“เอสซี แอสเสท” เผยแผนธุรกิจระยะยาว 3 ปี เปลี่ยนตัวเองจากดีเวลลอปเปอร์ที่มองแค่เรื่องสินค้าและบริการ เป็น Living Solution Provider พัฒนาสินค้าตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ทำความเข้าใจจริงจังและออกแบบให้ตรงไลฟ์สไตล์ที่สุด เดินหน้าเปิด 19 โครงการใหม่รุกบ้านแนวราบขยายโซนและต่างจังหวัด

ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทวางแผนให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืนเพื่อให้ก้าวไปเป็น Living Solution Provider ที่สามารถทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ในหลากหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนซื้อบ้าน ผ่าน 4 กลยุทธ์ ดังนี้

1.Re-Invention เปลี่ยนวิธีคิดจากดีเวลลอปเปอร์ที่มองแค่สินค้าและบริการ เป็น Living Solution Provider เริ่มตั้งแต่การทำงานด้วยการนำระบบดิจิตอลและข้อมูลต่างๆ มาช่วยในการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า, การออกแบบสินค้า บริการ และโซลูชั่น โดยเริ่มจากทำความเข้าใจปัญหาในการใช้ชีวิตของลูกค้า และพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพในทุกระดับราคา
2.Co-Creation ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่หลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของผู้อาศัย โดยจะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ โดยมีโจทย์คือตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้า ซึ่งบริษัทเรียกแพลตฟอร์มนี้ว่า Rue Jai (รู้ใจ) เพื่อสร้าง Living Solution สำหรับการอยู่อาศัย
3.Quality First สร้างคุณภาพร่วมกับผู้รับเหมาและซัพพลายเออร์ ทั้งก่อนโอนกรรมสิทธิ์ โดยจะนำดีเฟคในงานก่อสร้างโครงการต่างๆ มาจัดอันดับ และแก้ปัญหาเพื่อลดความบกพร่องในการก่อสร้าง ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทใช้ระบบนี้มาต่อเนื่องหลายปีแล้ว และล่าสุดจะนำระบบ BIM หรือโมเดล 3 มิติมาใช้ในปีแรกและปี 2563 จะใช้ทั้งหมด BIM ทั้งหมด เพื่อช่วยลดความผิดพลาดจากการทำแบบ เพราะทุกทีมทำงานในโมเดลเดียวกัน ต้นทุนการก่อสร้างก็จะน้อยลง ส่วนหลังโอนกรรมสิทธิ์บริษัทก็ดูแลหลังการขาย ซึ่งตั้งบริษัท เอสซี เอเบิ้ล จำกัด มาช่วยซ่อมและดูแลบ้าน
4.Top Line Growth ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 3 ปี รวม 6 หมื่นล้านบาท รักษาความเป็นผู้นำตลาดบ้าน 8 ล้านบาท และเน้นทำตลาดต่ำกว่า 8 ล้านในปีนี้ รวมทั้งกระจายทำเลพัฒนาโครงการบ้านแนวราบจากเดิมพัฒนากรุงเทพฯ ตะวันตก จะกระจายไปโซนตะวันออกที่มีเรียลดีมานด์ รวมทั้งทำเลในต่างจังหวัดด้วย

ในส่วนของแผนการพัฒนาโครงการปีนี้ตั้งเป้าเปิด 19 โคงการใหม่ มูลค่า 19,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านแนวราบ 17 โครงการ มูลค่า 15,000 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 2 โครงการมูลค่า 4,000 ล้านบาท
สำหรับไฮไลท์ปีนี้บริษัทได้ซื้อที่ดินแปลงขนาดใหญ่เพื่อพัฒนาโครงการเป็นครั้งแรก เตรียมพัฒนาเป็นบ้านในรูปแบบ Township 2 แปลง 2 ทำเล คือโซนกรุงเทพกรีฑา 115 ไร่ คาดว่าจะพัฒนาได้ 5 โครงการย่อย และโซนบางกระดี ปทุมธานี 200 ไร่ คาดว่าจะพัฒนาได้ 7 โครงการ โดยในปีนี้จะเริ่มต้นพัฒนาก่อน 2 โครงการ (ทำเลละ 1 โครงการ) ซึ่งจะเปิดตัวทาวน์โฮมแบรนด์เวิร์ฟ ราคาเริ่มต้นประมาณ 2 ล้านบาท และเวนิว ราคาเริ่มต้นประมาณ 3 ล้านบาท โดยจะมีการพัฒนาสินค้าฟังก์ชั่นใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้นด้วย เช่น บ้านคนโสด บ้านหรือคอนโดสำหรับผู้หญิง
"ปีนี้เราจะตั้งทีมโปรดักต์ดีไซน์และอินโนเวชั่น เราจะไปทำความรู้จักดีมานด์ว่าต้องการอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นบ้านคนโสด บ้านแฝดรูปแบบใหม่ เลดี้ลุคส์ (บ้านสำหรับผู้หญิง) ซึ่งทีมนี้จะพัฒนาใหม่มาเรื่อยๆ และทะยอยเอาไปใช้ในโครงการที่เราเปิด" ณัฐพงศ์กล่าว


นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมอีก 2 โครงการใหม่ คือเซ็นทริค รัชโยธิน บนถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้า ในเดือนมีนาคม ราคาเริ่มต้น 3.7 ล้านบาท และเดอะ เครสท์ สุขุมวิท 23 ซึ่งจะเปิดตัวในช่วงปลายปี

ทั้งนี้แผนพัฒนาคอนโดมิเนียมหลังจากนี้บริษัทได้ตั้งบริษัท สโคป จำกัด ซึ่งเอสซีฯ ถือหุ้น 90% ร่วมกับยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียมรวม 10 โครงการในระยะ 3 ปี โดยจะเปิดตัวโครงการแรกคือการพัฒนาที่ดินบนถนนหลังสวน ซึ่งจะเปิดขายประมาณต้นปีหน้า
เรียบเรียงโดย : มาลิลี พรภัทรเมธา
อีเมล : malilee@home.co.th
ติดตามข่าวสารอสังหาฯและข่าวดังในกระแส www.home.co.th/news
ติดตามข้อมูลโครงการและความเคลื่อนไหวด้านอสังหาฯ www.home.co.th และ www.facebook.com/Homebuyersfanpage