รีวิว บางกอก บูเลอวาร์ด วิภาวดี-พหลฯ บ้านหรูหลังใหญ่ LANAI SERIES ใกล้ทางด่วน 500 ม.

บ้านเดี่ยวทุกหลังดีไซน์ใหม่สไตล์ LANAI SERIES ที่มีฟังก์ชันมากถึง 5 ห้องนอน จอดรถได้สูงสุดถึง 4 คัน มาพร้อมฟังก์ชันพื้นที่ Semi-Outdoor ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง อยู่อาศัยสบายด้วยเพดานสูงโปร่งเป็นพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้นบ้านทุกหลังมีระบบ “Living Solutions” By SC Asset ช่วยให้การใช้ชีวิตมีความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น อยู่ภายใต้บรรยากาศที่เรียกได้ว่ามีความผ่อนคลายและเงียบสงบ ที่ได้แรงบันดาลใจจากท่าเรือ Marmormolen แห่งเมือง Copenhagen จากประเทศเดนมาร์ก 

สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านหลังใหญ่ มี Space กว้างๆ รองรับครอบครัวขยายได้ลงตัว ตามมาชม รีวิวนี้กันเลยค่ะ

Factsheet

ชื่อโครงการ :	บางกอก บูเลอวาร์ด วิภาวดี-พหลฯ
บริษัท :	บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้งโครงการ :	ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120
รายละเอียดโครงการ :	บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4-5 ห้องนอน 4-5 ห้องน้ำ 2-4 ที่จอดรถ
พื้นที่โครงการ :	47-1-78.9 ไร่
จำนวน :	157 ยูนิต
พื้นที่ใช้สอย :	237 - 441 ตร.ม.
พื้นที่ :	52.3 - 158.5 ตร.ว.
ค่าส่วนกลาง :	36 บาท/ ตร.ว./เดือน และค่าบำรุงรักษาถนนภาระจำยอม
	รวมภาษี 5.50 บาท/ตร.ว./เดือน
รูปแบบการก่อสร้าง :	ก่ออิฐฉาบปูน (อิฐมวลเบา Q-Con)
สิ่งอำนวยความสะดวก :	Clubhouse, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, Fitness, Co-Working Space Meeting Room, Kid’s Room, สวนส่วนกลาง, Playground, Jogging Track, สนาม Basketball
ระบบรักษาความปลอดภัย :	Main Gate อัตโนมัติ, เข้า-ออกด้วยระบบ Smart Gate, CCTV 48 จุด ทั่วโครงการ, รปภ. 24 ชม., รั้วโครงการสูง 3 ม.พร้อมเหล็กแหลม ภายในบ้าน มีสัญญาณกันขโมย Magnetic & Shock Sensor, Digital Door Lock, ระบบป้องกันอัคคีภัย Smoke & Heat Detector
ราคาเริ่มต้น :	9.99-20 ล้านบาท* (สอบถามโครงการอีกครั้ง)
โทร :	063-237-9888
เว็บไซต์ :	https://m.scasset.com/BBVE

Hightlight

บ้านเดี่ยวหรูดีไซน์ใหม่ LANAI SERIES ที่มาพร้อมฟังก์ชันพิเศษ มีพื้นที่พักผ่อนแบบ Semi-Outdoor ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ใกล้ชิดกับธรรมชาติได้มากขึ้น สามารถปรับฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลาย รวมทั้งการออกแบบตัวอาคารที่เรียกว่า Dynamic Facade ช่วยให้ผู้พักอาศัยได้ใช้เวลาพักผ่อนตรงบริเวณระเบียงได้อย่างมีความเป็นส่วนตัว

หลังใหญ่ ฟังก์ชัน 4-5 ห้องนอน โปร่งสบายด้วยเพดานชั้นบนสูงสุดถึง 3.6 ม. และโครงการจะมีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบ มีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 237 ตร.ม. ห้องนอนล่าง รองรับให้เป็นห้องนอนผู้สูงวัยได้ เพราะพื้นไม่มี Step ส่วนห้องนอน Master Bedroom มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ มีมุม Walk-In Closet และมี Living Bedroom ซึ่งแบบบ้านหลังใหญ่สุด สามารถจอดรถได้ถึง 4 คัน บ้านในโครงการรองรับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ได้สบาย 

“Living Solutions” By SC Asset นวัตกรรมใหม่ รู้ใจคนอยู่อาศัย เป็น 7 นวัตกรรมล้ำสมัย เพื่อยกระดับการอยู่อาศัยของลูกบ้าน ให้มีความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่มากยิ่งขึ้นให้กับทุก Generation

ส่วนกลางได้แรงบันดาลใจจากท่าเรือ Marmormolen แห่งเมือง Copenhagen จากประเทศเดนมาร์ก ทำให้ Clubhouse มีดีไซน์ที่โดดเด่น สวยงาม ได้กลิ่นอายของเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีความสุขอันดับต้นๆ ของโลก แวดล้อมด้วยบรรยากาศผ่อนคลายและเงียบสงบ มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับกิจกรรมได้ทุกช่วงวัย และมีระบบความปลอดภัยขั้นสูงด้วยมาตรฐาน SC Asset

ทำเลคุณภาพ ติดถนนพหลโยธิน ใกล้ดอนเมือง-โทลล์เวย์ 500 ม. นอกจากนี้ยังใกล้กับทางด่วนอื่นๆ อย่างทางพิเศษศรีรัช และถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก) รวมถึงมีเส้นรถไฟฟ้าสายสีแดงพาดผ่านในระยะไม่ไกล ทำให้มีทางเลือกในการเดินทางได้เยอะ เข้าเมืองชั้นในได้สะดวก อีกทั้งโครงการยังอยู่ใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์อย่างห้าง Future Park รังสิต, Zpell , HomePro, และมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อย่างครบครัน

Facility

เมื่อมาถึงที่ตั้งของโครงการ เราจะพบกับประตูทางเข้า 2 จุด โดยพื้นที่ด้านในจะเป็นที่ตั้งของ 2 โครงการแรกที่เพิ่งเปิดตัวไป และโครงการที่กำลังจะเปิดขายในอนาคต ที่จะกล่าวถึงวันนี้ คือ หนึ่งในโครงการที่เพิ่งเปิดตัวไป โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด วิภาวดี-พหลฯ ซึ่งทุกโครงการที่กล่าวมานี้ จะใช้ถนนภาระจำยอมเส้นเดียวกัน เพื่อเข้าไปยังแต่ละโครงการ และนี่คือทางเข้าใหญ่จุดแรก จะอยู่ติดกับถนนใหญ่ อย่างทางคู่ขนาน ถ.พหลโยธิน

ขับผ่านซุ้มประตูแรกเข้ามา จะเจอกับถนนภาระจำยอม ซึ่งบริเวณพื้นที่สีเขียวนี้จะเป็นพื้นที่ขายในอนาคต แบ่งเป็น 2 เลนถนน บรรยากาศมีความร่มรื่นด้วยต้นไม้ตรงเกาะกลางถนน มีความสะอาดเรียบร้อยดูดีทีเดียวค่ะ

มาถึงแล้วกับโครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด วิภาวดี-พหลฯ ด้านหน้าจะเป็นซุ้มประตูโครงการขนาดใหญ่ อลังการ ออกแบบสไตล์โมเดิร์น โดยใช้โทนสีเทาตัดกับสีขาว และเลือกใช้วัสดุมาตกแต่งให้มีความ Contrast กันอย่างชัดเจน ทำให้ภาพรวมดูโดดเด่น มาพร้อมกับสวนหย่อมบริเวณด้านหน้า คอยทำหน้าที่ต้อนรับลูกบ้านและแขกผู้มาเยี่ยมให้รู้สึกผ่อนคลาย และสบายใจก่อนเข้าไปภายในโครงการค่ะ

ประตูทางเข้าโครงการจะเป็นลักษณะเลื่อนเปิด-ปิด อัตโนมัติ การเข้า-ออกของลูกบ้านจะใช้ระบบ Smart Gate (การสแกนทะเบียนรถ) และบริเวณนี้จะมีป้อมรักษาการของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลให้ 24 ชม. พร้อมทั้งมี CCTV คอยบันทึกการเข้า-ออกอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ด้านในยังมีการติดตั้ง CCTV 48 จุด ทั่วโครงการ ทั้งยังมีความแน่นหนาด้วยรั้วโครงการที่สูงถึง 3 ม. พร้อมเหล็กแหลมอีกด้วยค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการจะอยู่ด้านหน้าใกล้กับซุ้มประตูทางเข้า ซึ่ง Clubhouse 2 ชั้นนี้มีการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ได้กลิ่นอายของอาคาร UN City (UN City เป็นอาคารที่ให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อม) และโครงการได้หยิบยกบรรยากาศความเงียบสงบของท่าเรือ Marmormolen แห่งเมือง Copenhagen จากประเทศเดนมาร์ก มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างพื้นที่ความสุขให้กับผู้พักอาศัยที่อยู่ในโครงการนี้ค่ะ

Clubhouse มีการคิดและออกแบบในลักษณะ Universal Design ผู้คนทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะผู้สูงวัยที่ต้องนั่ง Wheelchair หรือเด็กเล็กที่นั่งรถเข็นเด็ก สามารถเข้ามาใช้งานในพื้นที่ส่วนกลางได้ และช่วยให้การเข้า-ออกภายในอาคาร Clubhouse มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

พื้นที่ส่วนแรกที่จะพาไปชมกัน คือ ห้อง Lobby ที่มีเพดานสูงโปร่งแบบ Double Volume เพิ่มความ Modern Luxury ให้กับโครงการได้อย่างดี และสร้างความประทับใจให้กับแขกที่มาเยี่ยมได้อย่างน่าจดจำ รอบห้องจะมีการออกแบบเป็นผนังกระจก สามารถมองเห็นบรรยากาศของโครงการได้โดยรอบ ซึ่งในตอนที่ไปเยี่ยมชมโครงการ ห้องนี้จะถูกรองรับสำหรับผู้คนที่สนใจอยากเข้ามาชมโครงการค่ะ

ถัดจากห้อง Lobby บริเวณชั้น 1 ของ Clubhouse จะมีพื้นที่ของสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่ ในรูปแบบ Free Form โดยสระว่ายน้ำนี่ มีการแบ่งให้มีสระเด็กและสระผู้ใหญ่กันอย่างชัดเจน ซึ่งสระเด็กจะมีความลึกประมาณ 0.6 ม. ส่วนสระผู้ใหญ่จะลึกประมาณ 1.2 ม. และยังมีส่วนของ JACUCCI ลึกประมาณ 0.85 ม. บรรยากาศรอบสระว่ายน้ำ สามารถที่จะมองทอดสายตาเห็นวิวสวนส่วนกลางที่อยู่ใกล้ๆ ช่วยให้การมาว่ายน้ำพักผ่อนมีความผ่อนคลายได้มากเลยล่ะค่ะ

สระว่ายน้ำของโครงการจะมีทั้งมุมที่มีหลังคาแบบกึ่งกลางแจ้งและพื้นที่แบบกลางแจ้ง ผู้พักอาศัยสามารถมาว่ายน้ำเล่นได้ทุกช่วงเวลา และบริเวณรอบสระจะมีมุมนั่งพักผ่อนทั้งแบบโซฟานั่งพักสบายๆ และอีกจุดจะเป็นเก้าอี้ Sunbed ซึ่งตรงมุมนี้ยังสามารถนั่งเอาเท้าจุ่มน้ำผ่อนคลายเบาๆ ได้ ส่วนจุดล้างตัวจะอยู่ด้านข้างสระว่ายน้ำใกล้กับห้องน้ำสาธารณะที่อยู่ชั้นล่าง

เราไปเยี่ยมชมบนชั้น 2 กันบ้างนะคะ ทางขึ้นตรงบริเวณโถงบันได จะมี Stairlift สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินขึ้นลงบันไดเอง อาจจะเป็นผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ต้องใช้วีลแชร์ค่ะ และตัวอาคาร Cluchouse มีการออกแบบหลังคาเป็นลักษณะช่องแสง Skylight เห็นวิวท้องฟ้าสวยแบบพอดีสายตา และยังช่วยให้อาคาร Cluchouse ได้รับความสว่างจากแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาได้อย่างดี ผนังด้านข้างจะเจาะช่องเป็นรูกลมๆ เพื่อให้ลมสามารถพัดผ่านเข้ามาในอาคาร บรรยากาศจะมีความโปร่ง ไม่อับ รวมถึงบริเวณนี้มีการวางต้นไม้ใหญ่ เพิ่มความสดชื่น สบายตาให้อีกด้วยค่ะ

ห้องแรกของชั้น 2 เป็นห้อง Fitness ขนาดกว้างกำลังดี ผนังห้องเป็นลักษณะผนังกระจกโดยรอบ สามารถมองเห็นวิวได้เกือบ 360 องศา ซึ่งห้องนี้จะหันหน้าเข้าหาสวนส่วนกลางที่อยู่ด้านล่าง เปิดมุมมองเห็นวิวธรรมชาติ ขณะออกกำลังกายได้ และภายในห้องจะมีอุปกรณ์ เครื่องออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ มีทั้งแบบคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่ง รองรับให้บริการไว้พร้อมใช้งาน

ข้างห้อง Fitness จะเป็นพื้นที่ของห้อง Kid’s Room บรรยากาศภายในห้องมีความโปร่งโล่ง ด้วยผนังกระจก ซึ่งจะติดกับห้อง Co-Working Space ซึ่งผู้ปกครองสามารถนั่งทำงานพร้อมทั้งยังสามารถมองผ่านกระจกเพื่อคอยดูแลบุตรหลานได้อีกด้วยค่ะ ด้านในห้อง Kid’s Room จะมีการทำพื้นต่างระดับเอาไว้สำหรับเด็กๆ ได้ปีนป่ายออกกำลังขาได้ พร้อมทั้งมีของเล่นมากมาย เสริมการเรียนรู้ ส่วนพื้นจะปูด้วยวัสดุช่วยลดแรงกระแทก เมื่อเด็กๆ เข้ามาเล่น เกิดการสะดุดหกล้ม ก็จะช่วยลดการบาดเจ็บได้

Co-Working Space ภายในห้องจะมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง จัดมุมชุดโต๊ะโซฟาไว้หลายที่นั่ง สามารถรองรับการใช้งาน ไม่ว่าจะมาเดี่ยวหรือทำงานกันเป็นกลุ่มได้ทั้งหมด ตอบโจทย์การทำงานแบบ Work From Anywhere ได้อย่างดี และในห้องจะมีมุมเคาน์เตอร์บาร์ สำหรับชงเครื่องดื่มเล็กๆ น้อยๆ ไว้คอยบริการให้ด้วยค่ะ

การออกแบบของ Clubhouse สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลย คือ ทางโครงการอยากเน้นให้มีความโปร่ง มีช่องลม ช่องแสง เพื่อให้ช่วงเวลากลางวัน ภายในตัวอาคาร Clubhouse มีแสงสว่างเพียงพอ มีลมเย็นๆ พัดเข้าได้ตลอด ทำให้เมื่อเข้ามาทำกิจกรรมต่างๆ จะช่วยให้รู้สึกสบาย เหมือนได้พักผ่อนอย่างแท้จริง

ถ้าใครอยากเข้ามานั่งทำงานที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น หรือนัดเพื่อนร่วมทีมมาประชุมระดมไอเดียกัน ก็สามารถเข้ามาใช้บริการของห้อง Meeting Room ได้ ซึ่งจะอยู่ใกล้กับห้อง Co-Working Space

ด้านหลังของ Clubhouse เป็นพื้นที่สีเขียว สวนส่วนกลางที่มีขนาดใหญ่ประมาณ 1 ไร่กว่า ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จะประกอบไปด้วย Playground, Jogging Track, สนาม Basketball และจุดนั่งพักผ่อนกลางแจ้งต่างๆ

ภายในสวนแห่งนี้ มีบรรยากาศที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้ดอก ปูสนามหญ้า ตกแต่งจัดวางได้อย่างลงตัว สร้างความสดชื่นต่อผู้พบเห็นและคนที่เข้ามาเดิน-วิ่งออกกำลังกายในสวนได้มากทีเดียว พร้อมทั้งมีการดูแลสวนอย่างดี เพราะมองจากมุมนี้แล้วมีความสะอาดเรียบร้อยมากๆ 

มุมนี้ เป็นพื้นที่ Playground ไว้สำหรับเด็กๆ ได้มาวิ่งเล่นออกกำลังกายกลางแจ้งกับเพื่อนบ้านในวัยเดียวกัน ซึ่งจะมีทั้งช่องให้มุด ให้ปีน รวมถึงมีสไลเดอร์ให้ด้วย เล่นกันได้อย่างสนุกสนานและมีความปลอดภัยมากขึ้นด้วยพื้นยางกันกระแทก

นอกจากนี้ในสวนส่วนกลาง ยังมีสนาม Basketball สีสันสดใสให้ด้วย ถ้าเบื่อๆ การออกกำลังกายใน Fitness สามารถเปลี่ยนบรรยากาศมาเล่นบาสตรงนี้ได้ค่ะ

ถนนภายในโครงการ จากซุ้มประตูหน้าโครงการจนถึง Clubhouse บริเวณนี้จะกว้างอยู่ประมาณ 18 ม. ส่วนถนนเมนจะกว้างประมาณ 12 ม. ถนนในซอยบ้านกว้างประมาณ 9 ม.

Design & Function

บ้านเดี่ยวทุกหลังในโครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด วิภาวดี-พหลฯ ถูกดีไซน์ใหม่ในสไตล์ LANAI SERIES ที่จะเน้นในเรื่องของฟังก์ชันพิเศษเพิ่มเข้ามา มีความแตกต่างจากบ้านเดี่ยวหลังทั่วไป ตรงที่จะมีพื้นที่ใช้สอยที่เป็นแบบ Semi-Outdoor ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอยู่อาศัย ในการทำกิจกรรมร่วมกันกับสมาชิกในบ้านได้ และยังช่วยให้ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติรอบบ้านมากยิ่งขึ้น

โดยชั้นล่างจะมีพื้นที่ส่วนของ Terrace ที่กว้าง รองรับการทำกิจกรรมต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะทำเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือริมสวน หรือเป็นมุมปิ้งย่างจัดปาร์ตี้กันในครอบครัวก็ได้ ส่วนชั้นบนมีระเบียงที่สามารถใช้งานได้จริง ซึ่งถ้าเป็นแบบบ้านหลังใหญ่สุด (Type XL) ระเบียงชั้นบนจะเชื่อมต่อกันยาวตามหน้ากว้างของบ้านไปจนถึงด้านข้างของบ้านเลยล่ะค่ะ

ตรงมุมนี้บนชั้น 2 มีการดีไซน์ตัวอาคารที่เรียกว่า Dynamic Facade ที่ช่วยให้พื้นที่บริเวณระเบียงนี้ มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เปิด-ปิดใช้งานได้ตามความต้องการ ถึงแม้ถ้าหากมีการใช้งานในลักษณะที่ปิดอยู่ ก็ไม่ได้ทำให้การนั่งพักผ่อนตรงระเบียงมีความรู้สึกร้อนหรืออบอ้าว เพราะ Dynamic Facade มีการออกแบบให้เป็นเส้นระแนงแนวตั้ง มีช่องให้ลมพัดผ่านลอดเข้าไปได้ค่ะ

และโครงการนี้ยังมีระบบ “Living Solutions” By SC Asset 7 นวัตกรรมใหม่ รู้ใจคนอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น ที่เข้ามาเติมเต็มให้การใช้ชีวิตมีความสะดวกสบายและปลอดภัยขั้นสูงสุด ซึ่ง 7 นวัตกรรมใหม่นี้ มีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

• RUEJAI HOME OS - แอปพลิเคชันควบคุมบ้านอัจฉริยะ ที่ทำงานง่ายๆ เพียงสั่งการผ่าน Application บน Smart Phone สามารถที่จะเปิด-ปิดไฟ เช็กสวิตช์ไฟ เช็กระบบความปลอดภัยในบ้าน และอื่นๆ ได้
• EV CHARGER - มีจุดรองรับการติดตั้ง Ev Charger ให้กับบ้านทุกหลัง
• AIS FIBER - เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ติดตั้งให้ลูกบ้านฟรีเป็นเวลา 1 ปี
• SMART GATE WITH LICENSE PLATE - เข้า-ออกโครงการสะดวก ด้วยระบบสแกนป้ายทะเบียนรถ
• SMOKE & HEAT DETECTOR - ตรวจจับควันไฟและความร้อนพร้อมสัญญาณเตือน ผ่าน Ruejai Home Os Application
• SOLAR-ROOF PROJECT CLUBHOUSE - แผงโซลาร์เซลล์พลังงานทดแทนในที่ส่วนกลาง
• ACTIVE AIR QUALITY - ระบบขจัดมลพิษทางอากาศในบ้าน ช่วยกรองฝุ่นและดันอากาศเสียออกอัตโนมัติ เพื่อให้ภายในบ้านมีอากาศที่ดี

Home Type

โครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด วิภาวดี-พหลฯ มีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบ ดังนี้

• แบบบ้าน CALM พื้นที่ใช้สอย 237 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร 1 ห้องพักผ่อนด้านบน 2 ที่จอดรถ
• แบบบ้าน SHADE พื้นที่ใช้สอย 279 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร 1 ห้องพักผ่อนด้านบน 2 ที่จอดรถ
• แบบบ้าน CAPTIVATE พื้นที่ใช้สอย 360 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร 1 ห้องพักผ่อนด้านบน 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ
• แบบบ้าน CHARISMA พื้นที่ใช้สอย 441 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร 1 ห้องพักผ่อนด้านบน 1 ห้องแม่บ้าน 4 ที่จอดรถ

สำหรับบ้านที่จะพาไปรีวิวในครั้งนี้ คือ แบบบ้าน CAPTIVATE และ แบบบ้าน CHARISMA ค่ะ

แบบบ้าน CAPTIVATE

บ้านตัวอย่างหลังแรกที่จะพาไปชมกัน คือ แบบบ้าน CAPTIVATE บ้านเดี่ยวหรู 2 ชั้นขนาด TYPE L สร้างอยู่บนที่ดินเริ่มต้น 69.2 ตร.ว. มีพื้นที่ใช้สอย 360 ตร.ม. บ้านหลังนี้มีฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ด้านหน้าตรงพื้นที่จอดรถ สามารถจอดได้ถึง 3 คัน ห้อง Master Bedroom และห้องนอนที่ 2 จะมีระเบียงส่วนตัว ภายในบ้านมีความโปร่งโล่งด้วยประตูและหน้าต่างขนาดใหญ่ มาพร้อมกับ 1 ห้องแม่บ้านที่มีห้องน้ำส่วนตัวให้อีกด้วย เหมาะกับครอบครัวที่ต้องการขยับขยาย อยากได้พื้นที่ใช้สอยกว้างๆ รองรับการทำกิจกรรมกันภายในครอบครัวได้หลากหลายไลฟ์สไตล์

ชั้น 1 : จากหน้าบ้าน มีพื้นที่ลานจอดรถ จอดได้ 3 คัน อีกฝั่งจะมีพื้นที่ Terrace ลักษณะเป็นรูปตัว L ส่วนภายในบ้านจะมีฟังก์ชันมุมนั่งเล่นเชื่อมต่อกับมุมรับประทานอาหาร เป็นพื้นที่ใช้สอยที่มีขนาดกว้าง แบบ Open Plan นอกจากนี้ยังมีพื้นที่กั้นห้องเป็นสัดส่วน โดยจะแบ่งให้มีฟังก์ชันของห้องนอนที่ 4 และ 5 ซึ่งห้องนอนที่ 5 มีห้องน้ำในตัว ด้านข้างบ้านอีกฝั่งจะเป็นส่วนของห้องครัว ห้องน้ำส่วนกลาง ห้องแม่บ้านที่มีห้องน้ำภายในห้อง และพื้นที่ลานซักล้างหลังบ้าน

ชั้น 2 : มีมุม Family Area และชั้นลอยที่เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ รวมถึงมี 3 ห้องนอน โดยห้อง Master Bedroom และห้องนอนที่ 2 มีระเบียงส่วนตัว ทุกห้องนอนของชั้นนี้จะมีห้องน้ำในตัวค่ะ

สำหรับแบบบ้านนี้ สามารถจอดรถได้ 3 คัน โดยมีคันหนึ่งจะจอดตรงบริเวณหลังเสาบ้าน มาพร้อมกับประตูทางเข้าบ้านที่ได้เป็นแบบ Digital Door Lock ซึ่งเมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเชื่อมกับโถงทางเดินที่ใกล้กับห้องนอนที่ 4 และห้องครัว

บริเวณพื้นที่ลานจอดรถจะมีจุดรองรับการติดตั้ง Ev Charger ให้ด้วย ไว้รองรับผู้ที่ใช้รถพลังงานไฟฟ้า รวมถึงยังมีห้องเก็บของอยู่ 2 จุด เก็บพวกอุปกรณ์ล้างรถ อุปกรณ์ทำสวนได้ค่ะ สำหรับบ้านมาตรฐานส่งมอบ จะปูพื้นด้วยคอนกรีตขัดหยาบ

จากพื้นที่ลานจอดรถ เชื่อมไปยังพื้นที่ Terrace ด้านหน้าบ้านอีกฝั่ง ตรงนี้มีการออกแบบให้พื้นเป็นลักษณะทางลาด เพื่ออำนวยความสะดวกให้สำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงวัย ผู้พิการ หรือเด็กเล็กที่ยังนั่งรถเข็น สามารถเข็นรถขึ้นทางนี้ เพื่อเข้าบ้านตรงทางเข้าที่เป็นประตูกระจกบานสไลด์ได้ค่ะ

หน้าบ้านอีกฝั่ง ด้านข้างพื้นที่จอดรถ บริเวณนี้มี Terrace ขนาดค่อนข้างกว้าง ยาวไปถึงด้านข้างตัวบ้าน ในรูปแบบ L Shape ที่เชื่อมพื้นที่ของทางเข้าที่เป็นประตูกระจกบานสไลด์อยู่ 2 จุด จุดแรกเมื่อเปิดเข้าไปจะเจอกับมุมนั่งเล่น ส่วนจุดที่ 2 จะเชื่อมกับห้องนอนที่ 5

บรรยากาศตรง Terrace นี้จะเป็นลักษณะ Semi-Outdoor ใช้ประโยชน์ของพื้นที่ได้ ทำเป็นมุมนั่งเล่นริมสวน หรือจะทำเป็นมุมออกกำลังกายเบาๆ เหมือนกับบ้านตัวอย่างได้ค่ะ

สำหรับบ้านตัวอย่างหลังนี้ จะมีพื้นที่สวนค่อนข้างเยอะ ทางโครงการก็เลยมีการตกแต่งสวน พร้อมกับจัดวางชุดโต๊ะเก้าอี้ ริมสระน้ำเล็กๆ ให้ดูเป็นไอเดียค่ะ

เมื่อเปิดประตูกระจกบานสไลด์เข้ามาในบ้าน มุมแรกที่เจอ คือ มุมนั่งเล่น ที่มีขนาดกว้างมาก จัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ พร้อมกับวางโต๊ะกลาง เก้าอี้โซฟาเดี่ยวได้แบบหลวมๆ และรอบๆ ยังมีพื้นที่เหลือเป็นทางเดินได้สบายอีกด้วย 

พื้นที่ส่วนนี้จะเป็นลักษณะ Open Plan ฟังก์ชันของมุมนั่งเล่นและมุมรับประทานอาหารจะเชื่อมต่อกัน เป็นพื้นที่ที่สมาชิกในบ้านสามารถทำกิจกรรมต่างๆ พูดคุย ทักทาย สร้างช่วงเวลาความสุขร่วมกันได้

จากมุมนี้ เราจะเห็นว่ามุมนั่งเล่นมีบรรยากาศสบาย ผ่อนคลายจากแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างและประตูกระจกได้ทั่วถึง รวมทั้งชั้นล่างจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.8 ม. เพิ่มความกว้างและความสูงโปร่งมากขึ้นอีก ช่วยให้การอยู่อาศัยในบริเวณชั้นล่างไม่รู้สึกอึดอัดเลยล่ะค่ะ

ถัดจากมุมนั่งเล่น ก่อนจะไปมุมรับประทานอาหาร เราแวะมาดูห้องนอนที่ 5 กันก่อน ห้องนี้อยู่ฝั่งด้านข้างบ้าน ภายในห้องมีห้องน้ำส่วนตัวด้วย ถ้าเป็นบ้านมาตรฐานส่งมอบ จะได้เป็นประตูบานเปิดค่ะ

ห้องนอนที่ 5 นี้ บ้านตัวอย่างได้ทำเป็นห้องอเนกประสงค์ ตกแต่งจัดวางฟังก์ชันให้เป็นห้องดูหนัง วางโซฟาขนาดใหญ่ชิดริมผนังได้แบบพอดี ฝั่งตรงข้ามจะเป็นจอดูหนังที่ฉายแบบ Projector เป็นไอเดียการตกแต่งบ้านที่น่าสนใจทีเดียว

ส่วนถ้าครอบครัวไหนมีผู้สูงอายุ ห้องนี้ก็เหมาะที่จะเป็นห้องนอนสำหรับญาติผู้ใหญ่ได้เช่นกัน เพราะในห้องมีพื้นที่สามารถแบ่งฟังก์ชันให้วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าได้ลงตัว ด้านข้างยังมีประตูกระจกบานสไลด์เปิดออกไปยัง Terrace หน้าบ้านได้ เห็นมุมมองของสวนธรรมชาติที่อยู่ภายนอกได้กว้าง และยังช่วยให้ห้องมีการถ่ายเทอากาศได้สะดวกอีกด้วยค่ะ

ห้องน้ำส่วนตัวในห้องนอนที่ 5 พื้นห้องน้ำจะเป็นระนาบเดียวกันกับพื้นห้องไม่มี Step ช่วยให้ผู้สูงอายุเดินเข้ามาใช้งานได้ปลอดภัย หรือจะเข็นรถ Wheelchair ก็สามารถทำได้สะดวก

ห้องน้ำจะเป็นลักษณะหน้ากว้าง ไม่ลึก โดยแบ่งให้ฝั่งซ้ายเป็นโซนของมุมอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์ ซึ่งมุมอาบน้ำจะไม่มีการทำเป็นพื้นต่างระดับ เพื่อให้มีความสะดวกในการใช้งานของผู้สูงวัย สามารถเข็นรถ Wheelchair เข้าไปได้ ส่วนฝั่งขวาจะเป็นพื้นที่ของอ่างล้างหน้า บริเวณนี้จะมีช่องหน้าต่างให้ 1 จุด เปิดระบายอากาศและไล่ความชื้นภายในห้องน้ำได้ค่ะ

ออกจากห้องนอนที่ 5  เราจะเห็นมุมมองแบบนี้ ซึ่งอีกฝั่งของบ้านจะมีมุมรับประทานอาหาร, ห้องนอนที่ 4, ห้องครัว, ห้องน้ำส่วนกลาง, โถงบันได, ห้องแม่บ้านมาพร้อมกับห้องน้ำภายในห้อง และพื้นที่ลานซักล้างหลังบ้าน สำหรับพื้นชั้นล่างจะปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน 80x80 ซม.

มุมรับประทานอาหารจะเชื่อมกับพื้นที่มุมนั่งเล่น ผนังด้านหลังจะเป็นประตูกระจกบานสไลด์ เปิดรับลม รับแสงได้ ตรงบริเวณนี้มีพื้นที่เพียงพอที่จะจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 6 ที่นั่ง หรือจะวางโต๊ะใหญ่กว่านี้ ก็สามารถทำได้ เพราะมีพื้นที่ค่อนกว้างค่ะ

ติดกันกับมุมรับประทานอาหาร จะเป็นห้องนอนที่ 4 ซึ่งบ้านตัวอย่างได้ปรับเปลี่ยน ตกแต่งใหม่ให้เป็นผนังกระจกและทำเป็นประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อทำให้เห็นว่าผู้พักอาศัย สามารถตกแต่งได้อิสระในแบบที่ชอบได้ สำหรับบ้านมาตรฐานส่งมอบจะได้ห้องที่ก่อผนังฉาบเรียบ มาพร้อมกับประตูบานเปิดค่ะ

ด้านในได้ตกแต่งให้เป็นห้องนั่งเล่นแบบส่วนตัว มีพื้นที่วางโซฟาเดี่ยวได้ถึง 2 ตัว ตรงกลางสามารถวางโต๊ะเล็กๆ สำหรับวางเครื่องดื่มได้ ส่วนตรงผนังยังมีพื้นที่ Built-in ชั้นวางของเพิ่มได้อีก ซึ่งห้องนี้จะมีหน้าต่างมาให้ 1 จุด เปิดรับแสงธรรมชาติจากด้านหลังบ้าน

ตรงข้ามห้องนอนที่ 4 จะเป็นโถงบันได ที่มีห้องเก็บของอยู่ใต้บันได ด้านข้างจะเป็นทางเข้าบ้านอีก 1 จุด โดยประตูบานนี้จะได้เป็นประตู Digital Door Lock เปิดออกไปจะเจอกับพื้นที่ลานจอดรถด้านนอก และตรงผนังข้างประตูมีการติดตั้งแผง Ruejai Home Automation และแผงหน้าจอแสดงผลและควบคุมระบบสัญญาณกันขโมยรอบบ้าน 

ซึ่งตัวระบบ Magnetic จะติดตั้งทั้งหลัง ส่วน Shock Sensor จะติดตั้งชั้นล่าง โดยระบบสัญญาณกันขโมยจะอยู่บริเวณประตูและช่องหน้าต่างบ้าน ส่วนอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ ภายในบ้านทุกหลังในโครงการนี้ มีการติดตั้ง Active Air Quality ที่จะเข้ามาช่วยกรองอากาศในบ้านและดันอากาศเสียออกจากบ้าน เพื่อให้ภายในบ้านมีอากาศที่สะอาดมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีติดตั้ง Smoke & Heat Detector เพื่อความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

เดินถัดเข้าไปอีกนิดจนสุดทาง จะเจอกับห้องน้ำส่วนกลางชั้นล่าง ห้องนี้มีการตกแต่งด้วยโทนสว่าง ตรงผนังมีการปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสวยงาม และภายในห้องมีสุขภัณฑ์ให้ครบชุดพร้อมใช้งาน ผนังด้านบนตรงโถสุขภัณฑ์มีหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 จุด ช่วยให้ห้องมีความสว่าง ขณะเดียวกันห้องน้ำนี้จะมีพื้นระนาบเดียวกันกับพื้นบ้านเช่นเดียวกันกับห้องน้ำในห้องนอนที่ 5 สามารถที่จะเข็นรถ Wheelchair เข้าไปได้

ใกล้กับห้องน้ำส่วนกลาง จะเป็นส่วนของห้องครัว ที่มีขนาดเหมาะที่จะ Built-in ชุดเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L ได้แบบลงตัว สามารถใช้งานได้ครบฟังก์ชัน และยังมีพื้นที่เหลือไว้สำหรับวางตู้เย็น 2 ประตูได้ด้วย ห้องครัวนี้จะเป็นครัวปิด ภายในห้องมีหน้าต่างคอยเปิดไว้ระบายกลิ่นต่างๆ จากการทำอาหารได้ และยังช่วยให้กลิ่นอาหารจะไม่ไปรบกวนโซนพักผ่อนด้านในบ้านอีกด้วยค่ะ

ตรงพื้นที่ห้องครัว จะมีประตูที่เปิดออกไปโซนลานซักล้างหลังบ้านได้ ทางโครงการได้เดินระบบท่อน้ำ มาพร้อมกับก๊อกน้ำและปลั๊กไฟให้เรียบร้อย สามารถที่จะใช้งานวางเครื่องซักผ้าได้ และโซนนี้จะเชื่อมไปยังห้องนอนของแม่บ้าน ทำให้เมื่อเวลาแม่บ้านทำงาน ไม่ว่าจะซักผ้าหรือทำอาหาร เดินเข้า-ออกก็มีความสะดวกสบายและส่วนตัว

ห้องนอนแม่บ้านมีขนาดกำลังดี ที่สามารถวางตียงหรือฟูกที่นอนขนาด 3.5 ฟุตได้ และยังมีพื้นที่วางของใช้ส่วนตัวได้ประมาณนึง ภายในห้องมีการเจาะช่องหน้าต่างให้ด้วย การอยู่อาศัยก็จะไม่รู้สึกอึดอัด และด้านในจะมีประตูที่เชื่อมเข้าไปยังห้องน้ำส่วนตัว ซึ่งภายในห้องน้ำมีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบ ทั้งโซนแห้งและโซนเปียก

เดินกลับเข้ามาในบ้าน ขึ้นบันไดไปชมชั้น 2 กันค่ะ โถงบันไดของบ้านหลังนี้ ตำแหน่งจะอยู่ฝั่งด้านหน้า และบริเวณนี้จะมีช่องหน้าต่างให้แสงจากด้านนอกลอดเข้ามาได้ ช่วยให้โถงบันไดไม่มืดทึบ สำหรับโครงสร้างบันไดเป็นลักษณะคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดด้วยไม้ Joint มีความกว้าง 1.1 ม. มาพร้อมราวบันไดเหล็กแข็งแรงตลอดแนวการเดินขึ้น-ลง

ทันทีที่ขึ้นมาถึงชั้น 2 เราก็จะเจอกับมุม Family Area อยู่ตรงโถงกลางของชั้น 2 พื้นที่ตรงนี้ผู้พักอาศัยสามารถที่จะปรับแต่งได้อิสระ แล้วแต่ความชอบได้ค่ะ อาจจะทำเป็นมุมนั่งเล่นสำหรับครอบครัว หรือเป็นมุมนั่งทำงาน อ่านหนังสือก็ดูเข้ากับบรรยากาศ เพราะตรงนี้เป็นพื้นที่เปิดโล่งและโปร่งด้วยหน้าต่างบานใหญ่ อ่านหนังสือ นั่งพักผ่อนได้สบาย ซึ่งมุม Family Area และตรงบริเวณโถงบันไดนี้ จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานมากถึง 3.6 ม.เลยค่ะ

ฝั่งตรงข้ามมุม Family Area  มีบันไดขึ้นไปบนชั้นลอยได้ ซึ่งเป็นพื้นที่อเนกประสงค์อีกจุด ทางบ้านตัวอย่างทำเป็นมุมนั่งพักผ่อนส่วนตัวริมหน้าต่าง หรืออยากทำเป็นพื้นที่วางหิ้งพระ ก็ดูลงตัวและเป็นสัดส่วนดีค่ะ

และตรงโถงทางเดินชั้น 2 จะเชื่อมกับห้องนอน 3 ห้อง จากหน้าบ้านฝั่งซ้าย จะเป็นส่วนของห้อง Master Bedroom ส่วนด้านข้างบ้านฝั่งขวา เป็นพื้นที่ของห้องนอนที่ 2 และ 3 สำหรับงานพื้นของชั้นบน จะปูด้วยวัสดุ SPC ลายไม้ มีความแข็งแรง ทนความชื้นได้ดี ปลวกไม่กินด้วยค่ะ

Master Bedroom ตำแหน่งอยู่ฝั่งด้านข้างบ้าน มีขนาดกว้างขวางเต็มพื้นที่ด้านข้างฝั่งซ้ายเลยค่ะ ทำให้ห้องสามารถแบ่งฟังก์ชันได้ค่อนข้างเยอะ แถมยังมีพื้นที่ทำเป็นมุม Living Bedroom ได้อีกด้วย 

บรรยากาศของห้องสัมผัสได้ถึงความโปร่งด้วยประตูกระจกบานสไลด์ขนาดใหญ่และหน้าต่าง รับแสงธรรมชาติจากหน้าบ้าน ห้องนอนทุกห้องของบ้านหลังนี้จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 3.4 ม.

ภายในห้อง สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้สบาย ยังมีพื้นที่รอบๆ ไว้เป็นทางเดินได้กว้างอีกด้วย ฝั่งปลายเตียง ได้มีการตกแต่งเป็นไอเดีย ให้มีฉากกั้นแบ่งโซนให้เป็นสัดส่วน ทำให้เพิ่มฟังก์ชันการใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็นมุมโต๊ะทำงาน และมุม Living Bedroom ซึ่งอยู่ด้านหลังฉากกั้น ที่จัดวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้พอดี ตรงนี้มีผนังด้านข้างเป็นประตูกระจกเลื่อนเปิดออกไปยังระเบียงส่วนตัวด้านนอกได้ค่ะ

ระเบียงของห้อง Master Bedroom มีขนาดความยาวตามหน้ากว้างของห้อง พื้นที่ระเบียงมีขนาดกว้างที่ออกมาใช้งานได้จริง สามารถที่จะวางเก้าอี้เอนหลังแบบบ้านตัวอย่างอย่างนี้ได้  ทำให้มีมุมนั่งเล่นแบบส่วนตัวเพิ่มมาอีกจุดค่ะ

ตรงระเบียง มีการติดตั้งราวกันตกเป็นกระจกนิรภัย มีความแข็งแรงทนทานสูง เพื่อความปลอดภัยของผู้พักอาศัยเวลาออกมาใช้งาน ส่วนประตูที่เป็นทางออกมายังระเบียง จะมี 2 จุดด้วยกัน จุดแรกจะเป็นประตูกระจกบานสไลด์ที่อยู่ใกล้กับเตียงนอน ส่วนอีกจุดอยู่ตรงมุม Living Bedroom

อีกฝั่งของมุมห้อง จะมีพื้นที่ไว้สำหรับทำเป็นมุม Walk-in Closet ซึ่งจะอยู่ด้านใน ใกล้กับห้องน้ำภายในห้อง

มุม Walk-in Closet ในห้อง Master Bedroom มีพื้นที่ Built-in ตู้และชั้นเก็บเสื้อผ้าได้เยอะพอสมควร ทำเป็นตู้บานปิดกระจก ซ่อนไฟแบบนี้ ก็ช่วยให้การตกแต่งดู Modern ขึ้นมากๆ ทั้งยังมีพื้นที่สามารถแบ่งทำเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง ใช้งานได้อย่างลงตัว

ห้องน้ำส่วนตัวจะเชื่อมกับมุมแต่งตัวได้พอดี ซึ่งสะดวกมากๆ ในการใช้งาน อาบน้ำเสร็จก็สามารถเดินออกไปแต่งตัวได้เลย บรรยากาศในห้องน้ำมีความสว่างจากช่องหน้าต่างบานใหญ่ 

ห้องน้ำนี้มีขนาดกว้าง สามารถวางอ่างอาบน้ำได้ มาพร้อมกับอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ ส่วนโซนยืนอาบน้ำมีทั้ง Rain Shower และ Hand Shower ใช้งานได้ครบ ผนังด้านข้างในโซนนี้มีการก่อชั้นมาให้เรียบร้อย สามารถวางขวดแชมพู สบู่ได้ค่ะ

เดินมาฝั่งขวาของบ้านกันบ้างนะคะ ฝั่งนี้จะมีห้องนอน 2 ห้อง ส่วนห้องนี้เป็นห้องนอนที่ 2 อยู่ฝั่งหน้าบ้าน ความพิเศษของห้องนี้ มีระเบียงส่วนตัวเช่นเดียวกัน ภายในตกแต่งแบ่งฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วน มีตั้งแต่ทั้งมุมพักผ่อน วางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุตได้ ด้านในสุดเป็นมุม Walk-in Closet โดยบ้านตัวอย่างได้ออกแบบให้มีประตูกระจกกั้นเลื่อนเปิด-ปิด แบ่งโซนการใช้งานได้ชัดเจน 

และห้องน้ำส่วนตัวจะอยู่บริเวณใกล้กับมุม Walk-in Closet ขนาดของห้องน้ำค่อนข้างกว้างลงตัวกับการใช้งาน และมีการติดตั้งสุขภัณฑ์ให้ครบชุด

มุมฝั่งประตูทางเข้าห้องนอน มีพื้นที่เหลือ สามารถวางโต๊ะทำงานชิดผนังเพิ่มได้ หรือจะวางพวกชั้นวางของ เฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้เหมือนกันแล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของเจ้าของห้อง ส่วนระเบียงจะอยู่ด้านนอก ผนังด้านข้างจะมีประตูกระจกบานสไลด์ ซึ่งเป็นทางออกไปยังระเบียง

ระเบียงของห้องนอนที่ 2 จะมีความยาวมากกว่าห้อง Master Bedroom เพราะว่าพื้นที่ระเบียงจะยาวไปถึงโซนโถงบันไดเลย บริเวณพื้นที่ตรงนี้สามารถที่จะจัดวางชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งแบบ Semi-Outdoor ได้ และตรงตัวอาคารมีการออกแบบลักษณะ Dynamic Facade ติดตั้งระแนงอลูมิเนียม เปิด-ปิดได้ ช่วยให้พื้นที่ระเบียงมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น

ห้องนอนที่ 3 ตำแหน่งจะอยู่ฝั่งหลังบ้าน มีขนาดใกล้เคียงกับห้องนอนที่ 2 ภายในห้องมีพื้นที่ฟังก์ชันการใช้สอยที่ครบครันเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะวางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุตได้ ผนังด้านข้างเตียงมีพื้นที่เพียงพอวางโต๊ะทำงานได้ลงตัว ถัดเข้าไปเป็นมุมแต่งตัว จัดวางตู้เสื้อผ้า รวมถึงโต๊ะเครื่องแป้งใช้งานต่อเนื่องกันได้สะดวก

ห้องน้ำส่วนตัวภายในห้องนอนนี้ ได้ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนเช่นเดียวกับห้องน้ำอื่นๆ แต่ลายกระเบื้องอาจจะมีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย ภายในห้องมีช่องหน้าต่างมาให้ 1 จุด เปิดระบายความชื้น กลิ่นอับต่างๆ ได้ และมีการแบ่งโซนแห้ง โซนเปียก ด้วยการทำพื้นต่างระดับกัน ซึ่งผู้พักอาศัยสามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเข้ามุมเพิ่มได้ค่ะ

แบบบ้าน CHARISMA

บ้านตัวอย่างหลังที่ 2 ที่จะพาเข้าไปชม เป็นบ้านเดี่ยวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ (TYPE XL) และยังเป็นแบบบ้านซีรีส์ใหม่ล่าสุดของ SC Asset เริ่มใช้ที่นี่เป็นโครงการแรก อยู่บนที่ดินเริ่มต้น 86.1 ตร.ว. มีพื้นที่ใช้สอย 441 ตร.ม. ภายในบ้านมีฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องรับแขก และจอดรถได้มากถึง 4 คัน ถ้าใครชอบทำอาหารน่าจะถูกใจ เพราะว่าบ้านหลังนี้ ได้แบ่งห้องครัวเป็นสัดส่วนมีทั้งครัวในบ้าน และครัวไทยนอกบ้าน รวมถึงชั้นบนทั้งชั้นมีความสูงโปร่งมากถึง 3.6 ม.

ชั้น 1 : เริ่มต้นจากหน้าบ้าน มีพื้นที่จอดรถ จอดได้ถึง 4 คัน ทางเข้าบ้านจะมีหลักๆ อยู่ 2 จุดด้วยกัน จุดแรกจะอยู่ตรงพื้นที่ลานจอดรถ จุดที่ 2 อยู่ตรงบริเวณ Terrace หน้าบ้าน ภายในบ้านมี Space ที่กว้าง ซึ่งมี 2 มุมนั่งเล่น (ห้องรับแขก) เชื่อมต่อกับมุมรับประทานอาหาร ส่วนฟังก์ชันอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนที่ 4, ห้องครัว, ห้องน้ำส่วนกลาง และห้องแม่บ้านจะถูกแบ่งกั้นห้องเป็นสัดส่วน ส่วนพื้นที่ลานซักล้างจะอยู่ด้านข้างบ้าน ซึ่งเชื่อมกับพื้นที่ครัวไทย

ชั้น 2 : จะแบ่งเป็น 3 ห้องนอน โดยห้อง Master Bedroom และห้องนอนที่ 2 จะมีระเบียงยาวเชื่อมต่อกันไปจนถึงด้านข้างบ้านของทั้งสองฝั่ง สำหรับโถงกลางมีพื้นที่ Family Area และมีพื้นที่อเนกประสงค์ ซึ่งจะอยู่บนชั้นลอยของบ้านหลังนี้

ด้านหน้าบ้าน มีพื้นที่จอดรถ สามารถจอดได้มากถึง 4 คัน โดยผนังด้านหลังจะมีจุดรองรับการติดตั้ง  Ev Charger ไว้ให้ และบริเวณนี้จะมีประตูทางเข้า ซึ่งเป็นประตูบานเปิดแบบ Digital Door Lock เปิดเข้าไปจะเชื่อมกับห้องครัวที่อยู่ด้านใน ซึ่งมีความสะดวกมากๆ ถ้าหากซื้อของเข้าบ้าน ก็สามารถที่จะเข้าทางประตูนี้ ไปเก็บของในห้องครัวได้ทันที

พื้นที่ลานจอดรถจะลงเสาเข็มให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันการทรุดตัว จากตรงนี้สามารถเดินเชื่อมไปยังพื้นที่ลานซักล้างที่อยู่ด้านข้างบ้านได้ค่ะ

แบบบ้าน CHARISMA นี้ มีการออกแบบให้พื้นบริเวณหน้าบ้าน ตรงส่วนนี้ เป็นลักษณะทางลาดเช่นเดียวกันกับแบบบ้านที่แล้ว ซึ่งทางลาดนี้จะเชื่อมกับพื้นที่ลานจอดรถ เพื่อให้การใช้ชีวิตของสมาชิกในบ้านมีความสะดวกสบายและปลอดภัยกันมากยิ่งขึ้น

หน้าบ้านจะมีพื้นที่ Terrace กว้างๆ ยาวจนไปถึงด้านข้างของตัวบ้าน เชื่อมไปยังประตูทางเข้าของห้องนอนที่ 4 บริเวณนี้มีมุมให้สำหรับวางชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งเล่นแบบ Semi-Outdoor ไว้ต้อนรับเพื่อนที่มาเยี่ยมบ้านในวันที่มีอากาศสบายๆ ได้

มุมด้านข้างของบ้านตัวอย่างหลังนี้ จะมีพื้นที่ด้านนอกค่อนข้างกว้าง ทางโครงการได้มีการออกแบบสระว่ายน้ำส่วนตัวให้ดูเป็นไอเดียตัวอย่าง เพื่ออยากให้สัมผัสและเข้าถึงบรรยากาศการนั่งพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติรอบบ้าน สำหรับบ้านมาตรฐานส่งมอบจะมีพื้นที่ด้านข้างบ้านให้เช่นกัน อาจจะไม่กว้างเท่ากับบ้านตัวอย่าง แต่สามารถที่จะจัดสรรพื้นที่ทำเป็นสวน ปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่นกับบ้านได้ค่ะ

ประตูทางเข้าหลักของบ้าน จะเป็นประตูบานเปิดคู่ เจาะช่องแสงให้ 2 จุด วัสดุเป็นไม้สักทั้งบาน เสริมให้บ้านดู Luxury ยิ่งขึ้น มาพร้อมกับที่จับประตูของแบรนด์ Hafele ที่มีการออกแบบในสไตล์ Modern ซึ่งดูเข้ากันได้อย่างลงตัว

เมื่อเข้ามาในบ้าน เราจะเห็นโถงทางเดิน เชื่อมกับมุมนั่งเล่นที่อยู่บริเวณด้านหน้าบ้าน มุมนี้จะมีผนังทำเป็นประตูกระจกบานสไลด์ทั้งสองด้าน ทั้งฝั่งหน้าบ้านและด้านข้าง ทำให้สามารถรับแสงธรรมชาติจากด้านนอกเข้ามายังในบ้านได้ทั่วถึง ช่วยให้บ้านมีความสว่างและปลอดโปร่งเป็นอย่างมาก

มุมนั่งเล่นตรงโซนนี้ สามารถที่จะเป็นได้ทั้งฟังก์ชันต้อนรับแขก หรือมุมนั่งพักผ่อนกับคนในครอบครัวได้ทั้งหมด เพราะมีขนาดกว้างขวาง วางโซฟาชุดใหญ่ได้ นั่งกันได้หลายคนแบบสบายๆ ส่วนฝั่งตรงข้ามโซฟาสามารถวางชั้นทีวี และติดตั้งทีวีจอใหญ่ได้ ด้วยมีระยะห่างจากสายตากำลังดี

ซึ่งมุมนี้ยังสามารถเชื่อมกับมุมรับประทานอาหารที่อยู่มุมอีกฝั่งของบ้าน ทำให้พื้นที่ใช้สอยบริเวณนี้มีขนาดกว้างมากและมีลักษณะรูปแบบ Open Plan สามารถดีไซน์การตกแต่ง จัดวางเฟอร์นิเจอร์ตามไลฟ์สไตล์และความชอบของคนในบ้านได้อย่างอิสระ

มุมรับประทานอาหาร จะอยู่ด้านหน้าอีกฝั่งของบ้าน ซึ่งจะอยู่ติดกับหน้าต่าง คอยเปิดรับแสง รับลมให้บริเวณพื้นที่นี้มีอากาศถ่ายเทได้ดี มุมนี้รองรับโต๊ะรับประทานอาหารได้มากถึง 8 ที่นั่ง โดยทางบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งเพิ่มผนังโค้งให้ดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น

ตรงโถงกลางบ้าน จะมีการติดตั้งฉากกั้นแบบกึ่งโปร่ง คั่นกลางเอาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง เพื่อให้ชั้นล่างของบ้านมีพื้นที่แบ่งฟังก์ชันการใช้งานที่ชัดเจนมากขึ้น และช่วยเพิ่มความส่วนตัวสำหรับมุมนั่งเล่นอีก 1 จุดที่อยู่ด้านหลังฉากกั้น ชั้นล่างจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 2.8 ม. งานพื้นจะปูด้วยวัสดุกระเบื้องลายหินอ่อนขนาด 80x80 ซม.

ด้านหลังฉากกั้น จะเป็นส่วนพื้นที่มุมนั่งเล่นอีก 1 จุด ซึ่งทางบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งให้เป็นมุมทำงาน มาพร้อมกับโซฟา 2 ที่นั่งชิดริมผนัง ด้านหลังจะมีประตูกระจกบานสไลด์เลื่อนเปิดไปยังหลังบ้านได้ และมุมนี้เองจะอยู่ใกล้กับห้องนอนที่ 4 ที่อยู่ด้านข้างบ้าน

ห้องนอนที่ 4 หรือห้องอเนกประสงค์ มีขนาดกำลังดี จัดวางฟังก์ชันการใช้งานได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นห้องดูหนัง ฟังเพลง ออกกำลังกาย หรือจะเป็นห้องสำหรับเอาไว้นั่งปาร์ตี้เบาๆ กันภายในครอบครัว

ด้านในห้องนี้จะมีประตูที่สามารถเปิดออกเดินเชื่อมไปยัง Terrace หน้าบ้านได้ ผนังด้านข้างจะมีช่องหน้าต่างมาให้ 2 จุด ทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย จากมุมมองวิวสวนที่อยู่ด้านข้างบ้าน 

และภายในห้องจะปูพื้นแบบ Soft Floor ช่วยลดแรงกระแทก ถ้าบ้านไหนมีผู้สูงอายุ สามารถปรับให้เป็นห้องนอน ก็มีการใช้งานที่เหมาะและดูลงตัว

ห้องน้ำภายในห้องนอนที่ 4 ได้ติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้ครบพร้อมใช้งาน มีช่องหน้าต่างมาให้ 2 มุมห้อง โดยจะอยู่ตรงมุมโซนอาบน้ำและบริเวณโถสุขภัณฑ์ ทั้งสองมุมนี้ยังมีการติดตั้งราวจับช่วยพยุงตัว เพื่อให้ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่อาจจะมีร่างกายที่ทรงตัวได้ไม่ค่อยดี สามารถเข้ามาใช้งานได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น

จากหน้าห้องนอนที่ 4 เดินไปตามโถงทางเดิน อีกฝั่งของบ้านจะมีพื้นที่ถูกกั้นเป็นห้อง แบ่งพื้นที่ใช้สอยได้อย่างเป็นสัดเป็นส่วน ซึ่งจะมีตั้งแต่โถงบันได, ห้องเก็บของ, ห้องน้ำส่วนกลาง, ห้องครัวในบ้าน เชื่อมไปยังครัวไทยแบบกึ่งกลางแจ้ง และบริเวณนี้ยังมีห้องแม่บ้านมาพร้อมกับห้องน้ำส่วนตัว อยู่ใกล้กับลานซักล้างด้านข้างตัวบ้าน

ก่อนจะเดินผ่านไปถึงห้องครัว จะเจอกับโถงบันไดและห้องเก็บของใต้บันได ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับมุมรับประทานอาหาร ห้องเก็บของมีขนาดกว้าง ประตูจะเป็นลักษณะบานเปิดแบบมาตรฐาน ทำให้ขนของชิ้นใหญ่ๆ เข้าไปเก็บได้ และจุได้เยอะอีกด้วย

ถัดไปข้างๆ จะเป็นห้องน้ำส่วนกลางชั้นล่าง ทางโครงการได้จัดเรียงสุขภัณฑ์ในระนาบแนวเดียวกัน เพื่อง่ายต่อการเดินเข้าไปใช้งาน ด้านในจะมีช่องหน้าต่างมาให้เพื่อเปิดรับแสง ระบายความชื้น และช่วยให้ห้องน้ำแห้งเร็วขึ้น

เดินมาจนสุดโถงทางเดิน พื้นที่ตรงนี้จะเป็นส่วนของห้องครัวแบบปิด มีขนาดกว้าง จัดวางเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว U ได้ลงตัว มีพื้นที่เหลือด้านข้างให้วางตู้เย็น 2 ประตูขนาดใหญ่ได้อีกด้วย เหมาะมากๆ เลยที่จะเป็นครัวของครอบครัวขนาดใหญ่ เพราะมีพื้นที่เยอะ ไม่ว่าจะเก็บอุปกรณ์จานชาม มีพื้นที่สำหรับทำและเตรียมอาหารได้เต็มที่ และห้องนี้มาพร้อมกับช่องหน้าต่างบานใหญ่ เปิดระบายกลิ่นต่างๆ ออกไปทางหลังบ้านได้ค่ะ

มุมอีกฝั่งของห้องครัว ยังมีพื้นที่วางเคาน์เตอร์ยาวชิดผนัง ลักษณะใช้งานเป็น Pantry เพิ่มได้อีก ส่วนผนังด้านบน Built-in ชั้นวางของแบบเปิดโล่ง หรือจะเป็นตู้บานปิดก็ได้ทั้งคู่ แล้วแต่ความต้องการ  บริเวณนี้จะมีหน้าต่างมาให้อีกจุด และตรงห้องครัวนี้จะมีประตูบานสีขาว เปิดออกไปเชื่อมต่อกับครัวไทย ซึ่งอยู่ด้านข้างบ้าน

บ้านตัวอย่างหลังนี้จะมีครัวไทยแยกเป็นสัดส่วน เพื่อมีการใช้งานที่สะดวกมากขึ้น ผู้พักอาศัยหรือแม่บ้านสามารถที่จะทำอาหารไทย ไม่ว่าจะทอดปลา ผัดกะเพรา ต้มแกงต่างๆ ได้อย่างสบายใจ กลิ่นจะไม่เข้าไปติดพวกเฟอร์นิเจอร์ในบ้านได้ เพราะพื้นที่จะเป็นแบบกึ่งเปิดโล่ง ระบายอากาศ ถ่ายเทได้ง่าย ทั้งยังมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าได้ ใช้งานไม่เปียกฝน เพราะอยู่ในที่ร่ม

และบริเวณนี้ จะมีห้องแม่บ้านและห้องน้ำส่วนตัวด้วย ภายในห้องนอนมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง มีช่องหน้าต่างให้ เปิดรับลม รับแสงได้ ส่วนห้องน้ำได้ติดตั้งสุขภัณฑ์ให้ครบชุด ใช้งานได้ครบฟังก์ชัน 

สำหรับลานซักล้าง จะอยู่เชื่อมกับห้องน้ำ ฝั่งด้านข้างบ้าน มีพื้นที่กว้างพอที่จะวางราวตากผ้าได้ หรือจะซักล้างเล็กๆ น้อยๆ ทำความสะอาดพวกอุปกรณ์ใช้งานก็ได้เช่นกัน

กลับเข้ามาในบ้านกันอีกครั้ง คราวนี้ไปชมชั้น 2 กันต่อนะคะ ซึ่งโถงบันไดจะอยู่ฝั่งด้านหลังบ้าน โครงสร้างเป็นลักษณะคอนกรีตเสริมเหล็กเช่นเดียวกัน มีความแข็งแรงมั่นคง เดินแล้วเสียงไม่ดัง ปิดลูกตั้ง ลูกนอนด้วยไม้ Joint มีความกว้าง 1.1 ม. เดินขึ้น-ลงมีความปลอดภัย ด้วยราวจับที่มีให้ตลอดแนว มาพร้อมกับช่องแสง ที่อยู่บริเวณชานพักบันได

เมื่อขึ้นมาถึงชั้น 2 รู้สึกและสัมผัสถึงบรรยากาศความสูงโปร่งของเพดานที่สูงถึง 3.6 ม. ทำให้การพักผ่อนส่วนตัวกันภายในครอบครัว อยู่อาศัยกันได้แบบสบายๆ โดยพื้นที่โถงกลางนี้จะเป็นมุม Family Area ที่สมาชิกในบ้านสามารถเข้ามานั่งเล่น พูดคุยพร้อมหน้าตาพร้อมตากันตรงนี้ได้ และยังเป็นพื้นที่ยืดหยุ่น จัดวางปรับเปลี่ยน ดีไซน์ได้ตามไลฟ์สไตล์ดั่งใจที่เราคิดได้อีกด้วย

บ้านตัวอย่างหลังนี้ก็มีชั้นลอยเช่นเดียวกัน ตำแหน่งจะอยู่หลังบ้านเชื่อมต่อกับโถงบันได โดยชั้นลอยนี้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 2.25 ม.

ชั้น 2 นอกจากจะมีมุม Family Area และพื้นที่ชั้นลอยแล้วนะคะ ยังมีห้องนอนอีก 3 ห้อง ทุกห้องมีห้องน้ำในตัว อย่างฝั่งนี้จะเป็นตำแหน่งของห้องนอนที่ 2 และ 3 ส่วนงานพื้นชั้นบนจะปูด้วยวัสดุ SPC ลายไม้ มีระยะการใช้งานที่ยาวนาน และยังช่วยให้บรรยากาศของชั้นนี้ดูอบอุ่น สบายตามากทีเดียว

เรามาเริ่มต้นด้วยห้องนอนที่ 2 ขนาดของห้อง สามารถที่จะใส่ฟังก์ชันต่างๆ สำหรับอยู่อาศัยคนเดียวได้ครบครัน คือมีทั้งมุมพักผ่อน ซึ่งวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ บริเวณหัวเตียงยังมีพื้นที่วางตู้ลิ้นชักเก็บของได้อีก 

ด้านในจะมีพื้นที่ทำเป็นมุมแต่งตัว ติดตั้งกระจกเงาและ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้เต็มผนัง ใกล้ๆ กันจะมีห้องน้ำ ขนาดค่อนข้างกว้าง ใช้งานได้ทั้งโซนแห้งและโซนเปียก ซึ่งโซนเปียกจะมีการทำพื้นที่ลดระดับลงไป เพื่อไม่ให้น้ำไหลย้อนมาฝั่งโซนแห้ง เจ้าของห้องสามารถที่จะติดตั้งฉากกั้นเพิ่มได้ เพื่อให้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น

ฝั่งปลายเตียง ก็มีพื้นที่ที่จะตกแต่งเพิ่มเติมได้ อย่างบ้านตัวอย่างได้ Built-in โต๊ะยาวชิดผนัง เป็นได้ทั้งโต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง หรือจะเป็นมุมวางทีวีก็เหมาะและลงตัว ใช้งานได้หลากหลาย ตรงมุมหัวเตียงจะมีประตูกระจกบานสไลด์ ซึ่งเป็นทางออกไปยังระเบียงส่วนตัวของห้องนี้

ความพิเศษของแบบบ้านนี้จะมีระเบียงที่ยาวเท่ากับหน้ากว้างของบ้านไปจนถึงด้านข้างตัวบ้านทั้งสองฝั่ง ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น และระเบียงของห้องนอนที่ 2 เชื่อมต่อถึงระเบียงห้อง Master Bedroom ได้ โดยไม่มีผนังกั้นค่ะ

สำหรับห้องนอนที่ 3 ขนาดของห้องใกล้เคียงกับห้องนอนที่ 2 ทำให้ภายในห้องสามารถที่จะจัดวางมุมต่างๆ ครบฟังก์ชันได้เช่นเดียวกัน ตั้งแต่ส่วนพักผ่อน มีพื้นที่พอดีที่จะวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ มาพร้อมกับมุม Walk-in Closet ที่จะ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งใช้งานได้ลงตัว ในห้องมีความสว่างด้วยแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านหน้าต่างทั้งสองฝั่ง ทั้งจากด้านหลังและด้านข้างบ้าน

ห้องน้ำส่วนตัว มีพื้นที่กว้าง แบ่งโซนแห้งโซนเปียกให้เรียบร้อย ฝั่งโซนเปียกจะมีช่องหน้าต่างมาให้ ไว้เปิดเพื่อลดกลิ่นอับชื้นให้กับห้องน้ำได้ ห้องนี้จะตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินโทนสีเทาตัดกับโทนสีดำ ด้านในได้ติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้พร้อมใช้งาน

มุมบ้านอีกฝั่ง จะเป็นที่ตั้งของห้องนอนใหญ่ที่สุดของบ้าน นั้นคือ ห้อง Master Bedroom จะมีพื้นที่ขนาดกว้างขวางมากๆ เต็มทั้งโซนของฝั่งนี้

เมื่อเดินเข้ามาในห้อง Master Bedroom สิ่งแรกที่สัมผัสได้ ด้านในมีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกคล้ายกับอยู่ใน Penthouse ที่สามารถแบ่งพื้นที่ ตกแต่งจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในมุมต่างๆ ได้หลายสไตล์ ดีไซน์กันได้อย่างเต็มที่ สำหรับบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งให้ดูเรียบหรูและ Modern ด้วยโทนสีเข้ม ผสมผสานกับเส้นสายสีทอง ตรงผนังมีการซ่อนไฟ เพิ่มความ Elegant ได้มากเลยทีเดียว

มุมพักผ่อน สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้ และยังมีพื้นที่ทางเดินโดยรอบได้กว้าง ส่วนตรงหัวเตียงมีพื้นที่เหลือไว้วางโต๊ะหรือชั้นเก็บของเล็กๆ มาพร้อมกับโคมไฟคู่ได้ลงตัวพอดี สำหรับด้านข้างเตียงนอนจะมีช่องแสงขนาดใหญ่และสูงถึงฝ้าเพดาน ซึ่งเป็นประตูกระจกบานสไลด์ สามารถเลื่อนเปิดเดินออกไปยังระเบียงส่วนตัวได้ค่ะ

มุมฝั่งปลายเตียง ยังมีพื้นที่เหลืออีกเพียบ ตกแต่งเป็นมุม Living Bedroom เหมือนกับบ้านตัวอย่างแบบนี้ก็ได้ หรือถ้าใครอยากจะทำเป็นมุมเคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ ชงเครื่องดื่ม เปิดเพลงคลอเบาๆ สร้างบรรยากาศผ่อนคลายแบบส่วนตัวภายในห้อง ก็ช่วยให้หายเหนื่อยล้าจากการทำงานทั้งวันได้อย่างดี

ระเบียงส่วนตัวของห้อง Master Bedroom มีขนาดความกว้างประมาณ 1.5 ม. ที่ได้ติดตั้งราวกั้นตกด้วยกระจกนิรภัยตลอดแนว พื้นที่ระเบียงนี้ สามารถออกมาใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะออกมายืดเส้นยืดสาย ชมวิวหน้าบ้าน หรือจะจัดสวนลอยฟ้าเล็กๆ เพิ่มความสดชื่น เติมเต็มให้มีชีวิตชีวาได้ไม่น้อย

ด้วยห้องนอนที่มีขนาดกว้างมากๆ มุมด้านในจึงมีพื้นที่ทำเป็นห้องแต่งตัวใช้งานได้แบบ Full Option และโซนมุมแต่งตัวนี้มีการใช้งานได้ต่อเนื่องเชื่อมไปยังห้องน้ำที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน

ห้องแต่งตัว มีขนาดไม่ได้เล็กเลยนะคะ สามารถวางโต๊ะ Island สำหรับนั่งแต่งตัว แต่งหน้าตรงกลางได้ รอบๆ ยังมีพื้นที่ให้เดินได้สบาย จะหยิบเสื้อผ้ามาลอง ก็ไม่ได้เบียดเสียดหรือคับแคบ อีกทั้งยัง Built-in ที่เก็บเสื้อผ้า Accessory ต่างๆ ได้เต็มผนัง ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่ามากๆ สำหรับฟังก์ชันในห้องนี้ค่ะ

ในบริเวณเดียวกันกับมุมแต่งตัว จะมีพื้นที่ของห้องน้ำ ภายในมีขนาดกว้าง ด้านหน้าเป็นอ่างอาบน้ำที่โครงการได้ติดตั้งมาให้แล้ว รวมถึงสุขภัณฑ์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างหน้าแบบ His&Her มุมในสุดเป็นโซน Shower ด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ และตรงผนังด้านข้างจะมีช่องแสงให้ 2 จุด

บ้านมาตรฐานและวัสดุ

บ้านจริงที่ได้ของโครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด วิภาวดี-พหลฯ จะได้บ้านที่ไม่ได้ตกแต่งภายใน มาพร้อมกับวัสดุและอื่นๆ ซึ่งจะมีดังนี้

• Home Automation สั่งงานผ่านแอปพลิเคชัน RueJai Home OS
• ระบบสัญญาณกันขโมย Magnetic & Shock Sensor มาพร้อมแผงหน้าจอแสดงผลระบบสัญญาณกันขโมยรอบบ้าน
• ประตู Digital Door Lock ของแบรนด์ Samsung
• จุดรองรับการติดตั้ง Ev Charger
• Active Air Quality ระบบขจัดมลพิษทางอากาศในบ้าน
• Smoke & Heat Detector 
• ปั๊มน้ำ+ถังเก็บน้ำ

วัสดุ

• พื้นชั้น 1 กระเบื้องลายหินอ่อน ขนาด 80x80 ซม.
• พื้นชั้น 2 SPC

• สุขภัณฑ์ในห้องน้ำครบชุด ของแบรนด์ Cotto สำหรับห้อง Master Bedroom จะได้โถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ

Location

ที่ตั้งโครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด วิภาวดี-พหลฯ อยู่บนทำเลคุณภาพ ติดกับทางคู่ขนาน ถ.พหลโยธิน 

(ฝั่งขาเข้า) ซึ่งเป็นถนนใหญ่ของโซนกรุงเทพฯ-ปทุมธานี ไม่ว่าจะเดินทางเข้าเมือง อย่างโซนจตุจักร ลาดพร้าว หรือเมืองชั้นใน โซน CBD ใจกลางย่านธุรกิจ สามารถเดินทางได้สะดวก มีความคล่องตัวเป็นอย่างมาก และมีทางเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย 

จากเส้นทางคู่ขนาน ถ.พหลโยธิน ขับเชื่อมไปยังถ.วิภาวดีรังสิตได้ นอกจากนี้โครงการยังใกล้กับทางด่วน 3 เส้นทาง ทั้งเส้นดอนเมือง-โทลล์เวย์, ทางพิเศษศรีรัช, ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก)

ทั้งยังสามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้อีกด้วย เพราะรอบโครงการ มีเส้นรถไฟฟ้าสายสีแดงพาดผ่าน สถานีที่ใกล้ คือ สถานีรังสิต ห่างจากโครงการประมาณ 5 กม.

โครงการจะอยู่ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนดอนเมือง-โทลล์เวย์ ประมาณ 500 ม. ซึ่งทำให้มีการเดินทางเชื่อมต่อเข้าไปยังโซนใจกลางเมืองกรุงเทพได้สะดวกสบายและรวดเร็ว

รวมถึงถ้าใครจะต้องเดินทางไปทำธุรกิจหรือมีธุระอื่นๆ จำเป็นต้องออกต่างจังหวัดหรือนอกประเทศบ่อยๆ จากที่ตั้งโครงการ เดินทางไปถึงสนามบินดอนเมืองมีความสะดวกมากเช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าเดินทางด้วยเส้นทางด่วนดอนเมือง-โทลล์เวย์ จะใช้เวลาการเดินทางประมาณ 20-25 นาที

ความสะดวกสบายไม่ได้มีเพียงในเรื่องการเดินทางเท่านั้น การอยู่อาศัย หาซื้อของกินของใช้ นับว่าใช้ชีวิตอยู่ในย่านนี้ได้สบายๆ เลยค่ะ รอบๆ โครงการมีแหล่งไลฟ์สไตล์ ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ให้เราได้ไปเดินเล่นพักผ่อน หรือจะแวะซื้อของติดไม้ติดมือกลับบ้านกันได้ 

ซึ่งโครงการจะอยู่ใกล้กับโซนห้าง Future Park รังสิต บริเวณนี้ไม่ได้มีห้างเดียว มีห้างอื่นๆ ด้วย ทั้ง Zepll, Major Cineplex รังสิต, HomePro รังสิต, Lotus’s รังสิต และใกล้ๆ ยังมีตลาดใหญ่ อย่างตลาดรังสิต หรือถ้าใครอยากจะซื้อของตกแต่งบ้าน บุญถาวร รังสิต อยู่ไม่ไกลจากที่ตั้งโครงการอีกด้วยค่ะ

โรงพยาบาล สถานศึกษาที่อยู่ใกล้กับโครงการก็มึเช่นกัน หากเจ็บไข้ได้ป่วยหมดกังวลว่าจะต้องเดินทางไกลไปได้เลย โรงพยาบาลที่ใกล้มีทั้ง โรงพยาบาลเปาโล รังสิต, โรงพยาบาลบางปะกอก รังสิต 2, โรงพยาบาลธนบุรีบูรณา, โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น ส่วนสถานศึกษาก็มี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เป็นต้น

การเดินทาง

พิกัดโครงการ : https://bit.ly/3OleTe5

การเดินทางไปโครงการในครั้งนี้ เริ่มต้นด้วยการขับรถวิ่งขึ้นทางด่วน เพื่อมาเชื่อมกับทางด่วนดอนเมือง-โทลล์เวย์ มุ่งหน้าไปทางรังสิต-บางประอิน

ขับมาจนสุดทางด่วน ทางลงจะอยู่บริเวณ บขส. รังสิต เมื่อขับลงมาแล้ว จะไปเชื่อมกับทางคู่ขนาน ถนนพหลโยธิน (ฝั่งขาออก)

เมื่อลงมาบนทางคู่ขนาน ถนนพหลโยธิน (ฝั่งขาออก) ให้ขับตรงไปเรื่อยๆ และคอยสังเกตป้ายสะพานกลับรถ ซึ่งป้ายจะอยู่ก่อนถึง บุญถาวร รังสิต เมื่อเห็นแล้วให้เตรียมตัวเบี่ยงซ้าย เพื่อขึ้นสะพานกลับรถค่ะ

ลงจากสะพานกลับรถ ให้ขับตรงไปบนทางคู่ขนาน ถนนพหลโยธิน (ฝั่งขาเข้า) ในระยะประมาณ 2.1 กม. ก็จะเจอทางเข้าไปโครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด วิภาวดี-พหลฯ

ทางเข้าโครงการจะมีซุ้มประตูและป้ายขนาดใหญ่ ด้านในจะมี 2 โครงการแรกที่เพิ่งเปิดตัวไป และโครงการที่กำลังจะเปิดขายในอนาคต โดยหนึ่งในนั้นจะมีโครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด วิภาวดี-พหลฯ 

เมื่อเห็นป้ายแล้ว สามารถที่จะขับเข้าไปได้ โดยแจ้งเจ้าหน้าที่บริเวณซุ้มประตูให้ทราบก่อนเข้าไปด้านในค่ะ 

จากซุ้มประตูทางเข้าด้านหน้าที่ติดกับทางคู่ขนาน ถนนพหลโยธิน ขับเข้ามาจะเจอกับถนนภาระจำยอม ซึ่งโครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด วิภาวดี-พหลฯ จะอยู่ด้านใน จากตรงนี้ขับเข้าไปอีกไม่ไกลค่ะ

โครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด วิภาวดี-พหลฯ จะอยู่ฝั่งซ้ายมือ ซุ้มประตูโครงการมีขนาดใหญ่ ด้วยโทนสีขาวตัดกับสีเทา ตั้งอย่างโดดเด่นพร้อมป้ายชื่อ เมื่อเห็นแล้ว สามารถเลี้ยวเข้าไปเยี่ยมชมด้านในโครงการได้ค่ะ

Price & Promotion

โครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด วิภาวดี-พหลฯ บ้านเดี่ยวหรูหลังใหญ่ ออกแบบซีรีส์ใหม่สไตล์ LANAI SERIES มีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบ รองรับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ ในราคาเริ่มต้น 9.99-20 ล้านบาท*

สำหรับแต่ละแบบบ้านมีราคาเริ่มต้นดังนี้

• แบบบ้าน CALM ราคาเริ่มต้น 12.99 ล้านบาท*
• แบบบ้าน SHADE ราคาเริ่มต้น 14.99 ล้านบาท*
• แบบบ้าน CAPTIVATE ราคาเริ่มต้น 17.99 ล้านบาท*
• แบบบ้าน CHARISMA ราคาเริ่มต้น 22.19 ล้านบาท*

*ราคาขาย ณ เดือนพฤศจิกายน 65 โปรดสอบถามทางโครงการอีกครั้ง

สนใจลงทะเบียน รับข้อมูลเพิ่มเติม > > https://m.scasset.com/BBVE  

(โปรโมชัน และส่วนลดอื่นๆ เพิ่มเติมอยู่ที่เงื่อนไขของบริษัทฯ กำหนด)

Conclusion

Design & Function : ทุกแบบบ้านในโครงการ มีการดีไซน์ในรูปแบบซีรีส์ใหม่ที่โดดเด่นในสไตล์ LANAI SERIES เรียกได้ว่าเป็นการดีไซน์ที่เป็นลายเซ็นของโครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด ซึ่งทุกบ้านจะมีพื้นที่ลักษณะ Semi-Outdoor ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ทำให้บ้านมีพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มมากขึ้น และช่วยให้สมาชิกในบ้านได้ใกล้ชิดเชื่อมต่อกับสวนธรรมชาติรอบบ้านได้มากกว่าที่เคย 

โดยโครงการนี้จะมีบ้านเดี่ยวฟังก์ชันมากถึง 5 ห้องนอน จอดรถได้มากสุด 4 คัน ภายในบ้านมีพื้นที่กว้างขวาง ชั้นล่างจะมีห้องนอนที่ 4 ซึ่งปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องนอนผู้สูงวัยได้ เพราะว่ามีการออกแบบพื้นห้องน้ำให้ไม่มี Step สามารถจะเข็นรถ Wheelchair เข้าไปได้ ส่วนพื้นที่ชั้น 2 จะมีความสูงโปร่งมากถึง 3.6 ม. ทุกห้องนอนชั้นบนมีห้องน้ำในตัว ห้อง Master Bedroom มีพื้นที่สำหรับทำเป็น Living Bedroom และมุม Walk-in Closet ได้ขนาดใหญ่ มาพร้อมกับมุม Family Area และชั้นลอยที่เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ และสิ่งสำคัญอีกอย่างนึง โครงการจะมีระบบ “Living Solutions” By SC Asset 7 นวัตกรรมใหม่ เข้ามาเติมเต็มการใช้ชีวิตอยู่อาศัยให้สะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น