รีวิวคอนโด มารุ เอกมัย 2 คอนโดไฮไรซ์ใจกลางเอกมัย ใกล้ BTS เพียง 450 ม. มีแบบห้องให้เลือกหลากหลาย เลี้ยงสัตว์ได้ ส่วนกลางฟังก์ชันจัดเต็ม

Fact Sheet

ชื่อโครงการ :	มารุ เอกมัย 2
เจ้าของโครงการ :	บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้งโครงการ :	สุขุมวิท 63 (ระหว่างเอกมัย ซ.2 กับ ซ.4)
เนื้อที่โครงการ :	1-2-77 ไร่
ประเภทโครงการ :	คอนโดมิเนียม สูง 32 ชั้น 1 อาคาร
แบบห้อง :	1 ห้องนอน Smart พื้นที่ใช้สอย 29-30 ตร.ม. 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 32.5-35.5 ตร.ม. 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 54-60.5 ตร.ม. 1 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอย 41-42 ตร.ม. 2 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอย 45-76 ตร.ม.
จำนวนยูนิต :	333 ยูนิต
ที่จอดรถ :	48% (รวม 165 คัน แบบธรรมดา 141 คัน + ที่จอดรถอัตโนมัติ 24 คัน)
ลิฟต์ :	ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว, ลิฟต์บริการ 1 ตัว
สิ่งอำนวยความสะดวก :	สวนพักผ่อนชั้น 1, ล็อบบี้, สวนลอยฟ้าชั้น 28, สระว่ายน้ำ, Co-Working Space, ซาวน่า, ห้องคาราโอเกะ, ห้องซ้อมดนตรี, เลานจ์, ฟิตเนส, ห้องโยคะ, สวนลอยชั้นดาดฟ้า, สนามเด็กเล่น, ห้องประชุม
ระบบความปลอดภัย :	Access Card Control กล้องวงจรปิด และ รปภ. 24 ชม.
เบอร์โทร :	1266
เว็บไซต์ :	www.mjd.co.th/maru/ekkamai2/

Highlight : Maru เอกมัย 2

“มารุ” (Maru) คือแบรนด์คอนโดไฮไรซ์ระดับไฮเอ็นด์ โดย บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับบนของไทย ปัจจุบันมีคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ 2 โครงการคือ มารุ ลาดพร้าว 15 และ มารุ เอกมัย 2 ที่เราจะมาเยี่ยมชมกันในรีวิวฉบับนี้

มารุ เอกมัย 2 มีจุดเด่นสำคัญคือทำเลที่ตั้งโครงการ ซึ่งอยู่บนถ.เอกมัยตอนต้น ระหว่างเอกมัย ซ.2 กับ ซ.4 ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัยเพียง 450 ม. และรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ขณะที่จุดเด่นภายในโครงการก็มีทั้งด้านการออกแบบ ที่ให้ความสำคัญกับความเรียบง่าย เน้นรูปแบบเส้นตรงและใช้สีธรรมชาติเพื่อความรู้สึกที่ผ่อนคลายน่าพักผ่อน

สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง มารุ เอกมัย 2 จัดเต็มสิ่งอำนวยความสะดวกระดับไฮเอ็นด์ทั้งภาคพื้นและลอยฟ้ามาถึง 5 ชั้น รับวิวสวยของย่าน เอกมัย-ทองหล่อ พร้อมความพิเศษคือการเป็นคอนโด Pet Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ห้องละ 1 ตัว โดยแบบห้องนั้นก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้ง 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน และ Duplex ที่ทุกห้องมาพร้อมกับ Fully Fitted

Facilities

มารุ เอกมัย 2 ตั้งอยู่บนทำเลใจกลางเมืองย่านธุรกิจ ทำให้โดยรอบโครงการรายล้อมไปด้วยตึกสูงและไลฟ์สไตล์ที่คึกคักตลอดทั้งวัน แนวคิดในการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางของจึงให้ความสำคัญกับบรรยากาศที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ผ่อนคลายจากความวุ่นวายภายนอก ซึ่ง มารุ เอกมัย 2 ก็ได้จัดเต็มสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันรวม 5 ชั้น ไล่ตั้งแต่ชั้น 1, ชั้น 28, ชั้น 31-32 และบนดาดฟ้า

สิ่งแรกที่สัมผัสได้เมื่อเข้ามาภายในโครงการคือความโปล่งโล่ง ด้วยความสูง 5 ม.จากพื้นถึงฝ้าของพื้นที่ส่วนกลางชั้น 1 และช่องแสงโดยรอบ ทำให้โซน Co - Living Space ดูกว้างขวาง น่าลงมาใช้ทำงาน หรือเป็นที่ติดต่อพบปะรับแขกจากนอกโครงการ

พื้นที่ของ Co - Living Space จะเชื่อมต่อกับสวนพักผ่อนภายนอกตัวอาคาร และมีห้องพักผ่อนแบบส่วนตัว Sunken Living Room เป็นอีกฟังก์ชันที่เราสามารถชวนเพื่อนๆ มาใช้เวลาร่วมกัน หรือใช้เป็นห้องประชุมในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ไม่เป็นทางการ

ในยุคที่การทำงานมีความยืดหยุ่น ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศเป็นประจำ ใครที่ต้องการนัดเพื่อนร่วมงานมาประชุม หรือทำงานร่วมกันในบางโอกาส ชั้น 1 ของ มารุ เอกมัย 2 ก็มีห้องประชุมที่เป็นส่วนตัวพร้อมรองรับการใช้งาน เพียงแค่ Booking ล่วงหน้าก็สามารถนัดเพื่อนๆ มารวมตัวกันได้นับ 10 คนเลยทีเดียว

เมื่อออกมาภายนอกอาคารจะพบกับพื้นที่สีเขียวที่จัดไว้ให้ทั้งคนและเพื่อนสี่ขาได้พักผ่อนยืดเส้นยืดสายกันเบาๆ รวมถึงมีโซนนั่งเล่นเป็นจุดๆ ให้เลือกใช้งานกันได้หลายมุม เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากภายในห้องปรับอากาศ

ในบริเวณสวนพักผ่อนชั้น 1 มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยง และล้างจักรยานได้ ตอนโจทย์ความต้องการของทั้งคนรักสัตว์และผู้ที่ชื่นชอบการขี่จักรยาน โดยโครงการได้จัดโซนไว้อย่างเป็นสัดส่วน ไม่ต้องห่วงเรื่องรบกวนเพื่อนบ้านคนอื่นๆ ที่กำลังพักผ่อนในบริเวณใกล้เคียง

กลับมาที่ภายในอาคาร เมื่อเดินผ่าน Co - Living Space และล็อบบี้ จะพบกับโซนกล่องรับจดหมายที่กว้างขวาง พร้อมรองรับเอกสารของลูกบ้าน 333 ยูนิต โดยในโซนเดียวกันก็มี Smart Locker ที่สามารถฝากของได้อย่างสะดวกทันสมัย เชื่อมต่อกับโซนลิฟท์โดยสารที่มีความเป็นส่วนตัว ต้องใช้คีย์การ์ดเพื่อผ่านเข้าไปสู่โซนพักอาศัย

จากชั้น 1 ตอนนี้เราขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 28 เพื่อเยี่ยมชมสวนลอยฟ้า จุดชมวิวมุมสูงจุดแรกของ มารุ เอกมัย 2 ที่สามารถมองเห็น City View ย่านสุขุมวิท ตั้งแต่ฝั่งถ.พระราม 4 กว้างไปจนถึงฝั่งถ.เพชรบุรี ถือเป็นวิวทีสวยทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ซึ่งผู้พักอาศัยสามารถออกมาใช้งานได้ถึงเวลา 4 ทุ่มเลยทีเดียว

มาต่อกันที่ชั้น 31 ชั้นนี้ถือว่าจัดเต็มสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้พักอาศัยไว้อย่างครบครันและหลากหลาย พร้อมบรรยากาศที่โปล่งโล่งด้วยความสูงถึง 10 ม. จากพื้นถึงฝ้า มีไฮไลต์คือสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge ที่เห็นวิวมุมสูงของย่านสุขุมวิทหันไปทางทองหล่อ โดยสระมีความยาวถึง 20 ม. เป็นระบบเกลือ แยกโซนสระเด็กและสระน้ำอุ่นแบบจากุชชีให้ได้แช่ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

ใกล้กับสระว่ายน้ำจะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิง ซึ่งภายในจะมีตู้ล็อกเกอร์สำหรับเก็บเสื้อผ้าและของมีค่า รวมทั้งยังมีห้องซาวน่าให้ผู้พักอาศัยได้ผ่อนคลายร่างกายหลังจากออกกำลังกาย

อีกจุดที่น่าสนใจในพื้นที่ส่วนกลางชั้น 31 คือห้องคาราโอเกะและห้องซ้อมดนตรีที่มีขนาดกว้างขวาง บุผนังด้วยวัสดุดูดซับเสียงเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสนุกกับเสียงเพลงกันได้อย่างเต็มที่ เข้ากับเอกลักษณ์ของโซนเอกมัยที่เต็มไปด้วยสถานบันเทิงยามค่ำคืน

นอกจากนั้นยังมีห้องอเนกประสงค์ Co - Creation Space ที่สามารถรับประทานอาหารได้ ให้เราเปลี่ยนบรรยากาศมา Dinner ชมวิวมุมสูงราวกับอยู่บนโรงแรมหรู โดยห้องนี้จะเชื่อมต่อกับระเบียงส่วน Outdoor ที่สามารถรับลมพร้อมกับทำอาหารได้ที่ Co - Kitchen Terrace

สำหรับใครที่ต้องการความเงียบเพื่อสมาธิในการทำงานหรืออ่านหนังสือ ก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศจากภายในห้องพัก มาใช้พื้นที่ส่วนกลางโซนเงียบได้ที่ Quiet Room ที่มีมุมสงบให้เลือกอ่านหนังสือได้ตามใจชอบ

จากชั้น 31 มาชมส่วนกลางชั้น 32 กันต่อครับ ห้องแรกที่เราพามาชมกันคือฟิตเนสที่มีความโอ่โถงเป็นพิเศษ ด้วยความสูง 10 ม. จากพื้นถึงฝ้า และการติดตั้งกระจกใสเต็มพื้นที่ถึง 2 ฝั่ง ทำให้ฟิตเนสห้องนี้ได้วิวเมืองที่สวย กว้างไกลถึง 180 องศา สมกับเป็นคอนโดไฮไรส์หรูระดับไฮเอ็นด์

ติดกับห้องฟิตเนสจะเป็นห้องออกกำลังแบบโยคะฟลายที่ติดตั้งอุปกรณ์ไว้พร้อมใช้งาน มาพร้อมวิวสวยของทำเลใจกลางเมืองที่สามารถมองเห็นได้เต็มๆ ผ่านผนังกระจกบานใหญ่สูง 10 ม. เช่นกันกับในห้องฟิตเนส

อีกไฮไลท์ของชั้น 32 คือห้องเลานจ์สุดหรูที่มีความกว้างขวาง โปร่งโล่ง รับวิวใจกลางเมืองได้เต็มๆ ผ่านผนังกระจกสูง 10 ม. ได้บรรยากาศหรูหรา ผ่อนคลาย เหมาะกับการมานั่งจิบเครื่องดื่มชมวิวแบบชิลๆ ได้ตลอดทั้งเวลากลางวันและกลางคืน

มาต่อกันที่ Rooftop ของโครงการ มารุ เอกมัย 2 จากชั้น 32 จะต้องเดินขึ้นบันไดเพื่อมาถึงชั้นดาดฟ้า ซึ่งบรรยากาศโดยรวมยังคงเน้นความเป็นธรรมชาติ ทั้งจากการจัดภูมิทัศน์ให้มีความเป็นพื้นที่สีเขียว และการเลือกใช้วัสดุต่างๆ ที่คงคอนเซปต์เรียบง่าย ผ่อนคลาย และชวนพักผ่อน

พื้นที่ของ Rooftop แบ่งฟังก์ชันใช้สอยเป็นหลายส่วน โดยโซนตรงกลางที่เห็นในภาพด้านบนจะเป็น Star Gazing Desk ที่เหมาะจะขึ้นมานั่งรับลมชมดาวในตอนกลางคืน ความพิเศษอยู่ที่บนพื้นได้มีการฝังหลอดไฟเรียงกันเป็นหมู่ดาวราศีสิงห์ซึ่งความหมายดีตามหลักฮวงจุ้ย ส่วนถัดไปจะเป็น Relax Hill ลานเล่นระดับที่นั่งเล่นได้หลายจุด สามารถจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวได้ โดยมีเคาน์เตอร์เตาและซิงค์ล้างอยู่ข้างๆ

นอกจากพื้นที่กิจกรรมกลางแจ้ง บนชั้นดาดฟ้าก็ยีงมีห้อง Terrarium House ติดแอร์เย็นสบายให้ผู้พักอาศัยได้ใช้งานเป็นห้องทำงาน อ่านหนังสือ หรือประชุมเล็กๆ ได้ตามอัธยาศัย

บน Rooftop มีมุมให้นั่งพักผ่อนชมวิวเมืองอยู่หลายจุด อย่างเช่นในภาพจะเป็น Reading Forest ที่มีความเป็นส่วนตัวด้วยฉากกั้นไม้ แต่ก็มีความร่มรื่นใกล้ชิดกับธรรมชาติ

อีกมุมหนึ่งจะเป็นบาร์ยาวสำหรับนั่งชมวิวเมืองใจกลางสุขุมวิท ได้บรรยากาศที่สวยงามแตกต่างกันไปในเวลากลางวันและค่ำคืน

สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกรุ่นจิ๋ว บนดาดฟ้าของ มารุ เอกมัย 2 ก็มีสนามเด็กเล่นให้น้องๆ หนูๆ ได้สนุกพร้อมกับฝึกทักษะไปกับเครื่องเล่นต่างๆ ไว้ให้ปีนป่ายเสริมพัฒนาการของเด็กๆ

นอกจากนั้น บน Rooftop ของ มารุ เอกมัย 2 ยังมีแปลงผักสวนครัวหลากหลายชนิดอยู่ด้วย เป็นอีกไอเดียที่ช่วยให้บรรยากาศของชั้นดาดฟ้ามีความใกล้ชิดธรรมชาติได้ดี

Design

คอนเซ็ปต์การออกแบบของ มารุ เอกมัย 2 มาในแนวคิดแบบ Twisted Simple ให้ความสำคัญกับความเรียบง่าย แต่มีรายละเอียดที่สดใหม่และสนุกสนาน ผ่านรูปแบบของเส้นตรงและการเลือกใช้วัสดุสีธรรมชาติ ทำให้งานสถาปัตยกรรมของอาคารมีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำ คงรสนิยมการตกแต่งในรูปแบบของคอนโดหรูระดับไฮเอนด์ตามสไตล์ของเมเจอร์ฯ

งานออกแบบทั้งภายนอกและภายใน จะเห็นว่าคอนโด มารุ เอกมัย 2 ตกแต่งโดยเน้นการใช้วัสดุที่มีสีกับลายแบบธรรมชาติ เช่น ระแนงไม้ และกระเบี้องลายหิน รวมถึงการจัดวางไม้ประดับตามจุดต่างๆ เพื่อสร้างความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย เรียบง่ายใกล้ชิดธรรมชาติ หลีกหนีความวุ่นวายจากภายนอกที่เป็นแหล่งธุรกิจใจกลางเมือง

Master Plan

ก่อนจะไปชมห้องตัวอย่างกันต่อ เรามาสรุปข้อมูลพื้นฐานของ มารุ เอกมัย 2 กันก่อนนะครับ โดยโครงการนี้เป็นตึกไฮไรส์สูง 32 ชั้น มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 333 ยูนิต โดยชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนชั้น 2 ถึง 8 จะเป็นที่จอดรถรวม 165 คัน แบบธรรมดา 141 คัน และที่จอดรถอัตโนมัติ 24 คัน พร้อมช่องชาร์จพลังงาน EV อีก 2 ช่อง โดยตั้งแต่ชั้น 9 ถึงชั้น 27 จะเป็นห้อง Simplex แบบ 1-2 ห้องนอน ขณะที่ห้อง Duplex จะอยู่ที่ชั้น 28 - 32

ทางเข้าของโครงการอยู่ติกกับถ.เอกมัย ระหว่างเอกมัยซ.2 และ ซ.4 มีดีไซน์ป้ายโครงการที่โดดเด่น เห็นแล้วรู้เลยว่าเป็นแบรนด์ Maru โดยจะมีทางเดินเข้าสำหรับผู้พักอาศัย ผ่านสวนน้ำพุที่อยู่หน้าอาคาร โดยมีฉากกันจากถนนทางเข้าที่จอดรถเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัย โดยจุดนี้จะมีซุ้มรักษาความปลอดภัยที่ประจำการตลอด 24 ชม. พร้อมการเข้าออกด้วยระบบ Access Card 

จากทางเดินเข้าโครงการ จะผ่านจุดจอดจักรยานที่มีเครื่องสูบลมยางเป็นอีกพื้นที่ส่วนกลางอีกจุดที่พร้อมให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้งาน

ก่อนถึงทางขึ้นโรงจอดรถ จะเจอกับลานจอดแบบ Automatic Parking ที่รองรับการจอดรถได้ 24 คัน

Room Type

ยูนิตพักอาศัยของโครงการจะมีทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่

• แบบ 1 ห้องนอน Smart พื้นที่ใช้สอย 29-30 ตร.ม.
• แบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 32.5-35.5 ตร.ม.
• แบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 54-60.5 ตร.ม.
• แบบ 1 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอย 41-42 ตร.ม.
• แบบ 2 ห้องนอน Duplex พื้นที่ใช้สอย 45-76 ตร.ม.

ห้อง Simplex จะมีความสูง 2.7 ม.จากพื้นถึงฝ้า ส่วนห้อง Duplex จะมีความสูงถึง 5.5 ม. โดยห้องของโครงการจะขายแบบ Fully Fitted มาพร้อมชุดครัว ตู้เก็บของ สุขภัณฑ์ ฉากกั้นอาบน้ำ และเครื่องปรับอากาศ

ปัจจุบัน (ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2564) ห้องแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 32.5-35.5 ตร.ม. และห้อง Duplex ทั้ง 2 แบบได้รับการตอบรับที่ดีมากตั้งแต่โครงการยังสร้างไม่เสร็จจน Sold Out ไปเรียบร้อย ส่วนวันนี้เราจึงจะมารีวิวห้องอีก 2 แบบให้ทุกคนได้ชมกันครับ

2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 59.5 ตร.ม.

แปลนของห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีแบบหน้ากว้าง 6 ม. จะออกแบบโดยแยกพื้นที่โซน Common Area และ Private Area อย่างชัดเจน เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับ Common Area อยู่ตรงกลาง จัดเป็นโต๊ะทานข้าว ที่ด้านข้างจะเชื่อมต่อกับห้องครัวปิด ส่วนถัดไปจะเป็นพื้นที่สำหรับตั้งโซฟาดูโทรทัศน์ซึ่งอยู่ติดกับระเบียง ขนาบ 2 ฝั่งด้วย Private Area ที่ฝั่งหนึ่งจะเป็นห้องนอนเล็กและห้องน้ำกลาง ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว

เมื่อเข้ามาภายในห้อง จะเจอกับพื้นที่สำหรับตั้งโต๊ะทานอาหาร จากห้องตัวอย่างที่โครงการจัดไว้จะเห็นว่าสามารถนั่งทานข้าวร่วมกันได้ 4 ที่นั่งแบบสบายๆ ด้วยความเป็นห้องแบบหน้ากว้าง

ข้างๆ โต๊ะทานอาหารจะเป็นห้องครัวแบบปิด ซึ่งทางโครงการจะส่งมอบแบบ Fully Fitted พร้อมใช้งานให้เลยทีเดียว ซึ่งจะรวมไปถึงตู้เก็บของบานเปิดที่ซ่อนตัวอยู่บนผนังข้างๆ ประตูห้องครัวด้วยครับ

Fully Fitted ที่มาพร้อมกับห้องจะประกอบด้วยตู้เก็บของแบบฝังผนัง ชุดเคาน์เตอร์ครัวและตู้ลอย ซิงค์ล้างจาน Hafele เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันแบรนด์ Franke และชั้นวางเครื่องซักผ้า เรียกได้ว่าครบครันพร้อมใช้งาน หมดห่วงเรื่องต่อเติมไปได้เลยครับ

พื้นที่ Common Area ของห้องมีขนาดกว้างขวาง ถัดจากโซนทานอาหารไปจะเป็นโซน Living ที่สามารถวางโซฟาตัวยาวได้เลย มีระยะห่างกับผนังอีกฝั่งอย่างพอดี ติดตั้งโทรทัศน์ไว้ดูหนังดูซีรีย์ได้แบบไม่ปวดตา หรือจะวางเครื่องเล่นแผ่นเสียงเพื่อการฟังเพลงอย่างมีระดับก็ถือว่าทำได้อย่างลงตัว โดยถัดออกไปจะเป็นระเบียงพื้นที่กำลังพอดี และยังแถมเครื่องปรับอากาศทั้ง 3 ตัวครบทุกห้อง

พื้นที่ Common Area จะอยู่ตรงกลางระหว่าง Private Area ที่ขนาบอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง โดยฝั่งแรกขวามือจะมีห้องน้ำกลางที่ใช้ร่วมกันได้ทั้งห้อง โดยผนังฝั่งหนึ่งเหมาะกับการวางหรือบิลต์อินชั้นวางของ ส่วนอีกฝั่งจะเป็นประตูของห้องนอนเล็ก

ภายในห้องน้ำ เป็นอีกจุดที่โครงการจะส่งมอบพร้อมสุขภัณฑ์ครบชุด ทั้งอ่างล้างหน้า กระจก โถชักโครก ราวแขวนผ้า ฝักบัว และฉากกั้นอาบน้ำอย่างดีของแบรนด์ Hafele

เลี้ยวเข้าห้องนอนเล็ก จะพบว่าห้องมีขนาดกำลังพอเหมาะสำหรับวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต โดยที่ยังสามารถติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาด 3 ประตูได้อีกด้วย โดยห้องจะมีหน้าต่างบานกว้างเต็มผนัง รับวิวและแสงธรรมชาติช่วยให้ห้องมีความปลอดโปร่งมากขึ้น

ข้ามมาอีกฝั่งของห้อง จะเป็นห้องนอน Master Bedroom ที่วางฟังก์ชันได้น่าสนใจทีเดียว โดยเมื่อเข้าไปข้างใน จะพบพื้นที่สำหรับวางเตียงขนาด 5-6 ฟุต อยู่ฝั่งหน้าต่างบานกว้างที่ช่วยรับวิวและแสงได้เต็มที่เช่นกันกับห้องนอนเล็ก

ลึกเข้าไปอีกฝั่ง เป็นพื้นที่ซึ่งเหมาะกับฟังก์ชันห้องแต่งตัว สามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งและบิลต์อินตู้เสื้อเข้ามุมเป็นรูปตัวแอลให้สาวๆ หนุ่มๆ เก็บเสื้อผ้ากันได้อย่างจุใจ

ถัดจากตู้เสื้อผ้า จะเป็นห้องน้ำส่วนตัวซึ่งมีขนาดกว้างขวาง โดยนอกจากสุขภัณฑ์มาตรฐานที่ให้มาเหมือนห้องน้ำกลางแล้ว ยังพิเศษด้วยอ่างอาบน้ำจาก Kohler ที่โครงการจะส่งมอบมาพร้อมห้องเปล่าด้วยเช่นกัน

หน้าประตูทางเข้าออกห้อง ออกแบบให้มีมุม Foyer สำหรับถอดรองเท้าอย่างเป็นสัดส่วน โดยประตูห้องนั้นมาพร้อมกับระบบ Digital Door Lock ของ Hafele ซึ่งรองรับทั้งการใส่รหัสและคีย์การ์ด

แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 29 ตร.ม.

มาต่อกันที่ห้องแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 29 ตร.ม. เป็นห้องตอนลึกที่มีหน้ากว้าง 3 ม. ขนาดเริ่มต้นของโครงการ จากแปลนจะเห็นว่าถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซนหลักๆ คือครัวและโต๊ะทานข้าวซึ่งอยู่บริเวณประตูทางเข้าห้อง ต่อด้วยห้องน้ำ และห้องนอนที่รวมฟังก์ชันห้องนั่งเล่นไปด้วย โดยรวมแล้วถือว่าเหมาะสำหรับคนโสดหรือคู่รัก บรรยากาศจริงๆ จะเป็นอย่างไรตามเราไปชมกันครับ

เมื่อเข้ามาภายในห้องจะพบกับทางเดินทะลุไปถึงระเบียง โดยผนังฝั่งหนึ่งจะเป็นชุดเคาน์เตอร์ครัว ส่วนอีกฝั่งจะเป็นผนังของห้องน้ำ ซึ่งทางโครงการก็ได้บิลต์อินตู้เก็บของแบบฝังผนังไว้เช่นกันกับห้อง 2 Bedroom

ห้อง 1 Bedroom แบบนี้ก็มี Fully Fitted ชุดครัวมาเช่นกันครับ โดยเจ้าของห้องจะได้เคาน์เตอร์ครัว ตู้ลอย อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน ซึ่งก็จัดว่าครบครัน เพียงพอสำหรับการใช้งาน

Fully Fitted ที่มาพร้อมห้องเปล่า ทางโครงการเลือกผลิตภัณฑ์ดีๆ มาทั้งนั้นเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างจาน Hafele หรือ เตาไฟฟ้ากับที่ดูดควันของ Franke นอกจากนั้นยังมีออปชั่นถังขยะใต้ซิงก์ที่ออกแบบให้เปิดปิดฝาพร้อมบานตู้ รวมไปถึงตู้เก็บของฝังผนังที่อยู่ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัว ก็จัดมาเเบบสูงถึงฝา เก็บของได้จุใจไม่ต้องกลัวห้องรก

ถัดจากโซนครัว จะเป็นมุมสำหรับวางโต๊ะทานอาหารที่จัดชิดผนัง รองรับได้ 2 ที่นั่ง เชื่อมต่อกับห้องนอนซึ่งแบ่งสัดส่วนด้วยกระจกกั้นห้องซึ่งทางโครงการก็จัดมาให้พร้อมห้องเปล่าด้วยเช่นกันครับ

ห้องนอนรวมฟังก์ชันเข้ากับห้องนั่งเล่น ทำให้มีพื้นที่ใหญ่เต็มหน้ากว้าง 3 ม. เลือกวางเตียง 5-6 ฟุตได้ตามใจชอบ ปลายเตียงเหลือพื้นที่เป็นทางเดินได้สบาย ซึ่งผนังฝั่งตรงข้ามเหมาะกับการแขวนโทรทัศน์ไว้นอนดู Netflix ซีรีย์ และชิลในวันหยุดที่ไม่อยากลุกออกไปไหน โดยยังสามารถบิลต์อินทำชั้นวางของเพิ่มได้อย่างเหลือเฟือตามไอเดียการตกแต่งของห้องตัวอย่างเลยครับ

มุมข้างเตียงที่ติดกับหน้าต่าง ห้องตัวอย่างตกแต่งเป็นมุมพักผ่อนชมวิว เหมาะกับการเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งจิบกาแฟยามเช้าหรือหลบมุมอ่านหนังสือเงียบๆ กับวันสบาย ซึ่งปรับเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานก็ทำได้อย่างลงตัว เข้ากับยุค Work From Home ได้ดีทีเดียว ส่วนระเบียงด้านนอกก็มีพื้นที่กว้างขวางพอสมควร ติดตั้งเครื่องซักผ้าและแขวนคอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศได้พอดี โดยสำหรับห้อง 1 Bedroom โครงการจะแถมแอร์มาให้ 1 ตัว

มองย้อนกลับมาจากระเบียง จะเห็นตู้เสื้อผ้าที่โครงการตกแต่งเป็นไอเดียตัวอย่างไว้ครับ โดยตู้เสื้อผ้าจะทำหน้าที่เป็นฉากกันระหว่างห้องนอนและห้องน้ำ ซึ่งต้องบอกว่าแตกต่างจากห้องเปล่านะครับ เพราะห้องเปล่าจะติดตั้งฉากกันห้องเป็นรูปตัว L รวมทางเข้าห้องน้ำเป็นส่วนหนึ่งกับห้องนอน ดูได้จากแปลนห้องที่แปะไว้ข้างต้นเลยครับ

ห้องน้ำของยูนิต 1 Bedroom จัดฟังก์ชันมาครบครันครับ ขนาดก็กว้างกำลังดีไม่คับแคบเลย โดยสุขภัณฑ์ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น อ่างล้างหน้า กระจกเงา โถชักโครก ราวแขวนผ้า ฉากกั้นอาบน้ำ และฝักบัว จะถูกส่งมอบให้เจ้าของห้องแบบครบชุดพร้อมใช้งานตามภาพเลย

โดยรวมแล้วห้องแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 29 ตร.ม. ของ มารุ เอกมัย 2 ถือว่ามีรูปแบบและฟังก์ชันที่ลงตัวพอดีสำหรับผู้อยู่อาศัย 1-2 คน โดยในส่วนของความปลอดภัย ทางโครงการก็ติดตั้ง Digital Door Lock ของ Hafele มาพร้อมประตูห้อง เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้ง 333 ยูนิตเลยครับ

Location : Maru เอกมัย 2

เยี่ยมชมภายในคอนโด มารุ เอกมัย 2 กันอย่างครบถ้วนไปแล้ว มาพูดถึงจุดเด่นที่สำคัญของโครงการอย่างทำเลกันบ้างดีกว่าครับ จากแผนที่จะเห็นเลยว่าที่ตั้งของคอนโดอยู่บริเวณศูนย์กลางของสิ่งอำนวยความสะดวก พื้นที่ไลฟ์สไตล์ และแหล่งงานใจกลางกรุงย่านสุขุมวิท เอกมัย ทองหล่อ และอโศก

ภาพมุมสูงจากบนชั้นดาดฟ้า จะเห็นถ.เอกมัยยาวตั้งแต่ตอนต้นไปจนถึงตอนปลายซึ่งเชื่อมต่อกับถ.เพชรบุรี รายล้อมด้วยตึกสูงมากมายของย่านเอกมัยและทองหล่อ ซึ่งเป็นทั้งที่พักอาศัยและสำนักงาน

การเดินทาง

การเดินทางที่สะดวกสบายถือเป็นจุดเด่นของ มารุ เอกมัย 2 เลยทีเดียว ด้วยที่ตั้งซึ่งอยู่ตอนต้นของถ.เอกมัย ทำให้คอนโดอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัยเพียง 450 ม. สามารถเดินทางต่อไปยังแหล่งไลฟ์สไตล์และแหล่งงานแนวรถไฟฟ้าทั้ง ทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศก เพลิตจิต ชิดลม สยาม สีลม และสาทรได้ง่าย เช่นกันกับถ.สุขุมวิทซึ่งเป็นอีกหนึ่งเส้นเลือดใหญ่ของกรุงเทพมหานคร  

นอกจากถ.สุขุมวิทที่เชื่อมต่อกับถ.เอกมัยตอนต้น ตอนปลายของเอกมัยยังเชื่อมต่อกับถ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นถนนสายสำคัญที่สามารถเดินทางไปยังแหล่งงาน New CBD โซนพระราม 9 รวมยังใกล้กับทั้งทางด่วนศรีรัชและฉลองรัชซึ่งเชื่อมต่อไปชานเมืองมุมต่างๆ ของกรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวกสบายในเวลาที่ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วน

ถ.เอกมัยซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการเป็นถนนขนาด 4 เลน หากไม่ใช่ในชั่วโมงเร่งด่วนหรือคืนวันศุกร์ที่เปิดต้อนรับนักท่องราตรี ถนนเส้นนี้ก็ถือว่ามีความกว้างขวางเดินทางสัญจรได้สะดวกสะบายครับ นอกจากนั้นยังมีปั๊มน้ำมันเปิดบริการอยู่เยื้องกับหน้าโครงการเลย ถือว่าตอบโจทย์ผู้ใช้รถได้พอดี

สิ่งอำนวยความสะดวก

ขึ้นชื่อว่า มารุ เอกมัย 2 ก็แน่นอนว่าสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบจะต้องมีให้เลือกใช้บริการแบบครบครันอย่างแน่นอน เฉพาแค่บริเวณตอนต้นของถ.เอกมัยก็มีทั้งอเวนิว Park Lane ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านอาหารหลากหลายประเภท ขณะที่ถัดไปจากโครงการเพียงไม่กี่เมตรก็มี Bic C เอกมัยตั้งอยู่ ส่วนบริเวณที่ติดกับถ.สุขุมวิท และ BTS เอกมัย ก็มีทั้งศูนย์การค้า Gateway เอกมัย และโรงภาพยนตร์ Major Cineplex เป็นทางแหล่งไลฟ์สไตล์ใกล้บ้าน ยังไม่นับรวม คาเฟ่ ร้านอาหาร และสถานบันเทิงอีกหลายสิบแห่งตลอดแนวถ.เอกมัย

นอกจากแหล่งไลฟ์สไตล์ สิ่งอำนวยความสะดวกในบริเวณโครงการก็ยังมีโรงพยาบาลสมิติเวชสุขุมวิทเป็นสถานพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด นอกจากนั้นยังมีโรงพยาบาลกรุงเทพที่อยู่ไม่ไกลในโซนเพชรบุรี ขณะที่สถานศึกษาก็มีโรงเรียนนานาชาติตั้งอยู่หลายแห่ง เนื่องจากทำเลนี้เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติที่ทำงานในไทย โดยโรงเรียนที่ใกล้เคียงก็มีทั้ง รร.นานาชาติ Bangkok Prep และ รร.นานาชาติเอกมัย ส่วนระดับอุดมศึกษาก็มี ม.ศรีนครินทรวิโรฒ เป็นมหาวิทยาลัยใหญ่ในย่านอโศก

ขยับออกไปจากเส้นเอกมัยเพียงเล็กน้อย ในย่านทองหล่อก็มีศูนย์การค้าดังจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง Donki Mall ตั้งอยู่ โดยมีร้านอาหารมากมายอยู่ตามตรอกซอกซอยเช่นกันกับเอกมัย นอกจากนั้นหากนั่ง BTS ไปอีกแค่ 2 สถานี ที่พร้อมพงษ์ก็มีทั้ง Emporium และ Emquatier เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ให้ได้จับจ่ายใช้สอยและแฮงเอาต์ หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศมาออกกำลังกายใกล้ชิดธรรมชาติก็มีอุทยานเบญจสิริเป็นปอดใหญ่ของชาวสุขุมวิทตอนกลาง

Price & Promotion

ปัจจุบันห้องแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 32.5-35.5 ตร.ม. และห้อง Duplex ทั้งแบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอนได้ปิดการขายไปหมดแล้ว เหลือห้องอีก 2 แบบที่เราพาไปรีวิวกันมา ซึ่งมีราคาเริ่มต้นดังนี้

• 1 ห้องนอน Smart พื้นที่ใช้สอยเริ่ม 29-30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท อยู่ฟรี 2 ปี*
• 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 54.0 - 60.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9.9 ล้านบาท* อยู่ฟรี 2 ปี*

*ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2564
สนใจลงทะเบียนรับข้อมูลโครงการ >>  https://bit.ly/3a61CU2

Conclusion

Location : โครงการอยู่บนถ.เอกมัย ซึ่งเป็นหนึ่งในถนนสายสำคัญของกรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นทำเลที่ดีสำหรับที่พักอาศัยแนวสูง เนื่องจากเป็นย่านที่มีความเจริญมากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบรองรับการใช้ชีวิตทั้งสำหรับคนโสดและครอบครัว นอกจากนั้นยังติดกับถ.สุขุมวิทและถ.เพชรบุรี รวมถึงใกล้สถานีรถไฟฟ้าในระยะที่เดินได้สบายๆ เพียง 4-5 นาที ทำให้ไม่ว่าจะใช้รถส่วนตัวหรือรถสาธารณะก็นับว่าสะดวกสบาย สามารถเชื่อมต่อไปยังแหล่งงานได้หลายแห่ง 

Design & Function : ดีไซน์เรียบหรู ตามสไตล์ของเมเจอร์ฯ ที่ถนัดในงานพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมียม โดยการออกแบบคอนเซ็ปต์ Twisted Simple Design ที่เน้นความสมดุลในการใช้ชีวิตให้ใกล้ชิดธรรมชาติ ก็ถือว่าลงตัวกับบริบทของทำเลที่มีความเป็นเมืองสูง ในขณะที่ฟังก์ชันห้องก็มีความหลากหลาย รองรับทั้งการอยู่แบบส่วนตัวในห้อง 1 Bedroom Smart และแบบครอบครัวกับห้อง 2 Bedroom