HomeBuyersHomeHug

เลือกแบบบ้านสำหรับสร้างบ้านเอง

เลือกแบบบ้านสำหรับสร้างบ้านเอง

หลายครั้งมีคนสงสัยว่าถ้าอยากจะสร้างบ้านเอง เเล้วนำแบบบ้านฟรีจากหน่วยราชการมาสร้าง สามารถนำไปสร้างเองได้เลยมั้ย? เเล้วแบบตามหนังสือล่ะ สร้างได้หรือเปล่า? นั่นสิ..สรุปแล้วมันเป็นอย่างไรกันเเน่?

ถ้าว่ากันตามกฎหมายแล้ว การจะสร้างบ้านสักหลังก็ต้องยื่นขออนุญาตก่อสร้างจากหน่วยราชการ (ยกเว้นพื้นที่ที่ไม่ถูกกำหนดเป็นเขตควบคุม ซึ่งเกือบจะไม่มี) ซึ่งเรื่องการยื่นขออนุญาตก่อสร้างก็จะต้องมีแบบขออนุญาตก่อสร้าง รวมถึงเอกสารต่างๆ ตามที่กฎหมายควบคุมอาคารกำหนดด้วยนะจ๊ะ

สิ่งที่ต้องมีคือการระบุว่าใครเป็นสถาปนิกผู้ออกแบบ ใครคือวิศวกรผู้คำนวณโครงสร้างที่รับรองรายการคำนวณ และต้องมีวิศวกรผู้ควบคุมงานระหว่างการก่อสร้าง ยิ่งถ้าเป็นบ้านขนาดใหญ่ มีงานระบบที่ซับซ้อน จะต้องมีวิศวกรงานระบบเป็นผู้ออกแบบร่วม ดังนั้นจะเห็นว่าต้องมีเอกสารประกอบรับรองหลายรายการจึงจะได้รับใบอนุญาตก่อสร้าง

แล้วเรื่องแบบบ้านขออนุญาตก่อสร้างเราเอามาจากไหนได้บ้าง?

? แบบบ้านเเจกฟรีของราชการ

ถือเป็นกรณียกเว้น ไม่ต้องขออนุญาต สำหรับแบบบ้านแจกฟรีของทางราชการ ได้แก่ ของกรมโยธา และของ กทม. สามารถนำแบบไปยื่นเรื่องขออนุญาตก่อสร้างได้ แต่ต้องมีแบบผังที่ดินแสดงระยะร่นของตัวบ้านว่าถูกต้องตามข้อกำหนดกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องมีวิศวกรควบคุมการก่อสร้างด้วย แบบนี้ก็จะช่วยประหยัดงบประมาณในการว่าจ้างสถาปนิกและวิศวกรลงได้ เเต่ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของเราด้วยว่าจะชอบมั้ย เพราะแบบที่แจกฟรีจะเป็นแบบที่ไม่ซับซ้อนมาก จะได้ประหยัดเวลานำไปก่อสร้าง

? แบบบ้านแจกฟรีที่แจกกันทางอินเทอร์เน็ต

แบบบ้านยอดฮิตที่หลายคนชื่นชอบส่วนใหญ่นั้นมาจากอินเทอร์เน็ต รูปแบบแจกฟรี เเต่ความจริงแล้วคือการแจกรูปแบบของตัวบ้านเท่านั้น ยังไม่สามารถนำไปยื่นขออนุญาตก่อสร้างได้ เพราะขาดรายละเอียดอีกมาก แต่ถ้าชอบแบบบ้านดังกล่าวจริงล่ะก็ ต้องไปติดต่อเจ้าของแบบนั้นเพื่อซื้อเพิ่ม เเน่นอนว่าจะมีค่าใช้จ่ายเรื่องการรับรองของสถาปนิกและวิศวกรสำหรับการนำไปยื่นขออนุญาตก่อสร้างด้วย ราคาก็สูงเอาการอยู่

อีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ชอบเเบบเเจกฟรีในอินเทอร์เน็ตก็คือนำแบบบ้านมาดัดแปลงและปรับแก้ไข หาสถาปนิกเซ็นแบบให้ใหม่ก็จะช่วยประหยัดงบลงได้ 

? แบบบ้านตามหนังสือ

อีกกรณีหนึ่งคือซื้อหนังสือแบบบ้านต่างๆ ที่มีขายมาแล้วเกิดถูกใจ อันนี้ก็ต้องติดต่อไปยังเจ้าของแบบบ้านในหนังสือเช่นกัน เพื่อขอซื้อแบบบ้านที่สมบูรณ์ รวมถึงเอกสารสำหรับการยื่นขออนุญาตก่อสร้าง เเต่แบบนี้ก็ยังประหยัดกว่าการว่าจ้างทีมออกแบบ 

? ว่าจ้างออกแบบ

ส่วนวิธีสุดท้ายคือการว่าจ้างทีมออกแบบซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าวิธีที่กล่าวมาแล้ว แต่ก็จะได้แบบบ้านตรงกับความต้องการครบถ้วนสมบูรณ์ เพราะสถาปนิกจะเริ่มจากการสอบถามเพื่อทราบแนวคิดและความต้องการของเจ้าของบ้านว่าต้องการบ้านลักษณะใด พื้นที่ใช้สอยจะเป็นแบบไหน รวมถึงรายละเอียดและคุณภาพของวัสดุที่ต้องการระดับไหน ตัวอย่างเช่น พื้นไม้ปาร์เกต์ จะใช้ไม้เนื้อแข็งธรรมดา หรือไม้แดง ไม้มะค่า ประตูหน้าต่างจะเป็นไม้หรือกระจก การเลือกหลังคาใช้กระเบื้องเกรดไหน โดยค่าใช้จ่ายสำหรับการออกแบบรวมทั้งงานวิศวกรรมด้วยประมาณ 3-5 % ของราคาค่าก่อสร้าง แล้วแต่การเจรจา

ตอบคำถามกันไปแล้วว่าแบบบ้านไหนสามารถใช้ได้เลย แล้วแบบไหนต้องไปปรับแก้กันก่อน ส่วนจะเลือกแบบไหนคงต้องขึ้นอยู่กับงบและความพอใจของเราเเล้ว

ติดตามข่าวสารอสังหาฯและข่าวดังในกระแส www.home.co.th/news

ติดตามข้อมูลโครงการและความเคลื่อนไหวด้านอสังหาฯ www.home.co.th และ www.facebook.com/Homebuyersfanpage

หรือชมวิดีโออื่นๆ คลิกที่นี่  www.home.co.th/vdo  , www.youtube.com/tvhomebuyer

ไม่อยากหาเอง ให้เราช่วยไหม ?

ขั้นตอนที่ 1 จาก 2

แค่ระบุสิ่งที่ต้องการ ที่เหลือเป็นหน้าที่เรา
ความต้องการ *
ประเภทอสังหาฯ *
ที่ตั้ง *
ประเภทอสังหาฯ *
ช่วงราคา (บาท)

-

ไม่อยากหาเอง ให้เราช่วยไหม ?

แค่ระบุสิ่งที่ต้องการ ที่เหลือเป็นหน้าที่เรา

ความต้องการ *
ประเภทอสังหาฯ *
ประเภทอสังหาฯ *
ที่ตั้ง *
ช่วงราคา (บาท)

-

ข้อมูลการติดต่อกลับ?

เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถแนะนำคุณได้สามารถเพิ่มช่องทางติดต่อได้เลย

ชื่อ
เบอร์โทรศัพท์ *

บทความแนะนำ

บทความที่เกี่ยวข้อง