สตาร์ทธุรกิจรับเทรนด์Next Normal โฮมออฟฟิศ ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า ราคาเริ่ม 4.28 ล้านบาท

ขณะเดียวกันอาจมองได้ว่า COVID-19 เป็นจุดเริ่มต้นของโลกยุคใหม่ (Next Normal) หรือเทรนด์ใหม่ที่เป็นความปกติเคยชินของผู้คนเมื่อโลกผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปแล้ว และเมื่อมองจากจุดนี้การเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆไม่ใช่เรื่องน่ากลัวแต่กลับเป็นเรื่องท้าทายที่คนในยุคนี้น่าจะยินดีที่ได้เผชิญ

5 เทรนด์ธุรกิจมาแรงหลัง COVID-19 

หลายสำนักวิจัยทั้ง Future Labs และ Economic Labs มองคล้ายๆกันถึงเทรนด์ธุรกิจใหม่และสินค้าที่ผู้บริโภคต้องการที่เป็นผลสืบเนื่องจากวิกฤติ COVID-19 ซึ่งอาจเป็นลู่ทางในการเริ่มต้นธุรกิจของเราก็ได้

• E-Commerce : ค้าขายออนไลน์ หรือ E-Commerce เติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นต้นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งมีสถานการณ์COVID-19 ยิ่งทำให้ธุรกิจขยายตัว คาดการณ์กันว่ามูลค่าตลาด E-Commerce ในปี 2563 อาจพุ่งสูงถึง 220,000 ล้านบาท (+35%),มาเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์กันเถอะ
• Packaging : Food Deliveryเป็นหนึ่งธุรกิจที่มาแรงพร้อมCOVID-19 ซึ่งทำให้เกิดความต้องการสินค้าบรรจุภัณฑ์ต่างๆเพิ่มขึ้น คาดว่าปีนี้ธุรกิจนี้มูลค่าถึง 1.5 หมื่นล้านบาทเลยทีเดียว, เปิดร้านขายบรรจุภัณฑ์อาหาร อุปกรณ์เบเกอรี่ก็ดีนะ 

• Logistic : การขนส่งสินค้าและพัสดุเติบโตเคียงคู่กับE-Commerce ได้อีกยาวนาน เราอาจไม่ถึงขั้นเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มด้านนี้ แต่เป็นส่วนหนึ่งในอุตสาหรรมธุรกิจแห่งอนาคตนี้ก็เพียงพอแล้ว

• Health Care Product&Service : ช่วงCOVID-ระบาด หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ สบู่ฆ่าเชื้อโรค เป็นที่ต้องการอย่างมาก และผลิตภัณฑ์ประกันCOVID-19 มียอดขายถล่มทลาย คาดการณ์ว่าแม้จะมีวัคซีนป้องกันแล้ว แต่สินค้าเหล่านี้ก็ยังเป็นที่ต้องการ รวมถึงสินค้าหรือบริการสำหรับดูแลรักษาสุขภาพ ทั้งกลุ่มอาหารเสริม วิตามิน อุปกรณ์ออกกำลังกาย เล่นกีฬา
• Medical Supplies & Drug: ช่วง COVID-19กำลังระบาด สินค้าเวชภัณฑ์และยาเป็นที่ต้องการมาก ดาดการณ์ว่าปีนี้มูลค่าอุตสาหกรรมยาจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า หรือกว่า 95% ของประมาณการผลิตยาทั้งหมด,เปิดร้านขายยาหรือร้านขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาจเป็นอีกหนึ่งธุรกิจเสริมของเภสัชกรก็ได้

ยุค Next Normal สตาร์ทธุรกิจ เริ่มต้นง่ายๆที่ “บ้าน” 

เศรษฐกิจติดบ้านหรือ Everything at Home  เป็นหนึ่งในเทรนด์ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในยุคNext Normal

หลังจากผู้คนมีความเคยชินจากการทำงานจากที่บ้าน(Work from Home)และทำกิจกรรมต่างๆได้จากภายในที่พักของตัวเอง ดังนั้น การเริ่มต้นทำธุรกิจที่บ้านจึงไม่ใช่เรื่องแปลก แถมวิธีนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงจากโรคที่อาจเกิดจากการพบปะคนหมู่มากในสถานที่ทำงานและทำให้เราสามารถบาลานซ์จัดสรรเวลาได้อย่างสมดุลย์ลงตัวมากขึ้น

ในอดีต ธุรกิจมักเริ่มต้นเริ่มต้นด้วยการเช่าพื้นที่ในอาคารสำนักงานใหญ่ๆ แต่ปัจจุบันเราสามารถการเริ่มต้นธุรกิจกับอาคารหรือออฟฟิศที่เป็นของเราได้ง่ายๆ และการมีออฟฟิศมีตึกเป็นของตัวเองยังมีข้อดีอีกหลายๆอย่าง

อาคารพาณิชย์หรือโฮมออฟฟิศส่วนใหญ่มักติดถนนด้านหน้าโครงการ ซึ่งจะมีมูลค่าเพิ่มตามความเจริญเติบโตของทำเล  

หนึ่งในนั้นคือช่วยลดความเสี่ยงในเชิงธุรกิจได้ดีกว่าการเช่ามาก เช่น ลดความเสี่ยงจากการถูกขึ้นค่าเช่าพื้นที่ทุกๆปี ลดความเสี่ยงจากการถูกขอคืนพื้นที่ ที่สำคัญ ในอนาคตอสังหาริมทรัพย์ทั้งอาคารพาณิชย์และโฮมออฟฟิศเหล่านั้นยังมีโอกาสเพิ่มมูลค่าให้เราได้ด้วย

นอกจากนี้ เราสามารถเลือกทำเลของออฟฟิศอาคารพาณิชย์ให้สอดคล้องกับลักษณะธุรกิจหรือกิจการเพื่อลดต้นทุนการขนส่งหรือประหยัดเวลาในการเดินทาง โดย ไม่จำเป็นต้องเป็นทำเลศูนย์กลางธุรกิจใจกลางเมืองเสมอไป

VIZIO ร่มเกล้า-สุวรรณภูมิ
โดดเด่นเหนืออาคารพาณิชย์ท้่วไป

        ผังโครงการวางvizio ร่มเกล้า-สุวรรณภูมิ เป็นแนวยาวจากถนนร่มเกล้า โดยมีถนนเมนกว้างสุด 18 เมตรเป็นแกน มีอาคารทั้งสองฝั่งหันหน้าไปทางทิศเหนือและทิศใต้ และมีสวนสาธารณะบริเวณกลางโครงการค่อนไปด้านหลัง 

         โครงการVIZIO ร่มเกล้า-สุวรรณภูมิ หนึ่งในโครงการที่คุณสามารถอาคารพาณิชย์และทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น บนที่ดินโครงการประมาณ 9 ไร่ จำนวนทั้งหมด 95 ยูนิต เป็นทาวน์โฮม 31 ยูนิตและอาคารพาณิชย์ 64 ยูนิต

         ทั้งอาคารพาณิชย์และโฮมออฟฟิศฟังก์ชั่นหลักใกล้เคียงกัน แตกต่างกันในบางรายละเอียด เช่น หน้ากว้าง 5 เมตร จอดรถได้ 2 คันเหมือนกัน โดยที่จอดรถของโฮมออฟฟิศเป็นการจอดภายในบ้าน ส่วนอาคารพาณิชย์จอดด้านหน้าอาคาร และยังมีพื้นที่จอดรถส่วนกลางบริเวณหน้าสวนส่วนกลางอีกจำนวนหนึ่ง รวมสามารถจอดรถได้ทั้งหมด 140 คัน

ฟังก์ชั่นภายในเมื่อเข้าสู่ตัวอาคาร ด้านหน้าจะเป็นโถงรับแขกแบบDouble Volume สูง 5 เมตร พร้อมชั้นลอย และห้องน้ำ 3 ห้อง

         สำหรับโฮมออฟฟิศโครงการจะกั้นพื้นที่ส่วนห้องนอนไว้ให้ 2 ห้องบริเวณชั้นสาม ส่วนอาคารพาณิชย์จะเป็นพื้นที่ใช้สอยแบบโล่งๆ รองรับการตกแต่งเพิ่มเติมตามความต้องการของลูกค้า

         โฮมออฟฟิศจะเน้นใช้วัสดุตกแต่งเพื่อวัตถุประสงค์ในการพักอาศัย เช่น พื้นลามิเนต ส่วนอาคารพาณิชย์เน้นรองรับการใช้งานหนักๆ เช่น กระเบื้องเซรามิค และแกรนิโต้ ส่วนสุขภัณฑ์ใช้ American Standard 

• อาคารพาณิชย์
  ที่ดินเริ่มต้น 20 ตร.ว. หน้ากว้าง 5 เมตร 3.5 ชั้น (มีชั้นลอย) พื้นที่ใช้สอยโดยประมาณ 222 ตร.ม. 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน ราคาเริ่มต้น 4.28 ล้าน
• โฮมออฟฟิศ
  ที่ดินเริ่มต้น 23 ตร.ว.หน้ากว้าง 5 เมตร 3.5ชั้น (มีชั้นลอย) พื้นที่ใช้สอยโดยประมาณ 250 ตร.ม. 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน พื้นที่ใช้สอย250ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.28 ล้าน

โฮมออฟฟิศติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้สนามบิน

โครงการ VIZIO ร่มเกล้า-สุวรรณภูมิ เป็นโฮมออฟฟิศและอาคารพาณิชย์ติดถนนใหญ่ร่มเกล้า ช่วงซอย 15-17 ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิและนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง และยังเชื่อมต่อถนนหลักหลายสาย ทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้า ทำให้สามารถเดินทางติดต่อลูกค้าได้สะดวก เหมาะมากเป็นทำเลสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ

ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ : โครงการห่างจากสนามบินประมาณ 15 กม.ออกจากสนามบิน เข้าสู่ทางแยกต่างระดับร่มเกล้ามุ่งตรงสู่โครงการได้เลย ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จะเดินทางขึ้นเครื่องในประเทศต่างประเทศก็สะดวก รับส่งลูกค้าหรือขนส่งสินค้าก็รวดเร็ว

เชื่อมมอเตอร์เวย์/ใกล้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์

ปลายถนนร่มเกล้าเชื่อมกับมอเตอร์เวย์โดยตรงระยะทางไม่ถึง 6 กม. ขับรถใช้เวลาประมาณ 10 นาที เมื่อเข้ามอเตอร์เวย์แล้วจะวิ่งเข้าเมืองไปเชื่อมกับพระรามเก้า อโศก รัชดา หรือจะไปต่อขึ้นทางด่วนศรีรัชเข้าไปในย่านเศรษฐกิจใจกลางเมืองก็ได้     
หรือจะแค่ต่อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ก็สะดวก สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีลาดกระบังที่อยู่ไม่ไกลจากทางแยกต่างระดับร่มเกล้า

เชื่อมถนนร่มเกล้า-ศรีนครินทร์ 

หรือถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ จากโครงการสามารถเลือกใช้เส้นทางนี้เข้าสู่ย่านศรีนครินทร์ รามคำแหง หัวหมาก ได้สะดวกมาก และสามารถต่อเนื่องเข้าถนนพระราม 9 และทางด่วนศรีรัชได้ด้วยเช่นกัน ถนนใหม่ 6 เลน วิ่งฉิว

เชื่อมถนนรามคำแหง ใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้ม

อีกด้านหนึ่งของถนนร่มเกล้ายังเชื่อมกับถนนรามคำแหงแถวซอยรามคำแหง 194 ซึ่งบริเวณดังกล่าวจะเป็น hub ใหญ่หรือจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้า 2 สาย ที่กำลังก่อสร้างอยู่ทั้งคู่ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) กำหนดสร้างเสร็จปี 2567 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) กำหนดเปิดให้บริการปี 2565 โดยสถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อใช้ชื่อเดียวกันทั้ง 2 เส้นทางคือ สถานีมีนบุรี ระยะห่างจากโครงการประมาณ 5-6 กม. ขับรถ  10-12 กว่านาทีก็ถึง

แหล่งไลฟ์สไตล์ครบใกล้โครงการ

ถนนร่มเกล้าคึกคักตลอดวันด้วยกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพราะเป็นทำเลใกล้นิคมอุตสาหกรรมและมีมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ด้วย(ม.เกษมบัณฑิต) ริมถนนเรียงรายไปด้วยอาคารพาณิชย์ ร้านค้า และบริการต่างๆ ทั้งโชว์รูมรถยนต์ ปั้มน้ำมัน ร้านอาหาร คาเฟ่ฯลฯ

และต่อเนื่องจากทำเลร่มเกล้าเป็นย่านรามคำแหงและถนนราษฏร์พัฒนา(ซอยมิสทีน)ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยและชุมชนขนาดใหญ่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล ร้านอาหาร ตลาด ศูนย์การค้าฯลฯ อยู่แถวนี้จึงสบายทั้งเรื่องกินเรื่องอยู่

สิ่งอำนวยความสะดวกใกล้โครงการ

ช็อปปิ้ง&จับจ่ายใช้สอย

• ตลาดบวรร่มเกล้า 1.4 กม.
• ตลาดกลางนครร่มเกล้า 2.8 กม.
• ตลาดเกรียงไกร 3.1 กม.
• Big C ร่มเกล้า  3.9 กม.
• The Paseo รามคำแหง 8 กม.
• Fashion Island รามอินทรา 14.8 กม.
• The Mall บางกะปิ 17.7 กม.
• Seacon Square ศรีครินทร์ 21.1 กม.
• Paradise Park ศรีนครินทร์ 23.2 กม.

โรงพยาบาล & สถานศึกษา

• รพ.ลาดกระบัง 10.1 กม.
• รพ.จุฬารัตน์ 7 10.2 กม.
• รพ.สิรินธร 10.6 กม.
• รพ.เกษมราษฏร์ รามคำแหง 13.7 กม.
• รร.เตรียมอุดมพัฒนาการสุวรรณภูมิ 9 กม.
• รร.เตรียมอุดมน้อมเกล้า 9.8 กม.
• มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต 4.6 กม.
• สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 9.8 กม.

สรุปเหตุผลน่าซื้อ

        หากคุณกำลังมองหาอาคารพาณิชย์หรือโฮมออฟฟิศเพื่อเริ่มต้นธุรกิจไม่ว่าจะเป็นสตาร์ทอัพและSMEs โครงการVIZIO ร่มเกล้า-สุวรรณภูมิเป็นตัวหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจด้วยเหตุผลหลายอย่าง

• ทำเลเด่น : โครงการอยู่ใกล้สถานที่สำคัญที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ เช่น นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง สนามบินสุวรรณภูมิและมหาวิทยาลัย อยู่ติดถนนใหญ่เดินทางสะดวก เข้าเมืองได้หลายทาง ทำเลคึกคักไม่เปลี่ยว หาของกินง่าย
• ฟังก์ชั่นประโยชน์ใช้สอยคุ้ม : ดีไซน์ทันสมัย จำนวนยูนิตไม่มาก ถนนเมนกว้าง 16-18 เมตรภายในโครงการดูกว้างขวางไม่อึดอัด พื้นที่ใช้สอยเยอะฟังก์ชั่นครบ สเปควัสดุอย่างดีรองรับทั้งอยู่อาศัยและทำธุรกิจ และที่พิเศษคือ ก่อสร้างด้วยระบบพรีคาสท์แบบมีเสาคานซึ่งเป็นเทคโนโลยีของบริษัทฯเอง แข็งแรงทนทานสูงและสามารถทุบเจาะเพื่อต่อเติมได้ เนื่องจากไม่ใช่ผนังรับน้ำหนัก

• ประสบการณ์สูงมีความน่าเชื่อถือ : บริษัท โฮมเพลส ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการอยู่ในแวดวงอสังหาฯมากว่า 40 ปี มีผลงานมากกว่า 30 โครงการทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมคอนโดมิเนียม และอาคารพาณิชย์ จึงเข้าใจความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นอย่างดี  และใช้กลยุทธ์สร้างเสร็จก่อนขายซึ่งลูกค้าสามารถเห็นของจริงก่อนตัดสินใจ ไม่มีความเสี่ยงด้านการส่งมอบ