป็น Bedroom 2 และ Bedroom 3 ที่ชั้น 2 จะมีห้องน้ำกั้นส่วนเปียกส่วนแห้ง ซึ่งสามารถเข้าออกได้ 2 ช่องทาง จาก Master Bedroom และโถงกลางบ้านด้วยค่ะ
บริเวณหน้าบ้านของบ้านแฝด Pearl มีขนาดค่อนข้างใหญ่ รองรับรถยนต์ได้ 2 คัน มีร่องช่วยถอยจอด มี Photo Sensor ควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงจอดรถอัตโนมัติ และช่องเสียบชารจ์สำหรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า มากไปกว่านั้นยังมีพื้นที่หน้าบ้านสำหรับลงต้นไม้ จัดสวนส่วนตัว ซึ่งทางโครงการจะลงต้นไม้ให้แต่ละบ้านด้วย ลองจินตนาการตอนที่ต้นไม้เจริญเติบโตเต็มที่ บรรยากาศในโครงคงจะร่มรื่นไม่น้อยเลยค่ะ
ทางโครงการเลือกใช้ธรรมชาติตกแต่งหน้าบ้าน และมีแผงบังแดดเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ผู้พักอาศัย
จากโรงจอดรถเชื่อมต่อมายังพื้นที่ชานบ้าน ทางโครงการจะปูกระเบื้องสีเข้ม และยกความสูงของโถงหน้าบ้านขึ้นมาจากที่จอดรถ จึงใช้งานง่าย และมีชานรองรับการใส่รองเท้าหรือเตรียมตัวก่อนออกข้างนอกบ้านค่ะ
เปิดประตูเข้ามาในบ้านจะพบกับโซนนั่งเล่นเปิดโล่ง เชื่อมต่อไปยังโซนรับประทานอาหารข้างหลัง และแพนทรีด้านข้าง โดยพื้นที่ชั้น 1 มีระยะจากพื้นถึงฝ้า 2.8 เมตร เป็นระยะที่กำลังพอดี พักอาศัยได้สบาย ๆ ไม่รู้สึกทึบหรืออึดอัดแต่อย่างใด ยิ่งเมื่อรวมกับสเปซในบ้านที่มีช่องเปิดเยอะ ยิ่งช่วยเสริมบรรยากาศในบ้านให้โอ่โถง น่าพักอาศัยยิ่งขึ้น
มองย้อนกลับไปจากโซนห้องนั่งเล่นจะเห็นประตูกระจกสไลด์เป็นทางเข้าจากที่จอดรถ และทางโครงการยังเตรียมประตูสไลด์ด้านข้าง ที่สามารถเปิดออกไปยังสวนส่วนตัวข้างบ้านในฝั่งที่ผนังไม่ติดกันด้วยค่ะ
พื้นที่ชั้น 1 ให้บรรยากาศโปร่ง โล่ง จากการที่มีช่องแสงและหน้าต่างทั่วทั้งบ้าน
จากโซนนั่งเล่น มาที่ส่วนรับประทานอาหารและแพนทรีในบ้าน โดยสามารถวางโต๊ะและเก้าอี้สำหรับรับประทานอาหารได้ 4-6 ที่นั่ง
ส่วนรับประทานอาหารจะอยู่ติดกับช่องเปิดบริเวณด้านข้างและด้านหลังบ้าน
มองย้อนกลับไปที่โซนนั่งเล่นและบริเวณหน้าบ้านค่ะ
บริเวณแพนทรีจะทำเป็นที่เตรียมอาหาร หรือจัดพื้นที่ใหม่เป็นโซนนั่งทำงานก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ
จากโซนแพนทรีจะเชื่อมต่อมายังห้องครัวกึ่งภายใน-ภายนอก ซึ่งทางโครงการจะบิลด์อินเคาน์เตอร์กระเบื้องมาให้เรียบร้อย ใครที่ชื่นชอบทำอาหารจะต้องถูกใจกับครัวบ้านแฝดหลังนี้แน่นอน เพราะมีขนาดใหญ่ ใช้งานสะดวก และมีประตูกั้นปิด ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ค่ะ
จากห้องครัวจะเชื่อมต่อไปยังห้องเก็บของที่อยู่ใกล้ ๆ กัน
ห้องน้ำในชั้น 1 ใช้งานได้จริง แยกพื้นที่ส่วนเปียก-ส่วนแห้ง และมีไฟ Motion Sensor เปิด-ปิดอัตโนมัติเมื่อเข้ามาใช้งาน
ก่อนที่จะขึ้นไปที่ชั้น 2 เราอยากพามาดูในส่วนของบันไดกันก่อน บันไดมีระยะสี่เหลี่ยมเต็ม เดินง่าย ใช้งานสะดวก โดยเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กค่ะ
ช่องแสงที่บันไดช่วยเพิ่มการระบายอากาศในบ้าน
ช่องสำหรับตกแต่งหรือชั้นวางของ เพิ่มความอบอุ่นให้ส่วนพักอาศัย
บริเวณชั้นลอยจะจัดเป็นพื้นที่สำหรับซักล้าง มีระเบียง ลานซักล้าง ปลั๊ก และหลังคาโพลีคาร์บอเนตเตรียมไว้เรียบร้อย ผู้พักอาศัยสามารถมาซักและตากผ้าในบริเวณนี้ได้ เพิ่มความสะดวก เป็นระเบียบ และไม่ต้องตากผ้าที่โรงจอดรถค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 หรือส่วนพักอาศัยกันค่ะ Master Bedroom จะอยู่หน้าบ้าน ส่วน Bedroom 2 กับ Bedroom 3 อยู่หลังบ้าน และโถงกลางบ้านจะติดตั้งไฟฉุกเฉินให้ด้วย
โถงกลางบริเวณพื้นที่ชั้น 2 และห้องน้ำกลางบ้านสามารถเปิดใช้งานได้ 2 ฝั่งค่ะ โดยที่ชั้น 2 จะมีระยะพื้นถึงฝ้า 2.8 เมตร เท่ากับพื้นที่ชั้น 1
เริ่มจากห้อง Master Bedroom กันค่ะ ห้องนี้มีขนาดกว้างขวางวางตัวตามแนวยาวหน้าบ้าน โดยตั้งอยู่ติดกับช่องหน้าต่างเต็มบานขนาดใหญ่ และมีกระจกเข้ามุมด้านข้างด้วย ผู้พักอาศัยสามารถวางเตียงคิงไซส์ได้แบบมีพื้นที่เหลือสำหรับวางโต๊ะหัวเตียงค่ะ
ส่วนด้านข้างจะทำเป็นชั้นวางของหรือโต๊ะเครื่องสำอางค์แบบที่โครงการทำให้ดูก็ทำให้ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าค่ะ
อีกมุมนึงจากบริเวณปลายเตียง
เจ้าของบ้านสามารถกั้นส่วน Walkin-Closet เพิ่มเติมได้ด้วย โดยสามารถลงตู้เสื้อผ้าไซต์ใหญ่ได้สบายเลยค่ะ
ห้องน้ำในบริเวณชั้น 2 เข้าได้ 2 ทางจากห้อง Master Bedroom และโถงกลาง นอกจากนั้นยังมีบานประตูสไลด์กั้นโซนเปียกและแห้ง ทำให้ใช้งานสะดวกและสามารถใช้งานพร้อมกันได้
ทางโครงการเลือกใช้สุขภัณฑ์จาก Mogen และปูกระเบื้องในบริเวณห้องน้ำ
ในส่วนห้องอาบน้ำจะใช้ประตูโปร่งแสงกั้นในห้อง เพื่อให้ผู้ใช้งานรู้สึกโปร่ง โล่ง และมีช่องเปิดช่วยระบายอากาศในห้องน้ำ ที่สำคัญยังมีตู้บิลท์อินเก็บของในห้องน้ำ หรือสำหรับวางเสื้อผ้ากันเปียกด้วย
ช่องแสงและไฟ Motion Sensor เปิด-ปิดอัตโนมัติภายในห้องน้ำ
ต่อมาที่ Bedroom 2 ทางโครงการแต่งเป็นห้องนอนสำหรับลูกชายค่ะ ห้องนี้มีขนาดกำลังพอดีวางเตียง 3 ฟุตครึ่ง หรือ 5 ฟุตได้สบาย ๆ โดยมีหน้าต่างในห้องถึง 2 แห่ง เปิดรับทิศทางลม และช่วยการระบายอากาศภายในห้องได้เป็นอย่างดี
มุมเตียงนอนและโต๊ะทำงานสำหรับลูกชาย
ต่อไปเป็นห้องสุดท้ายของบ้านแฝด Pearl ค่ะ กับ Bedroom 3 ห้องนี้จะมีขนาดเท่า ๆ กันกับ Bedroom 2 และมีหน้าต่างเปิดรับแสงธรรมชาติในห้อง 2 แห่ง เช่นเดียวกัน
ห้องนี้จะแต่งเป็นห้องสำหรับลูกเล็กค่ะ สามารถวางเตียง 3 ฟุต โต๊ะเขียนหนังสือ และตู้เสื้อผ้าขนาด 2 บาน ได้แบบพอดี หรือสำหรับใครที่ไม่ต้องการใช้งานเป็นห้องนอน ก็สามารถเปลี่ยน Bedroom 3 เป็นห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย หรือห้องดูหนังก็เป็นไอเดียที่ดีนะคะ
โถงกลางบ้านชั้น 2 จะมีช่องแสงมาให้ด้วย
Eco Airflow ในบริเวณชั้น 1 และชั้น 2 เป็นระบบช่วยระบายอากาศในบ้าน ทำให้บ้านเย็น ไม่ร้อนอบอ้าว ซึ่งทางโครงการจะติดตั้งให้กับบ้านทุกหลังในโครงการค่ะ
ในส่วนของบ้านพักจะมีกล้องวงจรปิดที่โรงจอดรถ, บริเวณชั้น 1 และมี Magnetic Sensor ที่ห้อง Master Bedroom ซึ่งสามารถดูผ่านสมาร์ทโฟนได้ด้วย
หรือจะดูผ่านระบบ Home Automation ที่โครงการติดตั้งให้ก็ได้ค่ะ
ส่วนสวิทช์ไฟทางโครงการเลือกใช้ยี่ห้อ Schneider
ทางโครงการจะลงเข็มสั้นในส่วนลานซักล้างหลังบ้านมาให้เรียบร้อย ส่วนผนังด้านหลังเป็นรั้วคอนกรีตคาสเซิลสโตนสีเทา รูปลักษณ์คล้ายกับก้อนอิฐ ช่วยเพิ่มบรรยากาศธรรมชาติ และลดปัญหาสีหลุด สีลอกในอนาคต
บ้านแบบที่ 2 : Jade
ถัดมาที่บ้านหลังที่ 2 เป็นบ้านตัวอย่างแบบ Jade (Type B) บ้านแฝดที่มาพร้อมกับห้องนอนล่าง จัดฟังก์ชันได้อย่างลงตัว พร้อมมีระแนงฟาซาดที่สามารถปรับได้ตามการใช้งาน
เช่นเดียวกับบ้านหลังแรก บ้านหลังนี้ใช้โครงสร้างอาคาร Precast Concrete จึงมีความเป็นส่วนตัวสูง กันเสียง และมีเพียงส่วนหลังคาโรงจอดรถที่ติดกับบ้านคู่เท่านั้น
บ้านแบบ Jade พื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนอนล่าง 2 ที่จอดรถ
ชั้น 1 : ประกอบด้วยที่จอดรถ 2 คัน พื้นที่สวนด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังบ้าน ลานซักล้างหลังบ้าน ภายในบ้านฟังก์ชันวางตัวแบบ Open-plan เชื่อมต่อตั้งแต่โซนนั่งเล่น รับประทานอาหาร และแพนทรี โดยถัดไปด้านหลังบ้านจะมีห้องนอนชั้นล่าง ห้องครัว และห้องน้ำ
ชั้น 2 : ประกอบด้วยห้อง Master Bedroom พร้อมห้องน้ำส่วนตัว บริเวณด้านหลังบ้านเป็น Bedroom 2 และ Bedroom 3 และใช้ห้องน้ำส่วนกลางร่วมกันที่โถงกลางบ้าน
จากมุมมองด้านข้างจะเห็นว่าสวนด้านหน้าและด้านข้างบ้านมีพื้นที่กว้าง จะปลูกต้นไม้ จัดสวนก็ทำได้ตามใจชอบ ที่สำคัญทางโครงการยังมีร่องช่วยถอยจอดรถยนต์ Photo Sensor ควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงจอดรถอัตโนมัติ และช่องเสียบชาร์จสำหรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ด้วยค่ะ
อีกมุมหนึ่งของบริเวณหน้าบ้าน
ชานบ้านก่อนเปิดประตูเข้าไปยังส่วนนั่งเล่นในบ้าน
แผงบังแดดที่ทางโครงการดีไซน์ สามารถเลื่อนไปมาตามทิศทางของแสงแดดได้ค่ะ นอกจากนั้นบ้านแต่ละหลังยังมีแพทเทิร์นระแนงที่แตกต่างกันด้วย
เข้ามาที่ส่วนห้องนั่งเล่นกันค่ะ ที่ห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟา 4-5 ที่นั่ง วางโต๊ะกลาง เก้าอี้สตูล และชั้นวางทีวีในระยะที่กำลังพอดี ไม่ห่างหรือใกล้เกินไปค่ะ
ห้องนั่งเล่นที่บ้านแบบ Jade จะมีช่องเปิดใหญ่และกว้างตามคอนเซ็ปต์โครงการ และมีระยะพื้นถึงฝ้า 2.8 เมตร เพิ่มความโปร่ง โล่งในอาคารได้เป็นอย่างดี
ถัดมาที่ส่วนรับประทานอาหาร เชื่อมต่อไปยังแพนทรีหลังบ้าน
บรรยากาศ เชื่อมต่อ ระหว่างพื้นที่นั่งเล่น และส่วนรับประทานอาหาร
พื้นที่รับประทานอาหารกว้างพอสำหรับซึ่งตั้งอยู่ติดกับแพนทรี และเชื่อมต่อครัวปิดด้านข้าง
ห้องครัวซึ่งทางโครงการจะบิลท์อินกระเบื้องเคาน์เตอร์ให้ค่ะ
จากโซนรับประทานอาหารจะเชื่อมต่อไปยัง Bedroom หรือห้องอเนกประสงค์ ที่ชั้น 1
สำหรับบ้านไหนที่มีพ่อแม่สูงอายุ ก็สามารถปรับฟังก์ชันเป็นห้องนอนสำหรับคุณพ่อ คุณแม่ได้ เพราะห้องมีขนาดกำลังพอดี สามารถวางเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเขียนหนังสือได้สบาย หรือจะแต่งเป็นห้องทำงานและห้องพักผ่อนแบบในบ้านตัวอย่างก็อบอุ่นดีค่ะ
พื้นที่ในห้องน้ำที่ชั้น 1 มีไฟ Motion Sensor ควบคุมการเปิด-ปิดไฟมาให้ด้วย
ดูบ้านชั้น 1 เรียบร้อยแล้ว ขึ้นไปดูชั้น 2 กันค่ะ บ้านแบบนี้มีหน้าบันไดใหญ่ ใช้งานสะดวก และเจาะช่อง Decoration มาไว้ให้เช่นเดียวกับบ้านตัวอย่างหลังแรก
ส่วนพื้นที่ชั้นลอยนอกจากจะทำเป็นลานซักล้างแล้ว สามารปรับเป็นห้องสำหรับสัตว์เลี้ยงได้ด้วย และก็ไม่ต้องกังวลเรื่องแดดหรืออากาศที่ร้อนเกินไป เพราะทางโครงการจะติดตั้งหลังคาโพลีคาร์บอเนตมาให้ค่ะ
จากโถงบันได มาดูฟังก์ชันที่ชั้น 2 กันค่ะ ที่ชั้น 2 จะมี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ โดย Master Bedroom วางตัวในแนวด้านหน้าอาคารทั้งหมด และมีห้องน้ำส่วนตัว ส่วนด้านหลังบ้านเป็น Bedroom 2, Bedroom 3 และห้องน้ำส่วนกลาง
บริเวณโถงกลางสามารถวางโต๊ะหรือเคาน์เตอร์เล็ก ๆ เป็นหิ้งพระแบบในบ้านตัวอย่างได้
จากโถงบ้าน เข้ามาดูที่ห้อง Master Bedroom กันค่ะ ห้องนี้โดดเด่นด้วยช่องเปิดรับแสงธรรมชาติเต็มพื้นที่ ทั้งบริเวณด้านหน้าและด้านข้างบ้าน ช่วยเพิ่มความโปร่ง โล่ง สบาย ให้ผู้พักอาศัยได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังบิลท์อินมุมแต่งตัวพร้อมกระจกบานใหญ่ได้ด้วยนะคะ
เนื่องจากห้อง Master Bedroom มีสเปซกว้าง จึงสามารถวางเตียงคิงไซส์ และกั้นผนังเพิ่มทำเป็น Walkin-Closet ส่วนตัวได้ค่ะ
เจ้าของบ้านสามารถเลื่อนแผงบังแดดได้ตามความต้องการ จะเลื่อนบังแดด หรือเลื่อนเพิ่มความเป็นส่วนตัวก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา โดยทางโครงการจะติดตั้งระบบล้อเลื่อนมาให้ในบ้านพักอาศัย Jade ทุกยูนิตค่ะ
ไอเดียบิลท์อินโซน Walkin-Closet ในห้องนอน Master Bedroom
ห้องน้ำส่วนตัวในห้อง Master Bedroom พื้นปูกระเบื้องแกรนิต ผนังปูกระเบื้องพอร์ซเลนลายหินอ่อน และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก Mogen ทั้งนี้ภายในห้องน้ำจะมีหน้าต่างช่วยระบายอากาศด้วยค่ะ
ไฟ Motion Sensor เปิด-ปิดอัตโนมัติระหว่างการใช้งาน
ต่อมาที่ห้องนอนสำหรับลูกสาว หรือ Bedroom 2 กันบ้าง ห้องนี้จะมีขนาดกว้างขวาง จัดวางฟังก์ชันได้เต็มพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเตียงคิงไซส์ โต๊ะพักผ่อนและโซฟา ตู้เก็บของ หรือแม้แต่ชั้นวางเครื่องสำอางค์เป็นต้น
บรรยากาศภายในห้อง Bedroom 2 ซึ่งมีช่องเปิด 2 ช่อง
ต่อมาที่ Bedroom 3 ซึ่งทางโครงการออกแบบเป็นห้องนอนสำหรับลูกชายค่ะ
ห้องนี้มีขนาดพื้นที่แบบกะทัดรัด วางเตียง 3.5 ฟุตและวางโต๊ะอ่านหนังสือ เก้าอี้ ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะหัวเตียงได้แบบพอดี
ห้องน้ำส่วนกลางที่ชั้น 2
ช่องแสงเปิดรับแสงธรรมชาติในบริเวณโถงชั้น 2
Location
โครงการ เลอ นีโอ ไพร์ม เลคไซด์ บางนา-เทพารักษ์ ตั้งอยู่ที่ซอยที่ดินไทย ถนนเทพารักษ์ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เชื่อมต่อกับถนน 3 เส้นทางหลัก ได้แก่ถนนเทพารักษ์, ถนนแพรกษา และถนนบางพลี-ตำหรุ ซึ่งเป็นทำเลคุณภาพรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งรถไฟฟ้า, ทางด่วน, โรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ตัวโครงการจะใกล้กับจุดขึ้น-ลงทางด่วนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯฝั่งใต้) ด่านเทพารักษ์ การเดินทางสะดวกสบาย ทั้งเดินทางเข้าเมือง และปริมณฑล ส่วนการขนส่งสาธารณะจะใกล้กับ BTS สถานีศรีเทพาค่ะ
เลือกดูเส้นทางที่เหมาะกับคุณผ่าน Google Map คลิ๊กที่นี่
การเดินทางเริ่มต้นจากถนนเทพารักษ์ ขาออก
โดยเราจะต้องกลับรถก่อนเข้าซอยที่ดินไทย
เมื่อกลับรถเรียบร้อยแล้ว จะเจอกับป้ายโครงการ เลอ นีโอ ไพร์ม เลคไซด์ บางนา-เทพารักษ์ ตั้งโดดเด่นอยู่หน้าซอย ซึ่งซอยที่ดินไทยจะอยู่ก่อนถึงโรงพยาบาลบางนา 5
เมื่อเลี้ยวเข้าซอยเสรีไทยแล้ว จากนั้นจึงขับตามทางตรงมาเรื่อย ๆ
จะพบกับซุ้มโครงการ เลอ นีโอ ไพร์ม เลคไซด์ บางนา-เทพารักษ์ สีขาวครีมตั้งอยู่ค่ะ
ถึงแม้ว่าตัวโครงการจะชื่อว่า เลคไซด์ แต่ไม่ได้ตั้งติดกับทะเลสาบ เพราะทะเลสาบจะอยู่ตรงข้ามกับโครงการ โดยเป็นสถานที่เล่นกีฬาทางน้ำที่โด่งดังในบริเวณบางนา-เทพารักษ์ ประโยชน์ของการมีบ้านใกล้กับทะเลสาบนอกจากจะช่วยให้บ้านไม่ร้อนแล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายด้วยค่ะ
มาดูเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการกันบ้าง ในทำเลโซนบางนา-เทพารักษ์ ถือเป็นแหล่งชุมชนใหญ่อุดมสมบูรณ์ด้วยร้านค้า ตลาด และห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ มากมาย เช่น บิ๊กซีบางพลี, มาร์เก็ตวิลเลจสุวรรณภูมิ, เมกาบางนา หรือ อิเกียบางนา เป็นต้น
ส่วนรอบ ๆ โครงการยังมีโรงเรียนปทุมคงคา สมุทรปราการ, โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ สมุทรปราการ, มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และใกล้กับโรงพยาบาลบางนา 5, โรงพยาบาลบางพลี โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ และที่สำคัญยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วย
Price & Promotion
โครงการ เลอ นีโอ ไพร์ม เลคไซด์ บางนา-เทพารักษ์ มีบ้านทั้งหมด 4 แบบ มีราคาเริ่มต้นดังนี้
- บ้านแฝด Pearl (Type A) ราคาเริ่มต้น 3.85 ล้านบาท**
- บ้านแฝด Jade (Type B) ราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท**
- บ้านเดี่ยว Sapphire (Type C) ราคาเริ่มต้น (สอบถามโครงการอีกครั้ง)
- บ้านเดี่ยว 4 Diamond (Type D) ราคาเริ่มต้น (สอบถามโครงการอีกครั้ง)
ณ เดือน มิ.ย. 2565 โปรดสอบถามโครงการอีกครั้ง
Conclusion
Facility : โครงการให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลาง มีพื้นที่สีเขียวค่อนข้างเยอะ ทั้งโครงการยังลงต้นไม้ให้บ้านทุกยูนิต ประกอบกับมีพื้นที่สวนส่วนกลางและคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ รองรับกิจกรรมที่หลากหลายตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ เป็นส่วนกลางที่ครบครัน ใช้งานได้จริง เหมาะกับครอบครัวยุคใหม่ที่ชอบธรรมชาติ ชอบความผ่อนคลาย ชอบทำกิจกรรมนอกบ้าน หรือต้องการเปลี่ยนบรรยากาศจากภายในบ้านค่ะ
Design & Function : โครงการดีไซน์ในสไตล์ Modern Art Deco ทันสมัย เรียบหรู โดยมีบ้านให้เลือก 4 แบบตามความต้องการและขนาดของครอบครัว โดยมีบ้านแฝด 2 แบบ และบ้านเดี่ยว 2 แบบให้เลือก บ้านไทป์เล็กสุดมีขนาดพื้นที่เริ่มต้น 131 ตร.ม. เป็นขนาดกำลังพอดีที่ทางโครงการจัดฟังก์ชันมาอย่างลงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณครัวปิดและส่วนชั้นลอยทีเพิ่มพิเศษเข้ามา สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง
Location : เป็นอีกจุดเด่นของโครงการ เพราะสามารถเชื่อมต่อได้หลากหลายเส้นทาง ใกล้จุด ขึ้น-ลง ทางด่วนกาญจนาฯ (ด่านเทพารักษ์) , BTS สถานีสำโรง (รถไฟฟ้าสายสีเขียว) และ MRT สถานีศรีเทพา (รถไฟฟ้าสายสีเหลือง) และห้างสรรพสินค้าชั้นนำมากมาย เรียกได้ว่าสะดวกทั้งการเดินทางและการใช้ชีวิต
โครงการ เลอ นีโอ ไพร์ม เลคไซด์ บางนา-เทพารักษ์ เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านในย่านบางนา-เทพารักษ์ สำหรับใครที่สนใจโครงการ สอบถามเพิ่มเติมและลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ https://www.normboon.com/property-item/prime-lakeside-bangna/
การคำนวณยอดผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน
ปรับรายละเอียดด้านล่างเพื่อคำนวณยอดผ่อนชำระต่อเดือน