ลุมพินี วิลล์ จรัญ-ไฟฉาย ห้องใหญ่ สะดวกสบายในการใช้ชีวิต ติดถนนใหญ่ ใกล้ MRT

และยังเป็นโครงการที่ให้ห้องขนาดใหญ่ ซึ่งมีหลากหลายขนาดให้เลือก ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็น First Jobber, คู่รักเพิ่งแต่งงาน หรืออยากได้ที่พักอาศัยแบบส่วนตัว ไม่ไกลจากครอบครัวในพื้นที่ใกล้เคียง ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 1 ล้านกว่าๆ ก็สามารถที่จะมีที่พักอาศัยแบบครบทุกฟังก์ชัน พอดีที่ดีกว่าในทุกๆ ด้านของการใช้ชีวิต

Highlight

คอนโด High Rise ใหม่ ห้องใหญ่ มีขนาดห้องหลากหลายให้เลือก โดยมีขนาดเริ่มต้นที่แบบห้อง STUDIO 25 ตร.ม.ไปจนถึง 2 Bedroom 44 ตร.ม. และมีการออกแบบพื้นที่ได้อย่างลงตัว ได้ความเป็นส่วนตัว เหมาะกับการอยู่อาศัยและพักผ่อนอย่างแท้จริง

ฟังก์ชันห้องลงตัว ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ภายในห้องมีพื้นที่ใช้สอยที่ครบ จัดวางเฟอร์นิเจอร์ มุมต่างๆ ได้ง่าย อยู่สบายด้วยความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานสูงสุดถึง 2.6 ม.

ผ่อนคลายด้วยพื้นที่สีเขียวรอบโครงการ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน บรรยากาศภายในโครงการมีความร่มรื่น เพราะมีสวนธรรมชาติรายล้อมรอบโครงการหลายจุด ทั้งสวนแบบ On Ground และแบบลอยฟ้า กระจายอยู่ตามตึกต่างๆ นอกจากนี้ก็ยังมีทั้ง โซน Fitness, Sky Lounge, สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย

ทำเลดี ติดถนนจรัญสนิทวงศ์ ใกล้ MRT 2 สถานี ที่ตั้งของโครงการอยู่ในย่านที่เดินทางสะดวก ทั้งเรื่องของเส้นทางหลักอย่าง ถ.จรัญสนิทวงศ์ สามารถเชื่อมต่อกับ ถ.พรานนก, ถ.อิสรภาพ ที่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก และหน่วยงานราชการต่างๆ และ ยังเชื่อมกับถนนอีกหลายเส้นทาง อีกทั้งยังใกล้กับสถานีจรัญ 13 และสถานีไฟฉาย เส้นรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน

Company

ลุมพินี วิลล์ จรัญ-ไฟฉาย ถูกพัฒนาโดยบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัทผู้พัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ที่มีชื่อเสียงในการพัฒนา Product เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยแนวสูง มามากกว่า 30 ปี มุ่งเน้นอยากจะพัฒนาที่อยู่อาศัยให้มีคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม

อีกทั้งอีกหนึ่งจุดแข็งของโครงการคือ บริการหลังการขายที่ครบวงจร โดยเฉพาะงานบริหารอาคารที่พักอาศัย ที่มีการจัดการที่ดี ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ และมีมาตรฐานที่สูง จนทำให้หลายๆ คนให้ความไว้วางใจ และเชื่อมั่นการบริการนี้ไว้เป็นอันดับต้นๆ ของการตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัย

Design & Function

โครงการ ลุมพินี วิลล์ จรัญ-ไฟฉาย คอนโดมิเนียม High Rise ใหม่ อยู่บนพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 7 ไร่ภายในโครงการจะมี 3 อาคาร ได้แก่ อาคาร A สูง 21 ชั้น, อาคาร B สูง 23 ชั้น, อาคาร C สูง 22 ชั้น มีห้องชุดพักอาศัย 1,482 ยูนิต ที่จอดรถ 37% จอดได้ประมาณ 546 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)

และโครงการยังมีแบบห้องให้เลือกถึง 3 แบบ ตั้งแต่ห้อง Studio ขนาด 25-31 ตร.ม., 1 Bedroom ขนาด 29-32 ตร.ม.และ 2 Bedroom ขนาด 44 ตร.ม. ซึ่งขนาด 2 Bedroom จะมีเฉพาะอาคาร A

สำหรับแนวคิดการออกแบบ โครงการได้ถูกออกแบบภายใต้ Concept “BALANCE IS MORE FOR SMART LIFE” ความพอดีที่มากกว่า...วิถีของคนฉลาดเลือก ที่มาพร้อมความพอดีในทุกฟังก์ชันของการใช้ชีวิต ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ 

• Simple Layout เติมเต็มการใช้ชีวิตได้มากกว่า ด้วยการออกแบบพื้นที่ได้ลงตัวทุกตารางเมตร
• Simple is More ความเรียบง่ายที่มากกว่า ด้วยการออกแบบที่ใส่ใจทุกฟังก์ชัน ตอบรับรูปแบบวิถีชีวิตใหม่ 
• Simple Relax ผ่อนคลายได้มากกว่า เติมพลังให้ชีวิต กับความร่มรื่นของพื้นที่สีเขียวที่รายล้อมรอบโครงการ
• Simple Living สะดวกสบายในการใช้ชีวิต ที่เชื่อมต่อทุกการเดินทาง และสิ่งอำนวยความสะดวก

Products

อาคาร A เป็นอาคารที่อยู่ด้านหน้าสุด ใกล้กับประตูทางเข้าโครงการ มีความสูง 21 ชั้น โดยพื้นที่รอบๆ ตัวอาคารจะเป็นสวนธรรมชาติ มีลานพักผ่อน สระว่ายน้ำ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ของอาคาร A จะอยู่ชั้นล่างและชั้นบนสุด

• ชั้นล่าง : โถงทางเดินเข้าอาคาร, ร้านค้า 2 ยูนิต, Mailbox, ห้องอเนกประสงค์, ห้องน้ำชาย-หญิง-คนพิการ, ห้องเครื่อง และที่จอดรถ
• ชั้น 2-20 : ห้องชุดพักอาศัย
• ชั้น 21 : Sky Lounge, มีสวนธรรมชาติไว้สำหรับนั่งพักผ่อนแบบ Outdoor ที่มีทางเดินเชื่อมไปยังอาคาร B ได้ ทำให้สวนลอยฟ้ามีพื้นที่ที่กว้างและยาว รองรับการพักผ่อนได้หลายจุด 

อาคาร B จะมีโซน Sky Fitness ไว้ให้ใช้บริการ, ลานพักผ่อนต่างๆ,  Pocket Garden สวนสำหรับคนเมือง ชั้นล่างของอาคาร มีสำนักงานนิติบุคคล, ห้องเฮ้าส์เวิร์ค, ที่จอดรถทั้งจักรยานยนต์ รถยนต์ และอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับอาคาร A จะมีทั้งแบบห้อง Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedroom ซึ่งครั้งนี้ทีมงานอยากจะพาไปชม ห้อง 1 Bedroom ขนาด 29 ตร.ม.

ภายในห้องจะมีพื้นที่ใช้สอยที่ครบ และมีการแบ่งสัดส่วนของพื้นที่การใช้งานได้อย่างชัดเจน ตรงโซนพักผ่อนอย่างห้องนอนจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ แบบ 3 ตอน สามารถเลื่อนเปิดได้กว้าง เวลาปิดก็ไม่ทำให้ห้องดูคับแคบ และยังได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น ห้องนี้จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 2.6 ม.ทำให้ห้องดูโปร่ง อยู่สบาย

เปิดประตูเข้ามา จะเห็นว่าห้องจะมีลักษณะที่ยาวลึกเข้าไปด้านใน ที่มีพื้นที่ครัวและห้องน้ำอยู่ด้านหน้าใกล้กับประตูห้อง ส่วนมุมนั่งเล่นและห้องนอนจะอยู่ด้านในถัดเข้าไป ทุกแบบห้องจะได้ประตูที่เป็นแบบ Digital door lock และตรงบริเวณทางเข้าด้านหน้าจะมี Door Light Motion Sensor แถมให้ทุกยูนิต*สำหรับวัสดุปูพื้นจะเป็นไม้ลามิเนต ช่วยสร้างบรรยากาศให้ภายในห้องดูอบอุ่น น่าอยู่อาศัย

โซนแรกที่จะพาไปชม คือ มุมพื้นที่ครัว จะอยู่ฝั่งขวามือบริเวณด้านหน้าของห้อง มีขนาดพื้นที่ใช้สอยที่กว้างกำลังดี เหมาะกับการใช้งานทั้งปรุงอาหาร จัดจานเสิร์ฟ หรือล้างจานตรงซิงค์ทำได้สะดวก

โครงการได้ขายแบบ Fully Fitted ห้องส่งมอบจะได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวเหมือนกันกับในห้องตัวอย่าง ส่วน Backsplash ทางโครงการได้ใช้วัสดุที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ช่วยให้หมดกังวลเรื่องคราบเลอะเวลาทำอาหาร

ฝั่งตรงข้ามพื้นที่ครัว จะเป็นพื้นที่ส่วนของห้องน้ำ ภายในห้องจะได้สุขภัณฑ์ครบชุดของแบรนด์ American Standard และ Charmer พร้อมกับกระจกฉากกั้น ช่วยแบ่งสัดส่วนของพื้นที่ ให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น 

ถัดเข้าไปด้านใน จะเป็นพื้นที่มุมนั่งเล่น ซึ่งมีขนาดที่กว้าง สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้ลงตัว ยังมีพื้นที่ว่างให้วางโต๊ะกลางได้สบายๆ เป็นมุมที่สามารถรองรับเพื่อนๆ มาพบปะสังสรรค์ได้ประมาณ 4-5 คน และมุมนี้ถ้าวางโต๊ะยาว ก็สามารถที่จะปรับเปลี่ยนฟังก์ชันให้เป็นมุมรับประทานอาหารได้เช่นเดียวกัน

ฝั่งตรงข้ามโซฟา สามารถติดตั้งทีวีจอใหญ่ เหมือนกับห้องตัวอย่างแบบนี้ได้เลย เพราะบริเวณนี้จะมีระยะการดูที่ห่างกำลังดี ไม่ใกล้หรือไกลจนเกินไป

ระหว่างพื้นที่มุมนั่งเล่น กับโซนของห้องนอน จะกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์แบบ 3 ตอน ที่สามารถเลื่อนเปิดได้กว้าง และถ้าอยากจะใช้ฟังก์ชันเพิ่มความเป็นส่วนตัวก็สามารถที่จะเลื่อนปิดได้สะดวก ข้อดีของการมีประตูกระจกบานสไลด์กั้นห้องแบบนี้ แสงธรรมชาติจากระเบียง ส่องมามาถึงห้องนั่งเล่น กั้นสัดส่วนในเวลารับประทานอาหาร หรือปรุงอาหาร กลิ่นจะได้ไม่รบกวนเข้าไปยังโซนพักผ่อนได้

เข้ามาโซนพักผ่อนของห้องนี้กันบ้างนะคะ บริเวณนี้จะถูกแบ่งสัดส่วนการใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ทั้งมีพื้นที่สำหรับวางเตียง มีมุมนั่งทำงานในแบบส่วนตัวได้รับแสงจากธรรมชาติ ส่วนฝั่งขวาจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า อีกทั้งบริเวณของโซนนี้จะได้หน้าต่างบานใหญ่ 1 บาน และประตูกกระจกบานสไลด์ที่เชื่อมต่อไปยังพื้นที่ระเบียงด้านนอก ลูกบ้านสามารถเดินออกไปรับลมชมวิวนอกอาคาร หรือจะปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับห้องตรงบริเวณระเบียงนี้ได้

พื้นที่ตรงนี้สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ และยังมีพื้นที่เหลือไว้สำหรับเป็นทางเดินได้แบบสบายๆ

ส่วนฝั่งตรงข้ามของเตียงนอน เป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ หรือจะทำเป็น Walk-in Closet ก็ได้เช่นเดียวกัน มุมฝั่งหน้าต่าง ที่ได้หน้าต่างใหญ่ Bay Window ได้รับแสงธรรมชาติ สามารถทำเป็นพื้นที่ไว้สำหรับนั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือจะพ่วงเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งไปด้วยเหมือนกับห้องตัวอย่าง แบบนี้ก็ดูเป็นฟังก์ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายเลยทีเดียว

อาคาร C จะอยู่ด้านข้างของอาคาร A และ B มีความสูง 22 ชั้น มีสิ่งอำนวยสะดวกที่น่าสนใจไม่ต่างจากอาคารอื่นๆ กระจายอยู่ทั้งรอบนอก และภายในอาคาร ดังนี้

• บริเวณรอบอาคาร : พื้นที่สีเขียวสวนธรรมชาติรอบอาคาร, ลานพักผ่อน, สนามเด็กเล่น
• ชั้นล่าง : โถงทางเข้าอาคาร, ห้องบริการจัดการพัสดุ, Mailbox, ห้องอเนกประสงค์, ห้องเฮ้าส์เวิร์ค, ห้องน้ำชาย-หญิง-คนพิการ, ห้องรปภ., ห้องแม่บ้าน, ห้องเครื่อง, ที่จอดรถจักรยานยนต์ และรถยนต์
• ชั้น 2-4 : ลานจอดรถ
• ชั้น 5 : ลานพักผ่อนพื้นที่สีเขียว มองเห็นวิวรถไฟฟ้า MRT
• ชั้น 6-21 : ห้องชุดพักอาศัย
• ชั้น 22 : ห้อง Sky Fitness, จุดพักผ่อน, แปลงผักสวนครัว (Edible Garden)

แบบห้อง Studio มีให้เลือกได้ทั้ง 3 อาคาร ทั้ง A,B และ C และห้องที่จะรีวิวในครั้งนี้ เป็นห้อง Studio ขนาด 25 ตร.ม. ของอาคาร C ซึ่งเป็นแบบห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการค่ะ

ดูจากแปลน ห้องจะมีลักษณะยาวลึกเข้าไปด้านในเช่นเดียวกันกับแบบห้อง 1 Bedroom 29 ตร.ม. แต่ห้องนี้จะมีความแตกต่างตรงที่ทุกพื้นที่จะเชื่อมต่อกันทั้งในส่วนพื้นที่ครัว ห้องน้ำ มุมนั่งเล่น มุมพักผ่อนไปจนถึงระเบียงที่อยู่ด้านในสุด ทำให้ห้องดูกว้าง จัดสรรมุมต่างๆ วางเฟอร์นิเจอร์ได้ลงตัว ภายในห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานสูงประมาณ 2.45 ม.

เข้ามาภายในห้อง ส่วนแรกที่จะเจอ คือ พื้นที่ครัว ที่ทางโครงการได้จัดสรรออกแบบพื้นที่ได้แบบพอเหมาะ พอดีกับผู้อยู่อาศัย 1-2 คน อีกทั้งบริเวณนี้ยังมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า และตู้เย็นสองประตูได้แบบลงตัว 

ส่วนฝั่งตรงข้ามของพื้นที่ครัว จะเป็นส่วนของห้องน้ำ ที่มีขนาดค่อนข้างกว้าง มีสุขภัณฑ์ครบชุด พร้อมใช้งาน และยังมีพัดลมระบายอากาศบนฝ้าเพดานมาให้ด้วย ซึ่งจะช่วยลดกลิ่นอับชื้นภายในห้องน้ำได้ดี

เดินถัดเข้าไปจะเห็นพื้นที่อเนกประสงค์ ที่สามารถแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลายทั้งส่วนของมุมพักผ่อนที่จะวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ ฝั่งตรงข้ามเตียงจะเป็นมุม Entertain ที่ลูกบ้านจะติดตั้งทีวีได้ทั้งแบบแขวนหรือตั้งโต๊ะ แล้วแต่ความชอบส่วนตัวได้เลย อีกทั้งพื้นที่ตรงนี้จะเชื่อมต่อไปยังโต๊ะเครื่องแป้งด้านข้าง ซึ่งจะเป็นได้ทั้งมุมแต่งตัว และมุมทำงาน แบบ 2 in 1

ส่วนฝั่งข้างเตียงจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าที่มีขนาดกว้าง 1-2 บานประตูได้ อีกฝั่งด้านในสุดจะเป็นส่วนของพื้นที่มุมนั่งเล่นแบบชิลๆ นั่งดูทีวี นั่งอ่านหนังสือ หรือปรับฟังก์ชันให้เป็นมุมรับประทานอาหาร สำหรับ 1-2 คนก็ได้เช่นเดียวกัน 

ถึงแม้ห้องนี้จะเป็นขนาดเริ่มต้น แต่ด้วยห้องที่เป็นแบบ Studio ทำให้สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย เกิดการใช้งานได้หลายฟังก์ชัน ถือว่าคุ้มค่าในเรื่องของพื้นที่ใช้สอยเลย

Facility

พื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ ลุมพินี วิลล์ จรัญ-ไฟฉาย ให้มาอย่างครบครัน และจัดเด็ม รองรับได้ทุกกิจกรรม ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ได้อย่างเพียงพอ โดยทางโครงการจะเน้นเรื่องพื้นที่สีเขียว ที่เป็นสวนธรรมชาติสำหรับการนั่งพักผ่อน Outdoor ซึ่งจะมีอยู่รอบโครงการ และชั้นบนสุดของอาคารหลายจุด นอกจากนี้ก็ยังมีโซน Sky Fitness, Sky Lounge, Sky Garden, Lobby, สระว่ายน้ำ, สนามเด็กเล่น และอื่นๆ อีกมากมายตามมาตรฐานฉบับคอนโดมิเนียม

สำหรับระบบรักษาความปลอดภัย การเข้า-ออกโครงการ ใช้ระบบ Key Card Access และลิฟต์โดยสารภายในอาคาร จะเป็นลักษณะลิฟต์ล็อกชั้น เพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้าน อีกทั้งยังมี CCTV รอบโครงการและในอาคาร รวมไปถึงมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้แบบ 24 ชม.

Location

โครงการตั้งอยู่ถนนจรัญสนิทวงศ์ 20/1 ซึ่งจะอยู่ติดถนนใหญ่ จรัญสนิทวงศ์ เส้นถนนสำคัญที่หลายๆ คนในย่านนี้ใช้สัญจร ถือว่าเป็นทำเลดี เดินทางเข้า-ออกเมืองทำได้สะดวกและง่าย อีกทั้งรอบๆ โครงการยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายรองรับการใช้ชีวิตในการอยู่อาศัย ทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า ตลาด รวมไปถึงสถานที่ทำงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ทำงานราชการ บริษัทเอกชน เป็นต้น

จากที่ตั้งโครงการที่อยู่ติดกับถนนใหญ่ ถ.จรัญสนิทวงศ์ เป็นถนนสายสำคัญสำหรับย่านฝั่งธนฯ ที่สามารถใช้เส้นทางนี้เดินทางเชื่อมไปยังโซนต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเชื่อมต่อ ถ.พรานนก, ถ.อิสรภาพ ไปยังแหล่งชุมชน และแหล่งทำงานราชการต่างๆ ในย่านฝั่งธนฯ หรือจะขับเข้าไปโซนสาทร ซึ่งก็สามารถเชื่อมกับถ.รัชดาภิเษก ต่อไปยัง ถ.กรุงธนบุรีได้

และโครงการยังสะดวกในการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ เพราะใกล้กับรถไฟฟ้า MRT 2 สถานี ใกล้สุด คือ สถานีจรัญ 13 ห่างเพียง 700 ม. และสถานีไฟฉาย ซึ่งสามารถเดินทางเข้าไปยังใจกลางเมืองได้แบบสบายๆ อีกทั้งยังมีจุด Interchange สถานีบางหว้า เปลี่ยนสายไปนั่ง BTS ก็สะดวก

รวมไปถึงหน้าโครงการที่ติดถนนใหญ่ ก็มีป้ายรถโดยสารประจำทาง สามารถเดินไปใช้บริการรถเมล์โดยสารป้ายที่ใกล้กับโครงการ ซึ่งก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการเดินทางได้

ทำเลย่านฝั่งธนฯ เป็นทำเลชุมชนใหญ่ ทำให้รอบๆ โครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายกระจายตัวกันออกไป ถ้าเป็นเรื่องจับจ่ายใช้สอย ซื้อของเข้าห้อง ก็จะมีซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้าที่ใกล้โครงการ เช่น Makro, Foodland, Home Pro ถัดออกไปก็จะมี โลตัส จรัญสนิทวงศ์ และห้างสรรพสินค้าใหญ่ อย่างห้างเดอะมอลล์ ท่าพระ

นอกจากนี้โครงการยังใกล้กับสถานพยาบาล รองรับการให้บริการเวลาเจ็บป่วยไม่สบายได้ เช่น โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์, โรงพยาบาลธนบุรี แยกไฟฉาย เป็นต้น

สำหรับสถานศึกษาที่ใกล้กับโครงการก็มีเช่นเดียวกัน อย่าง วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม, โรงเรียนชิโนรส วิทยาลัย, มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ถัดออกไปก็จะมี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นต้น

ส่วนสถานที่ทำงานราชการแหล่งใหญ่ๆ ย่านฝั่งธนฯ ที่ใกล้โครงการก็มี กองบัญชาการกองทัพเรือ อีกทั้งบริเวณรอบโครงการยังใกล้กับบริษัทเอกชนมากมายหลายแห่งอีกด้วย

ย่านฝั่งธนบุรี เป็นย่านที่มีการผสมผสานระหว่างแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยตั้งแต่ดั้งเดิม กับแหล่งที่อยู่อาศัยที่เป็นโครงการบ้านใหม่ๆ หรือคอนโดมิเนียมเริ่มเข้ามามากขึ้นในช่วงหลัง ซึ่งก็จะได้บรรยากาศที่เป็นชุมชนเมือง แต่ก็ได้กลิ่นอายของยุคดั้งเดิมอยู่

ทำให้ย่านนี้มีแหล่งท่องเที่ยวในเชิงประวัติศาสตร์อยู่มากมาย สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ตลาดใหญ่อีกหลายแห่ง เช่น ตลาดบางขุนศรี ตลาดใหญ่ที่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ขายของสดต่างๆ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวโครงการมากนัก นอกจากนี้ก็ยังมีตลาดพรานนก ตลาดวังหลัง แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอื่นๆ เช่น ท่ามหาราช วัดอรุณราชวราราม เป็นต้น