ได้ฤกษ์วันศุกร์ที่ 9 เดือนพฤศจิกายน 2561 สำหรับการเปิดบริการ "ไอคอนสยาม" ศูนย์การค้าระดับหรู จาก 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ สยามพิวรรธน์ เจ้าของสยามเซ็นเตอร์, สยามพารากอน, สยามดิสคัฟเวอรี, MQDC แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (วันที่ 9 เดือนพฤศจิกายน 2561 จะเป็นการเปิดรอบสำหรับแขกที่ได้รับเชิญพิเศษ และสื่อมวลชน สำหรับประชาชนทั่วไปจะสามารถเข้าใช้บริการได้วันที่ 10 พฤศจิกายน 2561)
"ไอคอนสยาม" เป็นโครงการแลนด์มาร์กยิ่งใหญ่ระดับโลกในกรุงเทพฯ มูลค่า 5.4 หมื่นล้านบาท สร้างขึ้นบนที่ดิน 55 ไร่ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มีพื้นที่ติดริมแม่น้ำยาว 400 เมตร และพื้นที่ภายในอาคารกว่า 750,000 ตารางเมตรประกอบด้วยอาณาจักรศูนย์การค้าที่หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของโลก 2 อาคาร และคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซูรีริมฝั่งแม่น้ำ 2 อาคาร สูง 70 ชั้น และ 52 ชั้น
สุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า การเปิดไอคอนสยามเป็นการพลิกโฉมรูปแบบการพัมนาโครงการใหม่ๆ ในคอนเซ็ปต์ "การสร้างประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย" หรือ Creating Shared Value และ "การร่วมกันรังสรรค์" หรือ Co-Creation มีการรวมทั้งศิลปะและวัฒนธรรม การช้อปปิ้งและความบันเทิงเข้าไว้ด้วยกัน
ทั้งนี้ไอคอนสยามจะเปิดประตูอภิมหาโครงการเมืองแห่งนี้ด้วยความมหัศจรรย์ที่เป็น "ครั้งแรก" อาทิ ไอคอนนิกสโตร์สุดอลังการจำนวน 14 แบรนด์ และอีกหลากหลายสโตร์จากแบรนด์ที่พรีเมี่ยมที่สุดของโลกมารวมตัวกันอยู่ในที่เดียวอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยแบรนด์ที่เป็นสุดยอดความหรูหราระดับโลกจำนวนหนึ่งจะอยู่ในอาคาร "ไอคอนลักซ์" (ICONLUXE) ซึ่งมีพื้นที่ 25,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นอาคารกระจกโครงสร้างไร้เสาที่ยาวที่สุดในโลก รูปทรงคล้ายกระทงแก้ว
เพื่อให้ไอคอนสยามกลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ที่ใส่ใจรายละเอียดจากร้านค้าและผู้ประกอบการกว่า 500 ราย ตั้งแต่สุดยอดแบรนด์ของไทยไปจนถึงลักซูรีแบรนด์จากต่างประเทศที่ออกแบบร้านให้มี Story Telling สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักช้อปฯ อย่างแน่นอน โดยจะมีแบรนด์รวมมากกว่า 188 แบรนด์ชั้นนำที่เป็นแบรนด์และคอนเซ็ปต์ใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอนเซ็ปต์ Icons within Icon ซึ่งจัดให้ลักชูรี่แบรนด์มีพื้นที่ของตนเองในรูปแบบ Duplex Mansion อยู่ภายในอาคารไอคอนลักซ์ซึ่งจะทำให้สามารถมีสินค้าที่ครบครันและมีบริการพิเศษอีกด้วย
นอกจากนั้นยังมีแบรนด์ไลฟ์สไตล์ชื่อดังอีกมากมายมาร่วมกันนำเสนอคอนเซ็ปต์ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
- Adidas เปิด Adidas Original Store ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
- JD Sports ร้านแฟชั่นกีฬาชื่อดังจากประเทศอังกฤษ เปิดร้านแรกในประเทศไทย
- Nike เปิด Nike Kicks Lounge แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำเสนอสินค้าที่แตกต่างจาก Nike Store อื่นๆ
- ALAND ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์คอนเซ็ปต์สโตร์
- COS เปิดแฟล็กชิปสโตร์แฟชั่นแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับทั้งผู้หญิงผู้ชาย
- นารายา เตรียมพร้อมที่จะเปิดร้านดูเพล็กซ์ไอคอนนิกสโตร์ของตัวเองที่ไอคอนสยาม
- H&M เตรียมพร้อมเปิดอาคารของตัวเองในรูปแบบ Triplex Store 3 ชั้นสุดอลังการเป็นครั้งแรก
- ทาคาชิมายะ ห้างสรรพสินค้าระดับตำนานที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงจากประเทศญี่ปุ่น ก็จะเปิดสาขาแรกในประเทศไทยที่ไอคอนสยามขนาด 36,000 ตร.ม. โดยจะนำ 170 แบรนด์ในทุก Category รวมถึงอาหารและขนมจากญี่ปุ่นที่ไม่เคยมีจำหน่ายในประเทศไทยมาก่อนมานำเสนอด้วย
อีกทั้งไอคอนสยามจะนำเสนอสุดยอดประสบการณ์ของการกินดื่มใน 7 บรรยากาศที่แตกต่างกันไปในแต่ละโซน นับตั้งแต่ร้านอาหาร Fine Dining ซึ่งแต่ละร้านมี Terrace ชมวิวแม่น้ำ จนถึงอาหารยอดนิยมของไทยซึ่งหาชิมได้ยาก รวมถึง Roof-top Bars ที่สามารถดื่มด่ำกับความงดงามของฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อีกทั้งยังมีภัตตาคารชื่อดังจากต่างประเทศ อาทิ Harbour จากไต้หวัน และภัตตาคารอาหารทะเลชื่อดังจากสิงค์โปร์อย่าง Jumbo Seafood ซึ่งเข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทยเป็นครั้งแรกอีกด้วย Fitness Firs คลับเพื่อสุขภาพซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุดของประเทศไทย และมีสาขามากกว่า 29 สาขา ก็จะมาเปิดคลับระดับหรูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมสระว่ายน้ำกลางแจ้งซึ่งจะเป็นแฟล็กชิปที่ให้บริการพิเศษแตกต่างจากสาขาอื่นๆ โดยเตรียมงบ 1 พันล้านบาท เพื่อเปิดเมืองไอคอนสยามและเชิญผู้สื่อข่าวจากทั่วโลกมาเยี่ยมชม
"ไอคอนสยามจะเป็นอภิมหาโครงการเมืองที่นำเสนอความภาคภูมิใจในความเป็นไทย และเป็นแพลตฟอร์มที่จะช่วยส่งเสริมและผลักดันแบรนด์ไทย สินค้าไทย ศิลปินไทย งานฝีมือไทย และศิลปวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลกด้วยการทุ่มเทลงทุนอย่างเต็มที่เพื่อให้มั่นใจว่าไอคอนสยามจะเป็นที่ชื่นชม และสะกดทุกสายตาโลกไอคอนสยามได้ร่วมมือกับชุมชนโดยรอบและกลุ่มธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมดที่จะช่วยกันทำให้แม่น้ำสาย นี้เป็น The Next Global Destination ที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวนับแสนจากทั่วประเทศไทยและทั่วโลก พร้อมกับสร้างมาตรฐานใหม่เหนือความคาดหมายจากพลังของหัวใจไทย" สุพจน์กล่าว
สำหรับในส่วนอาคารที่พักอาศัยสุดหรู 2 อาคาร ภายในโครงการไอคอนสยาม "วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ กล่าวว่า "แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์" ซึ่งมีความสูง 70 ชั้น มีห้องพักอาศัย 379 ยูนิต ตอนนี้ก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 90% ส่วนโครงการ "เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ" ที่สุดแห่งความหรูหราระดับอัลตร้าลักซูรี ความสูง 52 ชั้น จำนวน 146 ยูนิต ขณะนี้เสร็จสมบูรณ์ไปแล้วกว่า 80% โดยทุกห้องพักอาศัยสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา
เรียบเรียงโดย : มาลิลี พรภัทรเมธา
อีเมล : malilee@home.co.th
ติดตามข่าวสารอสังหาฯและข่าวดังในกระแส www.home.co.th/news
ติดตามข้อมูลโครงการและความเคลื่อนไหวด้านอสังหาฯ www.home.co.th และ www.facebook.com/Homebuyersfanpage
หรือชมวิดีโออื่นๆ คลิกที่นี่ www.home.co.th/vdo , www.youtube.com/tvhomebuyer
