รีวิว บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ พระราม 5 คฤหาสน์หรู ที่ดินใหญ่ เป็นส่วนตัว เอกสิทธิ์เพียง 15 ยูนิต

ความพิเศษของโครงการนี้เน้นความเป็นส่วนตัวอย่างที่สุด ด้วย 15 ครอบครัวเท่านั้น และยังมีการสร้างสรรค์ดีไซน์บ้านสไตล์ Nordic Series มีเอกลักษณ์ระดับ Luxury พร้อมทั้งยังมีความทันสมัยด้วยระบบนวัตกรรม Living Solutions เข้ามาเติมเต็มเพื่อให้การอยู่อาศัยมีความสะดวกสบาย ปลอดภัยมากที่สุดเช่นเดียวกัน

ยิ่งไปกว่านั้นพื้นที่ส่วนกลางมีกลิ่นอายของเมืองท่องเที่ยวอย่าง Santa Village ในเมือง Rovaniemi, Finland สัมผัสคล้ายกับเมืองหนาวในบรรยากาศที่อบอุ่น รองรับกิจกรรมได้ทุกช่วงวัย โดยโครงการอยู่ในโซนถ.นครอินทร์ นนทบุรี ใกล้ทางด่วนและโรงเรียนเด่นหล้า พระราม 5 ถ้าอยากรู้เรื่องราวรายละเอียดของโครงการ ตามไปชมรีวิวนี้กันค่ะ

Factsheet

ชื่อโครงการ :	บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ พระราม 5
บริษัท :	บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้งโครงการ :	ถนนอัจฉริยะประสิทธิ์ 1 ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130
รายละเอียดโครงการ :	บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4-6 ห้องนอน 5-7 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ
พื้นที่โครงการ :	9-1-18.3 ไร่
จำนวน :	15 ยูนิต
ขนาดที่ดิน :	108.7 - 206.3 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย :	435 - 807 ตร.ม.
พื้นที่ :	100 ตร.ว.
ราคาเริ่มต้น :	เริ่มต้น 30 - 69 ล้านบาท* (สอบถามโครงการอีกครั้ง)
ค่าส่วนกลาง :	97 บาท/ ตร.ว./เดือน
รูปแบบการก่อสร้าง :	ก่ออิฐฉาบปูน (อิฐมวลเบา Q-Con)
สิ่งอำนวยความสะดวก :	Clubhouse, Swimming Pool, Gym, Co-working Space, Meeting Room, Main Park
ระบบรักษาความปลอดภัย :	Main Gate อัตโนมัติ, เข้า-ออกด้วยระบบ Smart Gate, CCTV 15 จุด ทั่วโครงการ, เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย 24 ชม., รั้วโครงการสูง 3 ม. และระแนงไม้บังสายตา ภายในบ้าน มีสัญญาณกันขโมย Magnetic & Shock Sensor, Digital Door Lock, ระบบป้องกันอัคคีภัย Smoke & Heat Detector
โทร :	061-178-5919
เว็บไซต์ :	https://m.scasset.com/BX_d

Highlight

บ้านเดี่ยวหรู ที่ดินใหญ่ 100 ตร.ว. ขึ้นไป ดีไซน์สไตล์ Nordic Series โครงการนี้ ตอบโจทย์สำหรับคนที่มองหาบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ โดยจะมีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ซึ่งขนาดใหญ่สุดจะมีที่ดินมากถึง 206.3 ตร.ว. ฟังก์ชันจะมีตั้งแต่ 4-6 ห้องนอน จอดรถได้ 4-8 คัน* ทุกหลังจะมีดีไซน์สวยงามระดับ Luxury สไตล์ Nordic Series สมัยใหม่ ด้วยหลังคาทรงจั่วที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์

ฟังก์ชันตอบโจทย์ครอบครัวรุ่นใหม่ รองรับครอบครัวที่ต้องการขยับขยาย มีสมาชิกในบ้านหลาย  Generation โดยชั้นล่างจะมีห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว ออกแบบการใช้งานให้สะดวกสำหรับผู้สูงวัย มีพื้นที่อเนกประสงค์ทั้งแบบ Indoor ในบ้าน และมีระเบียงแบบ Semi-Outdoor ใช้งานได้จริง ทั้งยังมีห้องนอนจัดวางฟังก์ชันได้ครบ มีพื้นที่ส่วนตัวอย่างเป็นสัดส่วน ซึ่งมาพร้อม 7 นวัตกรรม Living Solutions By SC Asset ตอบรับการอยู่อาศัยที่สะดวกสบาย เพิ่มความปลอดภัยให้กับทุกครอบครัว

พื้นที่ส่วนกลางได้แรงบันดาลใจจาก Santa Village ในเมือง Rovaniemi, Finland ที่มีการหยิบยกกลิ่นอายความเป็นหมู่บ้านซานต้าคลอส มาดีไซน์ Clubhouse ให้เป็นสถาปัตยกรรมที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับเมืองหนาว ชวนสัมผัสถึงบรรยากาศอบอุ่นสุดแสนพิเศษได้ทุกวัน พร้อมทั้งมีการออกแบบให้ทุกคน สามารถเข้ามาใช้พื้นที่ในการทำกิจกรรมได้ มีระบบความปลอดภัยครอบคลุม ด้วย CCTV 15 จุดและเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย 24 ชม.

ทัศนียภาพสวยงามด้วยระบบไฟฟ้าใต้ดินทั้งหมด ในบรรยากาศส่วนตัว 15 ยูนิต มีความเงียบสงบ ได้สังคมเพื่อนบ้านที่มีคุณภาพ อีกทั้งยังเป็นโครงการที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่อยู่ภายในโครงการอีกด้วย

ทำเลเชื่อมต่อถนนได้หลายสาย เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน โดยโครงการจะอยู่บนถ.อัจฉริยะประสิทธิ์ 1 ติดกับ ถ.นครอินทร์ ในโซนนนทบุรี มีการเข้า-ออกโครงการได้หลายเส้นทาง อีกทั้งยังใกล้กับทางพิเศษประจิมรัถยา (ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก) เพียง 5 กม. นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนเด่นหล้า พระราม 5, ตลาดพระราม 5 รวมถึงห้างสรรพสินค้าแบรนด์ใหญ่อย่างเซ็นทรัล เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์ (คาดว่าแล้วเสร็จปลายปี 66 นี้)

Facility

ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์ SC Asset การดีไซน์ไม่เป็นสองรองใคร ทุกโครงการจะมี Concept ที่ชัดเจน อย่างโครงการบางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ พระราม 5 การดีไซน์ของซุ้มประตูโครงการ Clubhouse ไปจนถึงบรรยากาศภายในโครงการ ได้แรงบันดาลใจจาก อาคาร ตึก โรงนา โบสถ์ ในประเทศ Finland มีความเป็นเมืองหนาวที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งโครงการออกแบบได้สวยอย่างไม่มีข้อติเลยค่ะ

เมื่อมาถึงมีการต้อนรับด้วยซุ้มประตูโครงการขนาดใหญ่ Form สี่เหลี่ยมที่ดูโมเดิร์น ผสานกับ Background ที่เป็นสถาปัตยกรรมรูปทรงคล้ายกับบ้านที่มีปล่องไฟอยู่ด้านบน ชวนให้ได้อารมณ์ความเป็นหมู่บ้านซานต้าได้เป็นอย่างดี

โครงการจะมีการเข้า-ออกด้วยระบบ Smart Gate (การสแกนทะเบียนรถ) และประตูจะเป็นลักษณะประตูรั้วเหล็กเลื่อนเปิด-ปิด อัตโนมัติ แบ่งเป็น 2 ช่องทาง ก็คือช่องทางเข้าและช่องทางออก ระบบความปลอดภัยตรงโซนนี้จะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจตรา ดูแลความปลอดภัยให้ 24 ชม.และยังมีการติดตั้งกล้อง CCTV บันทึกการเข้า-ออกของรถทุกคัน พร้อมทั้งยังมีรั้วโครงการสูง 3 ม. และระแนงไม้บังสายตา ที่ช่วยให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น

ภายในโครงการยังมีการติดตั้ง CCTV กระจายตามจุดสำคัญทั่วโครงการ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 15 จุด เพิ่มความสบายใจให้กับทุกครอบครัวที่อาศัยอยู่ในโครงการนี้

บริเวณซุ้มประตูโครงการและ Clubhouse ตรงนี้จะมีถนนเมนที่กว้างประมาณ 16 ม. ถัดเข้าไปจนถึงสวนส่วนกลาง ถนนจะมีความกว้างประมาณ 12 ม. ส่วนถนนภายในซอยบ้านมีความกว้างประมาณ 9 ม. ซึ่งเป็นขนาดที่ขับสวนทางกันได้สะดวก และด้วยโครงการนี้มีบ้านเพียง 15 หลัง จะได้ความเป็นส่วนตัว การเข้า-ออก ผู้คนจะไม่จอแจ หรือวุ่นวายมากนัก รวมถึงบรรยากาศในโครงการมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม สบายตา ด้วยการนำระบบไฟฟ้าลงใต้ดินทั้งโครงการ

Clubhouse เป็นสถานที่แรกที่เราจะเห็นเมื่อเข้ามาภายในโครงการ การออกแบบสถาปัตยกรรมจะได้กลิ่นอายของเมืองท่องเที่ยวหมู่บ้านซานต้า จากประเทศฟินแลนด์ ความเป็นเอกลักษณ์จะอยู่ตรงหลังคา ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอาคารสำนักงานของซานต้า ที่คงโครงสร้างตัวอาคารไว้ แต่ตัดทอนหลังคาจั่วให้เป็นทรงขวด ปรับสีและตัวอาคาร เพิ่มความ Modern&Luxury เข้าไปด้วยหินและกระจกบานใหญ่ ซึ่งการออกแบบนี้จะเป็นลักษณะรูปทรงเดียวกันกับซุ้มประตูที่อยู่ด้านหน้าโครงการ

โดย Clubhouse นี้จะมี 2 ชั้น ภายในมีพื้นที่ให้ทำกิจกรรมมากมาย ตั้งแต่ Lobby, Swimming Pool, Gym, Co-working Space และ Meeting Room

โดยโครงการได้ใส่ใจอยากให้ทุกคนสามารถเข้ามาใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ทั้งหมด จึงคำนึงให้มีการออกแบบลักษณะ Universal Design มีช่องทางลาด ที่ไม่ว่าจะผู้สูงวัย ผู้ที่นั่งรถ Wheelchair หรือเด็กเล็กที่ต้องนั่งรถเข็นเด็ก ก็สามารถที่จะเข้ามาเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ใน Clubhouse ได้สะดวก

เดินเข้ามาภายในอาคาร ห้องแรกที่จะพาไปชม คือ Lobby พื้นที่นั่งพักผ่อน หรือจะเป็นพื้นที่คอยรองรับแขกที่มาเยี่ยม ชวนมานั่งเล่นตรงบริเวณนี้ได้เช่นกัน ห้องนี้จะมีเพดานสูงแบบ Double Volume  บรรยากาศมีความโปร่งโล่งเป็นอย่างมาก และผนังด้านบนจะเชื่อมต่อกับห้อง Co-working Space

ออกมาพื้นที่ด้านนอกอาคาร โซนชั้น 1 จะมีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดประมาณ 19x4 ม. ที่มีทั้งในร่มแบบ Semi-Outdoor และมีพื้นที่ให้ว่ายน้ำแบบกลางแจ้ง ซึ่งพื้นที่กลางแจ้งจะเป็นสระว่ายน้ำของเด็ก มีความลึกอยู่ประมาณ 0.6 ม. ในร่มจะเป็นสระว่ายน้ำผู้ใหญ่ที่มีความลึกประมาณ 1.2 ม. ส่วนพื้นที่ตรงกลางจะกั้นด้วยมุมนั่งพักผ่อนแบบเก้าอี้ Sunbed ที่สามารถมานอนเล่น รับแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้า หรือจะนอนรับลมในช่วงเย็น ก็สร้างความผ่อนคลายได้ลงตัว

การออกแบบโถงชั้น 1 บริเวณสระว่ายน้ำ มีลักษณะรูปทรงโค้งเว้า ตกแต่งด้วยวัสดุที่เป็นหิน เพื่อให้ดูกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติที่อยู่ภายในโครงการ ผู้พักอาศัยสามารถเข้ามาใช้บริการว่ายน้ำได้ตลอดทั้งวัน เพราะว่าสระว่ายน้ำผู้ใหญ่จะอยู่ในร่ม ว่ายน้ำช่วงกลางวันก็ไม่ร้อน ด้านข้างริมสระยังมีมุมนั่งพักผ่อน จัดวางชุดโต๊ะและเก้าอี้ไว้อยู่ 2 จุด

มุมด้านข้างสระว่ายน้ำจะมีพื้นที่เปิดโล่งติดตั้ง Rain Shower และ Hand Shower ไว้สำหรับอาบน้ำล้างตัว ก่อนและหลังลงสระว่ายน้ำ ส่วนห้องน้ำจะมีทั้งห้องแยกชาย หญิง และคนพิการอย่างเป็นสัดส่วน ซึ่งจะอยู่ใกล้กับโถงบันไดขึ้นไปชั้น 2 

บริเวณโถงบันไดขึ้นชั้น 2 จะมี Stairlift เก้าอี้เลื่อนขึ้นบันได เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงวัย หรือผู้ที่ไม่สะดวกที่จะเดินขึ้น-ลงบันไดได้ด้วยตัวเอง สามารถที่จะขึ้นมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ชั้นบนนี้ได้

เมื่อขึ้นมาบนชั้น 2 ของ Clubhouse ชั้นนี้จะมี 3 ห้องด้วยกัน อย่างห้องนี้จะเป็นพื้นที่ของ Co-working Space บรรยากาศในห้องมีการตกแต่งด้วยวัสดุที่มีความเป็นไม้ๆ โทนสี Soft ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และสบายๆ ด้วยแสงธรรมชาติจากช่องหน้าต่าง ภายในห้องมีการจัดวางโต๊ะ เก้าอี้เป็นสัดส่วน มีฉากกั้นสูงเล็กน้อยพอดีกับสายตา เพื่อให้ได้ความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น ทั้งยังมีมุมชงเครื่องดื่มไว้คอยให้บริการอีกด้วยค่ะ

ห้องต่อไป จะเป็นห้อง Meeting Room มีขนาดกว้าง รองรับผู้ที่มาใช้งานได้ประมาณ 8-10 คน ถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ที่จะต้องประชุมออนไลน์กับลูกค้า หรือนัดทีมงานมาระดมไอเดียประชุมนอกสถานที่ ซึ่งห้องนี้ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว

ห้องสุดท้าย เป็นห้อง Gym หรือว่าห้องออกกำลังกาย บรรยากาศจะดูโล่ง ด้วยช่องหน้าต่างหลายจุด เรียงต่อกันบนผนังเชื่อมไปถึงด้านข้าง ได้มุมมองที่เปิดกว้าง เห็นวิวทิวทัศน์ภายในโครงการได้อย่างเต็มสายตา โดยห้องนี้จะมีเครื่องออกกำลังกายหลายประเภท ครอบคลุมทั้งแบบคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่ง หรือถ้าใครอยากจะเล่นโยคะ ยังมีพื้นที่มุมหน้ากระจก ให้ได้ออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายกันได้ค่ะ

มาต่อกันที่สวนส่วนกลาง หรือ Main Park ตำแหน่งจะอยู่ตรงกลางของโครงการ เป็น Location ที่ดี ช่วยให้สมาชิกในบ้านของทุกหลังสามารถเข้าถึงสวนแห่งนี้ได้ง่ายและสะดวก การจัดสวนก็ดูสวยงาม ดีไซน์สไตล์ยุโรปเข้ากับ Concept ของโครงการ มีทั้งต้นไม้ประเภทยืนต้น ไม้พุ่มที่เป็นไม้ดอกและไม้ใบ ปลูกเรียงรายตามมุมสวนต่างๆ สร้างความร่มรื่นและเพิ่มความสดชื่นได้มากทีเดียว

ภายในสวนส่วนกลาง จะมี Pavillion เป็นที่นั่งพักผ่อน จะมานั่งอ่านหนังสือ หรือจะมานั่งคุยกับเพื่อนบ้าน ก็ได้ความสงบและใกล้ชิดกับธรรมชาติ อีกทั้งยังมีสนามเด็กเล่น ให้เด็กๆ ได้มาออกกำลังกายกลางแจ้ง รับลม รับอากาศบริสุทธิ์ ช่วยให้ร่างกายของเด็กๆ มีความแข็งแรงสมวัย

Design & Function

บ้านเดี่ยวของโครงการนี้ มีขนาดที่ดินใหญ่ ซึ่งจะมีที่ดินตั้งแต่ 108.7-206.3 ตร.ว.ทุกหลังมีการดีไซน์ที่โดดเด่นในสไตล์ Nordic Series เป็นการออกแบบที่มีกลิ่นอายของบ้านในแถบสแกนดิเนเวีย ก็คือมีความเรียบง่ายเข้ากับธรรมชาติ แต่แฝงความเป็น Modern Luxury เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ ตัวบ้านจะมาในโทนขาว-เทา และมีสีเอิร์ธโทนของวัสดุที่เป็นกระเบื้องลายหิน ประตูไม้สักเข้ามาผสมผสาน ให้บ้านดูอบอุ่น แต่ก็ยังให้ความรู้สึกที่มั่นคงและดูสง่างาม

ความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านสไตล์ Nordic Series อยู่ตรงหลังคาทรงจั่ว ออกแบบให้เชื่อมโยงกับตัวอาคารที่เป็นรูปทรงเรขาคณิตของ Facade ด้านหน้าบ้าน ซึ่งเน้นให้มีช่องแสงกว้าง ให้ภายในบ้านมีความโปร่งโล่ง อยู่อาศัยสบาย และตรง Facade นี่เอง ยังซ่อนการออกแบบของระแนงที่มีลวดลายฉลุสวยงาม ให้ตัวบ้านมีความน่าหลงใหลมากขึ้นไปอีกค่ะ 

บ้านเดี่ยวของโครงการ มีโครงสร้างรูปแบบก่ออิฐฉาบปูน ด้วยอิฐมวลเบา Q-Con มีความแข็งแรง รองรับการต่อเติมได้ในอนาคต และยังกันความร้อน ช่วยลดอุณภูมิภายในบ้านได้อย่างดี

ที่สำคัญโครงการนี้มีระบบ “Living Solutions” By SC Asset 7 นวัตกรรมใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยในการอยู่อาศัยให้กับลูกบ้านมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีนวัตกรรมใหม่ดังนี้ค่ะ

• RUEJAI HOME OS - แอปพลิเคชันควบคุมบ้านอัจฉริยะ สามารถที่จะเปิด-ปิดไฟ เช็กระบบความปลอดภัยในบ้าน และอื่นๆ ได้ เพียงสั่งการผ่าน Application บน Smart Phone 
• EV CHARGER - มีจุดรองรับการติดตั้ง Ev Charger ให้กับบ้านทุกหลัง
• AIS FIBER - เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูง 
• SMART GATE WITH LICENSE PLATE - เข้า-ออกโครงการสะดวก รวดเร็ว ด้วยระบบสแกนป้ายทะเบียนรถ 
• SMOKE & HEAT DETECTOR - ตรวจจับควันไฟและความร้อนพร้อมสัญญาณเตือน
• SOLAR-ROOF PROJECT CLUBHOUSE - แผงโซลาร์เซลล์พลังงานทดแทนในพื้นที่ส่วนกลาง
• ACTIVE AIR QUALITY - ระบบขจัดมลพิษทางอากาศในบ้าน เพื่อให้ภายในบ้านมีอากาศที่ดี

Home Type

โครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ พระราม 5 มีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบด้วยกัน

• แบบบ้าน OSTROBOTHNIA พื้นที่ใช้สอย 435 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ส่วนรับแขก 1 ห้องพักผ่อนด้านบน 1 ห้องแม่บ้าน 4 ที่จอดรถ

• แบบบ้าน SAVONIA พื้นที่ใช้สอย 519 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ส่วนรับแขก 1 ห้องพักผ่อนด้านบน 1 ห้องแม่บ้าน 4 ที่จอดรถ

• แบบบ้าน KARELIA พื้นที่ใช้สอย 786 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 ส่วนรับแขก 1 ห้องพักผ่อนด้านบน 1 ห้องซักรีด 2 ห้องแม่บ้าน 4 ที่จอดรถ

• แบบบ้าน ROVANIEMI พื้นที่ใช้สอย 807 ตร.ม. ฟังก์ชัน 6 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 1 ส่วนรับแขก 1 ห้องพักผ่อนด้านบน 1 ห้องซักรีด 2 ห้องแม่บ้าน 4 ที่จอดรถ

สำหรับครั้งนี้ทีมงาน Home Buyers จะพาไปเยี่ยมชมแบบเจาะลึกของแบบบ้าน SAVONIA กันค่ะ

แบบบ้าน SAVONIA

สำหรับแบบบ้าน SAVONIA จะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น Type M ของโครงการ สร้างอยู่บนที่ดินเริ่มต้น 138.4 ตร.ว. มีพื้นที่ใช้สอย 519 ตร.ม. ตัวบ้านจะเป็นลักษณะหน้ากว้าง ด้านในมีพื้นที่แบ่งเป็นฟังก์ชัน 

4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ส่วนรับแขก 1 ห้องพักผ่อนด้านบน 1 ห้องแม่บ้าน ส่วนด้านหน้ามีพื้นที่ลานจอดรถ จอดได้มากถึง 4 คัน 

โดยชั้นล่างจะมีห้องนอนที่ออกแบบการใช้งานตอบโจทย์สำหรับการอยู่อาศัยของผู้สูงวัย และชั้นบนมีระเบียงที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นมุมนั่งพักผ่อนแบบกึ่งกลางแจ้งเชื่อมต่อและใกล้ชิดกับธรรมชาติได้มากกว่าที่เคย มาพร้อมกับความพิเศษของ Master Bedroom ที่มีเพดานสูงถึง 5.18 ม.และแบบบ้านนี้จะมีพื้นที่ด้านข้างและด้านหน้าบ้าน สามารถจัดสวน สร้างความร่มรื่นให้กับบ้านได้ค่ะ

จากแปลนบ้าน เรามาดูกันว่าแต่ละชั้นจะมีฟังก์ชันอะไรบ้าง

ชั้น 1 : เริ่มต้นด้วยด้านหน้าบ้านมีพื้นที่ลานจอดรถ จอดได้ถึง 4 คัน ประตูทางเข้าบ้านจะมี 2 จุดหลักๆ จุดแรกจะอยู่ตรงพื้นที่ลานจอดรถ ส่วนจุดที่ 2 อยู่ตรงบริเวณ Terrace ด้านหน้าบ้าน ภายในบ้านจะมีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ครบทุกฟังก์ชัน ประกอบไปด้วยปีกฝั่งซ้าย จะเป็นส่วนของห้องรับแขก และมุมรับประทานอาหาร ปีกฝั่งขวาจะกั้นห้องเป็นสัดส่วน ซึ่งจะมีฟังก์ชันของห้องนอนที่ 4 มีห้องน้ำในตัว ห้องน้ำส่วนกลาง ห้องเก็บของ ห้องครัว ห้องแม่บ้าน และลานซักล้างหลังบ้าน

ชั้น 2 : เป็นพื้นที่โซนพักผ่อน โดนจะแบ่งให้มีห้องนอน 3 ห้อง ทุกห้องมีพื้นที่กว้าง และมีห้องน้ำในตัว พร้อมกับมีพื้นที่อเนกประสงค์ ทำเป็นมุม Family Area ได้

บ้านตัวอย่างหลังนี้ มีพื้นที่ลานจอดรถจะอยู่ด้านข้างฝั่งขวาของบ้าน ซึ่งสามารถจอดได้ถึง 4 คัน รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีรถหลายคันได้สบาย ผนังด้านหลังจะมีห้องเก็บของ เก็บพวกอุปกรณ์ใช้งานต่างๆ ได้ และยังมีจุดรองรับ Ev Charger ให้ด้วย เพื่อเตรียมพร้อมการติดตั้งเครื่องชาร์จสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า อีกทั้งพื้นที่ลานจอดรถจะมีประตูทางเข้าบ้าน 1 จุด ซึ่งเป็นประตู Digital Door Lock วัสดุไม้สัก ส่วนพื้นปูด้วยวัสดุทรายล้าง จะได้มาพร้อมกับบ้านมาตรฐานส่งมอบ

โถงทางเดินที่เชื่อมมายัง Terrace หน้าบ้าน มีการออกแบบให้เป็นทางลาด เพื่อให้ทุกคนในบ้านมีการใช้งานได้สะดวกสบาย ซึ่งทางลาดนี้จะอยู่ใกล้กับห้องนอนที่ 4 สามารถที่จะเข็นรถ Wheelchair ที่มีผู้สูงวัย นั่งอยู่ เข้าไปพักผ่อนด้านในภายในห้องได้เลย ผ่านประตูกระจกบานสไลด์ที่เปิดได้กว้าง

ประตูทางเข้าบ้านอีกจุด จะอยู่ถัดจากประตูทางเข้าห้องนอนที่ 4 เป็นประตูบานเปิดคู่ ไม้สักทั้งบาน มาพร้อมกับที่จับประตูดีไซน์โมเดิร์นสวยงาม และมีคุณภาพจากแบรนด์ COLT

พื้นที่ด้านข้างของบ้านตัวอย่างหลังนี้ มีค่อนข้างกว้าง ทางโครงการจึงตกแต่งทำเป็นศาลา มีพื้นที่นั่งพักผ่อนแบบกึ่งกลางแจ้งที่เชื่อมต่อกับสวนธรรมชาติด้านข้างบ้านให้ดูเป็นไอเดีย สำหรับบ้านมาตรฐานส่งมอบ ก็จะมีพื้นที่ด้านข้างและด้านหน้าบ้านให้มาเช่นเดียวกัน สามารถจะปลูกต้นไม้ จัดสวนในแบบที่ชอบได้ค่ะ

เข้ามาในบ้าน จากประตูทางเข้าหลักที่อยู่ติดกับ Terrace หน้าบ้าน เมื่อเปิดประตู เราจะเห็นโถงทางเดินเชื่อมกับมุมห้องรับแขกที่อยู่ฝั่งซ้าย และด้านในจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ส่วนฝั่งขวาจะเป็นผนังที่ทางบ้านตัวอย่างได้ Built-in ให้เป็นตู้และชั้นเก็บของ ซึ่งสามารถทำเป็นชั้นวางของสะสม หรือวางหนังสือเล่มโปรดตรงนี้ได้ค่ะ

มุมฝั่งซ้าย โซนแรกที่อยู่ใกล้กับประตูทางเข้า เป็นพื้นที่ของมุมรับแขก โอบล้อมด้วยประตูและหน้าต่างกระจกบานสไลด์ 2 ทิศทาง ทั้งฝั่งหน้าบ้านและข้างบ้าน สามารถมองเห็นวิวได้กว้าง อีกทั้งยังเป็นช่องรับแสงธรรมชาติจากภายนอกส่องเข้ามาในบ้านได้มากขึ้น ช่วยให้พื้นที่ด้านในมีความสว่าง บรรยากาศก็จะดูมีชีวิตชีวา บวกกับการดีไซน์ตกแต่งในโทนสีน้ำเงินของบ้านตัวอย่าง ช่วยเพิ่มความเรียบหรูให้กับมุมรับแขกได้ดีมากๆ

จุดที่ยืนอยู่ตรงนี้ จะเป็นโถงกลางบ้าน ที่มีขนาดกว้างขวางและเปิดโล่ง ทุกฟังก์ชันที่อยู่บริเวณนี้ ตั้งแต่มุมรับแขก 2 จุด และมุมรับประทานอาหารมีการใช้งานที่เชื่อมต่อกัน โดยชั้นล่างมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 2.8 ม. ส่วนพื้นจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนขนาด 60x120 ซม.

มุมรับแขกอีกจุด จะอยู่ด้านในฝั่งซ้ายของบ้าน ซึ่งมุมนี้สามารถที่จะทำเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้พักอาศัย ไม่จะว่าเป็นมุมนั่งพักผ่อนส่วนตัวภายในครอบครัวที่เชื่อมไปยังสวนด้านข้างบ้าน หรือจะเป็นมุมทำงาน ที่สามารถนำโต๊ะทำงาน ชั้นวางหนังสือ ชั้นวางของ เข้ามาจัดวางได้อย่างลงตัว

มุมรับประทานอาหาร จะอยู่โถงกลางของบ้าน เป็นฟังก์ชันที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่ามุมอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน ทำให้สามารถวางโต๊ะอาหารได้ 8-10 ที่นั่ง รอบข้างยังมีพื้นที่เหลือเป็นทางเดินได้กว้าง และยังมีบรรยากาศที่โปร่งสบาย ด้วยประตูกระจกบานสไลด์ฝั่งหลังบ้าน ที่ช่วยเปิดรับแสงเข้ามาในบ้านได้อีก 1 จุด

ถัดจากมุมรับประทานอาหาร จะมีพื้นที่ Built-in วางเคาน์เตอร์เป็นรูปตัว L และโต๊ะกลาง Island ได้พอดี ทำเป็นมุมครัวสไตล์ฝรั่ง รองรับการทำอาหารง่ายๆ จัดเตรียมอาหารใส่จาน หรือจะเป็นมุมชงเครื่องดื่ม ถือว่าเป็นการออกแบบให้มีการใช้งานที่สะดวกและลงตัวมาก เพราะว่าอยู่ใกล้กับมุมรับแขก สามารถเตรียมเครื่องดื่มต้อนรับตรงมุมนี้ได้ทันที ไม่ต้องเดินไกลไปถึงห้องครัว

สำหรับฝั่งขวาของบ้าน โซนนี้จะถูกแบ่งเป็นห้องๆ กั้นพื้นที่เป็นสัดส่วน เริ่มต้นตั้งแต่มีโถงบันได, ห้องเก็บของขนาดใหญ่, ห้องนอนที่ 4, ห้องน้ำส่วนกลาง, ห้องครัว, ประตูทางเข้าอีก 1 จุด, ลานซักล้างหลังบ้านพร้อมกับมีห้องแม่บ้านและห้องน้ำส่วนตัว

เริ่มต้นด้วยห้องนอนที่ 4 ห้องนี้มีประตูกระจกบานสไลด์ที่เชื่อมออกไปยัง Terrace หน้าบ้าน พร้อมกับสามารถเปิดรับลม ระบายอากาศภายในห้องได้ดี ห้องจะมีขนาดค่อนข้างกว้าง แบ่งพื้นที่ใช้งานแต่ละฟังก์ชันได้ครบ ซึ่งมีมุมวางเตียงนอนขนาดใหญ่ วางตู้เสื้อผ้าได้ ทั้งยังมีมุมอ่านหนังสือ จัดวางเก้าอี้โซฟาเดี่ยวกับโต๊ะกลางได้ลงตัว 

ความพิเศษของห้องนอนนี้ จะปูพื้นแบบ Soft Floor ช่วยลดแรงกระแทก พื้นในห้องมีความราบเรียบเสมอกันกับพื้นของห้องน้ำส่วนตัว รวมถึงในห้องน้ำจะไม่ได้ลดระดับพื้นในส่วนของโซนอาบน้ำ เพื่อให้สามารถเข็นรถ Wheelchair เข้าไปใช้งานได้สะดวกในทุกๆ ส่วน นับว่าเป็นการออกแบบที่ลงตัวกับการใช้งานและตอบโจทย์การอยู่อาศัยของผู้สูงวัยได้อย่างดี ถ้าบ้านไหนไม่มีผู้สูงวัย ก็สามารถปรับเป็นห้องอื่นๆ ตามการใช้งานได้ค่ะ

ห้องน้ำส่วนกลางชั้นล่าง จะอยู่ติดกับห้องนอนที่ 4 การใช้งานเป็นลักษณะแบบ Powder Room มีเพียงแค่โซนแห้ง ก็คือ มีอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ ซึ่งเหมาะกับการเป็นห้องน้ำสำหรับแขก ภายในห้องจะมีการติดตั้งช่องแสงมาให้ 1 จุดอยู่ฝั่งเดียวกันกับโถสุขภัณฑ์

เดินถัดเข้าไปอีกนิด จะเจอกับประตูทางเข้าอีกจุด เมื่อเปิดประตูออกไปจะเชื่อมกับพื้นที่ลานจอดรถที่อยู่ด้านหน้าบ้าน ใกล้กับประตูจะมีพื้นที่วางตู้เก็บรองเท้า พร้อมกับชั้นวางกุญแจรถได้ ส่วนตรงข้ามจะเป็นผนังที่ติดตั้งแผง Ruejai Home Automation และแผงควบคุม Control Panel จาก Inim 

อีกทั้งทุกแบบบ้านได้มีการติดตั้งระบบกันขโมย Magnetic & Shock Sensor ให้ทั้งหลัง และยังเพิ่มความปลอดภัยในการอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้นด้วยการติดตั้ง Smoke & Heat Detector ให้อีกด้วยค่ะ

ในส่วนของห้องครัว จะอยู่ใกล้กับประตูทางเข้า เมื่อซื้อของเข้าบ้าน สามารถเปิดประตูตรงพื้นที่ลานจอดรถ เข้ามาเก็บของในห้องครัวนี้ได้ในทันที ทำให้สะดวกมากๆ ไม่ต้องเดินผ่านพื้นที่ตรงโถงกลางบ้าน ไปรบกวนสมาชิกในบ้านคนอื่นๆ

ห้องครัวนี้จะเป็นครัวปิด สามารถทำอาหารไทยได้ เพราะว่ามีช่องหน้าต่างระบายอากาศไปยังหลังบ้าน และยังมีประตูที่สามารถเปิดไปเชื่อมกับพื้นที่ลานซักล้าง เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยระบายกลิ่นต่างๆ ให้ออกไปได้มากยิ่งขึ้น โดยห้องนี้จะมีพื้นที่จัดวางเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว L ได้ขนาดใหญ่และกว้าง ชวนสมาชิกในบ้านมาช่วยกันทำอาหาร 2-3 คนก็ยังไม่รู้สึกอึดอัด

พื้นที่ลานซักล้าง ห้องนอนแม่บ้านและห้องน้ำส่วนตัว จะอยู่ด้านข้างบ้านสุดทางเดิน ซึ่งจะมีประตูเปิดเชื่อมเข้าไปในห้องครัวได้ ข้อดีในการจัดแปลนลักษณะนี้ ช่วยให้แม่บ้านมีพื้นที่ทำงานได้สะดวก ไม่ว่าจะทำอาหาร ซักผ้า หรือทำงานบ้านต่างๆ รวมทั้งมีพื้นที่ส่วนตัวในการใช้ชีวิตอยู่อาศัย

บันไดเดินขึ้น-ลงของบ้านตัวอย่างหลังนี้ มีโครงสร้างรูปแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดลูกนอนลูกตั้งด้วยไม้มะค่า ขนาดความกว้างของโถงบันไดอยู่ที่ประมาณ 1.5 ม. เดินสวนกันได้สบาย มีการติดตั้งราวจับระแนงเหล็กให้ตลอดแนว ส่วนใต้บันไดจะมีห้องเก็บของขนาดใหญ่ ที่มีประตูบานเปิดขนาดมาตรฐานเท่ากับประตูห้องอื่นๆ ทำให้เวลาเก็บของใช้ชิ้นใหญ่สามารถนำเข้าไปเก็บได้ง่าย

ขึ้นมาชั้น 2 สัมผัสถึงบรรยากาศที่ดู Cozy มากยิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบพื้นให้ปูด้วยไม้เอ็นจิเนียร์ สีเข้ม มีความสวยงาม ชั้นนี้จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 2.8 ม.เท่ากับชั้นล่าง ขณะเดียวกันบริเวณชั้น 2 มีพื้นที่กว้างมากๆ แต่มีการแบ่งฟังก์ชันให้มีแค่พื้นที่อเนกประสงค์ และห้องนอน 3 ห้อง ทำให้แต่ละห้องมีพื้นที่ใช้สอยเยอะ

พื้นที่อเนกประสงค์ หรือมุม Family Area จะอยู่บริเวณโถงกลางชั้น 2 อย่างบ้านตัวอย่างได้จัดวางโซฟาขนาดใหญ่ นั่งได้ 4-5 คน พร้อมกับมีโต๊ะกลาง โซฟาเดี่ยวอีก 1 ตัว นั่งดูหนังพร้อมหน้าพร้อมตากับสมาชิกในบ้านได้อย่างสบายๆ อีกทั้งมุมนี้มีประตูกระจกบานสไลด์ เลื่อนเปิดเพื่อเชื่อมต่อไปยังระเบียงที่อยู่ฝั่งหน้าบ้านได้อีกด้วยค่ะ

ระเบียงจะมีขนาดความกว้างที่สามารถออกไปยืนรับลม ชมวิว หรือจะหาต้นไม้เล็กๆ มาปลูกไว้บริเวณนี้ ก็ช่วยให้บรรยากาศของมุมพักผ่อน มีความสดชื่นและผ่อนคลายมากขึ้น

สำหรับมุมนี้ ถ้าเป็นบ้านมาตรฐานส่งมอบ จะเป็นพื้นที่ของ Master Bedroom แต่บ้านตัวอย่างได้ปรับเปลี่ยนใหม่ ด้วยการเปลี่ยนผนังทึบให้เป็นผนังกระจก กั้นให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์เพิ่มขึ้นอีก 1 จุด ทำเป็นห้องออกกำลังกายที่ดูโปร่งมากๆ  ซึ่งเป็นไอเดียการดีไซน์ที่น่าสนใจเลยล่ะค่ะ

สำหรับ Master Bedroom ห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของบ้านตัวอย่างหลังนี้ จากประตูทางเข้า เราจะเห็นการออกแบบฟังก์ชันของห้องเป็นสัดส่วน แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งทางหน้าบ้านจะเป็นมุมพักผ่อน ส่วนฝั่งหลังบ้านเป็นพื้นที่ Walk-in Closet เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำส่วนตัวที่อยู่ด้านใน

ห้องนี้จะมีจุดไฮไลต์ตรงที่มีเพดานสูงโปร่งถึง 5.18 ม. พร้อมทั้งมีช่องหน้าต่างบานสูงและประตูกระจกบานสไลด์เต็มพื้นที่ของผนังด้านหนึ่ง เสริมให้ห้องนี้ดูโล่ง กว้างขวาง อยู่อาศัยสบาย

มุมพักผ่อนโซนนี้ สามารถที่จะวางเตียงนอนขนาดใหญ่ ทั้งยังมีพื้นที่สำหรับวางตู้ลิ้นชักบริเวณหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนปลายเตียงมีพื้นที่ขนาดค่อนข้างกว้าง จัดวางเป็นมุมนั่งเล่นส่วนตัว ด้วยการนำโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง และติดตั้งทีวีใช้งานได้อย่างลงตัว สำหรับ Master Bedroom จะมีระเบียง 2 ฝั่ง มีขนาดที่สามารถออกไปใช้งานได้จริง ซึ่งระเบียงด้านหน้าจะเชื่อมกับมุมวางเตียง ส่วนด้านข้างจะเชื่อมกับมุมนั่งเล่นภายในห้อง

ในส่วนของระเบียงฝั่งด้านหน้าบ้าน จะมีขนาดความยาวเท่ากับหน้ากว้างของห้อง มีพื้นที่กว้างเพียงพอที่จะนำเก้าอี้ โต๊ะกลมเล็กมาวางทำเป็นมุมนั่งจิบชารับแสงยามเช้า หรือจะมานั่งอ่านหนังสือ เล่นโยคะ ทำได้ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้พักอาศัยค่ะ

กลับเข้ามาด้านใน จะเห็นมุมอีกฝั่งของห้อง ที่ยังมีพื้นที่ทำเป็นมุมแต่งตัว ซึ่งอยู่ติดกับห้องน้ำภายในห้อง

สำหรับโซนนี้ มีพื้นที่พอเหมาะที่จะ Built-in ตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งชิดผนังได้เต็มพื้นที่ ทั้ง 3 ฝั่ง ทำให้สามารถเก็บเสื้อผ้า ของใช้ต่างๆ ได้เยอะพอสมควร และมุมนี้จะเชื่อมกับห้องน้ำส่วนตัว ช่วยให้ง่ายและสะดวกเวลาที่อาบน้ำเสร็จ สามารถที่จะเดินมาแต่งตัวตรงมุมนี้ได้ทันที

ห้องน้ำภายใน Master Bedroom มีการออกแบบปูผนังและพื้นด้วยกระเบื้องลายหินสีเทา ภายในมีสุขภัณฑ์ครบชุด ทั้งยังติดตั้งอ่างอาบน้ำให้ด้วย อีกทั้งยังแบ่งสัดส่วนการใช้งานแต่ละฟังก์ชันได้อย่างชัดเจน เป็นห้องน้ำที่มีขนาดกว้างและสว่างด้วยหน้าต่างที่ติดตั้งให้มากถึง 2 จุด

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญในบ้านทุกหลังของโครงการ จะมีการติดตั้ง Active Air Quality เป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ช่วยกรองอากาศจากภายนอกที่เข้ามาในบ้านให้สะอาด พร้อมทั้งดันอากาศเสียที่อยู่ในบ้านออกไปสู่ด้านนอก ช่วยให้ภายในบ้านมีแต่อากาศที่ดี เชื้อโรคต่างๆ ก็ลดน้อยลงอีกด้วยค่ะ

ออกจาก Master Bedroom เราจะเห็นโถงทางเดินเชื่อมไปยังห้องนอนที่ 2 และ 3 ซึ่งจะอยู่ฝั่งตรงข้าม

ห้องนอนที่ 2 ตำแหน่งอยู่ฝั่งหน้าบ้าน มีขนาดที่รองลงมาจาก Master Bedroom แต่ก็ยังมีพื้นที่ใช้สอยที่กว้าง สามารถจัดวางได้ครบทุกฟังก์ชันของการอยู่อาศัย ตั้งแต่มุมพักผ่อนที่วางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุตได้สบาย และยังมีพื้นที่โดยรอบให้เดินได้สะดวก ภายในห้องจะมีระเบียงที่สามารถปรับเปลี่ยนทำเป็นมุมนั่งเล่นแบบกึ่งกลางแจ้งได้อีกจุด ซึ่งเป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้ใช้งานได้มากขึ้น

สำหรับบ้านตัวอย่าง ได้ปรับแต่งระเบียงด้วยการนำเก้าอี้และโต๊ะมาวาง เพิ่มให้เป็นมุมทำงานอดิเรกแบบส่วนตัว สามารถที่จะทำงานไปด้วย มองวิวไปด้วยได้เลยค่ะ

ฝั่งปลายเตียงจะมีพื้นที่ให้เราวางโต๊ะทำงาน เก้าอี้โซฟาเดี่ยว พร้อมกับผนังด้านข้างที่สามารถ Built-in ชั้นวางหรือตู้เก็บของในแบบที่ชอบได้ ส่วนด้านในถัดเข้าไปจะเป็นช่องทางเดินเชื่อมไปถึงมุม Walk-in Closet ซึ่งด้านในมีพื้นที่เพียงพอจะจัดวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งใช้งานในสัดส่วนกำลังดี และมุมนี้จะอยู่ติดกับห้องน้ำส่วนตัวภายในห้อง 

สำหรับห้องน้ำ มีขนาดที่ใช้งานได้สะดวก ภายในห้องจะมีหน้าต่างมาให้ ติดตั้งบริเวณโซน Hand Shower เปิดไล่ความชื้น ช่วยให้ห้องน้ำแห้งไว และยังช่วยดึงแสงให้เข้ามาด้านใน ห้องน้ำจึงมีความสว่าง น่าเข้ามาใช้งาน

ห้องสุดท้ายที่จะพาไปชม คือ ห้องนอนที่ 3 ตำแหน่งจะอยู่ฝั่งหลังบ้าน เมื่อเข้ามาในห้อง จะเห็นว่าห้องน้ำจะอยู่ด้านหน้าใกล้ประตู ถัดเข้าไปจะเป็นมุม Walk-in Closet ด้านในสุดเป็นส่วนของโซนพักผ่อน ข้อดีที่มีการจัดวางฟังก์ชันให้มุมวางเตียงอยู่ด้านใน เราก็จะได้ยินเสียงรบกวนจากด้านนอกที่อยู่ตรงโถงทางเดินได้น้อยลง บรรยากาศก็จะเงียบสงบ พักผ่อนได้เต็มที่

ในส่วนของมุม Walk-in Closet พื้นที่ตรงนี้สามารถที่จะวางตู้เสื้อผ้าสูงจรดเพดานได้ถึง 2 ตู้ ส่วนผนังอีกด้านยังมีพื้นที่วางโต๊ะเครื่องแป้งได้แบบพอดี

ห้องน้ำในห้องนอนที่ 3 มีขนาดที่กว้าง แบ่งโซนแห้ง-โซนเปียกให้เรียบร้อยเช่นเดียวกันกับห้องน้ำอื่นๆ ที่อยู่ชั้นบน ภายในห้องจะมีการติดตั้งสุขภัณฑ์ให้ครบชุด และมีการจัดเรียงในแนวเดียวกัน เพื่อให้อีกฝั่งมีช่องทางเดิน เดินเข้ามาใช้งานได้ง่ายและดูเป็นสัดส่วน อีกทั้งยังมีช่องหน้าต่างมาให้ 1 จุด อยู่ฝั่ง Hand Shower

ด้านในสุดทางเดิน เป็นส่วนของโซนพักผ่อน มีขนาดที่ลงตัวกับการวางเตียงนอน 5-6 ฟุตได้ ภายในส่วนนี้ยังมีพื้นที่ทำเป็นมุมอ่านหนังสือ วางตู้เก็บของ หรือวางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ เพิ่มได้ โดยห้องนี้จะมีหน้าต่างมาให้ 2 ทิศทาง ทั้งฝั่งหลังบ้านและด้านข้างบ้านค่ะ

บ้านมาตรฐานและวัสดุ

บ้านมาตรฐานส่งมอบของโครงการ จะได้เป็นบ้านที่ไม่ได้ตกแต่งภายใน มาพร้อมกับปูสนามหญ้ามาให้ ส่วนวัสดุพื้นชั้น 1 จะได้เป็น กระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนขนาด 60x120 ซม. ชั้น 2 เป็นพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ สีเข้ม ห้องนอนที่ 4 จะได้พื้นแบบ Soft Floor ช่วยลดแรงกระแทก สำหรับวัสดุและอื่นๆ จะมีดังนี้

• Home Automation สั่งงานผ่านแอปพลิเคชัน RueJai Home OS
• ระบบสัญญาณกันขโมย Magnetic & Shock Sensor ให้ทั้งหลัง
• Smoke & Heat Detector 
• Active Air Quality ระบบขจัดมลพิษทางอากาศในบ้าน 
• จุดรองรับการติดตั้ง Ev Charger ตรงบริเวณพื้นที่ลานจอดรถ
• ประตูทางเข้าหลัก 2 จุด จะเป็นประตูไม้สักทั้งบาน 

- จุดแรกประตูทางเข้าตรงบริเวณจอดรถได้เป็น Digital Door Lock แบรนด์ Samsung 

- จุดที่สองประตูทางเข้าบริเวณ Terrace หน้าบ้าน จะได้ที่จับประตูของแบรนด์ COLT

• ปั๊มน้ำ+ถังเก็บน้ำ 1500 ลิตรของ DOS
• ติด Wallpaper ให้ทั้ง 2 ชั้น

สุขภัณฑ์ในห้องน้ำครบชุด ของแบรนด์ Kohler สำหรับ Master Bedroom จะได้อ่างอาบน้ำของแบรนด์ i-Spa เพิ่มเข้ามา

Location

โครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ พระราม 5 ตั้งอยู่บนถ.อัจฉริยะประสิทธิ์ 1 ติดกับถ.นครอินทร์ ในโซนนนทบุรี ซึ่งโครงการนี้จะมีทางเข้า-ออกได้ถึง 4 เส้นทาง เชื่อมถนนสำคัญได้หลายสายในบริเวณใกล้เคียง เริ่มต้นตั้งแต่เส้นถ.นครอินทร์ ห่างจากโครงการประมาณ 100 ม. หรือจะขับรถเชื่อมไปยังถ.กาญจนาภิเษก ห่างเพียง 2.7 กม. ส่วนถ.ราชพฤกษ์จะห่างประมาณ 5.8 กม. ซึ่งสามารถใช้ถนนเส้นนี้ขับเชื่อมไปยังโซนสาทรได้ อีกทั้งโครงการยังสามารถเชื่อมไปถึงถ.บรมราชชนนี จากที่ตั้งโครงการจะห่างประมาณ 7 กม.

และโครงการยังอยู่ใกล้กับทางพิเศษประจิมรัถยา (ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก) เพียง 5 กม. ขับรถไปไม่ไกลก็ถึงทางด่วนแล้วนะคะ ช่วยให้การเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองมีความสะดวกและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น รวมถึงใต้ทางด่วนนี้จะมีเส้นรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน สถานีที่ใกล้โครงการ คือสถานีตลิ่งชัน เป็นอีกทางเลือกที่ใช้ในการเดินทางได้ค่ะ

นอกจากการเดินที่สะดวกสบายแล้ว โครงการยังรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อยู่อาศัยในโซนนี้ได้อย่างสบายใจ เพราะว่ามีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกเข้าไปชิมได้หลายร้าน และยังมีห้างสรรพสินค้า Community Mall ให้เข้าไปจับจ่ายใช้สอยกันได้ 

อย่างตลาดพระราม 5 ตลาดใหญ่ที่มีทั้งของสด และมีร้านอาหาร จะอยู่ใกล้กับโครงการมากๆ ห่างเพียง 1.1 กม. บริเวณใกล้เคียงยังมีทั้ง The Walk ราชพฤกษ์, HomePro ราชพฤกษ์, The Crystal SB ราชพฤกษ์ ทั้งยังอยู่ใกล้กับห้างใหม่อย่างเซ็นทรัล เวสต์วิลล์ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ คาดว่าจะเสร็จปลายปี 66 ค่ะ

อีกหนึ่งความโดดเด่นของทำเลโครงการนี้ ก็คือ จะอยู่ใกล้กับโรงเรียนเด่นหล้า พระราม 5 ประมาณ 800 ม. ถ้าครอบครัวไหนมีลูกน้อย สามารถที่จะเรียนใกล้บ้านได้ ช่วยให้สะดวกสบายในการไปรับ-ส่งอีกด้วย  ส่วนสถานศึกษาอื่นๆ ที่อยู่รอบโครงการ ก็มีโรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี, ม.ราชพฤกษ์, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี 

รวมถึงถ้าเจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเดินทางไกล ใกล้ๆ โครงการมีโรงพยาบาลรองรับให้บริการอยู่ด้วย มีทั้งโรงพยาบาลบางกรวย, โรงพยาบาลศูนย์บริการการแพทย์นนทบุรี, โรงพยาบาลธนบุรี 2, โรงพยาบาลบางใหญ่

การเดินทาง

สำหรับการเดินทางไปโครงการทีมงานเลือกวิ่งไปบนเส้นถ.ราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นถนนที่เดินทางเชื่อมต่อไปยังถ.สาทรเหนือ เข้าเมืองไปโซนสาทรได้สะดวก อีกทั้งถนนเส้นนี้ยังมีห้างสรรพสินค้า แหล่งไลฟ์สไตล์ให้ช้อปปิ้งมากมายเลยล่ะค่ะ

พิกัดโครงการ : https://bit.ly/3j3YMpP

เริ่มจากขับรถวิ่งบนถ.ราชพฤกษ์ฝั่งขาออก ขับตรงมุ่งหน้าไปทางนนทบุรี-ปทุมธานี จากเส้นนี้เราจะขับผ่าน The Crystal SB ราชพฤกษ์ และ HomePro ราชพฤกษ์

ขับตรงมาเรื่อยๆ ให้สังเกตป้ายวงเวียนใหญ่ ที่ตัดกับถ.นครอินทร์ เมื่อเห็นป้ายแล้วให้เตรียมตัวเลี้ยวซ้ายไปตามป้ายที่บอกทางไปถ.กาญจนาภิเษกค่ะ

เมื่อเลี้ยวซ้ายเชื่อมมายังถ.นครอินทร์ จากวงเวียนขับไปอีกประมาณ 2.2 กม. ก็จะถึงปากทางเข้าถ.อัจฉริยะประสิทธิ์ 1

จุดสังเกตบริเวณใกล้ปากทางเข้าถ.อัจฉริยะประสิทธิ์ 1 จะมีป้ายโฆษณาของโครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ พระราม 5 ถ้าเห็นแล้วแสดงว่าใกล้จะถึงแล้วค่ะ

และปากทางเข้าถ.อัจฉริยะประสิทธิ์ 1 จะอยู่ใกล้กับทางกลับรถใต้สะพาน ถ้าอยากจะไปเส้นถ.นครอินทร์ฝั่งขาเข้า สามารถที่จะกลับรถตรงนี้ได้สะดวก

เมื่อเลี้ยวซ้ายเข้าถ.อัจฉริยะประสิทธิ์ 1 ขับเข้าไปประมาณอีก 100 ม. ก็จะถึงโครงการแล้วค่ะ

โครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ พระราม 5 ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายมือ หากใครสนใจ สามารถเลี้ยวเข้าไปชมโครงการได้ ด้านในจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและช่วยอำนวยความสะดวกให้ค่ะ

Price & Promotion

โครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ พระราม 5 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรูหลังใหญ่ อยู่บนที่ดินตั้งแต่ 108.7-206.3 ตร.ว. ทุกแบบบ้านสามารถรองรับครอบครัวขนาดใหญ่ได้ ในบรรยากาศสังคมส่วนตัวเพียง 15 ยูนิต แต่ละแบบบ้านจะมีราคาเริ่มต้นดังนี้

• แบบบ้าน OSTROBOTHNIA ราคาเริ่มต้น 36.59 ล้านบาท*
• แบบบ้าน SAVONIA ราคาเริ่มต้น 43.79 ล้านบาท*
• แบบบ้าน KARELIA ราคาเริ่มต้น 61.79 ล้านบาท*
• แบบบ้าน ROVANIEMI ราคาเริ่มต้น 68.99 ล้านบาท*

*ราคาขาย ณ เดือนธันวาคม 65 โปรดสอบถามทางโครงการอีกครั้ง

สนใจลงทะเบียน รับข้อมูลเพิ่มเติม  https://m.scasset.com/BX_d

(โปรโมชัน และส่วนลดอื่นๆ เพิ่มเติมอยู่ที่เงื่อนไขของบริษัทฯ กำหนด)

Conclusion

Design & Function : บ้านเดี่ยวในโครงการนี้มีดีไซน์สวยงามระดับ Luxury สไตล์ Nordic Series สมัยใหม่ ความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านจะอยู่ตรงหลังคาทรงจั่ว และ Facade ด้านหน้าบ้านที่มีรูปทรงเรขาคณิตตัดทอนให้ดูเรียบง่าย อีกทั้งยังเน้นให้มีความโปร่งโล่ง ด้วยช่องหน้าต่างและประตูกระจกบานสไลด์ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะ Master Bedroom จะมีเพดานสูงโปร่งถึง 5.18 ม. ทำให้ห้องดูกว้างมากๆ

ที่สำคัญยังมีการออกแบบบ้านให้คำถึงการใช้ชีวิตของผู้พักอาศัยได้ทุก Generation ด้วยการให้พื้นทั้ง 2 ชั้นของทุกห้องจะไม่มีธรณีประตู พื้นจะเรียบเสมอกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้สูงวัยสามารถที่จะเดินได้สะดวก รวมทั้งห้องนอนชั้นล่าง มีการออกแบบรองรับให้เป็นห้องนอนของผู้สูงวัยได้ นอกจากนี้ภายในบ้านยังมี Space ที่กว้าง ระเบียงที่ออกมาใช้งานได้จริง สามารถแบ่งสัดส่วนให้มีทั้งพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกัน และพื้นที่ส่วนตัวได้อย่างลงตัว ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นโครงการที่ทันสมัยด้วยระบบ “Living Solutions” 7 นวัตกรรมใหม่ ที่จะเข้ามาช่วยเสริมให้ผู้พักอาศัยได้ใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น