รีวิวคอนโด Culture ทองหล่อ คอนโดที่เป็น Community คนรุ่นใหม่ ทำเลใจกลางเมือง ใกล้ BTS ทองหล่อ

รวมทั้งโครงการอยู่ในย่านใจกลางทองหล่อ ใกล้ BTS ทองหล่อ เพียง 250 ม. ถือว่าเป็นทำเลศูนย์กลางความสะดวกสบาย ทั้งเป็นแหล่งธุรกิจและไลฟ์สไตล์ ยังมีการเดินทางที่ง่ายและคล่องตัว ในราคาที่เปิดตัวเริ่มต้น 159,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งเป็นราคาที่ดีมากๆ ของโซนนี้ก็ว่าได้  และใน Station ถัดไป โครงการนี้ก็ยังเป็นโครงการที่ราคาดีที่สุดอยู่ สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดย่าน พระโขนง อ่อนนุช หรือแม้แต่ พระราม 4 คลองเตย เพิ่มเงินอีกนิดเดียวก็สามารถมีคอนโดใจกลางสุขุมวิท หรือย่านทองหล่อได้แล้ว

แค่เรื่องราวเบื้องต้นของโครงการ ก็ดูน่าสนใจมากๆ แล้วนะคะ ถ้าเพื่อนๆ อยากทราบรายละเอียดของโครงการมากขึ้น ตามไปชมรีวิวนี้กันได้ค่ะ

Factsheet

ชื่อโครงการ :	คัลเจอร์ ทองหล่อ
เจ้าของโครงการ :	บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้งโครงการ :	ซ.สุขุมวิท 59 ถ.สุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
พื้นที่โครงการ :	1-3-56.3 ไร่
จำนวน :	493 ยูนิต
พื้นที่ใช้สอย :	26-70 ตร.ม.
แบบห้อง :	• Studio 26 ตร.ม. • 1 Bedroom 32 ตร.ม. • 2 Bedroom 51 ตร.ม. • Studio Hybrid 36 ตร.ม. • 1 Bedroom Hybrid 46 ตร.ม. • 2 Bedroom Hybrid 70 ตร.ม.
ที่จอดรถ :	Auto Parking 200 ที่จอดรถ
สิ่งอำนวยความสะดวก :	Co-Living Hall, นิติบุคคล, Mailroom, Co-Working Space, Swimming Pool & Fitness, Laundry Room, Living Area, Cinema/Karaoke, Private Dining, Sky Lounge, Live Studio, Relaxation Room, Sky Garden, สวนสาธารณะตามจุดต่างๆ
ระบบรักษาความปลอดภัย :	เข้า-ออกโครงการระบบ Easy Pass, ภายในโครงการใช้ระบบ Face Scan, CCTV ทั่วโครงการ, เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย 24 ชม., ลิฟต์เป็นระบบล็อกชั้น
ราคา :	เริ่มต้น 4.09 ล้านบาท* (สอบถามโครงการอีกครั้ง)
ค่าส่วนกลาง :	99 บาท/ตร.ม./เดือน
คาดว่าแล้วเสร็จ :	ปี 2569
โทร :	02-316-2222
เว็บไซต์ :	https://bit.ly/3UYr83j

Highlight : Culture ทองหล่อ

คอนโดแนวคิดใหม่ ใส่ใจคุณค่าการอยู่อาศัยและใช้ชีวิต โครงการนี้มีแนวคิดที่น่าสนใจ ต้องการยกระดับชีวิตในการอยู่อาศัย ทั้งในส่วนผู้พักอาศัยและก็โลก จึงมีการจับมือกับแบรนด์ Scratch First มาช่วยออกแบบให้เป็นคอนโดที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยแบบ NEW TRIBE OF URBAN LIVING ให้มีคุณภาพในแบบยั่งยืนทั้งวันนี้และในอนาคต ไม่ว่าจะมีพื้นที่สีเขียว หลายๆ จุดในโครงการ มีระบบ Solar Cell จุดคัดแยกขยะ เป็นต้น

อีกทั้งโครงการยังได้ใส่ใจเรื่องการบริการในระดับ World Class Service Experience จาก The Ascott Limited ที่จะเข้ามามีบทบาทดูแลและให้บริการกับผู้พักอาศัยได้รู้สึกถึงการพักผ่อนเหมือนอยู่ในโรงแรม 5 ดาว

มีห้องให้เลือกทั้งแบบ Simplex และแบบ Hybrid (Loft) สามารถที่จะตอบโจทย์ความต้องการ ได้หลากหลายไลฟ์สไตล์ของผู้พักอาศัย ซึ่งทั้งแบบ Simplex และ Hybrid จะมีห้องให้เลือกถึง 3 สไตล์ของแบบห้อง มีทั้งแบบ Studio, 1 Bedroom ไปจนถึง 2 Bedroom และห้องที่เป็นแบบ Hybrid จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 4.3 ม. เลยล่ะค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางเน้นให้มีการใช้งานแบบ Community ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งโครงการได้ให้ความสำคัญในการใช้ชีวิตร่วมกัน เป็นสังคมของคนรุ่นใหม่ จึงมีการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างเข้าใจ โดยจะมีพื้นที่ทำกิจกรรมกันภายในโครงการได้ มีมุมทำงาน Co-Working Space แบบ 24 ชม. สอดรับกับการทำงานแบบ Work from anywhere ได้อย่างดี นอกจากนี้ยังมี Live Studio, Fitness 24 ชม., Swimming Pool และอื่นๆ อีกมากมาย 

ทำเลคุณภาพ ใจกลางเมืองย่านทองหล่อ ที่ตั้งของโครงการอยู่ในทำเลที่เรียกว่าเป็น Prime Area ของกรุงเทพฯ ถ้าใครมีงบแบบเหลือๆ ก็อยากจะจับจองเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ในย่านนี้ เพราะมูลค่าที่ดินจะสูงขึ้นทุกปี และย่านทองหล่อยังเป็นแหล่งธุรกิจ มีตึกสำนักงานต่างๆ รวมถึงยังมีแหล่งไลฟ์สไตล์มากมายรายล้อมอยู่รอบๆ คึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งการใช้ชีวิตในย่านนี้มีความสะดวกสบายอย่างมาก เป็นวิถีชีวิตเมืองอย่างแท้จริง

เดินทางสะดวกใกล้ BTS ทองหล่อ เพียง 250 ม. ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวดั้งเดิม และตอนนี้มีการสร้างส่วนต่อขยายไปได้หลายโซน เดินทางได้ง่ายและรวดเร็ว อีกทั้งทำเลที่ตั้งโครงการยังใกล้กับจุดขึ้น-ลงทางด่วน 2 สาย เป็นอีกทางเลือกเดินทางที่สะดวก สำหรับคนที่ต้องใช้รถในการสัญจรอีกด้วยค่ะ

Design & Concept

โครงการ Culture ทองหล่อ ถูกพัฒนาโดยบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ถนัดในเรื่องการหาทำเลที่ตั้งโครงการใกล้เส้นรถไฟฟ้า โดยโครงการนี้เป็นคอนโดมิเนียม High Rise สูง 36 ชั้น 1 อาคาร มีทั้งหมด 493 ยูนิต 

โครงการยังมีการพัฒนาและออกแบบภายใต้ 4 แนวคิดที่จะเข้ามาตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคนี้ 

• Live Your Tribe (COMMUNITY) : มีการออกแบบพื้นที่ให้เอื้อประโยชน์ต่อผู้พักอาศัย ทำกิจกรรม ใช้งานพื้นที่ร่วมกัน เชื่อมโยงปฏิสัมพันธ์ที่ดี แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ เพื่อให้สังคมมีการเป็นอยู่ที่ดีกว่าเดิม
• Serve Your Living (SERVICE) : เติมเต็มการพักผ่อนได้อย่างแท้จริง และได้รับความสะดวกสบาย ด้วยการบริการที่ดีเยี่ยมระดับ World Class Service Experience ได้ทุกวัน
• Tribe of The Future (SUSTAINABILITY) : แนวคิดที่ไม่ได้มองแค่ความสะดวกสบายในวันนี้ แต่มองถึงอนาคตที่ยั่งยืน โดยโครงการจะมีการออกแบบที่ใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม เพื่ออยากเป็นแรงผลักดันและร่วมสร้างสังคมให้น่าอยู่มากขึ้น
• Live Your Urbanization (URBAN) : ตอบโจทย์ได้ทุกรูปแบบของการใช้ชีวิตที่มีสีสัน รายล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์มากมายของย่านทองหล่อ พร้อมกับมีการเดินทางที่สะดวก ทั้งเส้นรถไฟฟ้า และถนนสำคัญหลายสาย

จากแนวคิด SUSTAINABILITY โครงการจึงจับมือกับ Scratch First ผู้จัดงานเฟสติวัล Wonderfruit ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการปลูกแนวคิดให้ผู้มาร่วมงานได้ใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันให้มากขึ้น เข้ามาสร้างสรรค์ร่วมออกแบบให้คอนโดเป็นที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน 

เริ่มตั้งแต่ภายในโครงการมีพื้นที่สีเขียว ดึงธรรมชาติเพื่อเชื่อมโยงให้เข้ากับความเป็นเมือง มีจุดนั่งพักผ่อน ลานกิจกรรม มีการใช้พลังงานสะอาดด้วยระบบ Solar Cell มีจุดบริการเติมน้ำสะอาด เป็นการช่วยลดการใช้พลาสติก มีระบบการจัดการขยะ คัดแยกอย่างชัดเจน มีระบบกรองฝุ่น PM 2.5 เป็นต้น

นอกจากจะเป็นโครงการที่รักษ์โลกแล้ว การบริการของที่นี่ได้มาตรฐานระดับ World Class Service Experience ได้ความร่วมมือจาก The Ascott ซึ่งเป็นเซอร์วิสเรสซิเดนซ์ โรงแรม 5 ดาว ที่เข้ามาช่วยการจัดการภายในโครงการให้มีความเรียบร้อย ดูแลความสะอาดของพื้นที่ส่วนกลาง และยังมี Concierge ที่คอยดูแลอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งดูแลความปลอดภัยของโครงการ จนไปถึงบริการพิเศษอย่าง ทำความสะอาดห้อง บริการซักรีด และอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้พักอาศัย ให้ได้ใช้ชีวิตพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

Facility

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ จะเน้นให้เป็น Community มีพื้นที่ให้เข้ามาใช้งานร่วมกันได้ ภายในจะมีกิจกรรมหลากหลาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างดี โดยสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการจะกระจายอยู่ตามชั้นต่างๆ เพื่อให้ผู้พักอาศัยเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งถูกแบ่งให้พื้นที่ส่วนกลางอยู่ชั้น 1, 2, 11, 33, 34, และชั้น 35 ส่วนพื้นที่จอดรถจะอยู่ตั้งแต่ชั้น 1-10

เริ่มต้นด้วย Master Plan ผังชั้น 1 จากทางเข้า-ออกของโครงการที่เชื่อมกับถนนในซอยสุขุมวิท 59 บริเวณนี้จะมีสวนสาธารณะ คอยต้อนรับลูกบ้านหรือแขกผู้มาเยี่ยมให้ได้บรรยากาศที่ร่มรื่น โดยภายในพื้นที่สวนจะมี Multipurpose Area จัดกิจกรรม Outdoor ได้ 

สำหรับในอาคารชั้น 1 มีพื้นที่ Co-Living Hall โถงต้อนรับ ซึ่งจะอยู่โซนด้านหน้า เป็นพื้นที่รองรับการทำกิจกรรมต่างๆ ของลูกบ้าน หรือจะนัดเพื่อนมานั่งคุยกันตรงนี้ได้ และในส่วนพื้นที่นี้จะมีบันไดเดินขึ้นไปเชื่อมพื้นที่ส่วนกลางชั้น 2 ได้อีกด้วย ใกล้ๆ กันจะเป็นส่วนของห้องนิติบุคคล, Mail Area, ร้านค้า รวมไปถึงมีช่องทางเข้า-ออก ที่เป็นลิฟต์ของพื้นที่จอดรถ Auto Parking และมีจุด EV Charger ให้ด้วย

ตรงกลางจะมีลิฟต์โดยสาร โดยโครงการนี้จะมีลิฟต์โดยสาร 3 ตัวและลิฟต์ดับเพลิงอีก 1 ตัว

และนี่คือบรรยากาศตัวอย่างของ Co-Living Hall ที่มีผนังกระจก บวกกับเพดานสูง ทำให้ตัวอาอาคารในโซนนี้ดูปลอดโปร่ง รับวิวของสวนที่อยู่ด้านหน้าและด้านข้างได้เต็มสายตา ช่วยให้การนั่งพักผ่อนตรงมุมนี้ได้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายได้อย่างมาก

พื้นที่ส่วนกลางชั้น 2 จากแปลนของอาคาร ด้านหน้าเป็นพื้นที่ Co-Working Space ขนาดกว้างขวาง เข้ามานั่งทำงานได้ 24 ชม. สอดรับกับการทำงานแบบ Work From Anywhere เข้ากับยุคใหม่ได้ลงตัว  และตรงด้านหลังอาคารจะเป็นส่วนของพื้นที่จอดรถ Auto Parking

พื้นที่ Co-Working Space มีชุดโต๊ะและเก้าอี้ถูกจัดวางไว้หลายมุม และเปิดให้เข้าใช้บริการได้ 24 ชม. ไม่ว่าจะทำงานดึกแค่ไหน จะมานั่งคนเดียวหรือเป็นกลุ่ม หรือว่าต้องประชุมออนไลน์กับเพื่อนร่วมงานต่างประเทศข้าม Time Zone พื้นที่ตรงนี้ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งหมด

แปลนอาคารชั้น 11 สำหรับชั้นนี้มีพื้นที่ส่วนกลางเต็มชั้น ฝั่งด้านหน้าและด้านข้าง เป็นพื้นที่ส่วนของ Swimming Pool มีการออกแบบให้มี 2 สระ อย่างสระว่ายน้ำฝั่งด้านหน้าอาคาร มีความยาวถึง 25 ม.ไว้สำหรับใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายจริงจัง ส่วนถ้าใครอยากมาว่ายน้ำแบบผ่อนคลาย มาว่ายน้ำตรงสระด้านข้างได้ พร้อมกับมี Onzen และ Jacuzzi ให้ด้วย นอกจากนี้ยังมี Fitness 24 ชม., Yoga Room, Living Area และ Laundry Room

ชั้น 33 ได้แบ่งให้พื้นที่ส่วนกลางอยู่ในโซนด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นโซนของห้องพักอาศัย ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางแรกที่เป็นจุดเด่นของชั้นนี้ คือ Sky Lounge เป็นมุมนั่งพักผ่อนและจุดชมวิวเมืองย่านทองหล่อ นั่งชมแสงสีในยามค่ำคืนได้แบบเพลินๆ และสามารถออกไปเดินเล่นสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ของ Sky Garden ที่มีต้นไม้คอยฟอกอากาศแบบธรรมชาติให้ ซึ่งตำแหน่งอยู่ด้านหน้าของอาคาร ใกล้กับ Sky Lounge 

พื้นที่ด้านข้างของ Sky Lounge ยังมีส่วนของ Relaxation Room มุมนั่งพักผ่อนอีกจุด และด้านข้างอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่ Live Studio เหมาะมากๆ กับลูกบ้านที่เป็น Influence เข้ามาใช้ถ่ายงาน อัดคลิปได้แบบ 24 ชม.

บรรยากาศของ Sky Lounge จะมีมุมนั่งพักผ่อนหลายจุด ภายในบริเวณนี้มีความโปร่งโล่งด้วยผนังกระจกและเพดานสูงแบบ Double Volume รวมถึงชั้น Sky Lounge มีบันไดวนเชื่อมไปยังทางเดินที่อยู่บนชั้น 34 ได้ อีกทั้งพื้นที่ตรงนี้จะเชื่อมกับ Sky Garden สวนลอยฟ้ากลางเมืองที่เป็นลักษณะแบบ Outdoor อีกด้วย

ภายในพื้นที่ Relaxation Room จะมีการกั้นด้วยประตูกระจก ทำให้บรรยากาศมีความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบมากขึ้น มุมนี้มีเก้าอี้นวดไฟฟ้าตั้งไว้ให้ด้วย สามารถเข้ามาใช้บริการได้ค่ะ

ชั้น 34 การวางแปลนคล้ายกับชั้น 33 คือ พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่โซนด้านหน้าเช่นเดียวกัน โดยพื้นที่ชั้นนี้จะมีทางเดินที่เชื่อมกับห้อง Private Dining เป็นห้องสำหรับใช้ในการจัดปาร์ตี้ Workshop ทำอาหารได้ หรือถ้าเป็นสายชอบดูหนัง ร้องเพลง โครงการจะมีห้อง Cinema / Karaoke รองรับการบริการให้ด้วย รวมถึงบริเวณตรงทางเดินสามารถเชื่อมกับจุดชมวิวเมืองได้อีกจุด เป็นลักษณะมุมเล็กๆ แบบ Outdoor

ชั้น 35 พื้นที่ส่วนกลางจะเป็นสวนสาธารณะ มีขนาดเท่ากับหน้ากว้างของอาคาร ตำแหน่งอยู่ฝั่งด้านหน้า สามารถเข้ามาเดินเล่น ยืดเส้นยืดสาย และชมวิวเมืองไปได้ในเวลาเดียวกัน

สำหรับยูนิตห้องพักอาศัย ถ้าเป็นแบบ Simplex ตำแหน่งจะอยู่ชั้น 12-19 ส่วนแบบ Hybrid อยู่ชั้น 20-36

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

ชั้น 1

• สวนสาธารณะ
• Co-Living Hall 
• ห้องนิติบุคคล
• Mail Area
• ทางเข้า-ออก ลิฟต์ Auto Parking 
• EV Charger
• ร้านค้า

ชั้น 2 

• Co-Working Space 24 ชม.
• พื้นที่จอดรถ Auto Parking 

ชั้น 11 

• Swimming Pool
• Fitness 24 ชม.
• Yoga Room
• Living Area
• Laundry Room

ชั้น 33

• Sky Lounge
• Sky Garden
• Relaxation Room
• Live Studio

ชั้น 34 

• Private Dining
• Cinema / Karaoke

ชั้น 35 

• สวนสาธารณะ

ระบบความปลอดภัยภายในโครงการ 

การเข้า-ออกโครงการใช้ระบบ Easy Pass ส่วนภายในโครงการเพิ่มระดับความปลอดภัยมากขึ้น ด้วยการใช้ระบบ Face Scan และลิฟต์จะเป็นระบบล็อกชั้น ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีการติดตั้ง CCTV ไว้ทั่วโครงการ พร้อมมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้ 24 ชม.

Room Type

โครงการ Culture ทองหล่อ มีแบบห้องให้เลือกถึง 6 แบบด้วยกัน ดังนี้

• Studio 26 ตร.ม.
• 1 Bedroom 32 ตร.ม.
• 2 Bedroom 51 ตร.ม.
• Studio Hybrid 36 ตร.ม.
• 1 Bedroom Hybrid 46 ตร.ม.
• 2 Bedroom Hybrid 70 ตร.ม.

ซึ่งวันนี้ทีมงาน Home Buyers พาไปชมห้องตัวอย่าง 2 แบบ คือ Studio Hybrid และ 1 Bedroom

Studio Hybrid ขนาด 27.50 ตร.ม.

ห้องตัวอย่างแรกที่พาไปรีวิวให้ชมกันนะคะ คือ แบบห้อง Studio Hybrid ขนาด 27.50 ตร.ม. หรือจะเรียกว่าเป็นห้อง Loft ที่มีชั้น 2 เป็นชั้นลอย ทำให้ห้องนี้มีเพดานที่สูงในรูปแบบ Double Volume ภายในห้องมีบรรยากาศที่สูงโปร่ง โล่งเป็นพิเศษ และพื้นที่ใช้งานในห้องจะมีการแบ่งสัดส่วนได้อย่างชัดเจน ช่วยให้สะดวกในการใช้งานแต่ละฟังก์ชันได้มากขึ้น เหมาะมากๆ กับคนที่ชอบชมวิวบนตึกสูง และอยากได้ความรู้สึกที่แตกต่างจากรูปแบบห้องคอนโดทั่วไป

เปิดประตูเข้ามา เราจะเห็นว่าห้องมีลักษณะตอนลึกเข้าไปด้านใน โดยจะแบ่งโซน Service อยู่ด้านหน้า ถัดเข้าไปข้างในจะเป็นโซนพักผ่อน ที่มีทั้งมุมนั่งเล่น มุมทำงาน ส่วนชั้นลอยด้านบนจะเป็นมุมวางเตียงนอน ที่มีมุมแต่งตัวอยู่ข้างๆ กันค่ะ

จากประตูทางเข้าฝั่งขวามือ เป็นพื้นที่มุมครัว ที่เป็นแบบครัวปิด ซึ่งสามารถวางชุดเคาน์เตอร์ครัวได้แบบพอดี และมีการออกแบบเว้นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้า และตู้เย็นแบบ 2 ประตูได้ลงตัวในการใช้งาน โดยทุกห้องจะได้ชุดเคาน์เตอน์ครัวท็อปด้วยหินสังเคราะห์ พร้อมซิงค์ล้างจาน เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันมาติดตั้งไว้ให้ เพียงแค่ซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม ก็สามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบ 

ส่วนพื้นบริเวณโซน Service จะปูด้วยวัสดุแกรนิตโต้ เช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย และมุมนี้มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าประมาณ 2.05 ม.

ตรงข้ามฝั่งมุมครัว เป็นส่วนของห้องน้ำ มีขนาดใช้งานได้กำลังดี แบ่งสัดส่วนโซนแห้ง โซนเปียกให้เรียบร้อย ภายในห้องมีการตกแต่งดีไซน์ด้วยกระเบื้องลายหินสีเทาตัดกับกระเบื้องสีขาว ทำให้ห้องดูไม่เรียบจนเกินไป สามารถนำต้นไม้ หรือสิ่งของมาตกแต่งเพิ่มเติมได้ และโครงการได้ให้สุขภัณฑ์มาครบชุด พร้อมใช้งาน และให้ฉากกั้นอาบน้ำ ประตูกระจก 3 ตอนอีกด้วยค่ะ

เดินออกจากห้องน้ำ ผนังด้านหน้ามีพื้นที่สามารถ Built in ตู้เก็บของและชั้นวางแบบนี้ได้ หรือจะปรับเปลี่ยนทำเป็นตู้เก็บของบานปิดสูงจรดเพดานก็ดีนะคะ ทำให้สามารถเก็บของได้เพิ่มมากขึ้น ช่วยให้ห้องดูเป็นระเบียบเรียบร้อยและสบายตา

ระหว่างที่จะเดินข้ามโซนไปยังพื้นที่พักผ่อนด้านใน ตรงกลางห้องจะกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ 3 ตอน มีประโยชน์ในแง่การใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะกั้นกลิ่นอาหารจากครัว กั้นเสียงจากโถงทางเดินหน้าห้องได้ หรือเวลาเลื่อนปิดประตู มุมครัวก็ไม่มืด เพราะยังสามารถดึงแสงจากหน้าต่างเข้ามาถึงมุมนี้ได้ 

เมื่อเข้ามาพื้นที่พักผ่อนด้านใน ความรู้สึกเปลี่ยนทันที สัมผัสได้ถึงความสบาย โปร่งโล่ง ด้วยเพดานที่สูงถึง 4.3 ม. และพื้นที่ตรงนี้จะแบ่งให้มีฟังก์ชันมุมนั่งเล่นได้ระยะดูทีวีกว้างกว่า 3 เมตร  ถัดเข้าไปตรงมุมหน้าต่างจะเป็นมุมทำงาน ด้านข้างมุมทำงานจะเป็นระเบียงส่วนตัวภายในห้อง ส่วนพื้นในโซนนี้จะเป็นวัสดุพื้นไวนิลลายไม้ ที่มีความทนทานต่อการใช้งานสูง อีกทั้งยังได้ประจกเข้ามุมบานใหญ่ เทควิวได้อย่างเต็มตา

สำหรับมุมนั่งเล่น มีพื้นที่เหมาะที่จะวางโซฟายาวชิดผนังขนาด 4-5 ที่นั่งได้ โดยสามารถที่จะแบ่งให้เป็นมุมรับประทานอาหารไปด้วยได้ในตัว ทำให้มีฟังก์ชันการใช้งานได้เยอะ และมีความคุ้มค่าในการใช้สอย

ฝั่งตรงข้ามโซฟา มีพื้นที่เหลือให้ได้ใช้งาน ซึ่งสามารถนำชั้นวางทีวีมาวางได้ลงตัว หรืออยากจะติดตั้งทีวีแบบแขวนเหมือนกับห้องตัวอย่าง ก็ช่วยให้การดีไซน์ห้องดูโมเดิร์น และช่วยให้มีพื้นที่วางของได้มากขึ้น ใกล้ๆ กันกับมุมนั่งเล่นจะเป็นส่วนของมุมนั่งทำงานและระเบียงส่วนตัวภายในห้อง

ถัดจากมุมวางโซฟา พื้นที่ด้านในริมหน้าต่างเป็นกระจกบานใหญ่เข้ามุมแบบห้องตัวอย่างนี้เลยค่ะ มีขนาดที่สามารถวางโต๊ะทำงานได้ 1 ตัว เป็นมุมทำงานที่เห็นวิวด้านนอกได้เต็มสายตา บริเวณนี้จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ 1 จุด เปิดรับลม ระบายอากาศได้ดีหรือถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัว สามารถติดตั้งม่านทึบ ม่านโปร่ง เลือกให้เข้ากับการดีไซน์ของห้องได้เลยค่ะ

ด้านข้างมุมทำงาน จะเป็นพื้นที่ระเบียงส่วนตัวของห้อง ทำงานเหนื่อยๆ อยากจะสูดอากาศด้านนอก เดินเชื่อมมายังระเบียง ยืดเส้นยืดสายผ่อนคลายได้สบาย ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์ถูกจัดวางเก็บไว้ด้านบนเป็นสัดส่วน ทำให้ไม่รกเกะกะสายตา และส่วนของระเบียงจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ 3 ตอน โดยตรงขอบประตูจะมีการยกพื้นขึ้นมา เพื่อป้องกันฝุ่น หรือน้ำฝนเข้ามาในห้อง

หันมามองอีกมุมของห้อง มุมนี้จะเห็นบรรยากาศความสูงโปร่งได้อย่างชัดเจน ด้วยเพดานที่สูงแบบนี้ ทำให้ห้องดูกว้างขวางตามไปด้วย

ก่อนจะขึ้นชั้นบน เรามาดูใต้บันไดกันก่อน ตรงนี้จะมีช่องเก็บของเล็กๆ ให้ด้วย ซึ่งเก็บของได้ประมาณนึงเลยค่ะ สำหรับคอนโด ที่เก็บของเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะภายในห้องมีพื้นที่จำกัด ถ้ามีที่เก็บของหลายๆ จุด ก็สะดวกในการจัดเก็บสิ่งของให้เข้าที่เป็นระเบียบได้ง่าย เมื่อห้องไม่รก บรรยากาศในห้องก็ดูน่าอยู่อาศัยมากขึ้น

บริเวณตรงโถงบันไดจะมีการติดตั้งราวจับเชื่อมไปยังราวระเบียงชั้นลอย เพื่อให้มีการใช้งานได้อย่างปลอดภัย

ชั้นบน มีพื้นที่เพียงพอที่จะวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบาย ยังเหลือพื้นที่รอบๆ ให้เป็นทางเดินได้ โดยทางห้องตัวอย่างได้ตกแต่งด้วยการติดกระจกเงาไว้เต็มผนัง 1 ฝั่ง นอกจากจะใช้งานในการส่องกระจก เป็นมุมแต่งตัวได้แล้ว ยังช่วยให้พื้นที่ตรงนี้ดูกว้างมากขึ้นด้วยค่ะ

อีกฝั่งข้างเตียงยังมีพื้นที่ไว้สำหรับวางตู้เสื้อผ้าสูงจรดเพดานได้อีก 1 จุด และชั้นนี้จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 2.1 ม. 

ส่วนฝั่งปลายเตียง จะมีพื้นที่เหลือเป็นทางเดินได้กว้าง สามารถวางชั้นเก็บของเล็กๆ น้อยๆ เพิ่มเติมตรงมุมนี้ได้ หรือสามารถจัดวางเป็นโต๊ะทำงาน Work from Home ได้เพิ่มอีก 1 จุด ซึ่งทางโครงการได้จัดเตรียมจุดปลั๊กไฟไว้ให้เรียบร้อยแล้ว และจากระยะสายตามุมเตียงตรงนี้ สามารถมองเห็นวิวได้ในมุมกว้าง ช่วยให้เราพักสายตาจากการทำงานเหนื่อยล้า ให้ผ่อนคลายได้ดีทีเดียวเลยค่ะ

มองจากมุมด้านบนลงไปด้านล่าง จะเห็นพื้นที่กว้าง สามารถแบ่งสัดส่วนการใช้งานของฟังก์ชันได้หลากหลาย ปรับแต่งได้อิสระตามไลฟ์สไตล์ผู้พักอาศัย 

และข้อดีอีกอย่างที่อยู่ห้องที่มีชั้นลอยแบบนี้ เวลาเพื่อนมาที่ห้อง เราก็ให้เพื่อนนั่งเล่นตรงบริเวณมุมนั่งเล่นด้านล่างได้ มุมพักผ่อนด้านบนก็ยังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่ เราจะแอบขึ้นมาพัก นอนเล่นดูมือถือด้านบนได้โดยไม่ต้องเกรงใจเพื่อนๆ ที่อยู่ในห้องเลยค่ะ

1 Bedroom ขนาด 32.00 ตร.ม. (Simple)

สำหรับใครที่ชอบห้องแบบ Simple น่าจะถูกใจห้องนี้ค่ะ โดยห้องนี้จะเป็น 1 Bedroom ขนาด 32.00 ตร.ม. ดูจากแปลนห้องจะมีการแบ่งฟังก์ชันการใช้งานหลักๆ อยู่ 3 ส่วน เริ่มต้นตั้งแต่โซน Service อยู่ตรงด้านหน้าใกล้กับประตูทางเข้า-ออก ถัดเข้าไปจะเป็นมุมนั่งเล่น ด้านในสุดจะเป็นมุมพักผ่อน แต่ละ

โซนกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ ทำให้สะดวกในการใช้งาน และยังช่วยให้ห้องดูปลอดโปร่ง ห้องนี้จะเหมาะกับคนที่ต้องการอยู่คนเดียว มีพื้นที่ใช้สอยขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป หรืออยู่อาศัยกัน 2 คนก็ยังไม่รู้อึดอัดค่ะ

เปิดประตูเข้ามา เราจะเจอกับมุมครัวก่อนเลยค่ะ สำหรับใครชอบทำอาหาร ไม่ต้องกลัวว่ากลิ่นจะไปรบกวนในโซนอื่นๆ ได้ เพราะว่ามีประตูกระจกบานสไลด์เลื่อนเปิด-ปิดกั้นกลิ่นได้ และมุมครัวจะเชื่อมต่อกับห้องน้ำที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ส่วนพื้นจะปูด้วยวัสดุกระเบื้องแกรนิตโต้ ไม่ว่าจะทำอาหารเลอะลงพื้น หรือเดินออกจากห้องน้ำทำให้พื้นเปียก สามารถทำความสะอาดได้ง่าย

มุมครัว มีพื้นที่เพียงพอในการใช้งาน มายืนทำอาหารก็รู้สึกไม่ได้คับแคบ ยังสามารถอุ่นอาหารหรือทำอาหารได้สะดวก โดยทางโครงการจะ Built in เคาน์เตอร์ครัว ท็อปด้วยหินสังเคราะห์ พร้อมกับซิงค์ล้างจาน เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันมาให้เหมือนกับแบบห้องแรกเลยนะคะ และบริเวณนี้ยังมีพื้นที่วางตู้เย็นขนาด 2 บานประตูได้อย่างหลวมๆ ตรงเคาน์เตอร์ครัวจะมีช่องว่างไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าได้

ห้องน้ำจะอยู่ฝั่งตรงข้ามมุมครัว ภายในห้องมีสุขภัณฑ์ครบชุดพร้อมใช้งาน ตรงผนังบริเวณอ่างล้างหน้าจะมีการก่อผนังทำเป็นชั้นวางของ ช่วยให้การหยิบมาใช้งานได้ง่าย และยังวางของได้เยอะ และตรงโซนเปียกจะมีการแบ่งพื้นที่ด้วยการก่อพื้นสูงขึ้นมาอีกสเต็ป เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลมาฝั่งโซนแห้งได้ ส่วนเพดานจะมีการติดตั้งพัดลมระบายอากาศมาให้ ช่วยลดกลิ่นอับชื้นในห้องน้ำ

บริเวณด้านหน้าห้องน้ำ มีพื้นที่สำหรับทำเป็นมุมเก็บของ สามารถที่จะเก็บรองเท้า เก็บของอื่นๆ ได้ หรือจะวางพวกกุญแจรถ เวลาจะออกจากห้องก็สามารถหยิบได้ง่าย ใกล้ๆ กันจะเป็นประตูกระจกบานสไลด์แบบ 3 ตอน เปิด-ปิดได้กว้าง เดินเข้าออกตรงมุมนี้ได้สะดวก

เข้ามาในพื้นที่ของมุมนั่งเล่น ตำแหน่งจะอยู่ถัดจากมุมครัว พื้นที่ตรงนี้ค่อนข้างกว้าง วางโซฟาขนาด 4-5 ที่นั่งได้ลงตัว มีการวางโต๊ะเพิ่มเข้ามา ทำให้มีการใช้งานได้ 2 ฟังก์ชัน เป็นทั้งมุมนั่งเล่น และมุมรับประทานอาหาร 

ซึ่งถ้าใครอยากจะแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น สามารถที่จะปรับเปลี่ยนให้เป็นโซฟาที่ขนาดเล็กลง เพื่อให้มีพื้นที่เหลือวางโต๊ะกับเก้าอี้ 2 ตัว เข้ามุมผนังด้านที่ติดกับประตูกระจกบานสไลด์ ก็จะได้มุมนั่งเล่น และมุมรับประทานอาหารที่เป็นสัดส่วนมากขึ้นได้ค่ะ

ฝั่งตรงข้ามโซฟา สามารถที่จะติตตั้งทีวีด้วยวิธีแขวนผนังแบบนี้ได้ ก็ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ ด้านล่างทีวี มีพื้นที่เหลือ วางพวกตู้ยาวเก็บของตรงนี้เพิ่มได้อีก สำหรับห้องตัวอย่างได้ออกแบบผนังให้เป็นชั้นวางของ ซึ่งก็ช่วยให้ห้องมีที่วางของได้มากขึ้น ถือว่าเป็นไอเดียออกแบบที่น่าสนใจเลยล่ะค่ะ

ห้องนี้มีความสูงโปร่งของเพดานอยู่ที่ประมาณ 2.6 ม. ซึ่งเป็นความสูงกำลังดี อยู่สบายไม่ได้รู้สึกอึดอัด บวกกับได้รับแสงธรรมชาติจากช่องหน้าต่างและประตูกระจกบานสไลด์ตรงระเบียง ช่วยให้ห้องมีความสว่างทั่วถึงกัน 

สำหรับพื้นในโซนมุมนั่งเล่นและมุมวางเตียงนอน จะเป็นพื้นไวนิลลายไม้ มีประโยชน์ทั้งในแง่เรื่องฟังก์ชัน สามารถทนน้ำและความชื้น ส่วนในเรื่องมุมมองก็ช่วยสร้างบรรยากาศความอบอุ่นต่อการอยู่อาศัยได้อย่างดี

ด้านในสุด เป็นโซนของมุมพักผ่อน ที่สามารถแบ่งให้มีหลายฟังก์ชั้นในพื้นที่ตรงนี้ได้ เริ่มตั้งแต่มุมวางเตียง มีพื้นที่ขนาดพอเหมาะให้วางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ลงตัว ถัดไปข้างเตียงจะเป็นมุมทำงานตรงริมหน้าต่าง ส่วนฝั่งปลายเตียงเป็นมุมแต่งตัว ในพื้นที่ส่วนนี้จะมีช่องหน้าต่างบานใหญ่มาให้ และก็มีระเบียงส่วนตัว ตื่นนอนเช้าๆ สามารถที่จะออกไปเดินรับลมด้านนอกได้

เมื่อเราวางเตียงเรียบร้อย ฝั่งปลายเตียงยังมีพื้นที่ไว้สำหรับวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่สูงจรดเพดานได้พอดี แถมยังมีพื้นที่ด้านข้างทำเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ ได้อีกด้วย เมื่อวางองค์ประกอบครบ จะเหลือพื้นที่ทางเดินได้กว้าง ซึ่งให้เราได้ยืนแต่งตัว ส่องกระจกหมุนซ้าย หมุนขวา ได้แบบสะดวกเลยค่ะ

ด้านข้างเตียงเป็นกระจกเข้ามุมบานใหญ่ๆ ที่เปิดรับแสงธรรมชาติเข้าสู่ภายในห้อง ทำให้บรรยากาศโปร่งโล่งมากขึ้น และจุดนี้มีพื้นที่ทำเป็นมุมทำงาน วางโต๊ะยาวได้ 1 ตัว นั่งทำงานมองเห็นวิวช่วยให้ผ่อนคลายมากทีเดียว หรือถ้าใครอยากมีมุมนั่งพักผ่อนอีกจุด สามารถนำเก้าอี้เล็กๆ แบบ Beanbag มาวาง ก็จะได้ทั้งเป็นมุมนั่งเล่น และมุมทำงานแบบชิลๆ ได้เช่นกัน ตรงมุมนี้จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ด้วย เปิดช่วยระบายอากาศภายในห้องได้ค่ะ

พื้นที่ระเบียงจะอยู่ด้านข้างของมุมทำงาน มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่สามารถใช้งานในการตากผ้าได้อยู่ ส่วนขอบระเบียงมีการติดตั้งราวเหล็กกันตกไว้ให้ พื้นจะปูด้วยกระเบื้องสีเทา สำหรับประตูทางเข้า-ออกไปยังระเบียง จะเป็นประตูกระจกบานสไลด์แบบ 3 ตอน

จุดเด่นอีกข้อของห้องพักอาศัยในโครงการนี้ จะมีหน้าต่างเข้ามุม ซึ่งเชื่อมพื้นที่ระหว่างระเบียงและมุมทำงานเข้าด้วยกัน และยังเห็นมุมมองที่กว้างมากขึ้น บรรยากาศของห้องก็จะรู้สึกโปร่งมากขึ้นตามไปด้วยค่ะ

ห้องมาตรฐานและตัวอย่างวัสดุ

โครงการ Culture ทองหล่อ เปิดขายห้องรูปแบบ Fully Fitted หลักๆ ที่ห้องมาตรฐานจะได้มีดังนี้

ทุกแบบห้องจะได้ชุดเคาน์เตอร์ครัว ท็อปด้วยหินสังเคราะห์ มาพร้อมกับซิงค์ล้างจาน และเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควันของแบรนด์ MEX

สุขภัณฑ์ในห้องน้ำมีให้ครบชุด 

• โถสุขภัณฑ์ของแบรนด์ American Standard
• อ่างล้างหน้าของแบรนด์ Charmer
• Rain Shower และ Hand Shower ของแบรนด์ Hafele
• ฉากกั้นอาบน้ำ

นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งเครื่องตรวจจับควัน, Fire sprinkler, พัดลดระบายอากาศซึ่งติดตั้งภายในห้องน้ำ, ตู้เก็บรองเท้า

Location : Culture ทองหล่อ

ที่ตั้งของโครงการอยู่ในซอยสุขุมวิท 59 เป็นทำเลใจกลางเมืองย่านทองหล่อ ซึ่งซอยสุขุมวิท 59 จะเป็นซอยตัน ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัย ทำให้บรรยากาศในซอยมีความเงียบสงบและส่วนตัว ตัวโครงการจะอยู่ห่างจากถนนสุขุมวิทสายหลักอยู่ประมาณ 130 ม. และบริเวณรอบๆ โครงการจะใกล้ทั้งถนนเอกมัย และซอยทองหล่อที่มีทั้งแหล่งไลฟ์สไตล์และร้าน Hang Out อยู่มากมาย 

อีกทั้งโครงการใกล้กับเส้นทางด่วน 2 สาย ทั้งทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานคร ไม่ว่าจะขับรถไปโซนไหน หรือออกนอกเมืองก็มีความคล่องตัวสูงเลยค่ะ

สำหรับการอยู่อาศัยในเมือง การเดินทางด้วยเส้นรถไฟฟ้า เป็นสิ่งจำเป็นในการใช้สัญจร ช่วยให้เราเดินทางได้สะดวกมากๆ หลีกเลี่ยงรถติดในช่วงเวลาเร่งด่วนได้ด้วย อย่างโครงการ Culture ทองหล่อ อยู่ใกล้เส้นรถไฟฟ้าสายสีเขียว หรือ BTS ทองหล่อ เพียง 250 ม. ซึ่งห่างจากสถานีพร้อมพงษ์ 1 สถานี ตรงนั้นก็จะมีห้างสรรพสินค้าชื่อดัง หรือถ้าใครทำงานแถวโซนสุขุมวิทตอนปลายอย่างปุณณวิถี อุดมสุข ก็ใช้เวลาเดินทางไม่กี่นาทีก็ถึงแล้วล่ะคะ

ด้วยที่โครงการอยู่ในทำเลที่เรียกว่าเป็น Prime Area ของกรุงเทพฯ ทำเลใจกลางย่านทองหล่อ ที่ไม่เคยหลับใหล คึกคักตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน เข้าถึงสถานที่แหล่งไลฟ์สไตล์ได้มากมาย เรียงรายอยู่รอบๆ โครงการ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า Community Mall หรือแหล่ง Hang Out ก็มีให้เลือกเพียบ อย่างที่ใกล้กับโครงการก็จะมี Major Cineplex สุขุมวิท, Gateway เอกมัย, Fifty Fifth ทองหล่อ, Donki Mall ทองหล่อ เป็นต้น ถัดออกไปอย่างสถานีพร้อมพงษ์ ก็มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง Emporium และ Emquartier

ย่านทองหล่อนอกจากจะเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ ยังเป็นแหล่งธุรกิจอีกด้วย มีตึกออฟฟิศ โรงแรม โรงพยาบาล กระจายตัวอยู่กันเยอะเลยในบริเวณนี้ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอย่างนึงที่ช่วยบ่งบอกถึงความเจริญของย่านนี้ได้อย่างดี อย่างฝั่งตรงข้ามซอยสุขุมวิท 59 จะมีอาคาร T-one ตึกสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ 

รอบๆ โครงการก็จะมีโรงพยาบาล Bangkok Mediplex, โรงพยาบาล สุขุมวิท, โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท รวมถึงยังใกล้กับโรงเรียนนานาชาติอย่าง Bangkok Prep Primary Campus และ Wells International School ทองหล่อ เป็นต้น

การเดินทาง

พิกัดโครงการ : https://bit.ly/3ykwDQ8

การเดินทางไปโครงการในครั้งนี้ เราเริ่มต้นที่ ถ.สุขุมวิท ฝั่งขาออก ให้ขับไปตามแนวเส้นรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพื่อมุ่งหน้าไปทางทองหล่อ

ขับตรงมาเรื่อยๆ เมื่อถึงทางแยกซอยสุขุมวิท 53 จะเจอกับ BTS ทองหล่อ จากตรงนี้อีกประมาณ 500 ม. ก็จะถึงปากซอยสุขุมวิท 59 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ

เมื่อขับมาถึงทางแยกซอยสุขุมวิท 55 (ซ.ทองหล่อ) ให้เตรียมตัวชิดซ้าย และคอยสังเกตป้ายสุขุมวิท 59 ซึ่งจะอยู่ทางซ้ายมือ

จุดสังเกตตรงปากซอยสุขุมวิท 59 จะมีโรงแรม Ascott Thonglor Bangkok เมื่อเห็นแล้วให้เตรียมตัวเลี้ยวซ้าย เพื่อเข้าซอยสุขุมวิท 59 ได้เลยค่ะ

บรรยากาศในซอยมีความเงียบสงบ รถไม่ค่อยวิ่งจอแจมากนัก จากปากซอยขับเข้าไปประมาณ 130 ม. จะเจอ Sale Gallery ซึ่งจะอยู่ที่เดียวกันกับที่ตั้งโครงการเลยค่ะ

มาถึงแล้วนะคะ Sale Gallery โครงการ Culture ทองหล่อ ซึ่งบริเวณ Sale Gallery จะมีลานจอดรถเตรียมไว้ให้ สามารถที่ขับเข้ามาจอด และเข้าไปเยี่ยมชมห้องตัวอย่างที่อยู่ด้านในได้ค่ะ

Price & Promotion

โครงการ Culture ทองหล่อ เป็นคอนโดมิเนียม High Rise สูง 36 ชั้น 1 อาคาร โดยมีห้องให้เลือกถึง 6 แบบ มีทั้งแบบ Simplex และแบบ Hybrid เปิดตัวขายในราคาเริ่มต้น 4.09 ล้านบาท*

สนใจลงทะเบียน รับข้อมูลเพิ่มเติม : https://anan.ly/3feev3C

 (โปรโมชัน และส่วนลดอื่นๆ เพิ่มเติมอยู่ที่เงื่อนไขของบริษัทฯ กำหนด)

Conclusion