BAM เปิดตัว “บ้านสวนสุขใจ” เอาใจวัยเกษียณ-คนรักธรรมชาติ

    ทองอุไร ลิ้มปิติ ประธานกรรมการ บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM กล่าวว่า โครงการบ้านสวนสุขใจเป็นโครงการต้นแบบสำหรับผู้สูงอายุใช้พักอาศัยในวัยเกษียณ ซึ่งในอนาคตประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ คือ มีประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 10% ของประชากรทั้งหมด คาดว่าในปี 2573 ประเทศไทยจะมีจำนวนผู้สูงอายุ 17.6 ล้านคน หรือประมาณ 26.3% (ข้อมูลจาก: รายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุ พ.ศ.2556 โดย มูลนิธิพัฒนางานผู้สูงอายุ)

ทั้งนี้ BAM จึงมีแนวคิดพัฒนาโครงการบ้านสวนสุขใจ สำหรับการอยู่อาศัยในรูปแบบใหม่ “สังคมเมืองแบบชนบท” เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการอยู่อาศัยใกล้ชิดธรรมชาติในทำเลเขตเมือง 

สำหรับโครงการบ้านสวนสุขใจ เป็นการนำที่ดินเปล่าหรือบ้านเดี่ยวของ BAM มาพัฒนาในคอนเซ็ปท์การอยู่อาศัยสำหรับวัยเกษียณ ซึ่ง BAM มีที่ดินเปล่าและบ้านเดี่ยวทั่วประเทศมีจำนวน 3,500 แปลง เช่น ที่ดินเปล่าในโครงการเมาท์เทนวิว เขาใหญ่ ราคาพิเศษ เริ่มต้น 7,125 บาท/ตร.ว. , บ้านสวนรีสอร์ท (คลอง 5) อ. คลองหลวง จ. ปทุมธานี (141 แปลง) ราคาพิเศษ เริ่มต้น 4,500 บาท/ตร.ว., บ้านเดี่ยวในโครงการชัยพฤกษ์ บางบัวทอง จ. นนทบุรี ขนาดที่ดิน 80.9 ตร.ว. ราคา 5.72 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวในโครงการเศรษฐศิริ ถ. ปัญญารามอินทรา กรุงเทพฯ ขนาดที่ดิน 82.80 ตร.ว. ราคาเริ่มต้น 6.6 ล้านบาท

    “ใครที่สนใจไอเดียนี้สามารถเข้าไปเลือกแปลงที่ดินในทำเลที่ต้องการบนเว็บไซต์ BAM และติดต่อมาได้เลยค่ะ เราให้คำปรึกษาได้ แนะนำได้ ตัวโครงการจะเน้นพื้นที่สวน บ้านไม่ต้องใหญ่มาก แค่พออยู่อาศัย จะได้ไม่ต้องดูแลมาก ใช้พื้นที่ในการปลูกต้นไม้และทำการเกษตรดีกว่า ซึ่งตอนนี้เรามีที่เปล่าหลายแปลงรองรับการทำบ้านคอนเซ็ปท์นี้ ขนาดที่ดิน 100 ตร.ว. ก็สามารถสร้างได้แล้ว” ทองอุไร กล่าว

โครงการบ้านสวนสุขใจ โครงการต้นแบบแห่งแรก ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเมืองเอก จ.ปทุมธานี มีขนาดที่ดินรวมประมาณ 1 ไร่ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสวน และพื้นที่สำหรับทำเกษตรกรรมทั้งเลี้ยงไก่, เลี้ยงปลา, ปลูกผัก และสร้างที่อยู่อาศัยแบบประยุกต์ด้วยการผสมผสานระหว่างการเกษตรอินทรีย์ที่เน้นเรื่องสุขภาพ รวมกับเทคโนโลยีต่างๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบจัดการที่ทันสมัย ด้วยการนำเทคโนโลยี Smart Home และ Smart Farm มาใช้บริหารจัดการ ออกแบบบ้านปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ มีทางลาดสำหรับใช้รถเข็น ประตูกระจกบานเลื่อน ระบบกล้อง CCTV ในตัวบ้าน สามารถดูความเคลื่อนไหวผ่านแอพพลิเคชั่นสมาร์ทโฟนได้เลย รวมทั้งการสั่งเปิด-ปิดไฟ, แอร์ และสปริงเกอร์อัตโนมัติ อีกด้วย 

นอกจากนี้ยังเน้นเรื่องการประหยัดพลังงานด้วยการนำพลังงานจากแสงอาทิตย์ผ่านแผงโซล่าเซลล์มาใช้ เพื่อเป็นแหล่งพลังงานสำหรับระบบเปิด-ปิดปั๊มน้ำสำหรับรดน้ำต้นไม้ ตั้งเวลาเปิด-ปิดน้ำได้อัตโนมัติผ่านสมาร์ทโฟน สร้างความสะดวกสบายสำหรับการอยู่อาศัย 

ส่วนรายละเอียดตัวบ้าน รูปแบบเป็นบ้านสำเร็จรูปใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 19 วัน สำหรับบ้านตัวอย่างในแปลงโครงการต้นแบบที่เมืองเอก ราคาประมาณ 6 แสนบาท พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน 37.20 ตร.ม. พื้นที่ระเบียงโดยรอบ 26.70 ตร.ม. รวมพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 63.60 ตร.ม. ส่วนแบบบ้านอื่นๆ ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.5 แสนบาท 

เรียบเรียงโดย : มาลิลี พรภัทรเมธา
อีเมล : malilee@home.co.th