เทียบ 6 แบบห้องคอนโด เลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับตัวเอง

เทียบ 6 แบบห้องคอนโด เลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับตัวเอง
เทียบ 6 แบบห้องคอนโด เลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับตัวเอง

เคยสับสนกันไหมว่า เวลาอยากจะซื้อคอนโดสัก 1 ห้อง ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกแบบห้องลักษณะอย่างไรดีที่จะเข้ากับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต หรือเลือกเพื่อตอบโจทย์อยู่อาศัยกันแบบครอบครัว ซึ่งแบบห้องก็มีมากมายให้เลือกตั้งแต่ห้อง Studio, 1 Bedroom ไปจนถึงห้องขนาดใหญ่แบบ Penthouse ซึ่งแต่ละแบบเหมาะกับใคร มีความแตกต่างกันอย่างไร วันนี้ Home Buyers อยากจะชวนเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักแต่ละแบบห้องกันค่ะ

เทียบ 6 แบบห้องคอนโด เลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับตัวเอง
เทียบ 6 แบบห้องคอนโด เลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับตัวเอง : ห้อง Studio

ห้อง Studio

ส่วนใหญ่จะเป็นห้องขนาดเริ่มต้น ลักษณะห้องจะเป็นแบบพื้นที่โล่ง Open Space และมีการใช้งานที่เชื่อมต่อเนื่องกัน จะไม่ได้มีผนังหรือประตูแบ่งกั้นส่วนแต่ละฟังก์ชันเอาไว้ ยกเว้นส่วนของระเบียงและห้องน้ำจะมีการกั้นแบ่งพื้นที่ไว้ให้ แต่ในปัจจุบันเริ่มที่จะมีการออกแบบให้มีครัวปิดกันมากขึ้น การใช้สอยพื้นที่จึงมีความสะดวกมากขึ้นตามไปด้วย

ข้อดีของห้องแบบ Studio

  • ด้วยแบบห้องจะเป็นขนาดเริ่มต้น ราคาขายจะไม่แพงมากนัก เป็นเจ้าของได้ไม่ยาก 
  • จ่ายค่าส่วนกลางไม่สูง เพราะการคิดค่าส่วนกลาง จะต้องนำค่าส่วนกลางที่ตั้งไว้มาคูณกับขนาดพื้นที่ต่อตารางเมตรของห้อง ดังนั้นห้องขนาดเล็กจะต้องจ่ายค่าส่วนกลางต่อเดือนถูกกว่าห้องขนาดใหญ่ และโดยส่วนใหญ่แบบห้องนี้จะมีขนาดไม่เกิน 30 ตร.ม.
  • เมื่อลักษณะห้องเป็นแบบเปิดโล่ง การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งห้องทำได้ง่าย หลากหลายไลฟ์สไตล์
  • ดูแลและทำความสะอาดง่าย เพราะห้องมีขนาดไม่ใหญ่มาก

ข้อจำกัดของห้องแบบ Studio

  • ห้องที่ไม่ได้กั้นเป็นสัดส่วน ทำให้การใช้งานในบางพื้นที่ไม่สะดวกได้ เช่น มุมครัว จะได้ครัวขนาดเล็ก การทำอาหารที่มีกลิ่นฉุน ก็อาจจะไม่เหมาะ เพราะกลิ่นสามารถลอยไปติดเฟอร์นิเจอร์ หรือไปรบกวนในโซนอื่นๆ ของห้องได้ 
  • ถ้าอยากจะกั้นห้องเป็นสัดส่วน ต้องเสียเงินเพิ่มในเรื่องค่าใช้จ่ายของการต่อเติม
  • เจ้าของห้องจะไม่ได้ความเป็นส่วนตัว ถ้าหากมีเพื่อนมาเยี่ยมห้อง หรือมีผู้อยู่อาศัยร่วมมากกว่า 1 คน

แบบห้อง Studioเหมาะกับใคร

  • คนที่อยากซื้อคอนโด และมีงบจำกัด
  • อยู่อาศัยคนเดียว เพราะห้องมีพื้นที่ใช้สอยไม่กว้างมากนัก 
  • คนที่ชอบซื้ออาหารทานเอง ไม่ค่อยได้ใช้ครัวในการทำอาหาร
เทียบ 6 แบบห้องคอนโด เลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับตัวเอง
เทียบ 6 แบบห้องคอนโด เลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับตัวเอง : ห้อง 1 Bedroom

ห้อง 1 Bedroom

พื้นที่ภายในห้องมีการแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน โดยจะแบ่งในส่วนของห้องนอนแยกออกจากห้องนั่งเล่น มีทั้งแบบกั้นด้วยประตูบานเปิด หรือประตูกระจกบานสไลด์ ส่วนพื้นที่ครัวมีได้ทั้งครัวปิด หรือครัวที่เปิดโล่ง อยู่ที่การออกแบบแปลนห้องของแต่ละโครงการ

ข้อดีของห้องแบบ 1 Bedroom

  • ได้ความเป็นส่วนตัวและสะดวกสบาย เพราะได้มีการกั้นห้องระหว่างส่วนของห้องนอนและห้องนั่งเล่น เมื่อเวลามีเพื่อนมาเยี่ยม ก็จะสามารถแบ่งพื้นที่ไว้คอยต้อนรับได้อย่างชัดเจน 
  • มีห้องให้เลือกทั้งแบบครัวปิดและครัวเปิด สามารถเลือกให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้พักอาศัยได้

ข้อจำกัดของห้องแบบ 1 Bedroom

  • ถ้าหากห้องมีขนาดที่เล็ก ใกล้เคียงกับขนาดแบบห้อง Studio อยู่อาศัยอาจจะรู้สึกไม่ปลอดโปร่ง หรือทำให้รู้สึกอึดอัดได้ (อยู่ที่การออกแบบแปลนของห้องด้วย)

ห้องแบบ 1 Bedroom เหมาะกับใคร

  • คนที่อยากมีพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วน และรักความเป็นส่วนตัว
  • คนที่ต้องการอยู่อาศัยคนเดียวสบายๆ มีพื้นที่ทำกิจกรรม หรือจะอยู่กับเพื่อน คู่รัก 1-2 คน
  • คนที่อยากจะซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า เป็นแบบห้องที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจในการเลือกอยู่อาศัย
เทียบ 6 แบบห้องคอนโด เลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับตัวเอง
เทียบ 6 แบบห้องคอนโด เลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับตัวเอง : ห้อง 1 Bedroom Plus

ห้อง 1 Bedroom Plus

รูปแบบของห้องจะมีความคล้ายกับ 1 Bedroom แต่จะมีความแตกต่างตรงที่ มีฟังก์ชันเข้ามาเพิ่มในส่วนของห้องอเนกประสงค์ ซึ่งห้องนี้ก็สามารถที่จะทำเป็นห้องทำงาน ห้องแต่งตัว ห้องออกกำลังกาย แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย โดยส่วนใหญ่ห้องอเนกประสงค์ที่ให้มา จะกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ และห้องมีขนาดไม่เกิน 50 ตร.ม.

ข้อดีของห้องแบบ 1 Bedroom Plus

  • มีห้องเพิ่มเข้ามา สามารถใช้งานของพื้นที่ใช้สอยได้มากขึ้น ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่หลากหลายไลฟ์สไตล์
  • ได้พื้นที่ห้องเป็นสัดส่วน มีความเป็นส่วนตัวเช่นเดียวกันกับแบบห้อง 1 Bedroom

ข้อจำกัดของห้องแบบ 1 Bedroom Plus

  • สำหรับห้องอเนกประสงค์ที่เพิ่มเข้ามา ส่วนใหญ่จะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ มีความเป็นส่วนตัวที่ยังไม่มาก อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องการติดตั้งม่านกั้นเพิ่ม ถ้าหากอยากได้ความเป็นส่วนตัว
  • ห้องที่เพิ่มมานั้น อาจจะไม่เหมาะสำหรับทำเป็นห้องนอนส่วนตัวอีกห้องได้ เพราะขนาดจะเล็กกว่าห้องนอนปกติ ทำให้รู้สึกอึดอัดได้

ห้องแบบ 1 Bedroom Plus เหมาะกับใคร

  • คนที่ต้องการพื้นที่ทำกิจกรรมที่มากขึ้นและเป็นสัดส่วน เช่น ทำงานฟรีแลนซ์ และอยากมีห้องทำงานเป็นส่วนตัว เป็นต้น
  • คู่รักที่อยากมีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างมากขึ้นกว่าแบบห้อง 1 Bedroom 
เทียบ 6 แบบห้องคอนโด เลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับตัวเอง
เทียบ 6 แบบห้องคอนโด เลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับตัวเอง : ห้อง 2 Bedroom 

ห้อง 2 Bedroom

ห้องที่มีฟังก์ชัน 2 ห้องนอน ส่วนใหญ่จะแบ่งให้มี 1 ห้องนอนใหญ่ ตามด้วย 1 ห้องนอนเล็ก มีทั้งแบบ 1 ห้องน้ำ และ 2 ห้องน้ำขึ้นอยู่กับขนาดห้อง ตำแหน่งของห้องนอนจะต้องอยู่ตามมุมห้องเพื่อให้สามารถเจาะช่องแสงทำเป็นช่องหน้าต่างได้ ส่วนใหญ่แบบห้องนี้จะมีขนาดใหญ่ประมาณ 50 ตร.ม.ขึ้นไป

ข้อดีของห้องแบบ 2 Bedroom

  • สำหรับคนที่อยู่กันเป็นครอบครัว คู่พี่น้อง หรือคู่เพื่อน อยู่อาศัยได้ความเป็นส่วนตัว เพราะห้องนอนที่ถูกกั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการกั้นรูปแบบผนังและมีประตูเป็นแบบบานเปิด 
  • สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่คนเดียว ห้องนอนอีกห้องทำเป็นห้องรับรองแขกได้ หรือใช้งานเป็นห้องอเนกประสงค์ได้

ข้อจำกัดของห้องแบบ 2 Bedroom

  • ด้วยขนาดห้องที่ใหญ่ขึ้น ค่าใช้จ่ายก็มีมากขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายส่วนกลางอีกด้วย
  • ใช้เวลาในการทำความสะอาด เก็บกวาดห้องที่นานมากขึ้น

ห้องแบบ 2 Bedroom เหมาะกับใคร

  • คนที่วางแผนในการขยับขยายครอบครัว ต้องการพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น
  • คนที่มีผู้อยู่อาศัย 3-4 คน เป็นครอบครัว หรือมีญาติผู้ใหญ่เข้ามาอยู่ด้วย
เทียบ 6 แบบห้องคอนโด เลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับตัวเอง
เทียบ 6 แบบห้องคอนโด เลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับตัวเอง : ห้อง Loft / Duplex 

ห้อง Loft / Duplex

เป็นห้องที่กำลังได้รับความนิยมในยุคใหม่นี้เลย สำหรับห้อง Loft มีลักษณะที่แตกต่างจากห้องคอนโดทั่วไป ภายในห้องมีการแบ่งฟังก์ชันให้มีชั้นลอย จึงทำให้เพดานของห้องประเภทนี้ สูงเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่จะมีความสูงได้ตั้งแต่ 4 ไปเกือบๆ แตะ 5 ม. ส่วนห้อง Duplex จะเป็นห้อง 2 ชั้น มีความสูงของเพดานอย่างน้อย 5 ม. ซึ่งจะเป็นห้องที่มีเพดานเปิดโล่ง หรือไม่มีช่องเปิดโล่งได้ทั้งคู่ 

สามารถเข้าไปอ่านทำความเข้าใจเพิ่มเติมได้ที่นี่  Loft และ Duplex แตกต่างกันอย่างไร

ข้อดีของห้องแบบ Loft / Duplex

  • ภายในห้องมีการแบ่งสัดส่วนของฟังก์ชันได้อย่างชัดเจนมากขึ้น มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้าง โดยจะมีพื้นที่พักผ่อน มุมวางเตียงอยู่บนชั้น 2 หรือชั้นลอย
  • ถ้าใครชอบดูวิวมุมสูงและกว้าง ห้องนี้ถือว่าตอบโจทย์ ด้วยลักษณะของห้องมีเพดานที่สูง จะได้ช่องหน้าต่างที่สูงแล้ว กว้างตามไปด้วย
  • ให้ความรู้สึกเหมือนอาศัยอยู่ในบ้าน

ข้อจำกัดของห้องแบบ Loft / Duplex

  • ถ้าเป็นห้อง Loft ที่มีพื้นที่ขนาดห้องไม่กว้าง อาจจะเสียพื้นที่ให้กับส่วนของบันไดไป หรือบางที่อาจจะออกแบบโดยคำนึงในการใช้งานได้ไม่ดี อยากจะประหยัดพื้นที่ภายในห้องมากจนเกินไป ทำให้บันไดมีความชันและช่องทางเดินขึ้น-ลงแคบได้ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ
  • ถ้าเป็นห้อง Duplex 2 ชั้น จะถูกคิดคำนวณค่าส่วนกลางเพิ่ม โดยจะนับรวมทั้งพื้นที่ใช้สอยชั้น 1 และชั้น 2 ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็จะสูงมากขึ้นตาม

ห้องแบบ Loft / Duplex เหมาะกับใคร

  • คนที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตแบบคอนโด แต่อยากได้ความรู้สึกการอยู่อาศัยในห้องพักใกล้เคียงเหมือนอยู่บ้าน
  • ห้อง Loft / Duplex มีขนาดห้อง ฟังก์ชันให้เลือกอยู่หลากหลาย เช่น ถ้าเป็นแบบ 1 Bedroom อยู่อาศัย 1-2 คนได้กำลังดี ถ้าเป็น 2 Bedroom อยู่อาศัยแบบครอบครัวได้ 2-4 คน
เทียบ 6 แบบห้องคอนโด เลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับตัวเอง
เทียบ 6 แบบห้องคอนโด เลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับตัวเอง : ห้อง Penthouse 

Penthouse

เรียกได้ว่าเป็นแบบห้องที่มีราคาแพงสุด และมีขนาดพื้นที่ใช้สอยมากสุดของโครงการ ซึ่งมีขนาดเริ่มต้นประมาณ 100 ตร.ม.ขึ้นไป ฟังก์ชันภายในห้องเริ่มต้นด้วย 3 ห้องนอน ส่วนใหญ่มักจะอยู่ชั้นบนสุด ไม่ก็ชั้นรองลงมาจากพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ชั้นบนสุดของอาคาร

 ข้อดีของห้องแบบ Penthouse

  • มีขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ภายในห้องมีการแบ่งฟังก์ชันการใช้งาน ใกล้เคียงกับการอยู่อาศัยในบ้านหลังหนึ่ง 
  • ตำแหน่งของ Penthouse จะอยู่ชั้นบนของอาคารทำให้ได้บรรยากาศเป็นส่วนตัว ได้วิวที่สูงและสวย

ข้อจำกัดของห้องแบบ Penthouse

  • ด้วย Penthouse จะเป็นห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดของโครงการ ทำให้มีราคาเริ่มต้นที่สูงมาก ค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงค่าส่วนกลางก็จะแพงขึ้นตาม

ห้องแบบ Penthouse เหมาะกับใคร

  • คนที่มีงบไม่จำกัด สามารถดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆ ไหว มีความต้องการอยากได้ที่อยู่อาศัยในใจกลางเมือง ที่มีส่วนกลาง การเดินทาง ใช้ชีวิตได้สะดวกสบาย

จบไปแล้วกับ 6 รูปแบบห้องคอนโด คิดว่าเพื่อนๆ น่าจะหายข้องใจกันบ้างนะคะ ว่าแต่ละแบบห้องมีข้อดี ข้อจำกัดอะไรบ้าง และเหมาะกับไลฟ์สไตล์แบบไหน หวังว่าเพื่อนๆ จะเลือกห้องในแบบที่ชอบ และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเอง รวมทั้งควรจะเลือกห้องที่อยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้ เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะปวดหัวกุมขมับกับปัญหาต่างๆ ได้ในอนาคตค่ะ

บทความแนะนำ

บทความที่เกี่ยวข้อง