Mori Condominium พักผ่อนภายใต้ธรรมชาติอันร่มรื่น สัมผัสได้ถึงความสุขที่เรียบง่าย

เมื่อได้ยินคำว่าป่าหลายๆคนก็คงนึกถึงต้นไม้ ความร่มรื่น อากาศดีๆเย็นสบาย แล้วถ้าเป็นคำว่า โมริ “森” นึกถึงอะไรกันบ้างคะ สำหรับคนที่ไม่รู้ความหมายก็คงพอเดากันได้ว่านี่คือภาษาญี่ปุ่น ก็คงนึกถึงความเป็นญี่ปุ่น สไตล์อบอุ่นและเป็นเอกลักษณ์ แล้วถ้ารู้ว่า “โมริ” ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า “ป่าไม้” ก็คงร้องอ๋อกันเลยทีเดียว

ถ้านำทั้งป่าและความเป็นญี่ปุ่นมาเป็นคอนโดมิเนียมก็น่าสนใจไม่น้อยใช่ไหมคะ วันนี้ทีมงานมีคอนโดมิเนียมย่านเมืองทองธานีมาให้ชมกันกับโครงการ Mori Condominium จากชื่อโครงการก็พอรู้แล้วว่า Concept ของที่นี่คืออะไร โครงการนำส่วนสำคัญของการพักอาศัยที่ไม่เพียงแต่คำนึงถึงฟังก์ชันในห้องที่ลงตัว แต่ยังคำนึงถึงพื้นที่ส่วนกลางที่ทุกคนได้มาใช้ มาพักผ่อน โดยออกแบบให้พื้นที่ส่วนกลางเปรียบเสมือนสวนป่าธรรมชาติ เป็นแหล่งโอเอซิสใจกลางที่พักอาศัย

ทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม  อิมแพ็ค เมืองทองธานี สามารถเดินไปห้างสรรพสินค้าต่างๆ  แหล่งออฟฟิศและสถานศึกษาได้ ตัวโครงการเป็นคอนโดมิเนียม 16 ชั้น มีแบบห้องให้เลือกกว่า 7 แบบ โดยมีทั้งแบบ 1 ห้องนอน, 1 ห้องนอน แฟมิลี่ และ 2 ห้องนอน ขนาดห้องอยู่ที่ 28.06 - 61.08 ตร.ม. ด้วยราคาเริ่มต้นไม่ถึงล้าน !! เพียง 849,000 บาทเท่านั้น ราคานี้ขายแบบ Fully Furnished นะคะ

ที่ตั้งโครงการอยู่บนถนนป๊อปปูล่าซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนเลียบคลองประปาและถนนแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด สองเส้นนี้ถือเป็นเส้นที่เชื่อมต่อกับถนนหลักอื่นๆ อีกหลายสาย ทำให้การเดินทางสะดวกไม่ว่าจะเป็นการขึ้น-ลงทางด่วนที่สามารถวิ่งสายอุดรรัถยา ตรงไปเชื่อมกับทางด่วนศรีรัช โดยเส้นนี้เข้าและออกตัวเมืองกรุงเทพและรอบนอกได้ง่ายมากค่ะ 

หรือจะใช้เส้นทางปกติโดยจะตรงไปยังถนนแจ้งวัฒนะ, ถนนติวานนท์ และถนนศรีสมานซึ่งสามเส้นนี้เป็นเส้นทางหลักที่ทำให้เดินทางไปจุดต่างๆได้อย่างสะดวก ส่วนรถสาธารณะก็สะดวกมากเช่นกัน เนื่องจากใกล้โครงการก็มีป้ายรถประจำทางสามารถเดินไปใช้บริการได้และในอนาคตจะยิ่งสะดวกมากขึ้นเพราะรถไฟฟ้าสายสีชมพูนั่นเองค่ะ  

รอบๆโครงการถือว่าอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมากเพราะอยู่ใกล้แหล่งจับจ่ายใช้สอยทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ และในส่วนของศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ที่มักจะมีงานสำคัญต่างๆ ตลอดทั้งปี  อีกทั้งยังมีออฟฟิศบริษัทชั้นนำอีกมากมาย ใกล้สถานศึกษาทั้งระดับประถมไปจนถึงระดับอุดมศึกษากันเลยทีเดียว

อย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่ามีรถไฟฟ้าสายสีชมพูอยู่ไม่ไกลจากโครงการ สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีเมืองทองธานีค่ะ  และยังมีส่วนต่อขยายเข้ามาในเมืองทองธานี อีก 2 สถานีในอนาคตที่ยิ่งทำให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้นนั่นคือ สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี และสถานีทะเลสาบ เมืองทองธานี

โดยรถไฟฟ้าสายสีชมพูนั้นวิ่งผ่านตัวเมืองนนทบุรี ตรงผ่านรามอินทราไปจนถึงมีนบุรีกันเลยทีเดียว และเส้นนี้เชื่อมต่อกับสายสีม่วง สายสีส้ม สายสีแดงและสายสีเขียว ที่สามารถตรงเข้าตัวเมืองกรุงเทพ ทำให้การเดินทางไปยังที่ต่างๆ สะดวกมากยิ่งขึ้น

รอบๆ โครงการถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์มากในหลายๆ ด้าน โดยโครงการอยู่ใกล้โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ในระยะเพียงก้าวเท่านั้น เรียกได้ว่าตื่นมาก็มองเห็นโรงเรียนกันเลยทีเดียว ถ้าใครเรียนหรือทำงานอยู่ที่นี่ไม่ต้องฝ่ารถติดและเสียเวลาบนท้องถนนเลยค่ะ

สำหรับระดับมหาลัยก็ใกล้ ม.ศิลปากร สามารถปั่นจักรยานไปได้ หรือถ้าอยากออกกำลังกายก็สามารถเดินไปได้เช่นกัน นอกจาก 2 สถานศึกษาที่เดินไปได้นั้นรอบๆโครงการก็ยังมีโรงเรียน BFS(Brighter Future School), ม.สุโขทัยธรรมธิราช, สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ถือว่ามีหลากหลายระดับการศึกษาเลยใช่ไหมคะ

นอกจากสถานศึกษาแล้ว โครงการยังอยู่ใกล้สถานที่ราชการต่างๆไม่ว่าจะเป็นสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ, กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง, กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ - คอมมานโด หรือจะเป็นโรงพยาลก็ไม่ไกลจากโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล ดังนั้น ถ้าใครทำงานอยู่ที่เหล่านี้ก็สะดวกในการเดินทางเป็นอย่างมาก จะซื้อห้องไว้สำหรับพักถ้าได้ทำงานกะดึกหรือทำโอทีเหนื่อยๆไม่อยากเดินทางฝ่ารถติดก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วค่ะ

รอบๆโครงการเป็นย่านพักอาศัยที่จะมีร้านค้าและร้านอาหารเล็กๆที่เดินไปได้สะดวก แต่นอกจากนั้นก็ยังมีห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่เดินไปได้ค่ะ นั่นก็คือห้าง Cosmo Bazaar ที่ติดกันนั้นจะมี Cosmo Walk และ Outlet Square ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยขนาดใหญ่ จะเดินช้อปปิ้ง ไปฟิตเนสหรือจะไปนั่งทานอาหารก็มีร้านค้ามากๆ มีร้านชื่อดังต่างๆ ย่านเมืองทองด้วยนะคะ หรือจะเป็นร้านที่มีสาขามากมายทั่วประเทศก็มีที่นี่เช่นกัน ดังนั้นแทบไม่ต้องไปไหนไกลบ้านก็มีแหล่งพักผ่อนในระยะที่เดินไปได้

นอกจากสถานที่ราชการที่อยู่ใกล้โครงการแล้ว ยังมีออฟฟิศเอกชนอีกหลายแห่งค่ะ อย่างที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เองที่ใครที่มักจะต้องมาจัดงาน Event ต่างๆ, ธนาคารกสิกรสำนักใหญ่เมืองทอง, บ.ทรู ก็อยู่ในระยะที่เดินไปทำงานได้ หรือจะไปยังสนามบินดอนเมืองก็เดินทางสะดวกค่ะ

โครงการ Mori Condominium เป็นคอนโดมิเนียมสูง 16 ชั้นโดยมีห้องพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 1 มีอาคารจอดรถแยกให้ซึ่งสามารถจอดรถได้ถึง 335 คัน หรือประมาณ 35% ของห้องพักอาศัยเลยค่ะ ภายในโครงการเป็นอาคารคล้ายตัว O โดยออกแบบให้พื้นที่ส่วนกลางที่เป็นสวนขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง ห้องที่อยู่ฝั่งด้านในโครงการก็จะได้บรรยากาศความร่มรื่นตรงนี้อย่างเต็มที่ และนอกจากสวนส่วนกลางแล้วก็ยังมีพื้นที่ส่วนกลางให้ได้ใช้งานกันไม่ว่าจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น, สระว่ายน้ำ และฟิตเนส

อย่างที่ทราบกันมาแล้วว่า โมริ “森” มีความหมายว่าอะไร ซึ่งคำนี้ก็เป็นทั้งชื่อโครงการและเป็น Concept ของการออกแบบ ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่า แล้วคำว่า ”ป่าไม้” นี้นำมาออกแบบให้ผสมผสานกับความเป็นญี่ปุ่นอย่างที่เคยเกริ่นไว้ข้างต้นได้อย่างไร 

ทางโครงการได้ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางซึ่งอยู่ตรงกลางโครงการ เป็นพื้นที่ที่ห้องพักอาศัยส่วนใหญ่ได้สัมผัสบรรยากาศบริเวณนี้เป็นสวนนั่นเองค่ะ เหมือนการที่มีป่าเป็นใจกลางที่พักอาศัย เป็นความร่มรื่นที่สามารถสัมผัสได้

ส่วนความเป็นญี่ปุ่นนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของห้องพัก โดยโครงการได้ออกแบบและจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่มีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่น เป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและใช้งานได้อย่างดี  พร้อมพื้นที่เป็น SPC ที่ยังคงเป็นลายไม้แต่ก็มีความแข็งแรง ทนชื้น กันปลวก และทำความสะอาดง่าย

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการนอกจากจะมีที่จอดรถประมาณ 35% แล้ว ก็ยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นสวนขนาดใหญ่อยู่กลางโครงการ ภายในสวนจะมีพื้นที่นั่งเล่น เดินเล่นมีต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มให้ความร่มรื่น อีกทั้งยังมีส่วนที่เป็นสระว่ายน้ำพร้อมห้องฟิตเนสที่มีเครื่องออกกำลังกายต่างๆ

แม้ว่ารอบๆ โครงการจะมีร้านค้าและห้างสรรพสินค้าใหญ่ ภายในโครงการก็ยังมีพื้นที่สำหรับร้านค้าถึง 20 ร้าน กันเลยทีเดียว จึงยิ่งทำให้สะดวกสำหรับลูกบ้านมากๆ ตัวอาคารเป็นทางเข้าออกแบบ Key Card มีลิฟต์ทั้งหมด 8 ตัวและเป็นลิฟต์ล็อคชั้นที่เพิ่มความปลอดภัยให้ลูกบ้านมากยิ่งขึ้น พร้อม CCTV และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

One Bedroom โครงการมีให้เลือกถึง 4 แบบด้วยกันแต่ครั้งนี้จะขอพามาชมห้อง Type D ซึ่งเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดในโครงการ โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอย 28.06 - 28.18 ตร.ม. เหมาะสำหรับพักอาศัย 1-2 คน

ห้องแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนอย่างลงตัว มีพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่มีมุมโต๊ะทานอาหารติดกับห้องนอนที่กั้นด้วยประตูกระจก ทำให้ห้องดูโปร่งแม้จะมีการกั้นพื้นที่ ห้องน้ำและห้องครัวจะแยกเป็นอีกพื้นที่โดยห้องครัวเป็นครัวปิด อยู่ติดกับระเบียงจึงสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้

* ห้องขายแบบ Fully Furnished โดยจะมีเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวให้ตามที่เห็นในห้องตัวอย่าง ส่วนผนังทางโครงการ Built-in มาให้ดูเป็นไอเดีย ในครัวมีเคาน์เตอร์ให้แต่ไม่มีตู้เก็บของที่เป็น Built-in ส่วนห้องนอนจะไม่มีฟูกให้ค่ะ

ส่วนแรกที่อยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องคือห้องนั่งเล่นที่มีขนาดกว้าง สามารถวางโซฟาสำหรับ 2 ที่นั่งได้สบาย ฝั่งตรงข้ามวางชั้นวางทีวีและโต๊ะกาแฟเล็กด้านหน้าก็ยังเดินผ่านใช้งานสะดวก ด้านข้างโซฟายังมีมุมวางโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง หรือถ้าใครชอบตั้งโต๊ะญี่ปุ่นสำหรับรับประทานอาหารหน้าทีวีก็เปลี่ยนมุมนี้เป็นมุมโต๊ะทำงานได้นะคะ มุมนี้จะได้เฟอร์นิเจอร์ตามที่เห็นเลยนะคะ ทั้งโซฟาโต๊ะรับประทานอาหาร ชั้นวางทีวีและโต๊ะกาแฟ

ห้องนี้อยู่ติดกับประตูที่เปิดไปยังห้องครัวและห้องน้ำได้ โดยห้องครัวเป็นครัวเคาน์เตอร์แนวยาวอยู่ติดกับระเบียงห้อง ที่ประตูเป็นประตูกระจกทำให้ห้องดูสว่างและโปร่ง ภายในห้องน้ำขนาดกว้างขวาง แยกโซนแห้งและโซนเปียกชัดเจน

ห้องนอนเป็นห้องที่อยู่ด้านในสุด ขนาดห้องสามารถวางเตียง 5 ฟุตและตู้เสื้อผ้าได้ ห้องจะกั้นพื้นที่ระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน และเนื่องจากห้องนี้มีหน้าต่างกระจกบานยาวตลอดแนวผนัง ทำให้ห้องสว่างซึ่งสามารถเปิดรับแสงธรรมชาติส่องเข้ามาให้แสงสว่างส่องถึงในห้องนั่งเล่นได้เลยค่ะ ในห้องจะได้ฐานเตียงและชั้นวางเสื้อผ้าแบบนี้

One Bedroom Family โครงการมีให้เลือก 1 แบบด้วยกันโดยห้องนี้จะเห็นว่ามีขนาดกว้างกว่าห้องแรกและแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วนคือส่วนของห้องนอน ตรงกลางเป็นห้องนั่งเล่น และอีกฝั่งจะเห็นครัวกับห้องน้ำ ห้องนี้เป็นห้อง Type B ขนาดพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ ขนาด 37.94 - 38.10  ตร.ม.

ห้องนี้แม้จะเป็นแบบ 1 ห้องนอนแต่เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กที่อาจนอนรวมกันพ่อแม่ลูก เพราะในห้องนอนมีขนาดกว้างพอจะวางเตียงเดี่ยวเพิ่มได้อีกเตียง หรือถ้าอยู่กัน 2 คนก็สบายมากเลยค่ะ ห้องนั่งเล่นและมุมรับประทานอาหารก็มีขนาดกว้าง ห้องครัวเป็นครัวปิดอยู่ติดกับระเบียงและห้องน้ำ พื้นที่การใช้สอยจึงเป็นสัดส่วนและลงตัวเป็นอย่างมาก อีกทั้งห้องมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ทำให้เมื่อเปิดเข้ามาห้องจึงดูโปร่ง

* ห้องขายแบบ Fully Furnished โดยจะมีเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวให้ตามที่เห็นในห้องตัวอย่าง ส่วนผนังทางโครงการ Built-in มาให้ดูเป็นไอเดีย ในครัวมีเคาน์เตอร์ให้ แต่ไม่มีตู้เก็บของที่เป็น Built-in ส่วนห้องนอนจะไม่มีฟูกให้ค่ะ

สำหรับห้องนั่งเล่นจะเป็นแบบ Open Plan กับห้องรับประทานอาหาร ทำให้ขนาดห้องดูกว้างเพราะพื้นที่เชื่อมต่อกัน อีกทั้งห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับหน้าต่างกระจกซึ่งเป็นหน้าต่างแนวยาว ทำให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาในห้องได้แบบนี้ 

ขนาดห้องสามารถวางโซฟาสำหรับ 3-4 ที่นั่งได้สบายเลยค่ะ ด้านหน้าวางโต๊ะกาแฟและชั้นวางทีวีก็ยังเดินผ่านใช้งานสะดวก มุมโต๊ะรับประทานอาหารก็วางโต๊ะสำหรับ 4 ที่นั่งได้ ด้านข้างยังเหลือที่สำหรับวางชั้นวางรองเท้าหรือชั้นวางของได้อีกนะคะ

ห้องนี้เหมือนเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นตัวแจกจ่ายไปยังฟังก์ชันอื่นๆในห้อง โดยจะมีประตูเปิดไปยังห้องครัวที่อยู่ติดกับระเบียง และอยู่ติดกับห้องน้ำ โดยขนาดครัวพอเหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร มีพื้นที่เก็บของและชั้นวางไมโครเวฟและพื้นที่วางตู้เย็น ส่วนห้องน้ำก็ขนาดกว้าง แยกโซนแห้งและเปียกชัดเจน ในห้องมีช่องวางของและขอบผนังเตี้ยที่สามารถวางของใช้ต่างๆตรงนี้ได้

ห้องนี้มี 1 ห้องนอนแต่เป็นห้องนอนที่มีขนาดกว้างสามารถวางเตียง 2 เตียงแบบ 5 ฟุตและ 3.5 ฟุตได้ หรือถ้าใครซื้อให้ลูกๆที่เรียนอยู่ละแวกนี้ก็อาจวางเตียง 3.5 ฟุต 2 ตัวเพื่อให้มีพื้นที่วางโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้า ส่วนใครที่มาเป็นคู่ปลายเตียงใหญ่ก็ทำเป็นมุมแต่งตัว หรือโต๊ะทำงานก็มีขนาดกว้างพอและห้องนี้ก็ยังคงมีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาทำเพราะมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่อยู่ในห้อง 

Two Bedroom โครงการมีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน โดยวันนี้จะพาไปชมห้อง Type A ซึ่งเป็นห้องตำแหน่งมุมที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 40.95 - 41.08  ตร.ม. เนื่องจากเป็นห้องมุมห้องนอนห้องนี้ทั้ง 2 ห้องจึงเป็นห้องที่มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่

และด้วยการวางแปลนห้องที่ออกแบบให้ทุกห้องได้แสงธรรมชาติ จึงออกแบบให้ประตูกั้นห้องนอน 2 ที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่นเป็นประตูกระจก ทำให้แสงธรรมชาติจากห้องนอนสามารถส่องเข้ามาถึงส่วนที่เป็นห้องนั่งเล่นได้ค่ะ สำหรับห้องนั่งเล่นก็เป็นห้องกว้างที่วางโซฟาและโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 4 ที่นั่งได้ ห้องนี้อยู่ติดกับห้องครัวที่เป็นครัวปิด พื้นที่ใช้สอยต่างๆในห้องจึงโดนแบ่งเป็นอย่างสัดส่วนลงตัว

* ห้องขายแบบ Fully Furnished โดยจะมีเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวให้ตามที่เห็นในห้องตัวอย่าง ส่วนผนังทางโครงการ Built-in มาให้ดูเป็นไอเดียในครัวมีเคาน์เตอร์ให้แต่ไม่มีตู้เก็บของที่เป็น Built-in ส่วนห้องนอนจะไม่มีฟูกให้ค่ะ

ส่วนแรกที่เข้ามาในห้องจะเป็นมุมรับประทานอาหารที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นแบบ Open Plan ทำให้พื้นที่ใช้สอยกว้าง มุมรับประทานอาหารวางโต๊ะสำหรับ 4 ที่นั่งแบบนี้ได้ ส่วนมุมนั่งเล่นวางโซฟาตัวใหญ่สำหรับ 3 ที่นั่งและสามารถวางเพิ่มเป็นโซฟาเดี่ยวอีกตัวสำหรับพื้นที่นั่งเล่น 4 นั่งเล่นได้นะคะ 

ห้องนี้อยู่ติดกับห้องนอนโดยด้านหลังโซฟาเปิดไปจะเป็นห้องนอน 1 ขนาดพื้นที่ห้องกว้าง สามารถวางเตียง 5 ฟุต ภายในวางโต๊ะหัวเตียงและตู้เสื้อผ้าได้ ส่วนห้องนอน 2 เป็นห้องที่ติดห้องนั่งเล่นและกั้นด้วยประตูกระจก ห้องนี้วางเตียง 3.5 ฟุตและชั้นวางเสื้อผ้าได้ ทั้งสองห้องมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่แบบแนวยาวเต็มผนังทำให้ห้องดูกว้างและโปร่ง

ตรงข้ามโซฟาจะเป็นมุมวางชั้นวางทีวี ซึ่งระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีกว้างพอให้วางทีวีตัวใหญ่ ด้านขวามือจะเห็นประตูทางเข้าห้อง ส่วนทางด้านซ้ายนั้นเป็นประตูที่เปิดไปยังส่วนครัวและห้องน้ำ

พื้นที่ครัวกว้างพอสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร เคาน์เตอร์เป็นเคาน์เตอร์แนวยาว มีตู้และชั้นวางของให้เก็บของได้เป็นระเบียบ ห้องนี้มีหน้าต่างกระจกที่เปิดรับแสงและลมธรรมชาติได้ อีกด้านจะอยู่ติดกับห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่ ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้งและเปียกอย่างเป็นสัดส่วน มีช่องวางของและผนังเตี้ยที่สามารถวางของใช้ ของตกแต่งได้ค่ะ

โครงการ Mori Condominium เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดหลังแรก, สำหรับ First Jobber ที่อยากมีห้องเป็นของตัวเอง หรือแม้กระทั่งครอบครัวอยากอยากหาห้องเพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 ที่ใกล้ที่ทำงานหรือสถานศึกษาสำหรับลูกๆ รวมทั้งผู้ที่สนใจลงทุน เพราะโครงการอยู่ในทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกและความอุดมสมบูรณ์มากมาย และถ้าจะซื้อไว้ลงทุนเพื่อปล่อยเช่าก็เป็นที่น่าจับตามองเพราะใกล้ออฟฟิศและโรงเรียนต่างๆด้วยค่ะ

ห้องขายแบบ Fully Furnished ที่เรียกได้ว่าซื้อของเพิ่มไม่กี่อย่างก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย โดยจะให้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่เห็นในห้องตัวอย่างทั้งหมดพร้อมเครื่องปรับอากาศ จากห้องตัวอย่างที่เห็นจะไม่ได้เพียงเครื่องใช้ไฟฟ้าบางส่วน, ของตกแต่ง, เฟอร์นิเจอร์ Built-in เท่านั้นค่ะ 

โดยโครงการจะมีห้องทั้งหมด 3 แบบ คือ 1 Bedroom, 1 Bedroom Family และ 2 Bedroom โดยจะมีแบบต่างๆ แตกย่อยไปอีกจนถึง 7 แบบด้วยกันนั่นก็คือ

1 BEDROOM

• Type C : ขนาด 32.04 - 32.47  ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1,089,000.00 บาท
• Type D : ขนาด 28.06 - 28.18  ตร.ม ราคาเริ่มต้น 849,000.00 บาท
• Type GB : ขนาด  33.18 ตร.ม ราคาเริ่มต้น 1,130,000.00 บาท
• Type GC : ขนาด    32.95 - 33.53  ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1,130,000.00 บาท

1 BEDROOM FAMILY