- review
รีวิวบ้านเดี่ยว บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ - ราชพฤกษ์ ดีไซน์ใหม่ หลังใหญ่ บรรยากาศเป็นส่วนตัว เข้าเมืองได้สะดวกหลายเส้นทาง
รีวิวบ้านเดี่ยว บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ - ราชพฤกษ์ ดีไซน์ใหม่ หลังใหญ่ บรรยากาศเป็นส่วนตัว เข้าเมืองได้สะดวกหลายเส้นทาง
รีวิวบ้านเดี่ยวหรูโครงการใหม่จาก SC Asset ‘Bangkok Boulevard แจ้งวัฒนะ - ราชพฤกษ์’ ดีไซน์สวยด้วยคอนเซ็ปต์ ลา - ไน ซีรีส์ ที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ครอบครัวคนรุ่นใหม่ พร้อมพื้นที่ใช้สอยจุใจ กับฟังก์ชัน 4 - 5 ห้องนอน 4 - 5 ห้องน้ำ 2 - 3 ที่จอดรถ
ส่วนกลางโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน โดยไฮไลต์อยู่ที่ดีไซน์ของซุ้มประตูและคลับเฮาส์ที่ได้แรงบันดาลใจจากยอดเขา Mont Blanc ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งให้ความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร นอกจากนี้ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาเพื่อความสบายใจของครอบครัวอีกด้วย
บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ - ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่บน ถ.หอการค้าไทย แหล่งรวมโครงการบ้านหรูกลาง จ.นนทบุรี สามารถเชื่อมต่อถนนสายสำคัญได้หลายเส้นทาง สะดวกสบายในการเข้าเมือง ดังนั้นใครกำลังมองหาบ้านหลังใหม่บนทำเลนี้ให้ตัวเองและครอบครัว Home Buyers มีรีวิวมาให้ได้อ่านกันแล้วค่ะ
Factsheet
ชื่อโครงการ : | บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ |
---|---|
บริษัท : | บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) |
ที่ตั้งโครงการ : | ถ.หอการค้าไทย ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี |
รายละเอียดโครงการ : | บ้านเดี่ยว ที่ดินเริ่มต้น 52.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 237-360 ตร.ม. บนทำเลเเจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ |
เนื้อที่โครงการ : | 26-0-3.2 ไร่ |
พื้นที่ใช้สอย : | 237 - 360 ตร.ม. |
พื้นที่ : | 52.3 ตร.ว. |
จำนวน : | 82 ยูนิต |
ราคาเริ่มต้น : | 9.99 - 20 ล้านบาท* (สอบถามโครงการอีกครั้ง) |
โทร : | 1749 / 080 043 0064 |
เว็บไซต์ : | https://m.scasset.com/B8FK |
Highlight
บ้านเดี่ยวหรูดีไซน์ใหม่ ลา - ไน ซีรีส์ รูปทรงโมเดิร์น เรียบง่าย โดดเด่นด้วยฟาซาดระแนงอะลูมิเนียมลายไม้ที่ดูกลมกลืนกับธรรมชาติ พร้อมฟังก์ชัน 4 - 5 ห้องนอน 4 - 5 ห้องน้ำ 2 - 3 ที่จอดรถ และระบบ Smart Home ที่ทันสมัย
ตอบโจทย์ทั้งครอบครัว กับพื้นที่อเนกประสงค์หลายจุดให้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเฉลียงหน้าบ้าน ระเบียงกว้างบนชั้น 2 รวมถึงโถงกลางบนชั้น 2 ที่สำคัญยังมีห้องนอน 4 ที่อยู่บริเวณชั้น 1 ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับผู้สูงวัย มาพร้อมห้องน้ำแบบส่วนตัว
ส่วนกลางมีเอกลักษณ์ ดีไซน์ของซุ้มประตูและอาคารคลับเฮาส์ ได้แรงบันดาลใจมาจากยอดเขา Mont Blanc ประเทศฝรั่งเศส เป็นคอนเซ็ปต์ที่ไม่ซ้ำใคร ตามสไตล์แบรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ที่ออกแบบส่วนกลางของทุกโครงการโดยมีสถานที่สำคัญในยุโรปเป็นต้นแบบ
ปลอดภัย เป็นส่วนตัว ติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยโดยรอบตัวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้ง CCTV ทั่วโครงการ พร้อมชุด รปภ. ประจำการตลอด 24 ชม. รวมถึงซุ้มประตูทางเข้าออก 2 ชั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวของโซนพักอาศัย ซึ่งทั้งโครงการมีจำนวนบ้านเพียง 82 ยูนิตเท่านั้น
ทำเลเข้าเมืองสะดวก เชื่อมต่อได้ทั้ง ถ.แจ้งวัฒนะ ถ.ราชพฤกษ์ ทางด่วนศรีรัช และรถไฟฟ้าสายสีชมพู โครงการตั้งอยู่บน ถ.หอการค้าไทย ซึ่งเป็นแหล่งรวมโครงการบ้านหรูสังคมคุณภาพ แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน รองรับความต้องการของทุกวัยในครอบครัว
Facility
ทางเข้าโครงการจะแยกมาจาก ถ.หอการค้าไทย สองข้างทางปลูกต้นไม้ใหญ่และจัดสวนไว้อย่างร่มรื่น โดยถนนหน้าหมู่บ้านมีความกว้างถึง 4 เลนเลยค่ะ
ซุ้มประตูโครงการมีดีไซน์ที่โดดเด่นดึงดูดสายตา เป็นอีกหนึ่งจุดที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากยอดเขา Mont Blanc ประเทศฝรั่งเศส โดยรั้วรอบโครงการจะมีความสูง 3 ม. รวมเหล็กแหลมสูงที่ติดไว้เพื่อเสริมความปลอดภัย
Mont Blanc เป็นยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ซุ้มประตูของโครงการจึงออกแบบให้มีสีขาว เข้ากับรูปทรงเรขาคณิตที่ใส่ความโค้งเข้ามาเพื่อความพริ้วไหวเป็นธรรมชาติ ซึ่งประตูทางเข้าออกจะแยกฝั่งกัน โดยมีซุ้ม รปภ. กั้นอยู่ตรงกลางเพื่อคอยตรวจตราความเคลื่อนไหว และอำนวยความสะดวกให้ลูกบ้าน
ประตูรั้วทางเข้าออกเป็นระบบไฟฟ้าแบบ smart gate ตรวจจับป้ายทะเบียน เปิดอัตโนมัติให้รถของลูกบ้านผ่านได้สะดวก ส่วนรถของผู้มาติดต่อจะต้องทำการบันทึกประวัติเข้าออก โดย รปภ.จะเป็นผู้ควบคุมการเปิด - ปิด ประตูให้
ที่ซุ้มประตู Main Gate จะติดตั้ง CCTV เพื่อจับภาพทั้งหน้ารถ หลังรถ ป้ายทะเบียน และคนขับ เพื่อเก็บเป็นประวัติ รวมถึงเสริมความแน่นหนาให้ลูกบ้านรู้สึกมั่นใจว่าจะไม่มีบุคคลแปลกปลอมหลุดรอดเข้ามาในโครงการ
เมื่อผ่านซุ้มประตูหลักเข้ามาจะเจอกับโซนคลับเฮาส์และบ้านตัวอย่าง โดยส่วนที่พักอาศัยจริงๆ จะอยู่ลึกเข้าไป ซึ่งมีซุ้มรักษาความปลอดภัยพร้อมประตูรั้วอยู่อีก 1 จุด เป็นการแยกผู้มาติดต่อธุระที่อาจจะไม่ใช่เพื่อนหรือญาติ ให้รอพบแค่ในบริเวณคลับเฮาส์ เพื่อความเป็นส่วนตัวขั้นสูงของผู้พักอาศัย
ทั่วทั้งโครงการมีกล้องวงจรปิด CCTV ติดตั้งอยู่ถึง 28 จุด กระจายอยู่ตามซุ้มประตู คลับเฮาส์ สวน และซอยต่างๆ โดยความกว้างของซอยหน้าบ้านจะอยู่ที่ 9 ม. ขณะที่ถนนเมนหลัก โซนคลับเฮาส์จะกว้าง 14 - 16 ม. ส่วนโซนพักอาศัยจะกว้าง 12 ม.
มาถึงอีกหนึ่งไฮไลต์ของโครงการอย่างอาคารคลับเฮาส์ ที่ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากยอดเขา Mont Blanc ประเทศฝรั่งเศส เช่นเดียวกันกับซุ้มประตูที่เห็นกันไปแล้ว โดยตัวอาคารจะมีความสูง 2 ชั้น ดีไซน์เป็นยอดแหลมสูงโดดเด่น สื่อถึงยอดเขาที่สูงที่สุดในฝรั่งเศส พร้อมกับสีขาวสะอาดตา ตัดด้วยเส้นสายโค้งมน ให้ความรู้สึกพริ้วไหวเป็นธรรมชาติ
บริเวณทางขึ้นไปริมสระว่ายน้ำและล็อบบี้ของคลับเฮาส์ ถูกออกแบบให้มีทางลาดตามหลัก Universal Design เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านที่ใช้รถเข็นสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการได้อย่างเท่าเทียมด้วยค่ะ
โซนกลางแจ้งหน้าอาคารคลับเฮาส์จะมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งแบ่งพื้นที่เป็นสระผู้ใหญ่ สระเด็ก และบ่อน้ำพุ
ส่วนโซนด้านในของสระว่ายน้ำจะอยู่ใต้ร่มเงาชายคาคลับเฮาส์ ซึ่งจุดนี้จะมีทางขึ้นลงสระ และใกล้ๆ กันจะมีที่ล้างตัว รวมถึงห้องน้ำที่มีตู้ล็อกเกอร์ให้บริการอยู่ด้วยค่ะ
เดี๋ยวเราเข้าไปดูภายในล็อบบี้กันบ้าง ประตูทางเข้าของโซนนี้จะเป็น Motion Sensor แค่โบกมือเบาๆ ประตูก็จะเลื่อนเปิดให้เราแบบอัตโนมัติเลยค่ะ เป็นระบบไร้สัมผัสที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตยุคใหม่ได้ดีมากๆ เลย
ภายในล็อบบี้จะมีชุดโซฟาอยู่หลายจุด บรรยากาศมีความปลอดโปร่งด้วยผนังที่เป็นกระจกใส และฝ้าเพดานที่สูงแบบ Double Volume โดยปัจจุบันโซนนี้จะใช้งานเป็นสำนักงานขาย ใครจะเข้าเยี่ยมชมโครงการต้องมาติดต่อพนักงานที่บริเวณนี้ก่อนค่ะ
ถัดจากส่วนล็อบบี้และสระว่ายน้ำมาทางด้านหลังของคลับเฮาส์ จะมีมุมอเนกประสงค์ให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจได้ตามอัธยาศัย
นอกจากนี้ ที่ชั้น 1 ของคลับเฮาส์ยังมี Kids Room ซึงเป็นพื้นที่ให้เด็กๆ ได้มาเล่นสนุกกัน โดยเพดานห้องจะมีความสูงโปร่งแบบ Double Volume คล้ายด้านหน้าล็อบบี้ ทำให้ผู้ปกครองที่ใช้พื้นในส่วนของ Co - Working Space บนชั้น 2 สามารถมองเห็นลูกหลานได้ทั่วถึงด้วยค่ะ
จาก Kids Room จะมีประตูเปิดออกมาที่สนามเด็กเล่นข้างอาคารคลับเฮาส์ ซึ่งทางโครงการปูพื้นยางกันกระแทกสีสันสดใสน่ารัก ช่วยป้องกันไม่ให้เด็กๆ บาดเจ็บเวลาหกล้มได้ค่ะ
มาถึงด้านบนชั้น 2 ของคลับเฮาส์จะมีห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ ซึ่งยังคงคอนเซปต์ปลอดโปร่งด้วยฝ้าเพดานสูงพิเศษ และหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ที่เปิดรับทั้งวิวสระว่ายน้ำและแสงธรรมชาติ โดยในฟิตเนสนั้นมีเครื่องเล่นสำหรับออกกำลังกายที่ครบครัน ตอบโจทย์ทั้งการ Cadio และ Weight Training
อีกห้องบนชั้น 2 คือ Co - Working Space ที่มีมุมให้เลือกนั่งหลายจุด ทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม โดยลึกเข้าไปข้างในจะมีห้องประชุมให้ใช้งานได้ด้วย
ห้องประชุมมีความกว้างพอที่จะวางโต๊ขนาด 6 - 8 ที่นั่งได้พอดี รวมถึงมีประตูบานเลื่อนให้สามารถเปิด-ปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวในการประชุมได้อีกด้วย
ในวันที่เราเข้ารีวิวโครงการ สวนส่วนกลางอยู่ระหว่างก่อสร้าง จึงยังไม่มีภาพมาฝากกันค่ะ แต่เราได้ข้อมูลมาว่าสวนจะอยู่ในโซนพักอาศัย และมีความกว้างประมาณ 1 ไร่เศษ เป็นพื้นที่สีเขียวให้ลูกบ้านได้สัมผัสกันทุกวัน วางตำแหน่งอยู่กลางโครงการ ติดกับถนนเมนหลักเลยค่ะ
สำหรับค่าส่วนกลาง จะจัดเก็บที่ 55 บาท / ตร.ว. / เดือน โดยส่วนหนึ่งจะเป็นค่าบำรุงดูแลต้นไม้ตลอด 2 ฝั่งของถนนทางเข้าโครงการให้สวยงามร่มรื่นไปตลอดด้วยค่ะ
Design & Function
บ้านเดี่ยวโครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ - ราชพฤกษ์ เป็นบ้านโมเดลใหม่ที่เรียกว่า ลา - ไน ซีรีส์ มีจุดเด่นตรงที่เป็นบ้านเดี่ยวหน้ากว้าง ทรงสี่เหลี่ยม สไตล์โมเดิร์นแบบบ้านสมัยใหม่ในแถบตะวันตก ดูเรียบหรู แฝงกลิ่นอาย Scandinavian แบบที่คนรุ่นใหม่กำลังนิยมกันเลยค่ะ
หนึ่งในดีไซน์ที่เป็นจุดเด่นของบ้าน ลา - ไน ซีรีส์ คือฟาซาดที่เป็นระแนงอลูมิเนียมสีน้ำตาล ให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ อบอุ่น สบายตา เติมเต็มความสวยงามภายนอกของตัวบ้านได้อย่างลงตัว
ระแนงนี้ยังสามารถพับเปิด-ปิดได้ด้วย นอกจากจะช่วยบังแดด ยังช่วยในเรื่องความเป็นส่วนตัวจากสายตาภายนอก ในเวลาที่เราออกมาใช้เวลาทำกิจกรรมต่างๆ ริมระเบียง
บ้านเดี่ยวทุกแบบในโครงการก่อสร้างด้วยระบบ Conventional ก่ออิฐมวลเบา ซึ่งมีความแข็งแรงและระบายความร้อนได้ดี ที่สำคัญยังง่ายกับการทุบผนังหรือต่อเติม เพื่อปรับฟังก์ชันการใช้งานในบ้านได้ตามความต้องการของครอบครัว
บ้านหลังที่อยู่ในภาพนี้คือแบบที่มีชื่อว่า Shade มีพื้นที่ใช้สอย 279 ตร.ม. เป็นบ้านไซส์กลางของโครงการ โดยบทความนี้เราจะรีวิวบ้านไซส์เริ่มต้นกับบ้านไซส์ใหญ่สุดให้ได้ชมกัน 2 แบบค่ะ
ที่ลานจอดรถหน้าบ้านทุกแบบ จะมีระบบรองรับอุปกรณ์ EV Charger เตรียมไว้ให้ ตอบโจทย์หลายครอบครัวที่เริ่มหันมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ากันมากขึ้น
ภายในบ้านจะมีฟังก์ชัน Smart Home ติดตั้งมาให้ด้วย โดยไฟฟ้าในบ้านจะสามารถสั่งเปิดปิดได้ผ่านแอปพลิเคชั่น RueJai ของทาง SC Asset ในสมาร์ตโฟน และควบคุมได้อีกทางผ่านแผง Hub Panel ในภาพซึ่งจะติดไว้ให้ 2 จุด ทั้งที่โถงทางเดินชั้น 1 และในห้อง Master Bedroom
ที่ประตูและหน้าต่างทุกบานโดยรอบตัวบ้านจะติดตั้งอุปกรณ์สัญญาณกันขโมยทั้งแบบ Magnetic และ Shock Sensor โดยจะมีแผง Panel ของ Paradox เป็นตัวควบคุมการทำงานของระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน ติดตั้งอยู่ที่โถงทางเดินชั้น 1 ใกล้ๆ กับแผง Home Automation
บริเวณ Living Area และ Master Bedroom จะมีอุปกรณ์ Heat Detector ตรวจจับความร้อน ซึ่งเมื่อมีอุณหภูมิสูงกว่า 57 องศา จะส่งสัญญาณเตือนเหตุเพลิงไหม้
ในห้องครัวจะมี Smoke Detector ช่วยตรวจจับควันผิดปกติ เสริมความปลอดภัยอีก 1 จุด
Home Type : Captivate
บ้านตัวอย่างหลังแรกที่เราจะรีวิวกันคือบ้านเดี่ยวแบบ Captivate มีพื้นที่ใช้สอย 360 ตร.ม. สร้างบนที่ดินเริ่มต้น 70 ตร.ว. โดยหลังที่เราจะได้ชมกันจะมีขนาดที่ดินถึง 134.9 ตร.ว. เป็นแปลงใหญ่ที่สุดของทางโครงการนั่นเองค่ะ
บ้าน Captivate มีฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ โดยชั้น 1 จะมี Living Area เชื่อมต่อกับ Dining Area พร้อมด้วยห้องครัวแบบปิด ห้องพักแม่บ้าน และห้องนอน 2 ห้องนอน ซึ่งห้องนอน 4 จะมีห้องน้ำในตัว รองรับการทำเป็นห้องผู้สูงวัยด้วยค่ะ
ส่วนชั้น 2 แบ่งเป็น 3 ห้องนอน มาพร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง โดย Master Bedroom กับห้องนอน 2 จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน สามารถเปิดไปที่ระเบียงส่วนตัวได้ทั้ง 2 ห้อง ส่วนบริเวณโถงบันไดจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้จัดเป็นอีก Living Area หรือกั้นห้องเพิ่มเติมได้
นี่คือบ้านมาตรฐานที่โครงการส่งมอบ (แปลนบ้านจะสลับฝั่งซ้ายขวาคละกัน) โดยรั้วรอบบ้านจะมีความสูง 1.9 ม. สำหรับพื้นที่รอบบ้าน โครงการจะปูหญ้าและปลูกต้นไม้ให้ด้วย
รั้วลานจอดรถหน้าบ้าน มีการเดินระบบไฟฟ้าไว้รองรับการติดตั้งอุปกรณ์เปิดประตูอัตโนมัติ และด้วยความที่รั้วมีน้ำหนักค่อนข้างมาก ทางโครงการจึงทำเหล็กดามไว้ยันพื้นให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันเหตุล้อหลุดออกจากรางแล้วล้มทับคน
หน้าบ้านยังมีประตูเล็กสำหรับให้คนเดินผ่านเข้า-ออกได้โดยไม่ต้องเปิดประตูรั้วใหญ่ด้วยนะคะ
ลานจอดรถหน้าบ้านจะอยู่ในร่ม รองรับการจอดรถได้ถึง 3 คัน โดยพื้นลานจอดจะลงเสาเข็มไว้ลึกเท่ากับโครงสร้างหลักของบ้าน ส่วนด้านข้างและด้านหลังลานจอดจะมีตู้เก็บของอยู่ 2 จุด และมีประตูเล็กเชื่อมต่อเข้าบ้านฝั่งครัว เพิ่มความสะดวกเวลาขนของลงจากรถก็สามารถเข้าไปจัดเก็บบริเวณครัวได้เลยค่ะ
จากลานจอดรถขึ้นไปเฉลียงหน้าบ้านจะมีทางลาด ทำไว้รองรับการใช้งานรถเข็นอีกด้วย
เฉลียงหน้าบ้านมีความกว้างขวาง วางมุมเป็นทรง L Shape สามารถจัดเป็นมุมพักผ่อนหรือจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวสังสรรค์กับเพื่อนและครอบครัวในวันหยุดได้อย่างลงตัว
เฉลียงฝั่งที่เป็นทางลาดจะติดระแนงอลูมิเนียมไว้ด้วย สามารถเปิดปิด บิดมุมได้ตามต้องการ นอกจากความสวยงามแล้ว ยังช่วยบังแดดและเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ด้วย
มุมฝั่งซ้ายของบ้าน ถ้าเป็นบ้านมาตรฐานจะเป็นพื้นที่สวนเชื่อมต่ออยู่กับมุมเฉลียง แต่บ้านตัวอย่างได้ต่อเติมข้างบ้านเป็นเรือนกระจกและชานกลางแจ้งไว้ให้ดูเป็นไอเดียค่ะ
เมื่อเข้าบ้านผ่านประตูหลัก จะเจอกับ Living Area โดยระยะพื้นถึงฝ้าเพดานของชั้น 1 จะสูง 3 ม. มีความปลอดโปร่ง รับกับขนาดพื้นที่ห้องนั่งเล่นซึ่งกว้างขวาง สามารถวางโซฟาตัวยาว 4 ที่นั่งได้สบายๆ เลยค่ะ
มองย้อนไปหน้าบ้าน จะเห็นว่าทั้งด้านหน้าและด้านหลัง Living Area จะมีประตูกับหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ เป็นช่องแสงที่ทำให้ภายในบ้านดูสว่างและปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้น
ถัดจาก Living Area ลึกไปฝั่งหลังบ้านจะเป็น Dining Area ซึ่งพื้นที่ในบ้านมาตรฐานจะวางโต๊ะอาหารได้ขนาดประมาณ 6 - 8 ที่นั่ง แต่บ้านตัวอย่างทำการทุบห้องนอน 5 ออก จึงขยายโต๊ะได้ใหญ่ถึง 10 ที่นั่งแบบเหลือๆ เลยค่ะ
ผนังห้องครัวในบ้านมาตรฐานจะปิดทึบ ติดอยู่กับห้องนอน 5 แต่บ้านตัวอย่างเจาะผนังเพื่อเชื่อมครัวเข้ากับเคาน์เตอร์บาร์ เป็นไอเดียที่สามารถทำตามกันได้ เพราะผนังบ้านก่อด้วยอิฐมวลเบาซึ่งง่ายกับการทุบ เจาะ และต่อเติม
เปรียบเทียบให้เห็นบ้านมาตรฐานที่โครงการส่งมอบ จะก่อผนังกั้นห้องนอน 5 และห้องครัวไว้เรียบร้อย โดยห้องผนังนอน 5 ฝั่งที่ติดกับ Dining Area จะมีมุมที่เจาะช่องแสงไว้ เพื่อความเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ทั้งในและนอกห้อง สำหรับครอบครัวที่สมาชิกไม่เยอะจนต้องใช้ห้องนี้เป็นห้องนอน ก็สามารถปรับฟังก์ชันเป็นห้องทำงานหรือห้องอเนกประสงค์ได้ตามไลฟ์สไตล์
มาต่อกันที่ห้องครัว ซึ่งเป็นแบบปิดมีประตูกั้นจากโถงทางเดิน จึงไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่นเวลาทำอาหารไปรบกวนการพักผ่อนส่วนในอื่นๆ ของบ้าน โดยห้องครัวจะมีขนาดกลาง รองรับการบิลต์อินเคาน์เตอร์แบบ U Shape ได้โดยที่ยังเหลือมุมให้วางตู้เย็นได้ด้วย
จากครัวจะมีประตูเปิดออกมาที่ลานซักล้างหลังบ้าน ซึ่งเชื่อมต่อกับห้องพักแม่บ้านที่อยู่ถัดไปตรงมุมบ้าน
กลับมาภายในบ้าน สุดโถงทางเดินจะมีห้องน้ำกลางของชั้น 1 อยู่ติดกับห้องครัว มีพื้นที่กว้างพอสมควร สามารถใส่ Shower Box แบบเข้ามุมเพื่อกั้นส่วนเปียกกับส่วนแห้งได้ ภายในมาพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ โดยมีช่องหน้าต่างให้เปิดระบายความชื้นได้ด้วย
ริมโถงทางเดินฝั่งหน้าบ้านจะมีช่องสำหรับบิลต์อินเป็นตู้เก็บของเพิ่มเติมได้ โดยแผง Panel ควบคุม Smart Home และระบบรักษาความปลอดภัยจะขนาบอยู่ข้างๆ ช่องนี้ และถัดมาจะเป็นประตูที่เชื่อมกับลานจอดรถ ซึ่งมี Digital Door Lock ติดตั้งให้เพื่อเสริมความปลอดภัยอีกด้วย
ย้อนมาตรงกลางบ้าน ตรงข้ามกับตำแหน่งของห้องนอน 5 จะเป็นบันไดและห้องเก็บของ
ข้ามไปดูอีกฝั่งของบ้าน เนื่องจากบ้านตัวอย่างได้ทุบผนังห้องนอน 4 เพื่อเชื่อมต่อพื้นที่เข้ากับ Living และ Dinning Area ยาวไปถึงเรือนกระจกส่วนต่อขยายที่ข้างบ้าน
ส่วนบ้านมาตรฐานจะก่อผนังกั้นห้องนอน 4 ไว้ให้เรียบร้อย โดยห้องนี้จะมีประตูเปิดออกมายังเฉลียงข้างบ้าน
เมื่อเป็นห้องนอน พื้นห้องจะแตกตางจากโซนอื่นที่ปูกระเบื้องแกรนิโต้ มาเป็นการปูด้วย SPC เพื่อบรรยากาศที่เหมาะกับการพักผ่อน โดยห้องนอน 4 นี้จะมีห้องน้ำส่วนตัวที่ถูกออกแบบให้รอรับผู้สูงวัยด้วยนะคะ
โดยบ้านตัวอย่างได้ทุบผนังของห้องนอน 4 ออก เพื่อเชื่อมเข้ากับเรือนกระจกส่วนต่อเติมข้างบ้าน และปรับฟังก์ชันเป็นบาร์เครื่องดื่ม โดยยังเก็บห้องน้ำเอาไว้ หากสังเกตให้ดีจะยังเห็นประตูสีดำอยู่ค่ะ
ห้องน้ำในห้องนอน 4 ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงวัยหรือผู้ใช้รถเข็น โดยประตูจะมีความกว้างกว่าปกติ รวมถึงพื้นห้องนอนกับห้องน้ำจะมีขนาดเท่ากันเพื่อให้รถเข็นผ่านได้ นอกจากนี้บริเวณจดต่างๆ ในห้องน้ำยังติดราวจับช่วยผู้สูงวัยผดุงตัวเอาไว้ด้วย
กระจกเงาในห้องน้ำของห้องนอน 4 จะมีความกว้างเป็นพิเศษ
ถัดจากพื้นที่ของห้องนอน 4 (เดิม) จะเป็นอีกห้อง Living Area ที่เหมาะกับการสังสรรค์ โดยห้องนี้เป็นการต่อเติมเพิ่มเฉพาะบ้านตัวอย่างค่ะ
ปกติแล้วพื้นที่มุมนี้จะเป็นสวน แต่บ้านตัวอย่างต่อเติมเรือนกระจกขึ้นมา เพื่อแสดงให้เห็นว่าผนังบ้านสามารถทุบเจาะได้ง่าย เหมือนอย่างที่บ้านตัวอย่างทุบผนังห้องนอน 4 เพื่อเชื่อมต่อกับเรือนกระจก
ก่อนจะขึ้นไปชมชั้น 2 กัน ขอพูดถึงบันไดกันก่อนค่ะ โครงสร้างของบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก จึงไม่มีปัญหาเรื่องคนในบ้านเดินขึ้นลงบันไดเสียงดัง ส่วนขั้นบันไดและราวจับทำจากไม้สำเร็จซึ่งเป็นเนื้อไม้จริงๆ โดยมีหน้าต่างบานใหญ่ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาทำให้โถงบันได้ไม่ทึบเป็นจุดอับ
เมื่อขึ้นมาถึงชั้น 2 จะมีบันไดต่อไปยังชั้นลอย ซึ่งมีความสูง 1.8 ม. เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ให้เลือกใช้งานได้เพิ่มเติม
โถงกลางของชั้น 2 จะมีฝ้าเพดานสูงเป็นพิเศษถึง 3.6 ม. พื้นทั้งชั้นจะปูด้วย SPC โดยบริเวณหน้าบันไดจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ ซึ่งกว้างพอให้กั้นเป็นอีกห้องได้เลยทีเดียว สำหรับบ้านตัวอย่างได้จัดเป็นมุมทำงานเอาไว้ให้ดูเป็นไอเดียค่ะ
ห้องนอนทุกห้องบนชั้น 2 จะมีฝ้าเพดานสูง 3.4 ม. ได้ความปลอดโปร่งเป็นพิเศษ ห้องแรกที่เรามาดูกันคือ Master Bedroom ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับโซนของเตียงนอน ที่สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้ โดยยังเหลือพื้นที่กว้างขวางให้จัดโต๊ะข้างเตียงตัวใหญ่เพิ่มเติมได้อีกด้วย
มุมที่นอนจะอยู่ติดกับระเบียงหน้าบ้าน ซึ่งวางผังเข้ามุมเเบบ L Shape มีมุมลึกเข้าไปทางอีกฝั่งของห้อง ได้พื้นที่ให้จัดมุมนั่งเล่นริมระเบียงได้
ด้วยความกว้างเป็นพิเศษของ Master Bedroom จึงสามารถกั้นพื้นที่อีกส่วนเป็น Walk - in Closet ได้สบายเลยค่ะ ผนังเบากั้นห้องที่อยู่ตรงข้ามเตียงในภาพ เป็นการบิลต์อินขึ้นมาเพิ่มเติม โดยมีอีกประโยชน์คือใช้ติดทีวีได้ด้วย
ถัดเข้ามาในฝั่งห้องแต่งตัว ด้านหน้าบ้านจะมีประตูเปิดออกไปยังระเบียงในส่วนที่ทำมุมลึก มีพื้นที่ใช้จัดมุมนั่งเล่น หรือจัดสวนเล็กๆ ริมระเบียงได้ตามไลฟ์สไตล์
ระเบียงของ Master Bedroom จากสายตาภายนอก จะเห็นการทำมุมลึกเข้าไปเล็กน้อย
พื้นที่ฝั่ง Walk - in Closet มีความกว้างขวาง สามารถบิลต์อินตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่เข้ามุมได้ และยังมีพื้นที่ใช้วางตู้ไอส์แลนด์สำหรับเก็บ Accesories ได้อีกด้วย
ติดกับมุม Walk - in Closet จะเป็นห้องน้ำของ Master Bedroom ซึ่งพิเศษกว่าห้องอื่นๆ ตรงที่มีอ่างอาบน้ำ และมีโถสุขภัณฑ์ระบบอัจฉริยะ ควบคุมได้ผ่านรีโมต
ในส่วนของปีกอีกฝั่งของบ้านเป็นพื้นที่ห้องห้องนอน 2 - 3 โดยห้องนอน 2 จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ส่วนห้องนอน 3 จะอยู่ฝั่งหลังบ้าน
มาดูห้องนอน 2 กันก่อนค่ะ ห้องนี้มีขนาดกว้างขวง สามารถวางเตียง 5 - 6 ฟุต ได้อย่างลงตัว โดยมีมุมให้จัดอาร์มแชร์ไว้นั่งเล่นได้ด้วย รวมทั้งยังมีประตูออกไปที่ระเบียงกว้างบริเวณหน้าบ้านได้เช่นกัน
ระเบียงของห้องนอน 2 จะมีความยาวมากกว่าของ Master Bedroom เป็นพื้นที่ให้เลือกใช้ทำกิจกรรมได้หลากหลาย
ด้วยดีไซน์ฟาซาดที่ออกแบบมาเป็นระแนงอลูมิเนียมแบบเปิดปิดได้ ระเบียงนี้จึงมีความเป็นส่วนตัวจากภายนอก จึงสามารถพักผ่อนหรือทำงานอดิเรกที่ชอบได้อย่างสบายใจขึ้นมากกว่าระเบียงที่เปิดโล่งด้วยค่ะ
กลับมาในห้อง ลึกเข้าไปจะมีพื้นที่ให้วางตู้เสื้อผ้า อยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำส่วนตัว
มุมนี้สามารถบิลต์อินตู้เสื้อผ้าไซส์ใหญ่คู่กับโต๊ะเครื่องแป้งได้
ห้องน้ำในห้องนอน 2 แบ่งพื้นที่เป็นส่วนเปียกได้ มาพร้อมสุขภัณฑ์ที่ครบชุด และกระจกเงาที่กว้างเป็นพิเศษ
มาถึงห้องสุดท้ายของบ้าน Captivate คือห้องนอน 3 ซึ่งพื้นที่มีขนาดลดลงมาจากห้องนอน 2 เล็กน้อย แต่ยังวางเตียง 5 - 6 ฟุตได้พอดี เหลือมุมให้วางตู้กับโต๊ะได้ตามแบบบ้านตัวอย่าง
ถัดเข้าไปด้านใจจะเป็นพื้นที่ของตู้เสื้อผ้าซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำ
มุมนี้รองรับตู้เสื้อผ้า 2 ประตู พร้อมกับโต๊ะแป้งขนาดกลางได้พอดี
ห้องน้ำในห้องนอน 3 แบ่งส่วนเปียกแบบเข้ามุม สามารถนำ Shower Box มาติดเพิ่มเติมได้
นี่คือทั้งหมดของบ้านเดี่ยวแบบ Captivate หลังใหญ่สุดของโครงการ 360 ตร.ม. ต่อไปเราจะพาไปดูบ้านเดี่ยวไซส์เริ่มต้นกันบ้างนะคะ
Home Type : Calm
บ้านเดี่ยวแบบ Calm มีพื้นที่ใช้สอย 237 ตร.ม. สร้างบนที่ดินขนาดตั้งแต่ 52.3 ตร.ว.
บ้านเดี่ยว Calm มาพร้อมฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ชั้นล่างมี 1 ห้องนอน 1 ครัวปิด และ Living Area กับ Dining Area ที่เชื่อมต่อกัน ส่วนบนชั้น 2 จะแบ่งเป็น 3 ห้องนอนซึ่งมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง และจะมีมุมอเนกประสงค์อยู่บริเวณโถงบันได
ลานจอดรถรองรับรถได้ 2 คัน ผนังด้านข้างและด้านหลังมีตู้เก็บของ และมีประตูเล็กให้ลงจากรถแล้วเดินเข้าโซนครัวได้ทันที
เฉลียงหน้าบ้านมีพื้นที่กว้าง ฝั่งหน้าบ้านสามารถวางชั้นรองเท้าหรือม้านั่งใส่รองเท้าได้อย่างลงตัว
ส่วนเฉลียงมุมข้างบ้านก็มีพื้นที่กว้างพอสำหรับงานอดิเรกหรือกิจกรรมสนุกๆ ของครอบครัวเช่นกัน
เมื่อเข้ามาในบ้านผ่านประตูหลัก โซนแรกจะเจอกับ Living Area โดยชั้น 1 จะมีระยะพื้นถึงฝ้าสูง 2.8 ม. ปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้นด้วยประตูกระจกทั้งด้านหน้าและด้านข้าง ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาภายในตัวบ้านได้ดี
พื้นที่รองรับโซฟาชุดใหญ่ โต๊ะกลาง และชั้นวางทีวีได้อย่างลงตัว โดยพื้นที่นี้จะเชื่อมกับ Dinning Area ที่ลึกเข้าไปทางหลังบ้านค่ะ
Dining Area จะอยู่ติดกับประตูสวนทั้งฝั่งข้างบ้านและหลังบ้าน ได้บรรยากาศที่สดชื่นและปลอดโปร่ง โดยพื้นที่สามารถรองรับโต๊ะอาหารขนาด 8 - 20 ที่นั่งได้ รวมถึงยังมีมีมุมให้ทำเป็น Pantry ได้อีกด้วย
ถัดจาก Dining Area จะเป็นห้องนอน 4 ที่บ้านตัวอย่างทุบผนังทึบเดิมออก แล้วกั้นห้องด้วยผนังกระจกแทน ซึ่งจะได้ความปลอดโปร่ง เชื่อมต่อกับโซนอื่นๆ ในบ้านได้ดีกว่า
ถ้ามีสมาชิกครอบครัวหลายคน ห้องนอน 4 จะวางเตียงได้ 3.5 ฟุต ร่วมกับตู้เสื้อผ้าและโต๊ะ 1 ตัว ส่วนบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องทำงานอดิเรกให้ดูเป็นแนวทาง โดยนอกจากผนังฝั่ง Dinning แล้ว ผนังฝั่งครัวก็ถูกทุบแล้วเปลี่ยนเป็นกั้นด้วยผนังกระจกเพื่อความปลอดโปร่งเช่นกัน
พื้นที่ครัวของบ้านเป็นแบบปิด พื้นที่มีขนาดกำลังดี สามารถจัดวางชุดครัวและตู้เย็นได้ตามแบบบ้านตัวอย่างเลยค่ะ
ถัดจากครัวออกมาหลังบ้าน จะมีลานซักล้างให้ออกมาใช้งาน
ติดกับครัวจะเป็นห้องน้ำของชั้น 1 ที่สามารถติดฉากกั้นอาบน้ำ กั้นส่วนเปียก ส่วนแห้งเพิ่มเติมได้ค่ะ
ย้อนกลับมากลางบ้าน จากห้องน้ำจะผ่านประตูฝั่งลานจอดรถ ก่อนจะเจอกับบันไดและห้องเก็บของ
โถงบันไดมีความสูงโล่ง เหมาะกับการติดโคมไฟระย้าเพื่อสร้างบรรยากาศค่ะ
เมื่อขึ้นมาถึงชั้น 2 ระยะพื้นถึงฝ้าจะปรับเป็น 3 ม. โดยโถงกลางหน้าบันไดจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ให้เลือกจัดได้ทั้งมุมนั่งเล่นจุดที่ 2 หรือจะเป็นมุมทำงานก็มีพื้นที่เพียงพอ
Master Bedroom วางผังห้องเป็นตอนลึกจากหน้าบ้านถึงผลังบ้าน โดยโซนที่นอนสามารถวางเตียงได้ 6 ฟุต อยู่ติดกับระเบียงกว้างฝั่งหน้าบ้าน
ระเบียงนอกห้องมีพื้นที่กว้างพอสมควร สามารถจัดเป็นสวนเล็กๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้บ้านได้
ระเบียงห้อง Master Bedroom เมื่อมองจากภายนอก
ลึกเข้าไปฝั่งหลังบ้านจะเป็นพื้นที่ของ Walk - in Closet และห้องน้ำส่วนตัว
กลางห้องมีพื้นที่เหมาะกับการวางโต๊ะแป้ง ก่อนจะถัดเข้าไปเป็นตู้เสื้อผ้าแบบเข้ามุมขนาดใหญ่
ติดกับมุมตู้เสื้อผ้าจะเป็นห้องน้ำของ Master Bedroom ซึ่งมาพร้อมโถสุขภัณฑ์อัจฉริยะ สั่งการได้ด้วยรีโมต มาพร้อมอ่างล้างหน้าและเคาน์เตอร์กว้าง
ฝั่งอาบน้ำแบ่งส่วนเปียกไว้ สามารถติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมเองได้
ห้องนอน 2 - 3 จะอยู่ที่ปีกอีกฝั่งของบ้าน โดยห้องนอน 3 จะอยู่ฝั่งหลังบ้าน ส่วนห้องนอน 2 จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน
ห้องนอน 2 ทางฝั่งหน้าบ้านมีพื้นที่กว้างขวาง สามารถวางเตียงได้ตั้งแต่ 3.5 - 6 ฟุตแบบสบายๆ ส่วนในบ้านตัวอย่างวางเป็นเตียงไซส์เล็กจึงมีพื้นที่ให้วางโต๊ะทำงานเพิ่มได้ค่ะ
ถัดเข้าไปในห้องจะมีมุมสำหรับตู้เสื้อผ้า อยู่ติดกับทางเข้าห้องน้ำส่วนตัว
ห้องน้ำในห้องนอน 2 แบ่งพื้นโซนเปียกแบบเข้ามุมไว้ รองรับการติด Shower Box ได้ไม่ยาก
ห้องนอน 3 ทางฝั่งหลังบ้าน สามารถวางเตียงได้ประมาณ 5 ฟุตแบบกำลังดี แต่บ้านตัวอย่างเลือกจัดเป็นห้องพักผ่อน ครอบครัวที่มีสมาชิกในบ้านไม่เยอะ ก็สามารถเก็บไว้เป็นไอเดียได้นะคะ
ฝั่งปลายเตียงมีผนังให้ติดทีวีได้ และมีประตูทางเข้าห้องน้ำส่วนตัว
ห้องน้ำมาพร้อมชุดสุขภัณฑ์ครบครัน รวมถึงมีช่องแสงขนาดใหญ่ช่วยระบายอากาศและความชื้นอีกด้วย
และทั้งหมดนี้คือรีวิวบ้านตัวอย้่างทั้งแบบ Calm และ Captivate ที่ Home Buyers ได้ไปสัมผัสมา ต่อไปเราจะมารีวิวเรื่องทำเลโดยรอบกันบ้างนะคะ
Location
โครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ - ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่บน ถ.หอการค้าไทย ซึ่งสามารถเข้าออกได้ทั้งฝั่ง ถ.ชัยพฤกษ์ เพื่อเชื่อมต่อไป ถ.ราชพฤกษ์ หรือข้ามสะพานพระราม 4 ไปแจ้งวัฒนะ และอีกทางคือทะลุ ถ.345 เพื่อเชื่อมต่อไปวงแหวนกาญจนาภิเษก หรือข้ามสะพานนนทบุรีไปดอนเมือง
ถ.หอการค้าไทย เป็นแหล่งรวมโครงการบ้านหรูหลังใหญ่ของ จ.นนทบุรี เลยก็ว่าได้ โดยสภาพขอถนนและสองข้างทางมีความสวยงามจากต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น
ตอนกลางของ ถ.หอการค้าไทย มีร้านสะดวกซื้อ ร้านค้า และร้านอาหารครบครัน
ถ.หอการค้าไทย สามารถเข้าออกได้ทั้ง ถ.ชัยพฤกษ์ และ ถ.345 โดยทั้ง 2 เส้นทางสามารถเชื่อมต่อกับ ถ.ราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในถนนสายสำคัญของปริมณฑลโซนตะวันตก ที่ใช้เดินทางเข้าเมืองย่าน ปิ่นเกล้า เจริญนคร วงเวียนใหญ่ ไปจนถึง CBD สีลม สาทร ได้ค่อนข้างสะดวกโดยไม่ต้องใช้ทางด่วน
ถ.ชัยพฤกษ์ ยังเชื่อมต่อข้ามสะพานพระราม 4 ไปยัง ถ.แจ้งวัฒนะ และ ถ.งามวงศ์วาน ได้สะดวก ตอบโจทย์ผู้ที่ที่ทำงานโซนศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะและศูนย์ราชการนนทบุรี
ถ.แจ้งวัฒนะ ยังสามารถเชื่อมต่อกับ ถ.วิภาวดีรังสิต เพื่อเดินทางไปสนามบินดอนเมือง ม.เกษตรศาสตร์ และแหล่งงาน North CBD ย่านรัชโยธิน และ 5 แยกลาดพร้าวได้สะดวก
ไม่ไกลจากโครงการจะมีทางด่วนศรีรัช ด่านแจ้งวัฒนะ เป็นตัวเลือกในการเดินทางที่เร่งด่วน สามารถเดินทางเชื่อมต่อได้หลายจุดสำคัญในเมือง ไล่ตั้งแต่ บางซื่อ พระราม 6 อนุเสาวรีย์ชัยฯ ไปถึงพระราม 9 สยาม และสาทร
ในปี 2566 ที่จะถึงนี้ รถไฟฟ้าสายสีชมพูก็กำลังจะเปิดให้บริการ โดยสถานีที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็น สถานีห้าแยกปากเกร็ด ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นทางเลือกที่ดีในการเดินทาง รถไฟฟ้ายังเป็นอีกสิ่งชี้วัดความเจริญของพื้นที่ มีสิทธิที่จะช่วยให้มูลค่าที่ดินสูงขึ้นได้ด้วย
ด้านการจับจ่ายใช้สอย โดยรอบทำเลของโครงการเต็มไปด้วยศูนย์การค้าหลากหลายแห่ง โดยที่เพิ่งเปิดใหม่ล่าสุดไม่นานมานี้ก็คือ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์
อีกห้างที่เพิ่งเปิดใหม่ไม่นานมานี้ก็คือ โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ ซึ่งมาในคอนเซ็ปต์ใหม่ ไม่เป็นแค่ห้างค้าปลีก แต่รวมไลฟ์สไตล์ครอบครัวคนรุ่นใหม่ไว้อย่างครบครัน เป็นทางเลือกใหม่ในการช็อปปิ้งนอกเหนือจาก เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ, เซ็นทรัล เวสต์เกต และเดอะ มอลล์ งามวงศ์วาน ที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยดี
บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ - ประชาชื่น ยังมี รร.นานาชาติสิงคโปร์ นนทบุรี (SISB) เป็นเพื่อนบ้านบน ถ.หอการค้าไทย โดยโรงเรียนเตรียมจะเริ่มเปิดการสอนในปี 2566 นี้เเล้ว
อีกโรงเรียนนานาชาติที่อยู่ใกล้กับโครงการก็คือ รร.นานาชาติเด่นหล้า (DBS) ซึ่งตั้งอยู่บน ถ.ราชพฤกษ์ ติดกับ โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ ที่เราเพิ่งเล่าถึงกันไป
ด้านสุขภาพ โดยรอบโครงการก็มีสถานพยาบาลทั้งของภาพรัฐและเอกชนหลายแห่งพร้อมรองรับความต้องการกัน 24 ชม. ไม่ว่าจะเป็น รพ.ปากเกร็ด รพ.เวิลด์เมดิคอล รพ.เกษมราษฏร์ และ รพ.มงกุฎวัฒนะ
Price & Promotion
บ้านเดี่ยว บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ - ราชพฤกษ์ มีราคาเริ่มต้นดังนี้ค่ะ
- บ้านเดี่ยว Calm 237 ตร.ม. เริ่มต้น 9.99 ล้านบาท*
- บ้านเดี่ยว Shade 279 ตร.ม. เริ่มต้น 13.39 ล้านบาท*
- บ้านเดี่ยว Captivate 360 ตร.ม. เริ่มต้น 17.29 ล้านบาท*
*ราคา ณ เดือนพฤศจิกายน 2565
Conclusion
Design & Function ด้านงานดีไซน์ต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือฝั่งของพื้นที่ส่วนกลาง กับฝั่งตัวบ้าน โดยซุ้มประตูและคลับเฮาส์ที่ออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากยอดเขา Mont Blanc มีความสวยงาม โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนโครงการไหน น่าจะถูกใจคนที่ใส่ใจเรื่องความแตกต่างเวลาเลือกซื้อของได้ดี ส่วนฝั่งของตัวบ้าน ดีไซน์ ลา - ไน ซีรีส์ มีความเรียบหรู ดูโมเดิร์น เป็นสไตล์ที่เห็นได้จากบ้านสวยในต่างประเทศ น่าจะเหมาะกับคนที่สนใจในภาพลักษณ์ที่ดูสมาร์ต ทันสมัย แต่ก็ยังให้ความรู้สึกอบอุ่น ที่สำคัญคือมาพร้อมกับฟังก์ชันซึ่งรองรับสมาชิกทุกวัยในครอบครัวได้อย่างลงตัว
Facility สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางของโครงการมีความครบครัน ตอบโจทย์การใช้งานจริง ด้วยแบรนด์ SC Asset ที่ศึกษาจนเข้าใจความต้องการของคนอยากมีบ้านเป็นอย่างดีอยู่แล้ว โดยหนึ่งสิ่งที่เป็นจุดแข็งอย่างน่าพึงพอใจ คือระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา ชุด รปภ.มีจำนวนหลายคน ดูแลลูกบ้านได้อย่างทั่วถึง นอกจากนั้นยังมี CCTV โดยรอบโครงการ และที่สำคัญคือมีซุ้มประตูรักษาความปลอดภัยถึง 2 ชั้น ช่วยคัดกรองคนนอกที่จะเข้าไปในโซนพักอาศัยได้ดีทีเดียว เป็นสิ่งที่หลายคนน่าจะให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อการซื้อบ้านเป็นการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับครอบครัว
Location ทำเล ถ.ชัยพฤกษ์ และ ถ.345 เชื่อมต่อได้กับหลายเส้นทางหลักอย่างที่เราน่าจะคุ้นเคยกันดี ดังนั้นประเด็นเรื่อง Location ที่เป็นจุดเด่นสำคัญของโครงการก็คือการตั้งอยู่บน ถ.หอการค้าไทย ที่เป็นแหล่งรวมบ้านแบรนด์หรูจากบรรดาบริษัทพัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่ จึงทำให้สภาพแวดล้อมและสังคมโดยรอบของ บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ - ราชพฤกษ์ มีระดับ มีบรรยากาศที่สงบ เป็นระเบียบ และเป็นส่วนตัวสูง ใครที่ชอบบรรยากาศแบบนี้ จึงน่าจะถูกใจกับโครงการที่เรารีวิวจบไปพอสมควรเลนทีเดียว
สำหรับใครที่สนใจ ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายเยี่ยมชมโครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ - ราชพฤกษ์ สำนักงานขายเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 09.00 - 18.00 โทร 1794 หรือเว็บไซต์ www.scasset.com/th/house/bangkok-boulevard-chaengwatthana-ratchaphruek
การคำนวณยอดผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน
ปรับรายละเอียดด้านล่างเพื่อคำนวณยอดผ่อนชำระต่อเดือน