สินเชื่อ“บ้านแลกเงิน” ทางรอด“เมื่อเงินขาดมือ”

4.เลือกรับวงเงินกู้ทั้งแบบ Long Term หรือวงเงิน O/D ก็ได้

เงื่อนไขการกู้ปรับไปตามสถานการณ์ อย่างตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดี เงินขาดมือ
ธนาคารจึงเปิดโอกาสให้สามารถเลือกรับวงเงินกู้แบบLong Term แบบมีระยะเวลาผ่อนที่แน่นอนเหมือนเงินกู้ซื้อบ้าน หรือจะเลือกรับเป็นวงเงินกู้O/D ก็ได้ โดยการเปิดวงเงินกู้O/Dไว้แต่ไม่ได้ใช้ก็ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย หรือภายใต้หลักประกันเดียวกันจะเลือกรับวงเงินทั้งสองแบบก็ได้ ธนาคารเค้าก็จะแยกวงเงินแต่ละประเภทไว้ให้

5.รีไฟแนนซ์/โฉนดติดจำนองก็ได้

ปกติบ้านหรือหลักประกันที่ใช้จะต้องปลอดจำนอง แต่บางธนาคารก็รับหลักประกันที่ยังติดจำนองหรือผ่อนยังไม่หมดด้วย หากเป็นแบบนี้จะเข้าข่ายเป็นการรีไฟแนนซ์ ซึ่งแบงก์มักกำหนดว่าต้องรีไฟแนนซ์มาจากสินเชื่อประเภทเดียวกัน 

6.วงเงินกู้สูง 95% ของราคาประเมิน

วงเงินกู้สินเชื่อบ้านแลกเงินค่อนข้างสูง พอๆกับสินเชื่อบ้านใหม่เลยทีเดียว บาง
ธนาคารให้สูงถึง 95% ของราคาประเมิน ส่วนวงเงินอนุมัติขึ้นอยู่กับมูลค่าหลักประกันและรายได้ของผู้กู้ บางธนาคารอาจลิมิตวงเงินอนุมัติสูงสุดเป็นตัวเลขกลมๆ 10 หรือ 50ล้าน ในขณะที่หากเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลปกติกำหนดวงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 เท่าของรายได้เท่านั้น 

7.ดบ.ต่ำ/ลดต้นลดดอก

ช่วงนี้ตลาดแข่งขันกันสูง อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านแลกเงินที่ธนาคารนำเสนอ
จึงมีหลายเรททั้งMRR- และMRR+ เฉลี่ยตั้งแต่ 5-10% ต่ำกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลที่คิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมได้สูงถึง 28% ดังนั้น ค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านแลกเงินจึงต่ำกว่ามาก 
นอกจากนี้ยังเป็นการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก สามารถนำเงินก้อนไปโปะ
เพื่อให้หนี้หมดเร็วขึ้นได้และยังช่วยประหยัดดอกเบี้ยด้วย

8. ผ่อนนาน 10-30 ปีเท่าสินเชื่อบ้าน

จำนวนงวดผ่อนชำระค่อนข้างนานใกล้เคียงกับสินเชื่อซื้อบ้าน ส่วนใหญ่ให้ผ่อน 20-30 ปี เมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลากู้จึงสูงถึง 60-70 ปี ในขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลส่วนใหญ่กำหนดระยะเวลาผ่อนเพียง 10 ปี ดังนั้น ด้วยจำนวนงวดผ่อนที่นานกว่าทำให้ภาระผ่อนต่อเดือนของสินเชื่อบ้านแลกเงินจึงเบากว่า