อ่านเพิ่มเติม !
คอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าก็ยังเป็นที่อยู่อาศัยที่คนรุ่นใหม่ คนวัยทำงานต้องการอยู่เสมอ โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว เพื่อใช้ทดแทนที่อยู่อาศัยเดิมที่อาจอยู่นอกเมือง หรือขยับขยายจากอพาร์ตเมนต์รายเดือนที่เช่าอยู่มาเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมของตนเอง ปัจจุบัน BTS ส่วนต่อขยายที่ปัจจุบันเปิดให้บริการถึงสถานีห้าแยกลาดพร้าว และกำลังจะเปิดให้บริการถึงสถานีเกษตรศาสตร์ในสิ้นปี 2562 นี้ ก็ยิ่งส่งผลให้คอนโดมิเนียมตามแนว BTS ช่วงตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าวไปจนถึงแยกเกษตรมีราคาที่สูงยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งบางโครงการที่กำลังสร้างเสร็จราคาขายยูนิต 1 ห้องนอนสูงถึง 4-5 ล้านบาทไปแล้ว ถ้าลองคำนวณคร่าวๆ ว่าผ่อนคอนโดล้านละ 7,000 บาท ถ้าซื้อคอนโดห้องละ 4 ล้านบาท ก็ต้องผ่อนเดือนละ 28,000 บาท แน่นอนว่าสูงเกินที่กลุ่มมนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่จะสามารถเป็นเจ้าของได้ รวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครองที่เลือกให้บุตรหลานที่เข้ามาศึกษาต่อในสถานศึกษาใกล้เคียงได้อยู่อาศัยอาจรู้สึกว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงจนเกินไป
ขยับมาอีกหน่อยที่วงเวียนหลักสี่ คอนโดที่นี่น่าซื้อทั้งอยู่เอง-ลงทุน
“อยากได้คอนโดติดรถไฟฟ้าแต่ราคาไม่สูง ต้องยอมขยับออกไกลอีกหน่อย” สำหรับทำเลหลักสี่นี้ถือว่าขยับออกไปไม่ไกลมาก โดยอยู่ห่างจากแหล่งใจกลางอย่างห้าแยกลาดพร้าว 9 สถานี ซึ่งตรงทำเลวงเวียนหลักสี่เป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่มีความเจริญมาอย่างยาวนานแล้ว จึงมีความเหมาะสมสำหรับการพักอาศัย
1.เดินทางสะดวก
สามารถใช้รถไฟฟ้าได้ถึง 3 สาย ได้แก่ BTS สายสีเขียว, รถไฟฟ้าสายสีชมพู และรถไฟ้าสายสีแดง โดย BTS และสายสีชมพูนี้จะมีสถานีเชื่อมต่อกันที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ทำให้ผู้คนที่เดินทางมาจากลำลูกกา คูคต สะพานใหม่ สามารถเปลี่ยนเส้นทางไปสายสีชมพูเพื่อไปยัง ถ.รามอินทรา ถ.แจ้งวัฒนะได้
โดยรถไฟฟ้า BTS นี้สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพฯ ได้ ใช้เวลาไม่นานประมาณ 30-40 นาทีก็สามารถไปยังออฟฟิศได้ทั้งย่าน อารีย์ พญาไท รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งพักผ่อนที่สถานีสยามได้ และยังมีอีก 1 อินเตอร์เชนจ์คือที่สถานีหลักสี่ที่เชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีชมพูและรถไฟฟ้าสายสีแดง เพื่อเปลี่ยนเส้นทางเข้าเมืองทางบางซื่อ หรือจะไปสนามบินดอนเมืองก็สะดวกยิ่งขึ้น ส่วนการใช้รถยนต์ก็สะดวกเช่นกัน ทำเลหลักสี่จะอยู่บน ถ.พหลโยธิน เชื่อมต่อกับถนนสำคัญทั้ง ถ.รามอินทรา ถ.แจ้งวัฒนะ ถ.วิภาวดีรังสิต และยังสามารถใช้ทางด่วนเพื่อเข้าเมืองไปโซนพระราม 9 อโศก สุขุมวิทได้เช่นกัน
2.ราคาไม่สูงเฉลี่ย 1.9-2.5 ล้านบาท
คอนโดมิเนียมในทำเลหลักสี่นับว่ายังมีราคาที่ไม่สูงมาก โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1.9-2.5 ล้านบาท แล้วแต่ขนาดห้องชุดและทำเลที่ตั้งของโครงการนั้นๆ ซึ่งถ้ามองเรื่องการผ่อนชำระรายงวดแล้ว คิดคร่าวๆ จะตกที่ราวๆ 14,000-18,000 บาท/เดือน ถือว่ายังไม่เกินความสามารถของเหล่ามนุษย์เงินเดือน หรือพ่อแม่ผู้ปกครองซื้อให้บุตรหลานอยู่อาศัย
3.มีผู้เช่าชัดเจน
สำหรับการซื้อคอนโดเพื่อลงทุนปล่อยเช่า ทำเลหลักสี่ก็อยู่ใกล้ทั้งแหล่งงานขนาดใหญ่ ได้แก่ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรมป่าไม้ สน.บางเขน ท่าอากาศยานดอนเมือง ใกล้สถานศึกษาขนาดใหญ่ เช่น ม.เกษตรศาสตร์ ม.ราชภัฎพระนคร ม.เกริก ม.ศรีปทุม รวมถึงสถานพยาบาลขนาดใหญ่ทั้ง รพ.ภูมิพลอดุลยเดช รพ.จุฬาภรณ์ รพ.มงกุฎวัฒนะ รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล รวมถึงกลุ่มคนทำงาน พนักงานบริษัทที่ใช้รถไฟฟ้าเดินทางไปยังรัชโยธิน ห้าแยกลาดพร้าว สะพานควาย อารีย์ด้วยเช่นกัน ทำให้สามารถมองเห็นกลุ่มลูกค้าคาดหมายสำหรับการปล่อยเช่าได้ชัดเจน เพื่อเป็นข้อมูลในการตั้งราคา ตกแต่งห้องให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้า
4.ผลตอบ 4-5% ต่อปี
ทำเลหลักสี่เป็นอีกทำเลที่มีอัตราผลตอบแทนต่อปีแล้วอยู่ที่ 4-5% ซึ่งยูนิตแบบ 1 ห้องนอนในทำเลนี้ปล่อยเช่ากันในราคาตั้งแต่ 8,000-10,000 บาท ทำให้สามารถจับกลุ่มลูกค้าปล่อยเช่าได้ค่อนข้างกว้าง ได้แก่ พนักงานบริษัท บุคลากรทางการแพทย์ นักเรียนนักศึกษาในสถาบันใกล้เคียง นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเข้ามาศึกษาในกรุงเทพฯ และมองหาที่พักคุณภาพดีให้บุตรหลาน เพราะคอนโดมิเนียมนั้นจะมีทั้งระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม สภาพสังคมแวดล้อมที่ดีกว่าการอยู่หอพักหรืออพาร์ตเมนต์ นอกจากนี้เมื่อบุตรหลานเรียนจบเริ่มทำงานก็สามารถอยู่คอนโดนี้ได้ต่อไป หรือหากย้ายที่ทำงานออกไปไกลก็ยังสามารถเป็นทรัพย์สินใช้ปล่อยเช่าสร้างรายได้เสริมในอนาคตได้
5.การกินอุดมสมบูรณ์
ตั้งแต่วงเวียนหลักสี่ไปจนถึงสะพานใหม่นับเป็นทำเลที่มีความเจริญมาก่อนหน้ายาวนาน มีชุมชน อาคารพาณิชย์อยู่ตลอดสองข้างทาง ในทำเลนี้จึงมีแหล่งอาหารการกิน ร้านค้า ร้านอาหาร ตลาดสดขนาดใหญ่ไว้จับจ่ายซื้อของกินของใช้ โดยในทำเลนี้ก็มีทั้งซูเปอร์มาร์เก็ตทั้งโลตัส บิ๊กซี และตลาดยิ่งเจริญซึ่งเป็นตลาดสดขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังสามารถใช้รถไฟฟ้า BTS เดินทางไปยังห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งมีทั้งศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่างเซ็นทรัล ลาดพร้าว ยูเนี่ยน มอลล์ และมีสถานศึกษา ได้แก่ โรงเรียนหอวัง สถานที่ทำงานก็มีทั้ง ปตท.สำนักงานใหญ่ กระทรวงพลังงาน และไปยังสวนจตุจักร สวนรถไฟใช้พักผ่อนออกกำลังกายได้
แหล่งอาหารการกิน ช้อปปิ้ง พักผ่อนในทำเลหลักสี่ แหล่งจ้างงาน สถานศึกษา และโรงพยาบาลขนาดใหญ่
มีคอนโดพร้อมอยู่ให้เลือก มีให้เลือกได้ตามไลฟ์สไตล์
คอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ในทำเลหลักสี่ให้เลือกอยู่หลายโครงการ โดยแต่ละโครงการก็จะมีจุดเด่นจุดขายที่แตกต่างกันออกไป ให้เราสามารถเลือกได้ตามไลฟ์สไตล์และความชอบส่วนตัว แต่ถ้าจะเลือกคอนโดสักแห่งก็ควรเลือกโครงการที่มีความสะดวกสบายพร้อม ครบในที่ที่เดียว เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความน่าอยู่ให้กับคอนโดที่เราเลือก เพิ่มมูลค่าให้กับห้องของเราในอนาคตได้ เพราะที่ดินติดรถไฟฟ้านั้นเป็นของหายากมีจำกัด และยังเป็นส่วนช่วยในจูงใจสำหรับการปล่อยเช่า เช่น มี Facility ขนาดใหญ่ที่ออกแบบน่าใช้สอย อยู่ในทำเลที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเพื่อความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ทำเลหลักสี่ที่น่าสนใจก็มี ริชพาร์ค เทอร์มินอล @ พหลโยธิน 59 ที่กำลังจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ช่วงสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้
โครงการริชพาร์ค เทอร์มินอล @พหลโยธิน 59 เป็นคอนโดมิเนียมสูง 14 ชั้น มีจำนวนยูนิตพักอาศัยทั้งหมด 563 ยูนิต ที่ตั้งโครงการนั้นอยู่ติดกับ Skywalk เชื่อมต่อ BTS สถานีพหลโยธิน 59 โดยโครงการจะมีสโลแกนว่า “มอบชีวิตที่ ‘สุข’ เหนือกว่าใคร ที่สุดของไลฟ์สไตล์ ใกล้...ไม่ต้องก้าว ที่นี่...เรายกระดับชีวิตให้เหนือกว่า” ภายในโครงการยังมีคอมมูนิตี้มอลล์ความสูง 4 ชั้น อยู่ในส่วนด้านหน้าของตัวอาคารเชื่อมต่อไปยัง Skywalk รถไฟฟ้า BTS โดยจะเปิดเป็นร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็ก คอยให้บริการทั้งผู้คนที่ผ่านไปมาและลูกบ้านของโครงการ โดยจะใช้ระบบ Keycard จัดการการเข้าออกในส่วนนี้ จะมีประตูกระจกกั้นส่วนระหว่างคอมมูนิตี้มอลล์และส่วนที่พักอาศัย เพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน
ตัวทางเชื่อมจากรถไฟฟ้าเข้าสู่โครงการจะอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ของอาคาร
ด้าน Facility ของโครงการจะจัดเอาไว้ที่ชั้น 1 และชั้น 3 ของโครงการ โดยที่ชั้น 3 จะมีสิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ Hybrid Loft Lobby, Fitness, Swimming Pool ระบบเกลือพร้อมด้วย, Coworking Space ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่, ที่จอดรถประมาณ 40% ไม่รวมซ้อนคัน ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการจะใช้ระบบคีย์การ์ดควบคุมการเข้าออกที่ประตูเข้าส่วนทีพักอาศัย ลิฟต์แบบล็อคชั้น
ล็อบบี้เพดานสูงแบบ Double Volume ของโครงการ ที่ดันฝ้าเพดานให้สูงเทียบเท่ากับชั้นพักอาศัยถึง 2 ชั้น เพิ่มความปลอดโปร่งสบายในการใช้สอย Coworking Space ออกแบบเป็นพื้นที่นั่งทำงานริมหน้าต่างกระจก Full Height ที่ให้ความโปร่งโล่ง เพิ่มความผ่อนคลายในการพักผ่อน ทำงาน ห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ของโครงการออกแบบให้หันรับวิวสถานีรถไฟฟ้า และเพิ่มกระจกเงาสร้างมิติที่ดูน่าสนใจภายในห้อง สระว่ายน้ำของโครงการจะเป็นสระระบบเกลือปลอดภัยต่อสุขภาพผิว และมีโซน Jacuzzi ไว้ภายในสระ สวนชั้นดาดฟ้าใช้เป็นที่พักผ่อนช่วงเช้าตรู่ก็มาวิ่งออกกำลังกาย หรือช่วงเย็นๆ แดดร่มแล้วก็มานั่งพักผ่อนชมวิวเมือง เครื่องบิน Take Off ได้เพลินๆ
มียูนิตให้เลือก 4 แบบ ตรงตามไลฟ์สไตล์และงบประมาณ
ยูนิตพักอาศัยภายในโครงการจะมีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่
- Type A : 28.57-29.91 ตร.ม. - Type B : 33.14-34.45 ตร.ม. - Type C : 24.61-26.37 ตร.ม. - Type D : 34.40 ตร.ม. โดยทุกยูนิตจะเป็นห้องแบบ Fully Fitted ให้ชุดครัว เตาแม่เหล็กไฟฟ้า ฮู้ดดูดควัน ตู้เสื้อผ้า เตียงนอน 5 ฟุต และโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมเครื่องปรับอากาศให้ห้องละ 2 ตัว ติดที่ห้องนอนและห้องนั่งเล่น ประตู Digital Door Lock สำหรับยูนิตที่เราจะพาไปชมก็เป็น Type A และ Type B ซึ่งมีขนาดห้องและฟังก์ชันรองรับการอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ได้ลงตัว
Type A
Living Area จะจัดให้ครัวเปิด โต๊ะทานอาหารและห้องนั่งเล่นวางเชื่อมต่อกัน เพื่อให้การใช้งานทั้ง 3 ส่วนนี้มีความต่อเนื่องกันมากที่สุด ถัดจากส่วนรับประทานอาหารไปจะเป็นห้องนอนซึ่งมีประตูกระจกกั้นส่วนติดตั้งให้ ห้องนั่งเล่นจะอยู่อีกส่วนของห้อง หลบมุมจากประตูห้องและห้องน้ำ เพื่อให้การใช้สอยเดินเข้าห้องน้ำ รือเดินออกห้องไม่ต้องตัดผ่านรบกวนส่วนนั่งเล่น ห้องนอนจัดพื้นที่ไว้กว้างขวางดี วางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้ มีความโปร่งโล่ง ใกล้กระจกหน้าต่างของห้อง ฝั่งปลายเตียงจัดพื้นที่เป็นตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และประตูเปิดสู่ระเบียงห้อง
Type B
ยูนิต Type นี้จะวางครัวเปิดไว้ที่ผนังติดกับทางเข้า และเว้นทางเดินให้เข้าใช้งานได้สะดวก จัดมุมโต๊ะทานอาหารให้สามารถใช้งานได้ 2 คนให้อยู่ถัดกัน ถัดจากโต๊ะทานอาหารจะเป็นห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดกับประตูของห้องนอนและห้องอเนกประสงค์ หน้าประตูห้องนอนจะให้พื้นที่มาค่อนข้างเยอะทีเดียว ทำให้ตรงนี้สามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์อย่างตู้วางโทรทัศน์ที่มีความลึกพอประมาณมาใช้เก็บของได้โดยไม่กีดขวางทางเดินเข้าห้องนอน ภายในห้องนอนจัดเตียงนอนมา 5 ฟุต มีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะอเนกประสงค์ไว้ใช้งานในห้องได้พอดีๆ
สำหรับผู้ที่สนใจโครงการก็สามารถแวะไปที่โครงการเพื่อชมห้องตัวอย่าง และดูบรรยากาศ สภาพแวดล้อมจริงของโครงการ โดยโครงการเปิดจะขายห้องในราคาเริ่มต้นที่ 2.29 ล้านบาท ตามพิกัดที่ตั้งโครงการนี้เลย แผนที่โครงการ https://goo.gl/maps/g5thPWzjTSC7RP2z7 ติดต่อ www.richy.co.th โทร.1343 ต่อ 910
ติดตามข่าวสารอสังหาฯและข่าวดังในกระแส www.home.co.th/news
ติดตามข้อมูลโครงการและความเคลื่อนไหวด้านอสังหาฯ www.home.co.th และ www.facebook.com/Homebuyersfanpage
หรือชมวิดีโออื่นๆ คลิกที่นี่ www.home.co.th/vdo , www.youtube.com/tvhomebuyer