รีวิวบ้านเดี่ยว Bangkok Boulevard รามอินทรา 109 บรรยากาศ Autumn in Paris ทำเลใกล้รถไฟฟ้าย่านรามอินทรา

โครงการนี้เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่ใช้สอยถึง 233 - 365 ตร.ม. บนที่ดินเริ่มต้น 52.3 ตร.ว. ฟังก์ชันบ้านมี 4-5 ห้องนอน 4-5 ห้องน้ำและ 2-3 ที่จอดรถ พร้อมทั้งส่วนกลางที่นำความอบอุ่นและโรแมนติกของฤดูใบไม้ร่วงในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มาเป็นแรงบันดาลใจคุณจึงได้จะเห็นทั้งเส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์ของหอไอเฟล และสีสันในฤดูใบไม้ร่วงภายในโครงการ

Factsheet

ชื่อโครงการ :	โครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109
บริษัท :	บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้งโครงการ :	ซอยพระยาสุเรนทร์ 30 ถนนรามอินทรา 109 เขตคลองสามวา จังหวัดกรุงเทพมหานคร
รายละเอียดโครงการ :	บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
พิกัดโครงการ :	https://goo.gl/maps/86QCRtRyaCFKg6Fr5
พื้นที่โครงการ :	28 - 3 - 66 ไร่
พื้นที่ใช้สอย :	233 - 365 ตร.ม.
พื้นที่ :	52.3 - 71.9 ตร.ว.
จำนวนยูนิต :	87 ยูนิต
แบบบ้าน :	Calm : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 233 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 52.3 ตร.ว. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
	Shade : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 279 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 60.0 ตร.ว. 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
	Captivate : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 365 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 71.9 ตร.ว. 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องพระ
สิ่งอำนวยความสะดวก :	Clubhouse, Kid’s Room, Co-Working Space, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนส่วนกลาง, สนามเด็กเล่น
ระบบรักษาความปลอดภัย :	Triple Security Access Control,เข้า-ออกด้วยระบบ Easy Pass, CCTV รอบโครงการ
ราคาเริ่มต้น :	10 ล้านบาท* (สอบถามโครงการอีกครั้ง)
ค่าส่วนกลาง :	57 บาท/ตร.ว./เดือน
โทร :	1749
เว็บไซต์ :	https://www.scasset.com/th/house/bangkok-boulevard-ramintra/

Highlight

• ใส่ใจทุกพื้นที่ด้วยการออกแบบ Dynamic Facade ระแนงกันแดดที่ปรับองศาได้ซึ่งได้ประโยชน์ทั้งด้านความสวยงามและการใช้งานและพื้นที่ Semi - Outdoor ที่ออกแบบให้เป็นพื้นที่ที่เปิดรับธรรมชาติผ่านพื้นที่ภายในบ้าน
• Autumn in Paris แรงบันดาลใจจากสีสันแห่งความอบอุ่นในฤดูใบไม้ร่วง ด้วยสีสันโทนน้ำตาลและสีของใบไม้ สู่ดีไซน์สีสันของตัวบ้านและพื้นที่สวนกลาง ไม่ว่าจะเป็น Clubhouse หรือสวนสวนกลางที่มีสีและลวดลายเหมือนใบไม้ที่กำลังซ้อนทับกัน
• จากเส้นสายของ Eiffel Tower สู่ลวดลายของพื้นที่ส่วนกลาง ดึงเอกลักษณ์ทั้งรูปทรง,เส้นสายโค้งของขาหอไอเฟล และลวดลายของการถักทอของเหล็ก ออกมาเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ไม่เหมือนใคร
• รอบๆเป็นย่านพักอาศัยที่ให้ความเป็นส่วนตัวบนทำเลรามอินทรา เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู เข้า-ออกตัวเมืองกรุงเทพได้ไม่ยากและเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่ สถานที่ท่องเที่ยว โรงเรียนและโรงพยาบาล

Design

ด้วยโครงการได้รับแรงบันดาลใจจาก Autumn in Paris จึงได้หยิบยกทั้งความเป็นฤดูใบไม้ร่วงและจุดเด่นของเมืองปารีสอย่างหอไอเฟลมาไม่ว่าจะเป็นเส้นสายและสีสันของใบไม้ โครงการจึงออกมาในโทนอบอุ่นแบบฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเห็นได้จากตัวอาคาร Clubhouse และตัวบ้านที่มีระแนงลายไม้  นอกจากสีสันแห่งความอบอุ่นก็จะเห็นสีสันสดใสของใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี อยู่ในพื้นที่ส่วนกลางที่เหมือนใบไม้หลากหลายสีกำลังซ้อนทับกันอยากเป็นเอกลักษณ์

สำหรับเส้นสายของหอไอเฟลก็จะเห็นได้จากเส้นโค้งขนาดใหญ่ของ Clubhouse ที่เป็นเส้นโค้งแบบเดียวกับหอไอเฟลนั่นเองค่ะ อีกทั้งยังหยิบยกสิ่งเล็กๆน้อยๆในฤดูไม้ใบร่วงอย่างผลวอลนัทมาเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่สวนกลางให้กลายเป็นเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆนั่นเอง

ระแนงไม้นอกจากจะนำสีของความอบอุ่นมาใช้แล้ว ยังเป็นดีไซน์ของบ้านซีรีส์ใหม่อย่าง Lanai Series ที่ออกแบบพื้นที่ให้เกิดการเปิดรับธรรมชาติอย่างลงตัวและเหมาะสมกับสภาพอากาศของเมืองไทย การปรับเปลี่ยนมุมของระแนงก็เกิดแสงเงาที่สวยงามทอดลงบนตัวบ้านได้อีกด้วย

Facility

จากแรงบันดาลใจในการออกแบบนั้นจะเห็นได้ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการที่เป็นระแนงลายไม้และเส้นสายโค้ง ที่ทำให้เกิดความรู้สึกแห่งการต้อนรับเข้าไปในโครงการอย่างอบอุ่น ด้านข้างซุ้มประตูเป็นป้ายโครงการที่เห็นได้เด่นชัดพร้อมสวนที่ให้ความสดชื่น

ทางเข้า-ออกโครงการมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานพร้อมทั้งมี CCTV รอบโครงการ ประตูยังเป็นประตูเหล็กรางเลื่อนที่เพิ่มความปลอดภัยขึ้นอีกระดับ ตรงนี้เป็นระบบ Easy Pass ที่สะดวกสำหรับลูกบ้านและ E-stamp สำหรับผู้มาติดต่อ

ถนนภายในโครงการสำหรับถนนหลักจะกว้าง 12 ม.ส่วนถนนรองกว้าง 9 ม.ค่ะ เมื่อเข้ามาภายในก็จะเจอกับ Clubhouse อยู่ไม่ไกล

อาคาร Clubhouse เป็นอาคาร 2 ชั้นที่มีพื้นที่กิจกรรมภายในหลากหลาย พร้อมทั้งด้านนอกมีพื้นที่สวน ต้นไม้ที่ให้ความร่มรื่นและพื้นที่กิจกรรมอื่นๆอย่างสนามเด็กเล่นและสระว่ายน้ำ

ชั้น 1 ด้านในอาคารเป็นห้องรับรองที่สามารถมานั่งเล่น นั่งพักผ่อนได้เป็นห้องแบบ Double Volume ผนังเป็นกระจกที่มองเห็นวิวด้านนอกทำให้เปิดรับสวนและวิวสระ

ด้านหลัง Clubhouse เป็นสระว่ายน้ำซึ่งมีพื้นที่นั่งเล่นในร่มแบบนี้

ตัวอาคารเป็นรูปทรงของหอไอเฟลและมีสระที่มีรูปทรงล้อไปกับตัวอาคารเช่นกัน สระโค้งรับอาคารและพื้นที่สวนที่ให้ความสดชื่น โดยสระเป็นสระระบบเกลือที่แยกระหว่างสระเด็กกับสระผู้ใหญ่ ขนาดสระอยู่ที่ 7x21 ม.เลยทีเดียวค่ะ

ข้างสระมีสนามเด็กเล่นเล็กๆที่รายล้อมด้วยต้นไม้ จะเห็นว่าสีสันมีความสดใสและลวดลายที่มาการทับซ้อนกันเหมือนใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง

เนื่องจากเป็นอาคาร 2 ชั้นทางโครงการจึงมีเก้าอี้เลื่อนขึ้นบันไดซึ่งผู้สูงอายุสามารถใช้งานได้เพื่อขึ้นไปชั้นบนนั่นเอง

ขึ้นมาจะมีห้องที่เป็นพื้นที่พักผ่อนและ Co-Working Space มีที่นั่งหลากหลายมุมหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงาน โซฟา หรือแม้กระทั้งมีห้องประชุมที่สามารถเข้ามาใช้งานได้

ห้องที่อยู่ติดกันก็จะเป็น Kid’s Room ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับเด็กๆค่ะ

ฟิตเนสหรือห้องออกกำลังกายมีขนาดใหญ่ทำให้วางเครื่องออกกำลังกายได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคาดิโอ เครื่องสำหรับเวทเทรนนิ่งไปจนถึงมุมดัมเบล โดยห้องเป็นห้องกระจกโค้งที่ได้วิวสวนค่ะ

Home Type

• Calm : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 233 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 52.3 ตร.ว. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• Shade : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 279 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 60.0 ตร.ว. 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 
• Captivate : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 365 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 71.9 ตร.ว. 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องพระ

ครั้งนี้ทีมงานจะพาชมบ้านตัวอย่างทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน นั่นก็คือแบบ Shade และ Captivate ค่ะ

บ้านเดี่ยว : Captivate

Captivate เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดภายในโครงการโดยมีพื้นที่อยู่ที่ 365 ตร.ม. บนขนาดที่ดินเริ่มต้น 71.9 ตร.ว. ฟังก์ชันบ้านจะมี 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องพระ ซึ่งเป็นชั้นลอยอยู่เหนือบันไดชั้น 2 ทำให้ชั้น 2 ของหลังนี้มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานถึง 3.4 ม. กันเลยทีเดียว

ด้านหน้าบ้านจะเห็นว่ามีระแนงเป็นแผงกันแดดที่สามารถปรับองศาได้ จึงทำให้เกิดลวดลายจากเงาของระแนงตกทอดลงบนตัวบ้านทำให้เกิดความสวยงามและยังปรับการใช้งานเพื่อเปิดรับลมและแสงแดดได้ตามต้องการ ส่วนชั้น 1 นั้นจะมีพื้นที่สวนและ Semi-Outdoor ที่เป็นพื้นที่เฉลียงหน้าบ้านค่ะ

ชั้น 1 : ฟังก์ชันด้านนอกเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถได้ 3 คันโดยเป็นพื้นที่จอดรถในร่ม ข้างกันนั้นมีพื้นที่สวนรอบบ้านและเฉลียงหน้าบ้านที่เป็น Semi-Outdoor ด้านในเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนอื่นของบ้าน โดยชั้นนี้มีให้ถึง 2 ห้องนอนกันเลย ครัวเป็นครัวปิดเหมาะสำหรับบ้านที่ชอบทำอาหารและยังมีห้องแม่บ้านให้อีกด้วย

ชั้น 2 : เป็นพื้นที่พักผ่อนทั้งหมดโดยจะมี Family Area  ที่สามารถทำเป็นมุมพักผ่อนหรือมุมทำงานสำหรับครอบครัวได้ มีชั้นลอยเหนือบันไดที่ทำเป็นห้องพระ ชั้นนี้มี 3 ห้องนอนนะคะโดยทุกห้องจะมีห้องน้ำส่วนตัว ส่วนห้อง Master Bedroom นั้นจะมีอ่างอาบน้ำให้เพราะเป็นห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุด

พื้นที่หน้าบ้านจะมีเฉลียงหน้าบ้านซึ่งเป็นพื้นที่แบบ Semi-Outdoor เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอกเนื่องจากอยู่ติดสวน มีขนาดพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางพอให้วางชุดโต๊ะไว้นั่งเล่นแบบได้วิวสวน ซึ่งสวนข้างบ้านถ้าหลังไหนมีขนาดที่ดินเยอะก็สามารถตกแต่งให้เป็นมุมนั่งเล่นกลางแจ้งได้ค่ะ

ที่จอดรถเป็นพื้นที่สำหรับ 3 คันโดยจะมีจุดรองรับการติดตั้ง EV-Charger ไว้ให้ซึ่งเหมาะสำหรับคนยุคนี้ที่เริ่มหันมาสนใจรถไฟฟ้า จากตรงนี้จะมีประตูบ้านเพื่อเข้าไปในบ้านได้โดยตรงซึ่งมี Digital Door lock ให้ด้วยนะคะ

จากที่จอดรถจะมีทางลาดเพื่อการใช้งานสำหรับรถเข็น ตรงนี้จะเห็นการทอดเงาของระแนงไม้ที่ทำให้บ้านเกิดลวดลายด้วยค่ะ

เข้ามาภายในเป็นการวางแปลนแบบ Open Plan ที่เปิดพื้นที่ให้มีการเชื่อมต่อกันทำให้บ้านดูกว้าง อีกทั้งความสูงจากพื้นถึงฝ้าของชั้นนี้อยู่ที่ 2.8ม.และมีหน้าต่างกระจกหลายมุมทำให้บ้านดูโปร่ง พื้นชั้นนี้เป็นพื้นกระเบื้องลายหินขนาด 80x80 ซม.

ส่วนแรกที่อยู่ติดกับประตูทางเข้า-ออกคือพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งมีขนาดกว้างสามารถวางโซฟาชุดสำหรับ 5-6 ที่นั่งได้แบบนี้หรือจะวางเป็นโซฟาตัว L ก็ยังได้ เพราะจะเห็นว่าเมื่อด้านหน้าวางทั้งโต๊ะกาแฟและมีตู้เก็บของ ชั้นวางของฝั่งทีวีแล้วก็ยังสามารถเดินผ่านใช้งานสะดวก จากมุมนี้จะอยู่ติดกับเฉลียงด้านนอกด้วยค่ะ

ติดกับพื้นที่นั่งเล่นคือมุมทานอาหารและระหว่างสองพื้นที่นี้จะเป็นห้องนอน 4

ห้องนอน 4 เป็นห้องที่อยู่ติดกับเฉลียงหน้าบ้านและสวน ทำให้ห้องนี้ได้วิวที่สดชื่นและสามารถเปิดรับบรรยากาศจากภายนอกได้ ขนาดห้องสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้สบายอีกทั้งยังมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าได้ จะทำเป็นห้องทำงาน, ห้องนอนแขกหรือห้องนอนผู้สูงอายุก็ได้เพราะมีห้องน้ำในตัว

สำหรับห้องน้ำจะออกแบบให้เป็นห้องที่สะดวกสำหรับผู้สุงอายุเพราะพื้นจะไม่มีระดับใดๆ อีกทั้งยังมีราวจับให้ตามจุดต่างๆไม่ว่าจะเป็นตรงโถสุขภัณฑ์หรือส่วนอาบน้ำ สำหรับห้องนี้โถสุขภัณฑ์จะให้เป็นแบบอัตโนมัตินะคะ

มุมทานอาหารจะอยู่ติดกับพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งบ้านตัวอย่างตกแต่งให้มุมทานอาหารมีพื้นที่สวน Pantry ขนาดใหญ่เหมาะสำหรับบ้านที่ชอบทำอาหารง่ายๆ มีบาร์เครื่องดื่มและมุมของว่างตรงนี้โดยบ้านจริงที่ได้มุมนี้จะอยู่ติดกับห้องนอน 5 นั่นเอง

ขนาดพื้นที่ใช้สอยสามารถวางโต๊ะสำหรับ 8 ที่นั่งได้สบาย ด้านติดตั้งชั้นวางของเพื่อตกแต่งบ้านแบบนี้ได้

มุมนี้บ้านมาตรฐานหรือบ้านจริงที่จะได้เป็นพื้นที่ของห้องนอน 5 นะคะ โดยบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งและนำผนังห้องนอนออกแล้วทำเป็น Pantry แทน กลายเป็นมุมเครื่องดื่มและมุมของว่างตรงนี้ สำหรับห้องนอน 5 ขนาดพอเหมาะสำหรับเตียง 3.5 ฟุต ดังนั้นจะทำเป็นห้องนอนหรือเป็นห้องทำงาน หรือใครชอบพื้นที่โล่งๆก็เชื่อมพื้นที่แบบนี้ได้

อีกด้านของบ้านก็จะมีบันไดขึ้นไปยังชั้น 2 , ห้องน้ำชั้นล่าง และห้องครัว

ห้องน้ำชั้นล่างขนาดกว้างและสว่างเพราะผนังเป็นโทนสีขาว อีกทั้งยังมีหน้าต่างกระจกบานกระทุ้งที่เปิดรับแสงธรรมชาติ ภายในห้องแบ่งโซนแห้งและเปียกด้วยพื้นโซนเปียกที่ลดระดับลงไปเล็กน้อย

ครัวเป็นครัวปิดซึ่งขนาดครัวกว้างพอให้วางเคาน์เตอร์ตัว U แบบนี้และยังมีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นใบใหญ่ เหมาะสำหรับบ้านที่ชอบทำอาหารเพราะกลิ่นจะไม่ฟุ้งไปส่วนอื่นและขนาดพื้นที่สามารถทำอาหารได้สะดวก 

สามารถติดตั้งชั้นและตู้เก็บของได้อย่างจุใจเลยค่ะ เหนือเคาน์เตอร์มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนที่ทำให้ห้องมีแสงธรรมชาติส่องเข้ามา ห้องจึงสว่างและสามารถเปิดเพื่อถ่ายเทอากาศได้อีกด้วย

จากห้องครัวจะมีประตูเปิดมายังพื้นที่หลังบ้านซึ่งเป็นส่วนซักล้าง จะมีชานบ้านด้านหลังและมีห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำแม่บ้านให้อย่างละ 1 ห้อง

บันไดเป็นบันไดไม้โทนสีน้ำตาลเข้ม มีราวจับให้ตลอดแนวทำให้ใช้งานสะดวก ด้านใต้บันไดจะมีห้องเก็บของให้อีกด้วย

ขึ้นมายังชั้น 2 จะมีบันไดต่อขึ้นไปยังชั้นลอยค่ะ ชั้นลอยนี้ขนาดพื้นที่พอเหมาะทำเป็นห้องพระโดยจะวางหิ้งพระและยังมีพื้นที่สำหรับนั่งไหว้พระ นั่งสวดมนต์ได้

ตรงกับบันไดจะเป็น Family Area ซึ่งเป็นส่วนแรกที่ขึ้นมาแล้วเจอเลย พื้นที่ตรงนี้สามารถทำเป็นมุมโต๊ะทำงานแบบนี้หรือจะเป็นมุมนั่งเล่นสำหรับครอบครัวก็ได้ สำหรับพื้นชั้นนี้จะเป็น SPC ลายไม้ทั้งหมดนะคะ

Master Bedroom เป็นห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดจึงสามารถจัดวางพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน มีมุมนั่งเล่นส่วนตัวติดกับระเบียงและยังมี Walk-in Closet หน้าห้องน้ำ

มุมพักผ่อนสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบาย สองข้างเตียงวางโต๊ะหัวเตียงได้และยังเหลือพื้นที่วางเป็นชั้นวางของหรือจะวางเป็นโต๊ะทำงานก็ได้ค่ะ ปลายเตียงกั้นฉากกั้นแบบโปร่งก็ทำให้วางทีวีได้และยังเป็นส่วนที่แบ่งพื้นที่กับมุมนั่งเล่นได้อีกด้วย

มุมนั่งเล่นปลายเตียงซึ่งเหมือนห้องนั่งเล่นขนาดย่อมเลยเพราะวางโซฟาตัวใหญ่สำหรับ 2 ที่นั่งได้สบาย ตรงข้ามติดตั้งทีวีได้แบบนี้หรือใครชอบอ่านหนังสือก็ทำชั้นวางทีวีเพิ่มได้

ออกมากด้านนอกจะเป็นระเบียงที่เป็นตัว L ล้อมห้องไว้แบบนี้ทำให้ห้องได้แสงสว่างธรรมชาติส่องเข้าไปได้สะดวกและเป็นการเพิ่มพื้นที่ระเบียงให้สามารถมีมุมนั่งเล่นสบายๆได้แบบนี้

ติดกับมุมนั่งเล่นจะเป็น Walk-in Closet ค่ะ วางตู้ตัว L แบบไม่มีบานปิดก็ได้พื้นที่โปร่งๆแบบนี้ ตรงกลางวาง island ก็ได้โต๊ะกลางสำหรับเก็บของต่างๆอย่างเครื่องประดับได้ ด้านขวามือคือห้องน้ำนะคะ

ห้องน้ำของ Master Bedroom มีขนาดใหญ่เช่นกัน ในห้องมีให้ทั้งอ่างอาบน้ำและส่วนอาบน้ำที่เป็น Shower ซึ่งฝักบัวจะเป็นแบบ Rain Shower พื้นส่วนอาบน้ำลดระดับลงเล็กน้อยเพื่อแยกเป็นโซนเปียก แต่ถ้าต้องการติดตั้งฉากกั้นก็ทำได้ไม่ยาก ห้องนี้มีกระจกบานใหญ่เป็นกระจกฝ้าที่เปิดรับแสงสว่างเข้ามาห้องจึงดูโปร่ง

อ่างอาบน้ำใหญ่ทีเดียวค่ะ นอนแช่น้ำได้สบายๆเลยและมีชั้นวางของให้อีกด้วย มุมอ่างล้างหน้าเป็นเคาน์เตอร์ยาวทำให้วางของได้แบบจุใจเลยค่ะ ส่วนโถสุขภัณฑ์จะเป็นแบบอัตโนมัติซึ่งสะดวกในการใช้งาน

ห้องนอน 2 เป็นห้องนอนที่มีพื้นที่ใช้สอยรองลงมาและเป็นห้องที่มีระเบียงส่วนตัวอีกด้วย ขนาดห้องกว้างสามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้สบาย ข้างเตียงวางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้งสองฝั่งและปลายเตียงสามารถติดตั้งทีวีแขวนได้

ในห้องกว้างพอให้มีมุมนั่งเล่นส่วนตัว ซึ่งจะวางโซฟาสำหรับ 2 ที่นั่งแบบนี้หรือจะทำเป็นมุมโต๊ะทำงานก็ได้เช่นกัน หน้าห้องน้ำมีมุม Walk-in Closet ที่สามารถวางตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ ชั้นวางของและโต๊ะเครื่องแป้งได้

ห้องนี้เป็นห้องที่มีระเบียงส่วนตัวซึ่งเป็นระเบียงยาวเลยค่ะ จะเห็นว่าขนาดระเบียงสามารถวางเก้าอี้นั่งเล่นได้และตรงนี้มีระแนงบังแดดที่ปรับองศาได้ด้วย

ห้องน้ำภายในห้องนอน 2 ขนาดกว้างและสว่างเพราะมีหน้าต่างบานกระทุ้งบานใหญ่ ภายในห้องแยกโซนแห้งและเปียกด้วยพื้นต่างระดับ ใต้อ่างล้างจานมีตู้สำหรับเก็บของให้ ส่วนอาบน้ำข้างฝักบัวก็มีชั้นวางของให้

ห้องนอน 3 ขนาดต่างจากห้องนอน 2 เล็กน้อย โดยห้องนี้สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้เช่นกัน แต่บ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็นห้องของวัยรุ่นที่อยากมีโต๊ะเกม โต๊ะทำงานตัวใหญ่พร้อมมุมวางของตกแต่งจึงทำฐานเตียงยาวและวางเตียงขนาด 5 ฟุตขนานไปกับความยาวห้อง การจัดห้องแบบนี้สามารถนำไปเป็นไอเดียได้เลยนะคะ

เตียงใหญ่พร้อมฐานเตียงที่กลายเป็นมุมนั่งเล่นปลายเตียงได้ ข้างเตียงวางโต๊ะทำงานตัวยาวแบบนี้ได้ ส่วนหน้าห้องน้ำทำเป็นมุม Walk in Closet พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้แบบนี้ซึ่งมุมนี้จะมีหน้าต่างกระจกจึงทำให้ห้องดูสว่างค่ะ

ห้องน้ำขนาดกว้างเช่นกันและแยกโซนแห้งโซนเปียกด้วยพื้นที่ต่างระดับกัน สำหรับโซนเปียกจะมีชั้นวางของให้และขนาดสามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำได้ค่ะ ภายในห้องมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่เปิดรับแสงสว่างและยังสามารถเปิดถ่ายเทอากาศได้อีกด้วย

บ้านเดี่ยว : Shade

Shade เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 279 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 60.0 ตร.ว. ฟังก์ชันบ้านจะมี 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ หลังนี้ก็ยังคงออกแบบด้วยหลักการของ Lanai คือมีทั้งพื้นที่เฉลียงหน้าบ้านที่เป็นแบบ Semi Outdoor พร้อมทั้งมีระเบียงส่วนตัวของห้องนอนที่เพิ่มพื้นที่การใช้งานนอกบ้านแบบเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น และแน่นอนว่ายังขาดไม่ได้กับระแนงไม้ที่เป็นแผงกันแดดที่สามารถปรับองศาได้ ทำให้เปิดรับแสงแดดได้ตามต้องการ

ชั้น 1 : ฟังก์ชันบ้านใกล้เคียงกับหลังแรกเลยค่ะ เพียงแต่ไม่มีห้องแม่บ้าน ด้านหน้าจอดรถได้ 2 คนและห้องนอนชั้นล่างมี 1 ห้องส่วนอีกห้องเป็นห้องอเนกประสงค์ แต่การจัดวางพื้นที่จะเป็นแบบ Open Plan ที่เชื่อมพื้นที่ต่างๆเพื่อให้บ้านดูโปร่งและกว้าง พร้อมทั้งมีครัวปิดและส่วนซักล้าง

ชั้น 2 : เป็นพื้นที่พักผ่อนทั้งหมดโดยจะมี Family Area ที่สามารถปรับเป็นมุมพักผ่อนหรือมุมทำงานสำหรับครอบครัวได้  ชั้นนี้มี 3 ห้องนอนโดยทุกห้องจะมีห้องน้ำส่วนตัว ส่วนห้อง Master Bedroom นั้นจะมีอ่างอาบน้ำให้เพราะเป็นห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุด และห้องนอน 2 กับ Master Bedroom สามารถทำห้องแต่งตัวแบบ Walk in Closet หน้าห้องน้ำได้

พื้นที่เฉลียงหน้าบ้านที่เป็นส่วน Semi-Outdoor เป็นเฉลียงตัว L ที่ติดกับพื้นที่ทั้งหน้าบ้านและข้างบ้าน ทำให้ติดกับสวนได้แบบนี้ซึ่งสามารถนั่งเล่นและได้บรรยากาศพักผ่อนกลางสวนแบบไม่ต้องอยู่กลางแจ้งได้เลย

อย่างที่กล่าวข้างต้นไปนะคะว่าการวางแปลนบ้านจะวางแบบ Open Plan  ดังนั้นเมื่อเข้ามาในบ้านก็จะเห็นพื้นที่เชื่อมต่อกันและทำให้บ้านดูกว้างแบบนี้ ส่วนแรกที่อยู่ติดกับประตูทางเข้าบ้านคือห้องนั่งเล่น มุมนี้อยู่ติดกับเฉลียงและสวนภายในบ้าน

ขนาดพื้นที่กว้างพอให้วางโซฟาตัวยาวแบบ 4-5 ที่นั่งได้ จะเป็นโซฟาชุดหรือโซฟาตัว L ก็วางสะดวก ตรงข้ามวางชั้นวางของและติดตั้งทีวีก็เดินผ่านใช้งานสะดวก

ติดกับห้องนั่งเล่นคือมุมทานอาหาร พื้นที่ส่วนนี้กว้างพอให้วางโต๊ะสำหรับ 6 ตัวได้สบายๆอีกทั้งด้านข้างยังสามารถวางเคาน์เตอร์สำหรับเป็น Pantry ได้อีกด้วย ด้านซ้ายมือที่เป็นห้องกระจกคือห้องนอน 4 ที่บ้านตัวอย่างนำไอเดียการกั้นห้องด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเพื่อให้บ้านดูโปร่ง สำหรับบ้านมาตรฐานที่ได้จะเป็นผนังพร้อมประตูค่ะ

ห้องนอน 4 เป็นห้องที่อยู่ติดกับเฉลียงและสวนหน้าบ้าน มีประตูกระจกบานใหญ่ทั้ง 2 ด้านทำให้ห้องดูโปร่งและได้ความสดชื่น วิวสวยๆจากสวน เหมาะสำหรับทำเป็นทั้งห้องนอนหรือจะทำเป็นห้องทำงานแบบนี้ก็ได้ค่ะ

อีกห้องที่อยู่ชั้นล่างติดกับมุมทานอาหารก็คือห้องอเนกประสงค์นั่นเอง ห้องนี้ขนาดพอเหมาะทำเป็นห้องทำงานหรือจะทำเป็นห้องสำหรับเด็กแบบนี้ก็ดูเป็นสัดส่วนดีนะคะ วางได้ทั้งโต๊ะทำงานสำหรับ 2 คนและยังวางชั้นหนังสือแบบนี้ได้อีกด้วย

ห้องน้ำที่ชั้น 1 มีขนาดกว้างและสว่างเพราะได้แสงธรรมชาติลอดผ่านจากกระจกบานกระทุ้งค่ะ ภายในเป็นกระเบื้องโทนสว่างและห้องนี้จะไม่มีพื้นที่ต่างระดับกันเพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถมาใช้งานได้สะดวก

ครัวเป็นครัวปิดที่สามารถวางเคาน์เตอร์ตัว L ได้แบบนี้ เหนือเคาน์เตอร์มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนที่สะดวกในการเปิดเพื่อถ่ายเทอากาศและให้แสงสว่างเข้ามาในครัว ห้องนี้จะมีประตูเปิดไปยังพื้นที่ส่วนซักล้างหลังบ้าน

พื้นที่ซักล้างพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30x30 ซม.โทนสีเทา โดยโครงการจะวางระบบน้ำและระบบไฟพร้อมให้ติดตั้งสำหรับการใช้งานค่ะ

บันไดขึ้นไปยังชั้นบนด้านข้างจะมีห้องเก็บของใต้บันไดเป็นห้องเก็บของที่ใหญ่พอควร ตัวบันไดเป็นพื้นไม้และมีราวจับให้ตลอดแนวเพื่อการใช้งานที่สะดวก

ขึ้นมาชั้นบนส่วนแรกที่อยู่ตรงกับบันไดคือ Family Area โดยหลังนี้ตกแต่งให้เป็นมุมนั่งเล่น มุมพักผ่อนส่วนตัวสำหรับครอบครัวค่ะ มีโซฟาและชั้นวางของซึ่งวางหนังสือไว้นั่งอ่านได้ สำหรับชั้นนี้พื้นจะปูด้วย SPC ลายไม้ทั้งหมดค่ะ

Master Bedroom เป็นห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุด ภายในห้องเลยมีมุมต่างๆส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นมุมนั่งเล่นในห้อง, พื้นที่ Walk in closet หน้าห้องน้ำ และพื้นที่ระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ที่สามารถทำเป็นพื้นที่กิจกรรมกึ่งกลางแจ้งได้

• ขนาดห้องนอนสำหรับมุมพักผ่อนสามารถวางเตียง 6 ฟุตได้ สองข้างเตียงวางโต๊ะหัวเตียงและปลายเตียงก็ติดตั้งทีวีแขวนและชั้นวางของ ชั้นวางหนังสือเพื่อการใช้งานได้ 
• สำหรับมุมนั่งเล่นสามารถวางโซฟาสำหรับ 2 ที่นั่งและโต๊ะกาแฟเพื่อจิบกาแฟยามเช้า หรือจะวางเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือ มุมทำงานก็วางโต๊ะทำงานตัวใหญ่ได้
• ระเบียงขนาดกว้างวางเป็นมุมออกกำลังกายนอกบ้านแบบนี้ได้ เป็นการออกกำลังกายที่ได้รับอากาศธรรมชาติ ขนาดพื้นที่กว้างพอให้เล่นโยคะและวางลู่วิ่งหรือจักรยานไฟฟ้าได้เลย
• สำหรับมุม Walk in Closet ขนาดกว้างพอสำหรับวางตู้และชั้นวางของใหญ่ พร้อมมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งได้แบบนี้

ห้องน้ำของห้อง Master Bedroom ขนาดกว้างและมีอ่างอาบน้ำให้ ภายในมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่เป็นแบบกระจกฝ้าที่ช่วยกั้นความเป็นส่วนตัวแต่ก็ยังให้แสงสว่างได้ เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นเคาน์เตอร์ใหญ่ที่วางของได้เยอะ มีโซนอาบน้ำแบบ Shower ที่พื้นลดระดับลงไปเล็กน้อยและห้องนี้สำหรับโถสุขภัณฑ์จะได้เป็นแบบอัตโนมัติ

ห้องนอน 2 เป็นห้องที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยรองลงมา ขนาดห้องวางเตียง 5 ฟุตได้สบาย ภายในมีพื้นที่วางโต๊ะทำงาน ชั้นวางทีวีหรือทำเป็นมุมนั่งเล่นปลายเตียงแทนได้ หน้าห้องน้ำมีพื้นที่สำหรับทำเป็น Walk in Closet ค่ะ

ห้องน้ำยังคงแบ่งเป็นสัดส่วนเช่นกัน โดยโซนแห้งและเปียกแยกกั้นด้วยพื้นที่ต่างระดับกันเล็กน้อย ในห้องมีหน้าต่างกระจกบานกระทุ้งที่เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาภายใน อ่างล้างหน้ามีตู้เก็บของใต้อ่างให้

ห้องนอน 3 เป็นห้องที่สามารถวางเตียง 3.5 - 5 ฟุตได้โดยมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ให้ถึง 2 มุมทำให้ห้องดูสว่างและโปร่ง ข้างเตียงวางเป็นโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าและอีกข้างก็ยังสามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ ส่วนปลายเตียงเป็นมุมติดตั้งทีวีแขวน

ห้องน้ำภายในห้องนอน 3 แยกส่วนแห้งและเปียกด้วยพื้นต่างระดับ เหนือส่วนอาบน้ำมีหน้าต่างกระจกบานกระทุ้งบานใหญ่ อ่างล้างหน้ามีตู้เก็บของให้ต่างอ่างเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของสำหรับอุปกรณ์และของใช้ต่างๆ

บ้านมาตรฐานและตัวอย่างวัสดุ

บ้านที่ได้จะเป็นบ้านเปล่ามาตรฐานพร้อมจัดสวน ซึ่งจะปูหญ้าและต้นไม้ใหญ่ให้ 1 ต้นพร้อมไม้พุ่มเพื่อความสวยงาม โดยแต่ละหลังจะมีอุปกรณ์ที่ให้มาดังนี้

• อ่างอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติภายในห้องน้ำห้อง Master Bedroom สำหรับห้องน้ำที่ชั้น 1 สำหรับบ้านแบบ Captivate จะได้โถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติเช่นกัน
• พื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 80x80 ซม. พื้นชั้น 2 เป็น SPC
•  Wallpaper ทั้งหลัง
• ประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมพร้อมกระจกเขียวตัดแสง ประตูภายในเป็น HDF และ UPVC 
• Digital Door Lock สำหรับประตูรองที่อยู่ติดกับพื้นที่จอดรถ
• Home Automation
• ระบบสัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic & Shock Sensor
• Smoke & Heat Detector

Location 

ทำเลที่ตั้งโครงการ Bangkok Boulevard รามอินทรา 109 ตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา 109 หรือถนนพระยาสุเรนทร์เป็นทำเลที่สะดวกในการเดินทางและการอยู่อาศัย เพราะรอบๆมีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก มีทั้งสถานศึกษา โรงพยาบาลและห้างสรรพสินค้าใหญ่

การเดินทางก็สะดวกทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะทำให้สามารถเข้าไปทำงานในตัวเมืองกรุงเทพและพื้นที่อื่นๆได้ไม่ยาก สำหรับรถสาธารณะก็มีรถไฟฟ้าสายสีชมพู่ที่ใกล้จะได้ทดลองใช้งานอีกไม่กี่อึดใจซึ่งทำให้การเดินทางยิ่งสะดวกมากยิ่งขึ้น สำหรับถนนรามอินทรานั้นใกล้จุดขึ้น-ลงวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษก ไปยังย่านรามคำแหง สายไหมได้สะดวก จะตรงไปยังถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปย่านเกษตร, นนทบุรีและลาดพร้าวได้เลย

ปากซอยรามอินทรา 109 จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูวิ่งผ่านซึ่งสถานทีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีบางชัน ห่างจากโครงการเพียง 2.4 กม.เท่านั้นค่ะ ซึ่งตอนนี้การก่อสร้างคืบหน้าไปเป็นอย่างมาก สำหรับสายสีชมพูนี้เชื่อมต่อกับสายสีเขียว, สายสีแดงยาวไปจนสายสีม่วง ส่วนสายในอนาคตก็จะเชื่อมต่อกับสายสีส้มอีกด้วย ทำให้การเดินทางนั้นไปได้หลากหลายพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นลาดพร้าว นนทบุรี ตัวเมืองกรุงเทพและมีนบุรี

ที่ตั้งโครงการเป็นย่านชุมชนที่มีความคึกคักดังนั้นเรื่องแหล่งจับจ่ายใช้สอย ไม่ต้องเป็นห่วงเลยเพราะมีให้เลือกหลากหลายสถานที่ ไม่ว่าจะเป็น Lotus Go fresh เป็นคอมมูนิตี้มอลที่มีทั้งร้านค้าและร้านอาหารหลากหลาย หรือไปอีกหน่อยตรงเส้นรามอินทราก็มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ทั้ง The Promenade , Fashion Island และ Chic Republic อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวอยู่ไม่ไกลไม่ว่าจะเป็น Siam Amazing Park และ Safari World

นอกจากนั้นสถานศึกษาก็มีทั้งโรงเรียนไทยและนานาชาติ อย่างโรงเรียนสาธิตพัฒนา โรงเรียนเลิศหล้า, โรงเรียนสารสาสน์, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า ดังนั้นบ้านที่มีทั้งวัยทำงานและวัยเรียนก็เดินทางไปได้สะดวก ส่วนสถานพยาบาลก็ไม่ต้องห่วงเรื่องเจ็บป่วยเพราะใกล้กับโรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา, โรงพยาบาล อินทรารัตน์ และโรงพยาบาลนวมินทร์

การเดินทาง

จากถนนรามอินทราซึ่งเป็นถนนหลักเส้นใหญ่ เชื่อมต่อกับถนนอื่นๆอีกหลายสายจึงสามารถมุ่งหน้าจากตัวเมืองไปยังรามอินทราได้ไม่ยาก

ตรงมาจะผ่านจุดขึ้น-ลงถนนกาญจนาภิเษกและจะเห็นเส้นรถไฟฟ้าสายสีชมพูอยู่ตลอดเส้นทาง

ตรงมาผ่านจุดตัดกับวงแหวนรอบนอกจะผ่านห้างสรรพสินค้าใหญ่บนเส้นรามอินทราอย่างFashion Island

ตรงมาไม่ไกลเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระยาสุเรนทร์หรือรามอินทรา 109

ถนนพระยาสุเรนทร์เป็นย่านชุมชนที่มีความคึกคัก สองข้างทางมีร้านค้าร้านอาหารต่างๆมากมาย

กลับรถแล้วมุ่งหน้าเพื่อเลี้ยวเข้าซอยพระยาสุเรนทร์ 30

ซอยพระยาสุเรนทร์กว้างรถวิ่งสวนกันได้สะดวก และก็ยังคงมีร้านค้า ร้านอาหารอยู่ตามสองข้างทาง

ตรงเข้ามาจากปากซอยเพียง 300 ม.ก็จะเจอกับ ที่ตั้งโครงการ Bangkok Boulevard รามอินทรา 109 อยู่ทางซ้ายมือ

Price & Promotion

ปัจจุบันโครงการมีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบโดยขายเป็นบ้านมาตรฐานตามที่ระบุไว้เท่านั้น สามารถเข้าชมบ้านตัวอย่างได้ทั้ง 3 แบบที่โครงการ

• Calm : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 233 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 52.3 ตร.ว. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 10 ล้านบาท
• Shade : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 279 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 60.0 ตร.ว. 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ  ราคาเริ่มต้น 14 ล้านบาท
• Captivate : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 365 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 71.9 ตร.ว. 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องพระ ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท

ส่วนกลาง 57 บ./ตร.ว./เดือน

Conclusion

โครงการ Bangkok Boulevard รามอินทรา 109 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่ฟังก์ชันการใช้งานเหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาบ้านหลังที่สองเพื่อขยับขยายครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวขนาดกลางหรือครอบครัวใหญ่ก็มีฟังก์ชันที่เพียงพอต่อการใช้งาน มีพื้นที่กว้างทั้งในบ้านและนอกบ้านอีกทั้งยังมีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ อยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะ