คราวที่เเล้วเราพูดถึงเรื่องที่ว่ามีอะไรที่ควรกำหนดไว้ในสัญญาจะซื้อ-จะขาย ทั้งเรื่องการกำหนดวันเเล้วเสร็จและค่าปรับ ส่วนวันนี้เรามาต่อด้วยเรื่องเอกสารเเนบท้ายสัญญาและค่าปรับที่ยังค้างคายังเล่าไม่หมด มาจบกันในคอลัมน์นี้เลย
ก่อนจะทำสัญญาซื้อ-ขาย พลาดไม่ได้เลยที่จะต้องตรวจเช็คเอกสารเเนบท้ายก่อน เพราะว่าสัญญาเองไม่สามารถกำหนดรายละเอียดได้ทั้งหมด ก็เลยเอารายละเอียดไปไว้ที่เอกสารแนบท้ายสัญญา(ตามชื่อเป๊ะๆ) เเล้วเจ้า “เอกสารเเนบท้ายสัญญา” ต้องระบุอะไรบ้างที่เเนบไว้เเละถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา...มาดูกัน
อะไรบ้างที่เป็นเอกสารเเนบท้ายสัญญา?
? แผนผังโครงการ
ถือเป็นส่วนสำคัญเลย เคยมีคำพิพากษาเรื่องนำผังโครงสร้างมาวินิจฉัยว่าไม่ตรงกัน แบบนี้ถือว่าผิดสัญญา เช่น ไม่ก่อสร้างสระว่ายน้ำ สโมสร สวนสาธารณะ ฯลฯ ตามที่เขียนไว้ แบบนี้ถือว่าผิดสัญญาทั้งหมด
? แบบบ้าน
เป็นเอกสารที่ขาดไม่ได้เหมือนกัน เพราะจะพิสูจน์ได้ว่าผู้ขายปลูกบ้านเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้หรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็ต้องใช้เเบบบ้านมายืนยัน แบบบ้านนที่เเนบเป็นแบบรูปด้านไม่มีรายละเอียดมาก
? รายการวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้สร้างบ้าน
ส่วนนี้ผู้ขายส่วนใหญ่มักจะระบุรายละเอียดให้น้อยที่สุด แบบคลุมเครือ เเต่ถ้าสงสัยก็สอบถามให้เเน่ใจไปเลย
เอกสารเเนบท้ายก็จะมีคร่าวๆตามนี้ ดังนั้นอย่าดูเเค่ตัวสัญญาเท่านั้น เอกสารเหล่านี้ก็ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญ เพื่อที่ว่าเวลาเกิดปัญหาจะได้นำไปเป็นหลักฐานได้ ต่อมาเรามาต่อเรื่องค่าปรับจากคอลัมน์ที่เเล้วกันอีกสักเล็กน้อย
ค่าปรับในสัญญาจะซื้อ-จะขาย
เมื่อไม่ชำระหนี้(ไม่ทำเลย)หรือชำระหนี้ไม่ถูกต้อง(ชำระหนี้เเต่ไม่ตรงตามกำหนดเวลา หรือไม่ถูกต้อง) ก็ต้องเสีย “ค่าปรับ” ซึ่งก็มี 2 ลักษณะ
? ถ้าผู้ซื้อไม่ชำระเงินตามกำหนดเวลา ต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละของยอดเงิน
? ริบเงินค่างวดที่ผ่อนไปแล้วทั้งหมด เมื่อมีการเลิกสัญญา
กรณีที่เราผิดนัดจนผู้ขายจะบอกเลิกสัญญาและริบเงินที่ผ่อนไปเป็นค่าเบี้ยปรับ คนส่วนใหญ่ไม่รู้ คิดว่าตัวเองจะต้องเสียค่าปรับทั้งหมดจริง ก็เลยปล่อยไป เเต่ความจริงเเล้วค่าปรับคือค่าเสียหายที่สัญญากำหนดไว้ล่วงหน้ากรณีมีการผิดสัญญาเกิดขึ้น ถ้าเกิดถูกริบแล้วจะขอคืน ก็ต้องฟ้องคดีต่อศาล
การจะทำสัญญาซื้อขายถือเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องระมัดระวังเเละต้องละเอียดรอบคอบ ดังนั้นก่อนคิดจะทำอะไรก็ต้องพิจารณาให้ดีก่อน ทั้งเรื่องกำหนดให้ปรับของเขาและของเรา