รีวิวคอนโด The Coopers สุขุมวิท 64 คอนโดปุณณวิถี ใกล้รถไฟฟ้า 500 เมตร ส่วนกลางครบครัน ลงตัวไลฟ์สไตล์ยุค New Normal ในงบเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้านบาท

ตามไปดู การใช้ชีวิต แบบ Limited Edition

Factsheet

ชื่อโครงการ :	เดอะ คูเปอร์ส สุขุมวิท 64
บริษัท :	บริษัท เดอะ แคปปิตอลเอสเตท จำกัด
จำนวน :	79 ยูนิต
รูปแบบโครงการ :	คอนโดมิเนียม 8 ชั้น
สิ่งอำนวยความสะดวก :	Co-Working Space with WIFI, The Theater / Social Corner, Studio, Library, Sky Sunken, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, Fitness, ออนเซน, Smart  Box, ตู้ส่งสินค้าอัจฉริยะ, ที่จอดรถ 30 คัน (ไม่รวมซ้อนคัน)
ระบบรักษาความปลอดภัย :	กล้อง CCTV ในตัวอาคาร และรอบอาคาร, ระบบ KEY CARD ทางเข้าอาคาร และในตัวลิฟท์แบบล็อคชั้น, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.
ราคาเริ่มต้น :	1 ห้องนอน ขนาด 25 ตร.ม. ราคา 1.96 ล้านบาท
เบอร์โทร :	083-449-5551
เว็บไซต์ :	https://thecooperscondo.com/

Highlight :  The Coopers สุขุมวิท 64

เดินทางสะดวก 500 เมตรถึง BTS 
ที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าปุณณวิถี 500 เมตร และยังใกล้ทางด่วนสุขุมวิท 62 และ 50 เพียง 3 นาที สะดวกทั้งการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS และรถยนต์ส่วนตัว รถสาธารณะ

ใกล้ Office Building และแหล่งงานขนาดใหญ่โซนปุณณวิถี
ในทำเลปุณณวิถีมีแหล่งงานขนาดใหญ่ได้แก่ที่ True Digital Park รวมถึงบริษัทชั้นนำอย่าง Jaspal, Dksh และแหล่งงานขนาดใหญ่อย่างโรงกลั่นน้ำมันบางจาก นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางไปย่าน Office Buidling ชั้นนำเช่น ภิรัชทาวเวอร์ที่แยกบางนา หรือเข้าใจกลางเมืองย่านพร้อมพงษ์ อโศก เพลินจิตได้สะดวกด้วยเช่นกัน

ดีไซน์เด่นไม่เหมือนใคร พร้อมส่วนกลางหลากหลาย และครบครัน
โครงการออกแบบด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นด้วยสไตล์ Modern Luxury Loft ที่แสดงความเรียบเท่ได้มีเอกลักษณ์ สื่อถึงไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่เชื่อมั่นในตัวเอง กล้าแสดงออกถึงตัวตนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้โครงการยังออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้มีความหลากหลาย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุค New Normal ได้เป็นอย่างดี

ห้องฟังก์ชันครบ พื้นที่ภายในออกแบบให้ใช้สอยได้คุ้มค่าทุกตารางเมตร
ห้องพักของโครงการออกแบบพื้นที่ และการใช้สอยได้ลงตัว รวมทั้งยังใส่ฟังก์ชันใช้งานที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการที่หลากหลายของเจ้าของห้อง เช่นมุมทำงานที่เป็นส่วนตัวในห้อง 29 ตร.ม. หรือห้องอเนกประสงค์ในห้องขนาด 34 ตร.ม. ที่เลือกใช้สอยได้ทั้งเป็นห้องนอน ห้องทำงาน หรือเป็นสตูดิโอขนาดเล็กภายในห้อง

Fully Furnished คุ้มค่า ราคาดี เหมาะกับคนหาคอนโดงบไม่เกิน 3 ล้านบาท
โครงการขายห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished คุณภาพดีจาก SB Furniture โดยที่ห้องแต่ละ Type จะได้โทนสีเฟอร์นิเจอร์ที่แตกต่างกันไปเพื่อตอบโจทย์รสนิยมที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ในห้องขนาด 34 ตร.ม. เจ้าของห้องสามารถเลือกชุดเฟอร์นิเจอร์ห้องอเนกประสงค์ได้ว่าจะแต่งเป็นห้องนอนที่ 2 หรือแต่งเป็นห้องทำงาน ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่มองหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้าในงบไม่เกิน 2 ล้านบาท

Facility

การออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางของ The Coopers สุขุมวิท 64 ถือว่ามีจุดเด่นมากทีเดียว นอกจากจะจัดมาให้อย่างครบครันแล้ว ยังเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคใหม่ New Normal ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

เริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอกของอาคารกันก่อน The Coopers สุขุมวิท 64 ออกแบบให้สะท้อนถึงตัวตนของผู้อาศัยที่มีความมั่นใจ กล้าแสดงออก และไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์เดิมๆ ให้เราเห็นภาพได้ชัดเจนทีเดียว ตัวอาคารเลือกใช้สีเทาสลับโทนอ่อน-เข้ม สร้างให้ตัวอาคารมีมิติดูน่าสนใจ ในส่วนหน้าต่างห้องพักเลือกตัดมุมเป็นสี่เหลี่ยมคางหมูเหมือนหน้าจั่วบ้านยุคใหม่สไตล์นอร์ดิก ซี่งเราไม่ค่อยได้พบเห็นเท่าไรในคอนโดมิเนียม

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของอาคารจะออกแบบให้ชั้นที่ 1 เป็นส่วนพื้นที่จอดรถที่รองรับรถยนต์ได้ 30 คันไม่รวมจอดซ้อนคัน โดยการเข้าถึงพื้นที่พักอาศัยด้านในตัวอาคารจะต้องเดินผ่านประตูที่ควบคุมด้วยระบบ Key Card ดังนั้นผู้ที่จะเข้าออกพื้นที่ในอาคารได้ก็จะมีเฉพาะเจ้าของห้องเท่านั้น

เมื่อเข้ามาภายในอาคารจะพบกับส่วนล็อบบี้ต้อนรับ โดยโครงการออกแบบล็อบบี้นี้ให้มีเพดานสูงแบบ Double Voulume พร้อมกับเลือกใช้ผนังกระจกบานสูงเป็นพิเศษทำให้ภายในอาคารดูโปร่งโล่งไม่อึดอัด โดยจากล็อบบี้จะมีบันไดที่เชื่อมไปยังพื้นที่ส่วนกลางชั้นที่ 2 ได้แก่ Co-Working Space, Theater Room Social Corner และห้องสมุด

พื้นที่ส่วน Co-Working Space (CREATIVE SPACE) จะเป็นห้องขนาดใหญ่ที่มีเพดานสูงโปร่งแบบ Double Volume พร้อมกับบันไดที่เชื่อมไปยัง The Theater and Social Corner  โดยภายในห้องนี้จัดมุมให้ใช้สอยได้หลายรูปแบบทั้งนั่งเล่น พักผ่อน หรือนั่งทำงานก็จะมีโต๊ะยาวพร้อม ปลั๊กไฟ และ Wi-Fi ให้บริการ 

ภายในส่วนนี้ยังมีห้องสมุด (COOPERS READERS) ให้ได้นั่งทำงานอ่านหนังสือเงียบๆ โดยจะมีห้องส่วนตัวเป็น Pod เล็กๆ เตรียมไว้อีก 2 ห้อง

ภายในห้อง The Theater and Social Corner จัดพื้นที่ไว้เป็นมุมให้สามารถใช้งานได้สนุกๆ โดยมีมุมนั่งดูภาพยนตร์ และโต๊ะ Air Hockey ให้เล่นพร้อมประดับผนังด้วยป้ายไฟเก๋ๆ ด้วยนะ

สำหรับส่วนกลางอีกแห่งจะอยู่ที่ชั้น 8 ของอาคาร โดยที่ชั้น 8 นี้จะรวมเอาส่วนฟิตเนส ออนเซ็น พื้นที่บาร์สังสรรค์ และสระว่ายน้ำเอาไว้ที่ชั้นบนสุดทั้งหมด ช่วยให้การใช้งานพื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้ได้วิวที่ปลอดโปร่งมากกว่าการจัดเอาไว้ที่ชั้นล่าง

ห้องฟิตเนส (COOPERS BOOSTER) มีอุปกรณ์ออกกำลังกายทั้งแบบคาร์ดิโอ และเวทให้เลือกใช้ออกกำลังได้หลายรูปแบบ

ห้องออนเซน ตกแต่งโทนสีได้เท่ทีเดียว โดยภายในห้องจะมีอ่างล้างหน้า ที่อาบน้ำ และอ่างออนเซ็น พร้อมหน้าต่างเพื่อรับวิวด้านนอก 

ที่ชั้น 8 ยังมีบาร์สำหรับจัดปาร์ตี้เล็กๆ สังสรรค์กันในคอนโดได้

ในส่วนของบาร์จะมีที่นั่งเตรียมเอาไว้รองรับปาร์ตี้ไซส์เล็กๆ ขนาด 6-10 คนได้อยู่นะ โดยบรรยากาศมุมนี้ชวนนึกถึง Rooftop Bar ในโซนสุขุมวิทเลย

ถัดจากโซนของบาร์มาเล็กน้อยจะมีที่นั่งแบบ Sunken ไว้เป็นที่นั่งพักผ่อนรับลมเพลินๆ ช่วงเย็นค่ำได้ โดยหากเราจัดปาร์ตี้ที่บาร์ก็อาจขยับขยายมานั่งคุยกันสนุกๆ ตรงนี้ได้ด้วย

สระว่ายน้ำของโครงการจะมีขนาด 15 x 5 เมตร สวยเพลิดเพลินกับวิว Panorama ของเมืองสุขุมวิท ผ่อนคลายด้วยน้ำตก ให้บรรยากาศเสมือนสายน้ำท่ามกลางธรรมชาติ

ด้านระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการจะเลือกใช้ระบบ Key Card สำหรับเข้าออกอาคาร และเปิดเข้าสู่โถงลิฟท์โดยสาร และสั่งการลิฟท์แบบล็อคชั้น นอกจากนี้ที่บริเวณชั้น 2, 3 และชั้น 8 ที่เป็นส่วนพักอาศัยผสมกับพื้นที่ส่วนกลางจะมีประตูคีย์การ์ดเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อาศัยอีกชั้นหนึ่ง และภายในโครงการจะใช้กล้อง CCTV ที่ทางเข้า และภายในตัวอาคาร รวมถึงมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงด้วย

Design

“Born Different ใช้ชีวิตลิมิเต็ด ในแบบคนพันธุ์ใหม่“  โดยนำเสนอความแตกต่างไม่ซ้ำใครผ่านการออกแบบที่สร้างสรรค์ในสไตล์ Modern Luxury Loft ซึ่งจะผสมผสานงานสถาปัตย์ที่เผยถึงความเท่ของเนื้อแท้วัสดุ ที่มีให้ความแข็งแกร่ง และนุ่มนวลอย่างลงตัวจากวัสดุ เช่น อิฐ โลหะอย่างทองแดง และไม้ เกิดเป็นเอกลัษณ์เฉพาะตัวของโครงการ

ลวดลายรูปวงกลมที่ Facade อาคารใช้แผ่นคอนกรีตพรีคาสต์ปั้มลวดลายด้วยโมลด์ ที่หน้าต่างของพื้นที่ส่วนกลางเพิ่มเส้นสายที่โค้งมนด้วยเฟรมอลูมเนียม ทั้ง 2 ส่วนนี้ถือว่าสร้างความแตกต่างจากโครงการ อื่นๆ ได้อย่างน่าสนใจทีเดียว

Room Type

ห้องชุดของโครงการ The Coopers สุขุมวิท 64 จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 แบบหลัก ๆ ได้แก่

แบบ TYPE A1 Mini Paceman 1 ห้องนอน ขนาด 25 ตร.ม.

แบบ B  Denim Coopers 1 ห้องนอน Exclusive ขนาด 29 ตร.ม.

แบบ C Cashmere Bush 1 ห้องนอน Plus ขนาด 34 ตร.ม.

สำหรับแปลนห้องขนาด 34 ตร.ม. โครงการจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ โดยจะแตกต่างกันตรงที่ห้องอเนกประสงค์ จะถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นห้องทำงาน

โดยเราจะไปรีวิวห้องกัน 2 แบบได้แก่ แบบ B  Denim Coopers 1 ห้องนอน Exclusive ขนาด 29 ตร.ม. และแบบ C  Cashmere Bush 1 ห้องนอน Plus ขนาด 34 ตร.ม. 

ทางโครงการ ให้ Digital Doorlock ของ Kadas ซึ่งเป็นระบบคีย์การด์ และ Password เพื่อสร้างความปลอดภัยให้อีก 1 ชั้น ตามมาตรฐานของคอนโดมิเนียมยุคใหม่

เริ่มจากแบบแรก คือแบบ Denim Coopers 1 ห้องนอน Exclusive ขนาด 29 ตร.ม.

ภายในห้องออกแบบพื้นที่ได้น่าสนใจทีเดียว โดยจัดห้องนั่งเล่นมีฟังก์ชันใช้สอยได้ถึง 3 อย่างได้แก่ นั่งเล่นพักผ่อน ทานอาหาร และมุมนั่งทำงาน

ที่มุมนั่งเล่นพักผ่อนตรงนี้จะมีโซฟาเบดสำหรับนั่งได้ 2 คน พร้อมโต๊ะกลาง และชั้นบิ้วอินวาง TV โดยที่โซฟาเบดตรงนี้สามารถผลักพิงให้ราบลงกลายเป็นเตียงเสริม หรือจะเอาไว้นอนดูซีรีส์ก็ได้ แล้วที่พนักพิงยังมีที่วางแขนพร้อมช่องวางแก้วน้ำสามารถดึงลงมาได้เหมือนกับเบาะรถยนต์ 

โดยเฟอร์นิเจอร์ที่เห็นในภาพนี้เราจะได้มาพร้อมกับห้องด้วย ช่วยให้เราไม่ต้องเสียเงินซื้อเฟอร์นิเจอร์มาเพิ่มภายหลัง

ถัดมาเป็นโต๊ะทานอาหารที่ออกแบบพื้นที่ไว้ให้นั่งได้ 2 คนสบายๆ หรือหากมีเพื่อนมาเยี่ยมห้องก็สามารถพับพนักพิงโซฟาให้ราบลงทำเป็นที่นั่งพิเศษเพื่อใช้งานได้เพิ่มอีก 2 คนได้เลย โดยถัดจากโต๊ะทานอาหารจะเป็นประตูเปิดไปยังห้องครัว

โครงการได้ออกแบบและให้เฟอร์นิเจอร์เป็นมุมทำงาน เหมาะสำหรับยุค Work From Home หรือถ้าอยากปรับมุมนี้ให้เป็นพื้นที่เก็บของก็สามารถติดชั้นวางแล้วบิ้วท์ประตูหน้าบานปิดเข้าไปก็ได้ 

ห้องครัวจะเป็นครัวปิดมีประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 2 ตอนใช้เลื่อนปิด-เปิดส่วนนี้ป้องกันกลิ่นเข้ามารบกวนได้ โดยชุดครัวที่โครงการให้จะใช้ของ SB Furniture โดยมีสเปคดังนี้ หน้าบานปิดผิวเมลามีนสีเข้มกันเปื้อนได้ดี TOP ครัวเป็นหินสังเคราะห์สีดำ ที่ผนังติดกันเปื้อน “Backsplash” เป็นกระจกใสพ่นสีเทา อ่างล้างจานสแตนเลส เตาไฟฟ้าแบบฝัง และฮุ้ดดูดควันของ TECHNOGAS

ในห้องครัวมีประตูบานเปิดออกสู่ระเบียง โดยประตูใช้เฟรมอลูมิเนียมหนักแน่นดูแข็งแรง ส่วนที่ระเบียงติดตั้งราวกันตกด้วยกระจกใสนิรภัยหนา 6 มิล จะเดินท่อน้ำดีน้ำทิ้งสำหรับวางเครื่องซักผ้าเอาไว้ ด้านบนเป็นตำแหน่งติดคอนเดนซิ่งเครื่องปรับอากาศ

กลับเข้ามาด้านในห้องเดินต่อจากมุมนั่งทำงานจะเป็นห้องนอน โดยจะเป็นเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ลักษณะการวางจะดันชิดกับหน้าต่างเล็กน้อยเหลือพื้นที่ให้สามารถเดินเข้าด้านในได้ โดยตรงนี้จะมีผนังกระจกที่ตัดมุมเป็นสี่เหลี่ยมคางหมู และมีหน้าต่างบานกระทุ้งสำหรับถ่ายเทอากาศที่ฝั่งหัวเตียง และปลายเตียง 

ภายในห้องนอนยังใส่ Walk-in Closet มาให้โดยจัดตู้เสื้อผ้าแบ่งเป็น 2 ฝั่งอยู่หน้าทางเข้าห้องน้ำ

ตู้เสื้อผ้าหน้าบานเทมเปอร์สีชาดำ พร้อมไฟเปิดปิดอัตโนมัติภายในตัวตู้ โดยแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งช่วยให้เราเลือกจัดเก็บเสื้อผ้าของใช้ได้ง่ายขึ้น โดยฝั่งนี้ใช้เก็บเสื้อ กางเกง หรือชุดเดรสยาวได้ โดยมีช่องเก็บของอยู่ด้านล่าง ข้างๆ กันเป็นโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกระจกเงาตัดมุมเพื่อให้ดูโมเดิรน์มากขึ้น เพื่อใช้แต่งหน้าสำรวจความเรียบร้อยเครื่องแต่งกายก่อนออกจากห้องได้

ตู้เสื้อผ้าอีกฝั่งก็สามารถเลือกใช้เก็บของได้หลากหลายเช่นกัน โดยเราอาจเลือกเก็บของชิ้นใหญ่เช่นกระเป๋าเดินทาง เสื้อกันหนาว หรือของใช้อื่นๆ ไว้ตรงนี้ได้

ส่วนสุดท้ายของห้องนี้คือห้องน้ำ โดยโครงการออกแบบให้สามารถใช้งานได้จาก 2 ฝั่ง คือจากห้องนั่งเล่น และห้องนอน ซึ่งถือว่าสะดวกมากทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น เรานั่งดูซีรีส์อยู่ในห้องนั่งเล่นเพลินๆ แล้วปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำก็สามารถเปิดเข้าได้เลยไม่ต้องเดินผ่านเข้าไปในห้องนอนอีก

สำหรับสุขภัณฑ์ในห้องน้ำก็เลือกใช้ของที่ดีเลยทีเดียว โดยอ่างล้างหน้า ก๊อก และฝักบัวใช้ของแบรนด์  KOHLER ฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัยของ I-SPA

มาต่อกันที่ห้องแบบ C Cashmere Bush 1 ห้องนอน Plus ขนาด 34 ตร.ม. กันเลย ห้องนี้ถือว่ามีฟังก์ชันที่น่าจะโดนใจคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาคอนโดที่ใช้สอยได้หลายรูปแบบอยู่เลยทีเดียว

ภายในห้องแบบ 1 ห้องนอนพลัส ขนาด 34 ตร.ม. พื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นจะมีความกว้างขวางมากยิ่งขึ้น แต่โครงการก็ยังไม่ลืมที่จะใส่ฟังก์ชันใช้สอยที่หลากหลายเข้ามาเพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่มีความต้องการที่หลากหลาย

ในส่วนมุมนั่งเล่นของห้องนี้จะได้เฟอร์นิเจอร์โทนสีเทาเข้ม โดยโซฟาก็จะเป็นโซฟาเบดที่สามารถกางพนักพิงลงกลายเป็่นเตียงนอนพิเศษเพิ่มอีก 1 เตียงจะใช้นั่งเล่น นอนเล่นดูซีรีส์ก็ได้ ส่วนตู้วางโทรทัศน์ และชั้นวางที่โครงการให้มาช่วยให้เราจัดระเบียบเก็บของใช้ได้อย่างเป็นระเบียบ

สำหรับห้องนี้ ครัวปิดจะถูกจับมาไว้ใกล้กับประตูทางเข้าห้อง โดยมีประตูบานเลื่อนปิดกั้นส่วนเอาไว้เพื่อป้องกันกลิ่นเข้ามารบกวนห้องนั่งเล่น

ภายในห้องครัวจะได้ชุดครัวทรงตัว “L” ซึ่งจะมีพื้นที่ให้ใช้งานได้เพิ่มขึ้น รวมถึงพื้นที่จัดเก็บบนตู้แขวน และตู้ตั้งพื้นที่ได้เพิ่มขึ้นมา ทำให้สามารถเก็บของใช้ เครื่องครัวต่างๆ ได้มากขึ้น โดยสเปควัสดุ และแบรนด์ต่างๆ ที่เลือกใช้ก็จะเหมือนกับห้องแบบ 1 ห้องนอน Exclusive ทุกอย่าง

ถัดจากห้องนั่งเล่นมาจะเป็นโต๊ะทานอาหารซึ่งทางโครงการจะให้ชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับ 4 คน ถัดไปจะเป็นห้องอเนกประสงค์ซึ่งเป็น Highlight ของห้อง Type นี้เลยทีเดียว

ภายในห้องอเนกประสงค์จะมีพื้นกว้างขวางพอประมาณ ซึ่งห้องนี้ทางโครงการจะมีตัวเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้ 2 เซ็ตได้แก่ โต๊ะทำงานพร้อมชั้นวางของแบบในห้องตัวอย่างตอบโจทย์คนที่ต้องการพื้นที่สำหรับทำงานที่บ้าน หรือใช้เป็นสตูดิโอถ่ายภาพเพื่อขายสินค้าออนไลน์ หรือจะเลือกเป็นเตียงนอนเพื่อใช้เป็นห้องนอนขนาดเล็กซึ่งก็จะตอบโจทย์ครอบครัวที่เพิ่งเริ่มต้นมีลูกเล็ก

สำหรับห้องนอนก็จะได้เตียงนอนขนาด 5 ฟุต ที่ฐานเตียงมีช่องสำหรับเก็บของใช้ต่างๆ โดยลักษณะการวางเตียงนอนในห้องตัวอย่างจะถูกดันชิดไปทางหน้าต่างเล็กน้อย โดยเว้นช่องสำหรับเดินปลายเตียง และระหว่างหน้าต่างให้สามารถเดินเข้าได้

สำหรับมุมตู้เสื้อผ้าจะมีโต๊ะเครื่องแป้ง และกระจกเงาอยู่ด้านหน้า โดยตู้เสื้อผ้าจะเป็นแบบบานเปิด หน้าบานใช้กระจกใสเทมเปอร์สีชาดำ พร้อมไฟเปิดปิดอัตโนมัติภายในตัวตู้ โดยฝั่งที่ติดกับโต๊ะเครื่องแป้งบานเปิดจะเป็นแบบสั้นครึ่งบาน เปิดด้านล่างให้เป็นช่องเก็บของใช้แทน

ส่วนห้องนี้คือห้องน้ำสามารถใช้งานได้จาก 2 ฝั่ง คือจากห้องนั่งเล่น และห้องนอน โดยสุขภัณฑ์ต่างๆ ภายในห้องจะใช้อ่างล้างมือที่กว้าง และลึกว่าทั่วไป ก๊อก และฝักบัวจาก KOHLER ส่วนฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัยของ I-SPA โดยติดตั้งหินสังเคราะห์สีขาวแบ่งระหว่างส่วนเปียกกับส่วนแห้ง

Location : The Coopers สุขุมวิท 64

โครงการ The Coopers สุขุมวิท 64 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 64 นับเป็นอีกหนึ่งทำเลคอนโดสุขุมวิทที่มีความสะดวกสบายรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพักผ่อนใช้ชีวิต หรือแม้แต่การเดินทางไปทำงาน ที่สำคัญคือราคาคอนโดทำเลนี้ถือว่ายังไม่สูง จึงเหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่มองหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้ามากทีเดียว

ทำเลสุขุมวิท 64 ถือเป็นทำเลคอนโดที่จะเรียกว่ามีศักยภาพสูง จะเดินทางไปไหนก็สะดวกเพราะมีทั้งรถไฟฟ้า BTS และใกล้ทางด่วนที่สุขุมวิท 62 และ 50 รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกภายในทำเลนี้ก็มีครบครันไม่ว่าจะเป็นสถานที่ทำงาน จับจ่ายใช้สอย กินเที่ยวพักผ่อน ซึ่งจุดนี้นับว่าเป็นจุดเด่นของทำเลช่วงปุณณวิถีที่ช่วงทำเลอื่นในสุขุมวิทตอนปลายก็ยังให้ไม่ได้

การเดินทาง

ด้วยทำเลของ The Coopers สุขุมวิท 64 นั้นอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสถานีปุณณวิถีเพียง 500 เมตร ทำให้การเดินสำหรับคนที่ไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวนั้นมีความสะดวกสบายมากทีเดียว โดยจากสถานีปุณณวิถีสามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องต่อรถไฟฟ้า ไปยังย่านธุรกิจ ย่านออฟฟิศอย่างพร้อมพงษ์ อโศก เพลินจิต ชิดลม ได้สะดวก และประหยัดเวลาได้มากทีเดียว เช่น จะไปยังสถานีสยามก็ใช้เวลานั่งรถไฟฟ้าเพียง 20 นาทีเท่านั้น หรือหากลงที่สถานีอโศกก็สามารถเปลี่ยนเส้นทางไปยัง MRT สายสีน้ำเงินเพื่อเดินทางไปยังพระราม 9 สาทร สีลมได้สะดวกด้วยเช่นกัน

สำหรับการเดินทางมายังโครงการ หากนั่งรถไฟฟ้า BTS จากในเมืองให้ลงที่สถานีปุณณวิถีที่ทางออกหมายเลข 4 จากนั้นให้เข้าซอยสุขุมวิท 64 ไปแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยพงษ์เวชอนุสรณ์ 1 ที่หน้าปากซอยจะมีร้าน 7-11 ให้สังเกตได้ง่าย จากนั้นตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายที่ซอยโรงเรียนพงษ์เวชอนุสณรณ์ ก็จะถึงที่ตั้งของโครงการอยู่ด้านขวามือ

สิ่งอำนวยความสะดวก

สิ่งอำนวยความสะดวกของทำเลสุขุมวิท 64 นั้นเรียกว่ามีครบมีพร้อม ทำให้ทำเลมีความน่าอยู่มากไม่ว่าจะเป็นแหล่งออฟฟิศขนาดใหญ่ก็มีที่ True Digital Park ซึ่งภายในยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านค้า ซูเปอร์มาร์เก็ตให้เป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอย รวมถึงบริเวณรอบๆ สถานีปุณณวิถีก็มีร้านอาหาร คาเฟ่สไตล์เท่ๆ เปิดให้บริการ หรือทำเลใกล้เคียงอย่างที่วชิรธรรมสาธิต ก็เป็นแหล่งอาหารการกินใหญ่ของที่นี่ มีทั้งกาแฟร้านดังอย่างกระทรวงการคั่ว ร้าน Big Burger คาเฟ่เท่ๆ ที่ร้าน Huan Cafe & Bar ก็เป็นตัวเลือกให้อีกทางนึ่ง

นอกจากแหล่งช้อปปิ้งกินเที่ยวแล้วที่ปากซอยสุขุมวิท 64 ยังมีโรงเรียนนานาชาติแองโกลสิงคโปร์ด้วยเช่นกัน สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องการคอนโดมิเนียมใกล้โรงเรียนสำหรับบุตรหลาน ที่ The Coopers สุขุมวิท 64 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว

Price & Promotion

โครงการ The Coopers สุขุมวิท 64 เปิดขายห้องแบบ Fully Furnished โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1.96 ล้านบาท 

สำหรับใครที่สนใจทางโครงการจะเปิด Open House ในวันที่ 30 ตุลาคม นี้ โดยสามารถเข้าไปลงทะเบียนออนไลน์เพื่อรับส่วนลดพิเศษ 100,000 บาท* กันได้ที่ >> https://bit.ly/3lTOkjJ