OKA HAUS สุขุมวิท 46 ... ใช้ชีวิตแบบเต็มที่และกลับมาพักผ่อนชาร์จพลังให้สุด

OKA HAUS โครงการภายใต้แบรนด์ HAUS จาก Sansiri พัฒนาด้วยแนวคิด Slow Life หรือการใช้ชีวิตอย่างสมดุล ละเมียดละไม พร้อมแนวคิด Eco-Living หรือการใช้ชีวิตที่ใกล้ชิดธรรมชาติสร้างความสมดุลท่ามกลางความเร่งรีบในเมืองใหญ่

โครงการนี้เป็น High-Rise คอนโดมิเนียม 47 ชั้น 1 อาคาร 1,178 ยูนิต ประกอบด้วยห้องขนาด 1 - 3 ห้องนอน พื้นที่ตั้งแต่ 26.50 - 86.50 ตร.ม. ที่จอดรถคิดเป็น 50% ของยูนิตทั้งหมด ตั้งอยู่ที่ถนนพระราม 4 เชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิท เป็นอีกหนึ่งย่าน CBD เชื่อมต่อไปยังทองหล่อ อโศก และสีลม

แม้จะใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย แต่โครงการก็ยังคงความสงบและเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการพักผ่อนคงคอนเซ็ปต์ Slow Life และ ECO Living ของแบรนด์ HAUS จาก Sansiri ค่ะ

Eco Living

โครงการนี้ให้ความสำคัญกับต้นไม้และธรรมชาติ จะเห็นได้ว่าพื้นที่ต่างๆ ต่างทั้งภายใน ภายนอกจะมีการดึงพื้นที่สีเขียวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในอาคาร ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สวนทั้งที่ชั้น 1 ชั้น 8 และ Rooftop ชั้น 47

ในแง่ของการใช้งาน ทางโครงการยังมี Bay Window พร้อมหน้าต่างแบบเต็มบานพื้นถึงฝ้า และมีระบบ Air Ventilation System นวัตกรรมหมุนเวียนอากาศภายในห้องพัก ช่วยให้อากาศหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นหลักการณ์ของ Sustainable Design หรือการออกแบบอย่างยั่งยืน

Urban Lifestyle

ชีวิตไลฟ์สไตล์ของคนเมืองในปัจจุบันมักมีแต่ช่วงเวลาที่เร่งรีบ จะดีแค่ไหนถ้ากลับมาถึงที่พักแล้วได้เอนกายใช้เวลาอยู่กับตัวเองท่ามกลางธรรมชาติ ในบรรยากาศที่แสนผ่อนคลายและวิวเมืองมุมสูง บอกเลยว่าที่โครงการ OKA HAUS นั้นมีครบค่ะ

“Oka” ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “ภูเขา” “โอกะ เฮาส์” (OKA HAUS) จึงออกแบบในสไตล์ Urban Resort Condominium ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Retreat and Rebound” สร้างเอกลักษณ์ให้ตัวอาคารโดดเด่น แต่กลมกลืนไปกับธรรมชาติที่รายล้อม ผสมผสานความร่มเย็นของพื้นที่สีเขียวกับการใช้ชีวิตแบบ Slow Life ละเมียดละไมไปกับธรรมชาติ รวมทั้งพื้นที่ส่วนกลางก็ตอบโจทย์การพักผ่อนอย่างแท้จริง

Play Space

พื้นที่ส่วนกลางแรกที่อยากแนะนำคือบริเวณ Play Space ซึ่งอยู่เยื้องๆ กับล็อบบี้ในโครงการ พื้นที่ส่วนนี้ทาง Sansiri ได้จับมือกับรพ.สมิติเวชร่วมออกแบบพื้นที่ Educational Playground หรือสนามเด็กเล่นสำหรับเด็กที่จะช่วยช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือถ้าเป็นหนุ่มสาววัยทำงานก็สามารถมานั่งเล่นคิดงานเพลินๆ ในสวนสีเขียวนี้ได้

Welcome Lounge

ที่ล็อบบี้ได้รับแรงบันดาลใจในการตกแต่งจากหุบเขาซึ่งเกิดการกัดเซาะของช่องลม จนเกิดเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนสบายๆ และแต่ละพื้นที่ยังจัดแยกเป็นสัดส่วนอย่างลงตัว

Swimming Pool

ไฮไลท์ของโครงการคือสระว่ายน้ำที่ชั้น 8 ซึ่งนอกจากจะมี Peace Pool ที่ยาวถึง 40 เมตรแล้ว ยังมี Leisure Pool หรือสระว่ายน้ำระบบธาราบำบัดด้วย แถมด้วยทิวทัศน์เมืองแบบพานอรามา ให้คพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม

Leisure Pool เป็นสระว่ายน้ำระบบธาราบำบัดเต็มรูปแบบแห่งแรกของ Sansiri กล่าวได้ว่าใครที่เป็น Office Syndrome ต้องถูกใจแน่นอน เพราะประกอบไปด้วย

• Bubble Pool สำหรับนวดเท้า
• Massage Seat นวดหลังและต้นขา
• Water Curtain นวดไหล่และหลัง
• Walking Corridor ช่วยด้านการทรงตัว
• Spa Bed นอนนวดผ่อนคลายระหว่างแช่น้ำ
• Heated Pool แช่น้ำอุ่นผ่อนคลายความเมื่อยล้า

Sky Lounge

จากชั้น 8 ขึ้นมาชมวิวที่ชั้น 47 กันค่ะ ที่ชั้นนี้เป็นพื้นที่ Sky Lounge มีทั้งส่วน Retreat Room, Co-Working Space, Co-Kitchen และ Farmshelf ที่ลูกบ้านสามารถนำพืชผักจากบริเวณนี้ไปใช้เป็นวัตถุดิบทำครัวได้

Sunset Deck

ขึ้นมาที่ชั้น Rooftop จะพบกับลานขนาดใหญ่ลดหลั่นเล่นระดับ ที่ Sunset Deck แห่งนี้ ลูกบ้านสามารถขึ้นมาชมวิวพระอาทิตย์ตกเคียงคู่โค้งน้ำบางกระเจ้า เป็นวิวสุดพิเศษที่จะทำให้ประทับใจไม่รู้ลืม

Sky Cinema

เมื่อพระอาทิตย์ลับไปก็เป็นช่วเวลาแห่งความสนุก ซึ่งทางโครงการได้เตรียมพื้นที่ Sky Cinema เพลิดเพลินกับการชมภาพยนตร์เอาท์ดอร์ที่ชั้น Rooftop

Smart Living

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเทคโนโลยี Smart Living เพื่อตอบโจทย์แนวคิดการใช้ชีวิตใหม่ ควบคุมทุกสิ่งง่ายๆ ด้วยปลายนิ้วสัมผัส เช่น

• Smart Access บริเวณล็อบบี้ มี VDO Door Phone & Digital Door Lock สามารถเปิดรับเพื่อนสนิทหรือคนใกล้ตัวได้ เพียงส่ง QR Code ปลดล็อคประตูหน้าโครงการ

• Smart Facilities มอบความสะดวกในการใช้บริการผ่านระบบออนไลน์ เช่น Facilities Booking จองสิทธิ์ใช้งานพื้นที่ส่วนกลางผ่านมือถือ พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาจอง Smart Mail Box ระบบแจ้งเตือนรับจดหมายหรือพัสดุผ่าน QR Code Smart Locker แจ้งเตือนเวลามีพัสดุมาส่งผ่าน และรับของได้ตลอด 24 ชั่วโมง และ  EV Charger จุดบริการชาร์จแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 

Smart Unit ภายในห้องพักอาศัย มีระบบ Home Automation ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องผ่าน Application และ Touchpad ชีวิตสบายขึ้นด้วยปลายนิ้วผ่านจอสัมผัส ทำหน้าที่ควบคุมระบบต่างๆ ภายในห้อง หรือเชื่อมต่อ VDO Door Phone ที่ล็อบบี้, นิติบุคคล เช็คสถานะ Mail Box จองใช้บริการส่วนกลาง และเช็คค่าน้ำค่าไฟ เป็นต้น

Bedroom

OKA HAUS มีห้องพักให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ เริ่มตั้งแต่พื้นที่ 26.50 - 86.50 ตร.ม. แบ่งเป็นห้องแบบ 1 Bedroom, 2 Bedroom และ 3 Bedroom ราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท

ทางโครงการขายแบบ Fully Fitted มีเครื่องครัว สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์บิลด์อินบางส่วนให้ ทั้งนี้ถ้าลูกค้าสนใจสไตล์การตกแต่งแบบห้องตัวอย่างก็สามารถซื้อ Furniture Package เพิ่มเติมได้

อีกหนึ่งความพิเศษคือระบบ Air Ventilation System นวัตกรรมระบบหมุนเวียนอากาศภายในห้องพัก โดยเป็นการเพิ่มการระบายอากาศในห้องได้มากขึ้นถึง 60% ให้อากาศบริสุทธิ์เข้าไปแทนที่ลดความชื้นและความร้อนสะสม รวมถึงการออกแบบภายในห้องพักแบบ Bay Window พร้อมหน้าต่างแบบ Full Height เปิดรับมุมมองได้ 180 องศา ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกและปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนตามไลฟ์สไตล์

ห้องขนาด 34.75 ตร.ม. จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ให้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าพร้อมที่ดูดควันพร้อม และยังแบ่งพื้นที่ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องนอนอย่างเป็นสัดส่วน
หน้าต่างในทุกยูนิตของโครงการนี้เป็นแบบพื้นถึงฝ้าต็มบาน ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติได้ดี และทำให้ห้องกว้างขึ้นด้วย

ถัดมาในส่วนห้องนอนก็สามารถวางเตียงควีนไซส์ได้แบบสบายๆ และยังมีพื้นที่เหลือพอสำหรับมุมนั่งทำงานหรือมุมพักผ่อนเล็กๆ ในห้องนอนได้