ไทม์ไลน์ “แผนลงทุนรถไฟฟ้า ปี’64-66”

ไทม์ไลน์ “แผนลงทุนรถไฟฟ้า ปี’64-66”

เปิดไทม์ไลน์แผนลงทุนโครงการรถไฟฟ้า ปี 64-66 ของรฟม. มีทั้งหมด 7 เส้นทางทั้งพื้นที่ กรุงเทพฯปริมณฑลและภูมิภาค โดยนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ  ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

เขตกทม.-ปริมณฑล

  1. รถไฟฟ้าสายสีม่วง(ใต้) ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก)
    - ระยะทาง 23.6 กิโลเมตร
    - วงเงิน 131,004.30 ล้านบาท
    - เตรียมประกวดราคาช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2564
  2. สายสีส้ม(ตะวันตก) ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ
    - ปีนี้(2564)อยู่ระหว่างการประกวดราคาและกำลังรอการพิจารณาของศาลปกครอง กรณีที่รฟม.ปรับเงื่อนไขเกณฑ์ประเมิน เบื้องต้นโครงการมีกำหนดเปิดให้บริการเดือนเมษายน 2570
  3. สายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม)
    - วงเงินประมาณ 48,386 ล้านบาท เป็นระบบรถไฟฟ้าแบบรางเดี่ยว (Monorail) โครงสร้างยกระดับทั้งหมด 22.1 กม. 20 สถานี
    - คาดว่าจะเสนอ ครม. พิจารณาอนุมัติได้ในเดือนตุลาคม 2565
    - ดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน (PPP) ช่วงเดือนเมษายน 2566
    - เปิดบริการสิงหาคม 2570 

ภูมิภาค

      1.โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเดือนตุลาคม 2564  เริ่มก่อสร้างเดือนเมษายน 2566 และจะเปิดบริการในปี 2569 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับรูปแบบโครงการจากเดิมดำเนินการเป็นรถรางไฟฟ้า (Tram) ระยะทาง 42 กม. วงเงินประมาณ 35,201 ล้านบาท มาเป็นทางเลือกอื่น เช่น รถโดยสารด่วนพิเศษ (BRT) โดยใช้รถเมล์ไฟฟ้า (EV)  และใช้แนวเส้นทางเดิม ด้วยผลศึกษาพบว่าจะมีผู้ใช้บริการเพียงประมาณ 3.9 หมื่นคนต่อวัน ขณะที่การทำระบบรางจะใช้เงินลงทุนสูงมาก ขณะที่ BRT จะช่วยประหยัดค่าก่อสร้างลงเหลือประมาณ 30,000 ล้านบาท และก่อสร้างายกว่า ด้วยการใช้พื้นที่เกาะกลางถนน ปรับปรุงผิวทาง-แบ่งกั้นช่องจราจรให้ชัดเจน

       2.โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ สายสีแดง ช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์-แยกแม่เหียะสมานสามัคคี เป็นระบบรถรางไฟฟ้า (Tram) วงเงิน 27,000 ล้านบาท คาดว่าจะเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติได้ในเดือนเมษายน 2566 คัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนช่วงเดือนตุลาคม 2566-ตุลาคม 2567 เริ่มการก่อสร้างพฤศจิกายน 2567 เปิดให้บริการเดือนกุมภาพันธ์ 2571

       ทั้งนี้ รฟม.จะเสนอการลงทุนในรูปแบบ PPP ประเภท Net Cost โดยเอกชนรับงาน 100% ทั้งก่อสร้าง ระบบ ขบวนรถ พร้อมรับสัมปทานเดินรถ 30 ปี เอกชนจัดเก็บค่าโดยสารและแบ่งรายได้ให้รัฐ ซึ่งรัฐอุดหนุนไม่เกินค่างานโยธาที่ 22,000  ล้านบาทรวมดอกเบี้ย ดังนั้นรัฐจะเป็นผู้ลงทุนในสัดส่วน 80% ส่วนเอกชนก็จะลงทุนจริงแค่ 5,000 ล้านบาท หรือ 20% โดยในช่วงแรกจะใช้รถ Tram 10 ขบวน และจะทยอยเพิ่มขึ้นจนสูงสุดที่ 21 ขบวน

       3.โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว (ตลาดเซฟวัน-สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์) ระบบรถไฟฟ้ารางเบา (Light Rail Transit) ระยะทาง 11.17 กม.  21 สถานี วงเงิน 7,115.48 ล้านบาท คาดว่าจะเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติได้ในเดือนพฤษภาคม 2566 ดำเนินการคัดเลือกเอกชน PPP ช่วงเดือนตุลาคม 2566-ตุลาคม 2567 เริ่มก่อสร้างพฤศจิกายน 2567  เปิดบริการกุมภาพันธ์ 2571

       4.โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดพิษณุโลก (สายสีแดง) ช่วงมหาวิทยาลัยพิษณุโลก-เซ็นทรัล พลาซา เป็นแบบรถรางล้อยาง ระยะทาง 12.6 กม. 15 สถานี วงเงินประมาณ 3,440 ล้านบาท  ซึ่งสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ศึกษาว่าควรลงทุนแบบ PPP ประเภท Net Cost โดยรัฐลงทุนงานเวนคืน ค่าก่อสร้าง และระบบรถไฟฟ้า ส่วนเอกชนลงทุนจัดซื้อรถและพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ โดย รฟม.ประเมินว่าจะสามารถเสนอให้ครม.พิจารณาอนุมัติโครงการได้ในเดือนตุลาคม 2566  ดำเนินการคัดเลือกเอกชน PPP ช่วงมีนาคม 2567-มีนาคม 2568 เริ่มการก่อสร้างเมษายน 2568 เปิดบริการกรกฎาคม 2571

ส่วนโครงการรถไฟฟ้าในกทม.และปริมณฑลที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 3 เส้นทาง ล่าสุดสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2563 มีความคืบหน้าดังนี้

  • สายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ความก้าวหน้างานโยธา 72.74% กำหนดเปิดบริการตุลาคม 2567
  • สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง มีความก้าวหน้ารวม 68% กำหนดเปิดบริการเดือนมิถุนายน 2565
  • สายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี มีความก้าวหน้ารวม 66.05% กำหนดเปิดบริการกันยายน 2565

ที่มา : นสพ.ข่าวหุ้น

ให้เราช่วยค้นหามั้ย ?

ขั้นตอนที่ 1 จาก 2

เลือกประเภทและความต้องการของคุณ
ความต้องการ *
สถานะทรัพย์
ที่ตั้ง *
ประเภทอสังหาฯ *
ช่วงราคา (บาท) *

-

ให้เราช่วยค้นหามั้ย ?

ขั้นตอนที่ 1 จาก 2

เลือกประเภทและความต้องการของคุณ
ความต้องการ *
สถานะทรัพย์
ที่ตั้ง *
ประเภทอสังหาฯ *
ช่วงราคา (บาท) *

-

บทความแนะนำ

บทความที่เกี่ยวข้อง