การเดินทางบน ถนนบางนา-ตราด ในย่านลาดกระบัง-สุวรรณภูมิ สามารถเดินทางได้แย่างสะดวกสบายเพราะเชื่อมต่อการเดินทางเข้า-ออกเมือง ด้วยทางด่วนบูรพาวิถี และถนนมอเตอร์เวย์-พระราม 9 นอกจากนี้ยังสามารถใช้ทางด่วนวงแหวนรอบนอกตะวันออก (กาญจนาภิเษก) เพื่อไปสู่พระราม 2
บนถนนบางนา-ตราด ในย่านลาดกระบัง-สุวรรณภูมิ ยังแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดเล็ก-ใหญ่ แหล่งช็อปปิ้งระดับไฮเอน สถาบันการศึกษาและโรงพยาบาล รวมไปถึงสถานที่สำคัญที่ถือเป็นจุด Landmark สำคัญอย่างสนามบินสุวรรณภูมิ อีกทั้งเมื่อพูดถึงเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกแล้วถือว่าในย่านี้ตอบโจทย์ได้ทุกมิติ
สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ
King Power ศรีวารี
Robinson ลาดกระบัง
Central Village สุวรรณภูมิ
Paseo Mall ลาดกระบัง
ม.พระจอมเกล้าลาดกระบัง
รร.สาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า
รร. มาเรียลัย
รร.สารสาสน์วิเทศน์ร่มเกล้า
รพ.บางนา2
รพ.ลาดกระบัง
รพ.สิรินธร
ในเรื่องของระบบคมนาคมและการขนส่งสาธารณะในย่านลาดกระบัง-สุวรรณภูมิ มีรองรับทั้งถนนสายหลักและสายรอง รวมถึงถึงระบบรางอย่างรถไฟฟ้าอีกด้วย
อีกทั้งยังสามารถใช้รถไฟฟ้า Airport Rail Link (สถานีลาดกระบัง) เพื่อเชื่อมต่อไปยัง BTS หรือ MRTและในอนาคตอันใกล้ ในย่านลาดกระบัง-สุวรรณภูมิ จะมีการก่อสร้าง BTS สถานี ศรีเอี่ยม ที่ขนานไปกับถนนศรีนครินทร์ และ BTS รถไฟรางเบาสถานีกาญจนาภิเษก (บางนา-สุวรรณภูมิ) ที่ขนานไปกับถนนบรูพาวิถีโดยสามารถอินเตอร์เชนจ์กับสถานีศรีเอี่ยมได้ นอกจากนั้นยังรอบรับการเดินทางด้วย BTS สถานีสำโรงเข้าเมืองไปยังสถานีทองหล่อได้สะดวก
Location เหมาะกับการอยู่อาศัย
สำหรับการเดินทางมายังโครงการ Lio Bliss & Lanceo Crib ลาดกระบัง-สุวรรณภูมิ สามารถเข้าออกได้ 2 เส้นทางด้วยกัน ได้แก่ ถนนลาดกระบัง - มอเตอร์เวย์ และ ถนนบางนา - ตราด หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ ถนนศรีวารีน้อย
เติมเต็มการใช้ชีวิตที่เหนือระดับ
โครงการ Lio Bliss & Lanceo Crib ลาดกระบัง-สุวรรณภูมิ มาพร้อมบ้านแนวความใหม่สไตล์คนเมือง ที่มีการคิดและออกแบบมาเพื่อตอบสนองการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง เพราะมีประเภทบ้านพักให้เลือกมากถึง 3 ประเภท
บ้านเดี่ยว
CAPE : พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. 4 ห้องนอน พร้อมระเบียงชมวิว 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก ส่วนเตรียมอาหาร ครัวแยกสัดส่วน และที่จอดรถ 2 คัน
CRAFT : พื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม. 3 ห้องนอน พร้อมระเบียงชมวิว2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก ส่วนเตรียมอาหาร และที่จอดรถ 2 คัน
บ้านแฝด
CRAFT I : พื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม. 3 ห้องนอน พร้อมระเบียงชมวิว2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก ส่วนเตรียมอาหาร และที่จอดรถ 1 คัน
CLEO ll : พื้นที่ใช้สอย 143 ตร.ม. 3 ห้องนอน พร้อมระเบียงชมวิว 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องอเนกประสงค์ พร้อมส่วนเตรียมอาหาร ครัวแยกสัดส่วน และที่จอดรถ 2 คัน
CLEO SI : พื้นที่ใช้สอย 124 ตร.ม. 3 ห้องนอน พร้อมระเบียงชมวิว2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องอเนกประสงค์ พร้อมส่วนเตรียมอาหาร และที่จอดรถ 1 คัน
ทาวน์โฮม
BLOOM : พื้นที่ใช้สอย 105 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก พร้อมส่วนเตรียมอาหาร และที่จอดรถ 1 คัน
BLOSSOM : พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม. 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก พร้อมส่วนเตรียมอาหาร และที่จอดรถ 2 คัน
ซึ่งวันนี้เราจะแนะนำบ้านตัวอย่างทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกันได้แก่ “บ้านเดี่ยว (CRAFT), บ้านแฝด (CLEO ll) และทาวน์โฮม (BLOSSOM)”
CRAFT : พื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม. 3 ห้องนอน พร้อมระเบียงชมวิว2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก ส่วนเตรียมอาหาร และที่จอดรถ 2 คัน
‘บ้านเดี่ยว CRAFT’ มาพร้อมสถาปัตยกรรมภายนอกอาคารที่เป็นเอกลักษณ์ โดยการใช้ระแนงเข้ามาเป็นองค์ประกอบ เพื่อช่วยให้บ้านมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น พร้อมกับการเพิ่มความอบอุ่นด้วยสีขาว, เทาและน้ำตาล
โดยรอบของตัวบ้านมีพื้นที่กว้างขวางเหมาะสำหรับการจัดส่วนปลูกต้นไม้ใหญ่และบ่อน้ำตกเพื่อเพิ่มความร่มรื่น หรือเลือกปรับเปลี่ยนฟังก์ชันด้วยการจัดเป็นมุม Living Area กึ่งกลางแจ้งก็สามารถทำได้เช่นกัน
ชั้นที่ 1
เมื่อเข้าบ้านมาจะพบกับห้องรับแขก (Living Area) อยู่ทางด้านซ้าย และมุมรับประทานอาหาร (Dining Area) อยู่ทางด้านขวา ซึ่งทั้ง 2 พื้นที่ถูกจัดวางในลักษณะ Open Space ทำให้พื้นที่โปร่งโล่งและเชื่อมต่อถึงกันได้สะดวก
ส่วนของห้องรับแขกจัดว่ามีขนาดกว้างมากที่สุดภายในบริเวณชั้น 1 ทำให้สามารถเลือกจัดวางโซฟาได้แบบ Full Option ไม่ว่าจะเป็น 4-5 ที่นั่ง หรือแบบเข้ามุม โดยเลือกวางโต๊ะกลาง โดยยังเหลือพื้นที่สัญจรโดยรอบ
บริเวณผนังกำแพงฝั่งตรงข้ามจะเลือกจัดตู้หรือชั้นวางโทรทัศน์แบบลอยตัว หรือ Built-in ก็ได้ เพราะด้วยขนาดของพื้นที่ทำให้ดีไซน์ฟังก์ชันการออกแบบได้ตามต้องการ
ในส่วนของมุมรับประทานอาหารฝั่งตรงข้ามกับห้องรับแขกสามารถวางชุดรับประทานอาหาร 4-6 ที่นั่งได้ เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง
ส่วนของครัวและส่วนเตรียมอาหาร (Pantry Area) ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ทางโครงการได้ Built-in Furniture ชุดครัวมาให้พร้อมใช้งาน
บริเวณกลางบ้านทางด้านซ้ายจะเป็นบันไดทางขึ้นสู่ชั้น 2 ส่วนทางด้านขวาคือห้องน้ำ
ห้องน้ำชั้น 1 ถูกออกแบบในลักษณะ Powder Room โดยเน้นความสะดวกและปลอดภัยของผู้ใช้งาน อีกทั้งทางโครงการยังให้อุปกรณ์และชุดสุขภัณฑ์พร้อมใช้งานมาให้
บันไดทางขึ้นชั้น 2 ทางโครงการเลือกเปิดพื้นที่ความสว่างด้วยหน้าต่างบานกระจกใส นอกจากจะมีความสว่างในช่วงกลางวันแล้วยังช่วยประหยัดไฟได้ดี
ชั้น 2
เมื่อเดินขึ้นมาจนถึงชั้น 2 ของตัวบ้าน จะพบกับโถงทางเดินที่เป็นตัวกลางเชื่อมต่อไปยังห้องทางด้านขวาที่ถูกจัดไว้เป็นห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) ส่วนทางด้านซ้ายห้องนอนที่ 2-3 และพื้นที่ห้องน้ำอยู่ตรงกลาง
ห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดบนชั้น 2 สามารถเข้าห้องน้ำจากภายในห้องได้ และมีจุดเด่นของห้องนอนใหญ่คือมีระเบียงด้านหน้า โดยพื้นที่ภายในสามารถแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้มากถึง 3 ฟังก์ชันด้วยกัน ได้แก่
ฟังก์ชันที่ 1 พื้นที่พักผ่อน : เลือกวางเตียงนอนขนาด King Size (6 ฟุต) ได้ โดยพื้นที่ส่วนนี้เชื่อมต่อกับระเบียงด้านหน้า
ฟังก์ชันที่ 2 มุมนั่งเล่น : ในส่วนของฟังก์ชันนี้ เลือกจัดวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้
ฟังก์ชันที่ 3 พื้นที่อเนกประสงค์ : ส่วนนี้เราสามารถออกแบบพื้นที่ได้ตามต้องการ ทั้ง Walk-in Closet หรือ ห้องทำงาน เป็นต้นฯ
ห้องนอนที่ 2 ทางด้านขวามีขนาดพื้นที่ใหญ่พอสมควร สามารถเลือกวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตแบบติดผนัง และเพิ่มฟังก์ชันอื่นได้ เช่น มุมแต่งตัว, มุมทำงาน และอื่นๆ
ห้องนอนที่ 3 อยู่ถัดจากห้องนอนที่ 2 ในส่วนของห้องนี้จะมีขนาดกว้างมากกว่าห้องนอนที่ 2 อยู่พอสมควร ด้วยขนาดทำให้เลือกปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลาย ซึ่งในบ้านตัวอย่างทางโครงการเลือกจัดวางเป็นห้องทำงานไว้ให้เป็นไอเดีย
ซึ่งในความเป็นจริงเราสามารถเลือกออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน, ห้องดูหนัง, ห้องแต่งตัว และห้องพระ เป็นต้นฯ
ห้องน้ำบนชั้น 2 มีขนาดกว้างกว่าห้องน้ำบริเวณชั้น 1 อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งภายในถูกออกแบบในลักษณะของ Powder Room โดยแบ่งแยกส่วนเปียกออกจากส่วนแห้งอย่างชัดเจน ทำให้ใช้งานสะดวก-ปลอดภัยต่อเด็กและคนชรา
โดยรวมของ ‘บ้านเดี่ยว CRAFT’ เป็นบ้านเดี่ยวที่มีขนาดกว้างขวาง ทำให้สามารถรองรับการใช้ชีวิตของครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกตั้งแต่ 3-5 คนขึ้นไป เพราะด้วยการแบ่งสัดส่วนพื้นที่ใช้งานอย่างเป็นสัดส่วน มีการแบ่งพื้นที่ส่วนกลางและส่วนตัวออกจากกันชัดเจน ทำให้เหมาะกับการพักผ่อนและใช้ชีวิตได้ในทุก Generation
CLEO ll : พื้นที่ใช้สอย 143 ตร.ม. 3 ห้องนอน พร้อมระเบียงชมวิว 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก พร้อมส่วนเตรียมอาหาร ครัวแยกสัดส่วน และที่จอดรถ 2 คัน
สถาปัตยกรรมภายนอกของ ‘บ้านแฝด CLEO ll’ มีการออกแบบให้มีความเรียบง่ายผสมผสานสไตล์โมเดิร์น โดยการเลือกใช้วัสดุปิดผิวลายไม้สีน้ำตาล ตัดกับสีขาวและเทา
ซึ่งจุดเด่นของบ้านแฝดโครงการนี้คือไม่สร้างผนังกำแพงชิดกัน โดยเลือกจัดฟังก์ชันเป็นที่จอดรถแทน ทำให้นอกจากสามารถจอดรถได้แล้ว ยังช่วยทำให้ผู้อยู่อาศัยภายในบ้านรู้สึกมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นกว่าเดิม
ชั้นที่ 1
เมื่อเข้ามาภายในตัวบ้านจะพบกับพื้นที่ของห้องรับแขก (Living Area) ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้เองมีขนาดกว้างขวางมากพอที่จะเลือกวางโซฟาแบบ 3-4 ที่นั่ง หรือโซฟาแบบเข้ามุมได้ โดยยังเหลือพื้นที่ระยะทางเดินประมาณ 1.80-2.00 เมตร
บริเวณฝั่งตรงข้ามกับโซฟา เราสามารถเลือกวางตู้สำหรับวางโทรทัศน์หรือเลือก Built-in Furniture เข้ากับผนังกำแพงเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการใช้งาน
เชื่อมต่อจากส่วนของห้องรับแขก ทางโครงการจัดให้เป็นมุมสำหรับนั่งเล่น 2 ที่นั่ง ซึ่งความจริงแล้วบริเวณนี้สามารถเลือกประยุกต์การใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นมุมทำงาน, มุมอ่านหนังสือ เป็นต้นฯ
ถัดเข้ามาด้านในตัวบ้านจากพื้นที่ของมุมสำหรับนั่งเล่น 2 ที่นั่ง จะพบพื้นที่ที่สามารถจัดวางชุดประทานอาหารได้ 4-6 ที่นั่ง
ในพื้นที่เดียวกับมุมรับประทานอาหาร ทางโครงการเลือกจัดวางเป็น Mini Bar สำหรับนั่งดื่มเครื่องดื่ม หรือใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารก่อนยกมาเสริฟที่โต๊ะอาหาร
และจะเห็นได้ว่าประตูที่เปิดออกไปยังส่วนซักล้างด้านหลังจะอยู่ในบริเวณของมุมรับประทานอาหาร
ส่วนต่อจาก Mini Bar จะเป็นห้องครัวแบบปิด เพราะทางโครงการให้ความสำคัญในเรื่องของความเป็นส่วนตัว ดังนั้นการจัดห้องครัวให้แยกออกจากส่วนอื่นอย่างชัดเจน เป็นการป้องกันปัญหาเรื่องของกลิ่นและเสียงระหว่างปรุงอาหาร
ห้องน้ำบริเวณชั้น 1 ถูกแบ่งพื้นที่ในลักษณะ Powder Room ที่มีการแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกัน เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งาน
ชั้น 2
บันไดทางขึ้นชั้น 2 เป็นบันไดแบบเข้ามุม ซึ่งบันได้รูปแบบนี้จะช่วยให้ประหยัดพื้นที่ใช้สอย อีกทั้งบริเวณทางขึ้นยังมีความสว่างเนื่องจากเลือกใช้บานหน้าต่างกระจกใส
เมื่อเดินขึ้นมาบนชั้น 2 จะพบกับโถงกลางที่แบ่งพื้นที่การใช้งานออกเป็น 3 ส่วน ได้แก้ ด้านขวาเป็นห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) ทางด้านซ้ายเป็นห้องนอนเล็ก 2-3 ส่วนพื้นที่ตรงกลางเป็นส่วนของห้องน้ำ
ในส่วนของห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) จัดว่าเป็นห้องที่มีพื้นที่กว้างขวาง ทำให้เลือกวางเตียงขนาด 6 ได้ โดยยังเหลือพื้นที่ใช้สอยอีกเหลือเฟือ ซึ่งเราสามารถแบ่งสัดส่วนพื้นที่สำหรับจัดเป็น Walk-in Closet เหมือนบ้านตัวอย่างที่ทางโครงการดีไซน์ไว้เป็นไอเดีย หรือจะเลือกเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน, มุมนั่งเล่น, มุมอ่านหนังสือ และมุมอเนกประสงค์อื่นๆ
ถัดจากห้องนอนใหญ่ทางด้านขวา มาต่อกันที่ห้องนอนเล็กทางด้านซ้ายกันบ้าง ซึ่งห้องนอนที่ 2 เหมาะสำหรับจัดวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต และสามารถเพิ่มฟังก์ชันบางอย่าง เช่น โต๊ะทำงาน, มุมแต่งหน้าและตู้เสื้อผ้าได้
ในส่วนของห้องนอนที่ 3 จะมีขนาดที่มากกว่าห้องนอนที่ 2 อยู่ไม่กี่ตารางเมตร ทำให้เหมาะกับการวางเตียงนอนขนาด 3.5 ฟุต และเพิ่มประโยชน์ใช้สอยในส่วนอื่นได้ หรือในกรณีที่ครอบครัวในต้องการมีห้องนอนใหญ่เพิ่มอีกหนึ่งห้อง สามารถนำผนังกำแพงระหว่างห้องนอนที่ 2 และ 3 ออก เพื่อขยายพื้นที่ให้กว้างมากขึ้น
ห้องน้ำบนชั้น 2 คล้ายกับห้องน้ำชั้น 1 มีลักษณะแบบ Powder Room คือมีการแยกส่วนระหว่างส่วนอาบน้ำและส่วนชำระออกจากกัน นอกจากเพื่อความสะดวกแล้ว ยังมีปลอดภัยสูง
ภาพรวมของ ‘บ้านแฝด CLEO ll’ เป็นบ้านที่ตอบโจทย์สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกตั้งแต่ 2-4 คนขึ้นไป เพราะทุกตารางเมตรภายในบ้าน มีการคิดและดีไซน์ฟังก์ชันโดยแบ่งสัดส่วนในแต่ละห้องออกมาได้อย่างลงตัว รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน จึงช่วยรองรับการอยู่อาศัยได้ทุกช่วงวัย
BLOSSOM : พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม. 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก พร้อมส่วนเตรียมอาหาร และที่จอดรถ 2 คัน
‘ทาวน์โฮม BLOSSOM’ มีการออกแบบสถาปัตยกรรมภายนอกของอาคารเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมเรขาคณิตแบบสมมาตร โดยเพิ่มลูกเล่นด้วยการใช้สีน้ำตาลสลับกับขาวและเทา ช่วยสร้างความสวยงามอบอุ่นได้ดี ส่วนหลังคามีการปรับโครงสร้างให้ยื่นออกมาเพื่อไม่ให้น้ำกันฝนสาดเข้าภายในตัวทาวน์โฮม
นอกจากนั้นบริเวณหน้าทาวน์โฮม ยังมีเนื้อที่กว้าง 5.7 เมตร ทำให้สามารถจอดรถได้ถึง 2 คัน หรือใครมีรถเพียง 1 คัน สามารถปรับเปลี่ยนต่อเติมพื้นที่บางส่วนให้กลายเป็น Living Area หรือจัดสวนขนาดเล็ก
ชั้นที่ 1
หลังจากเดินผ่านเข้ามาภายในตัวทาวน์โฮม จะเจอกับห้องรับแขก (Living Area) ขนาดกว้างขวาง ทำให้เลือกวางโซฟาขนาด 2-4 ฟุตได้ โดยยังเหลือระยะทางเดินได้อย่างสะดวก
ส่วนผนังกำแพงอีกด้านหนึ่งสามารถ Built-in Furniture ให้เป็นชั้นวางโทรทัศน์ หรือจะปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นชั้นวางของอเนกประสงค์ก็ทำได้เช่นกัน
ทางด้านหลังผนังกำแพงบริเวณชั้นวางโทรทัศน์ ทางโครงการจัดสรรให้เป็นห้องนอนชั้นล่าง ซึ่งภายในบริเวณนี้เองมีพื้นที่มากพอที่จะวางเตียงนอนขนาด 3.5 ฟุต เพื่อใช้เป็นห้องนอนของผู้สูงอายุ
หรือเลือกปรับฟังก์ชันจากห้องนอนให้กลายเป็นห้องทำงาน (ตามภาพประกอบของบ้านตัวอย่าง) หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆได้ตามรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป
บริเวณส่วนครัวและส่วนเตรียมอาหาร จะเชื่อมต่อกับบริเวณห้องนั่งเล่น ซึ่งทางโครงการเลือกออกแบบ Lay-out ในลักษณะ Open Plan โดยใช้เฟอร์นิเจอร์ Mini Bar เป็นตัวแบ่งพื้นที่ ทำให้พื้นที่ภายในโปร่งและสามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่อื่นๆ ได้สะดวกสบาย
ถ้าสังเกตทางด้านหลังของผนังครัว จะพบกับประตูที่สามารถเปิดออกไปบริเวณพื้นที่ซักล้างด้านหลัง หรือหากใครต้องการห้องครัวแบบปิดเพื่อกันกลิ่น ก็สามารถต่อเติมย้ายครัวไปไว้ด้านหลังได้
ทางฝั่งตรงข้ามของส่วนครัวและส่วนเตรียมอาหาร จะถูกแบ่งสัดส่วนให้เป็นมุมรับประทานอาหารแบบ 2-4 ที่นั่ง
ห้องน้ำชั้น 1 จะมีเพียงส่วนชำระเพียงอย่างเดียว ซึ่งทางโครงการได้ให้ชุดสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำมาให้พร้อมใช้งาน
ชั้น 2
ทางขึ้นบันไดชั้น 2 เป็นบันไดแบบเข้ามุม เลือกใช้วัสดุมาตรฐาน แต่จะมีจุดเด่นอยู่ที่เพดานด้านบน ที่ทางโครงการเลือกเปิดช่องแสง Skylight เพิ่มความสว่าง อีกทั้งยังลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในช่วงกลางวันได้อีกด้วย
เมื่อเดินขึ้นมาถึงโถงชั้น 2 จะพบกับห้องทางด้านซ้าย-ขวา และตรงกลาง ซึ่งทางด้านขวาเป็นห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) ทางด้านขวาเป็นห้องนอนเล็ก 1 และ 2 ส่วนตรงกลางถูกแบ่งพื้นที่ให้เป็นห้องน้ำ
เรามาเริ่มที่ห้องนอนใหญ่กันก่อน จะเห็นว่าพื้นที่ภายในมีขนาดกว้าง ทำให้เลือกวางเตียงนอนขนาด King Size 6 ฟุต โดยยังสามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้
นอกจากนั้นผนังอีกฝั่งหนึ่งของเตียงนอน ยังเหลือพื้นที่มากพอให้ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานเช่น จัดเป็นมุม Living Area ขนาดเล็ก หรือแบ่งพื้นที่ทำเป็น Walk-in Closet เป็นต้นฯ
ถัดจากห้องนอนใหญ่ฝั่งขวา ข้ามมาดูห้องนอนที่ 2 ทางด้านฝั่งซ้ายกันบ้าง ซึ่งห้องนี้ทางโครงการเลือกจัดให้เป็นมุมนั่งเล่นกึ่งทำงาน
ส่วนห้องนอนที่ 3 มีขนาดใกล้เคียงกับห้องนอนที่ 2 ซึ่งทางโครงการเลือกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นห้องแต่งตัว ซึ่งเราสามารถเลือกเปลี่ยนฟังก์ชันอื่นๆ เช่น อยากได้ห้องนอนใหญ่อีกหนึ่งห้อง สามารถนำผนังกำแพงออกและรวมให้กลายเป็นพื้นที่เดียวกันได้
ห้องน้ำชั้น 2 นี้ ทางโครงการแบ่งสัดส่วนการใช้งานออกเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้ง เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานและเพิ่มความปลอดภัย นอกจากนั้นยังมาพร้อมอุปกรณ์และชุดสุขภัณฑ์พร้อมใช้งาน
สรุปโดยรวมของ “ทาวน์โฮมBLOSSOM” มีฟังก์ชันประโยชน์การใช้สอยที่กว้างมากกว่าทาวน์โฮมทั่วไป ซึ่งทางโครงการได้แบ่งสัดส่วนมาให้อย่างลงตัว โดยแยกส่วนการใช้งานระหว่าง Common Area และ Private Area ออกจากกันอย่างชัดเจน บวกกับเลือกใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน ถือเป็นการแก้ปัญหารูปแบบทาวน์โฮมแบบเดิมๆ เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนเมืองยุคใหม่ได้อย่างตรงจุด
หายใจได้เต็มที่ ตอบโจทย์ทุก Lifestyle ด้วยพื้นที่ส่วนกลาง
นอกจากบ้านพักที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้อย่างครอบคลุมแล้ว ทางโครงการ Lio Bliss & Lanceo Crib ลาดกระบัง-สุวรรณภูมิ ยังให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลางไม่แพ้กัน
โดยแบ่งสัดส่วนของพื้นที่สีเขียวไว้บริเวณเกาะกลางถนนภายในโครงการเป็นแนวยาว ช่วยสร้างความร่มรื่นได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังมีคลับเฮาส์ที่ภายในมีห้องนั่งเล่นและฟิตเนสคอยให้บริการ
นอกจากนั้นทางโครงการยังเพิ่มเอกลักษณ์ด้วยการออกแบบ ซุ้มประตูทางเข้าหลักในสไตล์ Art Deco บวกกับการเข้าออกภายในโครงการที่สะดวกสบายด้วยถนนหลักกว้าง 16 เมตร ส่วนถนนย่อยภายในซอยกว้าง 8 เมตร
และคลายความกังวลใจในเรื่องของความปลอดภัย เพราะรัดกุมด้วยระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV
โครงการ Lio Bliss & Lanceo Crib ลาดกระบัง-สุวรรณภูมิ ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการบ้านพักอาศัยที่สามารถตอบโจทย์และรองรับการใช้ชีวิตได้ทุกรูปแบบ เพราะมีประเภทบ้านให้เลือกหลากหลาย โดยแบ่งสัดส่วน บ้านเดี่ยว-บ้านแฝด 40 % และทาวน์โฮม 60 % พร้อมส่วนกลางพื้นที่สีเขียว คลับเฮาส์ และฟิตเนส ที่ช่วยเติมเต็ม Lifestyle การอยู่อาศัยได้อย่างลงตัว
ตัวโครงการยังตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดในโซนลาดกระบัง-สุวรรณภูมิ ที่แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย รวมถึงเดินทางเข้า-ออก โครงการได้ 2 เส้นทาง และรองรับด้วยรถไฟฟ้า Airport Rail Link ที่จะทำให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น
ทาวน์โฮม ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
บ้านเดี่ยว-บ้านแฝด ราคาเริ่มต้น 2.89 - 4 ล้านบาท
โปรฟรีค่าใช้จ่าย ณ วันโอน
ฟรีค่าส่วนกลาง 3 ปี
บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด จัดสวนไม้พุ่มและปูหญ้าให้
ส่วนทาวน์โฮมปูหญ้าเพียงอย่างเดียว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โ ครงการต่อไปคือโครงการ ลลิลทาวน์ ไลโอ บลิสซ์ บางนา-สุวรรณภูมิ ซึ่งโครงการนี่เป็นโครงการ Mixed-use อีกโครงการบนทำเลบางนา-ตราด ที่เดินทางสะดวกที่สุดของบางนา ใกล้ทางด่วน,MEGA และสุวรรณภูมิ ทาวน์โฮม และบ้าน ดีไซน์โมเดิร์นใหม่ล่าสุดสไตล์ Modern Stripe Contemporary
ออกแบบมาลงตัวกับไลฟ์สไตล์โมเดิร์นของคนรุ่นใหม่ พร้อมพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ ลงตัวทุกฟังก์ชั่นการใช้งานด้วยราคา”คุ้มค่าที่สุด”บนทำเลบางนา โดยจะมีสินค้าหลักๆ คือ บ้านแฝด และ บ้านเดี่ยว ราคาเริ่มต้น 2.9 ล้านบาท
แบบบ้าน Crisp : พื้นที่ใช้สอย 141 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องรับประทานอาหาร ครัวแยกสัดส่วน เคาน์เตอร์เตรียมอาหาร จอดรถ 1 คัน
แบบบ้าน Craft : พื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องรับประทานอาหาร ครัวแยกสัดส่วน เคาน์เตอร์เตรียมอาหาร ระเบียงชมวิว และที่จอดรถ 2 คัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ > www.lalinproperty.com/
โครงการที่อยู่บนถนนเทพารักษ์ จะมี 2 โครงการ ลลิลทาวน์ แลนซีโอ คริป เทพารักษ์-กิ่งแก้ว ซึ่งเป็นโครงการบนทำเลที่เดินทางสะดวกที่สุด เพียง 15 นาทีจากสุขุมวิท ใกล้ทางด่วนบูรพาวิถี และถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ให้การทำงานและชีวิตครอบครัวเป็นเรื่องใกล้กัน รายล้อมไปด้วย ห้างสรรพสินค้าและ Lifestyle Mall ขนาดใหญ่ ทั้ง Mega บางนา, Market Village สุวรรณภูมิ
ที่สุดของการอยู่อาศัยในสังคมมีระดับ เป็นส่วนตัวไม่แออัด เพียง 92 ครอบครัว ตอบโจทย์การพักผ่อนด้วยสวนสาธารณะขนาดใหญ่ พร้อมระบบความปลอดภัยให้คุณได้อุ่นใจตลอด 24 ชั่วโมง ราคาเริ่มต้นที่ 3 ล้าน*
แบบบ้าน Crisp : บ้านแนวคิดใหม่ พื้นที่ใช้สอย 141 ตร.ม.4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องรับประทานอาหาร ครัวแยกสัดส่วน และที่จอดรถ 1 คัน
แบบบ้าน Crisp Ex : บ้านแนวคิดใหม่ พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม.4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องรับประทานอาหาร ครัวแยกสัดส่วน และที่จอดรถ 2-3 คัน