เติมเต็มชีวิตให้มีสีสัน กับ โครงการ วิลล์ 168 บางหว้า คอนโดใหม่บนทำเลศักยภาพ

โครงการตั้งอยู่บนทำเลที่น่าอยู่สะดวกสบายย่านฝั่งธนในซอยเพชรเกษม 36 แยก 1 ที่เป็นย่านที่มีความหลากหลายด้านไลฟ์สไตล์ อยู่ใกล้สถานศึกษา ศูนย์การค้า สามารถเชื่อมต่อการคมนาคมกับถนน 2 สาย คือถนนราชพฤกษ์และถนนเพชรเกษมและยังใกล้รถไฟฟ้า BTS และ MRT เพียง 800 เมตร เพื่อไปยังแหล่งงานใหญ่และ CBD ใกล้เคียง

โดยจากทางเข้าหลักของโครงการบนซอยเพชรเกษม 36 แยก 1 หากจะออกไปยังถนนราชพฤกษ์สามารถผ่านทางซอยราชพฤกษ์ ซอย 5 และอีกทางคือซอยเพชรเกษม ซอย 36 เพื่อออกไปยังถนนเพชรเกษมได้ ซึ่งบนถนนเพชรเกษมบริเวณใกล้โครงการเป็นที่ตั้งของรถไฟฟ้าสถานี “บางหว้า”  ซึ่งเป็น Interchange Station เชื่อมต่อระหว่าง BTS สายสีเขียว และ MRT สายสีน้ำเงิน

BTS สถานีบางหว้า เป็นส่วนหนึ่งของ Interchange Station นี้ที่สามารถเชื่อมต่อไปยัง BTS สายสีเขียว ที่เป็นที่ตั้งในส่วนของ CBD อย่างสีลม สาทร ที่เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ และสายสุขุมวิทที่มีความเจริญทั้งแหล่งงานและศูนย์การค้า โดยค่าโดยสารจาก BTS สถานีบางหว้า ไปยัง BTS สถานีศาลาแดง ที่อยู่บริเวณถนนสีลม อยู่ที่ 52 บาท หากไปยัง BTS สถานีอโศก ที่อยู่บริเวณถนนสุขุมวิทค่าโดยสารจะอยู่ที่ 59 บาท โดยจะต้องไปเปลี่ยนขบวนรถที่ BTS สถานีสยามระหว่างทางก่อน

อีกส่วนหนึ่งของ Interchange Station นี้คือ MRT สถานีบางหว้า อยู่บนสายสีน้ำเงินซึ่งเป็นวงแหวนรอบตัวเมืองกรุงเทพฯ เป็นอีกตัวเลือกที่สะดวกต่อการเดินทางไปในสถานที่ต่าง ๆ เปรียบเทียบค่าโดยสารโดยใช้สถานีปลายทางเดียวกัน ค่าโดยสารจาก MRT สถานีบางหว้า ไปยัง MRT สถานีสีลม (Interchange Station กับ BTS สถานีศาลาแดง) อยู่ที่ 35 บาท และหากไปยัง MRT สถานีสุขุมวิท (Interchange Station กับ BTS สถานีอโศก) ค่าโดยสารจะอยู่ที่ 42 บาท ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีอีกทางที่จะเลือกสัญจรไปมาในชีวิตประจำวัน

ในภาพรวม MRT ค่าโดยสารจะค่อนข้างถูกกว่า BTS แต่ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวก ประเภทบัตรโดยสาร และความต้องการเดินทาง โดยค่าโดยสารข้างต้นจาก Official Website ของทาง BTS และ MRT ในเดือนตุลาคม 2565 ในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลง ต้องเข้าไปเช็คที่หน้า Website หรือที่สถานีกันอีกครั้ง เพราะหากต้องเดินทางเข้าไปในตัวเมืองทุกวันคงต้องวางแผนเรื่องค่าโดยสารและการเดินทางกันอย่างรอบคอบพอสมควร

บริเวณรอบ ๆ โครงการค่อนข้างเป็นชุมชน พลุกพล่าน ไม่เงียบเหงา ฟุตบาทกว้างเดินสะดวกสบายในฝั่งถนนเพชรเกษม ในส่วนของสถานที่ใกล้เคียงโครงการมากที่สุด คือ มหาวิทยาลัยสยาม ระยะห่างเพียง 200 เมตร ถ้าเรียนหรือทำงานที่นี่สามารถเดิน ปั่นจักรยาน หรือใช้สกู้ตเตอร์ไฟฟ้า ได้สบาย ๆ และอีกส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตคนเมืองในปัจจุบันคือ ห้างสรรพสินค้า มีถึง 3 ที่ใกล้เคียงโครงการ ไม่ว่าจะเป็น The Mall บางแค ที่ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษมระยะห่างจากโครงการประมาณ 6.1 กิโลเมตร หรือสามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT ไปลง MRT สถานีหลักสอง ซึ่งเป็นสถานีปลายทางในปัจจุบันด้วยค่าโดยสาร 24 บาท และ Lotus's บางแค ระยะทาง 5.4 กิโลเมตรจากโครงการ และสามารถไปลง MRT สถานีหลักสองได้เช่นกัน แต่ต้องเดินย้อนมาอีกนิดหน่อยประมาณ 1 กิโลเมตร อีกห้างสรรพสินค้าใกล้เคียงคือ Seacon บางแค ระยะทางจากโครงการประมาณ 3.5 กิโลเมตร สามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT ไปลงที่ MRT สถานีภาษีเจริญ ที่ราคาค่าโดยสาร 19 บาท ถือว่าได้ความหลากหลายของทั้ง 3 ห้างสรรพสินค้าให้เลือกซื้อของกินใช้ในรูปแบบต่าง ๆ กัน

สถานที่ใกล้เคียงอื่น ๆ เช่น โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค ระยะทาง 7.1 กิโลเมตรจากโครงการ และโรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า ระยะทาง 9.3 กิโลเมตรจากโครงการ สองสถานที่นี้ยังไม่มีรถไฟฟ้าผ่านในปัจจุบัน จะเป็นโครงการในอนาคตที่ต่อจาก MRT สถานีหลักสองอีกที

ชื่อโครงการ “วิลล์ 168 บางหว้า (Ville 168 Bang Wa)” หลาย ๆ คนคงมีคำถามเกิดขึ้นในหัวจากชื่อโครงการที่มีเลข 168 ที่เตะตามาก ๆ ที่ปกติตัวเลขในชื่อโครงการมักจะเป็นชื่อซอย หรือชื่อสถานที่ แต่ตัวเลขนี้มีที่มาจาก “24 ชั่วโมงใน 7 วันแห่งความสุข” (24x7 = 168) ซึ่ง 168 ก็เป็นเลขมงคลและยังตรงกับบ้านเลขที่เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่เจ้าของโครงการอย่าง L.P.N. ด้วย นอกจากนี้โครงการในอนาคตทาง L.P.N. ก็จะมีตัวเลขนี้ตามหลังชื่อโครงการให้เห็นกันอื่กเรื่อย ๆ

แนวคิดของการออกแบบของโครงการอยู่ภายใต้วลี “MAKE YOUR LIVING IN COLORS” ออกแบบอาคารและพื้นที่ให้มีสีสัน น่าอยู่ พร้อมจะเติมความสดใสและพลังบวกให้กับการใช้ชีวิต โดยใช้ Element การออกแบบในลักษณะ Minimal สัดส่วนสวยงาม ไม่หวือหวา เข้าใจง่าย สบายตา แต่น่าสนใจ สอดแทรกด้วยสีสันตาม Concept ของโครงการ เหมือนการเติมสีเข้าไปในชีวิตให้ชีวิตมีสีสันมากขึ้น ตามภาพสำนักงานขายข้างต้น ที่สื่อถึงตัวโครงการได้อย่างดีมาก

นอกจากในแง่การออกแบบแล้ว ทางโครงการยังมีพื้นที่สำหรับ Facility กว่า 20 รายการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ เพื่อ Recharge ชีวิต และ เติมความรู้สึกดี ๆ ใน Feel Good Space ในรูปแบบต่าง ๆ ที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ นอกจากส่วนกลางแล้ว ภายในห้องพักยังออกแบบมาเพื่อ สร้างพื้นที่ส่วนตัว ได้ตามใจเพื่อรองรับการใช้สอยได้หลากหลายภายใต้คำว่า Live Work & Play อีกด้วย

โครงการ “วิลล์ 168 บางหว้า (Ville 168 Bang Wa)” เป็นโครงการคอนโดมิเนียม 8 ชั้น (Low Rise) โครงการใหม่จาก L.P.N. Development บนพื้นที่ดินขนาด 9 ไร่เศษ ประกอบด้วย 4 อาคาร คือ A, B, C และ D แต่ละอาคารมีความสูง 8 ชั้น บริเวณชั้นที่ 2-8 จะเป็นชั้นพักอาศัย ทั้งโครงการมีห้องพักอาศัยรวมทั้งสิ้น 875 ยูนิต ส่วนชั้นที่ 1 จะเป็นที่จอดรถจำนวน 281 คัน คิดคร่าว ๆ เป็น 32% ของจำนวนยูนิต มีส่วนที่จะติดตั้ง Ev-Chager สำหรับชาร์จรถไฟฟ้า และในส่วน Facility ก็จะอยู่ในชั้นที่ 1 ทั้งหมด จำนวน 20 รายการ คือ Lounge, Co - Living, Eco - Living, Fitness Zone, Open Lawn, Gravel Court, Seating Area Under Shade, Sunken Seat Pocket, Outdoor Living Area, Outdoor Co - Working Space, Swimming Pool, Shallow Pool, Pool Deck / Pool Cafe, Feature Wall, Jogging Track, BBQ Area, Sunken & Fire Pit, Private Seating Pocket, Juristic Person, Parcel Storage โดยจะถูกแบ่งเป็น 2 โซนใหญ่ ๆ คือ โซนแรกเรียกว่า Active จะถูกล้อมด้วย อาคาร A, B และ C กิจกรรมส่วนใหญ่ในพื้นที่นี้จะเป็นการออกกำลังกาย อีกโซนเรียกว่า Private จะอยู่บริเวณอาคาร D ซึ่งในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่ทางโครงการจะสามารถทำทางเดินเข้า-ออก สำหรับลูกบ้านบริเวณนี้ได้ แต่ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาโครงการ นอกเหนือจากนี้ทางโครงการมีการจัดเตรียม Solar Cell ไว้บริเวณดาดฟ้าของอาคารด้วย

ส่วนพักอาศัยจะอยู่บริเวณชั้นที่ 2-8 มีเฉพาะห้องพักรวมทั้งสิ้น 875 ยูนิต ห้องพักแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ Studio และ One Bedroom ห้องพักจะวางตัวในแนวทิศตะวันออก-ตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ มุมมองจากภายในห้องมีการวางเพื่อที่จะลดการปะทะกับอาคารตรงข้าม แต่ก็มีบางห้องที่จะปะทะกับอาคารตรงข้ามซึ่งห้องลักษณะนี้จะมีระยะห่างกับห้องฝั่งตรงข้ามพอสมควร

อาคารแรกเป็นอาคาร A จะอยู่ใกล้กับทางเข้าหลักของโครงการมากที่สุด การจัดวางอาคารเป็นรูปตัว I ประกอบด้วยห้องพักอาศัย 140 ยูนิต แต่ละชั้น มี 20 ยูนิต ห้องฝั่งที่เป็นแบบ Studio จะหันไปด้านหน้าโครงการ ส่วนอีกฝั่งเป็นห้องแบบ One Bedroom จะหันไปทางส่วนกลางและมองเห็นอาคาร C

อาคาร B จะอยู่ต่อจากอาคาร A การจัดวางอาคารเป็นรูปตัว L ประกอบด้วยห้องพักอาศัย 245 ยูนิต แต่ละชั้น มี 35 ยูนิต ห้องฝั่งที่เป็นแบบ One Bedroom จะหันไปด้านหน้าและด้านข้างโครงการ ส่วนอีกฝั่งเป็นห้องแบบ Studio ที่บางส่วนเป็นห้องแบบ One Bedroom จะหันไปทางส่วนกลาง รูปแบบการจัดวางห้องสลับกับอาคาร A

อาคาร C จะวางตัวขนานกับอาคาร A คั่นด้วยส่วนกลางโซน Active การจัดวางอาคารเป็นรูปตัว I  ประกอบด้วยห้องพักอาศัย 245 ยูนิต แต่ละชั้น มี 35 ยูนิต อาคารนี้จะประกอบด้วยห้องแบบ Studio เป็นส่วนใหญ่ ห้องแบบ One Bedroom จะมีเพียงชั้นละ 3 ยูนิต

อาคาร D จะตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ดินแคบยาวของโครงการ ถือว่าเป็นอาคารที่อยู่ในพื้นที่ค่อนข้าง Private การจัดวางอาคารเป็นรูปตัว I ประกอบด้วยห้องพักอาศัย 245 ยูนิต แต่ละชั้น มี 35 ยูนิต อาคารนี้จะประกอบด้วยห้องแบบ Studio เป็นส่วนใหญ่ ห้องแบบ One Bedroom จะมีเพียงชั้นละ 3 ยูนิต และบางส่วนของห้องพักอาศัยเป็นแบบ Single Corridor คือด้านหน้าห้องพักอาศัยไม่เจอกับห้องฝั่งตรงข้าม เป็นโถงทางเดินและหน้าต่างแทน ถือว่าเป็นข้อดี โปร่ง และมีความเป็นส่วนตัว

ตัวอาคารในโครงการจะก่อสร้างด้วยระบบพื้น Post-Tension ผนังภายนอกเป็นผนังระบบ Pre-Cast และผนังภายในเป็นแบบก่ออิฐมวลเบาและอิฐมอญแดง

มาดูห้องแบบแรก ที่มีสัดส่วนมากที่สุดในโครงการ คือห้องแบบ Studio ที่มีขนาด 26.00-29.50 ตร.ม.ทางโครงการวาง Layout ไว้ 3 แบบ สำหรับห้อง Studio ซึ่งสามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้ตามความต้องการทั้งแบบวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้ 2 เตียง และวางเตียงเดี่ยวขนาด 5-6 ฟุตได้ วันนี้เราจะพามาดูห้องตัวอย่างแบบ Studio ขนาด 26.00 ตร.ม. ที่ทางโครงการวาง Layout แบบเตียงคู่ เป็นการวางห้องนอนแบบติดอากาศ ส่วนห้องครัวและห้องน้ำอยู่ติดฝั่งโถงทางเดิน

ห้องตัวอย่างจะไม่ได้ติดตั้งประตูบานหน้าห้องให้ แต่ห้องพักอาศัยจริงมีการติดตั้งประตูและมี Digital Door Lock ส่วนแรกผ่านประตูเข้ามาภายในห้องจะพบกับส่วนครัวที่มีเคาน์เตอร์ครัว โดยทางโครงการจะติดตั้ง Hob Hood และอ่างล้างจาน มาพร้อมกับเคาน์เตอร์ครัวเลย ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่ทางโครงการไม่ได้จัดเตรียมไว้ให้ในห้องพักจริง อีกฝั่งใกล้กับประตูทางเข้าเป็นที่วางเครื่องซักผ้า วัสดุพื้นส่วนนี้จะปูกระเบื้องและมีการเตรียมงานระบบสำหรับเครื่องซักผ้ารองรับไว้ และมีทางเข้าห้องน้ำอยู่ถัดไปจากที่วางเครื่องซักผ้า วัสดุพื้นในส่วนนี้เป็นพื้นไม้ SPC สีอ่อนรวมถึงภายในห้องนอนด้วย ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีสูง 2.50 เมตร ดวงไฟดาวน์ไลท์ 

ทางเข้าห้องน้ำมี Curb กรุวัสดุสีขาวกันน้ำ พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องโทนสีเทาขนาด 60x60 ซม. ผนังปูกระเบื้องสีเทาอ่อนขนาด 30x30 ซม. ฝั่งซ้ายมือเป็นส่วนแห้งติดตั้งอ่างล้างหน้าสีขาว และโถสุขภัณฑ์สีขาว มีสายฉีดชำระ ที่ใส่กระดาษชำระ และราวแขวนผ้าสีโครเมียม บริเวณด้านหลังอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์เป็นเคาน์เตอร์เล็ก ๆ ปูกระเบื้อง สามารถวางของได้ เหนืออ่างล้างหน้ามีกระจกเงาขอบตัดลบคม อีกฝั่งเป็นส่วนเปียกพื้นลดระดับเล็กน้อยกันน้ำไหลเข้ามาส่วนแห้ง ติดตั้งฝักบัวแบบปรับระดับได้ สีโครเมียม สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำเป็นของ Cotto และ American Standard

ถัดมา เดินผ่านประตูบานเลื่อนกระจกบานกรอบอลูมิเนียมสีขาว ภายในห้องนอนทางโครงการวางเตียงคู่ ขนาด 3.5 ฟุตไว้ให้เป็นตัวอย่าง จะเห็นว่าตัวห้องสามารถรับแสงได้เต็มที่จากระเบียงและหน้าต่าง บริเวณหน้าต่างติดผนังภายนอกสามารถวางโต๊ะทำงานได้ ส่วนการตกแต่งเป็นสไตล์ Minimal แทรกด้วยสีสันตาม Concept ของโครงการ เฟอร์นิเจอร์ในห้องนี้ทางโครงการจัดไว้เป็นตัวอย่างไม่มีแถมให้มากับห้อง

ส่วนที่วางโต๊ะทำงานใกล้หน้าต่างอลูมิเนียมบานเลื่อน พื้นที่กว้างพอจะวาง Sofa หรือ Sofa Bed ไว้สำหรับนั่งเล่น นอนเล่นได้ มีตำแหน่งปลั๊กบริเวณฝั่งหัวเตียงให้ด้วย

ฝั่งตรงข้ามกับเตียง ทางโครงการจัดไว้เป็นตู้เสื้อผ้า โต๊ะแต่งหน้า และโต๊ะทำงานอีก 1 ตำแหน่ง บริเวณโต๊ะทำงานสามารถปรับเป็นชั้นวางทีวีได้ มีงานระบบปลั๊ก สัญญาณ TV และอินเทอร์เน็ตรองรับไว้ ถัดไปเป็นระเบียง พื้นปูกระเบื้องสีเทา ราวระเบียงเหล็กโปร่งทาสีเทา ซึ่งเป็นตำแหน่งวาง CDU ของเครื่องปรับอากาศ ถูกจัดไว้ปลายเตียง ลดเสียงรบกวนจาก CDU เวลานอนหลับ

จะเห็นได้ว่าส่วนของห้องนอนในของ Studio ขนาด 26.00 ตร.ม. นี้ ค่อนข้างยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามความต้องการและกิจกรรมได้อย่างคุ้มค่ามาก ๆ

ห้องต่อมาเป็นห้องแบบ One Bedroom หน้ากว้าง ที่มีขนาด 33.50-34.50 ตร.ม. ห้องตัวอย่างที่ทางโครงการจัดไว้เป็นห้องขนาด 33.50 ตร.ม. ออกแบบห้องเป็นแบบหน้ากว้าง ทำให้ทุกฟังก์ชันการใช้งานได้รับแสงธรรมชาติ ยกเว้นส่วนของห้องน้ำ มีการจัดวางห้องนั่งเล่น ห้องครัว และส่วนรับประทานอาหาร เป็นส่วนเปิดเข้าหากัน แต่ก็ยังใช้งานได้เป็นสัดส่วน ส่วนห้องนอนและห้องน้ำก็แยกเป็นสัดส่วนชัดเจน

ผ่านประตูห้องเข้ามาจะพบกับห้องนั่งเล่น ที่ได้รับแสงจากระเบียง ทางด้านซ้ายมือเป็นห้องครัวและส่วนรับประทานอาหาร ทางขวามือเป็นห้องนอนและห้องน้ำ วัสดุพื้นเป็นพื้นไม้ SPC สีอ่อน ฝ่าเพดานฉาบเรียบสูง 2.50 เมตร ตกแต่งแบบ Mininal แทรกสีสันตาม Concept โครงการ

ส่วนรับประทานอาหารทางโครงการจัดไว้ให้เป็นโต๊ะรับประทานอาหารหรือโต๊ะทำงาน ที่มี Pantry เล็ก ๆ และตู้เย็น ถัดไปเป็นช่องทางเข้าห้องครัวสามารถเพิ่มประตูบานเลื่อนมาติดตั้งในส่วนนี้ได้เพื่อความเป็นสัดส่วนมากขึ้น

ภายในห้องครัวจะมีเคาน์เตอร์ครัว โดยทางโครงการจะติดตั้ง Hob Hood และอ่างล้างจาน มาพร้อมกับเคาน์เตอร์ครัวเลยเช่นกัน ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์ในห้องอื่น ๆ ที่ทางโครงการไม่ได้จัดเตรียมไว้ให้ มีตำแหน่งวางเครื่องซักผ้ามีการเตรียมงานระบบรองรับไว้ เหนือเครื่องซักผ้าเป็นหน้าต่างอลูมิเนียมบานเลื่อน สามารถเปิดระบายอากาศเวลาทำอาหารได้

ทางเข้าห้องน้ำมี Curb กรุวัสดุสีขาวกันน้ำ พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องโทนสีเทาขนาด 60x60 ซม. ผนังปูกระเบื้องสีเทาอ่อนขนาด 30x30 ซม. เช่นเดียวกับห้องแบบ Studio ก่อนหน้า มีการแบ่งส่วนเปียก-แห้งด้วยการลดระดับ ส่วนแห้งติดตั้งอ่างล้างหน้าสีขาว และโถสุขภัณฑ์สีขาว สายฉีดชำระ ที่ใส่กระดาษชำระ และราวแขวนผ้าสีโครเมียม เหนืออ่างล้างหน้ามีกระจกเงาขอบตัดลบคม ถัดเข้าไปด้านในส่วนเปียกมีการลดระดับพื้นเล็กน้อยเพื่อแบ่งส่วนเปียก-แห้ง ติดตั้งฝักบัวแบบปรับระดับได้ สีโครเมียม สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำเป็นของ Cotto และ American Standard เช่นกัน

ส่วนสุดท้ายของห้องนี้เป็นห้องนอนที่จัดฟังก์ชันไว้สำหรับนอนเป็นหลัก สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตและตู้เสื้อผ้าได้ มีช่องแสงกว้างทำให้ห้องดูสว่างและโปร่ง

ห้องแบบ One Bedroom ขนาด 33.50 ตร.ม. นี้มีการเชื่อมต่อฟังก์ชันอย่างลื่นไหล แต่ก็ยังคงความเป็นส่วนตัวของห้องนอนและห้องน้ำได้อย่างชัดเจน เพื่อตอบโจทย์กิจกรรมในแง่ Active และกึ่ง Active ทั้งการทำงาน ดูทีวี ทำครัว และ Passive คือการนอนและทำธุระส่วนตัวได้อย่างดี

ห้องตัวอย่างห้องสุดท้ายเป็นห้องแบบ One Bedroom เช่นกัน แต่ต่างกันที่ขนาดและรูปแบบการวางฟังก์ชัน ห้องรูปแบบนี้มีขนาด 34.00-35.00 ตร.ม. ในส่วนของห้องตัวอย่างที่ทางโครงการจัดไว้ เป็นห้องขนาด 34.00 ตร.ม. ออกแบบจัดวางฟังก์ชันที่ทำให้การใช้สอยแต่ละพื้นที่มีความชัดเจนและเป็นสัดส่วนมากขึ้น จัดวางห้องนอนและห้องครัวให้ติดอากาศได้รับแสงธรรมชาติ ส่วนห้องน้ำและห้องนั่งเล่นอยู่ติดกับฝั่งโถงทางเดิน

ส่วนแรกที่เข้ามาในห้อง จะพบกับห้องนั่งเล่น มองผ่านเข้าไปจะเป็นประตูบานเปิดเข้าห้องนอน ห้องพักอาศัยจริงจะมีประตูทำให้ส่วนของห้องนั่งเล่นอาจจะต้องเปิดไฟตอนกลางวัน เยื้องไปทางซ้ายจะเป็นทางไปห้องน้ำและห้องครัว ส่วนของห้อง Type นี้ใช้วัสดุอุปกรณ์เช่นเดียวกับห้องก่อนหน้า ทั้งพื้นไม้ SPC และฝ้าฉาบเรียบทาสี ดวงไฟดาวน์ไลท์

ในห้องนั่งเล่นนี้สามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้ ชั้นวางทีวีจะเยื้องไปทางประตูทางเข้าเล็กน้อย หากเลือกโซฟา 2 ที่นั่ง ส่วนที่เหลือสามารถวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะตัวเล็ก ๆ สำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้เช่น โต๊ะทำงานหรือโต๊ะทานข้าว

เดินเข้ามาฝั่งห้องน้ำและห้องครัวจะพบกับตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของที่ทางโครงการจัดไว้ให้เป็นชั้นสำหรับวางอุปกรณ์เกี่ยวกับเสื้อผ้า

ห้องน้ำใช้วัสดุอุปกรณ์ กระเบื้่อง สุขภัณฑ์เหมือนกับห้อง Type อื่น ๆ มีการแยกส่วนเปียก-แห้ง ต่างกันที่การวางฟังก์ชัน โดยที่อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์จะอยู่ขนาบข้างทางเข้า และส่วนอาบน้ำอยู่ด้านในสุด

ถัดออกมาตรงข้ามกับห้องน้ำจะเป็นส่วนครัว ที่สามารถทำประตูบานเลื่อนปิดเพิ่มเติมได้เช่นกัน เนื่องจากทางโครงการทำช่องประตูเตรียมไว้ให้แล้ว ภายในห้องครัวจะมีเคาน์เตอร์ครัวที่ติดตั้ง Hob Hood และอ่างล้างจาน มาให้พร้อม ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทางโครงการไม่ได้จัดเตรียมไว้ให้

ถัดจากห้องครัวผ่านประตูอลูมิเนียมบานเลื่อนเป็นส่วนระเบียง พื้นปูกระเบื้องสีเทาเข้ม ราวระเบียงทำสีเทา ต่างจากห้องอื่นคือ จะมีตำแหน่งวางเครื่องซักผ้าบริเวณนี้ และมีการเตรียมงานระบบประปาและปลั๊กกันน้ำรองรับไว้ ตำแหน่งวางเครื่องซักผ้าจะเป็นผนังทึบช่วยป้องกันแดดและฝนที่อาจทำให้เครื่องซักผ้าเสื่อมสภาพเร็วเกินไป

มาดูส่วนสุดท้ายของห้อง Type นี้ เป็นห้องนอน สามารถวางเตียง 5-6 ฟุต ได้และยังมีที่เหลือสำหรับวางโต๊ะแต่งหน้าตัวเล็ก ๆ ได้อีก ด้านข้างอีกอีกฝั่งเป็นหน้าต่างบานกว้าง รับแสงได้ดี

ฝั่งตรงข้ามเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ที่ทางโครงการมีให้ในห้องพักอาศัยจริง โทนสีจะต่างกับห้องตัวอย่าง รวมเฟอร์นิเจอร์ที่ได้สำหรับห้อง Type นี้จะมี 2 ชิ้น คือชุดครัวและตู้เสื้อผ้า

ภาพรวมของห้องแบบ One Bedroom ขนาด 34 ตร.ม. Type นี้ จะเน้นความเป็นสัดส่วนและความเป็นส่วนตัวชัดเจน ความลื่นไหลของการใช้สอยและการผสานกันของฟังก์ชันเห็นได้ชัดน้อยกว่าห้องแบบ One Bedroom ก่อนหน้า

โครงการ “วิลล์ 168 บางหว้า (Ville 168 Bang Wa)” เป็นโครงการที่เหมาะกับนักเรียน นักศึกษา ที่อยู่ในย่านน่าอยู่นี้ เนื่องจากใกล้เคียงกับสถานศึกษา เช่น ม.สยาม เพียง 200 เมตร และเหมาะกับพนักงานออฟฟิศ วัยทำงาน ที่จะเดินทางโดยใช้รถยนต์ก็สามารถเข้าออกได้ 2 ทาง ทั้งถนนเพชรเกษม ซอย 36 และราชพฤกษ์ ซอย 5 หรือจะนั่งรถไฟฟ้าเข้าไปยัง CBD ต่าง ๆ ทั้งสีลม สาทร และสุขุมวิทได้สะดวก โดยมีตัวเลือกได้ทั้ง MRT และ BTS เนื่องจากมี สถานีบางหว้า ที่เป็น Interchange Station ห่างจากโครงการเพียง 800 เมตร และยังมีห้างสรรพสินค้าใกล้เคียงหลายแห่งที่เดินทางได้ง่ายด้วยรถไฟฟ้า ถือว่าทั้งสะดวกและสบาย จะซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองก็ครบ หรือจะปล่อยเช่าก็คุ้ม เพราะเป็นโครงการถือว่าดี ในระดับราคาที่เอื้อมถึง ทั้งส่วนกลางที่จัดเต็ม 20 รายการ และมีทั้งห้องแบบ Studio และ One Bedroom ให้เลือกหลายแบบ