รีวิวทาวน์โฮม CHER WESTVILLE ราชพฤกษ์ ทาวน์โฮมสไตล์ Modern Tropical สร้างด้วยอิฐแดง ใกล้ Central Westville

อีกทั้งยังใส่ใจในการออกแบบพื้นที่ภายในโครงการให้มีความร่มรื่น เพิ่มบรรยากาศที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและเพิ่มความใกล้ชิดธรรมชาติให้เข้าถึงได้ง่าย ด้วยพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่รองรับการใช้งานภายใต้แนวคิด “Connect to Cherishing Moments” นอกจากนั้นยังตั้งอยู่ในทำเลที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและแหล่งไลฟ์สไตล์อย่าง Central Westville โดยเป็นโครงการทาวน์โฮม 2 - 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. ขนาดพื้นที่ใช้สอย 115.9-164.4 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 - 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ในราคาเริ่มต้น 3.29 ล้าน

Factsheet

ชื่อโครงการ :	เฌอ เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์
บริษัท :	บริษัท พีชแอนด์ลิฟวิ่ง จำกัด
ที่ตั้งโครงการ :	365 หมู่ที่ 1 ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130
พิกัดโครงการ :	https://maps.app.goo.gl/tN1tmrwBUEcvctC86
พื้นที่โครงการ :	17-3-26.6 ไร่
รายละเอียดโครงการ :	ทาวน์โฮม 2-3 ชั้น สไตล์ Modern Tropical
จำนวนหลัง :	203 หลัง
แบบบ้าน :	WAYFARING : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 115.9 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
	WHITEWOOD : ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 164.4 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ค่าส่วนกลาง :	1,000 บาท หลัง/เดือน
ราคาเริ่มต้น :	เริ่มต้น 3.29 ล้านบาท*  (ราคา ณ มิถุนายน 2567)
โทร :	094-466-6447
เว็บไซต์ :	https://cher-westville-ratchapruek.peaceandliving.co.th/

Highlight

• ดีไซน์ที่นำมาใช้ในการออกแบบโครงการคือ Modern Tropical ทำให้โครงการนี้ออกแบบทาวน์โฮมที่โปร่งโล่งมากกว่าที่เคย เนื่องจากเป็นสไตล์ที่เน้นความโปร่งโล่งของพื้นที่ จึงเกิดเป็น Double Volume ที่สูงกว่า 6 ม. เชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างชั้น 1 และชั้น 2 ของทาวน์โฮม 3 ชั้น
• ใส่ใจทุกรายละเอียดด้วยการออกแบบฟังก์ชันอย่างลงตัว และก่อสร้างด้วยอิฐมอญแดงที่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่เพื่อให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้ไม่ยาก เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน สามารถต่อเติมหรือปรับปรุงพื้นที่ด้วยการะทุบหรือเจาะได้สะดวก
• Urban & Pet Friendly Lifestyle พื้นที่แห่งความลงตัวที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ สวนส่วนกลางขนาดใหญ่พร้อมพื้นที่กิจกรรมที่รองรับคนทุกช่วงวัย และทุกคนในครอบครัว เป็นธรรมชาติที่ให้ทั้งความร่มรื่นและบรรยากาศแห่งการพักผ่อน โอบล้อมอาคาร Clubhouse สไตล์ Modern Tropical ที่ออกแบบโดยใช้โทนสีธรรมชาติทำให้กลมกลืนไปกับพื้นที่ได้อย่างลงตัว
• ทำเลศักยภาพในย่านราชพฤกษ์ รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และมีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ใกล้ Central Westville แหล่งไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์คนรักสัตว์ อีกทั้งยังอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก เชื่อมต่อทุกพื้นที่ได้อย่างคล่องตัว ไม่ว่าจะเป็นเมืองนนทบุรี โซนปิ่นเกล้าหรือตัวเมือง

Design

แนวความคิดในการออกแบบโครงการคือสไตล์ Modern Tropical เป็นสไตล์ที่มีเอกลักษณ์เนื่องจากวัสดุที่ใช้และการออกแบบพื้นที่ให้มีความโปร่งโล่งเหมาะกับอาคารในเขตร้อนชื้นอย่างประเทศไทย 

สำหรับเรื่องแรกจะขอพูดถึงเรื่องวัสดุที่โครงการได้หยิบจับลักษณะของวัสดุธรรมชาติอย่างเรื่องสี โดยจะใช้โทนสีเอิร์ธโทนให้ความรู้สึกที่อบอุ่นเหมือนไม้ และมีเส้นสาย ความตื้น-ลึกของตัวบ้านทำให้บ้านมีมิติและเกิดแสงเงา พร้อมกับมีหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติให้ส่องเข้าไปในตัวบ้าน

นอกจากเอกลักษณ์เรื่องวัสดุแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือการนำจุดเด่นในการออกแบบพื้นของสไตล์นี้นั่นเอง จากสไตล์ที่เน้นเรื่องความโปร่งโล่งและให้บรรยากาศที่เหมือนมาพักผ่อน โครงการจึงได้ออกแบบบ้านให้มีฝ้าเพดานสูง และออกแบบทาวน์โฮม 3 ชั้น ให้มี Double Volume เปิดพื้นที่ระหว่างชั้น 1 และชั้น 2 ทำให้เกิดพื้นที่ว่างที่เพิ่มทั้งแสงธรรมชาติและเพิ่มความโปร่งสบาย ลดบรรยากาศแบบเดิม ๆ ของทาวน์โฮมที่มักจะดูทึบให้หมดไป

Facility

ซุ้มประตูทางเข้า - ออกจะอยู่ติดกับป้ายโครงการที่สามารถเห็นได้เด่นชัดจากริมถนน โทนสีที่ใช้ยังคงเป็นสีเอิร์ธโทนซึ่งสอดคล้องกับสไตล์ของอาคารภายในที่เป็น Modern Tropical โดยจะมีต้นไม้เพิ่มความร่มรื่นให้ตั้งแต่ด้านหน้าโครงการเลยค่ะ

ทางเข้า - ออกแบ่งช่องทางเดินรถชัดเจน ตรงกลางมีป้อมรปภ.ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง กั้นด้วยประตูไม้กระดกโดยระบบทางเข้า-ออกนี้เป็นระบบ Easy Pass ทำให้สะดวกสำหรับลูกบ้าน สำหรับเรื่องความปลอดภัยนั้น รั้วโครงการสูง 2.65 ม. และจะมี CCTV ให้รอบ ๆ โครงการถึง 24 จุดด้วยกัน

เมื่อเข้ามาภายในก็จะเจอกับพื้นที่ส่วนกลางเป็นอันดับแรก เป็นสวนขนาดใหญ่ที่มีความร่มรื่น รายล้อมอาคาร Clubhouse ซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้น ภายในสวนนอกจากมีไม้พุ่มที่เพิ่มบรรยากาศแล้ว ยังมีต้นไม้ใหญ่หลากหลายต้นทำให้มีร่มเงาสามารถมานั่งพักผ่อนได้ในมุมต่าง ๆ ของสวน

ภายในสวนนอกจากจะมีพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่กิจกรรมต่าง ๆ แล้วก็จะมีทางเดินเล่นรอบสวนที่สามารถมาวิ่งหรือเดินออกกำลังกายได้

สนามเด็กเล่นจะมีเครื่องเล่นต่าง ๆ สำหรับเด็กและพื้นจะต่างจากจุดอื่น ๆ โดยจะเป็นพื้นยางลดแรงกระแทกและมีสีสดใส เหมาะสำหรับเด็ก ๆ สามารถมาวิ่งเล่นได้

ติดกันนั้นก็เป็นสนามบาสแบบ Half-Court Game เป็นขนาดพอเหมาะสำหรับพื้นที่ส่วนกลาง อีกทั้งรอบ ๆ ยังมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาซึ่งจะเห็นได้เลยว่าเพิ่มทั้งความร่มรื่นและทำให้มีร่มเงาบังแดดในตอนกลางวันได้

อาคาร Clubhouse เป็นอาคาร 2 ชั้นที่อยู่ติดกับสวนส่วนกลาง ด้านล่างเป็นสระว่ายน้ำที่เปิดโล่งเชื่อมต่อบรรยากาศกับวิวสวนได้อย่างใกล้ชิด ส่วนด้านบนเป็นห้องกระจกที่เปิดรับวิวสวน

สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือที่แยกสระเด็กและสระผู้ใหญ่เป็นสัดส่วน ทำให้มีความปลอดภัยในการใช้งาน โดยขนาดสระคือ 13x4.8 ม. ลึก 1.2 ม. และสระเด็กขนาด 3.75x2.25 ม. ลึก 0.6 ม. ด้านข้างมีพื้นที่นั่งเล่นและเก้าอี้อาบแดด

วิวที่จะเห็นจากสระว่ายน้ำ เนื่องจากสระอยู่ติดกับสวนและความสูงจะยกระดับจากพื้นดินทำให้สามารถเห็นวิวสวนขณะว่ายน้ำหรือนั่งเล่นริมสระ

ชั้นบนจะมี Co-working Space ซึ่งเป็นห้องที่มีหน้าต่างกระจกรายล้อม เปิดรับวิวสวนและธรรมชาติจากภายนอกได้เป็นอย่างดี ภายในมีโซฟาและมุมนั่งเล่น นั่งทำงานหลากหลายจุด โดยโครงการจะมีปลั๊กรองรับการใช้งานในทุกจุด

อีกห้องของชั้นนี้คือฟิตเนส ขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างและยังคงเป็นห้องที่มีหน้าต่างกระจกหลากหลายมุม ทำให้พื้นที่โปร่งโล่ง บางส่วนจะมีระแนงด้านนอกบังสายตาและเพิ่มร่มเงาให้กับพื้นที่ภายใน สำหรับเครื่องเล่นมีหลากหลาย เรียกได้ว่าครบครันทีเดียว ทั้งดัมเบล เครื่องสำหรับเวท และเครื่องสำหรับสายคาดิโออย่างลู่วิ่งและจักรยานไฟฟ้า

Home Type

บ้านภายในโครงการ CHER WESTVILLE ราชพฤกษ์ เป็นทาวน์โฮมหน้ากว้าง 2-3 ชั้น ภายในแบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วนและลงตัว ขนาดพอเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กและกลาง บ้านมาตรฐานที่ได้เป็นบ้านเปล่าไม่มีการตกแต่งภายใน โดยการก่อสร้างโครงการเลือกใช้อิฐมอญแดงจึงรองรับการปรับเปลี่ยน ทุบหรือต่อเติมพื้นที่ได้นั่นเอง

• WAYFARING : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 115.9 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• WHITEWOOD : ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 164.4 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

WAYFARING เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. หลังนี้เป็นขนาดเริ่มต้นของแบบบ้านภายในโครงการนะคะ ดังนั้นจึงเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก 3-4 คนกำลังดี เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอย 115.9 ตร.ม. ฟังก์ชันบ้านมี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ สำหรับบ้านที่เป็นครอบครัวขนาดเล็กสามารถปรับเปลี่ยนห้องนอนชั้นบนให้เป็น Double Master Bedroom โดยรวมพื้นที่ห้องนอน 2-3 เข้าด้วยกันได้ เพราะว่าโครงสร้างและวัสดุก่อสร้างสามารถปรับเปลี่ยนและต่อเติมได้นั่นเอง

เนื่องจากเป็นบ้านหน้ากว้างจึงทำให้พื้นที่ภายในดูโปร่ง อีกทั้งหน้าบ้านสามารถจอดรถคันใหญ่ได้ 2 คัน ตัวบ้านสีหลักเป็นสีขาวแต่จะมีโทนสีน้ำตาลและเส้นสายเพิ่มมิติและสีสันให้กับตัวบ้านมากขึ้น มีกลิ่นอายของสไตล์ Modern Tropical ที่เน้นเรียบง่าย โมเดิร์นแต่ยังอบอุ่นแบบ Tropical นั่นเอง

ชั้น 1 : พื้นที่ชั้น 1 ด้านหน้าเป็นพื้นที่จอดรถ ด้านในเป็นพื้นที่ส่วน Common Area ที่ออกแบบให้เป็น Open Plan เปิดเชื่อมต่อพื้นที่ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เกิดเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่และมีกิจกรรมร่วมกันระหว่างสมาชิกในครอบครัวขณะใช้งานแต่ละส่วน โดยชั้นนี้จะมีห้องนั่งเล่น มุมทานอาหาร และมุมอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเป็นห้องทำงานหรือบ้านไหนชอบทำครัวก็สามารถปรับเป็นห้องครัวได้นั่นเอง

ชั้น 2 : เป็นพื้นที่พักผ่อนทั้งหมด โดยจะมี 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ห้องนอน 2-3 ขนาดพื้นที่ใช้สอยพอเหมาะสำหรับวางเตียง 3.5-5 ฟุต ส่วนห้อง Master Bedroom เป็นห้องโซนหน้าบ้านที่มีขนาดกว้าง ทำมุมแต่งตัวแบบ Walk in Closet และมุมนั่งเล่นส่วนตัวภายในห้องได้ จากแปลนจะเห็นว่าห้องนอน 2-3 สามารถรวมพื้นที่ระหว่างห้องให้กลายเป็น 1 ห้องนอนใหญ่ได้เลย

ด้านหน้าเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถ 2 คัน รั้วบ้านมาตรฐานที่ได้จะเป็นรั้วเหล็กบานพับสีน้ำตาลโทนเดียวกับราวกันตกระเบียงชั้น 2 พื้นที่จอดรถเป็น Slab on Ground พื้นคอนกรีตขัดหยาบ ประตูทางเข้า-ออกเป็นประตูกระจกบานเลื่อนกรอบ UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสง ก่อนถึงประตูจะมีพื้นยกระดับจากพื้นดินทำให้กันฝุ่นได้ในระดับหนึ่ง ด้านข้างมีประตูห้องเก็บของใต้บันได

เมื่อเข้ามาภายในจะเห็นเลยว่าพื้นที่แต่ละส่วนเปิดเชื่อมต่อกันทำให้บ้านดูกว้าง สำหรับบ้านมาตรฐานที่ได้นั้น หลังบ้านจะเป็นพื้นที่ซักล้างจึงทำให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาในตัวบ้าน และมุมอเนกประสงค์จะไม่มีการกั้นห้องจึงทำให้บ้านจริงที่ได้ดูโปร่งโล่งกว่านี้ค่ะ สำหรับบ้านตัวอย่างจะกั้นพื้นที่และต่อเติมเพื่อให้เห็นการใช้งานที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้นั่นเอง ชั้นนี้ความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.6 ม. พื้นเป็นแกรนิตโต้สีขาวครีมขนาด 60x60 ซม.

พื้นที่นั่งเล่นมีขนาดใหญ่ สามารถวางโซฟาสำหรับ 3-4 ที่นั่งได้สบาย จะเป็นโซฟาชุดหรือโซฟาตัว L แบบนี้ก็สะดวกในการใช้งาน ตรงกลางวางโต๊ะกาแฟตัวใหญ่ก็ยังเดินผ่านใช้งานสะดวก เพราะระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีมีขนาดกว้างถึง 3.5 ม. ทำให้วางทีวีขนาด 55 นิ้วได้สบาย

ติดตั้งทีวีขนาดใหญ่ได้โดยจะเป็นทีวีแขวนแบบนี้ หรือจะเป็นทีวีตั้งโต๊ะก็เลือกได้ตามความชอบเลยค่ะ แต่ถ้าเป็นทีวีแขวนก็ทำให้มีพื้นที่วางของใช้ ของตกแต่งตรงตู้ใต้ทีวีได้ ติดกับทีวีคือบันไดขึ้นไปยังชั้นบน อีกด้านที่อยู่ติดกันคือห้องน้ำและมุมอเนกประสงค์นั่นเอง สำหรับมุมนี้บ้านมาตรฐานจะไม่มีการกั้นห้องนะคะ เป็นพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นเลย

ห้องน้ำเป็นโทนสีขาวลายหินเอ่อนห้องจึงดูกว้างสะอาดตา ภายในมีมุมอาบน้ำที่พื้นโซนเปียกจะลดระดับลงไปเล็กน้อย มุมนี้ถ้าอยากกั้นโซนแนะนำติดตั้งเป็นผ้าม่านห้องน้ำจะใช้งานสะดวกกว่า เหริออ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์มี Low Wall ที่สามารถวางของใช้หรือของตกแต่ง

สำหรับมุมอเนกประสงค์นั้นจะกั้นห้องให้เป็นห้องทำงานก็ได้พื้นที่เป็นสัดส่วนนะคะ มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับบ้านที่ชอบทำอาหารแต่ไม่อยากต่อเติมครัวหลังบ้านก็สามารถทำมุมนี้เป็นห้องครัวได้ ขนาดพื้นที่พอเหมาะสำหรับวางเคาน์เตอร์ตัว L ซึ่งเพียงพอต่อการประกอบอาหารและวางเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ

ติดกับโซฟาเป็นมุมทานอาหาร สองพื้นที่นี้เปิดโล่งเชื่อมต่อกันทำให้สามารถใช้งานร่วมกันได้สะดวก จะนั่งดูทีวีระหว่างทานอาหารก็ทำได้ไม่ยาก

มุมนี้สามารถวางโต๊ะสำหรับ 4 ที่นั่งได้สบาย เมื่อวางโต๊ะชิดผนังก็จะเห็นนะคะว่าพื้นที่ทางเดินนั้นกว้างขวางใช้งานสะดวก จะวางต้นไม้กระถางเพิ่มความสดชื่นให้กับตัวบ้านก็วางได้ไม่เกะกะ ตรงนี้จะอยู่ติดกับหลังบ้านซึ่งเป็นโซนซักล้าง ประตูเป็นประตู UPVC สีขาวบานเลื่อน กระจกเขียวตัดแสง

พื้นด้านหลังวางโครงสร้างรองรับการต่อเติม ดังนั้นใครที่ชอบทำอาหารและอยากทำเป็นครัวปิดก็สามารถต่อเติมให้กลายเป็นพื้นที่ครัวขนาดใหญ่แบบนี้ได้ นอกจากได้เคาน์เตอร์ใหญ่แล้วก็สามารถติดตั้งตู้เก็บของต่าง ๆ เพิ่มพื้นที่เก็บของภายในบ้านได้แบบนี้เลยค่ะ จากระยะเคาน์เตอร์ถึงประตูกระจกจะเห็นว่ากว้างเดินผ่านได้ง่าย และยังสามารถแบ่งบางมุมให้กลายเป็นโซนซักล้างในร่มได้

มุมซักล้างในร่มข้อดีคือเครื่องซักผ้าและของใช้ต่าง ๆ ไม่โดนแดด ทำให้อายุการใช้งานนานขึ้น อีกทั้งยังดูเป็นระเบียบ มุมนี้สามารถวางตู้อบผ้าและเป็นมุมรีดผ้าได้เช่นกัน

บันไดเป็นโครงสร้างเหล็ก พื้นลูกนอนเป็นไม้ยางประสานโทนสีน้ำตาลอ่อนทำให้บ้านดูสว่าง เมื่อขึ้นมาชั้นบนจะมีมุมเล็ก ๆ ที่วางต้นไม้ให้ความสดชื่นหรือจะวางชั้นวางของก็ได้ค่ะ

เมื่อขึ้นมาจะมี 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ โซนด้านหลังบ้านคือห้องนอน 2-3 พื้นเป็น SPC ลายไม้โทนสีน้ำตาลอ่อน

ห้องนอน 3 เป็นห้องนอนที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อยที่สุด แต่ก็มีขนาดกว้างและห้องดูโปร่งเนื่องจากมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ภายในห้องสามารถวางเตียง 3.5 ฟุต และยังมีพื้นที่ข้างเตียงสำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานได้

มุมข้างเตียงนี้จะวางเป็นตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ความสูงชิดเพดานก็ทำให้เก็บของได้เยอะนะคะ เห็นได้เลยว่าชั้นต่าง ๆ ภายในตู้มีหลากหลายขนาด เก็บของได้จุใจเลยทีเดียว และการทำหน้าบานโปร่งแสงแบบนี้ก็ทำให้ห้องดูไม่แคบอีกด้วย ติดกันนั้นจะวางเป็นโต๊ะทำงานที่เป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งไปในตัวก็ทำได้

ห้องนอน 2 ขนาดพื้นที่ใช้สอยมากกว่าห้องนอน 3 ทำให้สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้สบาย ภายในห้องก็ยังคงดูสว่างและโปร่งเนื่องจากมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ เมื่อวางเตียง 5 ฟุตแล้วพื้นที่ข้างเตียงสามารถวางโต๊ะหัวเตียงและตู้เสื้อผ้าให้กลายเป็นมุมแต่งตัวได้ค่ะ

ห้องนี้จะวางเฟอร์นิเจอร์คนละแบบกับห้องนอน 3 ตู้เสื้อผ้ามีหน้าบานปิดเป็นโทนสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งทำให้เห็นเป็นไอเดียในการแต่งห้องได้ว่าสามารถทำหน้าบานปิดทึบได้เช่นกัน

อีกด้านของบ้านซึ่งเป็นโซนหน้าบ้านก็คือ Master Bedroom ค่ะ ตรงกลางโถงบันไดคือห้องน้ำที่ทั้ง 3 ห้องนอนใช้ร่วมกัน

ขนาดของห้องน้ำกว้าง แยกโซนแห้งและเปียกชัดเจนด้วยพื้นต่างระดับ ในโซนเปียกมีช่องสำหรับวางของทำให้ไม่ต้องติดตั้งชั้นเพิ่ม พื้นลดระดับลงไปจากโซนแห้งเล็กน้อย ขนาดพื้นที่สามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำได้ ห้องนี้ยังคงมี Low Wall ที่สามารถวางของใช้ /ของตกแต่ง

Master Bedroom เป็นห้องนอนที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นห้องที่อยู่โซนหน้าบ้านจึงทำให้ห้องดูสว่างและโปร่งเนื่องจากมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานกันเลยทีเดียว

มุมนี้เป็นมุมวางเตียงนอนที่สามารถวางขนาด 5 ฟุตได้ ข้างเตียงสามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้งสองฝั่งค่ะ ปลายเตียงสามารถวางโซฟาตัวเล็กให้กลายเป็นมุมนั่งพักผ่อนส่วนตัวได้ จะเห็นว่าตรงผนังข้างเตียงมีปลั๊กไฟที่สามารถติดตั้งทีวีแขวน ดังนั้นมุมนี้ถ้าใครอยากหันหัวเตียงไปหน้าบ้านและติดตั้งทีวีปลายเตียงให้สามารถนอนดูทีวีก็ทำได้เช่นกัน

อีกฝั่งของห้องเป็นมุมแต่งตัวที่สามารถทำเป็น Walk in Closet ได้ วางตู้เสื้อผ้าใบใหญ่และโต๊ะเครื่องแป้ง สำหรับคนที่ชอบแต่งตัวและมีเสื้อผ้าเยอะอาจทำตู้เป็นตัว L และแบ่งพื้นที่ด้านข้างตู้บางส่วนให้กลายเป็นชั้นสำหรับวางเครื่องสำอางแทนก็ได้ค่ะ

WHITEWOOD เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. เท่ากับแบบ 2 ชั้นแต่ตัวบ้านมีความลึกที่มากกว่าจึงทำให้พื้นที่ใช้สอยภายในกว้างถึง 164.4 ตร.ม. ฟังก์ชันบ้านมี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ จึงเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลางที่มีสมาชิก 4-5 คน เนื่องจากพื้นที่ห้อง Master Bedroom ขนาดใหญ่ถึง 1 ชั้นและห้องนอน 2-3 ที่มีห้องน้ำในตัวจึงทำให้แต่ละห้องมีการใช้งานที่สะดวกและมีความเป็นส่วนตัว

สำหรับแบบนี้จะมีดีไซน์ที่เป็น Highlight ของโครงการเลยค่ะ โดยพื้นที่ห้องนั่งเล่นชั้น 1 จะเป็นฝ้าแบบ Double Volume ที่เชื่อมต่อกับชั้น 2 ทำให้ตัวบ้านเป็นทาวน์โฮมที่มีความโปร่งโล่งของพื้นที่ อีกทั้งชั้น 3 จะมีระเบียงส่วนตัวที่เป็นพื้นที่แบบ Semi-Outdoor หน้าตาบ้านยังคงเป็นดีไซน์แบบเดียวกับหลักแรกแต่ผนังด้านนอกที่ชั้น 1 จะต่างจากแบบแรกโดยจะเป็นผนังทาสีน้ำตาลอ่อนค่ะ

ชั้น 1 : ด้านหน้าเป็นพื้นที่จอดรถ ตัวบ้านหน้ากว้าง 5.7 ม.จึงทำให้สองรถ 2 คันได้สบาย ๆ ด้านในวางฟังก์ชันแบบ Open Plan เปิดเชื่อมพื้นที่ 3 ฟังก์ชันทั้งห้องนั่งเล่น มุมทานอาหารและมุมอเนกประสงค์ ทำให้เกิดเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ สำหรับหลังนี้จะไม่กั้นมุมอเนกประสงค์เป็นห้องทำให้เห็นความแตกต่างระหว่างกันระหว่าง 2 แบบบ้านเผื่อใครกำลังลังเลในการกั้นพื้นที่นะคะ 

ชั้น 2 : เป็นพื้นที่ของห้องนอน 2 ห้อง จะเห็นว่าตรงกลางโถงบันไดเป็นจุดที่ตรงกับ Double Volume มองลงไปเห็นชั้น 1 ได้ ทำให้เมื่อขึ้นมายังชั้น 2 ยังได้รับความโปร่งโล่งจากตรงนี้ 2 ห้องนอนนี้ขนาดพื้นที่ใช้สอยใกล้เคียงกัน สามารถวางเตียง 3.5-5 ฟุตได้ ปลายเตียงเป็นมุมแต่งตัวและห้องน้ำ

ชั้น 3 : ชั้นนี้เป็นพื้นที่ของ Master Bedroom ทั้งหมด ทำให้เป็นห้องที่มีขนาดกว้าง สามารถวางเตียง 6 ฟุตพร้อมมีพื้นที่ส่วนตัวต่าง ๆ ได้ ทั้งพื้นที่นั่งเล่นที่วางโซฟาตัวใหญ่ มุมโต๊ะทำงาน มุมแต่งตัวแบบ Walk in Closet และยังมีระเบียงส่วนตัวให้อีกด้วย

ด้านหน้าเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถ 2 คัน ความกว้างและความลึกที่จอดรถคือ 5.7 ม.ทำให้จอดรถคันใหญ่ได้ บ้านมาตรฐานที่ได้รั้วบ้านจะเป็นรั้วเหล็กบานพับสีน้ำตาล พื้นเป็น Slab on Ground พื้นคอนกรีตขัดหยาบ 

ประตูทางเข้า-ออกเป็นประตูกระจกบานเลื่อนกรอบ UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสง ก่อนถึงประตูจะมีพื้นยกระดับจากพื้นดินทำให้กันฝุ่นได้ในระดับหนึ่ง ด้านข้างมีประตูห้องเก็บของใต้บันได

เข้ามาภายในจะเห็นเลยนะคะว่าพื้นที่เปิดเชื่อมต่อกัน แต่ใช้การวางเฟอร์นิเจอร์ในการแบ่งฟังก์ชันของแต่ละพื้นที่ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.6 ม. พื้นเป็นแกรนิตโตโทนสีขาวครีมขนาด 60x60 ซม. เหนือห้องนั่งเล่นมีช่องเปิดเป็นแบบ Double Volume เพิ่มความโปร่งโล่งภายในทาวน์โฮม

ด้านหน้าเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น สำหรับมุมนี้สามารถวางโซฟาตัวใหญ่สำหรับ 4-5 ที่นั่งได้ จะเห็นว่าข้างโซฟาเมื่อวางแบบตัว L ก็ยังเหลือพื้นที่สำหรับวางโคมไฟ ดังนั้นใครชอบโซฟาใหญ่กว่านี้ก็วางได้เช่นกันค่ะ 

ด้านหน้าวางโต๊ะกาแฟตัวใหญ่ก็เดินผ่านใช้งานสะดวกเพราะระยะห่างตรงนี้กว้างกว่า 4 ม. เลยทีเดียว ติดตั้งทีวีขนาด 55 นิ้วได้สบาย สำหรับภาพนี้จะเห็นส่วนที่เป็น Double Volume ชัดมากขึ้น ซึ่งช่องนี้อยู่ตรงกับโซฟาและประตูทางเข้าจึงทำให้พื้นทีด้านหน้าบ้านดูโปร่งมากยิ่งขึ้น

ตรงข้ามโซฟาเป็นมุมติดตั้งทีวี จะติดทีวีแขวนแบบบ้านตัวอย่างเพื่อให้ชั้นวางของมีพื้นที่ใช้งานมากขึ้น หรือจะวางเป็นทีวีตั้งโต๊ะก็ทำได้แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ ติดกั้นนั้นคือห้องน้ำชั้น 1 และมุมอเนกประสงค์

ห้องน้ำที่ชั้นนี้จะเป็นแบบ Powder Room เนื่องจากห้องนอนทุกห้องภายในบ้านมีห้องน้ำในตัวจึงไม่จำเป็นจะต้องมีโซนอาบน้ำในห้องนี้นั่นเอง ภายในห้องดูสว่างเนื่องจากผนังเป็นโทนสีขาว เพิ่มสีสันด้วยลายหินอ่อนและพื้นโทนสีเทาเข้ม

ติดกับห้องนั่งเล่นเป็นมุม Pantry ที่สามารถทำเป็นมุมของว่าง มุมเครื่องดื่ม ออกแบบให้เป็นเคาน์เตอร์ตัว L ก็จะได้ทั้งเคาน์เตอร์แบบบาร์และยังเป็นส่วนที่กั้นโซนในการใช้งานระหว่าง 2 ฟังก์ชันนี้อีกด้วย

ขนาดเคาน์เตอร์ถือว่าใหญ่ทีเดียวค่ะ วางเป็นมุมอาหารว่างแบบง่าย ๆ หรือมุมอบขนมจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นอาหาร หรือจะทำเป็นมุมเครื่องดื่ม มุมกาแฟก็จะได้มุมทานอาหารยามเช้าแบบสบาย ๆ อีกมุม สำหรับอยากได้เคาน์เตอร์เล็ก ๆ ก็แนะนำให้ตัดตรงตัว L ที่ยื่นออกมาออก จะได้เคาน์เตอร์ขนาดพอเหมาะและยังมีพื้นที่เหลือสำหรับวางโต๊ะทานอาหารแบบโต๊ะกลมสำหรับ 4 ที่นั่ง

ด้านตรงข้าม Pantry ทำเป็นมุมทานอาหารสำหรับ 4 ที่นั่งได้สบาย แต่ถ้าอยากสลับมุมนี้ให้เป็นมุม Pantry ก็สามารถวางเคาน์เตอร์ตัว L ก็ได้พื้นที่เป็นสัดส่วน อีกทั้งตรงนี้ทางโครงการจะมีการวางงานระบบไว้รองรับสำหรับมุม Pantry แล้วค่ะ

สำหรับบ้านที่ชอบทำอาหารแบบจัดเต็ม ยิ่งอาหารไทยที่มีกลิ่นแรงก็คงอยากต่อเติมให้เป็นครัวปิดใช่ไหมคะ ทางโครงการจึงออกแบบให้โซนซักล้างหลังบ้านรองรับการต่อเติมในอนาคต พื้นจะลงเสาเข็มให้ 

สามารถต่อเติมครัวขนาดใหญ่ได้แบบนี้ พื้นที่เคาน์เตอร์เมื่อวางเตาและอ่างล้างจานก็ยังมีเหลือสำหรับเตรียมอาหารได้สบาย ๆ อีกทั้งยังสามารถแบ่งพื้นที่ด้านข้างเป็นมุมซักล้างในร่มได้ วางชั้นวางของและเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าได้เลยค่ะ

บันไดของบ้านหลังนี้จะมีความโปร่งและมีพื้นที่เหลือสำหรับวางต้นไม้เพิ่มความร่มรื่นภายในบ้าน ชานพักเป็นแบบสี่เหลี่ยมและสามเหลี่ยม โครงสร้างเป็นเหล็กโดยจะปูลูกนอนเป็นโทนสีน้ำตาลอ่อนทำให้พื้นสว่าง

ด้านบนเหนือบันไดทางขึ้น-ลงชั้น 3 จะมีช่องแสงทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในได้ บันไดภายในบ้านจึงดูไม่ทึบนั่นเอง

เมื่อขึ้นมาชั้น 2 ตรงกับบันไดจะเป็นส่วน Double Volume ของชั้น 1 ที่เชื่อมมายังชั้น 2 สามารถมองลงไปเห็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นได้แบบนี้เลยค่ะ ซึ่งข้อดีของ Double Volume ตรงนี้คือเมื่อขึ้นมายังชั้น 2 ก็ยังให้ความรู้สึกที่โปร่งโล่ง แถมยังสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกครอบครัวที่อยู่ชั้น 1 ได้ตามแนวคิด “Connect to Cherishing Moments” ของโครงการ ชั้นนี้มี 2 ห้องนอนนะคะ เป็นห้องนอน 2-3 ที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยใกล้เคียงกัน ต่างกันเพียงห้องนอน 3 อยู่โซนหลังบ้านส่วนห้องนอน 2 อยู่โซนหน้าบ้าน

ห้องนอน 3 ขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้าง ห้องนี้โครงการตกแต่งด้วยการวางเตียง 3.5 ฟุตเพื่อให้พื้นที่ข้างเตียงเหลือวางโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เหมาะสำหรับห้องของเด็กวัยเรียน หรือคนวัยทำงานที่มักจะ Work From Home เพราะมีพื้นที่ทำงานเป็นสัดส่วน ขนาดเตียงก็นอนได้พอเหมาะสำหรับ 1 คน

โต๊ะทำงานข้างเตียงเป็นโต๊ะตัวใหญ่ ด้านบนและด้านข้างวางเป็นชั้นวางของก็ได้พื้นที่สำหรับวางอุปกรณ์ต่าง ๆ หรือหนังสือได้ ใครที่ต้องนั่งทำงาน ทำการบ้านก็จะได้พื้นที่ทำงานที่เป็นสัดส่วน และมีความเป็นส่วนตัวเพราะเงียบสงบในห้องของตัวเองค่ะ

ปลายเตียงเป็นมุมแต่งตัวซึ่งจะมีห้องน้ำส่วนตัวอยู่ หน้าห้องน้ำวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งตัวยาวได้ สำหรับคนที่เสื้อผ้าเยอะแนะนำให้แบ่งโต๊ะเครื่องแป้งบางส่วนวางเป็นชั้นวางของค่ะ จะได้เก็บเสื้อผ้าที่พับเก็บได้ ชุดนอนหรือของใช้ต่าง ๆ

ห้องน้ำขนาดกว้างขวางและเป็นสัดส่วน แยกโซนแห้งและเปียกให้ด้วยพื้นต่างระดับ ภายในยังคงเป็นกระเบื้องสีขาวและกระเบื้องลายหินอ่อน โซนอาบน้ำลดระดับจากโซนแห้งลงไปเล็กน้อย มีช่องสำหรับวางของให้อีกด้วย

ห้องนอน 2 ขนาดพื้นที่ใช้สอยมากกว่าห้องนอน 3 เล็กน้อยเท่านั้น แต่เนื่องจากเป็นห้องโซนหน้าบ้านจึงมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ทำให้ห้องดูโปร่ง ห้องนี้โครงการจะตกแต่งให้เป็นห้องนอนที่วางเตียง 5 ฟุต เป็นไอเดียสำหรับคนที่อยากได้เตียงใหญ่ เห็นภาพความต่างในการวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ กับห้องนอน 3 นั่นเอง 

โดยเตียงเมื่อวางแบบ 5 ฟุตไปแล้ว ข้างเตียงจะเหลือพื้นที่สำหรับทำชั้นวางของหรือจะวางโต๊ะทำงานเป็นโต๊ะแบบบาร์ตัวยาว ได้ทั้งพื้นที่วางของและโต๊ะทำงานไปในตัว 

ส่วนปลายเตียงจะวางตำแหน่งตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งต่างจากห้องนอน 3 ค่ะ โดยวางตู้ขนานกับผนังขนานกับทางเดินทำให้ขนาดตู้ใหญ่ ส่วนโต๊ะเครื่องแป้งจะเป็นมุมเล็ก ๆ พอเหมาะสำหรับแต่งตัวแทน

ขนาดของตู้ถือว่าใหญ่ทีเดียว เป็นตู้สำหรับ 2 คนได้สบาย ๆ แนะนำว่าทำหน้าบานเป็นแบบบ้านเลื่อนเพื่อให้ใช้งานสะดวกและเลือกตู้ใหญ่ที่สูงจรดฝ้าเพดานแบบนี้นะคะ เพราะขนาดพื้นที่เก็บของเยอะอีกทั้งยังไม่ต้องกังวลเรื่องฝุ่นหลังตู้

ห้องน้ำมีขนาดพื้นที่ใช้สอยเท่ากับห้องน้ำของห้องนอน 3 ภายในยังคงดูสว่างสะอาดตาเพราะผนังเป็นกระเบื้องสีขาว พื้นโซนเปียกลดระดับจากโซนแห้งเล็กน้อย ส่วนสุขภัณฑ์ของบ้านมาตรฐานที่ได้จะได้แบบที่เห็นในบ้านตัวอย่างตามนี้ยกเว้นของตกแต่งค่ะ

ขึ้นมายังชั้น 3 จะเจอกับประตูที่เป็นของห้อง Master Bedroom

เข้ามาภายในจะเป็นพื้นที่ห้องนอนที่กว้างที่สุดของบ้าน สามารถแบ่งเป็นโซนพักผ่อนและโซนแต่งตัวภายในห้องได้เลยค่ะ จากประตูห้องฝั่งหน้าบ้านทำเป็นมุมพักผ่อนด้วยการวางโซฟาและเตียงได้

มุมนี้ทำเป็นมุมนั่งเล่นส่วนตัวภายในห้อง วางโซฟาตัวใหญ่ำสำหรับ 2 ที่นั่งหรือจะวางเป็นโซฟาตัว L เพื่อให้นอนดูทีวีสะดวก ๆ ก็ทำได้ค่ะ ตรงข้ามโซฟาวางชั้นวางทีวีก็ยังเดินผ่านใช้งานสะดวก

เตียงนอนสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบาย ข้างเตียงสามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้งสองข้าง

ปลายเตียงนอกจากจะเป็นมุมวางทีวีแล้วยังมีพื้นที่ทำเป็นมุมโต๊ะทำงานได้อีกด้วย ตรงนี้ขนาดพื้นที่กว้างขวางนะคะ จะวางโซฟาเดียวอีกสักตัวไว้นั่งอ่านหนังสือหรือจิบกาแฟก็ทำได้เช่นกัน

ติดกับมุมโต๊ะทำงานเป็นระเบียงห้องซึ่งเป็นพื้นที่แบบ Semi-outdoor ที่เปิดรับลมและแสงธรรมชาติแต่ยังอยู่ภายใต้อาคารนั่นเอง

อีกด้านของห้องเป็นมุมแต่งตัว จะมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งแบบ Walk in Closet หน้าห้องน้ำ

ตู้เสื้อผ้าวางแบบตัว L ได้ ทำให้เป็นตู้ขนาดใหญ่ที่เก็บของได้เยอะ ภายในแบ่งช่องให้มีความหลากหลายก็จะเก็บของใช้ต่าง ๆ อย่างกระเป๋าเพิ่มได้ ส่วนไอเดียในการทำหน้าบ้านเป็นกระจกสีชาก็ทำให้ห้องดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ไม่ทึบหรือทำให้ห้องดูแคบลงแต่ก็ทำให้พื้นที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย

หน้าห้องน้ำวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ ขนาดพอเหมาะสำหรับการวางเก้าอี้สตูล หรือถ้าใครเรื่องสำอางและครีมบำรุงต่าง ๆ เยอะแนะนำให้ทำชั้นวางของแบบตื้นที่ผนังด้านข้างนะคะ จะได้มีพื้นที่วางของเพิ่ม

ห้องน้ำภายใน Master Bedroom มีขนาดกว้าง ภายในวางอ่างล้างหน้าแบบ His&Her ทำให้ใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้สะดวก แยกโซนแห้งและเปียกด้วยพื้นต่างระดับ ตรงนี้แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเพื่อจะได้แบ่งโซนได้ชัดเจนมากขึ้น

บ้านมาตรฐานและตัวอย่างวัสดุ

บ้านที่ได้เป็นบ้านมาตรฐานแบบบ้านเปล่าที่ไม่มีการตกแต่งภายใน ด้านหน้าเป็นพื้นที่จอดรถที่มีรั้วเหล็กบานพับสีน้ำตาลให้ทุกหลัง

• การก่อสร้างใช้อิฐมอญแดงซึ่งเป็นวัสดุที่รองรับการปรับปรุงต่อเติม ดังนั้นพื้นที่ต่าง ๆ สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามความต้องการ 
• พื้นชั้น 1 เป็นแกรนิตโต้สีขาวครีมขนาด 60x60 ซม. ชั้น 2 เป็น SPC ลายไม้ ส่วนห้องน้ำและระเบียงเป็นกระเบื้องพอร์ซเลน พื้นลานจอดรถและส่วนซักล้างเป็นคอนกรีตขัดหยาบ
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าของแต่ละชั้นอยู่ที่ 2.6 ม. โดยทาวน์โฮมแบบ 3 ชั้นส่วนที่เป็น Double Volume สูง 5.8 ม. 
• กรอบประตูหน้าต่างบานเลื่อนเป็น UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสง

Location 

พิกัด :  https://maps.app.goo.gl/tN1tmrwBUEcvctC86 

ทำเลที่ตั้งโครงการ CHER WESTVILLE ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ในย่านชุมชน ปากซอยคือถนนราชพฤกษ์ทำให้รอบ ๆ มีความเงียบสงบเหมาะสำหรับการพักอาศัย แต่ก็ไม่ไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ โดยจากที่ตั้งโครงการนั้นจะอยู่ใกล้กับ Central Westville, The Crystal SB ราชพฤกษ์ และยังเป็นทางลัดไปยัง HomePro นอกจากนั้นยังไม่ไกลจากโรงเรียน, โรงพยาบาล รอบ ๆ เป็นที่ตั้งของร้านค้า ร้านอาหารและออฟฟิศเอกชนมากมาย ดังนั้นถือว่าเป็นทำเลที่เหมาะกับคนทุกวัย

สำหรับเรื่องการเดินทางถือว่าเดินทางได้สะดวกเป็นอย่างมากค่ะ เนื่องจากถนนราชพฤกษ์เป็นถนนเส้นใหญ่ที่เชื่อมต่อกับถนนหลักอื่น ๆ อีกหลายสาย เป็นถนนเส้นยาวที่เชื่อมต่อพื้นที่ทั้งปทุมธานี, นนทบุรีและตรงเข้าตัวเมืองไปยังกรุงเทพ โซนปิ่นเกล้า สาทรได้เลย โดยจากที่ตั้งโครงการจะใกล้กับวงเวียนพระราม 5 ที่เชื่อมต่อกับถนนนครอินทร์ทำให้มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนนทบุรีได้จากเส้นนี้

หรือจะวิ่งมุ่งหน้าไปยังถนนบรมราชชนนีก็ไปยังปิ่นเกล้า, จรัญสนิทวงศ์ก็ทำได้  แต่ถ้าวิ่งยาวตามถนนราชพฤกษ์มาก็เชื่อมกับถนนเพชรเกษมไปยังสาทรได้นั่นเอง

นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้กับทางด่วนประจิมรัถยาซึ่งเป็นทางด่วนที่วิ่งเข้าตัวเมือง ไปยังหมอชิต เชื่อมต่อทางด่วนศรีรัชวิ่งไปยังโซนต่าง ๆ ได้อีก ส่วนถนนบรมราชชนนีก็วิ่งทางคุ่ขนานไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ได้เช่นกัน ส่วนใครที่เดินทางด้วยรถสาธารณะก็ไปยังรถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีตลิ่งชันซึ่งจะตรงไปเชื่อมต่อกับสายสีน้ำเงินและสายสีม่วงได้

ที่ตั้งโครงการถือว่าเป็นโซนราชพฤกษ์ที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมากค่ะ เพราะเส้นราชพฤกษ์หน้าโครงการนั้นจะมีศูนย์การค้าใหญ่หลากหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น Central Westville, The Crystal SB ราชพฤกษ์ หรือ HomePro และยังไม่ไกลจากถนนนครอินทร์ซึ่งจะมีตลาดสด ตลาดนัดอย่างตลาดพระราม 5 ดังนั้นเรื่องอาหารการกินหรือแหล่งจับจ่ายใช้สอย แหล่งพักผ่อนหย่อนใจในเวลาว่างไม่ต้องห่วงเลยเพราะมีครบและมีให้เลือกหลากหลายแห่ง

นอกจากแหล่งไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ แล้ว โรงเรียน โรงพยาบาลก็เป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อการเลือกซื้อบ้าน เนื่องจากวัยเรียน วันทำงานจนถึงวัยเกษียณยังคงต้องการสิ่งเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง สำหรับรอบ ๆ โครงการจะมีโรงเรียนหลากหลายระดับ ทั้งของรัฐ ของเอกชนและโรงเรียนนานาชาติ โดยจะมีทั้งโรงเรียนเด่นหล้าพระราม 5 , โรงเรียนร่วมฤดีวิเทศศึกษา ราชพฤกษ์ แคมปัส, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี, โรงเรียนบดินทรเดชา นนทุบรี, โรงเรียนสตรีนนทบุรีและโรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี 

ส่วนโรงพยาบาลก็จะมี โรงพยาบาลศรีสวรรค์, โรงพยาบาลศูนย์บริการการแพทย์นนทบุรี, โรงพยาบาลยันฮี และที่ตั้งโครงการจะมีออฟฟิศเอกชนหลากหลายแห่ง ไม่ไกลจากสถานที่ราชการของเมืองนนทบุรี ดังนั้นใครทำงานโซนนี้ หรือจะเป็นโซนปิ่นเกล้า ในเมืองกรุงเทพก็เดินทางไปทำงานได้สะดวก

การเดินทาง

สำหรับการเดินทางวันนี้ทางทีมงานจะพาเดินทางจากถนนบรมราชชนนี ด้านบนคือคู่ขนานบรมฯนั่นเองค่ะ

เมื่อเห็นป้ายเบี่ยงซ้ายไปทางรัตนาธิเบศร์ก็ให้ออกเพื่อตรงวิ่งตามป้ายไปค่ะ

เมื่อออกมาแล้วก็จะขึ้นทางเลี้ยวยกระดับ จะเป็นป้ายบอกทางไปยังรัตนาธิเบศร์และนนทบุรี

ขึ้นมาทางยกระดับจะผ่านทางด่วนซึ่งเป็นทางด่วนที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ เดินทางเข้า-ออกตัวเมืองด้วนเส้นนี้ได้ง่าย

ลงจากทางยกระดับจะเป็นถนนราชพฤกษ์ ให้ตามป้ายบอกทางไปยังนครอินทร์

ถนนราชพฤกษ์เป็นถนนที่คึกคัก จะเห็นความอุดมสมบูรณ์ตลอดสองข้างทาง ตรงมาเรื่อยๆจะผ่าน Central Westville ทางซ้ายมือก็แสดงว่าใกล้ถึงโครงการแล้วนั่นเอง

เมื่อผ่าน Central Westville ก็ให้เข้าทางคู่ขนานด้านนอกไว้ได้เลย

ตรงมาเรื่อย ๆ ผ่าน The Crystal SB ราชพฤกษ์ก็จะเจอกับถนนบางกรวย-กรุงนนท์ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปตรงป้ายบอกทางไปวัดตะระเก

ตรงจากปากซอยเพียง 260 ม.จะเห็นป้ายบอกทางไปโครงการ ให้เลี้ยวขวาเข้าไปได้เลย

เมื่อเลี้ยวขวามาแล้วก็ตรงมาเพียง 180 ม.ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนรวมน้ำใจพัฒนา

ตรงมาเรื่อยๆตามทางก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการ CHER WESTVILLE ราชพฤกษ์  โดยทางเข้า-ออกอยู่ทางซ้ายมือของถนนค่ะ

Price & Promotion

ปัจจุบันโครงการ CHER WESTVILLE ราชพฤกษ์  มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ บ้านที่ได้จะเป็นบ้านเปล่าแบบมาตรฐานโครงการ สามารถเข้าไปดูบ้านตัวอย่างและบ้านมาตรฐานได้ที่โครงการเลยค่ะ

• WAYFARING : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 115.9 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• WHITEWOOD : ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 164.4 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• ราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท
• ส่วนกลาง 1,000 บาท /หลัง/เดือน 

ราคา ณ เดือนกรกฎาคม 2567 ** โปรดสอบถามโครงการอีกครั้ง

Conclusion

โครงการ CHER WESTVILLE ราชพฤกษ์ เป็นโครงการทาวน์โฮมที่เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-ขนาดกลางที่มีสมาชิก 3-5 คน หรือครอบครัวที่อยากได้พื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนไปตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง อยากอยู่ชานเมืองที่มีความเงียบสงบแต่ไม่ไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวก และต้องการทำเลที่เดินทางไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ได้ง่าย หรือคนที่มองหาทาวน์โฮมราคาจับต้องได้ไม่ยากในย่านราชพฤกษ์ที่ใกล้กับ Central Westville