ตรวจสอบ “เงื่อนไขค่าใช้จ่าย” ที่ผูกติดมากับการกู้

ปิดหนี้ก่อนกำหนดมีค่าปรับ

เริ่มตั้งแต่ระยะเวลาและเงื่อนไขการผ่อนชำระ โดยทั่วไปคนกู้จะเลือกระยะเวลาผ่อนยาวๆ 20-30 ปี ซึ่งล่าสุดบางแบงก์ขยายให้ถึง 35-40 ปี เพื่อลดภาระค่างวดที่ต้องจ่ายทุกๆ เดือนให้ต่ำลง เเต่เเลกกับค่าดอกเบี้นเพิ่มขึ้น
เเต่บางธนาคารได้เพิ่มเงื่อนไขพิเศษสำหรับคนกู้ที่เลือกโปรโมชั่นดอกเบี้ยแบบคงที่ระยะยาว 3-5 ปี หรืออัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ต่ำกว่าโปรโมชั่นอื่น โดยห้ามไถ่ถอนก่อนกำหนด 3-5 ปี 
เช่น ธนาคารออมสิน ได้กำหนดเงื่อนไขไถ่ถอนหรือปิดบัญชีก่อน 5 ปี มีค่าปรับ 3% รวมถึงต้องสมัครทำบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดกับธนาคารด้วย 

ประกันชีวิต MRTA เลือกทำได้ไม่บังคับ

นอกจากนี้ยังมีเงื่อนไขพิเศษที่ผู้กู้มักจะต้องเจอคือการยื่นข้อเสนอให้ทำกรมธรรม์ MRTA พ่วงมากับการอนุมัติสินเชื่อด้วย ซึ่งเรื่องนี้แบงก์ชาติก็ออกมาเตือนบ่อยๆ ว่าไม่ได้บังคับให้ต้องทำ เช่นเดียวกับประกัยภัยพิบัติที่เป็นทางเลือกเสริม
เพราะหากผู้กู้ทำประกัน MRTA ไปแล้วขอยกเลิกในภายหลังจะมีสัญญาผูกมัดที่ค่อนข้างยุ่งยาก รวมถึงค่าปรับต่างๆ แม้ว่าผู้กู้มีสิทธิจะบอกยกเลิกสัญญาได้ตั้งแต่ภายใน 30 วันแรกของการทำประกันก็ตาม 
รวมถึงเงินประกันอาจจะไม่ได้คืนให้กับผู้กู้ แต่จะนำไปหักเงินกู้และต้องเซ็นสัญญาเงินกู้ใหม่ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจะต้องปรับเป็นอัตราดอกเบี้ยกรณีไม่ทำประกัน MRTA
ส่วนประกันที่บังคับให้ผู้กู้ต้องทำคือ “ประกันอัคคีภัย” เพราะเป็นประกันที่คุ้มครองความปลอดภัยของตัวบ้านกรณีเกิดไฟฟ้าลัดวงจร แก๊สรั่ว ไฟไหม้ โดยกำหนดยอดทำประกันไว้ 0.1% ของราคาบ้าน และให้จ่ายเบี้ยประกันทุกๆ 3 ปีเรื่อยๆ จนครบอายุสัญญา

ผิดนัดชำระจ่ายค่างวด ดอกเบี้ย “แพง”

นอกจากนี้ยังมีดอกเบี้ยค่าปรับกรณีที่ผู้กู้ผิดนัดชำระหนี้ หรือชำระล่าช้าจากวันที่ธนาคารกำหนดให้ต้องจ่ายในทุกๆ เดือน
ซึ่งปกติธนาคารจะคิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน เช่น เงินกู้ 2 ล้านบาท ดอกเบี้ย 5% ในปีแรกผู้กู้จะต้องเสียค่าดอกเบี้ยประมาณ 100,000 บาท หรือเดือนละ 8,219 บาท เเต่หากผู้กู้ผิดนัดชำระตั้งเเต่ 15-18% โดยคิดจากเงินต้นคงเหลือทั้งหมด

เรียบเรียงจากคอลัมน์ Home Loan ในนิตยสาร Home Buyers Guide ฉบับมิถุนายน 2562 
สนใจติดตามเนื้อหาสามารถสั่งซื้อได้ที่นี่เลย www.home.co.th/home/bookclub