ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่ถึงจะพอผ่อนบ้าน

ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่ถึงจะพอผ่อนบ้าน

การมีบ้านเป็นของตัวเองคือ สิ่งที่ทุกคนปราถนา แต่ก่อนจะมีบ้านได้ต้องเตรียมอะไรอีกเยอะ เช่น ดูความพร้อรายรับและรายจ่ายต่อเดือน (ดูความสามารถทางการเงิน) เพราะส่วนใหญ่เราต้องใช้เวลาผ่อนนาน 20 – 30 ปีกันเลย แถมวงเงินกู้บวกระยะเวลาในการกู้ก็สั้น-ยาวต่างกันไป ทั้งหมดล้วนมีผลต่อเงินงวดและอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายอีก คำถามคือ ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่ถึงจะพอผ่อนบ้านกันล่ะ Home buyers มีคำตอบ

ต้องมีรายได้เท่าไหร่ถึงจะพอผ่อนบ้าน

ก่อนที่เราจะซื้อบ้าน เราต้องประเมินความสามารถในการผ่อนของเราดูก่อน ต้องดูทั้งรายได้และภาระหนี้ของเราเป็นหลัก โดยกำหนดว่าหนี้รวมทุกประเภทไม่ควรเกิน 1 ใน 3 ของรายได้แต่ละเดือน หรือประเมินจากที่ผู้กู้สามารถแบกรับภาระการผ่อนชำระหนี้สินทั้งหมดได้ไม่เกิน 40% ของรายได้ ปกติกำหนดไว้ประมาณ 30-50 เท่าของรายได้สุทธิ

ส่วนธนาคารจะใช้หลักเกณฑ์ให้สินเชื่อบ้าน 2 ส่วนเป็นหลัก คือ หลักทรัพย์ที่นำมาเป็นหลักประกันและความสามารถในการผ่อนของเรา พร้อมให้วงเงินสินเชื่อสูงสุดอยู่ที่ 70-95% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขายแล้วแต่ราคาไหนจะต่ำกว่า จึงเห็นได้ว่าการอนุมัติสินเชื่อธนาคารไม่ได้ดูแค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่พิจารณาหลายปัจจัยรวมกัน หมายถึงรายได้เท่าไหร่ไม่สำคัญเท่ากับเหลือสุทธิเท่าไหร่!! ถ้าภาระหนี้สูงอาจกู้ไม่ผ่านได้เหมือนกัน นี้จึงเป็นเหตุผลที่ว่ารายได้เยอะก็ไม่ได้การันตีว่าจะกู้ผ่าน

ผ่อนบ้านได้นานสุดกี่ปี

ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแต่ละธนาคาร ปกติแล้วธนาคารกำหนดระยะเวลาไว้ 15-30 ปี สูงสุด 30-40 ปี แต่ไม่เกิน 40 ปี โดยพิจารณาร่วมกับอายุของผู้กู้คือ อายุของผู้กู้ + ระยะเวลาการกู้ต้องไม่เกิน 60 ปี หรือ 70 ปี เป็นต้น ดังนั้นอายุสูงสุดของผู้กู้ที่สามารถกู้ได้นานสุดอยู่ที่ 30 ปีนั่นเอง แต่ส่วนใหญ่มักใช้เวลาค่อนข้างนาน 20-30 ปีกว่าจะผ่อนหมด จึงต้องศึกษาเงื่อนไขและวางแผนการเงินของเราให้ดี ซื้อบ้านแล้วต้องไม่เกินกำลังเรามากไป เอาแบบชิลล์ ๆ มีบ้านมีความสุขดีกว่า ไม่ก็เลือกระยะเวลาผ่อนบ้านตามความสามารถทางการเงิน ดูเงื่อนไขสินเชื่อที่เห็นว่าเหมาะสมกับเรา หรือดูแล้วผ่อนเหนื่อยเกินไปลองลดราคาบ้านลงเพื่อจะกู้ให้น้อยลงก็ยังได้

การเลือกผ่อนบ้านเร็ว/ผ่อนบ้านช้ามีผลต่อเงินงวดและดอกเบี้ย

เพื่อให้สบายต่อการผ่อนบ้านแต่ละเดือน เราควรเลือกแพคเกจกู้ระยะยาว 20-30 ปี หรือผ่อนต่อเดือนให้มากกว่าเงินงวดที่กำหนดจะสามารถผ่อนหมดเร็วขึ้น และดอกเบี้ยรวมก็ไม่มากจนเกินไป เพราะปกติแล้วการเลือกระยะเวลาในการกู้มีผลต่อทั้งเงินงวดและดอกเบี้ย หมายถึงหากกู้/ผ่อนนาน 30 - 40 ปี เงินงวดต่อเดือนย่อมต่ำแต่ระยะเวลาผ่อนจะนานหลายปีทำให้ดอกเบี้ยรวมสูงตามไปอีก ดีไม่ดีอาจสูงกว่าเงินต้นด้วยซ้ำ กลับกันถ้ากู้สั้น ๆ เพียง 10 ปี 15 ปี ข้อดีคือดอกเบี้ยรวมไม่สูงมากแต่ข้อเสียคือเงินงวดต่อเดือนค่อนข้างสูงแทน

 

แม้เศรษฐกิจตอนนี้ทำให้ธนาคารอนุมัติสินเชื่อกู้ซื้อบ้านยากขึ้น แต่หากเรามีคุณสมัติครบก็ให้ยื่นได้เลย ธนาคารย่อมมีเงื่อนไขและสินเชื่อดี ๆ มาแนะนำให้เราแน่นอน ที่สำคัญเมื่อได้เงินมาเราควรออมเงินต่อเดือนไว้ซัก 5-10% จะดีที่สุด ยิ่งออมแล้วฝากไว้กับธนาคารก็ยิ่งเพิ่มโอกาสกู้ผ่านง่ายมากขึ้นด้วย

 

บทความแนะนำ

บทความที่เกี่ยวข้อง