แล้วข้อมูลอะไรบ้างล่ะที่แบงก์ใช้ประกอบในการพิจารณาการให้สินเชื่อดังกล่าว เริ่มจากข้อมูลส่วนตัวของผู้ขอสินเชื่อ ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล เพศ สถานภาพสมรส อาชีพ รายได้ ภาระหนี้ แหล่งที่อยู่อาศัย และวัตถุประสงค์ของการขอสินเชื่อ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ต้องกรอกลงในใบสมัครขอสินเชื่อ และต้องเป็นข้อมูลตามความเป็นจริงด้วย
ต่อมาเป็นข้อมูลประวัติการขอสินเชื่อและประวัติการชำระหนี้ของผู้ขอสินเชื่อ หรือเรียกง่ายๆ คือ ข้อมูลเครดิต ซึ่งผู้กู้สามารถยื่นขอตรวจสอบเครดิตได้ที่บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ขณะเดียวกันสถาบันการเงินที่จะปล่อยกู้ก็จะมีการตรวจสอบข้อมูลจากบริษัทฯ ดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ที่สำคัญการจะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับนโยบายการให้สินเชื่อของแต่ละสถาบันการเงิน การปล่อยกู้ง่ายหรือยากบางทีก็แล้วแต่สถานการณ์ เช่น แบงก์ต้องการขยายตลาดสินเชื่อรายย่อย การแข่งขันในตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัย รวมทั้งวิธีการและขั้นตอนในการพิจารณาที่แตกต่างกันไปในแต่ละสถาบันการเงิน
นอกจากนี้ก็ยังมีปัจจัยภายนอกประกอบอื่นๆ เช่น ภาวะทางเศรษฐกิจ ณ ขณะนั้นเป็นอย่างไร หากเศรษฐกิจไม่ดีก็อาจส่งผลต่อการพิจารณาให้สินเชื่อ โดยเฉพาะอาชีพอิสระหรือค้าขายที่ไม่มีรายได้ประจำ หรือปรับสัดส่วนภาระหนี้กับรายได้ซึ่งจะทำให้กู้ได้ยากขึ้น เป็นต้น
สำหรับเอกสารและหลักฐานที่ผู้ขอกู้ควรจัดเตรียมให้พร้อมก่อนติดต่อขอสินเชื่อ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลานำส่งเอกสาร-หลักฐานเพิ่มเติมในภายหลัง มีดังต่อไปนี้
1.เอกสารของผู้กู้
* สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน/บัตรข้าราชการ
* สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (กรณีประกอบวิชาชีพเฉพาะ)
* สำเนาทะเบียนบ้าน
* สำเนาทะเบียนสมรส/ใบหย่า/ใบมรณะบัตรของคู่สมรส (ถ้ามี)
* ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ทุกใบ)
2.เอกสารแสดงรายได้ของผู้ขอสินเชื่อ
* กรณีเป็นผู้ที่มีรายได้จากงานประจำ/พนักงาน/ข้าราชการ ได้แก่ ต้นฉบับหนังสือรับรองเงินเดือน (ไม่เกิน 3 เดือน), ต้นฉบับสลิปเงินเดือนล่าสุด, สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารที่รับเงินเดือน และสำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ประจำปี (กรณีรับเงินเดือนเป็นเงินสด)
* กรณีเป็นเจ้าของกิจการ หรือประกอบธุรกิจส่วนตัว ได้แก่ สำเนาเอกสารการจดทะเบียนบริษัท (ทะเบียนพาณิชย์/การค้า/หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล/ทะเบียนผู้ถือหุ้น) (ไม่เกิน 3 เดือน), สำเนาทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ไม่เกิน 3 เดือน), สำเนาบัญชีธนาคารที่แสดงกระแสการเงินของบริษัท เช่น บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน วงเงินเบิกเกินบัญชี เป็นต้น ย้อนหลัง 6 เดือน, งบการเงินปีล่าสุด หรือสำเนารายการแสดงภาษีเงินได้ประจำปีปีล่าสุด
3.เอกสารหลักประกันในการขอสินเชื่อ ได้แก่ สำเนาโฉนดที่ดิน/สำเนาเอกสารกรรมสิทธิ์ห้องชุด, สำเนาเอกสารสัญญาจะซื้อจะขาย, เอกสารหลักฐานการชำระเงินดาวน์, แผนที่แสดงที่ตั้งหลักประกัน
ดังนั้นในกรณีที่ผู้กู้ประกอบอาชีพการงานที่มั่นคง มีรายได้ประจำที่ตรวจสอบได้ ไม่มีหนี้สิน หรือมีภาระหนี้สินน้อย ทำให้มีความสามารถในการชำระหนี้สูง การขอสินเชื่อก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
แต่ถ้าประกอบอาชีพอิสระ เช่นค้าขายแผงลอย ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีหลักฐานทางการเงิน (Statement) หรือบัญชีรายรับ-รายจ่าย-ใบเสร็จต่างๆ โอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อจะยากขึ้น หรืออาจต้องจ่ายดอกเบี้ยที่แพงขึ้น แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเลยเสียทีเดียว โดยแนะนำให้เปิดบัญชีเงินฝากรายเดือนและเดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอ พยายามไม่ก่อหนี้เพิ่มเพื่อสร้างเครดิตให้กับตัวเอง