รีวิว เดอะ ล็อขสาม คอนโด

The Log 3 สุขุมวิท 101/1
ผ่อนเบาเว่อร์ ตกแต่งเสร็จ มีดีแต่ต้องเข้ามาดู

ทางเลือกสำหรับผู้ที่มองหาคอนโดเพื่ออยู่อาศัยแต่มีงบประมาณจำกัด ไม่สามารถซื้อคอนโดฯ ที่อยู่แนวรถไฟฟ้าได้ เพราะคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้าบนถนนสุขุมวิทแล้วคุณต้องมีเงินเกิน 3 ล้านบาทจึงจะพอจับจองได้ แต่ถ้างบไม่ถึงก็ลองมองหาคอนโดฯ ที่อยู่ในซอยลึกเข้าไปอีกหน่อย แม้จะไม่สะดวกสบายเท่าคอนโดฯ ติดรถไฟฟ้า แต่ก็ยังสามารถอยู่อาศัยได้แบบไม่ลำบากชีวิตมากนัก

“The Log 3” เป็นคอนโดโลว์ไรส์ 8 ชั้น 3 อาคาร โดยบริษัท เอ็น แอล แอสเซ็ท จำกัด ภายใต้แนวคิดคอนโดฯ ที่อยู่สบาย รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ยูนิตต่อชั้นไม่สูงมากนัก สามารถเห็นวิวโดยรอบได้ เดินทางสะดวก เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ที่เช่าอพาร์ตเมนต์ย่านศรีนครินทร์รวมถึงผู้ที่ทำงานอยู่ในละแวกนั้นเป็นหลัก โดยเสนอตัวเองเป็นทางเลือก “เมื่อมีคอนโดฯ ในราคาที่เอื้อมถึง ผ่อนต่อเดือนไม่แพง แล้วจะเช่ารายเดือนไปทำไม”

ราคาห้องชุดถูกตั้งไว้เป็นราคาเดียวกันทั้งตึก โดยทั้งสามตึกจะมีราคาต่างกันดังนี้

• Berry ราคา 999,900บาท ห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์มาตรฐาน
• Turquoise ราคา 1,149,000-1,179,000 บาท ห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งเสร็จ
• Lime ราคา 1,100,000-1,400,000 บาท ห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งเสร็จ

โดยที่อาคาร Lime ที่ห้องหัวมุมจะคิดราคาเพิ่มอีก 50,000 บาท และราคาของแต่ละชั้นจะเพิ่มขึ้นไปประมาณชั้นละ 10,000 บาท ยอดขายของโครงการ ณ วันที่เราเข้าไปทำรีวิว Berry มียอดขายประมาณ 50% Turquoise มียอดขายประมาณ 80% ถือว่าโครงการนี้ขายดีเกินที่หลายคนคาดหวังเอาไว้สำหรับคอนโดฯ ที่อยู่ในซอยค่อนข้างลึกแบบนี้ และน่าจะตัดปัญหาคาใจที่ว่า “โครงการจะล่มหรือเปล่า” หรือ “จ่ายเงินแล้วจะสร้างจริงไหม” เพราะวันนี้เรามีภาพความคืบหน้าของโครงการมาฝากอีกเช่นกัน โดยทั้งอาคาร Berry และ Turquoise นั้นมีการก่อสร้างไปแล้วราว 80% ส่วนอาคาร Lime นั้นกำลังอยู่ในขั้นตอนของงานฐานราก

ทำเลที่ตั้ง

ลักษณะทำเลที่ตั้งของ The Log 3 นั้นอยู่ในย่านชุมชน เป็นซอยตัดระหว่างซอยสุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต) กับซอยอุดมสุข 51 โดยรอบโครงการเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ไม่มีตึกสูงบังวิว ระหว่างเส้นทางจะมีตลาด ร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ เปิดบริการอยู่ตลอดตามสไตล์ย่านชุมชุน ทำให้พอมองได้ว่าการอยู่อาศัยที่ The Log 3 นั้นสะดวกสบาย ไม่ได้แห้งแล้งหากินยากลำบากแน่นอน อย่างง่ายที่สุดข้างโครงการก็มี 7-Eleven เปิดอยู่ เดินมานิดเดียวซื้อข้าวกล่องเข้าห้องก็อิ่มได้แล้ว

การเดินทางการเข้าออกโครงการมี 2 เส้นหลักคือถนนวชิรธรรมสาธิตและถนนอุดมสุข โดยเข้าซอยอุดมสุข 51 ส่วนเส้นทางอื่นจะเป็นลักษณะซอยลัดที่ออกไปยังศรีนครินทร์และสุขุมวิทได้ การเดินทางจากทั้งสองเส้นทางนี้ทำได้ง่ายไม่สับสน ขับรถตรงไปอย่างเดียวไม่มีเลี้ยวซ้ายขวาใดๆ แค่ขับตรงไปจนเจอโครงการเท่านั้น

ลักษณะของถนนวชิรธรรมสาธิตช่วงต้นจากถนนสุขุมวิทจะเป็นถนน 4 เลน สามารถเดินรถได้สะดวก แต่จะบีบเหลือ 2 เลนบริเวณซอยวชิรธรรมสาธิต 25 แต่ถนนก็ยังคงกว้างพอที่จะเดินรถได้สบายๆ ไม่ต้องคอยเบี่ยงหลบรถที่วิ่งสวนมา

ส่วนฝั่งซอยอุดมสุข 51 เป็นถนน 2 เลนตั้งแต่ต้นทางมาจนถึงโครงการ รถวิ่งสวนกันได้แบบสบายๆ ไม่ต้องกลัวเฉี่ยวชน

ระยะการเดินทางจากถนนสุขุมวิทไปยังโครงการ

• ปากทางฝั่งถนนสุขุมวิท 101/1ระยะทางประมาณ 2.6 กิโลเมตร
• * BTS ปุณณวิถี ระยะทางประมาณ 3.2 กิโลเมตร
• * BTS อุดมสุข ระยะทางประมาณ 3.2 กิโลเมตร
• * จากซอยอุดมสุข 51 ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร

จากตัวเลขที่เห็นถือว่ามีระยะการเดินทางที่ไกลและใช้เวลาเดินทางในระดับหนึ่ง แต่ก็เดินทางได้ไม่ลำบากมากนักเพราะมีรถสองแถวคอยรับส่งให้บริการ การเดินทางโดยถนนสุขุมวิท 101/1 บริเวณปากทางถนนสุขุมวิท 101/1 เป็นแยกไฟแดงถ้าเราออกมาจากโครงการก็สามารถเลี้ยวขวาเพื่อวิ่งเข้าเมืองได้ทันทีไม่ต้องกลับรถ หรือถ้ามาจากบางนาเมื่อถึงแยกไฟแดงนี้ก็สามารถเลี้ยวขวาเข้าโครงการได้เหมือนกัน และทางสุขุมวิท 103 ถ้าขับรถจากศรีนครินทร์มาจนถึงอุดมสุข 51 ก็สามารถเลี้ยวขวาเข้าซอยเพื่อไปยังโครงการได้

สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการ

สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการนั้นถือว่าครบถ้วน แม้จะไม่สะดวกสบายเท่าคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้าที่เน้นความรวดเร็วทันใจ ที่มีซูเปอร์มาร์เก็ตหรือคอมมูนิตี้มอลล์อยู่ในโครงการ ส่วน The Log 3 ไม่มีคอมมูนิตี้มอลล์อยู่ในโครงการแต่ก็สามารถเดินทางไปได้ด้วยรถสาธารณะ หรือขับรถส่วนตัวไปได้ในระยะทางที่ไม่ไกลเกินไป

• 7-Eleven ที่หน้าโครงการ The Log Town ข้างโครงการ
• ปิยรมย์สปอร์ตคลับ หน้าซอยสุขุมวิท 101/1
• BTS ปุณณวิถี ระยะทางประมาณ 3.2 กิโลเมตร
• BTS อุดมสุข ระยะทางประมาณ 3.2 กิโลเมตร
• ซีคอนสแควร์ ระยะทางประมาณ 3.6 กิโลเมตร
• พาราไดซ์ พาร์ค ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร

สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ

สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการที่มีให้ลูกบ้านก็ถือว่าครบถ้วน เหมาะสมกับราคาและสิ่งที่คอนโดมิเนียมควรจะมี สิ่งอำนวยความสะดวกโครงการจัดเอาไว้ให้ที่อาคารนิติบุคคลซึ่งตั้งไว้อยู่ด้านหน้าอาคาร Lime ซึ่งจะมีทั้งร้านค้าประจำโครงการ ร้านซักรีด ห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำระบบเกลือ และสำนักงานนิติบุคคล

สระว่ายน้ำและห้องฟิตเนสนั้นไม่ได้มีขนาดใหญ่โตมากนัก แต่ก็ถือว่าสามารถใช้งานได้ ละดูเหมาะสมกับราคาค่าส่วนกลางที่เราได้จ่ายไป ถ้าสระใหญ่กว่านี้ก็คงต้องเก็บค่าส่วนกลางเพิ่ม และจากที่เคยสอบถามคนอยู่คอนโดฯ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ลงเล่นน้ำสักเท่าใด

สวนดาดฟ้าส่วนตัวนั้นจะอยู่บนอาคาร Turquoise ที่ชั้นดาดฟ้า ผู้อาศัยสามารถใช้ลิต์ขึ้นไปบนสวนดาดฟ้าได้ แต่เรื่องความสะดวกในการใช้งานนั้นยังเป็นประเด็นคำถามว่า หากผู้อาศัยตึกอื่นอยากนั่งเล่นบนสวนดาดฟ้านี้ ก็ต้องลงจากตึกแล้วขึ้นลิฟต์ไปบนชั้นดาดฟ้าของตึก Turquoise เพื่อใช้งาน มันจะสะดวกหรือไม่ แต่อย่างน้อยโครงการก็ตั้งใจทำสวนดาดฟ้าเอาไว้ให้ใช้บริการได้จริง

การเข้าออกห้องจะถูกควบคุมด้วยคีย์การ์ด ซึ่งเจ้าของห้องจะมีคีย์การ์ดเป็นของตนเอง โดยคีย์การ์ดแต่ละใบจะถูกกำหนดการเข้าออกเอาไว้ให้สามารถใช้ได้เฉพาะตึกและชั้นของเจ้าของห้องเท่านั้น และยังใช้เพื่อเข้าออกโครงการด้วย

ผังโครงการ

จากผังโครงการ ทั้งสามอาคารจะวางขนานในทิศตะวันออกโดยหันห้องพักไปยังทิศเหนือและใต้ แต่ละชั้นจะมีห้องพักอาศัยอยู่ที่ 30 ยูนิตแต่ชั้น หรือฝั่งทิศเหนือ 15 ห้อง ฝั่งทิศใต้ 15 ห้อง โดยแต่ละห้องจะออกแบบไม่ให้ประตูห้องวางตรงกันเพื่อเพิ่มความรู้สึกเป็นส่วนตัวให้มากขึ้น

แต่ละอาคารจะมีวิวที่ค่อนข้างเปิดโล่ง ไม่มีอาคารสูงใหญ่บังวิวในระยะใกล้ โดยรอบของโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ยกเว้นแต่ห้องด้านทิศใต้ของอาคาร Berry และห้องทิศเหนือของ Turquoise ที่หันหน้าเข้าหากัน ส่วนห้องอื่นๆ ค่อนข้างเห็นวิวที่โล่ง โดยเฉพาะอาคาร Lime จะเห็นวิวดีกว่าเพราะเป็นอาคารที่อยู่หน้าสุดของโครงการ จึงเห็นวิวได้ไกลๆ ทั้งฝั่งทิศเหนือและทิศใต้

ที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้นล่างของโครงการและพื้นที่โดยรอบ โดยทางโครงการกำหนดไว้ว่าสามารถจอดรถได้ประมาณ 40% สวนหย่อมของโครงการถูกจัดไว้บนดาดฟ้าตึก Turquoise โดยลูกบ้านของทุกอาคารสามารถขึ้นไปใช้งานได้ โดยเจ้าของห้องในตึก Turquoise ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย

เพราะการเข้าออกในแต่ละชั้นของอาคารจะถูกกำหนดไว้ในคีย์การ์ดของเจ้าของห้อง ถ้าคุณไม่ใช้เจ้าของห้องในตึก Turquoise ก็จะสามารถใช้ลิฟต์ได้แค่ขึ้นลงชั้นดาดฟ้าและชั้น G เท่านั้น โครงการยังมีสระว่ายน้ำ ละห้องฟิตเนสไว้ให้บริการที่อาคารส่วนกลาง โดยอาคารนี้จะมีร้านค้าให้บริการทั้งร้านอาหาร ซักรีด เสริมสวยอย่างครบถ้วน และเป็นสำนักงานของนิติบุคคลที่ดูแลโครงการ

แบบห้องชุด

ห้องชุดของ The Log 3 จะมีความแตกต่างกันไปตามตัวอาคาร คือถ้าเป็นตึก Berry ห้องชุดจะมาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์มาตรฐาน ส่วนตึก Turquoise ห้องชุดจะมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งเสร็จทั้งห้อง เช่นเดียวกับตึก Lime ที่จะเป็นห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งเสร็จ

โดยห้องชุดของทั้งสามอาคารจะมีทั้งแบบ Petite 1 และ Petite 2 แบ่งไปแบบละ 15 ห้องต่อชั้น ห้องทั้งสองแบบมีลักษณะเป็นห้องสตูดิโอ มีพื้นที่ใช้สอยขนาดเดียวกันทั้งหมด ไม่มีผนังปิดกั้นระหว่างห้องนั่งเล่น ครัวและห้องนอน ความสูงจากพื้นถึงเพดานอยู่ที่ 2.50 เมตร เมื่อเงยหน้าขึ้นไปก็จะพบกับแผ่นพื้นปูนของชั้นบนทันที

แบบห้องทั้งสองแบบมีความแตกต่างกันตรงที่ห้องแบบ Petite 1 ห้องน้ำจะถูกจัดไว้ส่วนหน้าห้องใกล้กับประตูทางเข้า ส่วนห้องแบบ Petite 2 ห้องน้ำจะอยู่หลังห้องใกล้กับระเบียง พื้นที่ใช้สอยในส่วนอื่นมีการขยับปรับให้ลงตัวกับพื้นที่ นั่นคือความแตกต่างของห้องทั้งสองแบบ

ข้อเปรียบเทียบระหว่างห้องแบบ Petite 1 และ Petite 2

1.ห้องแบบ Petite 1 จะมีพื้นที่ห้องนั่งเล่นกว้างกว่าห้องแบบ Petite 2 แต่จะเสียพื้นที่ระเบียงไปค่อนข้างเยอะ เนื่องจากต้องแบ่งพื้นทื่ให้กับห้องนอนด้วย
2.ห้องแบบ Petite 1 จะได้รับแสงสว่างมากกว่าห้องแบบ Petite 2 เนื่องจากส่วนหน้ากว้างของห้องแทบไม่มีส่วนผนังทึบปิดบังแสงเลย
3.ห้องแบบ Petite 2 มีพื้นที่ระเบียงที่กว้างกว่าห้องแบบ Petite 1 แต่จะเสียพื้นที่ส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่นไปบางส่วน เนื่องจากจัดวางห้องน้ำไว้ใกล้กับระเบียง จึงทำให้ต้องขยับส่วนการใช้งานภายในห้องออกไป

ภายในห้องจัดสรรพื้นที่ใช้สอยโดยให้พื้นที่ห้องนั่งเล่นเป็นหลัก เพื่อรองรับกิจกรรมต่างๆ ทั้งนั่งเล่น ทานข้าว ทำงาน โดยระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนจะมี Partition ไม้แบ่งกั้นส่วนใช้งาน ซึ่ง Partition ไม้นี้จะทำหน้าที่เป็นชั้นวางของไปด้วยในตัว ห้องนอนมีขนาดเล็กกว่าห้องนั่งเล่นเล็กน้อย แต่พื้นที่ใช้สอยก็ไม่คับแคบมากสามารถเดินไปมาได้สบายๆ ภายในห้องนอนจะมีตู้เสื้อผ้าบิวท์อิน และเป็นส่วนเชื่อมต่อไปยังระเบียงห้อง

ห้องครัวจะถูกออกแบบไว้ใกล้กับประตูทางเข้าห้อง โดยในห้องแบบ Petite 1 ห้องครัวจะอยู่ตรงข้ามห้องน้ำ ส่วนห้องแบบ Petite 2 ห้องครัวจะอยู่ตรงข้ามห้องนั่งเล่น ชุดครัวของที่ The Log 3 ใช้ฮู้ดแบบฟิลเตอร์หมุนเวียนอากาศ ไม่มีท่อต่อเพื่อดูดควันออกสู่ภายนอก ไม่มีเตาไฟฟ้าแบบฝังในเคาน์เตอร์ท็อป แต่จะให้เตาไฟฟ้าแบบแยกมาแทน ดังนั้นพอมองได้ว่าครัวของ The Log 3 ไม่ได้รองรับการทำอาหารอย่างจริงจังในห้อง แต่สามารถใช้ทอดอาหารเล็กๆ น้อยๆ หรืออุ่นอาหารได้ และชุดครัวยังมีตู้สำหรับเก็บของที่สามารถจัดเก็บของได้ในระดับหนึ่ง

เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องจะเป็นของแบรนด์ Flexiplan โดยบริษัท Flexiplan Design ทั้งห้อง สำหรับชื่อเสียงของบริษัทนั้นเป็นบริษัทผลิตออกแบบเฟอร์นิเจอร์สำนักงานและบ้านไม้สำเร็จรูป ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ซื้อคอนโดฯ ได้มาก เพราะจ่ายเงินแค่ครั้งเดียวก็ได้ห้องพร้อมอยู่เฟอร์นิเจอร์ครบ ไม่ต้องไปเดินซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าห้องทีละชิ้น