ถ้าใครกำลังวางแผนจะซื้อบ้านหรือเตรียมหาข้อมูลสินเชื่อบ้านน่าจะเคยได้ยินคนพูดถึง MLR และ MRR ผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง และก็มีคนจำนวนมากที่ไม่รู้ว่า 2 คำนี้คืออะไร เอามาใช้ทำอะไร ซึ่งจริงๆ แล้วทั้งสองคำนี้ไม่ใช่รหัสลับใดๆ ของแบงก์ แต่เป็นอัตราดอกเบี้ยที่เราทุกคนจะต้องได้ใช้เมื่อยื่นเรื่องขอกู้เงินจากธนาคารมาซื้อบ้านหรือซื้อคอนโด
ล่าสุด 4 ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ คือธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ขานรับนโยบายช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 1.75% เป็น 1.50% โดยให้มีผลทันทีด้วยการประกาศลดดอกเบี้ย MOR และ MRR ลงอีก 0.25% มีผลตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมเป็นต้นไป
ส่วนธนาคารรัฐทั้งสองแห่ง คือธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสิน ก็ประกาศลดดอกเบี้ยตามมมาติดๆ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่่ 16 สิงหาคมเป็นต้นไป
ฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.125% ประกอบด้วย อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) จาก 6.250% ลดลงเหลือ 6.125% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) จาก 7.00% ลดลงเหลือ 6.875% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) จาก 6.750% ลดลงเหลือ 6.625% ต่อปี
เช่นเดียวกับธนนาคารออมสินที่ได้ประกาศปรับลดดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยด้วยการลดดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีหรือ MRR และดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำประเภทเงินเบิกเกินบัญชีหรือ MOR ลดลง 0.13%จากเดิม 7.00%เหลือ 6.87%
ทั้งนี้หากจะถามว่าสินเชื่อบ้านของแบงก์ไหนดีที่สุดต้องขอบอกว่าไม่สามารถชี้ขาดได้ เพราะขึ้นอยู่กับแผนการเงินของตัวผู้กู้เองที่จะต้องตัดสินใจเลือกอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และกำลังแรงผ่อนของตัวเองให้มากที่สุด
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ (Fixed Rate) โดยอัตราดอกเบี้ยจะถูกกำหนดไว้เป็นตัวเลขเฉพาะ ไม่มีการขยับขึ้นหรือลดลงตลอดสัญญาอายุเงินกู้หรือตามโปรโมชั่นที่กำหนดไว้ในสัญญาเงินกู้ เช่น ปีที่ 1-2 = 3.00% ปีที่ 3 MRR-....% เท่ากับว่าเราต้องผ่อนดอกเบี้ยคงที่ 3.00% ในช่วง 2 ปีแรก
