สำรวจทำเล ย่านสะพานใหม่ ปี 2020 ในวันที่รถไฟฟ้ามาถึง

“ย่านสะพานใหม่-บางเขน” ในอดีตเป็นเพียงทางผ่านเข้าออกระหว่างตัวเมืองมุ่งหน้าไปยังลาดพร้าวและจตุจักร และเป็นเส้นทางที่ใช้ตัดผ่านออกนอกเมืองไปยังรังสิต และแน่นอนว่าการเป็นทางผ่านจึงทำให้ทำเลแห่งนี้ได้เปรียบ ในเรื่องของการเดินทางได้บนถนนพหลโยธินที่มีลักษณะของถนนเป็นเส้นตรง เชื่อมต่อการเดินทางได้กับถนนเส้นหลักและรองอีกหลายเส้นทาง

ปัจจุบันย่านสะพานใหม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมทำให้เกิดศักยภาพที่โดดเด่นหลายอย่างในย่านนี้แบบก้าวกระโดด โดยสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากอาคารสิ่งปลูกสร้างของอสังหาริมทรัพย์ ทั้งห้างสรรพสินค้า, อาคารพาณิชย์ รวมถึงโครงการคอนโดมิเนียมที่มีให้เห็นตลอดสองฝั่งถนน

นอกจากนั้นแล้วภายในซอยย่อยในย่านสะพานใหม่จะมีชุมชนที่หลากหลายอาศัยอยู่ในนั้น ตัวอย่างเช่น ซอยพหลโยธิน 52 ซึ่งภายในซอยจะมีอาคารบ้านเรือน รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกประเภทร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อตามหัวมุมถนน เป็นตัวบ่งบอกได้ว่าภายในย่านสะพานใหม่นี้มีการอยู่อาศัยและจำนวนประชากรที่หนาแน่น

สำหรับการเดินทางในย่านสะพานใหม่สามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนเส้นหลักและถนนเส้นรอง ซึ่งถนนเส้นหลักในการสัญจรของคนในย่านนั้นจะใช้ถนน “พหลโยธิน” ในการเดินทาง โดยแบ่งการเดินทางแบบขาเข้าเมืองและขาออกเมืองไปยังต่างจังหวัด 

ในส่วนของการเดินทางขาเข้าเมืองบนถนนพหลโยธินจะมีจุดแยกอยู่ที่วงเวียนหลักสี่ หรือที่คนในย่านนั้นเรียกติดปากว่า วงเวียนวัดพระศรีฯ เนื่องจากอยู่ใกล้กับวัดพระศรีมหาธาตุบางเขน โดยวงเวียนดังกล่าวถูกแบ่งระยะการใช้งานให้เป็นทางแยกเพื่อเดินทางไปยังถนนสายหลักต่างๆ 

•  แยกทางด้านซ้าย : เชื่อมต่อไปยังถนนรามอินทรา-มีนบุรี ที่จะทะลุไปออกยังรามคำแหง-บางกะปิ ซึ่งในปัจจุบันมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสถานีสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) 
• แยกทางด้านขวา : สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนแจ้งวัฒนะไปยังบางกรวย-บางใหญ่ อีกทั้งยังสามารถตัดเข้าถนนวิภาวดีฯ เพื่อเดินทางบนทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์)
• เส้นทางตรง : หากใช้ถนนเส้นหลักพหลโยธินมุ่งหน้าตรงไป โดยจะเลือกใช้เส้นทางแยกวงเวียนหลักสี่ หรือลอดลงผ่านอุโมงค์วัดพระศรีฯ ก็ได้ ซึ่งจะผ่านสถานที่สำคัญมากมายทั้งมหาวิทยาลัยศรีปทุม, วัดบางบัว, แยกเกษตร, ห้าแยกลาดพร้าว, ย่านจตุจักร ที่เป็นแลนด์มาร์คและศูนย์กลางสำคัญของระบบเศรษฐกิจและระบบคมนาคม

นอกจากการเดินทางบนถนนสายหลักบนถนนพหลโยธินแล้ว ปัจจุบันยังได้มีการสร้างเส้นทาง “รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม (สะพานใหม่-คูคต)” ที่เชื่อมต่อมาจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (หมอชิต) ตัดผ่านห้าแยกลาดพร้าว, แยกรัชโยธิน, แยกเกษตร และผ่านย่านสะพานใหม่ ก่อนไปสุดที่ปลายทางสถานีคูคต 

โดยในปัจจุบันสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มได้เปิดให้บริการจากห้าแยกลาดพร้าวจนถึงสถานีแยกเกษตรบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน และจะเปิดให้บริการครบทั้ง 16 สถานีภายในปี 2563

ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์เดินทางเข้าออกเมือง

นอกจากการสัญจรบนถนนพหลโยธินแล้ว ยังสามารถใช้ “ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์” อยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต หากใช้เส้นทางถนนพหลโยธินสามารถตัดผ่านถนนธูปะเตมีย์ โดยที่ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์จะขนานไปกับถนนวิภาวดีฯ และจะไปบรรจบกับทางพิเศษเฉลิมมหานครบริเวณถนนมิตรไมตรี

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญบนถนนวิภาวดีฯ ได้แก่ “สนามบินดอนเมือง” ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากถนนพหลโยธินเท่าไหร่นัก ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาที โดยสามารถเดินทางจากถนนพหลโยธินตัดเข้าถนนธูปะเตมีย์ หรือจะใช้ถนนพหลโยธินแล้วตัดออกถนนแจ้งวัฒนะแล้วเข้าสู่ถนนวิภาวดีฯ

สิ่งอำนวยความสะดวกครบ รองรับการใช้ชีวิต

ในย่านสะพานใหม่บนถนนพหลโยธินนอกจากสามารถเดินทางเชื่อมต่อได้หลายเส้นทางแล้ว ระหว่างทางยังเต็มไปด้วยสถานที่สำคัญและสิ่งอำนวยความสะดวก อย่างห้างสรรพสินค้าขนาดเล็ก-ขนาดใหญ่, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, ตลาดสด และ Community Lifestyle ที่คอยรองรับการใช้ชีวิตของผู้คนในย่านนั้นได้อย่างสมบูรณ์

เขยิบใกล้เข้ามาก่อนถึงย่านสะพานใหม่ สองฝั่งถนนเต็มไปด้วยสถานที่สำคัญอย่างกรมทหารราบที่ 11, เขตการเดินรถที่ 1 (อู่บางเขน), วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน, สถานีตำรวจบางเขน และวงเวียนหลักสี่ ที่ถือเป็นจุดสำคัญที่บ่งบอกว่าเราเดินทางมาถึงย่านสะพานใหม่แล้ว

เมื่อผ่านวงเวียนหลักสี่มาแล้วจะพบกับห้างสรรพสินค้าอย่าง Tesco Lotus เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดกลางที่มีทุกอย่างที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในย่านสะพานใหม่ได้อย่างครบครัน เดินทางมาอีกไม่ไกลจะพบกับห้างสรรพสินค้า Big C Supercenter ที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่คอยอำนวยความสะดวก ซึ่งห้างสรรพสินค้าแห่งนี้จะอยู่ติดโรงพยาบาลเอกชนเซ็นทรัลเยนเนอรัล (CGH) โดยมีถนนเส้นตัดใหม่เทพรักษ์-สุขาภิบาล 5 คั่นกลาง

หลังจากผ่าน Big C มาประมาณ 50-80 เมตร จะพบกับ Hub แลนด์มาร์คสำคัญที่สุดในย่านสะพานใหม่อย่าง “ตลาดยิ่งเจริญ” ซึ่งถือเป็นตลาดเก่าแก่ที่อยู่คู่กับย่านสะพานใหม่มาอย่างยาวนาน และได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบตามยุคสมัยจากตลาดสด จนกลายเป็น Market Mall ที่มีทั้งโซนอาหารสดและโซนรับประทานอาหารติดแอร์ แบบครบวงจร 

เมื่อเดินทางผ่านตลาดยิ่งเจริญมาอีกไม่ไกลจะพบกับ “โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช” ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ระหว่างกึ่งกลางของย่านสะพานใหม่และสายไหม ในปัจจุบันการเดินทางมายังโรงพยาบาลแห่งนี้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะมีการต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม โดยได้ก่อสร้างทางขึ้นลงสถานีโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชไว้ทางด้านหน้าโรงพยาบาล

สถานที่สำคัญที่อยู่โดยรอบบริเวณบนถนนพหลโยธินขาออก เลยจากโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชจะพบกับสถานที่และเส้นทางสัญจรสำคัญ อย่างแยก คปอ, กองทัพอากาศ, สนามกีฬาธูปะเตมีย์ และอนุสรณ์สถานแห่งชาติ เป็นต้น

ทำเลใหม่ “เทพรักษ์-สุขาภิบาล 5”

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาบนถนนพหลโยธินในย่านสะพานใหม่ช่วงกลางได้มีการตัดถนนสายใหม่ขึ้น ได้แก่ “ถนนเทพรักษ์-สุขาภิบาล 5” ซึ่งจุดประสงค์หลักในการตัดถนนสายนี้เพื่อรองรับการเจริญเติบโตในย่านสะพานใหม่ ทั้งในเรื่องของประชากร ระบบคมนาคม และระบบเศรษฐกิจ

บนถนนเทพารักษ์-สุขาภิบาล 5 นี้ได้กลายเป็นแหล่งชุมชนแห่งใหม่ มีโครงการที่พักอาศัยแนวสูงสลับกับที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยตลอดสองฝั่งถนนเต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อให้เห็นอยู่เป็นระยะ

ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นถนนเส้นตัดใหม่สายรองที่เชื่อมมาจากถนนพหลโยธิน แต่ถนนเทพรักษ์-สุขาภิบาล 5 กลับสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักและสายรองได้อีกหลายเส้นทาง หากแยกไปทางด้านซ้ายจะวิ่งไปยังถนนวัชรพลตัดออกถนนเพิ่มสิน-สายไหม

และหากแยกไปทางขวามือจะสามารถเดินทางไปยังห้าแยกวัชรพล โดยทะลุออกไปที่ถนนรามอินทราได้

เมื่อเดินทางตรงมาก่อนสุดปลายถนนเทพรักษ์-สุขาภิบาล 5 จะพบกับทางเลี้ยวทางด้านซ้ายเพื่อไปยังถนนวัชรพล-เพิ่มสิน โดยระหว่างทางจะเจอทางเบี่ยงที่เชื่อมต่อกับทางด่วนพิเศษฉลองรัช แบ่งออกได้ 3 ด่าน 3 เส้นทางด้วยกัน ประกอบด้วย 

• เลี้ยวซ้าย : บางนา-ดาวคะนอง
• เบี่ยงซ้าย : ถนนพระราม 9-เอกมัย
• ทางตรง : ถนนกาญจนาภิเษก

ทาวน์โฮมสมัยใหม่ เรียบเท่ แต่แอบแฝงไปด้วยความขี้เล่นและสนุกสนาน

โครงการ Lumpini TownVille พหลโยธิน-สะพานใหม่ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 21 ไร่ ทำเลศูนย์กลางของกรุงเทพฯ ฝั่งเหนือ มีความเงียบสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัย และเป็นพื้นที่ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงข่ายถนนที่เชื่อมต่อกันตั้งแต่ถนนพหลโยธิน, ถนนเพิ่มสิน, ถนนสายไหม, ถนนสุขาภิบาล 5, ถนนรามอินทรา รวมถึงจุดขึ้นลงทางด่วน ที่สะดวกง่ายดาย 

อีกทั้งยังใกล้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย เป็นจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสีชมพู ทางเลือกสำหรับการเดินทาง Lumpini TownVille พหลโยธิน-สะพานใหม่ได้รับการออกแบบอย่างใส่ใจ เพื่อให้ที่นี่เป็นอาณาจักรแห่งการอยู่อาศัยที่เต็มไปด้วยความสดใสมีชีวิตชีวา จุดเริ่มต้นชีวิต เริ่มต้นวันใหม่อย่างมีพลัง ณ บ้านที่ลงตัวพอดีกับชีวิต

ซึ่งจุดเด่นของตัวโครงการ Lumpini TownVille พหลโยธิน-สะพานใหม่ ถูกออกแบบในสไตล์ Modern Casual โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสีสันและลวดลายในโลกแฟชั่นมาผสมผสานกับความเรียบง่ายอย่างมีสไตล์ ทำให้สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองในย่านสะพานใหม่ได้อย่างลงตัว และเป็นทาวน์โฮมดีไซน์เพื่อคนรุ่นใหม่ที่มองหาแรงบันดาลใจในการเริ่มต้นชีวิต เริ่มต้นสร้างครอบครัว สะท้อนความร่วมสมัยที่เรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา

บ้านทุกหลังได้รับการออกแบบใหม่ให้เรียบง่าย ทันสมัย โดยเลือกใช้วัสดุคุณภาพ ฟังก์ชันครบและใช้งานได้จริง โดยมีให้เลือก 2 รูปแบบ ได้แก่ 

ทาวน์โฮม 2 ชั้น (Type A) หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินขนาด 19.2 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 126 ตารางเมตร ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน พร้อม 1 ห้องอเนกประสงค์ ที่ปรับใช้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุหรือห้องทำงานได้สบายๆ ตามสไตล์ผู้อยู่อาศัย

ทาวน์โฮม 2 ชั้น (Type B) หน้ากว้าง 5 เมตร ที่ดินขนาด 16.8 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 110 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน พร้อม 1 ห้องอเนกประสงค์ที่ปรับใช้ได้ตามใจ บ้านทั้งสองแบบยังจัดแบ่งพื้นที่ใช้งานได้อย่างลงตัวครบครัน ทั้งเฉลียงหน้าบ้าน โถงรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร ส่วนเตรียมอาหาร ครัวไทย ลานซักล้าง และห้องเก็บของ 

พิเศษยิ่งขึ้นสำหรับทาวน์โฮมแปลงหัวมุมได้เนื้อที่ที่มากกว่า เพิ่มพื้นที่พักผ่อน จัดสวนสวย หรือเป็นมุมเด็กเล่น ทำกิจกรรมกลางแจ้งร่วมกันทั้งครอบครัว

ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้บรรยากาศเป็นกันเอง มีชีวิตชีวา ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่สนุกกับการใช้ชีวิต และมองหาแรงบันดาลใจใหม่อยู่ตลอดเวลา

พื้นที่ส่วนกลางจัดสรรสิ่งอำนวยความสะดวกไว้อย่างครบครันทั้งสโมสร ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำระบบเกลือพร้อมสระเด็ก สนามเด็กเล่น สวนพักผ่อน ที่ออกแบบอย่างตั้งใจด้วยสีสันลวดลายของแถบที่เป็นเอกลักษณ์ของโครงการ

• ประตูทางเข้าโครงการออกแบบอย่างเรียบง่ายแฝงความเท่ด้วยเส้นสายสีสันสดใส และถนนภายในโครงการกว้างขวาง ให้ความรู้สึกโปร่งและพอเหมาะต่อการใช้งาน
  
• ออกแบบหน้าโครงการอย่างเป็นสัดส่วนด้วยสวนส่วนกลางที่ร่มรื่น ทั้งยังเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ส่วนบ้านพักอาศัยภายในได้อย่างพอดี
  
• ชุมชนที่พอดีกับคุณภาพชีวิต ไม่เพียงการเลือกใช้วัสดุและการก่อสร้างที่ได้มาตรฐาน แต่คุณภาพของบ้านลุมพินียังหมายรวมถึงคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยด้วย
  
• การจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกให้พอดีกับสมาชิกทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สีเขียวภายในบ้านที่ออกแบบให้มีขนาดพอเหมาะต่อการดูแล
• รักษา อยู่ในตำแหน่งที่เอื้อต่อการใช้งาน และการดูแลโครงการระหว่างอยู่อาศัยที่เป็นหัวใจสำคัญในการบริหารชุมชนตามมาตรฐานของลุมพินี เพราะคุณภาพชีวิตที่ดีจะส่งต่อชุมชนน่าอยู่อย่างยั่งยืน